ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic มาร์ช - ตั้ว:YAOI]Trolling แกล้งผมปะเนี่ย?

    ลำดับตอนที่ #10 : Suffocate

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 294
      0
      25 มี.ค. 57

    No I can't breathe

    Why can't you see

    That you're suffocating me

    Suffocating me
     

    Suffocate by Tata Young

     

    Tor’s part

     

    “แล้วนิค...อยากลองชิมบลูเบอร์รี่ไหมล่ะ เดี๋ยวป้อนให้”ผมคือผู้ที่ไม่เคยเขินใครเอ่ยถามขึ้นอย่างเสี่ยว

     

    “...”นิคเงียบ

     

    “ไม่ดีกว่าครับ”อ่าว เล่นตัวด้วย

     

    “ผมกลับห้องก่อนนะครับ สวัสดีครับ”นึกกล่าวลาง่ายๆแล้วเดินออกไปจากห้องผม

     

    ผมซึ่งนั่งอยู่บนเตียงทิ้งตัวลงนอนมองเพดานขาวเบื้องบน รู้สึกว่า เฟลนิดหน่อย หรือว่า นิคยังไม่รีบนะ

     

    เฮ้อ.........

     

    ผมถอนหายใจดังๆ จะนอนอยู่คนเดียวก็น่าเบื่อ ไปเยี่ยมชนห้องอดีตคนรักหน่อยละกัน

     

    ผมเด้งตัวขึ้นออกจากเตียงแล้วรีบไปเคาะห้องไอมาร์ชอย่างไว เพราะไม่มีอะไรทำครับ เลยจะไปนั่งเล่นห้องไอมาร์ชหน่อย เพราะอย่างน้อยก็คงมีอะไรกิน

     

    ประตูห้องถูกเปิดออกช้าๆแล้วมีร่างบางตัวขาวออกมา มันทำหน้าเหมือนกันพูดว่า มึงมาทำไม

     

    “มึงมาทำไม” - -

     

    “ก็กูไม่มีไรทำเลยจะมานั่งเล่นห้องมึงเฉยๆ”ผมเกาะแขนมันแล้วทำท่าอ้อนขอเขาไปในห้อง ไม้ตายนี้ไม่เคยมีใครต้านทานความน่ารักของผมได้หรอกครับ ไหนจะเหล็กดัดฟันเอย ยิ้มหวานเอย แก้มเอย ลูกอ้อนแบบนี้ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ

     

    จะมีก็ไอมาร์ชเนี่ยแหละ

     

    “เอ้า เข้ามาสิ”มันพูดแล้วอ้าประตูให้กว้างขึ้นเพื่อที่จะให้ผมเดินเข้าไป

     

    “มีไรกินมั้ยเนี่ย”ผมถาม

     

    “มีบลูเบอร์รี่ในปากมึงอ่ะ แดกสิ”

     

    “อ๊ะๆ แอบฟังกูกะนิครึไง”เมื่อผมแซวก็ทำเอามันหันหน้ากลับมาพร้อมหน้าตาบู้บี้ของมัน

     

    “มึงเคยใช้มุกบลูเบอร์รี่หลอกขโมยจูบกูแล้วตอน ม.5 ไอสมองปลาทอง”เหรอวะ

     

    “กูไม่เห็นจะ...อ่อ จำได้ละ แล้วอร่อยมั้ยละบลูเบอร์รี่น่ะ อุ๊บ!”สิ้นสุดคำพูดก็มีหมอนพุ่งเข้ามาใส่หน้าผมเต็มๆ

     

    “อร่อยตายล่ะ”

     

    “กูมีไรจะเล่าด้วยล่ะ”ผมพูด

     

    March’s part

     

    “อะไรอีกล่ะ”ผมถามเพราะมันมีอะไรก็ไม่รู้จะมาเล่า หวังว่าจะไม่ใช่เรื่องงี่เง่านะ

     

    “เมื่อกี้น่ะ นิคมาช่วยกูจัดห้องล่ะ”

     

    . . .

     

    “แล้วกูก็กำลังจะได้จูบนิด แต่แม่งเฟล”

     

    . . .

