คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : sweet heart ..ღ [6]
หลังจากได้เลขสิบเอ็ดหลักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แทนที่คนตัวสูงจะเลิกตื้อ กลับบ้านใครบ้านมันซะที แต่ตอนที่ทงเฮหันกลับไปมองด้านหลังเป็นรอบที่เก้า คนตัวสูงที่ว่านั้น ยังเดินตามตูดทงเฮต้อยๆ ไม่ไปไหนเลย
โอเค๊ อยากเดินเดินไป พอทงเฮขึ้นรถเมล์กลับบ้าน ก็เลิกตามเองแหละ
ร่างเล็กเชิดหน้า เดินต่อ สะบัดบ๊อบแบบ I don’t care
ปั่ก!!
“เอ้า หยุดก็ไม่บอก”
“ทงเฮ… ทงเฮ?”
“ทงเฮ เป็นไรไป” มือหนาเขย่าตัวบางเบาๆ เมื่อเห็นว่าอีทงเฮตัวแข็งทื่อไปแล้ว
“ทงเฮ? ไม่สบายรึเปล่า” ถามด้วยความห่วง แต่กลับไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใด ดวงตากลมโตของลูกศิษย์ตัวน้อยยังคงจ้องนิ่งไปยังร้านกาแฟชื่อดัง ที่ตั้งอยู่ทางขวามือ
“ชะ เชฟนิ…ม”
“หืม ว่าไง?”
“ฮะ ฮีชอล ซ…อน เบนิม”
“ทงเฮ!!” ร่างสูงตะโกน มือแกร่งรวบร่างบางเอาไว้ก่อนที่คนแข่งขาอ่อนจะทรุดฮวบลงไปกับพื้น
“ฮื่อออ”
“ทงเฮ เป็นอะไร” ร่างสูงถามหน้าตาตื่น จู่ๆก็ร่วงลงไป แถมไอ้น้ำใสๆยังคลอเบ้าอีก
“ฮื่อออ ฮีชอลซอนเบนิม ฮื่ออออ ทงเฮอกหัก โฮฮฮฮฮ”
(´O`。) (´O`。) (´O`。) (´O`。)
“ครับเชฟ”
“วันนี้ฉันคงไม่เข้าร้านแล้ว ฝากด้วยนะเตฮวา”
“เอ๊ะ แล้วเค้กที่ลูกค้าสั่งไว้เย็นนี้ล่ะครับ” ชายหนุ่มปลายสายมุ่นคิ้ว ออร์เดอร์ใหญ่รับเทศกาลของลูกค้าเสียประจำด้วย
“นั่นสิ” ชายหนุ่มทำหน้าครุ่นคิด “งั้นบอกเขาไปแล้วกัน ว่าฉันทำไม่ทัน”
“แบบนั้นจะเสียลูกค้านะครับเชฟ”
“ฉันรับผิดชอบเอง แค่นี้นะ ฝากร้านด้วย” วางสายเสร็จก็หันไปมองลูกศิษย์ตัวบางข้างๆ เขาจับให้ทงเฮเอนตัวมาซบหลังจากพาขึ้นแท็กซี่มาได้
ทงเฮยังคงเพ้ออยู่เป็นระยะเหมือนคนไม่ได้สติ จนคนข้างๆถอนหายใจ
“ฮีชอล ซอนเบนิม….ฮีชอลซอนเบนิม…ฮี….ชอล…”
“เฮ้อ ชอบเขามากหรือไง” มือแกร่งลูบหัวเบาๆ อย่างห่วงใย จากร่าเริงอยู่เมื่อครู่พอเห็นภาพรุ่นพี่ที่ตัวเองปลื้มไปอี๋อ๋อกับชายอื่น อีทงเฮก็ซึมเป็นปลาป่วย
“ทงเฮ ถึงแล้ว” เสียงทุ้มเรียกเบา คนที่หลับพิงไหล่ตนอยู่ปรือตา พอตั้งสติได้ ก็ปล่อยโฮออกมาอีกรอบ แขนเล็กสองข้าง กระโจนรัดคอร่างสูงแน่น
“โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ”
“อึก! หายใจไม่ออกกกกก”
“อาบน้ำนอน แล้วห่มผ้าอุ่นๆนะรู้มั๊ย” คิบอมบอกด้วยความเป็นห่วง ตอนนี้ร่างสูงพาคนตัวเล็กมาส่งถึงประตูบ้าน แต่ดูเหมือนทงเฮยังไม่ค่อยจะมีสติเท่าไหร่ ร่างเล็กซื้ดน้ำมูก ผงกศีรษะเบาๆ เป็นเชิงเข้าใจ
“เข้าบ้านซะ” ดุนดันแผ่นหลังบอบบางให้เข้าบ้านไป จากนั้นก็ช่วยปิดประตูให้ พอเห็นอีทงเฮเข้าบ้านอย่างปลอดภัยแล้วเชฟหน้าหล่อก็พรูลมหายใจอย่างโล่งใจ
ร่างสูงคว้าโทรศัพท์ขึ้นมา กดเบอร์โทรหาน้องชายตัวอ้วนไซส์ถังแก็สมินิ
“นี่ซองมิน”
“ฮะ?”
