คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : อยากบอกรักต้องทำไง ep.00/2 ll บทนำความเกรียน
00
Feel hotter than the past
มันเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้...
มันรู้สึกร้อนผ่าวแปลกๆ มันเริ่มที่ริมฝีปากแล้วมาแก้มต่อมาจมูกแล้วก็ใบหูของฉัน รวมๆแล้วมันก็ร้อนทั้งหน้านี่แหละ ทั้งที่วันนี้และเดือนนี้อยู่ในฤดูหนาวของปีแต่ทำไมอากาศรอบตัวของฉันมันถึงร้อนวูบๆ แบบนี้ แต่มันจะร้อนก็ต่อเมื่อฉันมองเห็นใบหน้าของใครบางคนเท่านั้น
ไนออล เจมส์ ฮอแรน
นั่นแหละชื่อเพื่อนในห้องของฉันรวมทั้งยังเป็นต้นเหตุทำให้อาการแบบนี้เกิดขึ้นด้วย ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลฉายแววความขี้เล่นซุกซนตลอดเวลา ริมฝีปากบางเฉียบใบหน้าขาวเนียนมีกระจางๆกระจายอยู่เล็กน้อย สีแดงระเรื่อเป็นพวงๆอยู่ที่มุมแก้มมันแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นคนสุขภาพดีแค่ไหน
ไนออลไม่ใช่คนที่ไหนเรารู้จักกันตั้งแต่เกรดสามเนื่องจากไนออลย้ายบ้านจากไอร์แลนด์มาอยู่ที่อังกฤษนี่แหละ ฉันจำได้ว่าตอนนั้นไนออลเป็นเด็กผู้ชายตัวเล็กๆหัวทองที่เข้ามาถามชื่อฉันและขอนั่งด้วยในห้อง จนเมื่อประมาณเกรดหกเขาตัวสูงกว่าฉันไปแล้วแถมยังใช้เวลาอยู่ร่วมกับเพื่อนผู้ชายมากขึ้น...แล้วเราก็ห่างกัน
สวัสดีค่ะ J ฉันชื่อว่า เรน่า ดีนน์ ฉันเป็นคนอังกฤษแท้ๆค่ะ แต่อังกฤษไม่ใช่บ้านเกิดของฉันนะอันที่จริงแล้วฉันเกิดที่ประเทศอิตาลีค่ะเนื่องจากตอนนั้นครอบครัวของฉันทำการค้าอยู่ที่ประเทศอิตาลีเป็นเวลาเดียวกันกับที่คุณแม่ของฉันท้องแก่และใกล้คลอดเต็มที ตอนนี้ฉันอยู่เกรดสิบเอ็ดแล้ว เป็นเด็กผู้หญิงหน้าตาจัดว่าธรรมดาสุดๆไม่มีความฮอตเลยสักนิดเดียว ซึ่งเป็นไม่แปลกใจที่ไม่มีใครมาขายขนมจีบแถวนี้เลยสักคน
ตอนนี้ฉันนั่งอยู่บนแสตนด์เชียร์คนเดียวปล่อยให้สายลมบางๆตีหน้าไปเรื่อยๆ แต่สายตาของฉันกลับไปหยุดที่........ผู้ชายผมทองที่เล่นฟุตบอลกับเพื่อนผู้ชายอยู่ในสนาม ฉันเหม่อมานานเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ เห็นคนแก้มแดงวิ่งไปวิ่งมาในสนามแล้วมันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก มันเป็นเวลาหกโมงเย็นนิดๆ ทั้งๆที่ฉันควรจะอยู่บนโต๊ะอาหารที่บ้านแล้วแต่ทำไมฉันยังนั่งละเมอเพ้อพบถึงผู้ชายกันนะ!
