จอมใจเจ้าพยัคฆ์
หนึ่งพยัคฆ์รูปงาม หนึ่งนางมารสะคราญโฉม "ท่านยมฯเจ้าขา ข้าน้อยไม่ไหวแล้วเจ้าค่ะ"
ผู้เข้าชมรวม
5,284
ผู้เข้าชมเดือนนี้
11
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
หนึ่งเจ้าพยัคฆ์รูปงามผู้อาภัพ [รู้ได้ไงว่าเขาอาภัพวะ ข้าวปุ้น]
หนึ่งนางมารอัปลักษณ์จากแดนไกล [เฮ้ย! ไม่ใช่ล่ะ ตัวเราออกจะสวยเลิศเลอปานนี้]
สองร่างรวมกายเป็นหนึ่ง... (- -‘’) ไม่! ไม่สิ! มันต้องไม่ใช่แบบนี้ เอาใหม่แล้วกัน
หนึ่งเจ้าพยัคฆ์รูปงามนามก็เพราะ [เอ็งรู้ชื่อเขาแล้วรึ ข้าวปุ้น]
หนึ่งนางมารน้อยแสนงามผู้เย้ายวนใจ [อ๊าย... อวยตัวเองเจ้าค่ะ]
สองใจแนบชิดรวมเป็นหนึ่ง... (-?-) Zzz
โอ๊ย! อะไรกันวะ! ยิ่งแต่ง
ยิ่งมั่ว ยิ่งพยายาม ยิ่งเลอะ ทำไมมันเข้าโหมดรวมร่างไปทุกที ถ้าจะโทษก็คงต้องโทษความไม่เอาไหนของเธอ
กาพย์ กลอน โคลง ฉันท์ ‘ปุณณาสา’ คนนี้เอาดีไม่ได้เลยสักอย่าง (ได้แต่แบะปากร้องไห้คร่ำครวญ) พ่อจ๋าแม่จ๋าที่กำลังรอข้าวปุ้นอยู่บนสวรรค์ ข้าวปุ้นขอโทษที่ไม่ตั้งใจเรียน
ถ้าข้าวปุ้นตั้งใจให้มากกว่านี้ ข้าวปุ้นคงมีความรู้มากพอเอาไว้เกี้ยวคุณชายรูปงามตรงหน้า
หญิงสาวจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มรูปงามในเครื่องแต่งกายชุดจีนโบราณสีดำผ้าเนื้อดีราคาแพงตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แค่ดูก็รู้แล้วว่าเป็นลูกคนมีกะตังค์ เขาถือกิ่งไม้ยาวเขี่ยฟืนในกองไฟที่กำลังโหมไหม้ลุกโชนขับไล่ความหนาวเหน็บให้เบาบางลงจนเธอไม่อาจละสายตาไปจากเขาได้ ในใจก็คิดไปพรางว่า ‘พ่อเจ้าประคุณรุนช่องเจ้าข้าเอ๊ย! พ่อช่างหล่อล่ำขาวคมสมส่วนน่าหม่ำจริงเอย ช่างตรงสเป็กข้าวปุ้นไปเสียทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นหู
ตา จมูก ปาก ไหนจะคิ้วเข้มๆ นั่นอีก หล่อคมมาดเข้มแบบนี้เอาใจข้าวปุ้นไปเลยเจ้าค่ะ ท่านยมฯ เจ้าขา ตั้งแต่เกิดมาข้าวปุ้นยังไม่เคยเห็นใครหล่อเท่านี้มาก่อนเลย นี่มันเทพบุตรในคราบซาตานชัดๆ’
“เหตุใดเจ้ามองข้าด้วยสายตาเยี่ยงนี้”
‘ปุณณาสา’ เอียงคอขมวดคิ้วสบตามองเขาด้วยความสงสัย
“นี่ท่านยมฯ เจ้าขา ท่านพูดว่าอะไรนะเจ้าคะ
ข้าวปุ้นฟังไม่รู้เรื่อง ท่านช่วยเข้าโหมดแปลภาษาด่วนๆ เจ้าค่ะ
ยุคนี้มันยุคสี่จีห้าจีเข้าไปแล้วนะเจ้าคะ ท่านต้องหัดใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์จะมัวมาถือแต่ปากกาขนนกกับบัญชีหนังหมา เอ๊ย! หนังสุนัขไม่ได้แล้วนะเจ้าคะ”
‘หมิงเยว่ซื่อ’ มองหญิงอัปลักษณ์ที่นั่งอยู่อีกฟากของกองไฟตรงหน้าเขาด้วยสีหน้าถมึงทึงขึงเข้มขึ้นอย่างไม่พอใจเมื่อเห็นนางทำหน้าตาทะเล้นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ นางเป็นสตรีใยไม่รู้จักสำรวมกิริยาเสียบ้าง แถมเสียงใสๆ ที่เปล่งวาจาออกมาจากริมฝีปากเล็กจิ้มลิ้มนั้นยังเป็นภาษาเขาไม่อาจเข้าใจได้