“คนที่ทงเฮตั้งใจจะทำเค้กให้น่ะ หน้าตาเป็นยังไง?”
วันนี้แล้วแหละ เป็นวันที่ทงเฮและนักเรียนโรงเรียนมัธยมปลายห้องบีต้องขึ้นทำการแสดง แถมวันนี้ยังเป็นวันพิเศษอย่างวันคริสต์มาสอีฟซะด้วย แต่ดูเหมือนเทศกาลแห่งความสุขปีนี้จะไม่ใช่ของทงเฮ คนตัวเล็กทำหน้าเบื่อโลกซึมกะทือ จะยิ้มก็ตอนที่คีย์ซอนเบนิม ผู้กุมบังเหงียน กำกับการแสดงบิดพุงกะทิน้อยๆของทงเฮ แล้วสั่งให้ยิ้มนั่นแหละ
“ทงเฮอา” ซองมินเดินมาใกล้ มืออวบโอบกอดเพื่อนตัวเล็ก หวังว่าไขมันอุ่นๆในตัวจะช่วยให้ทงเฮตัวน้อยของเขารู้สึกดีขึ้น
“อย่าเศร้าไปเลยนะ” เสียงหวานบอก ทงเฮยกมือขึ้นมากอดตอบ ตอนนี้ทงเฮไม่ร้องไห้ซื้ดน้ำมูกแล้ว ก็แค่เศร้านิดหน่อย คนมันหลง(ผิด)มาตั้งนาน จะให้ตัดใจวันสองวันคงทำไม่ได้
“ทงเฮ ซองมิน น้ำจ่ะ” เสียงใสๆดังขึ้นขัดจังหวะที่เพื่อนรักสองคนกำลังโอบกอดกัน ทงเฮผละออกมาจากอ้อมกอด ใบหน้าหวานหันไปมองเจ้าของเสียงด้วยสายตาตัดพ้อ
“เชอะ!” พูดเสียงดัง สะบัดบ๊อบ คว้าเอาหมวกคนแคระที่เกือบหล่นจากหัวมาถือไว้แล้วเดินจากไป ปล่อยให้คนที่มีน้ำใจ เอาน้ำมาเสิร์ฟต้องงงเป็นไก่ตาแตก
“เค้าเป็นอะไรของเค้าน่ะ” เจ้าของใบหน้าสวยดุจหญิงสาวถาม มองก้นบิดๆของทงเฮที่ค่อยๆไกลออกไป
“เอ่อ….” ซองมินใบ้กิน จะให้บอกยังไง ว่าเป็นเพราะฮีชอลซอนเบนั่นแหละ ไปเล่นฉากสวีทต่อหน้าอีทงเฮมัน เพื่อนเขามันถึงเป็นบ้าเป็นบอแบบนี้ นี่ดีนะที่ทงเฮไม่ใช่นักเรียนช่าง ไม่งั้นป่านนี้มันใจนักเลง เมาหัวราน้ำไปแล้ว
“ป่าวฮะ สงสัยเมนส์ไม่มาน่ะ ว่าแต่ วันนี้ซอนเบสวยจังเลยนะฮะ” เอ่ยชมรุ่นพี่คนสวยที่สวมชุดกระโปรงยาวแบบหญิงสาว ใบหน้าสวยแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอาง ทำให้ยิ่งสวยขึ้นไปอีก ถ้าไม่รู้ คงคิดว่าคิมฮีชอลคนนี้เป็นผู้หญิงปลอมตัวมาแน่ๆ
“แหม ซองมินก็ ชมเกินไป -///////- แต่อีทึกก็บอกอย่างนั้นจริงๆนะ พี่น่ะ เขินแทบแย่” ว่าแล้วก็บิดตัว ม้วนไปมาอย่างเขินอาย ซองมินมองภาพนั้น ได้แต่ยิ้มแหยๆตอบกลับไป
“ดีนะที่ไอ้ทงเฮมันเดินหนีไปก่อน”
“ห่ะ? ซองมินว่าไงนะจ๊ะ”
“เอ่อ เปล่าฮะ งั้นผมขอตัวก่อนนะฮะ ไวโอลินที่เอามา เดี๋ยวต้องตั้งสายมันซะใหม่”
“จ๊ะ ตามสบายนะจ๊ะ”
“ฮะ”
ทงเฮก้มลงมองของในมือ เสร็จแล้วก็เงยหน้าถอนหายใจ ก้มลงมองอีก เงยหน้า ถอนหายใจ ทำอย่างนี้ซ้ำๆ จนซองมินที่กำลังตั้งสายไวโอลินตั้งหันมามอง
“เป็นอะไรทงเฮ”
ร่างเล็กไม่ตอบ ทำหน้าหงอยแล้วส่ายหัวเบาๆ
“เราเห็นจ้องโทรศัพท์มาตั้งนานแล้ว รอใครโทรมา”
“เปล่า……….…รอพี่ยุนโทรมา” ทงเฮตอบ แล้วกลับไปทำหน้าหงอยเหมือนเดิม