กลับได้แล้วเรน่า...แม่รออยู่ที่บ้านนะ
แม้คำพูดในหัวสมองจะวนไปวนมารีเพลย์ซ้ำๆอย่างนั้นแต่ฉันก็ไม่มีทีท่าจะยันตัวขึ้นเลยสักนิดเดียว รอยยิ้มบางๆจุดขึ้นบนใบหน้าเรียวเล็กของตัวฉันเอง มันหุบไม่ได้ .. นั่นคือข้อเสียที่น่าเบื่อที่สุด วันนี้เลิกเรียนตั้งแต่สองโมงครึ่งแล้วแถมพรุ่งนี้ยังมีสอบเก็บคะแนนวิทยาศาสตร์ แต่ฉันก็ไม่ได้รู้สึกกังวลเลยสักนิดเดียว ฉันรู้ว่าฉันควรกลับบ้านไปอ่านหนังสือแต่ ‘ฉันทำไม่ได้’ เก็ทนะ
ฉันกับไนออลเรียนห้องเดียวกันแต่ทำตัวใส่กันราวกับคนแปลกหน้าก็คือไม่ได้คุยกันเลยสักนิด มีบ้างที่ฉันแกล้งเดินชนทำของตกใส่เท้าเขาแต่คำที่พูดได้อย่างเดียวคือคำว่าขอโทษตามปกติที่คนทั่วไปเขาพูดกัน ฉันอยากชวนเขาคุยแต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวอยากจะห่างๆกับฉันตลอดเวลา นี่ฉันทำอะไรผิดกันนะทั้งที่ตอนเด็กๆสนิทกันแท้ๆเลย TT________TT
กลับก็ได้..................
ฉันลุกขึ้นจากแสตนด์ที่นั่งฝังตัวอยู่มาหลายชั่วโมงนั่นเป็นผลให้บั้นท้ายของฉันรู้สึกชาและปวดเป็นระยะๆตอนลุกขึ้นมา ท้องฟ้าเริ่มโผล้เผล้เป็นสีหม่นแล้วแต่ผู้คนในสนามฟุตบอลขนาดใหญ่นั่นยังคึกคักอยู่แถมยังมากขึ้นด้วยซ้ำ ฉันสาวเท้าเร็วขึ้นเรื่อยๆเพราะข้างนอกโรงเรียนมันเริ่มเงียบแล้ว ข้างนอกโรงเรียนผิดกับข้างในโรงเรียนมากเลยล่ะ มันทำให้ฉันรู้สึกวาบๆหวิวๆนะตอนเดินคนเดียวเนี่ย
รถประจำทางสีเหลืองคันใหญ่แล่นราบมากับถนนอย่างช้าและมาชะลอความเร็วตรงป้ายรอรถประจำทางที่ยืนรออยู่ ฉันยื่นแขนออกมาโบกไปโบกมาเป็นสัญญาณว่าให้จอดตรงที่ฉันยืนอยู่ มันเป็นเหมือนเดิมทุกวันที่ฉันต้องโบกรถแบบนี้จะต่างกันแค่ผู้โดยสารบนรถเท่านั้น ทุกวันถ้าตอนประมาณสี่โมงคนจะแน่นเอียดแออัดไร้อากาศหายใจแต่วันนี้ เวลานี้....ฉันนั่งคนเดียวแฮะ ฉันหย่อนก้นลงบนที่ข้างหน้าสุดในคันรถที่มีฉันเพียงคนเดียว (และคนขับหนึ่งคน)
ติ๊ดๆๆ
สัญญาณของประตูรถประจำทางให้สัญญาณว่าใกล้จะปิดแล้วแต่ทว่า...
