โรคลมชัก
โรคลมชัก เป็นกันได้หลายคน อันนี้เป็นความรู้รอบตัว ผู้ลงบทความมีความเกี่ยวข้องด้วย เพราะเคยเป็นอยู่ แล้วเห็นว่ามีประโยชน์เลยเอามาลงให้อ่านดูค่า
ผู้เข้าชมรวม
904
ผู้เข้าชมเดือนนี้
16
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ไฟฟ้าสมองลัดวงจร'ชัก-ชัก-ชัก'ไม่ใช่ผีเข้า..คือป่วย
ระหว่างและหลังเดินทางท่องเที่ยว เล่นสาดน้ำสงกรานต์ น่าจะมีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่ ป่วย
ซึ่งลำพังป่วยไข้ธรรมดา ๆ เพราะร่างกายอ่อนล้าอิดโรย ก็คงไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นโรคที่มีอาการรุนแรง นี่น่าเป็นห่วง ทั้งนี้ หากจะว่ากันถึงโรคที่มี อาการรุนแรงน่าเป็นห่วง แล้ว กับ โรคลมชัก ก็น่าจะถือว่าอยู่ในข่าย
โรคลมชัก เป็นมาก ๆ ชักมาก ๆ ถึงตายได้ !!
ทั้งนี้ โรคลมชักเป็นโรคที่พบได้ในทุกเพศทุกวัย ซึ่งแม้จะมิใช่โรคใหม่แต่ก็ประมาทไม่ได้ โดยประเทศไทยมีอุบัติการณ์การเกิดโรคนี้ประมาณ 1% ของประชากร ปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคลมชักประมาณ 700,000 คน และแต่ละปีมีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งยังมีผู้ที่ขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคนี้อยู่ไม่น้อย
สมัยก่อนมักมีการเข้าใจอาการของโรคนี้แบบผิด ๆ เช่นคิดว่าผู้ป่วยเป็นโรคจิต หรือคิดว่าอาการเป็นเรื่องของไสยศาสตร์ ซึ่งหากการรักษาไม่มีความพร้อมก็จะทำให้ผู้ป่วยมีอายุสั้น แต่ถ้าได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ และถูกต้อง ก็สามารถหายขาดได้ มีอายุเท่ากับคนปกติทั่วไปได้
...แพทย์ระบบประสาท ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคลมชัก ศูนย์สมองและระบบประสาทโรงพยาบาลกรุงเทพ นพ.โยธิน ชินวลัญช์ ระบุ และยังให้ความรู้ความเข้าใจอีกว่า...อาการชักของผู้ป่วยโรคนี้นั้น เกิดขึ้นเนื่อง จากความผิดปกติของ กระแสไฟฟ้าภายในสมอง ซึ่งมีการนำของกระแสไฟฟ้าที่ ลัดวงจร ก่อให้เกิดอาการชักตามมา โดยถ้ากระแสไฟฟ้าที่ผิดปกติเกิดขึ้นรบกวนสมองเป็นบางส่วน จะทำให้เกิดอาการ ชักเฉพาะที่ โดยที่ยังรู้ตัวอยู่ อาการชักยังมีแบบเหม่อลอย หมดสติ ทำอะไรไม่รู้ตัว เรียกว่า ชักแบบเหม่อ
แต่ถ้ากระแสไฟฟ้าในสมองที่ผิดปกติ การนำของกระแสไฟฟ้าที่ลัดวงจรนั้น เกิดขึ้นโดยรบกวนสมองทั้งสองข้าง ผลที่ตามมาคือจะทำให้ชักแบบเกร็งกระตุกทั้งตัว หรือ ชักแบบแน่นิ่ง ซึ่งจะพบบ่อยในเด็ก
หากปล่อยให้ชักอยู่เรื่อย ๆ สภาวะที่กระแสไฟฟ้าในสมองถูกกระตุ้นมากเกินไป จะไปกระตุ้นให้เกิดการหลั่งสารทำลายเซลล์สมอง เซลล์สมองจะตาย เน็ตเวิร์กภายในเซลล์สมองจะเสีย คนไข้ที่ชักนาน ๆ พอเอกซเรย์สมองใน 2 ปีถัดมา พบว่าสมองเหี่ยวไปเยอะ สมองส่วนความจำก็เหี่ยวด้วย แล้วยังกระทบสมองส่วนอื่น ซึ่งภาวะเหล่านี้ถ้ารักษาช้าจะไม่สามารถกลับเป็นเหมือนเดิม