“กลับมาจากอังกฤษแล้วหรอ”
“กลับมาวันนี้ พ่อกับแม่ไปรอรับที่สนามบิน บอกว่าจะกลับมาให้ทันเราแสดง แต่ยังไม่เห็นโทรมาเลย”
“ใจเย็นๆน่า อีกชั่วโมงนึงเลยนะกว่าจะแสดง”
“แต่จากสนามบินมันไกลนี่นา เราอยากให้พี่ยุนมาดูเราแสดง คริสต์มาสนี้เราไม่มีใครเลยนอกจากพี่ยุน” ใบหน้าหวานพูดอย่างเศร้าสร้อย และก่อนที่ทงเฮจะก้มลงไปมองแล้วเงยหน้าขึ้นถอนหายใจรอบที่สิบสอง โทรศัพท์ที่อยู่ในมือก็สั่นเบาๆ พร้อมเสียงเตือนเมสเสจเข้า
“สุขสันต์วันคริสต์มาสอีฟ ตั้งใจแสดงเข้าล่ะอีทงเฮ สู้ๆ”
ดวงตาสีน้ำตาลไหม้ไล่อ่านข้อความ มันเป็นแบบนี้มาสองวันแล้ว ที่มีเมสเสจจากเบอร์แปลกส่งมาหาเขา ทงเฮไม่รู้หรอกว่าเป็นใคร ตอนแรกก็คิดว่าเขาส่งผิด แต่ปรากฏว่าเขาพิมพ์ชื่ออีทงเฮมาถูก ห้วงความคิดนึงแอบหวังว่าจะเป็นคนคนนั้น แต่ทงเฮก็ไม่อยากเข้าข้างตัวเอง จึงคิดโบ้ยไปว่าเป็นเบอร์ของพี่ซีอน……ลูกพี่ลูกน้องของทงเฮเอง
จวบจนถึงเวลาของการแสดง ภายในหอประชุมเนืองแน่นไปด้วยผู้คน มีทั้งนักเรียนในโรงเรียนเอง ผู้ปกครองและบรรดาครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ที่เข้ามาชมการแสดงแห่งปีนี้
“สองทุ่มแล้วนะ พี่ยุนยังไม่มาอีกหรอ” ทงเฮบ่นเบาๆ เดินวนไปวนมาที่หลังเวที ในขณะที่คนอื่นๆก็วุ่นวายไม่แพ้กัน เพราะการแสดงจะเริ่มขึ้นในอีกหนึ่งนาทีนี้
“ไม่มีใครมาดูทงเฮเลย” คนตัวเล็กน้ำตาหยดแหมะ แอบชะเง้อมองไปยังที่นั่งสำหรับผู้ชมด้านหน้า สอดส่องหาคนที่ตัวเองอยากให้มา
“โอเคๆ รู้แล้ว” ซองมินพูดเสียงเบา เดินมาอยู่ข้างๆทงเฮ ก่อนจะเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าเสื้อสูท
“ทงเฮ ตอนแสดง มองไปทางคนดูฝั่งขวามือด้านหน้าด้วยนะ”
“หือ? ทำไมหรอ”
“คนพิเศษเขามาดูน่ะสิ”
“ใคร?” ทงเฮทำหน้าหมางง
“ม่ายบอก แต่รับรองพิเศษจริงๆ” ตบไหล่เพื่อนรักปุๆ ก่อนจะโดนเสียงเรียกจากหน้าเวทีให้ขึ้นมาแสตนด์บายได้แล้ว “ไปนะทงเฮ สู้ๆ”
การแสดงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนฉากที่ทงเฮต้องออกสู่หน้าเวทีมาถึง เมื่อสโนไวท์คนสวยถูกหลอกให้เขาไปในป่า แต่เพราะนายพรานใจดีหรือแพ้ความสวยก็ไม่รู้ จึงทำใจฆ่านางไม่ลง แล้วปล่อยให้นางต้องหลงอยู่ในป่า จนไปพบกับบรรดาคนแคระทั้งเจ็ด
ทงเฮวิ่งวนรอบเวทีตามบท เหล่าคนแคระร้องรำทำเพลง ชั่วจังหวะหนึ่งที่สบโอกาส ดวงตากลมโตก็แอบมองไปยังเก้าอี้ฝั่งขวามือ ตามที่ซองมินบอกอย่างมีความหวัง…
เจ้าของร่างสูงในเสื้อโค้ทพอดีตัวนั่งกอดอก พอเห็นคนตัวเล็กหันมองมา ใบหน้าคมก็คลี่ยิ้ม ก่อนยกมือขึ้นระดับอกโบกบ๊ายบายให้ทงเฮ
