ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC TVXQ] Set the Scene (2u couple)

    ลำดับตอนที่ #1 : set the scene : 1

    • อัปเดตล่าสุด 26 ก.พ. 53




    เสียงหวีดหวิวของลมแผ่วถูกเคลื่อนเข้ามาในห้องผ่านช่องหน้าต่างที่เจ้าของห้องตั้งใจแง้มมันเอาไว้ แม้เวลานี้ทุกคนอยู่ในห่วงแห่งการหลับใหลแต่เจ้าของห้องกลับเปิดไฟสว่าง เสียงก๊อกแก็ก เคาะพิมพ์ของเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา ดังเป็นระยะไม่ทำให้เสียงในห้องดูสงัดเกินไป
     

    สิ่งเดียวที่ยูชอนต้องบังคับตนเองให้ลุกขึ้นมาทำงานที่คั่งค้างไม่ได้แม้แต่ขยับเขยื้อนตัว คงเป็นเพราะ เมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว โทรศัพท์ของเขาปลุกเจ้าตัวคนขี้เซาให้เผชิญกับอำนาจที่เขาไม่สามารถปฏิเสธได้ ชอง ยุนโฮ ผู้เป็นหัวหน้า คนที่ยูชอนอยากจะอยู่ห่างมากที่สุดกลับเลือกที่จะสั่งเขาทั้งที่มันเลยเวลางาน
     

    ยูชอนเลยได้แต่ตอบรับและตั้งหน้าเป็นลูกจ้างที่ดีของเขาต่อไป
     


    ปากอิ่มหาววอดก่อนจะเอี้ยวตัวบิดเอวเล็กน้อย ตาของเขามองไปที่นาฬิกาบนมือถือ แล้วก็ต้องถอนหายใจเมื่อเวลาที่บอกแสดงถึงเช้าวันใหม่แต่งานกลับดำเนินไปไม่ถึงครึ่ง ถ้าไม่ติดคำว่า
    ด่วนที่สุด!!” ยูชอนคงจะพับจอลงแล้วปล่อยมันไว้แค่นั้น เพราะเขาง่วงเหลือเกิน ง่วงเหลือเกิน
     
     
    ฟุ่บ
     
    .
    .
    .
     
     
     
     

    ครืด ครืด เสียงดังจากโทรศัพท์เครื่องบางทำให้ ร่างเล็กต้องสะดุ้ง นอกจากเสียงปลุกจากเครื่องใช้อิเล็กโทรนิกส์แล้ว แสงที่ลอดออกมาจากทางหน้าต่างที่เจ้าของห้องเปิดรับลมเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืน หน้าจอคอมพิวเตอร์ยังถูกเปิดทิ้งไว้เช่นเดิมบอกให้ยูชอนรู้ว่านี่เขากำลังจะ
    ซวย มือขาวรีบคว้าโทรศัพท์ที่ยังสั่นไม่หยุด
     


    กดรับสายทันทีเมื่อเห็นว่ามันโชว์เบอร์เป็นของรุ่นพี่ที่อยู่ภายในแผนกเดียวกัน
     


    ฮัลโหล พี่แจจุงมีอะไรรึเปล่าครับ ผมกำลังยุ่งพอดีเลย เสียงงัวเงียยังไม่ตื่นดีถูกกรอกลงไปตามสาย
     

    ยูชอนรีบมาเดี๋ยวนี้เลยนะ ยูชอนฟังเสียงที่ถูกปรับให้แผ่วลงของแจจุงก็พอจะเดาออกว่าเขากำลังแอบคุยโทรศัพท์ระหว่างงาน ก่อนที่ประโยคถัดไปจะทำให้ยูชอนเสียวสันหลังวาบ คุณยุนโฮโกรธใหญ่แล้ว
     
     


    ซวยแน่ๆเลย ตาย ตาย’' เสียงงึมงำเกิดขึ้นอยู่ตลอดขณะที่ยูชอนเข้าไปภายในห้องที่ชวนทำให้รู้สึกอึดอัดทุกครั้งที่เข้ามา ร่างสูงดูภูมิในชุดสูทจากห้องเสื้อชื่อดัง ผมถูกจัดให้อยู่ทรงทันสมัย ขณะที่เขาปลายตาขึ้นมองผู้มาเยือนตรงหน้า สายตาของเขาดูจริงจังจนร่างขาวต้องหลบสายตาไปเสียเอง
     


    ตึก  ตึก รองเท้าหนังราคาแพงก้าวย่างอย่างช้าๆ เสียงกระทบเท้าที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆทำให้ยูชอนต้องหยุดหายใจ คนที่มีอิทธิพลอยู่ใกล้จนยูชอนรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่ลดมาบริเวณแก้ม บรรยากาศตรึงเครียดเสียจนเจ้าของแก้มนิ่มคิดว่าตนเองคงจะต้องทำอะไรซักอย่าง
     