นพ.โยธินบอกอีกว่า โรคลมชักมีความหลากหลายทางอาการมาก อยู่ที่ภาวะผิดปกติของกระแสไฟฟ้าในสมองว่าผิดปกติในสมองส่วนใด และรุนแรงแค่ไหน บางอาการก็สังเกตยากมาก ทำให้ผู้ป่วยไม่รู้ว่าตัวเองเป็นโรคลมชักจึงไม่ได้รักษา เช่น ภาวะเหม่อลอย ภาวะวูบ ภาวะเบลอจำอะไรไม่ได้ชั่วขณะ ฯลฯ ยิ่งถ้าอาการเหล่านี้เป็นเพียงไม่กี่วินาทีแล้วหายก็ยิ่งไม่ทันสังเกต ซึ่งถ้ามีอาการเหล่านี้ซ้ำ ๆ และยิ่งมีอาการวูบ แม้จะไม่มีอาการเกร็ง ชัก กระตุก ก็ควรไปพบแพทย์ ซึ่งการตรวจคลื่นไฟฟ้าสมองจะช่วยบอกได้ว่าเป็นภาวะของโรคลมชักหรือไม่
โรคลมชัก ส่วนใหญ่มักเกิดกับคนอายุมากที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน มีไขมันสูง หรือเกิดจากอุบัติเหตุ แต่ถ้าโรคนี้เกิดกับเด็ก ก็มักจะมีสาเหตุมาจากพันธุกรรม ภาวะแทรกซ้อนตอนตั้งครรภ์ สำลักน้ำคร่ำ รวมไปถึงเด็กที่พิการทางสมองหรือออทิสติกก็พบว่าเป็นโรคนี้ราว 40% และเด็กดาวน์ซินโดรมมักเสียชีวิตจากโรคลมชัก
สัญญาณเตือนว่าป่วยเป็นโรคลมชัก ถ้าเป็นเด็กจะเรียนรู้ช้าลง มีอาการเหม่อลอย ส่วนวัยสูงอายุจะมีอาการหลง ๆ ลืม ๆ เช่นผู้ป่วยบางรายลืมว่าตัวเองกำลังจะเดินทางไปสถานที่ใด เป็นต้น
อาการของโรคลมชักที่แสดงออกมาเห็นชัดที่สุด คือท่าทางการชัก ที่มีทั้งชักแบบรุนแรง จน ทำให้เกิดอุบัติเหตุแขนหัก ขาหักได้ ในบางรายอาจแสดงอาการไม่มาก เช่น อาการกลอกตาไปมา ซ้ำ ๆ บ่อย ๆ การยิ้มโดยไม่มีสาเหตุ ชักแบบนิ่ง เหม่อลอย ซึ่งพบมากในเด็กเล็ก ส่วนผู้ใหญ่จะชักแบบวูบ เบลอ จำอะไรไม่ได้ ชักแบบเกร็งกระตุก ชักแบบนี้อันตราย บางรายถึงขั้นเสียชีวิตได้...ถ้าชักไม่หยุด ซึ่งเป็นได้ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก ส่วนผู้สูงอายุนั้นมักจะไม่แสดงอาการชัก แต่จะมึนงง เวียนศีรษะ เดินเซ ความจำถดถอย มีอาการหลงลืมบ่อย ๆ
การปฐมพยาบาลผู้ป่วยเบื้องต้นทำได้โดยให้นอนตะแคงซ้าย ห้ามเอาช้อนใส่ปาก เพราะอาจจะทำให้ฟันหักได้ ซึ่งเข้าใจผิดกันมานานว่าต้องเอาช้อนใส่ในปากคนที่ชักเพื่อไม่ให้กัดลิ้นตัวเอง เป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง รวมไปถึงห้ามเอานิ้วใส่ปากด้วย เพราะอาจทำให้นิ้วหักได้...นพ.โยธินระบุ
พร้อมทั้งบอกด้วยว่า...การรักษาผู้ป่วยโรคลมชักมีทั้งใช้ยาและผ่าตัด ถ้ารู้เร็วรักษาแต่เนิ่น ๆ ค่าใช้จ่ายจะไม่สูง เพราะใช้ยา แต่ถ้าต้องผ่าตัด ค่าใช้จ่ายจะสูงหลายแสน ระยะเวลาในการรักษาต้องกินยา 2-5 ปี
ทางที่ดีที่สุดคือ การป้องกันไม่ให้เกิด โรคลมชัก ซึ่งสำหรับคนทั่วไปที่ยังไม่ป่วยก็ทำได้ไม่ยาก โดยการใส่ใจดูแลสุขภาพ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี และระมัดระวังอุบัติเหตุทางสมอง
โรคลมชัก เป็นอีกหนึ่งโรคเก่า...ที่คนไทยยังต้องกลัว
การป้องกัน โรคนี้...ทำแล้วป้องกันโรคอื่น ๆ ได้ด้วย
นั่นคือ...ใส่ใจดูแลสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรง.
งานที่อ้างถึง
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=23&contentID=133417
©©©
กลัวภาพด้านบนสยองไป เอารูปนี้มาลงดีกว่า
©©©
ผลงานอื่นๆ ของ eternity ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ eternity
ความคิดเห็น