คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : E.T.
Kiss me, ki-ki-kiss me
Infect me with your love and
Fill me with your poison
Take me, ta-ta-take me
Wanna be a victim
Ready for abduction
E.T. by Katy Perry
Tou's part
"ครูไม่ได้หมายถึงการบ้านแบบนั้นนะ"
อะไร ครูต่อเขาพูดอะไรของเขาน่ะ
...
ก็ผมไม่มีการบ้านเหลือแล้ว จริงๆนะ
"แล้ว การบ้านอะไรเหรอครับ"ผมถามอย่างสงสัยจริงๆ
เมื่อครูต่อได้ยินคำถามของผม เหมือนมีบางสิ่งทำให้เขาเดินมาใกล้ผมเรื่อยๆจนผมรู้สึกว่าพวกเราอยู่ใกล้กันมากเกินไป
"ก็การบ้านอย่างงี้ไง"
แน่นอน ผมเข้าใจแล้วว่าพี่ต่อต้องการสื่อถึงอะไร เขาดันผมให้นอนลงบนโซฟาเบาๆก่อนที่เขาจะจูบผมอย่างนุ่มนวลและผละจูบออก และแล้วครูต่อก็คร่อมผม เขาโน้มตัวลงมาจูบผมอีกครั้ง มือซนข้างหนึ่งสอดเข้ามาใต้เสื้อเพื่อหยอกเล่นกับยอดอกของผมทั้งๆที่เขายังไม่ถอนจูบ จนทุกสิ่งทุกอย่างมืดลงอย่างกระทันหัน
...
ผมลืมตาขึ้น ภาพที่ผมเห็นคือ ครูต่อกำลังยืนอยู่ตรงหน้าผม
"ครูไม่ได้หมายถึงการบ้านแบบนั้นนะ"
มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย หรือเหตุการณ์เมื่อกี้ คือสิ่งที่ผมคิดไปเอง
ผมสับสนไปหมดแล้ว
"ครูหมายถึงการบ้านจากที่เรียนพิเศษน่ะ ตั้วมีไหมล่ะ ครูจะช่วยสอน"ครูต่อพูดออกมา
เออะ!!!
การบ้านจากที่เรียนพิเศษน่ะ ไม่มีหรอก
ประเด็นก็คือ ผมไม่ได้เรียนพิเศษเลยต่างหาก - -"
"คือผมไม่ได้เรียนพิเศษนะครับ"คำพูดของผมอาจจะทำใหัครูต่อหน้าแตกนิดหน่อย แต่ครูก็ต้องรู้ไว้นะ
"อ่าว เหรอ" เพิ่งจะรู้เหรอ
"ใช่ครับ"ผมพูดพรัอมมีรอยยิ้มที่ผมรู้ว่าน่ารักด้วยอยู่นิดๆ
"งั้นครูไปละนะ ฝันดีนะตั้ว"
"ราตรีสวัสดิ์ครับ"
จากนั้น ครูต่อก็ออกจากห้องผมไป
ได้เวลาเครียด"ต่อ"แล้วล่ะ
เหตุการณ์เมื่อกี้มันคืออะไรนะ ถ้าผมคิดไปเอง แล้วเพราะอะไรผมถึงยอมปล่อยให้ภาพแบบนั้นหลุดเข้ามาในหัวล่ะ
โอ้ย!!!!
ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว
ไปนอนดีกว่านะ
March's part
ผมเพิ่งกลับมาจากห้องต้องครับ คุยไรกันเล็กน้อย คือผมนึกว่าตั้วโกรธผมไง แต่อันที่จริงแล้วน่ะไม่ใช่ ตอนนี้ผมกะตั้วก็เข้าใจกันแล้วครับ
เหลือแค่อย่างเดียว
คือยังไม่เข้าใจตัวเอง
ว่าอันที่จริงมันเกิดอะไรขึ้นกับหัวใจ ไม่รู้ว่าความรู้สึกแบบนี้เขาเรียกว่าอะไร
หวังว่ามันจะไม่ได้ชื่อว่า
—ความรัก–
เฮ้อ.....
