ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ระบบการเรียนการสอนที่นี่เป็นยังไง?
แค้นใจค่ะ... พิมพ์ไปซะยาวแต่พอจะอัพมันบอกให้ล้อคอินใหม่... คือพิมพ์มาเป็นชม.ค่ะ...
อันนี้อาจจะอธิบายไม่ดีเท่าอันแรกแต่เราจะพยายามนะคะ โอ้ยเหนื่อยค่ะ
เข้าเรื่อง... ระบบการเรียนที่นิวซีแลนด์ ที่นี่จะเรียนถึง year13 ซึ่งเทียบได้กับปี1ประเทศไทยนะคะ
ซึ่งตามกระทรวงแล้วจบyear12ก็เทียบม.หกมาเข้ามหาลัยได้ค่อแต่ก็มีระบุไว้ว่าผ่านyear12
หรือเก็บเครดิตวิชาบังคับให้ครบเท่าไหร่ๆค่ะ
ซึ่งสามปีสุดท้ายหรือyear11-13เป็นตัวชี้ตายการเข้ามหาลัยค่ะ ระดับนี้มีอีกชื่อว่า ncea level 1 – 3 ตามลำดับ
ที่นี่จะมีเรียน6วิชา วันละ5วิชาเรียนถึงบ่ายสาม มีสามวิชาบังคับ วิทย์ คณิต อังกฤษ ค่ะ
แล้วไอ้เครดิตที่ว่านี่คืออะไร?
ที่นี่จะมีเรียนสี่เทอม หยุดสองอาทิตย์ในระหว่างเทอมและหยุดยาวเกือนสองเดือนช่วงหน้าร้อนหรือเดือนธันวาค่ะ
ในช่วงปีก็จะมีสอบเก็บเครดิตหรือสอบเก็บคะแนนตลอดทั้งปี
แต่ละข้อสอบก็จะมีเครดิตไม่เท่ากันและต้องสะสมให้ครบ 80เครดิตถึงจะผ่านปีนั้นๆค่ะ
การสอบเก็บคะแนนนี่เรียกว่า internal assessment นะคะ
ในแต่ละวิชาก็จะมีการสอบแตกต่างกันไปจำนวนเครดิตที่ได้แต่ละครั้งก็จะแตกต่างกันไป
และการสอบนี้ก็ไม่ได้มีแค่กาๆเขียนๆเหมือนประเทศไทยนะคะนะคะ
ถ้าเราเลือกเรียนทำอาหารก็อาจจะมีสอบทำอาหารอะไรแบบนี้ค่ะ
ขอยกตัวอย่างภาษาอังกฤษนะคะ ภาษาอังกฤษก็อาจจะมีให้ทำ research, essayหรือ speech
ซึ่งแต่ละตัวก็จะได้เครดิตไม่เท่ากัน สมมุติว่า researchมีค่า4เครดิต ถ้าเราทำเสร็จเราก็จะได้4เครดิตไปสะสม
และแต่ละครั้งที่ได้ก็จะมีแยกออกมาตามคุณภาพค่ะ
Not attending – อันนี้คือเหมือนเราไม่มีสอบตัวนี้คือแบบเรามีเหตุสุจวิสัยมาสอบไม่ได้
ครูเลยไม่อยากปรับเราตกแต่ให้เป็นตัวนี้แทนเราจะได้ไม่มีประวัติตกในโปรไฟล์ค่ะ
Not achieved – อันนี้ตกค่ะและไปอยู่ในโปรไฟล์ไม่ดีนะคะไม่ดี
Achieved, merit,excellence อันนี้ผ่านหมดค่ะแค่คนละมาตรฐาน
excellence ดีสุดและลองลงมาเรื่อยๆ
แล้วผลพวกนี้มีค่าอะไรในเมื่อก็ได้เครดิตเท่ากัน?