“เดี๋ยวครับ” เสียงทุ้มปริศนาของใครบางคนดังเล็ดรอดขึ้นมาทำให้คนขับจึงต้องกดเปิดประตูให้อีกรอบ ทำให้ฉันที่นั่งกอดกระเป๋านักเรียนเงียบๆคนเดียวต้องหันไปมองตามเสียงเรียกนั่น ผิดคาด...นัยน์ตากลมโตของฉันเบิกโพลงทันทีเมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาที่คุ้นเคย
ตุ้บตั้บ ตุ้บตั้บ♥
มันก็มีอยู่แค่คนเดียวนั่นแหละที่ทำให้เกิดเสียงตุ้บตั้บได้น่ะ -////- ไนออลขึ้นบนรถมาแถม...คนเดียวด้วย เขาโค้งเป็นเชิงขอบคุณคนขับที่เปิดประตูให้เขา จากนั้นเขาก็หันหลังมาเตรียมจะเลือกที่นั่ง เขาชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นคนตัวเล็กมัดแกละสั้นๆสองข้างแถมยังเป็นเพื่อนสนิทเก่าของเขาอย่างฉันนั่งอยู่ เขาคงจะอยากลงจากรถไปซะตอนนี้เลยมั้งเนอะ T__T’
เขายิ้ม...เขายิ้มให้ฉันบางๆครั้งนึง ก่อนจะเดินเข้ามาอย่างช้าๆ ฉันได้แต่กระพริบตาปริบๆ ไม่อยากจะเชื่อมีเราอยู่ในรถแค่สองคน
“นั่งด้วยคนได้ไหม” เขาพูดกับฉันหรอ เขาพูดกับฉันจริงใช่หรือเปล่า ฉันไม่ได้ฝันไปจริงๆใช่ไหมอ่ะ ที่ผ่านมาตลอดนี่พูดกันแทบจะนับคำได้เลยแล้วนี่อะไรเขาพูดกับฉันแล้ว ฉันรู้สึกชื้นหัวใจขึ้นมาทันทีอยากจะอันเชิญให้เขานั่เดี๋ยวนี้เลยแหละแต่...บ้าเอ้ย! ปากมันสั่นมือมันชาไปหมดเลย ฉันจึงได้แค่พยักหน้าเบาๆทีนึง คนหัวทองจึงนั่งลงข้างๆฉันอย่างไม่รอช้า
เนิ่นนานที่เขาและฉันนั่งเงียบๆ ความจริงเขาอาจจะไม่ได้อยากนั่งกับฉัน แค่เห็นฉันเป็นเพื่อนในห้องถ้าไม่นั่งด้วยกันก็คงจะเสียมารยาทแย่เนอะ ฉันต้องโทษตัวเองที่ชอบคิดไปเองว่าเขาอาจจะอยากนั่งกับฉันก็ได้ แต่มันผิดที่ไหนล่ะ ฉันอาจจะมีหวังก็ได้นะมีหวัง...อย่าหาว่าฉันโรคจิตฉันเเค่อยากจะสูดดมอากาศผู้ชายบ้าง กลิ่นกายของเขามีกลิ่นเหงื่อน้อยๆมันไม่ได้เหม็นสาบแต่มันกลับทำให้ดูเซ็กซี่เป็นทวีคูณด้วยซ้ำ
“ไม่ได้คุยกันนานเลยเนอะ” ไม่ใช่ฉันที่เริ่มทำลายความเงียบ แต่เป็นเขาต่างหาก เสียงนุ่มทุ้มที่ฉันคุ้นเคยดีเอ่ยขึ้นมาเบาๆและหันมาหา ถึงฉันจะอยู่ห้องเรียนเดียวกับเขาแต่ก็ไม่มีโอกาสได้เห็นใบหน้าเขาใกล้ขนาดนี้เลยนะ เพราะตอนอยู่ในห้องนี่แยกฝั่งชายหญิงกันเลยก็ว่าได้
“ใช่เลย” ฉันบอกเสียงเรียบ ฉันอยากพูดมากกว่านี้แต่บอกแล้วปากมันแข็งถ้าพูดนี่ฉันจะพล่ามไม่หยุดและอาจจะหลุดอะไรออกไปก็เป็นได้ ฉันจึงเลือกตอบสั้นๆไปจะดีกว่า
“พรุ่งนี้สอบวิทย์นี่ทำไมถึงกลับช้านักล่ะ” แอบดูนายไง...
