ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    #ร่างกายต้องการอบอุ่น (YOSEOK)

    ลำดับตอนที่ #6 : บทที่หก

    • อัปเดตล่าสุด 9 ส.ค. 62


    6



    “กลับมาแล้วคร้าบบบ”

    เสียงเปิดประตูพร้อมกับเสียงทักทายที่ดูเหนื่อยๆกว่าทุกวันของคนเด็กกว่าทำเอาเจ้าของห้องอีกคนรับรู้ นัมถอดรองเท้าวางที่ชั้น ก่อนจะเดินเอากระเป๋าไปวางที่โต๊ะข้างๆ เตรียมทำการบ้านเพื่อส่งในวันพรุ่งนี้ เวย์กดเปิดให้เกมส์เล่นออโต้แล้วหันมาตบแปะๆที่หน้าขาตัวเอง เรียกให้แฟนเด็กมาสนใจ

    ซึ่งนั่นก็ได้ผล

    นัมเดินมานั่งอย่างโดยดี เอนตัวพิงเข้ากับอกของเขา เปลือกตาสีมุกหลับลงอย่างเหนื่อยอ่อนกับกิจกรรมต่างๆระหว่างวันที่ทำอยู่โรงเรียน แขนสองข้างที่โอบกอดเอวเขาไว้หลวมๆนั้นยิ่งทำให้รู้สึกดีขึ้นไปใหญ่

    “เหนื่อยมากหรอครับ หมดแรงขนาดนี้เชียว”

    “ก็วันนี้นัมเรียนพละ แล้วก็เรียนคณิตทั้งบ่ายเลย”

    “วันนี้คาบบ่ายมีศิลปะกับจีนอยู่ไม่ใช่หรอ พี่ว่าพี่จำไม่ผิดนะ”

    “อาจารย์ย้ายมาสอนวันนี้อ่ะ เหนื่อยโครตๆ” คนตัวเล็กยู่หน้าใส่ แต่ตายังหลับสนิท อดไม่ไหวที่จะแกล้งบีบจมูกให้เจ้าตัวหงุดหงิดเล่นๆ จนนัมโวยวายแต่กลับมีสีหน้ายิ้มแย้มซะงั้น

    “หิวมั้ย พี่ทอดปลาทูกับทำซุปไว้ให้”

    “ตอนแรกไม่หิว ตอนนี้ท้องร้องแล้ว ปลาทูแหละวันนี้ เย้” นัมลืมตาขึ้น ยืดตัวกดริมฝีปากเล็กๆที่แก้มอีกคนก่อนจะหันหน้ามากอด แถมยังอ้อนซะยกใหญ่

    จะน่ารักไปไหนวะ

    “พี่จำได้ด้วยหรอว่านัมอยากกินปลาทูทอดอ่ะ”

    “จำได้สิ” ตอนนั้นที่บ่นพี่เวย์กำลังเล่นเกมส์อยู่นี่นา ใครจะรู้ว่าได้ยินด้วย แค่บ่นๆไปเท่านั้นเอง

    “หิวก็ลุกไปกินข้าวไป พี่ทอดไว้แล้ว เปิดกินได้เลย ในกล่องน่ะ”

    “ไม่เอา นัมอยากกอดพี่เวย์ก่อน”

    “หืม ?”

    “ชาร์จแบตไง วันนี้แบตหมด ไม่มีแรงแล้วเนี่ย ขอกอดหน่อย” ไม่พูดเปล่าแต่ยังซุกหน้าตัวเองลงกับอกเขาอีกด้วย แขนก็โอบกอดเอวไว้อีก

    อ้อนกันซะขนาดใครจะกล้าสั่งให้ลุกกันล่ะ

    “ให้ครึ่งชั่วโมงนะ โอเคมั้ย”

    “หอมแก้มนัมก่อน ไม่หอมไม่โอเค”

    จริงๆเลยเด็กคนนี้

    ถ้าอดใจไม่ไหวแล้วจะมีหน้าไปบอกแม่เค้าว่าไงล่ะวะไอ้เวย์

    เฮ้อ ...



