ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ผ่านข้อเขียน - สอบสัมภาษณ์
พอรู้ผลประกาศข้อเขียน ก็เริ่มถึงด่านที่สองคือ แท่นแท้น ...
สอบสัมภาษณ์ !
ไอปีแรกที่ผ่านข้อเขียนดีใจแทบตาย แต่พอมาปีที่สองที่สอบรู้สึกเฉยๆละ แต่ก็ยังแอบรู้สึกดีที่เอ๊ะ ยังทำๆผ่านมาได้ 5+ ด่านนี้เราซีเรียสและตั้งใจทำให้มากกว่าเดิมเพราะเป็นตัวตัดสินเลยว่าเราจะผ่านหรือไม่ผ่าน ข้อเขียนยังเป็นแค่เปอร์เซนต์แรกเท่านั้น แถมการสอบสัมภาษณ์เป็นการดึงประสิทธิภาพในตัวของแต่ละคนออกมาใช้จริงๆ เพราะงั้นตั้งใจนะ!
พอถึงรอบนี้เขาจะให้เลือกอันดับสามประเทศที่อยากไปค่ะ ฝนในกระดาษตอนที่่เราไปเอาเอกสารมา แล้วต้องรีบส่งนะไม่งั้นเขาจะตัดสิทธิได้ง่ายๆ ! ให้เวลาเตรียมตัวน้อยมาก
สอบสัมภาษณ์ส่วนมากจะเป็นสนามสอบที่เดียวกันกับข้อเขียนค่ะ ปีแรกเราโดนที่เดียวกันแต่ปีสองเราถูกย้ายไปสอบอีกโรงเรียนนึง (เลยบอกสอบรุ่น 53 เป็นไรวุ่นวาย) ไปกันตั้งแต่เช้า ให้แม่มาส่งแล้วปล่อยเราเผชิญกับสภาพอ้างว้างอยู่คนเดียว .... #อยู่คนเดียวอยู่ลำพังหว่าเว้
เราก็ไปดูชื่อเราบนบอร์ดว่าจะได้สอบสัมภาษณ์กับใครบ้าง ห้องนึงถ้าจำไม่ผิดมี 10 คนมั้ง เรียงชื่อตามตัวพยัญชนะเลย เราตัวแรกๆเลยได้อยู่ห้องแรกๆ
ช่วงเช้า เป็นกิจกรรมนันทนาการกลุ่มรวมทั้งหมด มีรุ่นพี่ที่เคยไปรุ่นๆก่อนมาช่วยสร้างสีสัน ร้องเพลง เต้น เหมือนคนบ้า (บางคนนี่หน้าตาดี๊ดีย์ ไม่น่าเลย หมดสภาพ) สนุกสนานดีค่ะ กินอะไรเช้า่ๆมาแทบอ้วกออกมาเป็นสายรุ้ง (ส่วนนี้เราไม่รู้นะว่าพี่เค้าจะแอบคิดคะแนนไหมหรืออะไร มีคนเคยแอบกระซิบเราด้วยว่าพี่เค้าก็แอบคิดคะแนนตรงนี้ เราก็สงสัยว่าเค้าจะไปให้กันตอนไหนฟะ คนก็เยอะ งงก็งง )
เสร็จกิจกรรมรวมก็เริ่มปล่อยไก่สู่ห้องเชือด #ผิด ส่งนักเรียนไปยังห้องสัมภาษณ์แต่ละคน หญิงคละชาย เราเจอรุ่นน้องที่โรงเรียนแล้วก็เพื่อนสนิทเราสอบด้วยกันเลยโชคดีมีเพื่อน เรารู้สึกว่าเพื่อนที่สอบสัมภาษณ์ปีนี้โอเคกว่าปีก่อนไงไม่รู้ ดูเป็นกันเองมากจริงๆ ปีก่อนเราก็สอบปีแรกแถมเป็นรุ่นน้องอยู่แค่คนเดียว เลยรู้สึกเคว้งๆ ฮื่อ
พอเราถึงห้องกันก็จะเจออาจารย์ท่านนึง รุ่นพี่ที่เคยไปมาแล้วสองคน ของเราถ้าจำไม่ผิดมีพี่ไปนอร์เวย์มากับอะไรไม่รู้ ผู้หญิงผู้ชาย เขาก็ให้เราแนะนำตัวเสร็จสรรพ แล้วพี่เขาก็จะให้หัวข้อนำเสนอเป็นภาษาอังกฤษมา ให้เวลาเท่านี้ๆๆในการรวมกลุ่มคิด เสร็จนำเสนอเลย
