คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ช่วยเหลือ 100% (เขียนใหม่)
ไมอารินหลับตาลง ทบทวนความนึกคิดในใจ ทำไม ทำไมเธอถึงรู้สึกหน้าร้อนผ่าว เมื่อเขาคว้าตัวเธอเข้าไปกอด มันเป็นอาการที่ไม่เคยเจอมาก่อน
"หนาวเหรอ เห็นตัวสั่นเชียว"ฟาลอร์ถามเจือด้วยรอยยิ้ม อย่างอ่อนโยน
"เปล่าหรอก"ไมอารินตอบปัดๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืน ในคืนเดือนมืดที่ไร้แสงจันทร์ ชวนให้ใบหน้าของเธอน่ามองยิ่งขึ้น เส้นผมที่ปลิวสยายไปตามสายลมดูนุ่มสลวยราวกับเส้นไหม
ไมอารินรวบรวมสติอีกครั้ง ก่อนเพ่งจิตไปรอบๆ
"กำแพงเวทย์"ไมอารินเอ่ย ก่อนชูมือขึ้นหนือศรีษะ
ทันทีที่เธอเอ่ยนามเวทย์จบ ก็ปรากฎดาบเรียวยาว ที่ถูกพันธนาการไว้ด้วยโซ่ ในมือของเธอ
"ข้าแต่เหล่าทวยเทพแห่งการต่อสู้เอ๋ย เราขอสละเวลาเพียงเสี้ยว ความสุขเพียงเสี้ยว ความคิดเพียงเสี้ยว ร่างกายเพียงเสี้ยว และ พลังเวทย์เพียงเสี้ยว เพื่อขอคลายพันธนาการแห่งมนตรา ศาสตราแห่งตำนาน ไอซ์เบลด!"ไมอารินกู่ร้องขึ้น เมื่อสิ้นคำกล่าว โซ่ที่พันธนาการดาบไว้ก็คลายตัวออก เหลือเพียงดาบเรียว ยาวสีเงิน ที่ตรงด้ามจับมีสัญลักษ์รูปปีกเท่านั้น
"เธอจะทำอะไร" ฟาลอร์ถาม
"กำแพงเวทย์ต้องทำลายด้วยเวทย์"ไมอารินตอบ ก่อนชูดาบเรียว ขึ้นเหนือศรีษะ ให้มันต้องกระทบกับแสงดารา
"ด้วยอำนาจเวทย์มนต์แห่งข้า ด้วยพลังบงการแห่งศาสตราธรรมชาติทั่วทิศนัยนา จงฟังคำสั่งข้า กำแพงที่ขวางกั้นจงสูญสลาย ณ บันดล"ไมอารินเอ่ยเวทย์ต่อ และเมื่อจบบท เธอก็ปักดาบลงพื้น ธรณีเริ่มสั่นเสทือน
"เจ้าเก่งมากที่สามารถทำลายกำแพงเวทย์ข้าได้"เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างเยือกเย็น พร้อมร่างที่พวกเขาคุ้นเคย นัยน์ตาสีม่วงอมฟ้า และเส้นผมสีเหลืองอมส้ม
"ฟาเรย์"ฟาลอร์ร้องลั่น ทันทีที่เห็นร่างของน้องสาว ใจจริงแล้วเขาอยากเข้าไปกอด ปลอบประโลมให้น้องหายกลัว แต่คำพูดของเธอแล้ว มันพอจะสื่อความหมายบางอย่างที่ทำให้รู้สึกแปลกๆได้
"แกเป็นใคร"ไมอารินถามกลับด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น และแววตาเชือดเฉือนราวกับเหยี่ยว
"ฟาลอร์ ฮาโซดิสม์"หญิงสาวเบื้องหน้าตอบ
"น่าหัวร่อยิ่งนัก ที่คนอย่างเจ้าไม่สามารถตบตาข้าได้ ภูตมายา อาซาเนฟ"ไมอารินกล่าวพลางแค่นหัวเราะ ราวกับนางมาร