    “จะจ้องหน้าเราอีกนานมั้ยโยธา” อุ่นพูดขึ้นเมื่อคนตรงหน้านั่งท้าวคางจ้องตัวเองได้จะร่วมสิบนาทีแล้ว ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียวอีกต่างหาก

    “เวลาอุ่นตั้งใจจะทำอะไร โคตรน่ารักเลยรู้ตัวมั้ย”

    “ไม่อยากรู้ ถ้านายจะมาพูดกวนสมาธิเราอ่านหนังสือก็กลับไปเลยไป”

    “ไม่กลับ” คนตัวเล็กส่ายหัวกับท่าทางของคนตรงหน้าที่เอาแต่ส่งยิ้มมาให้ไม่หยุด

    เวลาผ่านมาเกือบหนึ่งเดือนได้แล้วนับจากวันที่เขาเปิดรับเพื่อนต่างคณะคนนี้เข้ามาในชีวิตอันแสนน่าเบื่อของตัวเอง ไม่รู้ว่าโยจะทนไปได้นานแค่ไหน กลัวจะหนีไปก่อนน่ะสิ วันๆก็อยู่แต่กับหนังสือถึงเวลาก็กลับหอเพื่อพักผ่อน

    มีแค่นั้นจริงๆ

    แต่หลังจากเหตุการณ์วันนั้น ทุกๆอย่างรอบๆตัวก็เริ่มเปลี่ยนไป แอพพลิเคชันที่แจ้งเตือนเคยว่างเปล่าก็ดังถี่มากขึ้นจนทนรำคาญไม่ไหว ต้องปิดเสียงไว้ ทั้งแอดทั้งส่งข้อความมาไม่หยุดหย่อน เวลาเดินไปไหนก็มักจะมีคนมองตามแล้วหันไปซุบซิบกับกลุ่มของตัวเองตลอด

    อึดอัดเหมือนกัน พูดตรงๆ

    แต่ก่อนไม่เห็นหนักขนาดนี้เลยนี่นา

    “คิ้วขมวดแล้วอุ่น อ่านบทนี้ไม่เข้าใจหรอครับ” โยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง สีหน้าอุ่นเปลี่ยนไปทำไมเขาจะดูไม่ออก

    แต่ไม่รู้ว่าคิดเรื่องอะไรอยู่ก็เท่านั้น

    ‘มาเฝ้ากันอีกแล้วว่ะมึง’

    ‘อ่อยไว้เยอะอ่ะ ดูออก เห็นว่าน้องโยไปรับเช้ารับเย็นเลยนะ’

    ‘กะจะจับอ่ะแหละ แต่อยากเล่นตัวไง เดี๋ยวเค้าหาว่าไม่แพง’

    ‘ทำเป็นหยิ่ง แหม่ ที่แท้ก็ไม่เบาเหมือนกันนะ’

    ปัง !!!

    เสียงตบโต๊ะดังขึ้นอย่างแรงจนพวกที่อยู่ข้างหลังสะดุ้งกันทั้งกลุ่ม หน้าเริ่มซีดเมื่อเห็นสายตาที่หันมามองพวกเธอ นึกว่ารุ่นน้องใส่หูฟังอยู่ซะอีกถึงได้กล้าพูดออกมาขนาดนั้น

    “ปากดีกันจังนะ รู้ดีขนาดนี้สงสัยจะใส่ใจเก่งล่ะสิ”

    “เอ่อ คือ...”

    บ้าเอ้ย 

    ใครจะไปกล้าฉอดหรือมีเรื่องด้วยล่ะ

    นั่นเทควันโด้สายดำตัวแทนมหาวิทยาลัยเลยนะ !

    “นั่งลงเถอะโย อย่ามีเรื่องเลย ช่างเค้าเถอะ”

    “อุ่นจะปล่อยให้เค้าพูดอุ่นเสียๆหายๆได้ไง”

    “เรายังไม่เดือดร้อน นายจะเดือดร้อนแทนทำไม” พูดจบอีกคนก็ก้มหน้าสนใจกับหนังสืออีกครั้ง ทำเอาไปไม่เป็น พูดไม่ออกกับประโยคนั้น

    ก็จริงของอุ่น

    เขาจะไปเดือนร้อนแทนให้ได้อะไรขึ้นมา

    “...” โยเก็บของใส่กระเป๋าเงียบๆ ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกเลยจนคนตัวเล็กเริ่มหวั่นใจ

    “ไปซ้อมแล้วนะ” ว่าแล้วก็เดินถือของแล้วก็ลุกออกไป ชนิดไม่แม้แต่จะมองหน้ากันเลยสักนิดเดียว สีหน้านิ่งๆนั่นทำเอาเริ่มไม่สบายใจยังไงก็ไม่รู้

    โยไม่เคยทำหน้าแบบนี้เลยสักครั้งเวลาอยู่ด้วยกัน

    ไม่เคยเย็นชาใส่ขนาดนี้ด้วย

    หรือว่าจะโกรธ ...

