The earth wizard ตอน ไพลินวารีหายไป

ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่3 เด็กจอมเจ้าเล่ห์กลับใจ

ตอนที่3 เด็กจอมเจ้าเล่ห์กลับใจ

แล้วเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วมากและนถม้าก็ได้หยุดลงที่กลางปีที่มืดไม่มีแสงหลุดหลอดเข้ามาด้านในจนเด็กจอมเจ้าเล่ห์ที่พักผ่อนอยู่ต้องถามชลิแอมว่า “นี้ชลิแอมที่นี้ที่ไหนหรอ” ชลิแอมจึงเอ่ยไปว่า “ที่นี้ก็คือป่าที่มีแต่จิตรชั่วร้ายเต็มไปหมดเวลานอนก็ระวังด้วยแล้วกันเพราะมันมีคนหน้ากากขาวมันมีชื่อว่า เก้งนวนครเป็นผู้หญิง และ

โปรเฟสร์เซอร์สติเฟื้องเป็นแฟนกันกำลังดูใจกันอยู่น่ะ” ก่อนที่ชลิแอมจะพูดจบ

โปรเฟสร์เซอร์สติเฟื้องก็มาในทันทีทันไดและได้ผลักเด็กจอมเจ้าเล่ห์ตกน้ำข้างทางไป

และโปรเฟสร์เซอร์สติเฟื้องก็ได้ตามลงไปเพื่อจะฆ่าเด็กจอมเจ้าเล่ห์และเมื่อชลิแอมได้เห็นดังนั้นจึงจะโดดน้ำตามไปแต่เก้งนวนครก็ได้ลงมาห้ามและเรียกลูกน้องทุกคนมาเพื่อที่จะทำร้าย ชลิแอม เดมาส และ การาวาส ชลิแอมที่เห็นก็เลยใช้วิชาที่เรียนมาฟันอย่างรวดเร็วและไปสู้กับเก้งนวนครและชลิแอมจึงได้ตะโกนเรียกเด็กจอมเจ้าเล่ห์

เมื่อเด็กจอมเจ้าเล่ห์ได้ยินดังนั้นจึงร่ายเวทย์ที่สามารถทำดาบและก็ได้ดาบมาจากน้ำและ

โปรเฟสร์เซอร์สติเฟื้องก็ได้ฟันเชี่ยวไปโดนแก้มและมือของเด็กจอมเจ้าเล่ห์ทำให้เลือดออกทั้งคู่ก็ฟันกันใต้น้ำจงทั้งคู่จมอยู่ในน้ำและชลิแอมกับเก้งนวนครรู้สึกได้และทั้งคู่ก็ได้กะโดดลงน้ำไปช่วยทั้งคู่ขึ้นมาและเก้งนวนครก็เลยจับมือของ โปรเฟสร์เซอร์สติเฟื้อง แล้วดึงให้ขึ้นจากน้ำและได้ดึงขอขึ้นมานิดหน่อยและได้เอาปากของเขาไปประกบกับปากของโปรเฟสร์เซอร์สติเฟื้องแล้วจึงปล่อยลมและพอโปรเฟสร์เซอร์สติเฟื้องตื่นทั้งคู่ก็หนีไปส่วนเด็กจอมเจ้าเล่ห์ที่จมก็ได้ชลิแอมช่วยและผายปอดให้แล้วเด็กจอมเจ้าเล่ห์ก็ได้เจ็บตัวเป็นครั้งที่สองและชลิแอมก็เริ่มรักเด็กจอมเจ้าเล่ห์และเมื่อเด็กจอมเจ้าเล่ห์ตื่นขึ้นก็ได้ถามว่า “นี้ฉันอยู่ที่ไหนหรอ”ด้วยเสียงที่อ่อนโยนที่ไม่เคยได้ยินจากปากของเธอชลิแอม

จึงตอบไปว่า “พวกเราพามา” เมื่อชลิแอมพูดจบเด็กจอมเจ้าเล่ห์ก็พูดขึ้นว่า“เออนี้ตอนเนี่ยฉันน่ะจะกลับตัวกลับใจเป็นคนดีเพราะความจริงก็มีคนเรียกชื่อฉันว่า เด็กจอมเจ้าเล่ห์ และนี้อีกที่ฉันต้องโดนเล่นงานอย่างนี้อีกฉันขอให้พวกนายอย่าเรียกอย่างนั้นน่ะเรียกชื่อฉันน่ะ”และเมื่อเขาพูดเสร็จเดมาสก็บอกว่า “งั้นเราก็จะเรียกชื่อเธฮอย่างเดียวก็แล้วกันน่ะชลิแอมและการาวาส โอเคไหมล่ะ”ทั้งคู่จึงตอบพร้อมกันว่า “อืมได้สิครบ”

และเดมาสและการาวาสก็นอนหลับและชลิแอมและมารานัสที่ตกลงกันว่าพรุ้งนี้จะไปทางไหนดีทั้งสองคนตกลงกันว่าจะลงใต้ต่อและทั้งคู่ก็หลับไป

และพอรุ่งเช้าทุกคนก็ตื่นและอาบน้ำและเริ่มเดินทางไปอีกรอบและลงใต้

และเมื่อทุกคนขึ้นรถก็ถามชลิแอมว่า “ต่อไปคือที่ไหน”

ชลิแอมจึงตอบไปว่า “เมืองโอคาโมนุแต่ใช้เวลาเดินทางถึงโน้นประมาน3วันและตอนนี้ก็เหลือเวลาแค่997วันเองและกว่าจะไปถึงที่ไพรินวารีก็ต้องใช้เวลาตัง966วันแนะแต่ก็ต้องผ่านเมืองและหมูบ้านอีกตั้ง220แนะพวกเราเก็บแรงไว้พรุ้งนี้ก่อนเข้าเมืองต้องเจอประมาร10ด่าน ด่านแรกจนถึงด่านห้าจะเป็นด่านที่ต้องทำลายเกราะท่าทำลาไม่ได้จะไม่สามารถเข้าเมืองได้น่ะสิและด่านหกถึงด่านสิบจะต้องสู้กับ เก้งนวนครและโปรเฟสร์เซอร์สติเฟื้อง อีกน่ะสิงั้นนอนในตอนที่รถม้าเดินทางไปเรื่อยๆจนถึงที่และทุคนก็ตื่นจากความฝัน

และชลิแอมก็เอ่ยว่า “ถึงแล้ว” และเมื่อมารานัสที่นอนเต็มที่และทุกคนตื่นทุกคนก็ได้ลงไปด้านล่างและชลิแอมก็ได้สั่งให้มารานัสใช้เวทย์สวรรทันทีและมารานัสก็ได้ใช้และทำให้เกราะทั้ง20อันถูกทำลายอย่างง่ายดาย

ชลิแอมจึงพูดขึ้นอีกว่า “นี้มันแค่ด่าน1ลุยต่อ”

และเมื่อทุกคนถึงด่าน2 เดมาสก็ได้โชวท่าธนูมิกมาราที่แข็งแกรงที่สุดในจักวาลทำลาย

เกราะอีก500อันพังโดยง่ายดายภายในครั้งเดียว

และพอด่านสองผ่านไปมาถึงด่านสามการาวาสจึงโชวมัดอันทรงพลังต่อยทลุเกราะอีก1000อัน

และพอด่านที่สามผ่านก็ไปด่านที่สี่ ชลิแอม จึงโชวท่าดาบที่ทรงพลังนั้นก็คือท่า

มิกเกิลทำให้เกราะหายไป2000อันจึงทำให้ด่านนี้ผ่านได้สบาย

…………………………………………………………......