     

    ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าตัวเองเป็นอะไรที่แสดงสีหน้าไม่พอใจออกมาเล็กๆ ผมรู้สึกเหมือนโกรธหรืออิจฉานิคนิดหน่อย แต่โดยรวมแล้ว ประเด็นอยู่ที่ว่า ‘ทำไม คนที่ช่วยไอต่อจัดห้องถึงไม่ใช่ผม ทำไมคนที่มันอยากจูบถึงไม่เป็นผม’

     

    “มึงเป็นไรวะ เงียบทำไม”มันเขย่าตัวผมแรงๆ

     

    “หึงกูอ่ะดิ 555+”มันพูดแล้วหัวเราะ

     

    “สมมติกูหึงจริงๆล่ะ”คำพูดของผมทำให้เสียงหัวเราะหยุดลง รอยยิ้มน่ารักบนใบหน้าของมันหายไปทันทีหลังจากประโยนั้นออกมาจากปากของผม

     

    “มันจะเป็นไปได้ยังไง”มันทำหน้าจิงจังมาก

     

    “กูล้อเล่น”พูดเสร็จผมก็ฝืนยิ้มออกมา

     

    นี่ผม หึงมันจริงๆเหรอ ผมพยายามเตือนตัวเองว่าให้อย่าไปสนไอต่ออีก

     

    “ถ้ามึงชอบกูก็รีบๆนะ กูกะนิคยังไม่ได้อะไรมาก เผื่อมึงจะเปลี่ยนใจ”มันพูดแล้วก็หัวเราะครั้งใหญ่

     

    เพลย์บอยอย่างมึง กูก็คงหลงไปแล้วแหละ

     

    แล้วตั้วล่ะ ผมกับตั้วเพิ่งจะเข้าใจกันได้วันนี้เองนะ จะต้องให้ตั้วเสียใจอีกแล้วเหรอ แล้วไอต่อล่ะ ตอนนี้ผมโคตรเข้าใจความรู้สึกของภูในนิยายที่ตั้วอ่าน ว่าการที่เราเล่นกับความสับสนมันเป็นทำให้รู้สึกยังไง

     

    “กูไม่กลับไปชอบมึงหรอก”

     

    “ให้มันจริงเหอะ”มันพูดแล้วยื่นหน้าเข้ามาที่คอขาวๆของผม ผมใช้มือผลักหน้าอกมันเอาไว้ก่อนที่มันจะมาถึง

     

    “มึงมันไม่เคยเปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย”ผมบอกมัน

     

    “เออ กูก็หวังว่ามึงจะไม่เปลี่ยนไปเหมือนกัน”ไอต่อพูดไว้ก่อนจะลุกแล้วเดินไปที่ประตู

     

    มันเปิดประตูออกแล้วเดินออกไปนอกห้อง มันหันกลับมาแล้วยิ้มหว่านเสน่ห์ให้ผมก่อนที่มันจะปิดประตูลง

     

    “มึงมันน่ารัก ความน่ารักของมึงไม่เคยเปลี่ยนไปเลย”ผมพูดถึงไอต่อคนเดียว

     

    ผมรีบไปห้องน้ำเมื่อรู้สึกตัว มองกระจกที่อ่างล้างหน้า พิจารณาตนเองอย่างละเอียดซึ่งผมไม่ได้ทำแบบนี้มานานแล้ว

     

    “กูก็ ไม่ได้เปลี่ยนไปจากตอนนั้นมากนะ ยังหล่อ น่ารักตี๋ๆเหมือนเดิม”ผมชมตัวเอง

     

    ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมึงถึงกลับมาชอบกู ถ้ากูไม่ใช่คนในกระจก กูก็คงหลงรักคนในกระจกคนนั้นเหมือนกัน

     

    ต่อ...

     

    ตั้ว!!!!

     

    ผมเดินออกมาจากห้องของผม เป้าหมายคือห้องข้างๆ ผมยืนก้มหน้ารวบรวนความกล้าล้ายกมือขึ้นเคาะประตูห้องตั้ว

     

    “อ่าว ครูมาร์ช เข้ามาก่อนสิครับ”ผมไม่ได้พูดอะไร” เพียงแค่เดินเข้าไปในห้องตั้วเหมือนทุกครั้ง ห้องยังเป็นเหมือนเดิม ดีเรียบร้อยและอเนกประสงค์ไม่เคยเปลี่ยน

     

    ผมนั่งลงบนโซฟาหน้าโทรทัศน์โดยมีตั้วตามมานั่งข้างๆ โทรทัศน์ของตั้วปรากฏถาพของการ์ตูนจากช่องการ์ตูนชื่อดังอยู่ ตั้วไม่ได้พูดอะไรเลย เขาเอาแต่นั่งดูการ์ตูนนั้นอย่างตั้งใจ ส่วนผมก็ได้แค่นั่งมองตั้วอย่างเอ็นดู