    ขอโทษคุณยุนโฮเขาสิยูชอน
     
     


    ขอโทษครับ ภายในวันนี้ผมจะทำงานให้เสร็จ!!” เสียงที่กลายเป็นทางตะโกนออกมามากกว่า ดังพอที่จะทำให้เจ้านายร่างสูงหยุดกึก เขาหมุนตัวกลับลงมานั่งตำแหน่งเดิม ยุนโฮนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่ด้วยท่าทีสบาย เขาปราดสายตามองมายังร่างขาวที่ยังหลับตาปี๋ กับเสียงตะโกนเมื่อกี้นี้ ด้วยแววตาที่ไม่สามารถบ่งบอกถึงความรู้สึกได้
     
     

    รู้รึเปล่าว่านี่กี่โมงแล้วเสียงทุ้มพูดเรียบ เขาหยิบแฟ้มเล่มหนึ่งขึ้นมาเปิดมันอ่านไปพลาง
     
     

    อะเอ่อยูชอนมองข้อมือตัวเองตายแล้ว ลืมใส่มาได้ไงเล่าเนี่ยเสียงทำลายความเงียบที่กึ่งพูดกับตัวเองแต่ทว่าในห้องสงัดจนกระทั่ง ชายหนุ่มร่างสูงกลับได้ยินไปด้วยอีกคน เขาเลิกคิ้วมองตรงมายังหนุ่มร่างขาวที่เริ่มมีสีหน้าเจื่อนลงเรื่อย
     
     

    มะไม่รู้ครับ ใบหน้าของยูชอนอมยิ้มฝืดไปให้
     
     

    สิบโมง...ถ้าฉันจำไม่ผิดทุกคนในบริษัทเขาเข้างานตอนเจ็ดโมงครึ่ง
     
     

    เมื่อได้ทราบเวลาที่แท้จริงแล้ว ดวงตากลมของยูชอนถึงกับต้องเบิกกว้างด้วยเป็นทีท่าที่แสดงออกเป็นประจำเมื่อเจอเหตุการณ์น่าประหลาดหรือตกใจ ผิดกลับคนที่อยู่ตรงหน้าลิบลับ ไร้อารมณ์ทางสีหน้า
     
     

    ขอโทษครับพอดีว่าผม...ต้องทำงานจนดึกยูชอนโค้งตัวลงอย่างสุภาพเพื่อเป็นการขอโทษ เขาไม่คิดว่าการแก้ตัวครั้งนี้จะเป็นคำพูดที่ดีเสียเลยเมื่อต้องเผชิญหน้ากับสีหน้าที่นิ่งกว่าทีแรกของยุนโฮเข้าไปอีก
     
     

    ให้ตายสิ คุณยุนโฮคงคิดว่าเราว่าเขาเรื่องที่เขาสั่งงานกะทันหันแน่ๆ
     
     

    เอ่อ จริงๆแล้วผมไม่ได้ว่าคุณยุนโฮนะครับ ก็คือว่า ผมเพลียก็เลยหลับไม่ตื่นเลย...แล้วอีกอย่างหนุ่มร่างขาวหยุดแก้ตัวลงเมื่อเจ้านายรูปหล่อของเขาทำท่าทางบอกให้เขาหยุด ปากอิ่มหุบลงก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มยิงฟันเป็นมิตรให้
     
     
     
    ช่างเถอะๆ เอาเป็นว่าทำงานให้เสร็จอย่างที่พูดได้ฉันก็จะพอใจแล้วหล่ะ
     
     
     
     
     
    ชายหนุ่มรูปหล่อนั่งมองประตูที่ปิดลงไป ก่อนที่กลีบปากได้รูปของเขาจะแย้มยิ้มออกมาเล็กน้อย มันน้อยจนกระทั่งเจ้าตัวเองยังไม่อาจรู้ได้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ยุนโฮถอนหายใจออกมาเมื่อเห็นแฟ้มงานที่ตั้งเรียงเป็นชั้นซ้อนกันอยู่บนโต๊ะทำงานตัวกว้าง ดูเหมือนว่าอะไรต่อมิอะไรก็จะมากองอยู่บนโต๊ะ
     


    ครืด ครืด
     
     

    เสียงโทรศัพท์พกพาทำให้ยุนโฮต้องเบนความสนใจกับแฟ้มงานตรงหน้า กดรับมันอย่างเชื่องช้าเมื่อรู้ว่าปลายสายต้องการให้เขาทำอะไรในสิ่งที่เขาไม่ต้องการเลยด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่อาจจะขัดใจ มารดา ของตนได้
     