“เชฟนิม!” ทงเฮอุทานเป็นชื่อร่างสูงเสียงเบา ดวงตากลมมองเชฟนิมตาละห้อย ในใจแอบเต้นแรงด้วยความดีใจ
เชฟนิมบ๊าบายให้ทงเฮ เชฟนิมมาดูทงเฮด้วย
^o^
พี่ยุนโฮ ทงเฮไม่ง้อแล้ว
เสียงปรบมือเกรียวกราว หลังจากม่านบนเวทีปิดลง บรรดานักแสดงต่างกระโดดดีใจเมื่อละครเวทีที่พวกเขาพร่ำฝึกซ้อมกันมาหลายวันประสบความสำเร็จ โดยวัดได้จากเสียงปรบมือของคนดู
ซองมินปราดเข้ามากอดทงเฮ เขย่าตัวเพื่อนรักขึ้นลงอย่างมีความสุข
“ทงเฮ ดีใจจัง ในที่สุดพวกเราก็ทำได้ ฟังสิ เสียงคนดู ยังไม่เลิกปรบมือเลย”
“อื้อ ดีใจเหมือนกัน” ทงเฮบอก ใบหน้าหวานระบายยิ้ม มองดูพวกเพื่อนๆและรุ่นพี่พากันร้องดีใจเสียงดัง แม้ตอนแรกจะอิดออดกับบทคนแคระที่ได้รับ แต่ตอนนี้ทงเฮกลับมีความสุขที่สุดเมื่อได้เป็นส่วนหนึ่งของการแสดง
“นี่ เห็นพี่คิบอมใช่มั๊ย”
“อ อื้อ เห็น” ร่างบางตอบอ้อมแอ้ม
“งั้น! ไปหาพี่คิบอมกัน!”
“ดะ เดี๋ยว เกี่ยวอะไรกับเราด้วย เชฟนิมมาดูซองมินไม่ใช่หรอ” ทำใสไปงั้นแหละ จริงๆก็เข้าข้างตัวเองไปเรียบร้อยแล้วว่าเขามาดู ก็เขาโบกมือให้ทงเฮนี่ ใครๆก็เห็น!
“เปล่าซะหน่อย! เรามีพ่อกับแม่มาดูแล้ว แต่พี่คิบอมน่ะ มาดูทงเฮต่างหาก!”
“….” ^__^
“ไม่เชื่อหรอ? ไม่เชื่องั้นไปกัน” มืออวบฉุดมือเพื่อนตัวเล็กลงไปด้านหลังเวที วิ่งอ้อมด้านหลังหอประชุม เดินเบียดเสียดผู้คนที่เริ่มทยอยกลับออกจากหอประชุมแล้ว
“พี่ชาย มาแล้ว อ้าว พ่อกับแม่ก็อยู่ด้วยหรอ” ซองมินยิ้มร่า มองดูคุณพ่อคุณแม่ของตนที่ยืนคุยอยู่กับพี่ชาย
“คุณพ่อ คุณแม่ หวัดดีฮะ” ทงเฮกล่าวสวัสดีพ่อแม่ของเพื่อน คิมยูรายิ้มให้เพื่อนตัวเล็กของลูกชายอย่างเอ็ดดู
“หวัดดีจ๊ะทงเฮ สุขสันต์วันคริสต์มาสอีฟนะจ๊ะ เจ้าซองมิน นี่วิ่งมาหรอ กระหืดกระหอบเชียว” คนเป็นแม่ถามลูกชาย เอื้อมมือขึ้นไปจับเส้นผมที่ปรกใบหน้าให้
“นัดกับพี่ชายไว้หน่ะ เดี๋ยวหนีซะก่อน” ซองมินมองกรุ้มกริ่ม “คุณพ่อคุณแม่ฮะ เราไปเดินเที่ยวงานด้านนอกกันดีกว่า ปล่อยคนเขามีเรื่องต้องคุยกันไว้เนอะ”
ร่างอวบหันมาขยิบตาให้พี่ชายหนึ่งที ก่อนจะดุนหลังพ่อและแม่ของตนที่ยังคงมีสีหน้างงๆให้เดินนำไป
“เอ่อ…” ร่างสูงขยับปาก
“ฮะ?” แต่พอสบเข้ากับตากลมป๊องนั่น คำพูดมันก็วิ่งหายไปดื้อๆ จนต้องเปลี่ยนเป็นยกมือขึ้นมาแล้วชูนิ้วโป้งให้แทน
“แสดงได้เยี่ยมมาก”
“บทคนแคระนั่นหรอฮะ” ทงเฮว่ายิ้มๆ เชฟนิมอมยิ้มตอบ พยักหน้ารับเบาๆ
“ไปเดินเล่นกันไหม”
“อ่า….ไปสิฮะ” ^^
