ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    #เอยจะครองโลก (YOSEOK)

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่สอง

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ย. 62


    2



    “คุณเอยกลับค่ำเชียวนะครับวันนี้”

    ลุงยามทักขึ้นเมื่อเห็นเขาเดินออกมาจากตึกในเวลาที่ไม่ใช่ตอนเลิกงานปกติ แต่ตอนนี้ปาเข้าไป 3 ทุ่มกว่าเข้าให้แล้ว คุยทักทายกันนิดหน่อยตามประสาคนสนิทกัน เพราะมักจะซื้อกาแฟไปฝากลุงแกบ่อยๆ เขาก็ขอตัวกลับ วันนี้เหนื่อยชะมัดเลยแฮะ

    อยากกลับห้องไปนอนแล้ว

    ยังดีที่ว่าคอนโดเขาไม่ได้ไกลจากที่ทำงานเท่าไหร่ นั่นเป็นข้อดีอีกอย่างที่มีอันน้อยนิด แม้มันจะราคาแพงแสนแพง แต่ถึงยังไงมันก็คุ้มที่จะไม่ต้องไปต่อสู้กับรถที่ติดมากมายอยู่บนท้องถนน อีกอย่าง รถยนต์เขาขับไม่เป็น มอไซค์นี่ยิ่งแล้วใหญ่ เดินนั่นแหละดีที่สุดแล้ว

    “ข้าวผัดกุ้งเหมือนเดิมครับป้าน้อย”

    “อ้าวป้านึกว่าใคร น้องเอยเลิกดึกหรอลูก”

    “นิดหน่อยครับ” เขาตอบและยิ้มกลับให้เจ้าของร้านที่กำลังทำออร์เดอร์ก่อนหน้าอยู่ มากินบ่อยจนป้าจำหน้าได้แล้ว

    “แม่ ของพี่ยืนได้ละยัง แฟนหนูรอนานแล้ว”

    “แฟนอะไรของมึงกะทิ เพ้อเจ้อไปใหญ่แล้ว” ลูกชายคนเดียวที่ตอนนี้กำลังโตเป็นสาวเป็นนางหันมาค้อนใส่คนเป็นแม่ ก่อนจะรีบวิ่งไปนั่งข้างๆคนที่อยู่โต๊ะไม่ไกลจากเขาเท่าไหร่

    คนบางคนที่มาคนเดียว

    น้องชื่อยืน เขาจำได้

    เด็กนักศึกษาคนนั้น

    คนที่อยู่ห้องตรงข้ามกัน ชอบทำหน้าดุๆ พูดน้อยๆ มนุษย์สัมพันธ์ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ ก็นะ เจอกันทีไรน้องก็เมินเขาตลอดนี่นา

    “ยืนอย่าถือสามันเลยนะ ลูกป้ามันก็พูดไปเรื่อย” ป้าน้อยแบ่งข้าวผัดกุ้งใส่กล่องข้าวให้เป็นสองกล่อง ถ้าให้เดาอีกอันคงจะเป็นของอีกคน เพราะตอนนี้ลูกค้าทั้งร้านเหลือน้องคนเดียว ส่วนกล่องนั้นคงไม่ใช่ของเขาหรอก ตอนมาสั่งป้าน้อยแกผัดไปแล้ว

    “ไม่เป็นไรหรอกครับ”

    “เห็นมั้ยแม่ พี่ยืนเค้าเต็มใจอ่ะ โอ๊ย— หนูเจ็บนะ !” ป้าแกดึงหูน้องกะทิที่ตอนแรกเกาะแขนอีกคนอยู่ลากให้มายืนข้างๆแก แต่ดูแล้วยืนเองก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่สีหน้าออกจะตึงไปสักหน่อย

    สงสัยจะไม่ชอบยิ้ม

    “ไปช่วยพ่อล้างจานเลยไป”

    “แม่อ่ะ !” ว่าแล้วคนสวยของร้านก็เดินสะบัดออกไปทันที จนคนเป็นแม่ได้แต่ส่ายหัว แล้วหันมาคุยด้วยสีหน้าเป็นมิตรเหมือนเดิม กะทิก็น่ารักดี สมวัยเด็กๆกำลังโตนั่นแหละ

    “นี่ของยืน กล่องนี้ก็ของน้องเอย ป้าลัดคิวให้ก่อน เค้าสั่งไว้ยังไม่มาเอาหรอก ดีนะเราสั่งข้าวผัดกุ้งน่ะ” ป้าน้อยพูดก่อนจะหัวเราะเบาๆ เขารีบลุกไปจ่ายเงิน ซึ่งก็คือข้างๆน้องยืนนั่นแหละ

    โห สูงนะเนี่ย เด็กสมัยนี้

    “อ้าว ป้าไม่มีทอน แป้ปนึงนะลูก” ว่าแล้วแกก็รีบเดินไปหลังร้าน คงจะกลัวว่ารอนาน เพราะดูท่าน้องยืนเองก็ดูท่าจะรีบไม่น้อย น้องดูกระวนกระวายแปลกๆเหมือนกันนะ