จบคำกล่าวของไมอาริน ร่างของฟาเรย์บื้องหน้าก็เริ่มหัวเราะร่า พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น และ ไม่ใช่เสียงของฟาเรย์ แต่เสียงนี้ กับฟังราวกับน้ำเสียงของฆาตกร
"ข้าคิดไว้ไม่ผิดเลยว่าเวทย์กระจอกของข้าคงตบตาท่านไม่ได้"ฟาเรย์เอ่ย ก่อนพึมพำเบาๆ แล้วร่างของเธอก็ค่อยๆเปลี่ยนไป เส้นผมกลายเป็นสีฟ้า และเรืองแสง ใบหน้าก็เริ่มกลายเป็นอีกคนหนึ่ง
"ยินดีที่รู้จักพวกท่าน ข้ามีนามว่า คริติน เป็นภูตอาซาเนฟอย่างที่ท่านกล่าวมาข้างต้น"หญิงสาวเบื้องหน้าเอย พร้อมค้อมตัวลง
"บอกข้ามา แต่เดิมพูดอาซาเนฟเป็นภูตที่รักสงบ แต่หตุใดเจ้าจึงปลอมตัวมาหลอกพวกข้า"ฟาลอร์ขึ้นเสียง
"ขออภัยท่านชายที่เคารพ เพียงแต่ข้าเห็นสมควรว่าพวกท่านไม่ควรไปต่อ"ภูตอาซาเนฟเอ่ยขึ้น
"จงหลีกทางเดี๋ยวนี้"ไมอารินเอ่ยแกมสั่ง
"ถ้าท่านพร้อมเสี่ยง เราก็ไม่อาจขวางท่านได้ แต่ท่านจงรู้ไว้ว่า ศัตรูในครานี้มิใช่เช่นคราวที่แล้ว มันอาจจะเสี่ยงภัยอันตรายมากขึ้น และถ้าท่านตัดสินใจอะไรลงไปแล้ว มันก็จะเดินไปตามเส้นทางที่โชคชะตาขีดขึ้น"ภูตอาซาเนฟ นามครตินเอ่ยทิ้งท้าย ก่อนจากไป
"เราจะจำไว้"ไมอารินเอ่ยลอยๆ แล้วก้าวออกไป
"เชอะ มาถึงแนวป่าแล้วเหรอ"ไอรีเซียเอ่ยขึ้น พลางทอดตัวลงนอนบนกิ่งไม้
"พี่คะ เอ่อ มีคนมาหาค่ะ"ไอรีนเอ่ยเสียงตะกุกตะกัก
"ใคร"ไอรีเซียถามเสียงเขียว ปนๆ ตะคอก
"มะ..ไม่ทราบค่ะ"ไอรีนเอ่ยก่อนน้ำตาคลอเบ้า
ไอรีเซียส่ายหน้าหน่ายๆกับนิสัยของน้องสาว แล้วทิ้งตัวลงจากกิ่งไม้ ตรงไปตามทางที่ไอรีนเดินมา
"ไอรีเซีย เทเลเมอรี นักฆ่าระดับ 7 แห่งมิราจ" สตรีผู้คอยอยู่เอ่ย ด้วยเสียงแปร่งหู คาดว่าเป็นเสียงที่เกิดจากการดัดเสียง แต่เกศา และใบหน้า ของเธอถูกบดบังด้วยผ้าสีดำรัตติกาล
"เจ้าคือใคร" ไอรีเซียเค้นเสียงถาม
"ข้าเป็นเพียงผู้ผ่านทาง"หญิงสาวผู้นั้นเอ่ย ก่อนยกมือสองข้างมาประกบกัน "นามของข้าคือ ไนท์" แล้วมือที่ประกบกันอยู่ของเธอก็คล่อยคลายออก กลายเป็นสัญลักษณ์รูปดวงตา ที่เกิดขึ้นจากควัน
"นายหญิง ขออภัยที่ข้าเสียมารยาทด้วย"ไอรีเซียเปลี่ยนท่าที่กระทันหัน
"ไม่เป็นไร"หญิงสาวภายใต้อาภรณ์สีดำเอ่ยอย่างเยือกเย็น
"แต่ว่า ท่านมีธุระอะไรกับข้ารึ"ไอรีเซียถามต่อ
"ป่าวหรอก แต่ข้าอยากถามว่า ทำไมเจ้าทำนอกเหนือคำสั่งข้า"
"ข้าแค่......."