“เอ่อ...ทำเวรไง” ฉันบอกเหตุผลมั่วไปทั้งๆที่วันนี้ไม่ใช่เวรของฉันด้วยซ้ำไป ภายนอกฉันอาจดูเป็นคนแข็งๆแบบนี้แต่ข้างในฉันอ่อนหวานจริงๆนะ U_U;
“วันนี้ไม่ใช่เวรเธอ” เขาดักทางทัน
“แล้วเวรใคร” อ่าว...อิ๊บอ๋ายแล้ว ฉันตอบอะไรป๊ายยยยยยยยยย อยากจะตีปากตัวเองสักรอบนึงจริงๆเลย ไม่ได้อยากจะกวนเขาแต่ทำไมเป็นแบบนี้นะ เฮ้อ
“เวรกรรม”
“ฮ่าๆ ;^;”
“ฉันเห็นเธอนั่งยิ้มคนเดียวอยู่บนแสตนด์อย่าโกหกให้ยาก เธอปลื้มใครอยู่” นายไง U_____U ปลื้มนายฉันปลื้มนายได้ยินไหมเนี่ย โฮ...แต่ฉันพูดไม่ได้เข้าใจด้วย
“ไม่มี๊”
“เสียงสูงทำไมถ้าไม่มี” เขายิ้มมุมปากพลางยักคิ้วเยาะเย้ย ฉันเม้มริมฝีปากอย่างหงุดหงิดทีนึงก่อนจะถอนหายใจหนักๆเป็นจังหวะ แล้วหันไปค้อนตาใส่เขา
“แลกกันป่าวล่ะ” เขาพูดต่อ
“แลกอะไร”
“ก็เธอบอกคนที่เธอชอบมาก่อนแล้วฉันก็จะบอกคนที่ฉันฉันชอบให้เธอรู้ไง แฟร์ๆกันเราจะได้รู้ของกันและกัน” ฉันรู้สึกเหมือนหัวใจตัวเองแตกเป็นเสี่ยงๆทันที การหายใจของฉันหยุดไปชั่วขณะก่อนจะผ่อนลมหายใจถี่ๆออกมา คิ้วของฉันเริ่มขมวดเป็นปมเมื่อได้ยินดังนั้น
“นายมีคนที่ชอบแล้วหรอ” ไม่ได้นะไนล์! แกห้ามมีคนที่ชอบนะเว่ย ฉันจะไม่ทนเรน่าคนนี้จะไม่ทนกับแกแล้วนะ ทำไมทำไมทำไมนะทำไม ฉันหวงแกโว้ย ToT “ใครอ่ะบอกมานะ” ฉันเค้นเขาพลางเขย่าท่อนแขนข้างๆเบาๆก่อนจะสบสายตาของเขา
“บอกของเธอมาก่อนดิ บอกแล้วว่าแลกกัน :P”
“ไม่! ฉันไม่ได้ชอบใคร นายบอกฉันมานะว่านายชอบใคร”
“บอกให้แลกกันไงเธอไม่ต้องปากแข็งหรอกยังไงเราก็เพื่อนกันนะ” ไม่ต้องเน้นหนักคำว่าเพื่อนนักก็ได้นะฉันเกรงใจนายจัง T^T ตอนนี้ยังไงก็ได้แต่ฉันต้องรู้ว่าเขาชอบใครให้ได้เลย
“โอเคแลกก็แลก” ฮืออออ แล้วฉันจะเอาใครเป็นตัวตายตัวแทนวะเนี่ย เซ็งชีวิต เขาย่นคิ้วเชิงต้องการคำตอบจากฉัน เอาล่ะนึกสิเรน่านึกใครที่แกเคยปลื้มบ้าง...ใช่แล้ว “พี่เลียม!” นี่คือคนเดียวที่ฉันนึกออกเพราะเขาเป็นคนที่เคยช่วยฉันในวันจัดงานนิทรรศการตอนที่แผ่นเหล็กจะล้มทับฉัน เขานิสัยดีมาก แถมยังอยู่ในทีมฟุตบอลเดียวกับไนออลด้วย ฉันจะได้อ้างว่าแอบไปส่องเขาไง
“เลียม เพย์นกัปตันทีมฟุตบอลของฉันอ่ะนะ แม่เจ้า! นี่เธอมีคนที่ชอบแล้วจริงๆหรอไม่อยากเชื่อ” ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อจ้าถ้าฉันบอกความจริงไปนายคงจะช็อคสลบคาพื้นเลยมั้งเนี่ย แค่พี่เลียมเขาก็อ้าปากหวอแล้วอ่ะ เดี๋ยวขอไปเคลียร์ทีหลังนะพี่เลียม “ตานายแล้ว”
“ฉันชอบ…..................เพื่อนเธอนั่นแหละชื่อว่าอะไรนะ อ้อ!เบ๊บน่ะ”
เพล้ง...
