ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic มาร์ช - ตั้ว:YAOI]Trolling แกล้งผมปะเนี่ย?

    ลำดับตอนที่ #8 : Imagine

    • อัปเดตล่าสุด 7 มี.ค. 57


    Imagine there's no heaven

    It's easy if you try

    No hell below us

    Above us only sky

    Imagine all the people living for today

     

    Imagine by John Lennon

     

    March’s part

          

    “ถ้าเรากลับมาคบกัน มันอาจจะดีก็ได้นะ” เป็นประโยคที่ออกมาจากปากไอต่อ

          

    “มันจะดีได้ยังไงวะ กูไม่เคยลืมหรอกนะ”ผมพูดเสียงดังขึ้น

     

    “แหม่ ก็กูไม่ใช่คนที่จะไปใส่ใจอะไรมากนี่หว่า จะหญิงหรือชายก็ได้ทั้งนั้นแหละ”

     

    “มึงถึงไปหาคนอื่นไง”ผมตะคอก

     

    “ก็มันกำลังสับสน ไม่รู้ว่าจะชอบผู้หญิงหรือผู้ชาย”ผมพูดเบาๆ

     

    “กูถึงต้องเลิกกับมึงไง ตอนนั้นมึงน่าจะบอกเลิกกูก่อนนะ ในสายตากูมึงจะได้ไม่ผิด”ผมเยาะมัน

     

    “กูก็รู้สึกแบบมึงแหละ จะชายหรือหญิงมันไม่มีไรมากหรอก”ผมพูด

     

    “แต่เราก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่นิ่”ไอต่อพูด

     

    “อือ”ผมดีใจที่มันคิดได้ว่าเราควรจะเป็นเพื่อนกันต่อ

     

    “แต่กูก็ยังโสดอยู่นะ” - -*

     

    ผมนึกว่ามันเลิกคิดแล้วนะเนี่ย

     

    “ไปแข่งกันจีบตั้วนู่น ไม่ใช่กู”ผมสั่งสอนให้มันตาสว่าง

     

    “กูว่าคนที่จะได้ตั้วคือไอเด็กนั่นต่างหาก ไม่ใช่พวกเรา ต้องกำจัดมันออกไปก่อน”มันเสนอแนวทางที่จะให้การแข่งขันโล่ง

     

    “มึงใช้ไรคิด ตอนนี้ตั้วกำลังโกรธพวกเราอยู่ ถ้าพวกเราไปไล่ให้ไอเด็กน่าตาน่ารักนั่นไปไกลๆ ตั้วก็ยิ่งโกรธพวกเรานะเว้ย”มันอธิบาย

     

    “แต่ตอนนี้ตั้วกำลังเฮิร์ท ไม่มึงก็กูที่ตั้วกำลังแอบชอบ พอมาเห็นพวกเราสองคนจูบกันเอง ตั้วก็คงเสียใจ เพราะฉะนั้น ไอเด็กนั่นจะจีบตั้วได้ง่ายมากเพราะตั้วกำลังเสียใจ”จริงด้วย

     

    ผมทำหน้าครุ่นคิดนัก จะว่าไปที่ไอต่อมันพูดก็ถูกนะ มี 2 ทองคือ ไล่เด็กนั่นไปแล้วทำให้ตั้วโกรธเรามากขึ้น กะกปล่อยตั้วไปก่อนแต่จะทำให้เด็กนั่นจีบตั้วติด ผมว่ามันเป็นอะไรที่ค่อนข้างจะเลือกยาก แต่พวกเราไม่มีทางเลือกอื่น

     

    “เอาไง จะกำจัดเด็กนั่น หรือจะมาคบกะกูดีกว่า”ไอต่อยิ้มและยื่นหน้าเข้ามาใกล้

     

    “กูว่ากำจัดมึงคนแรกเนี่ยแหละ”ผมพูดผลักหน้ามันออกไปไกลๆ เพราะคนอย่างไอต่อถ้าไม่ห้ามมันก็ไม่หยุด ถ้าผมไอผลักมันออก ได้จูบกันอีกแน่