    สงสัยจะหิว

    อื้ม ก็คงจะจริงล่ะมั้ง

    ชุดนักศึกษาที่ใส่นั่นคงจะเพราะเพิ่งกลับจากมหาวิทยาลัยแน่ๆ สีหน้าก็ดูเหนื่อยๆ แถมยังดูเหมือนน้องจะไม่สบายอีก

    หน้าแดงมากๆเลยนั่นน่ะ

    “เรียนพีดีเอ็กซ์หรอครับ” ถามไปแค่นั้น แต่ไหงถึงสะดุ้งแรงจนเขาเกือบสะดุ้งตามล่ะเนี่ย หรือว่าละลาบละล้วงเกินไป เขาแค่อยากจะเป็นเพื่อนบ้านที่ดีบ้างก็เท่านั้น

    แต่ก็นะ

    อันที่จริงเราสองคนก็ไม่ได้สนิทกันเท่าไหร่นี่เนอะ

    “...”

    “...”

    อึดอัดจังแฮะ ไม่น่าชวนคุยเลยว่ะเอย

    “ได้แล้วลูกๆ อ่ะนี่ของน้องยืน นี่ของน้องเอย” เขาขอบคุณป้าก่อนจะเดินออกไป ซึ่งยืนเองก็ตามมาแทบจะพร้อมๆกัน แต่ถ้ามว่าจะให้เขาคุยต่อมั้ยน่ะหรอ

    บอกเลยไม่กล้าแล้ว

    มนุษย์สัมพันธ์ดีอย่างเอยยังยอมแพ้นะครับ :(


    แต่สุดท้ายเขาก็ต้องขึ้นลิฟต์พร้อมกันอยู่ดี ยืนห่างๆไว้ดีกว่าถ้างั้น สงสัยเขาคงจะไม่อยากรู้จักกับเรา

    “เรียนเซนท์วีบริหารครับ อยู่ปีสาม ชื่อยืน” อยู่ดีๆคนที่เงียบไปนานก็พูดขึ้นลอยๆ เหมือนกับว่าไม่ได้คุยกับเขา แต่ว่าทั้งลิฟต์เนี่ยมันดันมีกันอยู่สองคนเนี่ย !

    อะไรของน้องวะ

    แล้วนี่คุยกับใครหรอ แม่ซื้อ ?

    ยังไม่ทันได้หายสงสัย พอประตูลิฟต์เปิด อีกคนก็สับเท้าเดินออกอย่างไวและเปิดประตูเข้าห้องไปเลย โดยที่เขาเองยังยืนงงไม่หาย

    แปลกคนแฮะ

    เด็กคนนี้



    ไอ้ยืน ไอ้ควาย !!!!!

    ไม่เคยเห็นใครโง่ได้เท่ามึงเลยไอ้ชิบผาย —

    คนที่ยืนอยู่หลังประตูได้แต่ทึ้งหัวตัวเองราวกับคนไม่มีสติ วันนี้เขาอุตส่าห์วางแผนไว้ซะดิบดี เดินวนหน้าเซเว่นเป็นชั่วโมงรอเค้ากลับจากที่ทำงาน(อันที่จริงอยากไปรับ) สั่งข้าวร้านเดียวกัน(อันนี้ไม่เรียกบังเอิญ เค้าว่าพรหมลิขิต) เมนูเดียวกันด้วย(รู้ใจไม่มีใครเกิน) ได้เดินเข้าคอนโดพร้อมพี่เอย ขึ้นลิฟต์กันสองคนอีก

    แถมยัง

    พี่เอยชวนคุยก่อนด้วยซ้ำ !

    แล้วดูกูตอบเค้าไปสิวะ

    ...

    ควายล้วนๆไม่มีวัวผสม

    “ช้าว่ะยืน พวกกูตี้ไปสองตาละ นัดกันกี่โมง” ไอ้ซัมบ่นขณะที่เขากดเข้าดิสคอสได้แค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น

    “มึงอย่าไปด่ามันเยอะ เข้ามาตาที่สองอ่ะ” แฮ็กที่ได้ทีก็ขอพูดบ้าง ก่อนที่ไอ้ซัมจะหงอใหญ่เพราะเถียงอะไรไม่ได้

    “ว่าแต่มึงไปไหนมาเนี่ย กลับไปตั้งแต่บ่ายละนี่” โจที่เงียบอยู่นานก็ถือโอกาสถามขึ้น แต่พอจะตอบ ไอ้เพื่อนตัวดีที่รู้มากกว่าคนอื่นก็แหมใส่ซะเสียงดัง

    “ลงไปยืนหน้าเซเว่นเป็นชั่วโมง กูวางสิบบาทเลย” วางตีนกูก่อนเลยมั้ยซัม เดี๋ยวเถอะมึง

    “อีกแล้วหรอวะยืน”

    “มึงจีบพนักงานเซเว่นป่ะเนี่ย กูถามจริง” จีบก็เหี้ยแล้วครับ ผัวเค้าจะมาตบกระบาลเอาน่ะสิ

    “กูไม่ได้จีบใครทั้งนั้นแหละ พวกมึงวุ่นวายไรกับกูวะ” เขาบอกปัดๆ ซึ่งทั้งคู่ก็ไม่ได้ถามอะไรมากมาย ก่อนจะกดเข้าตี้หลังจากที่เพื่อนเชิญไป รอเพียงไม่นานเกมส์ก็โหลด

    แต่ไม่วายซัมรู้โลกรู้ก็ไม่ทำให้ใครหลายคนผิดหวัง

    “ไอ้ยืนมันชอบพี่ห้องตรงข้ามมันอ่ะ พวกมึงรู้ป่ะ”

    “ไอ้สัดซัม” ไม่น่าไปแดกเหล้ากับแม่งนี่เลย ความลับที่อุตส่าห์ปิดมา แม่ง

    ลาขาด !

