ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กลรักร้อยใจ

    ลำดับตอนที่ #5 : 5

    • อัปเดตล่าสุด 28 ส.ค. 54



    5

     

    ฉางซุนหมิงเสี้ยวใช้วิชาตัวเบาสาดพุ่งร่างติดตามไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักก็ติดตามบุรุษชุดดำจนทัน เห็นหลังของบุรุษชุดดำอยู่ไม่ไกล ชายหนุ่มจึงเกร็งลมปราณขึ้นอึดหนึ่งโถมทะยานไปดักข้างหน้าของมันไว้

    บุรุษชุดดำผู้นั้นมีท่าทีตกใจที่ชายหนุ่มผู้นี้ตามมาทัน เขาจึงยกดาบในมือขึ้นพาดไว้บนลำคอขาวผ่องขององค์หญิงผู้สูงศักดิ์

    “หากเจ้ากล้าเข้ามาอีกข้าจะฆ่านาง!

    ฉางซุนหมิงเสี้ยวหัวเราะออกมาดังๆ สร้างความแปลกใจให้แก่บุรุษชุดดำยิ่ง

    “เจ้าหัวเราะอันใด?”

    “หัวเราะบุรุษไร้น้ำยาเช่นเจ้า!

    “เจ้าว่าอะไรนะ?!” บุรุษชุดดำผู้นั้นถลึงตาใส่ด้วยความโมโห

    “หรือมิใช่? หากว่าเจ้ามีน้ำยาพอไหนเลยใช้ผู้หญิงเป็นโล่กำบังเช่นนี้ หากข้าเป็นบิดามารดาของเจ้าพอทราบว่าให้กำเนิดตัวบัดซบเช่นท่านออกมาคงต้องร้องไห้แล้วซุกหน้าลงหว่างขาแล้ว”

    “ผายลม! ทำไมจะต้องซุกหน้าลงหว่างขาด้วย?”

    ฉางซุนหมิงเสี้ยวหัวร่อฮิฮะ “หากไม่ซุกไว้ที่หว่างขาจะให้ซุกไว้ที่ฝ่าเท้าหรือ? ขืนซุกไว้ใต้ดินคงถูกบรรพบุรุษด่าทอจนหูหนวกเป็นแน่!

    “เจ้า! มารดาเจ้าเถอะ เจ้าถือดีอย่างไรพูดถึงบรรพบุรุษของข้าเช่นนี้?!

    “ร่ำร้องอันใด มีฝีมือก็วิ่งเข้ามา มิฉะนั้นก็เรียกหาข้าเป็นเอี่ยเอี้ย(ปู่) สักคำบางทีข้าอาจเมตตาไว้ชีวิตสุนัขเช่นเจ้า”

    “ตัวบัดซบ! ไม่สั่งสอนไม่ได้แล้ว!” บุรุษชุดดำปล่อยร่างขององค์หญิงจื่อเชี่ยนเหลียนแล้ววิ่งเข้าหาฉางซุนหมิงเสี้ยวด้วยความโมโห ชายหนุ่มอมยิ้มกับตัวเอง นับว่าปากของเขายังใช้การได้ดีอยู่ เมื่อกลับไปคงต้องยกความดีความชอบให้กับน้องเล็กของเขาที่มีเรื่องให้ลับฝีปากได้ทุกวัน

    ฉางซุนหมิงเสี้ยวดึงใบหญ้าข้างทางออกมาใบหนึ่งแล้วซัดมันออกมาด้วยความรวดเร็ว บุรุษชุดดำลืมตาเบิกโพลงจนตกตายก็ยังไม่ยินยอมเชื่อว่าเขาถูกใบหญ้าที่เล็กละเอียดตัดหลอดลมขาดไป!

    จื่อเชี่ยนเหลียนมองดูเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยความตื่นตระหนก นางไหนเลยเคยพบกับเหตุการณ์น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้มาก่อน ร่างบางของนางสั่นระริกด้วยความตกใจ ฉางซุนหมิงเสี้ยวค้นตัวบุรุษชุดดำผู้นั้นแต่กลับไม่พบเห็นสิ่งใดนอกจากรอยสักเล็กๆ รอยหนึ่ง ชายหนุ่มจดจำมันไว้แล้วจึงลุกขึ้นเดินมาที่องค์หญิงจื่อเชี่ยนเหลียน เห็นนางนั่งร้องไห้ตัวแข็งทื่อดังนั้นเขาจึงย่อตัวลงตบคลายจุดบนร่างของนาง

    “ทรงปลอดภัยแล้วพะย่ะค่ะ”