     

    “พวกเรามีทางเลือกอื่นป๊ะวะ”ผมถาม

     

    “กูว่าไม่น่ามีแล้วล่ะ”ไอต่อตอบอย่างหมดหวัง

     

    “ไม่น่าเชื่อเลยเนอะ”ผมพึมพำขึ้น

     

    “อะไร”คนสงสัยเอ่ยถาม

     

    “ก็ไม่น่าเชื่อ ที่พวกเราสองคนมาร่วมมือกันทั้งๆที่มีเป้าหมายคือตั้วเหมือนกันแท้ๆ”ผมบอกมัน

     

    “ก็กูไม่ได้มีเป้าหมายเดียวนี่หว่า”

     

    Tou’s part

     

    ....

     

    อีกและ

     

    ผมตื่นขึ้นบนเตียงเดิมๆของผม แสงอาทิตย์ลอดผ่านม่านบางสี....โอ๊ย มันชักจะซ้ำซากแล้วนะ ไอบนเตียง แสงแดด ม่านบางสีขาว มันเป็นแบบนี้ทุกเช้าเลยเว้ย (ก็ไรท์คิดไม่ออกนี่หว่า เป็นแค่ตัวละครเงียบๆไปเหอะ)

     

    ผมลุกขึ้นจากเตียงของผมตรงเข้าไปยังห้องน้ำเพื่อจัดการทำความสะอาดร่างกายก่อนไปเรียน ผมเปิดก๊อกน้ำที่อ่างล้างหน้าแล้วกวักน้ำใส่ใบหน้าเพื่อทำความสะอาด ผมเงยหน้าขึ้นมองดูกระจก แล้วก็ยิ้มออกมาเล็กๆ

     

    ผมแค่คิดก็มีความสุขแล้ว วันนี้ผมจะได้เจอนิคอีก ได้ไปโรงเรียนด้วยกัน เรียนข้างๆกัน ทำการบ้านด้วยกัน ทั้งๆที่พวกเราเพิ่งจะเจอกันเมื่อวานแท้ๆ ทำไมผมถึงมีความสุขขนาดนี้นะ

     

    .

    .

    .

     

    ผมออกจากห้องในคราบชุดพละที่ดูเรียบร้อย ผมพยายามทำตัวให้เงียบเหมือนเดิม เพื่อไม่ให้สองคนนั้นรู้ ผมเดินออกมาเบาๆแล้วปิดประตูให้เบาที่สุด เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยผมก็เดินออกมาจากบริเวณนั้นทันที

     

    “ตั้ว!!!!!

     

    ผมตกใจมากเมื่อได้ยินเสียงคนเรียก แต่ก็โล่งอกเมื่อคนนั้นคือนิค เขาเดินขึ้นมาที่ชั้นผมคงเพื่อจะมาชวนผมไปโรงเรียนด้วย

     

    “ไปรอรถเมล์กัน”นิคชวนและเอื้อมมือมาจับที่มือผมหลวมๆ

     

    “อื้ม”ผมยิ้มให้เล็กๆ และพวกเราก็ไปที่ป้ายรถเมล์หน้าคอนโด

     

    “อ๊ะ นั่น รถเมล์มาแล้ว”ผมพูดแล้วชี้ไป

     

    “ไหนๆ”นิคเขย่งและชะโงกตัวขึ้นดูไปทางที่ผมชี้

     

                “จั๊กกะจี๋!!”ผมใชช้มือสองข้างจี้เอวของนิดเร็วๆจนนิคสะดุ้งแทบล้ม และหันมาทำหน้ายู่ใส่ผม

     

                “เล่นไรเนี่ย”นิคพูดแล้วยิ้มขำๆ

     

                “แก้แค้นสำเร็จแล้ว 555+”ผมหัวเราะ

     