อ้อลืม ตอนกิจกรรมกลุ่มภาคเช้าอะเค้าจะให้ติดป้ายเลขด้านหน้าด้านหลัง คล้ายๆผู้เข้าประกวดอะแหล่ะ นึกว่าตัวเองเป็นนางงามแป้บ5555555 ห้ามทำหลุดนะเพราะเวลาพี่เขากับอาจารย์ให้คะแนนเขาจะไม่เห็น
แล้วเราก็ปรึกษาหารือในกลุ่มกัน อ่อ อยากจะบอกว่าให้น้องๆมีส่วนร่วมในกลุ่มเยอะๆนะ อันนี้มีคะแนนชัวร์ ปีนี้เราดูตั้งใจกว่าปีที่แล้วเพราะเราเริ่มรู้แกน อิอิ คือเหมือนเสนอความคิดเห็น พูดคุยกับเพื่อนๆในกลุ่มกัน พี่เค้าเดินให้คะแนนอยู่ด้านหลังก็อย่าไปแคร์ ทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนไปปปป
พอนำเสนอเสร็จอะไรเสร็จ (อันนี้แล้วแต่ห้องนะว่าให้อะไร ของเราโดนแบบนี้เลย T v T ) พี่เขาให้เหตุการณ์สมมุตมาเช่น ถ้าจะพาคนตาบอดนำเที่ยวจะทำไง / พาคนบ้าไปเที่ยวจะทำไง เราได้อันหลัง แทบสติแตก กรีี๊ดดดดดดดดดด พี่เขาเล่นเหมือนจริงมาก เรากับเพื่อนอีกคนอยากจิบร้า คือพี่เขาไม่มีการบอกล่วงหน้าด้วยนะ แค่บอกว่าให้เราแบ่งกลุ่มกันสองกลุ่ม แล้วให้เราเป็นคนนำพี่ๆเขาเที่ยว แต่พี่เขาดันเล่นเสริมมาแบบนี้ สติแตกกันหมด T_T
มันเป็นการสอนอีกอย่างด้วยล่ะว่าถ้าเกิดเราไปที่นู่น เราจะทำอย่างไร เราจะแก้ไขเฉพาะหน้าได้ไหม เราไปคนเดียวนะ เราอาจจะไม่มีเพื่อนแบบนี้ไปด้วย เราจะทำยังไงล่ะ เราว่าต้องการจะสื่อออกมาแบบนี้นะ
ที่นี้ก็พักเที่ยงและ (เฮ้อ) และก็มาถึงรอบสอบสัมภาษณ์เดี่ยว ......
คือเราพึ่งจะตรัสรู้ได้ว่าเลขที่ติดไว้คือเรียงตามลำดับคนที่สอบสัมภาษณ์ เราได้ 7 หรือ 8 ไม่รู้ก็เลยชิว รอไป ไม่ค่อยตื่นเต้นมากเพราะเราเคยมีประสบการณ์มาก่อน แต่พอใกล้ถึงเราก็เริ่มละ ฟังจากเพื่อนเล่าก็เริ่มกังวลละว่าเข้าไปจะหลุดมั้ย
คำถามที่น้องๆสงสัยกันส่วนมากเนอะ
1. ต้องพูดภาษาอังกฤษไหม ?
: ไม่จำเป็นค่า แต่คำถามอาจจะเป็นภาษาอังกฤษนะคะ แต่ตอน introduce เป็นภาษาอังกฤษ พี่แนะนำตัวไปว่าเรียนสายฝรั่งเศสมาเขาก็ให้พูดฝรั่งเศสนิดนึง แต่เรื่องความสามารถภาษานี่ถ้าไม่แม่นอย่าบอกเค้านะ บางทีอาจจะโดนให้เล่านิทานภาษาจีนแบบเพื่อนพี่เป็นได้ ... (เพื่อนพี่เรียนจีนมา) ถ้าเราไม่ไหวที่จะพูดอิ้งก็บอกไปเลยขอพูดไทยได้ไหมคะ
2. ต้องมีความสามารถพิเศษไปโชว์ไหม ?