    “ฉาด!” จื่อเชี่ยนเหลียนตบใส่ใบหน้าหล่อเหลาของเสนาธิการหนุ่มจนขึ้นเป็นรอยแดง

    ฉางซุนหมิงเสี้ยวเพียงยิ้มเล็กน้อย “เชิญเสด็จกลับเถิดพะย่ะค่ะ”

    จื่อเชี่ยนเหลียนพลันโถมเข้าสู่อ้อมอกของเขาด้วยความตกใจกลัว ฉางซุนหมิงเสี้ยวได้แต่นั่งนิ่งให้นางร้องไห้จนพอใจจึงเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง

    “บ่ายคล้อยแล้วพะย่ะค่ะ พวกเราควรกลับเสียทีเมฆฝนตั้งเค้าเช่นนี้หากชักช้าจนฝนเทกระหน่ำลงมา พวกเราอาจต้องค้างคืนในป่าจะเสื่อมเสียพระเกียรติได้”

    จื่อเชี่ยนเหลียนพยักหน้ารับคำ ฉางซุนหมิงเสี้ยวจึงลุกขึ้นยืนก่อน

    “ท่าน..พยุงข้าหน่อยได้หรือไม่?”

    เสนาธิการหนุ่มงงงันวูบหนึ่งก่อนจะพยุงร่างบางขององค์หญิงแห่งแคว้นซ่งขึ้นมา

    “หากให้เสด็จเองอาจชักช้าเกินไป ต้องขอประทานอภัยยิ่งพะย่ะค่ะ” พูดจบก็คว้าเอวบางขององค์หญิงพร้อมกับทุ่มเทวิชาตัวเบาเร่งรุดออกจากป่าอย่างรวดเร็ว

     

    เพ่ยเพ่ยลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่านางนอนอยู่ในกระโจมหลังหนึ่ง ด้วยความตกใจจึงรีบชันกายลุกขึ้นนั่งและพบว่ามีหญิงสาวนางหนึ่งนั่งอยู่ที่ด้านข้าง

    “เจ้าฟื้นแล้วหรือ?”

    เพ่ยเพ่ยมองรอบข้างด้วยความมึนงง “นี่ข้าอยู่ที่ใด?”

    “นี่เป็นขบวนเสด็จขององค์หญิงจื่อเชี่ยนเหลียน”

    “องค์หญิงจื่อเชี่ยนเหลียน? ถ้าอย่างนั้น..”

    หญิงสาวนางนั้นพยักหน้าน้อยๆ “ข้าชื่ออี้อิ๋งเป็นข้ารับใช้คนสนิทขององค์หญิงจื่อเชี่ยนเหลียน”

    อี้อิ๋งกล่าวเพียงเท่านั้นก็เปลี่ยนเรื่อง “ท่านรองแม่ทัพฉางซุนช่วยเหลือเจ้าไว้แต่ไม่ทราบว่าบ้านของเจ้าอยู่ที่ใดจึงพาเจ้ากลับมาที่นี่”

    “ท่านรองแม่ทัพฉางซุน?” เพ่ยเพ่ยถามย้ำ เหตุใดนางจึงไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน

    “ท่านรองแม่ทัพฉางซุนเป็นขุนนางแคว้นฉีที่มาพร้อมกับคณะทูตจากแคว้นฉี ดังนั้นเจ้าจึงไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน”

    เพ่ยเพ่ยเหลียวมองดูโดยรอบ พอดีพบกับร่างสูงของบุรุษชุดขาวที่ช่วยชีวิตนางไว้เดินเข้ามาในกระโจมที่พัก พร้อมด้วยทหารผู้ติดตามอีกนายหนึ่ง

    “แม่นางเจ้าฟื้นแล้ว?”

    อี้อิ๋งก้มศีรษะคำนับชายหนุ่มผู้มาใหม่พลางรายงานว่า “นางเพิ่งตื่นได้ไม่นานดังนั้นข้าน้อยจึงยังไม่ทันถามไถ่รายละเอียดใด”

    ฉางซุนฟางเอินพยักหน้ารับ “ต้องขออภัยต่อแม่นางด้วยที่ทำให้ตกใจ ไม่ทราบว่าแม่นางพักอยู่ที่ใด ข้าจะให้คนคุ้มครองส่ง มิเช่นนั้นคนที่บ้านจะเป็นห่วงแม่นางได้”

    เพ่ยเพ่ยก้มหน้านิ่ง พลางกล่าวว่า “ขอบคุณคุณชาย”

    ฉางซุนฟางเอินหันไปทางนายทหารหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านข้างทันที “เซี่ยเชี่ยงฮ้ง เจ้าพาแม่นางผู้นี้ไปส่งที่บ้าน”