                “รถมาละ ขึ้นรถกัน”นิคบอก

     

                พวกเราเดินขึ้นไปนั่งบนรถ โดยที่นิคเลือกที่จะนั่งริมหน้าต่าง ส่วนผมก็นั่งข้างๆนิคเหมือนเดิม ในขณะที่รถกำลังเคลื่อนที่เร็วๆ นิคซึ่งกำลังมองออกไปทางหน้าต่างรถไม่รู้ตัวว่าผมกำลังพิจารณาเขาอย่างละเอียด ลมจากภายนอกที่พัดเข้ามาทำให้ผมของนิคปลิวเบาๆ ช่างดูน่าหลงใหลจริงๆ

     

                “ถึงโรงเรียนแล้วล่ะ”นิคบอก

     

           พวกเราเดินลงจากรถเหมือนเมื่อวาน เดินเข้าไปในโรงเรียนที่รักอย่างมีความสุขกว่าวันอื่นนิดหน่อย แล้วก็เดินเข้าห้องเรียน 5/1 ไป ผมกับนิควางกระเป๋าแล้วก็นั่งที่โต๊ะของตัวเอง คุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ ผมรู้ว่าคนอื่นๆกำลังมองมาที่พวกเราสองคนซึ่งนิคยังไม่รู้ตัว แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับพวกเขาเท่าไหร่

     

                “ตั้ว วันนี้ไปสยามกันมะ”นิคชวน

     

                “สยามเหรอ ไปก็ได้ อยากกินไอติม”ผมไม่ปฏิเสธ

     

                “เย็นนี้ที่สยามนะ”

     

                “อื้ม ^^

     

                “เฮ้ยๆๆ สองคนเนี่ย”ไอซ์เรียก

     

                “จะไปสยามเหรอตั้ว เพิ่งเจอกันมะวานดูเหมือนจะสนิทกันมากเลยนะ”

     

                “มึงไม่ต้องมาแซวเลย”ผมพูดใส่มัน ก่อนจะหันหน้าไปทางอื่น

     

                ไอซ์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆหูผมแล้วก็กระซิบว่า “นิคแฟนมึงเหรอวะ”

     

                “แฟนพ่อมึงสิ เพื่อนเฉยๆ เขาอยู่คอนโดเดียวกะกู”ผมพูดเบาๆเพื่อไม่ให้นิคได้ยิน เดี๋ยวเขาจะเข้าใจผิดน่ะ

     

                “เออๆ”แล้วไอซ์ก็เดินกลับไปที่โต๊ะของมัน

     

                “มีไรรึเปล่าตั้ว”นิคถาม

     

                “เปล่าๆๆ ไม่มีอะไรจริงจรี๊ง”ผมพูดให้เหมือนว่าไม่ได้โกหก

     

                “อือ”นึกพยักหน้าเบาๆ

     

    --- เกือบไป ---

     

           March’s part

     

                “อีกแล้วๆ วันนี้ตั้วก็ไม่ได้ไปกะพวกเราอีกแล้ว”ผมบ่นทั้งๆที่ยังขับรถ บ่นใส่คนที่นั่งเบาะข้างๆผมน่ะ

     

                “มึงไม่ได้ไปกะตั้ว แต่มึงไปกะกู” ...

     

                “เสี่ยว”ผมด่าต่อ

     

                “ตรงไหน กูพูดความจริงป่ะ มึไม่ได้ไปกะตั้วแต่ไป กะ กู”ไอต่อพยายามที่จะแถ

     

                “กูรู้ว่ามันมีความหมายแฝงอยู่”ผมรู้จริงๆ

     

                “ถ้ามี มันแฝงว่าอะไร”มันย้อน

     

                “...”