: อันนี้แล้วแต่ห้องกับแล้วแต่เรานะ เพื่อนเราร้องเพลงเขาก็ให้ร้องเลย ณ เดี๋ยวนั้น แต่ห้องเราไม่มีแสดงอะไรเลย แต่เราสอบรุ่นก่อนเพื่อนเราเต้นสเปนได้ก็เอาไปโชว์ เหมือนถ้าน้องๆมีความสามารถพวกพิเศษๆ อุปกรณ์อะไรก็เอาเข้าไป เขาก็ให้โชว์นะ
3. กลัว ตื่นเต้น ทำไงดี ?
: อย่ากลัวค่ะ!!! เพราะรุ่นก่อนเราตื่นมากๆ เข้าไปอาจารย์ยอมรับเลยว่าโหดอยู่ ของปีนี้ยังใจดีๆ ปีก่อนเราเข้าไปตอบตะกุกตะกัก แอบมองบนตลอด หัวแทบนึกอะไรไม่ออกเลย อย่าไปกลัว ถึงแม้อ.จะโหดแต่จ้องหน้าท่านไว้ คิดว่าเฮ้ยเราผ่านมาถึงจุดนี้ละนะ เต็มที่ อย่าให้พลาด ไม่มีอะไรน่ากลัวไปกว่านั้นหรอกค่า
ที่สำคัญ ห้ามเฟคคำตอบ นะคะ เขาจับผิดเราได้นะ
ปีก่อนเขาถามเราว่า ชอบอ่านหนังสืออะไร เราตอนนั้นตื่นเต้น คิดไม่ออกเลยตอบไปส่งๆว่าท่องเที่ยวไทย เขาถามทำไมล่ะแล้วทำหน้างง เราบอกภาพสวยดี มีความรู้ด้วย 5555555555555555555555 เขาคงรู้แหล่ะเราคงคิดไม่ออก ปกติเราอ่านหนังสือมากอยู่นะแต่ตอนนั้นคิดไม่ออกจริงๆ หัวสมองขาวไปหมด
ปีนี้เรามั่นใจกว่าปีที่แล้วอยู่พอตัว อาจะเป็นเพราะความคิดเราโตขึ้นกว่าปีที่แล้วด้วยมั้ง แล้วเราพอมีประสบการณ์มาบ้างแล้วก็เข้าไป ไหว้งามๆเป็นพิธี เซ็นชื่อ และเริ่มคุยกับอาจารย์และพี่ๆ แนะนำตัวเสร็จคำถามเริ่มมาเรื่อยๆละ คำถามจะเป็นลักษณะไล่ถามต้อนเราจนมิดเลยค่ะ สไตล์แบบเอาคำถามเรามาใช้ถาม ไล่จี้ไปเรื่อยๆ....แต่เราก็สู้นะ เช่น
เขาถามถ้าเกิดทะเลาะกับโฮสซิส (พี่สาว-น้องสาว) จะทำไง (คำถามแบบนี้อย่าคิดว่าถามเล่นๆนะคะ เวลาเราไปจริงๆถ้าเราเจอแบบนี้เราต้องแก้ไขสถานการณ์ให้ได้นะ) เราก็บอกจะเข้าไปคุยกับเค้าดีๆ เขาบอกอ้าวแล้วถ้าเกิดเขาไม่ยอมคุยล่ะ เราก็บอกอาจจะไปคุยกับโฮสแม่ เขาบอกแล้วถ้าโฮสแม่ดันเชื่อที่โฮสซิสพูดแล้วมองเราแง่ลบล่ะ เราก็คิดในใจ แม่งไรฟะ! ชีวิจฉันจะชีช้ำแค่ไหน เราก็เลยบอกเราก็จะพิสูจน์ตัวเองแทนคำพูดว่าเราไม่ได้เป็นแบบที่โฮสซิสพูดนะ แต่พยายามไม่ให้เรื่องบานปลาย ไม่ใช่อารมณ์ในการตัดสินใจ กรรมการก็พยักหน้า
ที่นี้อาจารย์ถาม แล้วถ้าเจอ Culture Shock จะทำยังไง เราก็ถามอย่างเช่นล่ะคะ เขาก็บอกอย่างอาบน้ำรวมแก้ผ้าเงี้ย เราก็บอกโห ผู้หญิงเหมือนกันนี่คะ จะอายอะไร หนูก็ไม่มีให้โชว์หรอกค่ะ แล้วก็หัวเราะกัน 55555555555555555 เราก็เสริมไป เนี่ย เราไปต่างแดนนะ เค้าก็มีวัฒนธรรมที่แตกต่าง เราก็ต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวเข้าหาเขา ไม่ใช่เขาเข้าหาเรา
และก็ถามเรื่อยๆ อาทิเช่น ถ้าไปที่นู่นแล้วมีคนมาจีบจะเอามั้ย / ถ้าที่นู่นไม่มีอินเตอร์เน็ต อยู่แบบบ้านนอกจะอยู่ได้เปล่า ฯลฯ อ่อ ถามถึงประเทศที่เราเลือกด้วย (ไม่รู้เป็นเหมือนกันไหมนะ) ตอนนั้นเราเลือก