     

    ^^ เด็กน้อย ^^

     

    ---/ เจ้าหมาโง่ /---เสียงการ์ตูนดังขึ้น เป็นเสียงของคุณตาท่าทางใจร้ายกำลังด่าหมาตัวสีชมพูม่วงๆอยู่ ตาคนนั้นหันหลังไปหยิบหน้ากากอันใหญ่มาใส่แล้วทำเสียง ---/ แบร่ /--- ใส่หมาตัวนั้น

     

    ---/ อ๊ากกกกก /--- เสียงหมาตัวนั้นร้องกรี๊ดอย่างตกใจพร้อมกับปากที่อ้ากว้างมากๆแล้วตัวที่ดูเหมือนจะพองขึ้นทำให้การ์ตูนนี้ดูตลกจริงๆ ตามมาด้วยเสียงของเด็ก ม.ปลาย หัวเราะที่ดังขึ้นข้างๆผม

     

    “ตลกดีนะครับ”ตั้วหันหน้ามาพูดกับผม เพราะหัวเราะอยู่ทำให้ตั้วนั้นยิ้มได้กว้างจริงๆ ยิ้มของตั้วเป็นยิ้มที่น่ารัก

     

    ...แต่ไม่เท่ายิ้มของไอต่อ...

     

    นี่ผมเป็นคนที่โลภรึเปล่านะ

     

    “เออ ว่าแต่มาห้องผมมีอะไรจะบอกรึเปล่าครับ”ตั้วถามขึ้นเมื่อการ์ตูนนั้นจบลง

     

    “คือว่า...”

     

    “...”

     

    “คือครูไม่มีอะไรทำน่ะเลยมานั่งเล่น”นี่ผมเอามาจากไอต่อเมื่อตะกี้เลยนะเนี่ย

     

    “ครูไปก่อนนะ แล้วเจอกัน”ผมกล่าวลาแล้วลุกขึ้น

     

    “ฝันดีครับ”ตั้วทิ้งคำบอก

    ลาไว้ก่อนที่ผมจะปิดประตูห้องลง

     

    ผมเดินเข้ามาในห้องนอนมืดๆของผม ผมทิ้งตัวลงไปบนเตียงแล้วนอนคว่ำลงไปให้หน้าจูบหมอนเลยครับ ผมปล่อยโฮออกมา เสียงร้องไห้ของผมเหมือนเป็นเสียงประมือให้ความสับสนของผมที่ทำให้ผมร้องไห้ได้สำเร็จ

     

    ผมไม่รู้ว่าผมจะต้องทำยังไง ผมกลัวว่าจะต้องเป็นเหมือนคนชื่อ ภู ผมไม่อยากให้ใครเจ็บปวดเพราะผม แต่ผมไม่มีทางออกเลย ผมเองต้องเลือกและตัดใจจากใครสักคน ผมตัดสินใจร้องไห้ใส่หมอนของผม

     

    ...

     

    ผมสัมผัสได้ถึงลมอุ่นๆที่ปะทะเข้าที่คอของผม สัมผัสนั้นเล่นเอาผมลุกขึ้นพลิกตัวดูหน้าเจ้าของสัมผัสนั้นทันที

     

    ไอต่อ...

     

    “มึงร้องไห้ทำไมวะ”ไอต่อถามผม

     

    มันเอื้อมมือขวามของมันมาแตะที่แก้มของผมแล้วใช้นิ้วโป้งปาดน้ำตาให้ผมอย่างนุ่มนวล

     

    “เปล่า กู...กูโอเค แล้วมึงมาใรห้องกูได้ไง”ผมพูดแล้วหยิบมือนั้นออกจากใบหน้าเบาๆ

     

    “ใช่สิ มึงไม่โอเค มีไรก็บอกกูสิ”

     

    “. . .”