     

                “เอาเป็นว่ากูรู้ละกัน”ผมแก้หน้า เพราะผมไม่อยากจะบอกไอความแฝงนั่นออกมา เดี๋ยวมันจะได้ใจ

     

                “ฮึ”เสียงไอต่อจากเยาะข้างๆ

     

                “เอ้า ถึงโรงเรียนแล้ว ลงได้ละ”ผมสั่ง

     

                “อื้อ...............”ไอต่อลงจากรถแล้วก็บิดขี้เกียจครั้งใหญ่

     

                “กูไปห้องก่อนนะ”ผมบอกมัน

     

                “อือ”คนพูดน้อยรับเพื่อให้รู้ว่าเขาได้ยินที่ผมบอก

     

                ผมเดินขึ้นมาบนห้องเรียนซึ่งไม่มีใครอยู่เลยซักคน มันก็ไม่แปลกหรอก มันใกล้จะเข้าแถวแล้วล่ะครับ เด็กๆเลยลงไปข้างล่าง อันที่จริงก็เป็นแบบนี้ทุกเช้าแหละครับ เว้นแต่ว่าไอต่อจะให้การบ้านยาก จนนักเรียนต้องมานั่งปั่นกันตอนเช้า

     

                “ใกล้จะเข้าแถวแล้ว”ผมสบถออกมาเบาๆกับตัวเอง ผมต้องไปเฝ้านัดเรียนที่แถวแล้วล่ะ

     

                ผมรีบวางของๆผมบนโต๊ะและจัดให้เรียบร้อย จากนั้นจึงออกจากห้องและลงไปที่ๆพวกนักเรียน 5/1 เข้าแถวกันตอนเช้า

     

                กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

     

                เสียงสัญญาณบอกว่าถึงเวลาเคารพธงชาติ เด็กมัธยมทุกคนทยอยมาเข้าแถวในที่ของตนเอง 5/1 ก็เช่นกัน

     

                ตอนนี้ห้อง 5/1 มาที่แถวครบทุกคนแล้ว แต่เด็กพวกนี้ก็ยังยืนเล่นกันในแถวอยู่บ้างเพราะยังไม่ถึงช่วงที่เคารพธงชาติ ผมสังเกตเห็นตั้วกับเด็กอีกคนที่ดูเหมือนจะสนิทกันมากยืนหยอกเล่นกันอยู่ในแถว ทั้งคู่ยิ้มและหัวเราะอย่างมีความสุข สร้างความอิจฉาเล็กๆในใจของผม

     

                “เอาล่ะๆ อย่ามัวแต่ยืนเล่นกัน เข้าแถวได้แล้ว”ผมพูดพร้อมกับเดินไล่ไปตามแถวตั้งแต่หัวแถวถึงปลายแถวเพื่อให้นักเรียนเข้าที่ ผมไม่แม้แต่มองหน้าตั้วเลย

     

                ผม...ไม่กล้า

     

                ถึงเวลาเลิกเรียนแล้ว เด็กนักเรียนส่วนมากเดินทางกลับบ้าน บางส่วนเล่นกีฬาอยู่ในโรงเรียน ส่วนน้อยก็ไปเที่ยวตามห้างหรือตลาดแถวๆนั้น

     

                แต่ผมรู้ว่า ตั้วไม่กลับบ้าน ส่วนตัวผมเองไม่ได้เห็นอะไรหรอก แค่เห็นว่าตั้วกับเด็กอีกคนที่หน้าตาน่ารัก ผมหมายถึง น่ารักกว่าผม ตั้วกะเค้ารีบๆออกไปนอกโรงเรียนด้วยกัน คงไปหาเที่ยวล่ะมั้ง ตั้งแต่ผมรู้จักกับตั้ว ยังไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหนกันเลย จะว่าไป ตั้งแต่ตั้วเห็นผมจูบกับต่อ เราก็ยังไม่ได้พูดด้วยกันซักคำ ตั้วคงจะเสียใจและโกรธมากจริงๆ

     

                แต่ผมคงจะไปบังคับอะไรตั้วไม่ได้หรอก จะมองหน้าผมตั้วยังไม่ทำเลย

     