    “ยังไม่จีบชัวร์ กากๆอย่างมึง” โจพูด

    “น้ำหน้าอย่างเพื่อนมึงจะไปจีบใครเป็นวะ กูถามจริงๆ” แฮ็กเสริม

    “สักวันต้องมีคนร้องเหมียรหมา เพราะมัวแต่มองไม่เข้าไปจองเค้าสักที” ซัมช่วยทับถม

    เอาเข้าไป เพื่อนแต่ละคน

    รักกูกันจริงๆ

    ซึ้งมากน้ำตาจะไหล ...

    “หุบปากไปได้ละ รำคาญ” ด่าไปส่งๆ ก่อนจะเริ่มมีสมาธิกับเกมส์ที่กำลังเริ่ม แต่พวกเวรนี่ก็ทำเอาเขาแทบจะไม่ได้อยากเล่นเลย ให้ตายเถอะ

    “ด่ากลบเกลื่อนความกากว่ะ ดูออก”

    แม่งรู้ทัน

    แต่จะให้เถียงอะไรได้ ก็มันเรื่องจริงนี่หว่า

    “แล้วคนนั้นสวยป่ะวะ ไปห้องมันก็บ่อย แต่กูแม่งไม่เคยเจอ”

    “กูก็ไม่เคยนะ”

    “สวยอะไรล่ะ พี่เค้าเป็นผู้ชาย” ซัมพูดขึ้นเท่านั้น

    เงียบกันทั้งวง ...

    “ผู้หญิงทั้งมหา’ลัยต้องหลั่งน้ำตา”

    “เอาจริงหรอวะมึง กูไม่ได้เหยียดนะ แค่...ตกใจว่ะ” เกมส์นั้นเรียกได้ว่าพวกมันแทบจะโยนเกมส์กันหมด ยศไม่ยศก็ไม่รู้แล้ว เรื่องเพื่อนมันสำคัญกว่า

    “กูไม่ได้เป็นเกย์”

    “กูรู้ มึงเคยชอบน้องใบตอนม.4 กูจำได้” แฮ็กที่พูดอดีตขึ้นมาได้แต่หัวเราะแห้งๆกับวีรกรรมสมัยเด็กของพวกเขาเองที่ตอนนั้นยังไม่ค่อยจะรู้อะไรมากมายเท่าที่ควร

    “กูแค่ชอบเค้า เค้าที่เป็นผู้ชาย” เขารู้เพื่อนมันเข้าใจ อาจจะเพราะเป็นห่วง เรื่องแบบนี้มันอาจจะไม่ได้สวยงามเหมือนอย่างที่หวังไว้ก็ได้ ใครจะรู้

    “ไม่รู้ดิ กูเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไปชอบเค้าตอนไหน ตอนนั้นแค่เผลอไปมองแล้วเห็นว่าคนนี้แม่งน่ารักดี”

    “...”

    “มองไปมองมา รู้ตัวอีกทีกูก็มองแค่เค้าคนเดียวมาสามปีแล้วว่ะ”

    แทบจะเอามือกุมใจพร้อมกันทั้งสามอย่างพร้อมเพรียงโดยไม่ได้นัดหมาย

    เพื่อนกูกำลังจะมีความรักกับเค้าแล้วโว้ย !

    “พวกเราต้องช่วยมันแล้วว่ะ กูว่า”

    “เออดิ ขืนรอให้ไอ้ยืนจีบเอง มีหวังไม่ได้แอ้มสักทีหรอก กูล่ะอยากจะรู้ว่าคอนกรีตกับปากมัน อะไรจะแข็งกว่ากัน”

    “ถ้าเป็นเช่นนั้นกระผม ซัม-ศิรเมษ ขอทำการเปิดแฮ็ชแท็กประจำวัน อัพเดทสถานการณ์เพื่อรายงานสดโดยตรง ณ บัดนี้”

    กุมขมับรอไว้เลยละกัน

    ดูท่าไม่น่าจะรอด ...



    #ยังไม่ได้ครอง(ใจ)เอย

    สถานะปัจจุบัน : คนที่อยู่ห้องตรงข้าม





    #เอยจะครองโลก


    Talk:

    ดูท่ากัปตันสู้ลำพังไม่น่ารอด ไม่เป็นไรฮะ พี่มีตัวช่วยมาให้แล้ว ! 5555555555555555
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×