“อู้ยย เชฟนิม มันเลอะแก้มทงเฮหมดแล้ว ถือดีๆสิ” คนตัวเล็กร้องโวยวาย ยกมือขึ้นถูแก้มพองๆ ที่เปื้อนครีมสดสีขาวเป็นแถบ ร่างสูงหัวเราะเบาๆ ที่ตอนนี้คนตัวเล็กข้างกายตีหน้ายุ่ง คิบอมเปลี่ยนมือข้างที่ถือเครปครีมสดเป็นมือซ้าย ก่อนจะล้วงกระเป๋า หยิบผ้าเช็ดหน้าสีไข่ไก่ไปเช็ดแก้มให้เด็กโวยวาย
“เช็ดเกลี้ยงๆเลยเชฟนิม มดกัดแก้มทงเฮจะโกรธให้” คนตัวเล็กทำแก้มพองลมกอดอกฉับ แต่ก็ยังยืนนิ่งๆให้คุณเชฟบรรจงเช็ดครีมออกจากแก้ม
“แล้วจะกินอีกมั๊ย ไม่กินจะทิ้งแล้วนะ” ร่างสูงถาม มองเครปครีมสดในมือที่สลับกันกัดคนละคำกับทงเฮมาตลอดทาง เพราะทงเฮอยากกิน แต่ก็บ่นว่ามันอันใหญ่กินคนเดียวไม่หมดทำท่าจะเดินออกจากร้าน ร่างสูงเลยคว้าข้อมือไว้แล้วบอกให้ไปสั่ง เขาจะช่วยกิน แถมยังออกตังค์ให้ด้วย งานนี้ทงเฮเลยยิ้มแป้น
“กินสิ! เชฟนิมนี่ก็ ของอร่อยๆทิ้งได้ไง” คนอยากกินแต่ขี้เกียจถือว่า นอกจากจะไม่ออกตังค์แล้ว ยังให้เชฟนิมถือให้อีก
“เอ้า เอาไป เดี๋ยวก็กินเลอะอีก เก็บไว้เลย” ยัดผ้าเช็ดหน้าใส่มือคนตัวเล็ก แล้วเสหน้ามองไปทางอื่น เพราะรู้สึกว่าการจ้องหน้าอีทงเฮนานๆแล้วมันรู้สึกปั่นป่วนชอบกล
“อุ้ย สายไหมมมมมมมมมมมม” ทงเฮทำตาโต เมื่อเห็นร้านปั่นขนมสายไหมข้างหน้า ร่างเล็กวิ่งปร๋อ ทิ้งร่างสูงเอาไว้ข้างหลัง
ทงเฮฉีกยิ้มโชว์ฟันสามสิบสองซี่ ชูสายไหมสีฟ้าในมือขึ้นอวด หลังจากเชฟนิมเดินตามมา
“อะไรเชฟนิม” ถามคนตรงหน้าที่ทำท่าสายหัวระอาตน
“แล้วนี่ล่ะ” เชฟหนุ่มถาม มองไปยังเครปครีมสดในมือที่ยังเหลืออยู่ตั้งครึ่ง
“ทิ้งๆไปเหอะ เลี่ยน” ทงเฮบอกหน้าตาย ก่อนจะหยิบขนมสายไหมกินอย่างอารมณ์ดี
ลืมไปหมดแล้วที่พูดเมื่อครู่
“กินมั๊ยฮะ” ยื่นสายไหมมาตรงหน้า ร่างสูงไม่ตอบแต่พยักหน้าเบาๆ …เบาหวานขึ้นก็งานนี้
นิ้วเล็กหยิบเอาขนมสายไหมจากไม้ส่งให้ เชฟหนุ่มไม่ได้เอามือมารับ แต่ก้มลงมากินเจ้าสายไหมจากมือทงเฮ แถมยังแอบงับปลายนิ้วทงเฮไปด้วย
“หยึ๋ย” ทงเฮร้อง พอมองเขา เชฟนิมก็ส่งสายตากรุ้มกริ่มมาให้ จนต้องก้มหน้าชิดอก แอบไปเขินม้วนตัวไม่ให้เขาเห็น
สองร่างเดินเคียงคู่กันท่ามกลางบรรยากาศแห่งความสุขของเทศกาลคริสต์มาส พอทงเฮเห็นตรงไหนน่าสนุกก็แวะหยุดดู ทั้งร้านขายของกิน ซุ้มเล่นเกมส์ ไม่เว้นแม่แต่ร้านขายของจุกจิกน่ารัก
“น่ารักอ่ะเชฟนิม” ทงเฮชี้ไปยังที่ห้อยโทรศัพท์ดินปั้นรูปหมีแพนด้าหลับตาพริ้มกอดชอคโกแลตบาร์
“เขียนชื่อลงบนชอคโกแลตได้ด้วยนะทงเฮ” คนขายร้องบอก
“เท่าไหร่อ่ะพี่จงจิน”
“2100 วอน ถ้าซื้อสองอันลดอีก เป็น3870 อันละ 1935 วอนเอง”
“ไม่อ่ะ เอาอันเดียวพอ เขียนชื่อทงเฮนะ” ร่างเล็กคว้าแบงค์ออกจากกระเป๋าตังค์ กำลังจะยื่นจ่ายให้รุ่นพี่ก็ถูกเชฟนิมพูดขัดขึ้นก่อน
“เอาให้ฉันด้วยสิ เขียนชื่อฉันด้วย”
“เอ๋?”