                บางที ถ้าตั้วไม่ใยดีกับผมอีกแล้ว คนที่รักผมอีกคนจริงๆอาจจะเป็นคนที่ผมไม่คิดจะให้โอกาสเขา ผมว่าไอต่อดูโตเป็นผู้ใหญ่และมีความมุ่งมั่นตั้งใจมากขึ้น

     

                ถ้าผมผิดหวังจริงๆ คงไม่เป็นไรถ้าจะลองให้โอกาสต่อได้แก้ตัว

     

                ตึกๆๆๆๆๆๆ

     

           เสียงคนวิ่งนี่นา

     

           “เฮ้ย มาร์ช แฮ่กๆๆ”ไอต่อวิ่งมาเกาะประตู

     

                “อะไรของมึง ดูรีบมากเลยนะ หายใจไหวป่ะเนี่ย”ผมถาม

     

                “มึง ออกรถเดี๋ยวนี้เลย”

     

                Tou’s part

     

                “สั่งไรดีน้า”ผมพึมพำออกมาเบาๆในขณะที่ตาก็จ้องมองเมนูอยู่ ตอนนี้ผมกับนิคอยี่ร้านไอติมที่สยามครับ

     

                “สั่งเลย เดี๋ยวเราเลี้ยง”นิคบอก

     

                “จะดีเหรอ”ผมพูดอย่างเกรงใจ

     

                “อื้ม สั่งเลย”

     

                “ขอบใจนะ”ผมขอบคุณนิค

     

                “เอา บานาน่าซันเดย์ครับ”ผมสั่ง

     

                “บานาน่าซันเดย์เพิ่มอีกถ้วยนึงครับ”นิคบอกพนักงาน

     

                ผมหันไปยิ้มให้นิคเพราะว่าไม่มีไรจะพูดเลย

     

                อยู่ๆนิคก็ทำหน้าเหมือนกับว่ากำลังเพ่งไปที่อะไรบางอย่างอยู่ ก่อนจะพูดว่า

     

                “นั่น สองคนนั้นหน้าคุ้นๆนะ”นิคชี้ไปนอกร้าน

     

                “ไหน ไม่เห็นมีนะ”ผมบอก

     

                “เขาเดินไปในห้องน้ำแล้วอ่ะ ช่างเหอะ คนหน้าเหมือนละมั้ง”นิคพูดเบาลงและเปลี่ยนความสนใจเรื่องคนที่หน้าตาคุ้นๆ

     

                แต่ผมก็รู้สึกร้อนๆหนาวๆพิลึก เหมือนมีคนกำลังแบบว่า กำลังจ้องผมอยู่ ไม่รู้สิ ผมไม่ได้อยากใส่ใจอะไรมากหรอก เพราะว่าไอติมที่สั่งไว้มาเสิร์ฟแล้วล่ะคร้าบ ^^

     

                “อร่อยเนาะ เราไม่เคยมาเที่ยวสยามเลยนะ ได้มาอยู่ในกรุงเทพฯ เลยอยากมา”นิคเล่าให้ฟัง

     

                “นิค ย้ายมาจากไหนเหรอ”ผมถามเรื่องส่วนตัวซะและ

     

                “เพชรบุรี”นิคตอบ

     

                “เพชรบุรี ทำไมถึงย้ายมาล่ะ”ผมถามต่อ

     

                “ก็ เพราะสาเหตุหลายๆอย่างเลยต้องย้ายมาน่ะ”

     

                “เออใช่ เราชอบห้องนิคมากเลยนะ สวยดี ใครจัดห้องให้เหรอ”ผมถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

     

                “เราแต่งเองแหละ เห็นเราชอบคณิตศาสตร์ แต่เราก็ชอบเรื่องพวกศิลปะเหมือนกันนะ อันที่จริงอยากเรียนแผนศิลป์มากกว่าวิทย์-คณิตอีก แต่ว่า อย่างที่รู้อ่ะนะ พ่อแม่อ่ะ อยากให้เรียนสายนี้”นิคอธิบาย

