●

ลำดับตอนที่ #14 : วิชาคดีศึกษา

ACADEMY CRIMINAL

สถาบันนักล่า(ฆ่า)อาชญากร

วิชาคดีศึกษา

Mei
Professor’s Case Study

Mei’s talk : ยินดีต้อนรับและสวัสดีเหล่าบรรดา Criminors ไฟแรง ฉัน เมย์ ‘เมลดา’ จะมาเป็นอาจารย์สอนวิชาคดีศึกษาในภาคเรียนนี้ ขอให้พวกเธอทุกคนตั้งใจเรียน เพราะวิชานี้เป็นวิชาที่ฉันไม่ค่อยถนัดเท่าไรนักหรอก ส่วนใหญ่จะถนัดเรื่องการใช้กำลังมากกว่าน่ะ (หักนิ้วไปด้วยระหว่างพูด) แต่เอาเถอะ ยังไงฉันเองก็จะพยายามสอนละกันนะ ส่วนนี่(กางกระดาษแผนการสอน) สิ่งที่เธอต้องทำความเข้าใจกับวิชานี้ รับไปซะสิ

รุจ : รับเอกสารมาก่อนที่จะก้มลงอ่านเพื่อศึกษารายละเอียด

วิชาคดีศึกษา
Role Play ในห้องเรียน 10 คะแนน
การส่งงานในห้องเรียน 40 คะแนน
สอบข้อเขียน 50 คะแนน
คะแนนในภาคการเรียนนี้ 100 คะแนนเต็ม

บทเรียนที่เราจะเรียนในวันนี้เป็นคดีศึกษาที่เคยโด่งดังมาทั่วโลก จนถึงปัจจุบันนี้ คิดว่าคดีไหนประเภทอะไรที่ยังคงน่าจับตามองสำหรับเธอ ลองบอกฉันหน่อยสิ เริ่มที่เธอแล้วกัน

รุจ : คดีลักพาตัว

แล้วทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ?

รุจ : บางครั้งมันก็เหมือนการต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายคือระหว่างฝ่ายคนร้ายและฝ่ายผู้เสียหาย(อาจรวมไปถึงตำรวจ) คดีประเภทนี้มักเป็นที่ติดตามของสื่อและผู้คนในสังคม ไม่ว่าจะในยุคสมัยไหนก็ยังมีคดีประเภทนี้เกิดให้เห็นอยู่มาก

เอาเถอะ คดีเหล่านี้ก็คงยังไม่สามารถมีกฎหมายใดออกมาปราบปรามคนชั่วได้เลย ซึ่งคดีที่เราจะเรียนกันนั่นคือ ‘คดีเด็กหายหรือคดีลักพาตัว’

LESSON#3 : คดีศึกษา : คดีลินเบิร์ก

“กรณีลินเบิร์ก” ซึ่งเป็นคดีลักพาตัวเด็กที่เคยเกิดขึ้นจริงในปี ค.ศ.1932 หรือเมื่อ 80 ปีที่ผ่านมา เป็นคดีโด่งดังที่กลายเป็นคำศัพท์ใหม่ที่แม้เวลาจะผ่านมาแล้วเกือบศตวรรษ แต่พูดคำนี้ทีไร อเมริกันชนก็เข้าใจทันที กรณีลินเบิร์กที่กลายเป็นกรณีศึกษาเกี่ยวกับการลักพาตัวที่สำคัญที่สุดของอเมริกา เป็นกรณีที่ชาร์ลส์ ลินด์เบิร์ก จูเนียร์ ลูกชายวัยไม่ถึง 2 ขวบของชาร์ลส์ ลินด์เบิร์ก วีรบุรุษนักบินของประเทศ  ถูกลักพาตัวไปจากห้องนอนในบ้านของตัวเอง ทิ้งไว้เพียงจดหมายเรียกค่าไถ่จำนวน50,000 เหรียญสหรัฐฯ เรื่องนี้โด่งดังมากเพราะว่า ชาร์ลส์  ลินด์เบิร์ก เป็นคนแรกที่สามารถขับเครื่องบินใบพัดเดียวข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกได้สำเร็จ นักบินหนุ่มกลายเป็นคนมีชื่อเสียง เนื้อหอมไปทั่วโลกตะวันตกในยุคนั้น เรียกว่า เอ่ยชื่อมาใครๆ ก็รู้จัก เพราะทั้งเก่ง ทั้งหล่อ เป็นนักบินที่มีอนาคต ครั้นพอลูกชายหายไป ไม่เพียงคนอเมริกันทั้งประเทศจะติดตามข่าวอย่างใจจดใจจ่อ แต่ร้อนไปถึงยุโรปก็เฝ้าดูการค้นหาพ่อหนูน้อยกันทั้งบ้านทั้งเมือง   ตำรวจเองก็อยู่ไม่สุข ต้องระดมกำลังกันตามหาสุดชีวิต