“ก็ซื้อสองอันมันถูกกว่า” เขาให้เหตุผลมาแบบนั้น ทงเฮก็พยักหน้าหงึกหงัก ไม่ยักกะรู้ ว่าเชฟนิมมีรสนิยมแบบนี้ด้วย
“พี่จงจิน เอาสองอันเลย เขียนชื่อทงเฮกับเชฟ…อุ้ย คิบอม” ร่างเล็กยิ้มเผล่ เรียกเชฟนิมจนติด เลยไม่ชินกับชื่อคนตัวสูงข้างๆเท่าไหร่
.
.
.
.
.
“เจ๋งอ่ะ แพนด้าเฮ” ทงเฮยิ้ม จับเจ้าที่ห้อยโทรศัพท์มาหมุนดู เจ้าหมีแพนด้าเกาะแท่งชอคโกแลตนั้นมีชื่อของมันเขียนไว้ด้วย
“ไหนดู”
“อ๊ะ! เชฟนิม เอาของทงเฮไปทำไม ของเชฟนิมก็มี” ร่างเล็กกระโดดเหยงๆ จะเอาของที่ถูกแย่งไปคืน แต่ดูเหมือนส่วนสูงจะเป็นอุปสรรคอยู่มาก ของของทงเฮที่อยู่ในมือร่างสูงมันเลยย้ายไปห้อยไว้กับโทรศัพท์ของเขาเรียบร้อย
“ของทงเฮนะ!” คนตัวเล็กตาขวาง มองแพนด้าเฮที่ห้อยอยู่กับโทรศัพท์ของร่างสูง
“เอ้า เอาไป” ทงเฮร้องขอแพนด้าเฮ แต่เขากลับยื่นอีกอันให้แทน
“อันนี้มันของเชฟนิมนี่”
“นั่นแหละ เอาชื่อฉันไปห้อยซะ แล้วฉันจะห้อยชื่อนาย”
.
.
.
(- -)
(. .)
(-////-)
สุดท้ายมือเล็กก็รับแพนด้านบอมมา แล้วห้อยมันไว้กับโทรศัพท์ของตัวเอง…
.
.
.
.
.
.
.
.
“ทำอะไรน่ะตัวเล็ก”
“พี่ยุนนนนนนนน” คนตัวเล็กทำเสียงอ้อน กอดหมับเข้าที่เอวของพี่ชาย
“เอ้า เปื้อนพี่หมด พี่ถามว่าทำอะไร ไม่ได้ให้มากอด”
“แฮ่ ทงเฮจะทำเค้ก แต่ว่า……” ยิ้มแห้งให้กับก้อนตรงหน้าที่ไม่แน่ใจว่าเรียกเค้กได้รึเปล่า ทำไมมันแฉะๆเละๆ แถมดำปิ๊ดปี๋ขนาดนี้
“เละ” พี่ชายว่าสั้นๆ
“ฮื้อ พี่ยุนอย่าว่าสิ ทงเฮตั้งใจเต็มที่แล้วนะ ทำตามสูตรเป๊ะๆ”
“สูตรไหนล่ะนั่น พี่ว่าทงเฮต้องเปิดหน้าสูตรข้ามไปแหงๆ”
“T.T”
“โอ๋ๆ ไม่ร้อง แล้วทำไมต้องทำเองด้วยล่ะ ซื้อเอาไม่ง่ายกว่าหรอ”
“ไม่ได้ๆ ทำเองภูมิใจกว่า แล้วทงเฮก็อยากทำให้……”
“หื้ม???”
“เอ่อออ…..”
“พี่ไม่อยู่เกาหลี พลาดอะไรไปรึเปล่าเนี่ย” คนเป็นพี่ยิ้ม แอบมองแก้มใสๆของน้องชายที่เริ่มขึ้นสี
“อะไรพี่ยุนบ้า ไม่ต้องพูดเลย เบี้ยวนัดทงเฮยังไม่ได้เคลียร์ มาช่วยทงเฮคิดก่อน จะเอายังไงกับเค้กอันนี้ดี”
ยุนโฮหัวเราะร่วน มองน้อยชายตัวน้อยที่เปลี่ยนเรื่องเร็วเหลือเกิน
“ทิ้งไปเหอะ แล้วทำใหม่”
“ง่ะ” ทงเฮหน้าหงอย แต่มันก็เหมือนจะเป็นอย่างที่ยุนโฮพูด คงทำอะไรไม่ได้นอกจากทิ้งมันไปซะ แล้วทำใหม่
“อะไรที่เราไม่ถนัดก็ไม่ต้องไปฝืนมันหรอก เราไม่ถนัดก็ไม่ได้แปลว่าเราไม่เก่งนะ ทงเฮอาจจะเก่งอย่างอื่นก็ได้”
“แล้วทงเฮเก่งอะไรล่ะ” เงยหน้าถามพี่ชาย เฝ้ารอคำตอบตาแป๋ว
“ถามพี่หรอ? อืมมม ทงเฮของพี่เก่ง………….ให้ตายเหอะ ยากจริง สงสัยพี่คงไม่เก่งตอบคำถามทงเฮซะแล้ว”
“ฮื้อ พี่ยุนอ่ะ!”