สมมุติว่าเราได้ merit ในการทำresearch มันก็จะไปอยู่ในประวัติว่าเราได้ merit 4 เครดิตจากการทำresearch
แล้วถ้าเราสะสมไปเรื่อยจนมี 50 merit เครดิตเราก็จะได้ merit indoor
หรือเกรดรวมเป็นmerit ซึ่งแน่นอนดีกว่าได้เกรดรวมเป็น achieved ซึ่งแสดงว่าเราเรียนเก่งกว่า
แต่เราก็ไม่ค่อเชี่ยวชาญด้านการนับเครดิตเพราะบางทีก็ได้กระจายๆกันไม่ไม่ครบ50อ่ะนะ
จบจากinternal assessmentแล้วต่อไปก็ external assessment หรือ ncea examination
ซึ่งการสอบนี้จะมีเฉพาะในyear11-13 จะเริ่มสอบช่งเทอมสี่หรือเทอมสุดท้าย
และสอบพร้อมกันทั้งประเทศค่ะ external assessment ก็คล้ายๆ internal แต่สำคัญกว่า
มีเครดิตและการนับเกรดเหมือนกันแต่ข้อแตกต่างก็มีค่ะ
ข้อสอบนี้จะเหมืนกันทั้งประเทศและสอบพร้อมกันท้งประเทศ
ข้อสอบทั้งหมดก็จะถูกส่งไปตรวจใน wellington หรือเมืองหลวงของที่นี่นะคะ
การสอบนี้เป็นตัวชี้เป็นชี้ตายในการเข้ามหาลัยที่นี่ค่ะ
ผลของการสอบนี้ใช้เข้ามหลัยที่นี่ เพราะมหาลัยที่นี่ไม่มีการสอบเข้าแต่ดูจากผลที่ได้จากการสอบ externalค่ะ
เพราะงั้นยิ่งได้เกรดดีก็ยิ่งดีค่ะ
ความสำคัญของการสอบexternal ยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น
การสอบนี้ การสอบexternal ใน year11 สำคัญมากมายค่ะ
ในyear11 จะเป็นการเรียนพื้นฐานเพื่อต่อยอดในปีถัดไปซึ่งจะลึกขึ้นค่ะ
เช่นวิทยาศาสตร์ ก็จะเรียนทั้งหมดสามเรื่องคือ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ซึ่งในการสอบ external assessment
ก็จะมีสามพาร์ทคือ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ แล้วถ้าเราตกพาร์ทชีวะ
เราก็จะไม่สามารถเลือกเรียนชีวะในปีหน้าได้ ซึ่งในคณะในมหาลัยที่เราจะเลือกอาจจะระบุไว้ว่าถ้าเราอยากเข้าต้องเรียนชีวะ
แต่เราไม่สามารถเลือกเรียนชีวะได้เนื่องจากเราตก
เพราะฉะนั้นมันสำคัญมากที่จะผ่านค่ะ แต่บางคนคิดว่าจะไม่เลือกชีวะอยู่แล้วเขาก็ไม่ทำชีวะก็ได้
เพราะยังไงก็ไม่เลือก เพราะฉะนั้นแล้วแต่บุคคลค่ะ
การเลือกวิชาที่นี่ก้สำคัญนะคะไม่ใช่จะเลือกอะไรก็ได้
ในบางวิชาก็จะแบ่งออกเป็นสามclass เช่น อังกฏษค่ะ ก็จะแบ่งออกเป็นสามclassคือ
Internal class หรือ English foundation – สำหรับพวกที่ไม่อยากสอบ external ค่ะ