- เม็กซิโก (อยากไปมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก)
- ลัตเวีย ( เพื่อนบอกเมืองสวย มีโรงเรียนศิลปะด้วย เราก็เลยเออแปลกดีเลยเลือก)
ที่เหลือจำไม่ได้แล้วแฮะ เราก็เตรียมจะตอบเม็กซิโกเต็มที่เลยเพราะคิดว่าบางทีเขาอาจจะถาม แต่ไม่ค่ะ เขาถามลัตเวีย.... ถามว่าทำไมถึงเลือกเป็นอันดับสอง เราก็บอกไปสถาปัตย์กรรมสวย แถมมีโรงเรียนศิลปะด้วย เขาก็ขำอีกละ (สงสัยหน้าเราคงตลกดี) แต่ก็แอบแค้น ทำไมไม่เอาเม็กซิโก กรี๊ดดดดดดดด อุตส่าห์เตรียมตัวมาตอบอย่างดีเลย โถ่
สอบเสร็จก็สบายใจละ ปล่อยวาง แต่ก็ลุ้นว่าจะติดไม่ติดรอจนถึงเดือนกรกฏา ....
เสร็จกิจกรรมรวมก็เริ่มปล่อยไก่สู่ห้องเชือด #ผิด ส่งนักเรียนไปยังห้องสัมภาษณ์แต่ละคน หญิงคละชาย เราเจอรุ่นน้องที่โรงเรียนแล้วก็เพื่อนสนิทเราสอบด้วยกันเลยโชคดีมีเพื่อน เรารู้สึกว่าเพื่อนที่สอบสัมภาษณ์ปีนี้โอเคกว่าปีก่อนไงไม่รู้ ดูเป็นกันเองมากจริงๆ ปีก่อนเราก็สอบปีแรกแถมเป็นรุ่นน้องอยู่แค่คนเดียว เลยรู้สึกเคว้งๆ ฮื่อ
พอเราถึงห้องกันก็จะเจออาจารย์ท่านนึง รุ่นพี่ที่เคยไปมาแล้วสองคน ของเราถ้าจำไม่ผิดมีพี่ไปนอร์เวย์มากับอะไรไม่รู้ ผู้หญิงผู้ชาย เขาก็ให้เราแนะนำตัวเสร็จสรรพ แล้วพี่เขาก็จะให้หัวข้อนำเสนอเป็นภาษาอังกฤษมา ให้เวลาเท่านี้ๆๆในการรวมกลุ่มคิด เสร็จนำเสนอเลย
อ้อลืม ตอนกิจกรรมกลุ่มภาคเช้าอะเค้าจะให้ติดป้ายเลขด้านหน้าด้านหลัง คล้ายๆผู้เข้าประกวดอะแหล่ะ นึกว่าตัวเองเป็นนางงามแป้บ5555555 ห้ามทำหลุดนะเพราะเวลาพี่เขากับอาจารย์ให้คะแนนเขาจะไม่เห็น
แล้วเราก็ปรึกษาหารือในกลุ่มกัน อ่อ อยากจะบอกว่าให้น้องๆมีส่วนร่วมในกลุ่มเยอะๆนะ อันนี้มีคะแนนชัวร์ ปีนี้เราดูตั้งใจกว่าปีที่แล้วเพราะเราเริ่มรู้แกน อิอิ คือเหมือนเสนอความคิดเห็น พูดคุยกับเพื่อนๆในกลุ่มกัน พี่เค้าเดินให้คะแนนอยู่ด้านหลังก็อย่าไปแคร์ ทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนไปปปป
พอนำเสนอเสร็จอะไรเสร็จ (อันนี้แล้วแต่ห้องนะว่าให้อะไร ของเราโดนแบบนี้เลย T v T ) พี่เขาให้เหตุการณ์สมมุตมาเช่น ถ้าจะพาคนตาบอดนำเที่ยวจะทำไง / พาคนบ้าไปเที่ยวจะทำไง เราได้อันหลัง แทบสติแตก กรีี๊ดดดดดดดดดด พี่เขาเล่นเหมือนจริงมาก เรากับเพื่อนอีกคนอยากจิบร้า คือพี่เขาไม่มีการบอกล่วงหน้าด้วยนะ แค่บอกว่าให้เราแบ่งกลุ่มกันสองกลุ่ม แล้วให้เราเป็นคนนำพี่ๆเขาเที่ยว แต่พี่เขาดันเล่นเสริมมาแบบนี้ สติแตกกันหมด T_T
มันเป็นการสอนอีกอย่างด้วยล่ะว่าถ้าเกิดเราไปที่นู่น เราจะทำอย่างไร เราจะแก้ไขเฉพาะหน้าได้ไหม เราไปคนเดียวนะ เราอาจจะไม่มีเพื่อนแบบนี้ไปด้วย เราจะทำยังไงล่ะ เราว่าต้องการจะสื่อออกมาแบบนี้นะ
ที่นี้ก็พักเที่ยงและ (เฮ้อ) และก็มาถึงรอบสอบสัมภาษณ์เดี่ยว ......