     

    พูดสายอยู่ครับ
     
     

    ยุนโฮวันเสาร์ตอนประมาณหกโมงเย็นนี้ ลูกพอจะว่างไหม เสียงหญิงวัยกลางคนพูดอย่างอ่อนเพื่อเกลี้ยกล่อมลูกชายหัวดื้อที่แม้เธอจะพยายามพูดแล้วพูดอีกให้ลูกชายของเธอละจากงานมาบ้างแต่ก็ไม่เคยได้ผลเลยซักครั้ง คงเป็นเฉพาะเรื่องนี้เรื่องเดียวละมั้งที่ยุนโฮไม่อยากทำตามคำบอกของผู้เป็นมารดา
     
     

    วันเสาร์ตอนเย็นผมติดประชุมที่บริษัทสิ่งที่ยุนโฮเกลียดที่สุดคือการโกหก เว้นแต่เรื่องนี้เรื่องเดียวเท่านั้นที่เขาอาจจะอนุโลมกับตัวเอง เขากระตุกเสียงเล็กน้อยเมื่อตนยังไม่คุ้นชินกับการพูดปด
     
     

    วันเสาร์เป็นวันหยุดของลูกไม่ใช่หรอ เสียงคุณนายชองพูดด้วยน้ำเสียงทีเล่นเหมือนกับแม่จับโกหกเล็กของลูกตัวน้อยๆของเธอได้ ชายหนุ่มรูปหล่อเต็มไปด้วยมาดเริ่มแสดงสีหน้าผิดปกติเมื่อเขามอง ปฎิทินตั้งโต๊ะวันเสาร์ที่ 6 เดือน2 ในช่องถูกเขียนไว้ว่า My BD มันเป็นวันเกิดของเขาซึ่งนั่นก็หมายความว่า ยุนโฮจะได้หยุดตามกฎของบริษัท เขาเลิกตาขึ้นเมื่อจำนนด้วยหลักฐาน ถึงเวลาแล้วที่ต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่เขาไม่อยากจะทำ
     
     
    เสียงถอนหายใจถูกปนมากับคำตอบตกลงก็ได้ครับ
     
    .
    .
    .
     
     
    หน่านะ ไปเป็นเพื่อนกันหน่อยนะยูชอนเสียงใสแนวอ้อนวอนถูกขับกล่อมให้เจ้าของมือถือเครื่องบางมาเกือบชั่วโมงกว่า แต่ก็ยังไม่มีวี่แววถึงความสำเร็จเลยแม้แต่น้อย ร่างเล็กเอาแต่นอนบนเตียงพร้อมกับโทรศัพท์ที่นอนแนบไว้ข้างหู ด้วยสภาพที่คล้ายกับคนหมดแรง เหตุเพราะต้องเร่งงานให้เสร็จทันเวลาก็ดันพล่อยปากพูดไปโดยไม่คิด ดีที่ยังทำงานได้เสร็จทันเวลาไม่งั้น ปาร์ค ยูชอน คงต้องหาคำแก้ตัวพูดกับเจ้านายจอมโหดกันอีกยาว
     


    ม่ายอ่าว!! ฉันไม่รู้จักใครในนั้นเลยนะเป็นประโยคแรกที่หลุดออกมาจากปากของยูชอน เพราะครึ่งชั่วโมงแรกที่ผ่านมานี้มีแต่เสียงของจุนซูที่สาธยายถึงความดีความงามของปาร์ตี้คนโสดที่เจ้าของงานเป็นเพื่อนของเพื่อนและของเพื่อนอีกที กับเสียงอือ ออ และคำว่าไม่ออกมาจากปากเรียวอิ่ม
     
     

    ยูชอนอ่า สาบานได้ว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะขอร้องนาย
     
     
     

    นายพูดก็พูดอย่างนี้ทุกครั้ง แหละจุนซูยูชอนหลับตาลงมองออกไปทางนอกหน้าต่างที่เปิดทิ้งเอาไว้
     
     


    บางทีอาจจะเจอใครดีๆในนั้นซักคนอย่างที่ว่าก็ได้
     
     

    เสียงเงียบรอคำตอบจากปลายสายทำให้ยูชอนเริ่มที่จะใจอ่อนขึ้นมา ตารางนัดเย็นวันเสาร์ของเขาก็ว่าง
     
     
     

    ครั้งสุดท้ายแน่นะจุนซู

    .
    .
    .



    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    คาดว่าเรื่องนี้น่าจะยาว

    ติชมกันได้นะ เเล้วเจอกันตอนหน้าค่า
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×