ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ

    ลำดับตอนที่ #16 : HW | วิชาศิลปะการเอาตัวรอด

    • อัปเดตล่าสุด 7 ส.ค. 58


    การบ้าน #4

     

    ชื่อ นามสกุล : รุจิภาส ศิลนครชัย

    ชื่อเล่น : รุจ

    Dormitory : Topaz

    รหัสประจำตัว : ACT26

    สถานภาพการขาดส่งงาน : 0

    การบ้านวิชา : วิชาศิลปะการเอาตัวรอด

    คำสั่ง : นักเรียนทุกโดมถูกวางยาสลบหลังจากที่ออกจากคลาสไปและพาตัวไปปฏิบัติภารกิจเสี่ยงตาย ทุกคนต้องอธิบายวิธีการหนีตายออกมาจากบริเวณที่กำหนดให้ได้

    สถานที่ส่ง : Spinel's Bar

    ชื่ออาจารย์ผู้สอน : อาจารย์เจแปน

     

    ll ส่วนเนื้อหา ll

    ชื่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น : Why..?

    อัตราความเสี่ยงในเหตุการณ์ของคุณ : 96%

    เรียบเรียงเหตุการณ์การทำภารกิจในการเอาตัวรอด :

    หลังจากที่รุจเก็บของต่างๆ ใส่กระเป๋าเป้ของตนเรียบร้อย ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นสะพายเป้แล้วเดินออกจากห้องเรียนแทบจะในทันที เขาไม่ค่อยชอบกลิ่นของสุราสักเทาไหร่เพราะมันทำให้เขามึนหัวได้ง่ายๆ คำพูดของอาจารย์หนุ่มนิสัยประหลาดคนนั้นยังคงก้องอยู่ในหูของเขา คำพูดทิ้งท้ายที่ไม่น่าไว้วางใจที่ว่า “เดี๋ยวช่วงเย็นๆ จะมีคนมารับพวกนายไปทำภารกิจ” ถึงจะยังไม่รู้ว่าจะเป็นภารกิจอะไร แต่มันคงจะไม่อันตรายอย่างที่เขาสังหรณ์อยู่ในใจหรอกนะ

    แต่ไม่ทันไรทันทีที่เขาออกมาจากห้องเรียนทั่วบริเวณก็เต็มไปด้วยกลุ่มควันที่กระจายอยู่รอบๆ รุจหยิบผ้าเช็ดหน้าของตนขึ้นมาปิดจมูกแทบจะทันที่เพื่อป้องกันไม่ให้สูดควันพวกนั้นเข้าไป แต่เหมือนว่าจะไม่ทันการ ชายหนุ่มเริ่มเกิดอาการมึนงง ก่อนที่จะหมดสติไป

    หลังจากการเดินทางอันแสนยาวไกล ทั้งๆที่ตัวเอกของเรื่องยังคงหลับใหล รถยนต์มือสองสีขุ่นไม่ติดป้ายทะเบียนกำลังมุ่งหน้าไปที่ทะเลสาบ และมันคงจะเป็นเรื่องปกติที่มันจะค่อยๆจมลงในไม่ช้า และมันจะไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นอะไรเลย หากในนั้นไม่ได้มีใครบางคนถูกวางยาแล้วเอามามัดไว้ในที่แบบนี้

    ชายหนุ่มเรือนผมสีน้ำตาลตื่นขึ้น เขารู้สึกวิงเวียนศีรษะ พลางสะบัดหัวเล็กน้อยเพื่อเรียกสติ ก่อนค่อยๆปรือตามองรอบๆ มันมืดไปหมด เหลือเพียงแสงเล็กน้อยจากวิทยุเสียงซ่าๆ ที่ถูกเปิดทิ้งไว้ แต่รุจก็พอจะเดาออกได้ว่านี่คือที่ไหน เพราะมีเข็มขัดนิรภัยที่คาดพาดผ่านตัวเขาเอาไว้ ทำให้นึกถึงสิ่งที่อาจารย์เจแปนพูดไว้ในห้องเรียน เขาก็แทบจะประมวนข้อสรุปทั้งหมดได้ในทันที

    เขาอยู่ในรถ.. และรถคันนี้กำลังจมน้ำ..

    และมันคงจะไม่น่าหวั่นใจสักเท่าไหร่ถ้าหากเขาไม่ถูกมัดมือเอาไว้อย่างนี้ ชายหนุ่มขยับข้อมือของตนเองเบาๆก็พบว่ามันถูกมัดด้วยเชือก เขาพยายามตั้งสติแล้วคิด ลองวิเคราะห์ดูว่าบนรถคันนี้มีอะไรที่พอจะช่วยชีวิตเขาได้บ้าง มือทั้งสองของเขาเอื้อมขึ้นไปเปิดไฟตรงหลังคารถ แสงไปสีส้มอ่อนๆกระจายไปทั่ว เผยให้เห็นบรรยากาศภายในและรู้ว่าเขานั่งอยู่ที่นั่งข้างคนขับ รวมถึงน้ำที่ค่อยๆซึมเข้ามาตลอดเวลา

    นั่นหมายถึงตอนนี้เขาต้องรีบแล้ว ถึงในหัวจะบอกว่าต้องรอให้น้ำเต็มก่อนถึงจะออกไปได้ก็ตาม เพราะอย่างไรถึงเปิดประตูออกไปตอนนี้ก็เปิดไม่ได้อยู่ดี เขาจำเรื่องนี้ได้ดีเลยเพราะตนเคยดูหนังเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวกับฉลาม แล้วมันมีฉากเปิดประตูใต้น้ำที่มีแรงดันมากๆพอดี ซึ่งต้องรอให้น้ำเต็มก่อน ซึ่งนั่นก็ตรงกับที่อาจารย์สอนเขาในคาบพอดี แต่ปัญหาใหญ่ตอนนี้ไม่ใช่การรอน้ำ แต่เขาต้องแก้เชือกที่มือ กับเข็มขัดนิรภัยที่ยึดตัวเขาติดรับรถคันนี้ไว้ก่อน