     

                “อ๋อ วันหลัง มาจัดห้องให้เราด้วยก็ดีนะ ห้องเราจัดน่ะ อยากให้มันดูดีบ้าง”ผมขอร้อง

     

                “อืม ถ้าไว้ว่างๆ เดี๋ยวเราไปจัดให้” นิคพูดพร้อมกับยิ้มให้ แล้วจึงก้มหน้ากินไอติมต่อ

     

    zz   ^_^   zz

     

           “อร่อยจริงๆเลย”พวกเราออกมาจากร้าน ความอร่อยทำให้นิคพูดอุทานขึ้นมา

     

                “เย็นมากละ กลับคอนโดกัน”ผมชวนเมื่อไอโฟนของผมบอกเวลาว่า 6 โมงเย็นแล้ว

     

                “อืม มืดแล้วด้วย เดี๋ยวรถเมล์จะคนเยอะ”

     

                หะ ผมว่าไม่ทันแล้วล่ะ รถเมล์สายอื่นคนเต็มไปหมดแล้วล่ะ ส่วนสายที่ผมกับนิคต้องใช้นั่งไปคอนโดก็ต้องเต็มด้วยแน่ๆ คงถึงขั้นว่าตอนยืนเบียดกันเลยล่ะ

     

                “รถเมล์มาแล้วล่ะตั้ว”นิคบอก เมื่อผมมองไป รถเมล์ก็มาอย่างที่ว่าจริงๆ

     

                “โห คนเยอะชะมัดเลย จะขึ้นนได้มั้ยเนี่ย”นิคบ่น

     

                “เราว่าขึ้นตอนนี้ก็ได้นะ ถ้ารอคันต่อไป ก็คงเยอะเหมือนกัน”ว่าแล้วพวกเราสองคนก็ก้าวขึ้นรถเมล์นั่นไป

     

                แน่นอน พวกเราไม่ได้นั่ง แล้วยังต้องยืนเบียดกันอีกต่างหาก

     

                ...

     

                เอ่อ...

     

                เนื่องจากที่ผมกับนิคเป็นคนสนิทกัน ก็เลยไม่ได้หันหน้าออกจากกันตอนยืนบนรถเมล์ แต่มันคงจะดีกว่านี้ถ้ารถเมล์ไม่เบียดจนพวกเราต้องอยู่ติดกันขนาดว่าปลายจมูกจะชนกันอยู่แล้ว

     

                “เอ่อ... พวกเราอยู่ใกล้กันไปมั้ยตั้ว”นิคถามประชด

     

                “คิดเหมือนกัน”หลังจากที่ผมพูดเสร็จผมก็พยายามขยับตัวให้มัน...แบบว่ามีสเปซมาขึ้น แต่มันทำไม่ได้

     

                “มันขยับไม่ได้อ่ะ อดทนหน่อยละกันนะ”ผมพูดปลอบใจ

     

                “อื้ม ^^”นิคตอบรับแล้วยิ้มหวานจนผมอดไม่ได้ที่จะยิ้มไปด้วย

     

                พวกเราอยู่ชิดและติดกันมากจนอกชนอก ที่แย่กว่านั้นคือถ้าแน่นกว่านี้พวกเราคงจูบกันแล้วแหละ แต่นี่มันก็แน่นมากแล้วนะ

     

    zzzzzzz

     

                “ได้ลงจากรถนรกคันนั้นซะที”นิคพูดเมื่อได้ออกมาจากรถคันนั้นและตอนนี้เราทั้งคู่ยืนอยู่หน้าคอนโด

     

                “มันอาจจะไม่ใช่นรกก็ได้”ผมพึมพำเบาๆ

     

                “พูดว่าไรนะ”เหมือนนิคจะได้ยินนะนี่

     

                “เปล่าๆ ไม่มีไร ขึ้นห้องกันเถอะ มืดแล้ว”ผมชวน

     