หลังจากลูกน้อยหายไปได้สิบกว่าวัน ก็มีการติดต่อกับคนร้ายที่ขอเพิ่มค่าไถ่เป็น 70,000 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งคุณพ่อที่กำลังหัวใจสลายไม่รีรอที่จะรีบหาเงินมาไถ่ตัวลูกชายสุดที่รัก   และหลังจากส่งมอบเงินให้คนร้ายที่นัดพบกันในสุสานแห่งหนึ่งแล้ว เจ้าหัวขโมยลักเด็กก็มอบจดหมายที่ระบุว่า เขียนที่อยู่ของทารกน้อยไว้ให้ว่าอยู่ในเรือลำหนึ่งตามพิกัดที่แจ้งไว้ แต่เมื่อนำกำลังตำรวจไปก็ไม่พบว่ามีเรือ หรือชาร์ลส์ ลินด์เบิร์ก จูเนียร์ตามที่กล่าวอ้าง เป็นอันว่าสูญเงินไปโดยไม่ได้ลูกคืน พ่อ แม่ของหนูน้อยต้องทุกข์ระทมกับการหายสาบสูญของแก้วตาดวงใจ   แม้จะมีความพยายามพลิกแผ่นดินตามหา ก็ตามไม่พบจนกระทั่งเวลาผ่านไปนานกว่า 2 เดือน หลังจากการลักพาตัว ก็มีผู้พบศพเด็กน้อยคนหนึ่งในป่าที่ไม่ห่างจากบ้านลินด์เบิร์กมากนัก   และจากการตรวจสอบ ก็พบว่าน่าจะเป็นศพของหนูน้อยผู้สูญหาย ที่ในขณะนั้น กลายเป็นเด็กที่มีผู้ออกเสาะหามากที่สุดในประเทศ   แต่สุดท้ายก็ได้คืนมาในลักษณะของร่างไร้วิญญาณ  ที่เสียชีวิตเพราะถูกตีเข้าที่ศีรษะ ปิดคดีนี้ลงด้วยน้ำตาของคนค่อนประเทศ

ด้านตำรวจก็ไม่ลดละ ออกติดตามเส้นทางของเงินที่คนร้ายได้ไปจากค่าไถ่   และพบว่าเกี่ยวโยงไปถึงริชาร์ด ฮาพท์แมน ช่างไม้คนหนึ่ง ที่ต่อมาได้ค้นพบเงินซุกซ่อนอยู่ในบ้านของเขา ช่างไม้คนนี้จึงถูกตั้งข้อหาลักพาตัวและฆาตกรรม จนนำไปสู่การตัดสินประหารชีวิตแต่ก็ยังมีผู้ตั้งข้อสงสัย และมีทฤษฎีอื่นอีกมาก เพราะจะว่าไป ก็ไม่ได้มีหลักฐานที่ชัดเจนว่า ฮาพท์แมนเป็นผู้ร้าย  แต่อาจจะเป็นเพียงคนสวมรอยที่เห็นข่าวเด็กหาย และแอบอ้างมาฉกเงินไปก็ได้ แต่ถ้าเป็นอย่างนั้น   ใครล่ะ  ที่จะเป็นผู้ก่อการฆาตกรรมเด็กวัยขวบแปดเดือนได้ลงคอ งานนี้ มีคนใจร้ายพอประมาณแอบตั้งทฤษฎีกันว่า จะเป็นไปได้ไหม ที่พ่อหรือแม่ของเด็กเอง ที่เป็นผู้พลั้งมือทำให้ลูกเสียชีวิต   อาจจะด้วยอุบัติเหตุที่นำพามาซึ่งการสูญเสีย แล้วกลัวความผิด ก็เลยนำศพชาร์ลส์ ลินด์เบิร์ก จูเนียร์ไปซ่อน และกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตระดับประเทศขึ้น  เพราะจะว่าไป บ้านหรูระดับเศรษฐีของลินด์เบิร์กนั้น ไม่น่าจะมีผู้ร้ายย่องเข้าไปลักเด็กอ่อนมาได้ง่ายๆ

น่าเสียดายว่า ด้วยเทคโนโลยีขณะนั้น ไม่ก้าวหน้าพอที่จะเสาะหาฆาตกรตัวจริง เราเลยไม่สามารถพูดให้ชัดๆว่าหนูน้อยลินด์เบิร์กหายไปจากบ้าน หรือเสียชีวิตได้อย่างไรกันแน่ แต่ที่ชัดๆก็คือ คำว่าลินด์เบอร์กเคส หรือคดีลินด์เบิร์กได้กลายเป็นคำที่รู้กันทั่วว่า หมายถึงการลักพา หรือเด็กที่หายไปจนทุกวันนี้

นี่คือคดีเด็กหายที่เคยโด่งดังมากในต่างประเทศ จนถึงตอนนี้เราเองก็ยังไม่แน่ใจว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นแท้จริงคืออะไรกันแน่ ถึงเวลาที่พวกเธอต้องใช้ทักษะและความสามารถที่มีอยู่ถ่ายทอดมาทางชิ้นงานแล้วส่งมาให้ฉัน

และนี่คือบทเรียนในวันนี้ที่ฉันสอนไปทั้งหมด พอไหวไหม?