    ชายหนุ่มใช้ไฟจากที่จุดบุหรี่ที่อยู่ในรถเผาเชือกที่มือของตนจนขาด ก่อนที่จะถอดเข็มขัดนิรภัยออก แต่อาจจะเป็นเพราะรถคันนี้มันเก่าเกินไป หรือเพราะมีใครจงใจออกแบบให้มันเป็นอย่างนี้ก็ไม่ทราบได้ แต่ในเมื่อมันถอดแบบปกติไม่ได้ เขาจึงดึงให้มันยาวๆแล้วรอดออกมาแทน หลังจากที่เขาหลุดออกมาจากเข็มขัดนิรภัยเขาก่อนร่วงลงมาด้านหน้าตามแรงโน้มถ่วงโลกทันที

    รุจลุกขึ้นแล้วปรับที่นั่งด้านหน้าให้เอนไปด้านหลัง เพื่อเพิ่มเนื้อที่ให้ตนยืนได้สะดวกมากขึ้น ระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่ลดละกระทั้งตอนนี้ขึ้นมาถึงเอวชายหนุ่มแล้ว นั่นหมายถึงคันลดครึ่งหน้านั้นไปได้จมน้ำไปแล้ว และนั่นก่อนแสดงว่าความดันด้านล่างนั่นเพียงพอที่จะทำให้เขาสามารถเปิดหน้าต่างรถโดยไม่ต้องกลัวแรงปะทะของน้ำที่อาจจะผ่านเข้ามาแล้วเช่นกัน

    ชายหนุ่มดำน้ำลงไปแล้วค่อยๆหมุนหน้าต่างกระจกด้านหน้าบานหนึ่งให้เปิดออกพร้อมกับปลดล็อคประตูทุกบาน ปริมาณของน้ำที่เพิ่มเข้ามายังคงที่ ถึงแม้เขาจะเปิดหน้าต่างซึ่งทำให้เกิดช่องว่างให้น้ำผ่านเข้ามาได้มากขึ้น แต่ช่องว่างที่จะทำให้อากาศผ่านออกไปก็ยังมีเท่าเดิม เขาโผล่หน้าขึ้นมาเหนือน้ำ เงยหน้าหายใจเอาอากาศที่ยังเหลืออยู่เพียงเล็กน้อยในรถเข้าปอดมาให้มากที่สุด พอดีกับที่ระดับน้ำเข้ามาจนเต็มคันรถ นั่นหมายถึงแรงดันทั้งภายในและภายนอกรถเท่ากันแล้ว

    เขาดำลงไปใต้น้ำอีกครั้ง ถึงแม้จะไม่เคยลองแต่เท่าที่รู้มามนุษย์ปกติจะหายใจใต้น้ำได้ประมาณสองนาที รุจพยายามเปิดประตูด้านข้างของรถออก แต่โชคร้ายที่มันติด บานอื่นๆก็เช่นกัน แม้แต่หน้าต่างก็ติดจนเปิดไม่ออกเช่นกัน ถ้างั้นก็คงเหลือทางเลือกสุดท้าย..ตรอมใจตาย.. แต่นั่นคงจะเป็นเพียงแค่ความคิดชั่ววูบ

    รุจมองหาบางสิ่งที่น่าจะแข็งพอจะทุบกระจกได้ ก่อนที่จะนึกอะไรได้บางอย่าง เขาดึงที่รองหัวที่ติดอยู่กับพนักพิงอันหนึ่งออก ก่อนจะใช้เหล็กที่ติดอยู่งัดกระจกหน้าต่างจนแตก แล้วขูดจะเหลือคมให้น้อยที่สุดก่อนจะรอดออกมาจากรถ แล้วว่ายออกมาให้ห่างตัวรถ ภายนอกนั้นมืดมากจนไม่สามารถรู้ได้ว่าทิศทางไหนคือเหนือน้ำ เวลาแต่อากาศที่เขามีอยู่ก็เหลือน้อยเต็มทน ชายหนุ่มหายใจออกมาเล็กน้อย ก่อนจะออกว่ายตามฟองอากาศที่ลอยขึ้นสู่ผิวน้ำ แล้วตะเกียกตะกายไปอย่างเหนื่อยอ่อน

    ชาตินี้...ดวงเขาคงจะไม่ถูกกับน้ำจริงๆ

    ผลที่ได้เมื่อรอดจากเหตุการณ์นั้น : ได้ทดลองกับสถานการณ์จริง และมีชีวิตรอดออกมา แก่นหลักของเรื่องนี้ก็คือการตั้งสติ และนำความรู้ที่มีมาประยุกต์ใช้ และหาวิธีเอาตัวรอด โดยมีข้อจำกัดใหญ่ๆนั่นก็คือเวลา

    อุปสรรคในระหว่างการทำภารกิจ : อย่างแรกคือถูกมัดไว้ หากแก้เชือกไม่ได้นี่ได้ตายคารถแน่ๆ ต่อมาคือการมีสติ การควบคุมสติให้สามารถคิดวิเคราะห์เหตุการณ์ในยามวิกฤตินั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก ถึงแม้ว่าจะเคยฝึกมาบ้างก็ตาม และสุดท้ายคือเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง ในที่นี้คือกระจกหน้าต่างและบานประตูไม่สามารถเปิดออกได้ ในสถานการณ์นี้จำเป็นต้องหาวิธีแก้อย่างเร่งด่วน


    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×