“นี่ไง นึกออกแล้ว ทงเฮน้อยใจเก่ง”
= [] =
“นอกจากน้อยใจเก่งก็ยังขี้งอนด้วย ดื้ออีกต่างหาก ชอบทำอะไรนอกเหนือคำสั่ง ไม่ชอบทำอะไรเหมือนชาวบ้านเค้า กฏน่ะมีไว้แหก นั่นแหละความเก่งของทงเฮ”
“นั่นหรอ ความเก่งของทงเฮ” คนตัวเล็กฟังแล้วขมวกคิ้วเป็นโบว์ ไอ้ที่พี่ชายคนดีพูดๆมาเนี่ย ชมทงเฮใช่มั๊ย?
“อื้ม นั่นแหละ ที่ทงเฮเก่งที่สุด ลองเอามันมาทำให้เกิดประโยชน์สิ”
=0=
ยิ่งฟังยิ่งคิดหนัก ไอ้ความขี้งอน ขี้น้อยใจ แล้วไอ้ความดื้อชอบขัดคำสั่ง แถมชอบแหกกฏเนี่ย มันจะเอามาใช้ประโยชน์ได้ยังไงกัน?
“หนึ่งทุ่มยี่สิบเก้า ฟู่ว” คนตัวเล็กพึมพำ จ้องมองหน้าปัดนาฬิกาขณะอยู่ในแท็กซี่ ในมืออีกข้างประคองความภาคภูมิใจของตนเองเอาไว้ อีทงเฮก้มลงมองเค้กในอ้อมกอดอีกครั้งก่อนจะยิ้มบางๆ
หน้าร้านเค้กชื่อดัง วันนี้มีลูกค้าแน่นร้าน ทั้งลูกค้าที่มาสั่งเค้กเพื่อไปฉลองกันเองและลูกค้าที่มานั่งทานเค้กในร้านในบรรยากาศคริสต์มาส
“อ้าวทงเฮ” ร่างสูงที่กำลังพับกล่องเค้กให้ลูกค้าที่หน้าเคาท์เตอร์เอ่ยทัก
“ฮะพี่คยูฮยอน” ตากลมสอดส่องไปรอบๆร้าน
“สุขสันต์วันคริสต์มาส”
“สุขสันต์วันคริสต์มาสฮะพี่คยูฮยอน พี่เตฮวาด้วย”
“มาซื้อเค้กหรอ”
“เปล่าฮะ เอ่อ ทงเฮมา…เชฟนิม ไม่อยู่หรอฮะ”
“กลับบ้านไปแล้ว วันนี้เชฟกลับไปตั้งแต่ตอนเย็นน่ะ ทงเฮมีอะไรกับเชฟหรอ”
“คือ….” ใบหน้าหวานสลด อุตส่าห์มาหาถึงที่ กลับไม่อยู่ซะงั้น เชฟนิมนะเชฟนิม ตั้งแต่เมื่อวานก็ไม่ยอมคุยกับทงเฮอีกเลย จะฟังทงเฮสักคำก็ไม่มี ที่เห็นเขาหอมแก้มทงเฮน่ะ เขาเป็นพี่ชายแท้ๆของทงเฮนะ!
“ทงเฮ!!”
ฟอดดดดดด
“อึ๊ยย พี่ยุน!! บ้า ทำไร อายคนอื่นเค้า” ผลักพี่ชายออก แต่ตัวกลับถูกดึงเข้าไปกอดไว้อีก
“ก็คนมันคิดถึงนี่ เดินหาซะทั่ว กว่าจะเจอ”
“ก็ตัวเองมาช้าทำไม ทงเฮก็ไม่รอนะซี่ บอกว่าจะมาดูทงเฮแสดงแท้ๆ เบี้ยว เชอะ”
“นี่ๆๆ ไอ้ตัวเล็ก ก็เครื่องมันดีเลย์นี่นา มาโทษพี่ได้ไง” บิดจมูกเล็กอย่างหมั่นเขี้ยว ใจจริงอยากจะมาหาน้องชายสุดที่รักใจจะขาด แต่เพราะพายุหิมะที่พัดกระหน่ำทำให้เครื่องบินต้องดีเลย์เกือบสองชั่วโมง นี่พอลงเครื่องปุ๊บก็มาหาทงเฮปั๊บเลยนะเนี่ย
“ของฝากทงเฮล่ะ?”