เขาเก็บตัวประหลาดได้ระหว่างทางขณะหลบหนีจากกลุ่มนักฆ่าที่ขุนนางโฉดชั่วมากอำนาจในราชสำนักผู้หนึ่งส่งมาเพื่อลอบสังหารเขา ขุนนางผู้นั้นอยู่ฝ่ายสนับสนุนองค์รัชทายาท ‘หมิงหยางจิน’ ผู้ซึ่งเป็นพระเชษฐาฝาแฝดของเขา พลันจู่ๆ ก็มีสตรีนางหนึ่งร่วงหล่นจากยอดหุบเขาด้านบนลงมาตรงหน้าเขาที่กำลังควบอาชาอยู่ด้านล่างพอดีทำให้เขาจำต้องใช้วิชาตัวเบาเหินขึ้นรับร่างของนางเอาไว้อย่างเสียไม่ได้เพราะหากช้ากว่านี้เพียงเสี้ยวเดียวนางคงหล่นลงมากระแทกพื้นสิ้นชีพแน่นอน และหากตัวเขาไม่กระโดดขึ้นไปรับนางผู้นี้เอาไว้ก็คงมิอาจหลบพ้นจากวิถีของลูกธนูอาบยาพิษจากมือสังหารได้ทัน นับว่าเหตุการณ์และจังหวะเวลาประจวบเหมาะพอดี ทั้งเขาและนางจึงรอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด
หมิงเยว่ซื่อไล่สายตาคมกริบแผ่กลิ่นอายดุดันประดุจพยัคฆ์ร้ายสำรวจร่างนางตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แม้ว่าตัวนางจะร่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้าเบื้องบน แต่รูปโฉมก็หาได้งดงามประดุจเทพเซียนไม่ นางอัปลักษณ์เกินกว่าจะเชื่อได้ว่าเป็นนางฟ้านางสวรรค์ลงมาท่องแดนมนุษย์
นางช่างแปลงประหลาดเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา การแต่งกาย การพูดจาน้ำเสียงที่เปล่งออกมา ภาษาที่นางใช้ รวมไปถึงห่อสัมภาระขนาดใหญ่ของนางนั้น ช่างดูผิดแผกแตกต่างจากชาวบ้านสามัญในแคว้นหมิงมาก หากจะบอกว่านางเป็นคนต่างแคว้นก็มิใช่ เพราะอย่างน้อยนางก็ไม่น่าจะแตกต่างกับเขามากถึงเพียงนี้ ใช่ว่าเขาไม่เคยเดินทางไกล ทั่วทุกหัวเมืองทั้งในและนอกด่านแคว้นหมิงรวมทั้งบรรดาสามแคว้นใกล้เคียงสุดแดนเหนือใต้ออกตกเขาก็เดินทางไปเยือนมาจวนครบแล้ว แต่ไม่เคยพานพบเจอผู้ใดแปลกเท่าสตรีนางนี้มาก่อนเลย
“เจ้าพูดว่าอย่างไร ข้าไม่เข้าในสิ่งที่เจ้าพูด
นั่นภาษาคนหรือสัตว์กัน”
‘ปุณณาสา’ งุนงงไปชั่วขณะด้วยเธอไม่เข้าใจในสิ่งที่ท่านยมทูตรูปงามท่านนี้กล่าวรัวออกมาเลยแม้แต่น้อย
‘ตายล่ะสิ เธอพลั้งเผลอจนแสงเทียนแห่งชีวิตดับลงในต่างแดนอย่างไม่ตั้งใจดังแต่แรก แถมยังพูดภาษาถิ่นไม่ได้ แล้วเช่นนี้ข้าวปุ้นคนงามจะได้ขึ้นไปเสวยสุขอยู่บนสรวงสวรรค์ชั้นฟ้า หรือต้องมุดลงไปใต้ผืนพสุธาท่องแดนดินนรกภูมิกับเขากันแน่
การที่เธอเลือกมาเขาเทียนเหมินซานเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งสุดท้ายในชีวิตมันดีแล้วจริงๆ หรือ? เธอได้แต่ส่งยิ้มแก้เก้อไปให้ท่านยมฯ
‘เอาล่ะวะ ภาษามือช่วยได้แน่นอน’
เมื่อนึกวิธีขายผ้าเอาหน้ารอดที่เคยใช้ได้ผลเป็นประจำขึ้นมาได้ก็รีบโบกไม้โบกมือสื่อสานไร้ซุ่มเสียงหวังให้ท่านยมฯ รูปหล่อเข้าใจสื่อสารแทนคำพูด
“เจ้าคิดจะทำอันใดกันนางแม่มด
นี่เจ้าคิดจะสาปแช่งข้ารึ!”
ผลงานอื่นๆ ของ สิริสุวรรณ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ สิริสุวรรณ
ความคิดเห็น