รุจ : เขาเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าอาจารย์จะสอนเกี่ยวกับคดีลักพาตัวพอดี

ต่อไปคืองานทั้งหมดที่เธอต้องทำในสัปดาห์นี้ ห้ามลอกนะ

การบ้านวิชาคดีศึกษา

คำสั่ง : วิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามความคิดของนักเรียน

เงื่อนไข
- ตอบคำถามตามความเข้าใจของพวกเธอ
- คะแนนรวม 50 คะแนน
- กำหนดส่งวันที่ 27-31 กรกฎาคม 2558 เวลา 00.00 น.
- ส่งงานที่ Café
- เกิน 00.00 ฉันจะปิดรับงานทันที หวังว่าจะเข้าใจนะ

ค่าตอบแทนเมื่อทำงานสำเร็จ
- Tact Skill +5
- Body Skill + 3
- Note Skill + 5
- Decision Skill +7
- Life +10
- คะแนนงานที่ได้ (ได้ไม่เท่ากัน)

เมื่อทำงานไม่สำเร็จ!
- Life-20
- โดนขึ้นป้ายรายงานที่หน้ากระดานคะแนน (เกิน 3 ครั้ง ตาย!)

การบ้าน #3

ชื่อ – นามสกุล : รุจิภาส ศิลนครชัย

ชื่อเล่น : รุจ

Dormitory : Topaz

รหัสประจำตัว : ACT26

สถานภาพการขาดส่งงาน : 0

การบ้านวิชา : คดีศึกษา

คำสั่ง : วิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามความคิดของนักเรียน

สถานที่ส่ง : Café

ชื่ออาจารย์ผู้สอน : เมย์ ‘เมลดา’

ll ส่วนเนื้อหา ll

1.จงวิเคราะห์ความน่าจะเป็นในการหายตัวไปของเด็กน้อยตามคดีที่เกิดขึ้นในความคิดของนักเรียน :

ตอบ จากข้อมูลที่ว่า 'มีคนมาลักพาตัวเด็กออกไปจากห้องนอนทิ้งไว้เพียงจดหมายเรียกค่าไถ่จำนวน 50,000 เหรียญสหรัฐฯ' 

- แสดงให้เห็นว่าคนที่พาตัวเด็กออกไปนั้นรู้ว่าในเวลานั้นเด็กพักอยู่ที่ใด และรู้ว่าไม่มีใครอยู่กับเด็กในขณะนั้น มีความเป็นไปได้ว่าเขาอาจจะจับตาบ้านนี้มาก่อนนานแล้ว ไม่ก็เป็นคนที่เข้าออกบ้านนั้นเป็นประจำ หรือไม่ก็เป็นคนที่อาศัยอยู่ที่นั่น

- จดหมายที่ถูกทิ้งไว้หากถูกเขียนด้วยลายมือก็จะมีเบาะแสให้ตามต่อได้ง่าย แต่หากเป็นจดหมายที่พิมพ์จากพิมพ์ดีด หรือ นำตัวอักษรจากหนังสือพิมพ์สมัยนั้นมาสร้างเป็นจดหมายก็ยากที่จะตามหาตัวคนร้ายได้

2.ถ้าจำกัดตัวบุคคลที่น่าจะเป็นคนร้ายออกได้ 3 คนคือ ช่างไม้ พ่อ และแม่ของเด็ก คาดว่าใครน่าจะเป็นคนร้ายที่ลงมือสังหารเหยื่อพร้อมเหตุผล :

ตอบ สำหรับผมแล้วคนที่น่าสงสัยมากที่สุดน่าจะเป็น พ่อ

- จากเหตุการณ์เบื้องต้นนั้น ตามปกติหากผู้ร้ายก่อคดีแล้วมักจะไม่ต้องการให้ผู้เสียหายแจ้งตำรวจอยู่แล้ว แต่จากเหตุการนี้สื่อได้กระจายข่าวไปจนทั่วประเทศ ยิ่งเป็นสาเหตุให้คนร้ายระวังตัวมากขึ้น แต่ในแง่กลับกันทำให้คนร้ายนั้นแฝงไปกับผู้ชนได้มากเช่นกัน