     

    “เอาน่า เผื่อกูจะช่วยอะไรได้บ้าง”มันเซ้าซี้ คงเพราะเป็นห่วงผมล่ะมั้ง

     

    “ต่อ มึงเคยแบบว่า สับสนป่ะวะ เวลาที่เราต้องเลือกอะไรสักอย่าง”ผมถาม

     

    “มันก็จริงนะที่กูมีคนให้เลือกเยอะ แต่กูก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองสับสนนะ”มันหันมามองหน้าผมแล้วพูด

     

    “ทำไมมึงถึงเป็นอย่างนั้นวะ”ผมเริ่มเสียงดังขึ้นและใช้มือสองข้างเสยผมแบบเครียดสุดๆ

     

    ไอต่อไม่ได้ตอบอะไร มันเอื้อมมือมาทาบบนหน้าอกผมตำแห่งที่เป็นหัวใจอยู่สักพัก สัมผัสอุ่นของมันทำให้ผมนึกย้อนวันเวลาไปในวันที่เราสองคนยังคบกัน ผมลืมตาขึ้นและยิ้มกับตัวเองเมื่อรู้ว่าไอต่อออกไปจากห้องผมแล้ว คงออกไปตอนที่ผมกำลังเพ้อ

     

    ครืด....ครืด....

     

    เสียงโทรศัพท์ที่ผมวางไว้บนชั้นข้างๆเตียงดังขึ้น ผมหยิบขึ้นมาดูแล้วกดรับโทรศัพท์อย่างไว

     

    “สวัสดีครับเฮีย”พี่ชายผมเองครับ

     

    ---เออหวัดดี---

     

    “เฮียโทรมามีอะไรรึเปล่าครับ”

     

    ---ก็เปล่า โทรมาเฉยๆ ไม่ได้เจอหน้ากันนาน เผื่อมีเรื่องอะไรอยากเล่า---

     

    “เอ่อ เฮีย”

     

    ---ว่า---

     

    “คือ ผมไปฝึกสอนที่โรงเรียนที่นึงอ่ะ”

     

    ---แล้วไง---

     

    “ก็ ผมเจอเด็ก ม.5 คนนึง เขาอยู่คอนโดเดียวกับผม เขาน่ารักมากเลยครับเฮีย ผมคิดว่า ผมชอบเขาอ่ะครับ”

     

    ---งั้นมึงก้หาแฟนได้แล้วอ่ะดิ เด็กซะด้วยนำอเสือ---

     

    “แต่เฮีย เฮียจำไอต่อได้ป่ะ มันสอนอยู่ที่เดียวกะผมเหมือนกัน”

     

    ---ไอต่อ แฟนเก่ามึงอะเหรอ---

     

    “ครับ”

     

    ---จำได้ดิ ทำไมอ่ะ---

     

    “คือ ตั้งแต่ผมเจอไอต่อครั้งนี้ ผมก็คิดว่า ผมชอบมันเหมือนกัน ผมไม่รู้จะทำยังไงครับ”

     

    ---อื้อหือ น่าสงสารเนอะ---

     

    “ผมควรทำไงดี”

     

    ---มาร์ช ในที่สุดนะ ระหว่างสองคนนั้นน่ะ ในที่สุด มึงก็ต้องเลือกใครสักคน หรือเสียเขาไปทั้งคู่ สิ่งที่มึงควรทำน่ะ ไม่ใช่ปรึกษากูหรือคนอื่น แต่มึงต้องปรึกษาใจตัวเอง สองคนนั้นน่ะ เขาไม่เหมือนกันทุกอย่างหรอก ต้องมีบางสิ่งที่ทำให้มึงรักเขา---

     

    “ครับ”ผมตอบนอยๆ เพราะผมไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่

     

    ---เลือกให้ดีนะมึง แต่มมึงต้องมั่นใจนะ เพราะไม่งั้นมึงคงต้องมานั่งร้องไห้ทีหลังแน่---

     

    ---แต่เฮียว่า ถึงยังไง แฟนเก่าก็ได้เปรียบนะ เพราะมีพื้นฐานความสัมพันธ์ด้วยกันมาก่อน เฮียไปละนะ---

     

    “ลาก่อนครับ”สิ้นเสียงล่ำลา โทรศัพท์จากอีกฝ่ายก็ถูกตัดลง

     

    คำอธิบายของเฮียทำให้ผมรู้สึกแย่กว่าเดิม เพราะผมคงต้องเลือก เลือกจริงๆ

     

    แต่ถึงพูดอย่างงั้นก็เถอะ ผมก็คงต้องคิดบ้างแหละ

     

    ถึงยังไง แฟนเก่าก็ได้เปรียบ

     

    ประโยคนั้นมันก็ทำให้ผมรู้สึกงุงงงเหมือนกันนะ

     

    วันนี้ผมขอหยุดเรื่องเครียดๆแบบนี้ไว้ก่อนละกัน ผมควรจะไปนอนได้แล้ว

     

    ZZzzZZzzZZzzZZ

     

    Tou’s part

     

    ...