    “ผู้น้อยรับทราบ” นายกองผู้นั้นรับคำ พอดีพลทหารนายหนึ่งก็เข้ามารายงาน

    “เรียนท่านรองแม่ทัพ ท่านเสนาธิการกลับมาถึงแล้วขอรับ”

    รองแม่ทัพหนุ่มยิ้มออกมาก่อนจะรีบผลุนผลันออกจากกระโจมที่พักไป เซี่ยเชี่ยงฮ้งจึงหันมามองเพ่ยเพ่ยเพื่อรอคำตอบว่านางพำนักอยู่ที่ใด

     

    “ตัวเลวร้ายท่านกลับมาแล้วหรือ?” ฉางซุนฟางเอินเรียกหาเสนาธิการหนุ่มเมื่อมุดเข้ามาในกระโจมที่พักอีกหลังหนึ่ง ชายหนุ่มในชุดยาวสีขาวสะอาดซึ่งกำลังนั่งพักผ่อนอยู่หันหน้ามามองน้องชายฝาแฝดด้วยความยินดี รองแม่ทัพหนุ่มหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นว่าผู้เป็นพี่ชายไม่มีร่องรอยบาดแผลใด

    “นับว่าท่านชะตากล้าแข็งนัก องค์หญิงจื่อเชี่ยนเหลียนได้รับบาดเจ็บหรือไม่?”

    ฉางซุนหมิงเสี้ยวส่ายหน้าไปมา “นางเพียงแค่ตกใจเท่านั้น แล้วทางด้านนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”

    “หนีรอดไปได้ผู้หนึ่ง ท่านคิดว่านี่เป็นฝีมือของผู้ใด?”

    “คนที่น่าสงสัยที่สุดในตอนนี้เป็นฉู่อ๋อง แต่ก็อาจไม่ใช่ข้าเองก็ยังไม่แน่ใจนัก..”

    ฉางซุนฟางเอินพยักหน้าเล็กน้อย “ข้าตรวจดูศพผู้ตายแล้วไม่มีร่องรอยใดให้สืบสาวได้แม้แต่น้อยนอกจากรอยสักเล็กๆ รอยหนึ่ง”

    “นั่นเป็นรูปดอกบัวใช่หรือไม่?”

    “ถูกแล้ว”

    ฉางซุนหมิงเสี้ยวมีสีหน้าครุ่นคิด ชายหนุ่มพยายามเชื่อมโยงเหตุการณ์ทั้งหมดเข้าด้วยกัน

    “คาดว่าบุรุษชุดดำเหล่านี้ต้องเป็นนักฆ่าสังกัดใดสังกัดหนึ่ง อีกทั้งหนึ่งในคนเหล่านั้นยังรู้จักท่านลุงโฮ่วเสี้ยวด้วย”

    “ท่านว่าอะไรนะ?!” ฉางซุนฟางเอินอุทาน “ท่านลุงโฮ่วเสี้ยวเป็นนักฆ่าสังกัดเลี่ยวไจ่เซี่ยงแห่งแคว้นฉิน หรือว่าคนเหล่านี้มาจากแคว้นฉินด้วย?”

    “นั่นกลับไม่แน่นักเพราะคนที่เคยเห็นหน้าของท่านลุงโฮ่วและทราบว่าท่านลุงเป็นนักฆ่ามีไม่มากนัก คนผู้นี้บางทีอาจเป็นคนในวงการเดียวกันที่รอดชีวิตมาก็เป็นได้”

    “เรื่องนี้เห็นทีว่าจะไม่ธรรมดาเสียแล้ว ข้าเห็นว่าพวกเราควรรีบเดินทางกลับแคว้นฉีให้เร็วที่สุด”

    ฉางซุนหมิงเสี้ยวพยักหน้ารับ “ข้าก็คิดเช่นนั้น”

     

    จื่อเชี่ยนเหลียนนั่งเหม่อลอยอยู่ในกระโจมที่พักของนาง โดยมีอี้อิ๋งคอยปรนนิบัติรับใช้อยู่ข้างๆ หญิงสาวนึกถึงเสนาธิการทหารรูปงามแห่งแคว้นฉีผู้ซึ่งช่วยชีวิตนางออกมาจากเหล่าคนร้าย ใบหน้าหล่อเหลาราวสลักจากหยกของเขารวมทั้งบุคลิกภาพที่นางเห็นในคราแรก ทำให้นางมองว่าเขาเป็นเพียงบัณฑิตหนุ่มรูปงามที่อ่อนแอทั่วไป แต่แท้ที่จริงแล้วเขากลับมีวิชายุทธ์สูงส่ง