คือเราพึ่งจะตรัสรู้ได้ว่าเลขที่ติดไว้คือเรียงตามลำดับคนที่สอบสัมภาษณ์ เราได้ 7 หรือ 8 ไม่รู้ก็เลยชิว รอไป ไม่ค่อยตื่นเต้นมากเพราะเราเคยมีประสบการณ์มาก่อน แต่พอใกล้ถึงเราก็เริ่มละ ฟังจากเพื่อนเล่าก็เริ่มกังวลละว่าเข้าไปจะหลุดมั้ย
คำถามที่น้องๆสงสัยกันส่วนมากเนอะ
1. ต้องพูดภาษาอังกฤษไหม ?
: ไม่จำเป็นค่า แต่คำถามอาจจะเป็นภาษาอังกฤษนะคะ แต่ตอน introduce เป็นภาษาอังกฤษ พี่แนะนำตัวไปว่าเรียนสายฝรั่งเศสมาเขาก็ให้พูดฝรั่งเศสนิดนึง แต่เรื่องความสามารถภาษานี่ถ้าไม่แม่นอย่าบอกเค้านะ บางทีอาจจะโดนให้เล่านิทานภาษาจีนแบบเพื่อนพี่เป็นได้ ... (เพื่อนพี่เรียนจีนมา) ถ้าเราไม่ไหวที่จะพูดอิ้งก็บอกไปเลยขอพูดไทยได้ไหมคะ
2. ต้องมีความสามารถพิเศษไปโชว์ไหม ?
: อันนี้แล้วแต่ห้องกับแล้วแต่เรานะ เพื่อนเราร้องเพลงเขาก็ให้ร้องเลย ณ เดี๋ยวนั้น แต่ห้องเราไม่มีแสดงอะไรเลย แต่เราสอบรุ่นก่อนเพื่อนเราเต้นสเปนได้ก็เอาไปโชว์ เหมือนถ้าน้องๆมีความสามารถพวกพิเศษๆ อุปกรณ์อะไรก็เอาเข้าไป เขาก็ให้โชว์นะ
3. กลัว ตื่นเต้น ทำไงดี ?