     

    ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้งนึงแล้วบนเตียงนอนของผม วันนี้เป็นวันที่ผมรู้สึกดีกับการตื่นเพื่อกล่าวสวัสดีวันใหม่ที่เริ่มขึ้น

     

    เพียงแค่ผมตื่นลืมตาบนเตียง ผมก็ยิ้มออกมาได้แล้ว ^^

     

    ทำไมน่ะเหรอ

     

    ก็เมื่อวานครูมาร์ชเขามากล่าวเชิงขอโทษให้ผมครับ เรื่องเข้าใจผิดระหว่างเขากับครูต่อที่ทำให้ผมขุ่นเคืองอยู่นาน ตอนนี้ผมพอจะมีหวังแล้วล่ะครับ

     

    เมื่อผมจัดการตัวเองเสร็จในเวลาอันรวดเร็ว ผมก็ไปเคาะห้องครูมาร์ชเลยล่ะครับ

     

    “อ่าว เอ่อ ตั้ว หวัดดีตอนเช้านะ เอิ่ม เข้ามาก่อนสิ”ครูมาร์ชพูดติดๆขัดๆนิดหน่อย

     

    “สวัสดีตอนเข้าครับ”ต่างจากผมที่พูดได้อย่างปกติ และยิ้มได้อย่างเป็นธรรมชาติ

     

    !!!

     

    มือมือหนึ่งวางลงบนไหล่ผม พอหันไปตามไหล่ข้างนั้น ก็พบกับใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ห่างจากผมไม่มาก

     

    “หวัดดีเว้ย มาหาไรกินว่ะมาร์ช”ครูต่อกล่าวสวัสดีครูมาร์ชโดยใช้มือข้างขวาโบกให้ครูมาร์ช ส่วนอีกมือหนึ่งก็ยังวางอยู่บ่นไหล่ผม

     

    “หวัดดีตั้ว”เขาหันมาทักทายผมอย่างเป็นกันเองและยิ้มให้ผม เว้นแต่ว่าผมไม่ได้ละลายเพราะยิ้มนั้นหรอกนะ

     

    “สัวสดีครับ”ผมกล่าวอย่างมีมารยาท

     

    “มึงก็มาหาไรกินห้องกูตลอดนะไอต่อ”ทำไมครูมาร์ชพูดกับครูต่อได้ธรรมดา แต่พอพูดกับผมกลับพูดติดๆ สมองที่ประมวลผมออกมาอย่างไวบอกผมว่ามี 2 กรณี คือ ครูมาร์ชเขินผมซึ่งผมสนับสนุนข้อนี้เต็มที่ กับอีกข้อนึงคือ ครูมาร์ชพยายามหลบหน้าผม และไม่กล้าหรือไม่อย่างพูดกับผมซึ่งมันคงเป็นฝันร้ายถ้ามันเป็นข้อ 2

     

    “ทำเป็นบ่น ตั้วก็มากิน เนอะ”ครูต่อเถียงแล้วหันมามองหน้าผม

     

    “งั้นก็ เข้ามาสองคนเลยสิ”ครูต่อพูดเก้ๆกังๆ

     

    “ดะดะเดี๋ยวก่อนนะครับ รอคนสำคัญก่อน”ครูมาร์ชทำหน้าเหวอเมื่อต่อพูดว่า รอคนสำคัญ

     

    “มาแล้วคร้าบบบ”

     

    เสียงนิคดังมาจากข้างหลัง พวกเราต่างหันไปตามต้นเสียงอย่างให้ความสนใจ แต่คนที่ละใบหน้าออกมาคือครูมาร์ชที่ทำหน้าแบบไม่พอใจนิดหน่อยเท่าที่แอบสังเกตได้

     

    “มาละคนสำคัญ”ครูต่อหันหน้าไปบอกครูมาร์ชซึ่งเดิมทีหันหน้าหนีอยู่แล้ว แล้วค่อยหันไปหานิคที่กำลังเดินมาต่อ

     

    ...ทำไมครูมาร์ชถึงทำอย่างนั้นนะ...

     

    ...ท่าทางของเขาเหมือนคนที่กำลังหึงเลย...

     

    ...หึงครูต่อ...