    ‘เรายังไม่เดือดร้อน นายจะเดือดร้อนแทนทำไม’

    “พูดแรงไปสินะ” มือเล็กยกมาทึ้งหัวตัวเองเมื่อนึกได้ว่าเผลอทำอะไรลงไป เขาแค่ไม่อยากเห็นโยต้องทำหน้าเครียด แต่ดันใช้คำพูดไม่เป็นจนทำให้เข้าใจผิดกันแบบนี้

    Oun_up10 : เดี๋ยวเราไปหานะ นายอยู่ยิมใช่มั้ย

    กดส่งไปแล้ว ก็เก็บหนังสือใส่กระเป๋าไปพลางๆ โยโกรธให้แน่ๆ คงจะต้องซื้อขนมกับน้ำไปง้อสักหน่อยแล้ว

    Y_thaa : ไม่ต้องมาหรอก มีซ้อมถึงดึก

    Oun_up10 : ดึกมากมั้ย เรารอได้นะ

    Y_thaa : อุ่นกลับไปเหอะ ไม่ต้องรอผมหรอก

    Oun_up10 : นายโกรธเราใช่มั้ย

    รอข้อความตอบกลับได้เกือบสิบนาทีแต่ความเคลื่อนไหวก็ยังคงนิ่งเหมือนเดิม เพียงไม่นานโยกดเข้ามาอ่าน

    แล้วก็หายไป ...

    คนตัวเล็กถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะสะพายกระเป๋าเดินคอตก หงอยๆ ออกไปจากตึก พอวันนี้กลับมาเดินคนเดียวแล้วมันไม่ชินยังไงไม่รู้แฮะ ทุกครั้งจะมีคนตัวสูงที่เดินข้างๆ คอยเล่าเรื่องต่างๆระหว่างวันให้ฟัง แถมมีมุกขำๆมาเล่นให้หัวเราะไม่หยุดหย่อน มอไซค์คันเดิมที่มักจะได้ขึ้นไปนั่งเพื่อกลับหอเป็นประจำ พร้อมกับรอยยิ้มของอีกคนที่ชวนให้ยิ้มตามอยู่เสมอเวลาที่มาส่ง

    วันนี้มันกลับเหงาๆยังไงไม่รู้

    เดินคนเดียวมาตลอด แต่พอมีใครสักคนเข้ามา

    ตอนนี้ดันไม่อยากเดินคนเดียวซะงั้น

    น่าตลกจริงๆ



    “สมาธิไม่มีเลยวะโย” พี่ซันเดินมาตบไหล่เบาๆก่อนจะยื่นขวดน้ำดื่มส่งให้รุ่นน้องที่ตั้งแต่มาก็เอาแต่มองโทรศัพท์ เหม่อลอยไม่มีสมาธิจนโค้ชตำหนิไปหลายรอบ แถมยังถูกซ่อมจนดึกดื่น

    “เหนื่อยๆว่ะ”

    “เหนื่อยใจล่ะสิ ดูท่าทางแล้วอ่ะ กับน้องอุ่นเป็นไงบ้างล่ะ” คนเป็นพี่พูดอย่างไม่ใส่ใจนัก ตอนเห็นอุ่นมาหาโยครั้งก่อน ทำเอาอึ้งไปทั้งชมรมนักกีฬา กิตติสรรพอีกคนใช่ย่อยที่ไหนเรื่องความไม่สุงสิงกับใคร

    แต่โยนี่ต่างกันอย่างกับคนละขั้ว

    “ถูกเมินแล้วรึยังไง”

    เล่นเอาถึงกับหยุดชะงักกับประโยคนั้น

    “ยิ่งกว่าถูกเมินอีกพี่”


    “กลับบ้านดีๆนะเว้ย”

    “เจอกันพรุ่งนี้พี่” โยโบกมือลารุ่นพี่คนสนิทอีกครั้งก่อนจะเดินออกไปอีกทาง เขาจอดมอเตอร์ไซค์ไว้อีกด้าน แต่พอไปถึงกลับพอคนตัวเล็กๆที่นั่งตรงฟุตบาทใกล้ๆกับรถของเขา กระเป๋าเป้คุ้นตาทำให้รู้ได้ทันทีว่าคนๆนี้คือใคร