                ผมอยู่หน้าห้องนิคแล้วครับตอนนี้ ผมมาส่งนิคเข้าห้องหลังจากที่ไปเที่ยวกันมา

     

                “ฝันดีนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราไปหาหน้าห้อง”นิคบอก

     

                “อืม ฝันดีเช่นกัน”ผมบอกลาและโบกมือให้นิค

     

                “บ๊ายบ่าย”นิคโบกมือลาอย่างน่ารักแล้วปิดประตูห้องเบาๆ

     

                ส่วนตอนนี้ก็ถึงคราวหนักของผมแล้วล่ะ ผมต้องเดินเบาๆขึ้นไปบนห้องและเข้าห้องเงียบๆ

     

                ก้าวค่อยๆ ก้าวค่อยๆ ก้าวเบาๆ

     

                เปิดประตูเบาๆ ปิดประตูเบาๆ และสำเร็จ ผมถึงห้องซะที

     

                อาบน้ำหน่อยละกัน จะได้เข้านอน พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า

     

                “สบายตัวที่สุด”ผมสบถเบาๆหลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ผมจึงกระโดดขึ้นเตียงแล้วนอนมองเพดานสีขาวในห้องนอนผมอย่างที่เป็นทุกคืน

     

                ผมกำลังคิดว่า ผมคงผิดหวังจากครูมาร์ชแล้วแหละ เขาไม่พูดกับผมเลยตั้งแต่วัน...วันนั้นน่ะ ผมก็เลยคิดว่า ฟ้าอาจจะส่งนิคมาไกลจากเพชรบุรีเพื่อผมก็ได้

     

                เวอร์ละ หลงตัวเองชะมัด ตอนนี้ผมยังคิดว่า ตัวเองชอบครูมาร์ชอยู่เลย แล้วจะไปให้นิคมาเกี่ยวข้องอีก

     

                โอ๊ย ปวดสมองชะมัด นอนดีกว่า ไม่อยากคิด

     

    ——— แล้วผมก็กระโดดจากหน้าผาลงสู่เหวแห่งนิทราและความฝัน –––

     

    zzzzzzzzzzzzz

     

                ผมออกจากห้องเบาๆและปิดประตูเบาๆ ใช่ครับ ตอนนี้ผมกำลังจะไปเรียน และผมรู้ว่าก็เป็นเหมือนทุกครั้ง ไม่มีครูต่อ ไม่มีครูมาร์ชออกมา ผมจะได้นั่งรถเมล์ไปกะนิคเป็นครั้งที่ 3 ครับ

     

                “ตั้ว!!!”เสียงนิคกำลังเรียกผม และนิคก็กำลังเดินมาหาผม

     

                “นิด หวัดดีตอนเช้า”ผมกล่าวทักทาย และนิคก็เดินเข้ามาใกล้ๆขึ้น ใกล้ผมมากขึ้น...

     

           ริมฝีปากนั้นจูบลงบนปากผมอย่างนุ่มนวล เนิ่นนานจนไม่มีทีท่าว่าจะปล่อย นิดขบปากเล่นเบาๆ  สองมือของนิคลูบขึ้นบนหลังผมแล้วกอดผมไว้อย่างแน่นและ

     

                “!!!!!!!!!!!!!!!!!

     

                ผมสะดุ้งขึ้นนั่งบนเตียงของผม ผมหายใจลึกและถี่มากเหมือนกับว่าตัวเองเพิ่งวิ่ง 400 เมตรมา

     

                “ฝันเหรอเนี่ย”

     

                ผมไม่รู้หรอกว่ามันฝ้นร้ายหรือฝันดี ผมมองดูนาฬิกาซึ่งมันบอกผมว่า

     

                “ตั้ว นี่มันตี 4 นะ”ขอบคุณมากคุณนาฬิกา ตี 4 มันไม่ใช่เวลาที่จะตื่นซะหน่อย หนาวจนรู้สึกเหมือนตัวเองไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลย

     

                ผมตัดสินใจนอนต่อ แล้วก็เปลี่ยนจากการนั่งบนเตียวเป็นการนอนแทน ผมไม่ได้หลับตาทันที ผมแค่กำลังมองเพดานอยู่สักพัก แต่ผมมองมันจนเบื่อทำให้ผมต้องนอนตะแคง

     

                “!!!!!!!!!!!!!!!!!!