ไม่ได้นะไนออล...นายห้ามชอบใครนะ T___T ฉันรู้สึกว่าเหมือนถูกอะไรแหลมๆทิ่มแทงที่ตรงบริเวณหน้าอกเป็นร้อยๆรอบ มันรู้สึกระบมยังไม่รู้สิ โอ๊ย...สลบคาไหล่เขาดีไหมนะ
“เอางี้ๆ ไหนๆเธอก็ชอบคนในทีมฉันแล้วฉันก็ชอบเพื่อนเธอ เรามาร่วมมือกันไหม” ไม่เอาไม่รวมมือ แง้ TToTT// ไม่อ๊าวววววว ปากของฉันยังแข็งชาสนิทเม้มแหยียดเป็นเส้นตรงทั้งที่อยากจะเซย์โนเต็มที่ ฉันถลึงตาโตใส่เขาเป็นเชิงปฏิเสธแต่มันกลับไม่เป็นผลเลยสักนิดเดียว “ไม่ตอบแปลว่าตกลงนะ ตามนี้แล้วกัน”
“…”
“เพื่อให้แผนของเราสองคนสำเร็จเร็วขึ้นเธอต้องกลับบ้านพร้อมฉันทุกวัน มานั่งกินข้าวกับฉันแล้วก็พรุ่งนี้ขอเบอร์เธอด้วยนะวันนี้ฉันลืมเอาโทรศัพท์มา อีกอย่างนึงคืออย่าบอกเรื่องนี้กับใครนะ” เขาพูดรัวใส่หน้าฉันส่วนตัวฉันเองก็ได้ทำหน้ามึนเอ๋อแตกใส่เขาอย่างเดียว นี่มันวันอับอายขายขี้หน้าหรอเนี่ย ; v ; “ฉันไปละ บาย” ฉันไม่ทันสังเกตว่าเขากดปุ่มหยุดรถลงที่ถนนสายหลักกลางเมืองพอดี เจ้าตัวรีบสาวเท้าไปที่ประตูรถแล้วโบกมือหย็อยๆให้ฉันแล้วรีบวิ่งไป
“เฮ้ เดี๋ยวสิฉันยังไม่รู้เรื่องเลยนะ” มันไม่เป็นผลสักนิดแผ่นหลังแกร่งลับสายตาไปแล้วจ้า อะไรกันเนี่ย..จะว่าไปมันก็คุ้มอยู่นะฉันต้องกลับบ้านพร้อมเขาทุกวันด้วยหรอเนี่ย TwT รู้สึกดีใจแปลกแม้จะได้มาอย่างงงๆ เอเถอะยังไงมันก็ไม่มีผลเสียอยู่แล้ว (นอกจากพี่เลียมกับเบ๊บอ่ะนะ) ตอนแรกก็ว่าตัวเองเฮิร์ทนิดๆที่เขามีคนที่ชอบแล้วแต่เป็นไงเป็นกัน…
ฉันจะทำให้นายชอบฉันให้ได้ไนออล ฮอแรน!
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
สวัสดีตอนดึกๆจ้าแวะมาอัพบทนำ (ที่ดูยาวๆ) ให้มาอ่านเล่นแก้ขัดกันก่อนเนอะ U_U รู้สึกตัวเองห่างหายจากการแต่งนิยายไปนานเกินไป
เนื้อเรื่องเลยออกมาเรียบๆ แป้กๆ แบบนี้เศร้าใจจุง
แต่เราก็ตั้งใจแต่งมันออกมาให้ดีที่สุดแล้วล่ะนะ แง้ TT^TT
ชอบไม่ชอบยังไงเม้นท์บอกให้เราทีนะคะ
อยากรู้จริงๆว่านักอ่านจะชอบกันไหม ยอมเสียเวลาสักนิดให้เรื่องนี้หน่อยนะคะ แล้วมาดูกันว่าเรน่าของเราจะเอาชนะใจผู้ชายหัวทองได้ไหม...เรื่องนี้อยากให้เป็นตัวแทนในเรื่องของสาวปากแข็งอยากบอกรัก อะไรแบบนี้ อยากจะรู้ว่าตัวเองจะแต่งได้มุ้งมิ้งแค่ไหน ฝากด้วยนะคะ :D
ความคิดเห็น