"แค่อะไร ไอรีเซีย"
"เอ่อ ข้าขออภัยนายหญิง"
"ครั้งนี้ถือว่าปล่อยไปก่อน เพราะข้าก็ใช่ว่าจะคัดค้านกับการกระทำของเจ้า แต่ว่า มันอาจจะทำให้แผนการณ์ของข้าเสีย"นายหญิงผู้ใช้ชื่อว่าไนท์กล่าวก่อนดึงผ้าคลุมหน้าออก ดวงตาของเธอเป็นสีม่วงสดใส เส้นผมเป็นสีดำขลับ
"ท่านคือ....... เซเรน่า เลอฟอร์ด"
"ไอรีเซีย จำไว้ว่า จงอย่าเชื่อตาของตัวเอง"นายหญิงกล่าวทิ้งท้ายแล้วหายไป
ไอรีเซียขมวดคิ้ว ก่อนเดินไปตามทางที่เธอมา ภายนอกเธออาจดูเรียบเฉย แต่ภายในเธอกลับร้อนรน เธอไม่เข้าใจอะไรเลยจริงๆ
"พี่คะ พวกไมอารินมากันถึงที่แล้วค่ะ"ไอรีนพูด พลางหอบ
"อะไรนะ"ไอรีซียตะโกนลั่น ทำไม เด็กหญิงที่ชื่อไมอารินนี่สามารถทำลายเวทย์มนของเธอได้
"ปล่อยตัวเพื่อนๆของฉัน เดี๋ยวนี้"ไมอารินเค้นเสียงดัง ก่อนทาบดาบลงบนต้นคอขาวๆของไอรีเซีย
ไอรีเซียเบี่ยงตัวหลบวิถีดาบก่อนกะหยิ่มยิ้ม
"ใครสูญเสียความเยือกเย็นก่อนคือผู้แพ้มิใช่เหรอ ไมอาริน"
"แต่ข้าว่าไม่นะ เพราะนั่นไม่ใช่ตัวข้า"เสียงของไมอารินดังจากอีกทิศททางหนึ่ง
"เจ้า เป็นใครกันแน่"
"ข้าก็แค่นักดาบธรรมดา"
"ไม่ ถ้าเจ้าเป็นเพียงนักดาบธรรมดา ทำไมเจ้าใช้เวทย์ได้"
"เพราะข้าเป็นเพียงนักดาบ ที่พอมีวิชาเวทย์ติดตัว"
พอเอ่ยจบ ไมอารินก็โผล่มายืนด้านหลังของนักฆ่าสาว แล้วเอามือสับลงที่หลังคอ
"ขอโทษที่ข้าใช้เล่ห์โกง"ไมอารินเอ่ย แล้วจากไป ทิ้งให้ไอรีเซียสลบไสลอยู่ภายใต้แสงจันทร์
"ไมน์ พวกฟาเรย์หายไปแล้ว"ฟาลอร์วิ่งกระหืดกระหอบมา
"ไม่จริง"
"ฟาร์เดินไหวมั้ย"พ่อมดหนุ่มเอ่ยถาม ก่อนยกใบไม้ที่เต็มไปด้วยน้ำมนต์ ที่เขาเสกขึ้น ให้หญิงสาว
"พอไหวจ้ะ"ฟาเรย์ตอบเสียงสั่น ก่อยยท่นน้ำมนต์กรอกปากเด้กทั้งสอง
เขารีบพาพวกเธอหนีมาทันทีที่มีโอกาส แต่เขากลับรู้สึกว่า เขาทำผิดอะไรบางอย่าง
"ราส"ฟาเรย์เรียก ยั้งสติของเขา
"อืม ไม่มีอะไรหรอก"เขาเอ่ย ก่อนมองไปยังท้องฟ้ายามราตรี คืนนี้ไร้แสงจันทร์ แต่กลับดูลึกลับอย่างน่าประหลาด
พุ่มไม้ริมลำธารถูกแหวกออก ราสสะดุ้งโหยง ก่อนค่อยๆหันไปดู ในใจของเขา หวังเพียงแต่ว่า นี่คงไม่ใช่สัญญาณจากสัตว์ร้าย เพราะเขาตอนนี้ คงมิสามารถช่วยใครได้
"ดีค่า"เสียงใสดังมาพร้อมกับร่างเล็กๆ ของเด็กคนนึง เธอมีผมสีเขียว ยาวสยาย นัยน์ตาของเธอเป็นสีฟ้าสดใส คาดอายุได้ประมาณ 5 ปี แต่ที่เห็นชัดคือ เด็กคนนี้ลอยตัวได้
"เธอคือใคร"ราสถามเด้กน้อยอย่างเอ็นดู
"โซฟีเลีย อายุ 6 ขวบ เป็นภูตมายาทาร์กา ค่ะ"เด็กน้อยตอบ พลางชูนิ้วเป็นเลข 6
"ภูตมายา เผ่าทาร์กา เอ แล้วหนูมาทำอะไรที่นี่เหรอ"ราสถาม เขาคิดไปว่าถ้าสาวน้อยและเด็กสองคนนั้นตื่นคงต้อง ชอบเจ้าหนูน้อยเผ่าทาร์กาคนนี้แน่
"เจ้านายให้หนูเอาใบไม้ใบนี้มาให้ค่ะ เขาบอกว่ามันจะช่วยนำทางให้"โซฟีเลียพูดรัวเร็ว ก่อนส่งใบไม้สีทองสวยให้เรเซนเวีย แล้วหายตัวไป