    “อุ่น”

    พอเดินไปใกล้ๆ กลับเห็นว่าอีกคนกำลังนั่งหลับ ข้างๆตัวมีถุงพลาสติกใบใหญ่วางอยู่ แว่นที่ถูกถอดถือไว้ในมือ พร้อมกับที่อุ่นซุกใบหน้าตัวเองลงกับเข่า แขนเรียวมีแต่รอยแดงๆจากยุงกัดหลายรอย คงจะเพราะนั่งรอเขาอยู่ตรงนี้มาตั้งนานแล้ว

    “อุ่น ตื่นได้แล้ว”

    “อื้อออ” คนตัวเล็กขยับตัว เพราะเห็นว่ามีคนมาปลุก ก็หยิบเอาแว่นมาใส่ หน้าตางอแงเหมือนเด็กที่ยังนอนไม่เต็มอิ่ม

    น่ารัก

    โคตรน่ารัก

    ความโกรธหายไปไหนหมดนะ

    “มานอนอะไรตรงนี้” โยฉุดให้อุ่นลุกขึ้นยืนด้วยกัน มองใบหน้าใสๆที่ตอนนี้กำลังหลบสายตาเขาอยู่ แล้วก็เอ่ยออกมาไม่ดังนัก

    “รอนายนั่นแหละ”

    “บอกแล้วไงว่าไม่ต้องรอผม”

    “ก็อยากกลับพร้อมกัน” อุ่นตอบ เงยหน้ามอง ไม่รู้ว่าจงใจทำรึเปล่า แต่เหมือนกับกำลังถูกอุ่นอ้อนด้วยสายตาเลย

    “ไม่ได้หรอ”

    “ได้สิครับ” โยเอื้อมมือไปขยี้ผมคนตัวเล็กเล่น แต่อุ่นกลับไม่ว่าไม่ห้าม แถมยังส่งยิ้มบางๆให้ด้วย

    ทำขนาดนี้ มาง้อกันรึไง

    ถ้าเป็นแบบนั้นดีใจตายเลยนะ

    แมวมาง้อ

    “ทีหลังเข้าไปรอข้างในนะครับ แบบนี้ไม่เอา ดูดิ แขนแดงหมดแล้ว มานั่งหลังขดหลังแข็งให้ยุงกัดทำไม”

    “ขี้บ่นจังนายอ่ะโยธา” ว่าแล้วก็มุ่ยหน้าใส่อีกต่างหาก

    ดื้อเก่งจังวะ ตัวแค่นี้

    “หายโกรธเรานะ เราไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้นกับนายเลยจริงๆ” เอาแล้วไอ้โยธา อุ่นมาง้อว่ะ !

    อุ่นมาง้อโว้ยยยย

    “...”

    “ไม่หายโกรธเราหรอ”

    “...” ทำเป็นนิ่งไว้ครับ เดี๋ยวเด็กมันได้ใจ

    “โยธา” อุ่นเดินมาใกล้ๆเขามากขึ้น สีหน้าเริ่มหวั่นๆมากกว่าเดิม จนเกือบจะใจอ่อน

    “ไหนร้องเมี้ยวให้ฟังหน่อยทีนึง”

    “หื้ม ?”

    “เสียงแมวอ่ะ ร้องให้ฟังทีนึง” แม้จะทำหน้างง แต่รอเพียงไม่นาน ลูกแมวก็ส่งเสียงให้ฟังสมใจ

    “เมี้ยว”

    ยอมแพ้ครับ

    “หายโกรธแล้วๆ”

    “จริงๆนะ ไม่โกหกเรานะ”

    “จริงสิครับ” ใบหน้าขาวใสแต่งแต้มรอยยิ้มออกมาจนเต็มแก้ม เป็นรอยยิ้มที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนจากอุ่น เหตุการณ์วันนี้ยิ่งทำให้หลงรักคนตรงหน้าขึ้นไปอีก

    ถ้าเป็นคุณ คุณจะยอมโกรธนานหรอ

    คนง้อน่ารักขนาดนี้

    :)



    #ร่างกายต้องการอบอุ่น



    Talk:

    เปิดเข้ามาดูคือปลื้มใจ ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ แง้ ;-;

    งั้นขอฝากน้องอบอุ่นและเจ้าโยธาไว้ด้วยน้าาา ♡´・ᴗ・`♡



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×