คือถ้าเลือกอันนี้ก็แค่เหมือนเรียนเพื่อเก็บเครดิตไม่ได้หวังจะเข้ามหาลัย
เพราะในมหาลัยส่วนใหญ่ทุกคณะที่นี่ระบุว่าต้องสอบexternalภาษาอังกฤษ
แต่ถ้าเลือกอันนี้แล้วก็จะไม่มีโอกาสสอบexternalและไม่สามารถเปลี่ยนใจไปเลือกเป็น general class ในปีต่อไปได้ค่ะ
General English และ advance English – สองอันนี้ก็เหมือนกันแค่ใน advance
อาจจะมี internal assessment เยอะกว่า ผ่านยากกว่า
แกรมม่าต้องเป๊ะกว่า ประวัติดีกว่าประมาณว่าเป็นเด็กฉลาดอะไรแบบนี้ค่ะ
แต่การเก็บเครดิตเยอะๆก็ไม่ได้จำเป็นมากเพราะเราต้องการแค่ 80creditsเพื่อผ่านปีนั้นๆค่ะ
เราจึงสามารถเลือกได้ว่าเราอยากทำ internal assessmentตัวไหนบ้าง
ในกรณีที่มั่นว่าถึงไม่ทำตัวนี้ก็ได้ผ่านครบ 80เครดิตอยู่แล้ว
แต่ไอ้ตัวที่เราเลือกไม่ทำก็จะกลายเป็นว่าเราตกนะคะ มันก็จะไปอยู่ในโปรไฟลเรา
เพราะฉะนั้นเราแนะนำให้ผ่านๆมันไปให้หมดนั่นแหละ
คร่าวๆก็ประมาณนี้แหละเนอะ โดยส่วนตัวเราชอบหลักการสอนที่นี่เพราะมันเปิดกว้าง
และเน้นความรับผิดชอบของเด็กเองค่ะ
คือเค้าอยากให้เด็กแพลนชีวิตและตัดสินใจว่าตัวเองอยากเป็นอะไร
แล้วเริ่มวางแผนการเรียนให้ตรงกับสิ่งที่อยากเป็น เป็นสิธของนักเรียนที่จะเลือกสอบตัวไหนหรือตกตัวไหน
ใครอยากทำการบ้านก็ทำไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ
เพราะการบ้านไม่มีเครดิต แต่คนทำก็เหมือนเป็นการฝึกฝนตัวเองและทำให้ครูเห็นว่าเราขยัน
เผื่อเราตก internal ตัวไหนเราอาจจะมีโอกาสสอบใหม่เพราะครูเห็นสมควร
แต่ใครคิดว่าไม่ต้องทำตัวดีมาก มั่นว่าผ่านแน่นอนก็มีค่ะ
ทั้งหมดก็มีประมาณนี้
มันเป็นการพิมพ์รอบสองเราเลยไม่แน่ในเท่าไหร่ว่าตกหล่นตรงไหน
เพราะอันแรกมันหายไป เศร้ามากค่ะ ใครมีข้อสงสัย หรือเราพิมพ์มึนตรงไหนก็เม้นถามไว้หรือเมลมาก็ได้นะคะ
r_rosa500@hotmail.com หรือใครอยากได้ไลน์ก็ส่งเมลมาขอกันได้เน้ออออ
เพราะต่างจังหวัดจะมีคนเอเชียอยู่น้อยทำให้เราได้เป็นเพื่อนและสัมผัสกับ
คนฝรั่งจริงๆ เราเลยคิดว่าถ้าจะเรียนก็ต่างจังหวัดเถอะค่ะ นอกจากจะอากาศดีแล้ว
ไม่มีที่ให้ละลายทรัพย์ ยังได้เป็นเพื่อนและเรียนรู้วัฒนธรรมของคนที่นี่จริงๆ
อ่านไปคงคิดใช่มั้ยคะว่า อยู่เมืองก็ได้นิแล้วก็ไปเป็นเพื่อนกับคนฝรั่งเอา...