เรเซนเวียทำสีหน้างุนงง นี่คงเป็นการเล่นตลกแน่ เขาคิดพลาง หัวเราะพลาง แล้วโยนใบไม้นั่นทิ้งไป แต่เมื่อใบไม้ตกกระทบถึงพื้น มันก็กลายเป็นพรมสีทองผืนใหญ่
"ใบไม้เวทย์รึ"ราสเอ่ยกับตัวเอง ถ้าเขาลองขึ้นไปดู ก็ไม่เสียหายอะไรนี่ มันอาจจะพาพวกเขาไยงที่ปลอดภัยก็ได้ คิดพลางก็อุ้มฟาเรย์ทั่สลบไสล และเด็กๆที่ยังไม่ได้สติขึ้นไปบนพรมใบไม้
ลมพัดมาเอื่อยๆ แต่พรมใบไม้ผืนนี้กลับปลิวละล่อง แปลกธรรมชาติ และมันก็เหมือนถูกคนบังคับมากกว่าที่จะเป็นไปเองตามธรรมชาติเสียด้วย
"เจ้าทำดีมาก โซฟีเลีย"ไมอารินเอ่ยกับภูตตัวน้อยผมสีเขียวของตน
"งั้นข้าขอขนมปังกรอบวานิลลา ซัก 10 ชิ้น"ภูตน้อยตอบ ก่อนเริงระบำ
"นิสัยเจ้าเหมือนใครน้า ข้านึกไม่ออกจริงๆว่าเจ้าได้นิสัยนี้มาจากใคร"
"การ์มสอนข้า"
"จริงรึ การ์ม"ไมอารินหันไปถามหมาป่าหิมะของตน
"แฮ่...."การ์มขู่กลับเป็นทำนองว่า ข้าเปล่า เจ้าเด็กนั่นต่างหากที่แกล้งหลอกท่านอยู่
ไมอารินหัวเราะร่าในความซุกซนของเด็กน้อย
"ราส ที่นี่ที่ไหน"ฟาเรย์ที่เพิ่งได้สติถาม
"ฉันไม่รู้จุดหมาย"ราสตอบ
ฟาเรย์เงียบลงเมื่อทราบคำตอบ อาจเป็นเพราะเธอเหนื่อยและเพลียเกินกว่าที่จะถามต่อ หรือไม่ก็เธอกำลังครุ่นคิด
พรมสทองค่อยๆร่อนลงแตะพื้น
"มากันแล้วหรือ"ไมอารินเอ่ย ทักทันที
"ไมน์"ฟาเรย์เอ่ยด้วยน้ำเสียงดีใจ แล้วกระโดพุ่งตัวมาทางเพื่อนสาว แต่เธอกลับสะดุดหกล้มเสียก่อน
"ราส ฟาร์เป็นอะไร"ฟาลอร์ถามด้วยเสียงเย็นเยียบ เพราะเขาตกใจกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น
"อือ เธอโดนเวทย์มนต์เข้าโจมตี"ราสอธิบายให้ฟาลอร์ฟัง แต่ตาเขากลับจ้องเขม็งไปทางไมอาริน
"ยังไง"ฟาลอร์ถาม ด้วยความเป็นห่วงน้องสาว
"พวกเด็กๆและฟาร์โดนพิษจากเวทย์ดำขั้นสูง ที่ค่อยๆกัดกินร่างกายของผู้โดนพิษ"ไมอารินอธิบายเสียงเรียบ
"อย่าบอกนะ ว่าวิธีรักษา......."ฟาลอร์เอ่ยค้าง เขารู้ดีว่าถ้าโดนพิษจากเวทย์ดำ จะต้องรักษาอย่างไร แต่มันเป็นไปไม่ได้
"ใช่"ราสพยักหน้า "นครในตำนาน ไลท์ทีเซน"
------------------------------------------------------------------------------------
จบซักที เย้ๆ * *
ตอนนี้หนูโซกำลังเปิดสมาชิคชมรม SW (Stupid writter)อยู่เจ้าค่ะ มี 1 ในนั้นแล้วคือนังเลอ(โดนบังคับเข้า) หุหุ คล้ายๆกับเป็นสมาคมคนบ้ามากกว่า ใครที่คิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติตามนี้ล่ะก็ สมัครเข้ามาเยย
คุณสมบัติ - บ้า ไม่เต็มบาท ยอมรับคนบ้าด้วยกันได้ พร้อมจะเปิดตาเปิดใจเข้าสู่โลกใหม่ที่ดี(รึเปล่า)กว่าเดิมมมมมมมมมมมมมม
ถ้าคุณสมบัติ ครบก็กรอกแบบฟอร์มตามนี้เจ้าค่ะ
นามปากกา-
ชื่อ(สมมติเองก็ได้นะเจ้าคะ)-
รสนิยม-
นิสัย-
URL มายไอดี -
แค่นี้แหล่ะเจ้าค่ะ ใครสมัครมา นู๋โซจะ add ไว้ในมายไอดีให้นะเจ้าคะ
ความคิดเห็น