    เพลงยุทธ์ทุกท่วงท่าที่เขาใช้ออกล้วนสง่างามทว่าน่าเกรงขาม ใบหน้าที่เย็นชาของเขายามยิ้มแย้มก็มีเสน่ห์ชวนลุ่มหลง อกแกร่งของเขาก็อบอุ่นจนนางแทบจะภาวนาให้ชายหนุ่มหลงอยู่ในป่าแห่งนั้นเสีย อย่างน้อยก็สามารถใช้ชีวิตอยู่กับเขาเพียงลำพังสองคนอีกระยะหนึ่ง

    “องค์หญิงเพคะ”  อี้อิ๋งส่งเสียงเรียกนางดังขึ้นจนหญิงสาวสะท้านตื่นจากภวังค์

    “ทรงได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่เพคะ หรือว่ายังทรงตกพระทัยอยู่?”

    “ไม่มีใด ข้าเพียงแต่สงสัยว่าคนที่ลักพาตัวข้าไปมีจุดประสงค์ใด?”

    อี้อิ๋งก้มศีรษะลงเล็กน้อย “ถ้าเช่นนั้นเชิญองค์หญิงเสวยพระกระยาหารเย็นเถอะเพคะ”

    จื่อเชี่ยนเหลียนหันไปมองอาหารที่ถูกลำเลียงมาวางไว้ที่โต๊ะเตี้ย “แล้วท่านเสนาธิการฉางซุนเล่า?”

    “ท่านเสนาธิการกำลังปรึกษาเรื่องสำคัญกับท่านรองแม่ทัพและนายกองทั้งหลายเพคะ”

    “อย่างนั้นหรอกหรือ?” จื่อเชี่ยนเหลียนยิ้มเล็กน้อยพลางมองออกไปยังทางเข้ากระโจมของตนเอง

     

    เช้าวันรุ่งขึ้นขณะที่ขบวนเสด็จกำลังจะเริ่มออกเดินทางแต่เซี่ยเชี่ยงฮ้งนายกองคนสนิทของฉางซุนฟางเอินและพลทหารอีกสองนายก็ยังไม่ปรากฏกายขึ้น ตั้งแต่เมื่อวานที่ได้รับมองหมายให้ไปส่งหญิงสาวนางนั้นที่บ้าน คนทั้งสามก็ยังไม่ปรากฏกายขึ้นจนบัดนี้ สร้างความกระวนกระวายใจให้กับรองแม่ทัพหนุ่มยิ่ง

    ฉางซุนหมิงเสี้ยวเห็นน้องชายมีสีหน้ากังวลใจจึงเข้ามาสอบถามด้วยความสงสัย

    “เสี่ยวเอินเจ้ามีปัญหาใดหรือ?”

    ผู้ถูกเรียกหาหันมามองดูผู้ถามแวบหนึ่ง “ข้ากำลังรอเชี่ยงฮ้งอยู่ แค่ใช้ให้ไปส่งหญิงสาวนางหนึ่งกลับบ้าน ไม่ทราบเพราะใด ป่านนี้ยังไม่กลับมาอีก?”

    “การเดินทางครั้งนี้พวกเราเร่งรีบยิ่ง คงไม่อาจรอคอยพวกเขาได้ ถ้าอย่างไรทิ้งทหารบางคนไว้เพื่อรอส่งข่าวให้ติดตามไปที่หลังจะดีกว่า”

    “ข้าเข้าใจ เพียงแต่เป็นกังวลว่าคนเหล่านั้นจะประสบเหตุอันใดระหว่างทางหรือไม่?”

    “เชี่ยงฮ้งเป็นผู้ทักษะยุทธ์คงไม่มีเรื่องราวใด พวกเรารีบเดินทางเถอะ”

    ฉางซุนฟางเอินได้แต่ทอดถอนใจพลางขึ้นขี่อาชาคู่ใจเพื่อเตรียมตัวเดินทางต่อ เสียงเรียกของเซี่ยเชี่ยงฮ้งก็ดังขึ้น

    “ท่านรองแม่ทัพ ผู้น้อยกลับมาถึงแล้วขอรับ!

    ฉางซุนฟางเอินหันหน้ากลับไปตามเสียงก็ต้องงงงันวูบหนึ่งเมื่อเห็นเซี่ยเชี่ยงฮ้ง พลทหารอีกสองนายและหญิงสาวคนเมื่อวานนี้กำลังเดินทางมาทางด้านนี้ ก็เขาให้คนสนิทไปส่งนางไม่ใช่หรือ เหตุใดยังนำตัวนางกลับมาที่นี่อีกเล่า

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2025

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×