     

                ไม่จริง มันไม่ใช่ความจริง

     

                สิ่งที่ผมเห็นคือนิคกำลังนอนห่มผ้าอยู่บนเตียงของผม ผมเฉาะท่อนล่างทำให้รู้ว่านิคไม่ได้ใส่เสื้อ และก็คงไม่ได้ใส่กางเกงด้วย ผมมองดูสภาพตัวเองก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่

     

                มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

     

                “!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

     

                ผมสะดุ้งขึ้นนั่งบนเตียง แล้วมองดูว่าตัวเองใส่เสื้อผ้ารึเปล่า

     

                ...

     

                ก็ใส่นี่นา

     

                มองดูว่ามีนิคบนเตียงรึเปล่า

     

                ...

     

                ก็ไม่มีนี่นา

     

                “ตั้ว นี่มันตี 5 แล้วนะ”คุณนาฬิกาบอก

     

                วันนี้ผมคงตื่นมาเช้าเกินไป แต่ก็ดี จะได้ไม่ต้องมีไอแสงแดดกับม่านบางๆขาวๆอีก ผมลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวโดยที่จะไม่หันกลับไปนึกถึงไอฝันประหลาดเมื่อคืนนี้ และถ้าเป็นไปได้ผมจะลืมมัน

     

                ...

     

                เพราะว่าผมตื่นเร็วเกินไปทำให้ผมต้องมานั่งดูทีวีฆ่าเวลาเล่นๆ เมื่อถึงเวลาที่ผมจะออกจากห้องตามปกติ ผมก็ไม่รอช้าที่จะออกไปจากห้อง เบาๆ เงียบๆ

     

                “ตั้ว!!!”เสียงนิคเรียกผม และนิคก็กำลังเดินมาหาผม

     

                มันทำให้ผมนิคถึงฝันในฝันในฝันของผม แต่ผมไม่อยากจะรื้อฟื้น จะได้ลืมเร็วๆ นิคเดินเข้ามาตรงหน้าผม

     

                “หวัดดี ไปรอรถเมล์กัน”นิคชวนเหมือนเมื่อวาน

     

                “อื้ม”แล้วพวกเราก็หันหน้าตรงไปยังลิฟต์เพื่อจะลงไปรอรถ แต่เพียงแค่พวกเราหันหน้าได้ไม่ถึงสิบวิ ก็มีเสียงมาจากข้างหลังว่า

     

                “อะแฮ่ม สองคนเนี่ย สนใจจะติดรถไปกะพวกครูมั้ย?”

     

    zzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzz

     

    ว้าว จบตอนนี้สักที ดูเหมือนตั้วกับนิคจะสนิทกันมากขึ้นนะ โดยเฉพาะตั้วนี่ เก็บมาฝันซ้อนฝันเลยนะเนี่ย ส่วนครูต่อนี่ดูเหมือนจะเปลี่ยนมิชชั่นมาเป็นมาร์ชจริงๆแล้วล่ะ แต่อันที่จริงก็ยังแคร์ตั้วอยู่ใช่ม้า ส่วนมาร์ชกลับกลายมาเป็นคนที่สับสนแทน ไรท์ว่าคนที่จะสับสนคนต่อไปนี่ไม่ใช่ใครหรอกนะ ...ไรท์เนี่ยแหละ จะสับสน... เขียนสับไปสนมา ส่วนใครเชียร์ใครเชียร์คู่ไหนก็ ติดตามนะ

     

    ขอบคุณที่ยังไม่ทิ้งกัน ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตอนนี้จ้า ^^

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×