     

    “งั้นเข้ามาหาอะไรกินกันหมดเนี่ยแหละ จะได้รีบๆไปโรงเรียน”ครูมาร์ชพูดก่อนจะดุ่มๆเข้าไปในครัวของเขาโดยมีผมตามเข้าไปด้วย

     

    คาดว่าเขาจะได้ยินเสียงฝีเท้าผมที่ดังตามมา ครูมาร์ชจึงหันมาหาผมแล้วยิ้มให้ทีนึง ก่อนจะเปิดตู้เย็นแล้วก้มดูว่ามีอะไรในตู้เย็นบ้าง

     

    “มีไรให้ผมช่วยก็บอกได้นะครับ”ผมเดินไปที่ตู้เย็นใช้มือข้างหนึ่งจับประตูตู้เย็นที่เปิดอยู่แล้วบอกครูมาร์ช

     

    “อืม ขอบใจนะตั้ว”มีเพียงประโยคสั้นๆที่ตอบกลับมาโดยต้นเสียงไม่แม้แต่จะมองน่าผม เขามัวแต่ยุ่งกับเรื่องการหยิบของในตู้เย็นอยู่ล่ะมั้ง

     

    ผมเดินไปนั่งที่โต๊ะกินข้าวไม่ไกลจากตู้นเย็นนัก ผมไม่ได้มานั่งในนี้นานราวกับว่าจะไม่ได้เข้ามาอีก ผมวางแขนลงบนโต๊ะแล้วฟุบหน้าลงไปเหมือนตอนแอบหลับในคลาสครูมาร์ชกะครูต่อ การทำแบบนี้ทำให้ผมได้กลิ่นโต๊ะนี้ มันช่างหอมจริงๆ ทุกสิ่งอย่างที่เป็นครูมาร์ชล้วนดึงดูดผมอย่างไม่น่าเชื่อ

     

    “อ่าว รีบๆทำกับข้าวนะคุณพ่อบ้าน ผมจะนั่งรอตรงนี่นะ”ครูต่อเดินป่าวประกาศมาตั้งแต่ประตูห้องจนมานั่งที่โต๊ะ พร้อมกับร่างโปร่งอย่างนิคที่เดินตามมาด้วย

     

    “ตลอดนะมึง ไม่เคยคิดจะช่วยกูเอาแต่รอแดก”ครูมาร์ชบ่นซึ่งเรียกเสียงหัวเราะจากผมและนิคได้มากทีเดียว

     

    ...แต่ก็ไม่รู้ว่าผมจะหัวเราะได้อีกนานรึเปล่า...

     

    ผมเคย...เคยคิดว่าต้องเสียเขาให้กับครูต่อไปแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนี้เขากลับมาจุดไฟแห่งความหวังให้ผมอีกครั้ง ผมจะพยายามไม่ให้ไฟหวังนี้มอดลง และผมจะพยายามทำให้รีดเดอร์(ที่เชียร์ มาร์ช-ตั้ว)ไม่ผิดหวัง

     

    แต่ถ้าผมต้องเสียครูมาร์ชไปอีกล่ะ ผมจะทำยังไงดี ตั้งแต่มะกี้นี้ บางลมหายใจของผมยังคิดว่าครูมาร์ชชอบครูต่อซะผมใจหายอยู่เลย

     

    ผมจะทำใจได้มั้ยน้า


    ---------------------------------------------------------------------------


    อ่าว...คุณครูมาร์ช ทำอย่างนี้ได้ไง ไหนบอกดีใจที่เข้าใจกับตั้วแล้ว แป๊บๆจะกลับไปอ่อยครูต่ออีกละ ไรท์เหนื่อยจึยจริงๆเลย

    "จะมาเหนื่อยจงเหนื่อยใจอะไร แกแต่งขึ้นมาเอง"เสียงตั้วละครทุกตัวทักท้วงขึ้น

    "แหม่ ก็พลอตมันเปลี่ยน ก็ต้องมีลูกง้อลูกงงบ้างไรบ้างเว้ย"เสียงไรท์เตอร์เถียงกลับราวกับว่าตัวเองไม่ผิด

    ได้ลงตอนนี้เสียที ดองเปรี้ยวดองเค็มมานาน แหะๆ

    ก็ ณ จุดๆนี้ ขอขอบคุณคนที่เข้ามาเจียดเวลาอันน้อยนิดมาอ่านฟิคของไรท์น้า แค่เห็นมีคนอ่านฟิคก็มีความสุขละ(โรคจิตไง)

    ขอขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจมาเสมอๆจ้า

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×