: อย่ากลัวค่ะ!!! เพราะรุ่นก่อนเราตื่นมากๆ เข้าไปอาจารย์ยอมรับเลยว่าโหดอยู่ ของปีนี้ยังใจดีๆ ปีก่อนเราเข้าไปตอบตะกุกตะกัก แอบมองบนตลอด หัวแทบนึกอะไรไม่ออกเลย อย่าไปกลัว ถึงแม้อ.จะโหดแต่จ้องหน้าท่านไว้ คิดว่าเฮ้ยเราผ่านมาถึงจุดนี้ละนะ เต็มที่ อย่าให้พลาด ไม่มีอะไรน่ากลัวไปกว่านั้นหรอกค่า
ที่สำคัญ ห้ามเฟคคำตอบ นะคะ เขาจับผิดเราได้นะ
ปีก่อนเขาถามเราว่า ชอบอ่านหนังสืออะไร เราตอนนั้นตื่นเต้น คิดไม่ออกเลยตอบไปส่งๆว่าท่องเที่ยวไทย เขาถามทำไมล่ะแล้วทำหน้างง เราบอกภาพสวยดี มีความรู้ด้วย 5555555555555555555555 เขาคงรู้แหล่ะเราคงคิดไม่ออก ปกติเราอ่านหนังสือมากอยู่นะแต่ตอนนั้นคิดไม่ออกจริงๆ หัวสมองขาวไปหมด
ปีนี้เรามั่นใจกว่าปีที่แล้วอยู่พอตัว อาจะเป็นเพราะความคิดเราโตขึ้นกว่าปีที่แล้วด้วยมั้ง แล้วเราพอมีประสบการณ์มาบ้างแล้วก็เข้าไป ไหว้งามๆเป็นพิธี เซ็นชื่อ และเริ่มคุยกับอาจารย์และพี่ๆ แนะนำตัวเสร็จคำถามเริ่มมาเรื่อยๆละ คำถามจะเป็นลักษณะไล่ถามต้อนเราจนมิดเลยค่ะ สไตล์แบบเอาคำถามเรามาใช้ถาม ไล่จี้ไปเรื่อยๆ....แต่เราก็สู้นะ เช่น
เขาถามถ้าเกิดทะเลาะกับโฮสซิส (พี่สาว-น้องสาว) จะทำไง (คำถามแบบนี้อย่าคิดว่าถามเล่นๆนะคะ เวลาเราไปจริงๆถ้าเราเจอแบบนี้เราต้องแก้ไขสถานการณ์ให้ได้นะ) เราก็บอกจะเข้าไปคุยกับเค้าดีๆ เขาบอกอ้าวแล้วถ้าเกิดเขาไม่ยอมคุยล่ะ เราก็บอกอาจจะไปคุยกับโฮสแม่ เขาบอกแล้วถ้าโฮสแม่ดันเชื่อที่โฮสซิสพูดแล้วมองเราแง่ลบล่ะ เราก็คิดในใจ แม่งไรฟะ! ชีวิจฉันจะชีช้ำแค่ไหน เราก็เลยบอกเราก็จะพิสูจน์ตัวเองแทนคำพูดว่าเราไม่ได้เป็นแบบที่โฮสซิสพูดนะ แต่พยายามไม่ให้เรื่องบานปลาย ไม่ใช่อารมณ์ในการตัดสินใจ กรรมการก็พยักหน้า
ที่นี้อาจารย์ถาม แล้วถ้าเจอ Culture Shock จะทำยังไง เราก็ถามอย่างเช่นล่ะคะ เขาก็บอกอย่างอาบน้ำรวมแก้ผ้าเงี้ย เราก็บอกโห ผู้หญิงเหมือนกันนี่คะ จะอายอะไร หนูก็ไม่มีให้โชว์หรอกค่ะ แล้วก็หัวเราะกัน 55555555555555555 เราก็เสริมไป เนี่ย เราไปต่างแดนนะ เค้าก็มีวัฒนธรรมที่แตกต่าง เราก็ต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวเข้าหาเขา ไม่ใช่เขาเข้าหาเรา
และก็ถามเรื่อยๆ อาทิเช่น ถ้าไปที่นู่นแล้วมีคนมาจีบจะเอามั้ย / ถ้าที่นู่นไม่มีอินเตอร์เน็ต อยู่แบบบ้านนอกจะอยู่ได้เปล่า ฯลฯ อ่อ ถามถึงประเทศที่เราเลือกด้วย (ไม่รู้เป็นเหมือนกันไหมนะ) ตอนนั้นเราเลือก
- เม็กซิโก (อยากไปมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก)
- ลัตเวีย ( เพื่อนบอกเมืองสวย มีโรงเรียนศิลปะด้วย เราก็เลยเออแปลกดีเลยเลือก)
ที่เหลือจำไม่ได้แล้วแฮะ เราก็เตรียมจะตอบเม็กซิโกเต็มที่เลยเพราะคิดว่าบางทีเขาอาจจะถาม แต่ไม่ค่ะ เขาถามลัตเวีย.... ถามว่าทำไมถึงเลือกเป็นอันดับสอง เราก็บอกไปสถาปัตย์กรรมสวย แถมมีโรงเรียนศิลปะด้วย เขาก็ขำอีกละ (สงสัยหน้าเราคงตลกดี) แต่ก็แอบแค้น ทำไมไม่เอาเม็กซิโก กรี๊ดดดดดดดด อุตส่าห์เตรียมตัวมาตอบอย่างดีเลย โถ่
สอบเสร็จก็สบายใจละ ปล่อยวาง แต่ก็ลุ้นว่าจะติดไม่ติดรอจนถึงเดือนกรกฏา ....
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น