“มาถึงก็คิดแต่จะเอาของฝาก ไม่คิดถึงพี่เลยรึไง”
“ฮ่าๆๆ”
สองพี่น้องหัวเราะต่อกระซิกกัน จนลืมสนใจคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง ร่างสูงยืนมองภาพตรงหน้านิ่ง ใบหน้าเรียบเฉยไม่ได้แสดงอาการอะไร แม้ใจจะรู้สึกวูบโหวงอยู่ในที ผู้ชายตัวสูงใหญ่หน้าตาดีหยอกล้อกับอีทงเฮอย่างสนิมสนม แถมยังถึงเนื้อถึงตัวกันโดยที่อีกฝ่ายก็เต็มใจด้วย นี่เขาทำบ้าอะไรอยู่ตั้งนาน อีทงเฮมีใครอยู่แล้วแต่เขาไม่เคยคิดถาม เพราะคิดโง่ๆ ว่าที่ผ่านมาร่างบางก็คงมีใจให้เหมือนกัน
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว งั้นฉันกลับก่อนล่ะ”
“เชฟนิม ดะ เดี๋ยว เชฟนิมฮะ เชฟนิม!!” ทงเฮพยายามร้องเรียกเขาไว้ แต่ร่างสูงกลับหายไปอย่างรวดเร็ว ร่างเล็กถอนหายใจ หันกลับมามองพี่ชายแท้ๆที่ยืนทำหน้าหล่ออยู่ข้างๆ
“เขามากับเราหรอตัวเล็ก”
“อื้อ แต่ไม่รู้ทำไมรีบกลับ………….เอ๊ะ!! พี่ยุน เมื่อกี้หอมแก้มทงเฮไปกี่ที”
“ส า ม”
“ตั้งสามที!! อึ้ย ชัวร์เลย!!”
“หื้ม?”
“พี่ยุนอ่ะ!!” ทงเฮทำเสียงขัดใจ ชัวร์ๆเลยว่าเชฟนิมต้องเข้าใจผิด ทงเฮไม่เคยบอกเลยว่ามีพี่ชาย เชฟนิมต้องคิดเองเออเองแน่ว่าผู้ชายปากห้อยที่จูบแก้มทงเฮหลายทีต่อหน้าเป็นอะไรกับทงเฮ
ถามทงเฮก่อนโกรธสักคำก็ไม่มีนะเชฟนิม!!
ร่างเล็กกำเศษกระดาษในมือแล้วเก็บมันลงในกระเป๋าเสื้อโค้ท มองบ้านเลขที่แล้วก็แน่ใจว่ามาไม่ผิดหลัง ภายในบ้านดูเงียบสงบเหมือนกับไม่มีใครอยู่ แต่แสงไฟที่ลอดออกมาทางหน้าต่างก็ทำให้ทงเฮมั่นใจว่าเขาจะต้องอยู่ในบ้านแน่ๆ ร่างเล็กก้าวเท้าจนถึงประตูบ้านอย่างลังเล กำลังคิดว่าจะเอายังไงดีกับเค้กในมือ จะรอเค้าเปิดประตูแล้วบอกว่าทงเฮตั้งใจเอามาให้หรือจะเผ่นกลับบ้านดี
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ติ๊งต่อง~
ประตูไม้บานใหญ่ถูกเปิดออก พร้อมๆกับร่างสูงของเข้าของบ้าน คิบอมเมียงมองไปทั้งซ้ายขวา แต่ก็พบเพียงความว่างเปล่าของค่ำคืนวันคริสต์มาส พลางคิดว่าคงจะเป็นเด็กซนๆ ที่มากดออดเล่น มือแกร่งกำลังจะปิดประตูลงเหมือนเดิม จังหวะเดียวกับที่ก้มลงไปมองที่ปลายเท้า
.
.
Merry Christmas,,เชฟนิม ♥
ทงเฮทำเค้กไม่เก่ง เอาไว้วันหลังมาฝึกทำกับเชฟนิมใหม่เนอะ^^
สุขสันต์วันคริสต์มาสครับ :’’)
(✿◠‿◠)
END :')))
ขอทอล์ค :: T__T เปลี่ยนตอนจบมาสามรอบ
ฮรื้อออออ อ ไม่มีอะไรนอกจาก แต่งต่อไม่ได้
ไม่ใช่ตัน แต่ว่าเขียนไม่ออก ,, ตัดใจลบตอนจบเดิมทั้งหมดแล้วเริ่มใหม่
ตอนจบตอนนี้ถือว่าเป็นตอนจบที่โอที่สุดแล้ว
ขอโทษทุกคนด้วยที่เราสื่ออารมณ์ไม่ถึงจริงๆ ช่วงนี้เซลล์สมองเสื่อมอย่างร้ายแรง
ได้แค่นี้แหละ T^T …..
ขอบคุณที่ยังติดตามนะครับ (-/\-) ซึ้งน้ำตาไหล
ปล. To พี่หนึ่ง ไม่รู้พี่รอเรื่องนี้จนเลิกรอหรือยัง แต่หนูแต่งจบเพราะพี่นะ ถ้าไม่มีพี่ หนูคงเลิกแต่งเรื่องนี้ ไปแรดเรื่องอื่นแล้ว
ปล. 2 ขอบคุณ AiMIIZEiสำหรับไอเดียเครปครีมสด นึกตั้งนานแน่ะ
ความคิดเห็น