 - สถานที่นัดส่งเงิน และ สถานที่รับเด็กนั้นดูจะเป็นสถานที่ที่ห่างไกล และคนที่ส่งมอบเงินนั้นก็เป็นตัวเขาเอง

- สถานที่พบศพอยู่ไม่ห่างไปจากบ้านของเขามากนัก หากผู้ร้ายเป็นคนนอกน่าจะต้องการซ่อนศพในที่มิดชิดยากต่อการค้นหามากกว่า

แต่อีกความเป็นไปได้ก็คือ ช่างไม้ ผู้ซึ่งมีเงินค่าไถ่เป็นหลักฐานมัดตัว ถึงจะไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าเขาเป็นคนฆ่าเด็กหรือไม่ แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกค่าไถ่อย่างแน่นอน

ส่วนคนที่เป็นแม่นั้น ในข้อมูลไม่ได้กล่าวถึงจึงไม่สามารถนำมาวิเคราะห์ได้ แต่โอกาสที่เธอจะเป็นคนร้ายมีความเป็นไปได้น้อยหากไม่มีผู้สมรู้ร่วมคิด

3.สมมติฐานที่กล่าวมาในคดีของลินเบิร์ก สมมติฐานใดมีความน่าจะเป็นมากที่สุด และเหตุใดจึงคิดเช่นนั้น อธิบายพร้อมเหตุผล :

ตอบ ดูจากสมมติฐานที่กล่าวมาข้างต้นคนร้ายน่าจะเป็นช่างไม้ เพราะเขามีหลักฐานชิ้นใหญ่มัดตัว จากความคิดเห็นส่วนตัวของผมก็มีความเป็นไปได้ที่คนร้ายที่ฆาตกรรมเด็กอาจจะเป็นคนอื่นและช่างไม้คนนั้นอาจจะเป็นเพียงแพะรับบาป เขาอาจจะถูกจ้างด้วยเงินจำนวนหนึ่งที่คนร้ายได้รับมาจากค่าไถ่ทั้งหมด หรือได้รับเินจำนวนมากมาจากคนร้ายด้วยทางใดทางหนึ่ง เพราะยังไงเสียก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าเขาเป็นคนร้ายเช่นกัน

4.นอกจากสมมติฐานที่กล่าวมาข้างต้น Criminors จงสร้างข้อสันนิษฐานขึ้นมาใหม่ตามความเข้าใจของนักเรียน :

ตอบ  คนร้ายต้องวางแผนมาอย่างดีก่อนที่จะก่อคดี เขารู้ถึงสถานที่ที่เด็กอยู่และเวลาที่เด็กนั้นอยู่ในห้องนอนคนเดียว เขาสามารถเขามาลักตัวเด็กออกไปได้อย่างง่ายดายทั้งๆที่บ้านหลังนั้นน่าจะมีการรักษาความปลอดภัยอยู่ เป็นไปได้ว่าอาจจะมีคนในบ้านหลังนั้นเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด คนร้ายรู้ดีว่าผู้ปกครองของเด็กมีเงินสำหรับค่าไถ่และพร้อมที่จะจ่ายแม้ว่าเขาจะเรียกร้องเงินเพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและร่ำรวย แต่คนร้ายก็น่าจะทราบถึงนิสัยของเขาในระดับหนึ่ง สถานที่ที่นัดพบเพื่อรับเงินค่าไถ่เป็นสถานที่ที่ไม่ค่อยมีใครเข้าไปและหลบหนีได้ง่าย ยากที่จะติดตาม แสดงว่ามีความเป็นไปได้ที่คนร้ายจะคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้เป็นอย่างดี แต่ได้ศึกษาถึงเส้นทางหลบหนีเอาไว้แล้ว สุดท้ายจดหมายที่คนร้ายบอกถึงสถานที่ซ่อนเด็กนั้น น่าจะเป็นสิ่งที่ค้นร้ายสร้างขึ้นเพื่อให้การสืบสวนไขว้เขวและเป็นการถ่วงเวลาในการหลบหนี จากที่กล่าวไปนั้นคนร้ายรู้จักวางแผนต่างๆได้อย่างแยบยล ไม่น่าจะสับเพร่าขนาดที่จะเก็บเงินจำนวนมากเพื่อที่จะเป็นหลักฐานผูดมัดตนเอง มีความเป็นไปได้ว่าเงินจำนวนนั้นเขาจะใหห้คนอื่นไปเพื่อที่จะจัดฉากเป็นแพะรับบาปแทนเสียมากกว่า

U_________________________________________U

O W E N TM.