จากประสบการณ์เลยนะคะ เราเคยได้ทุนไปเรียนที่อังกฤษ2อาทิตย์
โรงเรียนนั้นเป็นโรงเรียนเอกชนที่มีคนเอเชียอยู่เยอะพอสมควรแต่ก็น้อย
กว่าคนฝรั่ง คนไทยก็มีค่ะ แต่ส่วนใหญ่พวกเอเชียก็จะจับกลุ่มกับคนเอเชีย
ส่วนฝรั่งก็อยู่กับฝรั่ง ไม่ค่อยยุ่งกันหรอกค่ะ เพราะเหมือนมันมีแรงดึงดูดไปหา
คนที่สัญชาติเดียวกัน ถ้าเรามาใหม่แล้วเราไปเรียนที่คนเอเชียเยอะๆ
ำอ้พวกเอเชียก็จะมาทำความรู้จักเราก่อนเพราะเห็นว่าเราหัวสีเดียวกับมัน
แล้วก็กลายเป็นว่าเราก็อยู่กลุ่มเดียวกับมันนั่นแหละค่ะ
ภาษาเราก็จะไม่พัฒนาเท่าที่ควรเพราะไอ้เพื่อนเอเชียเราก็มาเรียนภาษา
มันก็พูดถูกๆผิดๆ ชาตินี้ไม่ได้ดีแน่....
เพราะญาติเราที่ถือสัญชาติเมกาแล้วไปเรียนที่เมกาช่วงไฮสกูล
เขาก็จับกลุ่มกับพวกเอเชียค่ะ แต่ยอมรับได้เพราะเมกาเอเชียเยอะอยู่แล้ว
ที่เกิดที่นั่น เลยไม่มีปัญหาเรื่องภาษา
แต่ว่าค่าเรียนคือปัญหาค่ะ! ค่าเรียนนี่ือเกือบล้านไม่รวมค่าจิปาถะ
ครอบครัวเราก็ไม่ด้รวยขนาดจะรับไหว...
แต่ส่วนตัวเราไม่อยากไปเรียนอเมริกาอยู่แล้วเพราะเราเคยไป
อยู่ที่อเมกา1อาทิตย์ เรารู้สึกว่ามันก็ไฮโซดีแต่เราไม่ชอบอ่ะ
มันดูประดิษฐ์เกินไปและมันก็ใหญ่ไปทำให้เรารู้สึกไม่ปลอดภัย55555
ถ้าเราเลือกได้เราก็คงไปอังกฤษ แต่ประเด็นคือตังค์ไม่พอ... 55555555555
อ่านมาพักนึงหลายคนคงอยากรู้ว่าเรียนนิวซีแลนด์นี่ราคาเท่าไหร่ใช่มั้ยคะ
เอาโดยประมาณก็แล้วกันนะคะ
ค่าเล่าเรียนต่อปีถ้าเป็นรร.รัฐอย่างต่ำก็ 10,000 ดอลขึ้นค่ะ
ไม่ต่ำกว่านี้แน่นอน ส่วนค่าที่อบู่ตีโดยประมาณ
ไม่แน่นอนนะคะ แค่หอส่วนใหญ่ก็อาทิตย์ละ สองร้อยกว่าดอล
ช่วงปิดเทอมก็ต้องไปอยู่กับโฮ้สต์อยู่ดีค่ะถ้าอยู่หอ เพราะรร.ปิดไม่มีคนอยู่หอ
เด็กคนอื่นก็กลับบ้านหาครอบครัว
ส่วนโฮ้สต์แฟมก็ราคาใกล้ๆกันค่ะ เพราะฉนั้นโดยรวม1ปีไม่เกินล้านค่ะ
มีตังค์ไปเที่ยว5555555555555555
ถ้ามีคำถามอะไรเกี่ยวกับเรียนที่นิวซีแลนด์หรือสนใจก็ถามได้นะคะไม่กัด
ตอนต่อไปเราคงมาพูดเกี่ยวกับหลักการเรียนว่าระบบที่นี่เป็นยังไง
ดียังไงแล้วจะกลับไปต่อไทยนี่ยังไงดี..ติดตามนะคะอิอิ 555555
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น