ผมอาจต้องพึ่งคนเก่งๆอย่างไอต่อ จะได้รู้ว่าอันที่จริงแล้วผมเป็นอะไร
แต่ถ้าเกิดผมรักตั้วขึ้นมา ไอต่อคงซัดผมตายแน่ๆ เพราะถึงยังไง”ตอนนี้”มันก็เคยเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผม
งั้น เอาไว้ผมคิดเองก็ได้
ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ผมนอนได้แล้วล่ะ
ผมมุ่งตรงไปยังห้องนอนเล็กๆรกๆของผม ผมเหนื่อยทุกครั้งที่เห็นห้องนอนตัวเอง เพราะมันเต็มไปด้วยหนังสือและแบบสอนที่ผมใช้อยู่ ผมหวังว่าสักวันจะมีคนมาช่วยเก็บ เพราะผมเองก็ขี้เกียจเหมือนกันแหละ
ผมทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มๆของผม ผมนอนมองเพดานตัวเองสักพักแล้วหลับตาลง จากนั้นผมก็เปลี่ยนเป็นท่านอนตะแคงซึ่งมันสบายกว่า ผมไม่ได้รู้สึกถึงอะไรแต่มีบางสิ่งบางอย่างทำให้ผมอยากลืมตา
เมื่อผมลืมตาขึ้น สิ่งที่ผมเห็นคือ ตั้วกำลังนอนมองหน้าผมอยู่เหมือนกัน ใบหน้าของผมกับตั้วใกล้กันมากเกินไป ทำให้ผมพลิกตัวให้นอนตะแคงไปอีกข้าง แต่สิ่งที่ยังหลอกหลอนผมก็ยังอยู่ ตั้วมานอนฝั่งที่ผมหันไปอย่างเร็ว ผม...ไม่รู้...ผม
ผมหลับตาลงอีกครั้ง ผมขอมันเป็นแค่ภาพลวงตา ผมไม่มีสมาธิเองแหละ
ผมลืมตาขึ้นอีกครั้ง สิ่งๆนั้นหายไปแล้ว ทำไมผมจะต้องมองเห็นภาพตั้วมานอนด้วยนะ แล้วทำไมต้องเป็นคนๆนั้น
สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวผมเอง ผมคิดว่าอาจเป็นไปได้ ที่ผมจะรู้สึกดีกับตั้ว แต่ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับไอต่อดี
แต่ตอนนี้ผมขอนอนก่อนละกัน พรุ่งนี้ผมต้องไปสอนหนังสือ
ผมปล่อยให้โลกแห่งความฝันเอาตัวไป ผมยินดีที่จะได้เข้าไปอยู่ในโลกที่ผมจะทำอะไรก็ได้โดยไม่ต้องกังวล โลกที่ทุกอย่างเห็นด้วยกับผม โลกที่ไม่มีใครต่อต้านผม
โลกที่ทำให้ผมมีความสุข
ZzZzZzZzZzZzZzZzZzZzZzZzZzZzZzZz
“อืม...”อีกแล้ว
แสงแดดลอดผ่านไอม่านบางๆสีขาวแล้วส่องหน้าผม นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเกือบทุกเช้า แต่ก็เป็นสิ่งเดียวที่ปลุกผมได้
ผมบอกลาโลกแห่งความฝัน แล้วกลับมาสู้โลกที่มีแต่ความจริง ความยุ่งเหยิง ความวุ่นวาย หวัดดีนะโลกแห่งความจริง
ผมลุกขึ้นจากเตียงที่ผมไม่อยากจะจากไปแล้วเดินเข้าไปห้องน้ำเพื่ออาบน้ำแล้วเตรียมตัวไปโรงเรียน ไปทำสิ่งที่ผมชอบที่สุดไงล่ะ
ตอนนี้ ผมเตรียมตัวเสร็จแล้ว ผมรู้ว่าไอต่อก็เรียบร้อยแล้วเหมือนกัน ส่วนมิชชั่นต่อไป ก็ต้องไปหาตั้ว ไปดูซิว่าเขาเรียบร้อยรึยัง
ผมเดินออกมาจากห้องของผมเพื่อตรงไปยังห้องข้างๆซึ่งเป็นห้องของตั้ว เด็กหนุ่มที่ผมไม่รู้ว่าหลงรักรึเปล่า
ผมเดินออกมาจากห้องของผมแล้วก็...
“หวัดดี เตรียมตัวเร็วนะมึงน่ะ”ปากที่ข้างในมีเหล็กดัดฟันทักทายผม
“เออ มึงก็เหมือนกัน”ผมพูดกลับ
“มึงนี่ไม่เปลี่ยนเลยนะ”
.................
“เงียบๆเหอะน่ะ กูขี้เกียจฟัง”ผมตัดบทอย่างเร็วจริงๆ เพราะสิ่งที่มันจะพูดคือสิ่งที่มันมักใช้พูดกับผมแล้วทำให้นึกถึงวันเก่าๆ มันก็น่าเบื่อน่าดูเลยล่ะ
“อ่าว หวัดดีครับครูมาร์ช หวัดดีครับครูต่อ”เป้าหมายของผมเดินออกมาจากห้องแล้วยกมือไหว้ทักทายทั้งๆที่ในมือยังถือกระเป๋าหนังสืออยู่
“หวัดดีๆ”ผมทักกลับ
“ดีครับ คนน่ารัก”ไอต่อจอมหยอดทักด้วยคำที่เสี่ยวมาก
“...”ตัวยิ้มนิดๆแต่ไม่หันไปมองต่อ ไม่มองผมด้วย
“ไปที่รถกันเถอะครับ เดี๋ยวไปโรงเรียนไม่ทัน”ตั้วหันมาหาพวกเราสองคนด้วยท่าทางสดใสมากจริงๆ
ผมชอบนะ ^^
พวกเราสอง ผมหมายถึง สามคน เดินลงจากคอนโดแล้วลงไปที่ลานจอดรถ แน่นอน ผมเป็นเจ้าของรถ ผมได้ขึ้นรถก่อนแน่นอน ผมปลดล็อคประตูรถทุกบาน
“ตั้วเชิญครับ”ไอต่อเปิดประตูรถเบาะหลังให้ตั้ว ตั้วยกมือไหว้อย่างมีมารยาทแล้วค่อยเข้าไปนั่ง จากนั้นไอต่อก็วิ่งไปอีกฟากของรถแล้วเข้าไปนั่งข้างตั้ว อันที่จริงมันก็เป็นแบบนี่แทบทุกวันแหละ
ระหว่างที่ผมขับรถ ไอพวกนี้มันก็คุยกะนุ้งกะนิ้งกันตลอดทาง จะชวนผมคุยด้วยก็ดีนะ คนขับรถมันเหงา Y – Y
ผมเอารถจอดที่ลานจอดรถของโรงเรียน แล้วทุกคนก็ลงจากรถ
“ผมไปห้องเรียนก่อนนะครับ”ตั้วบอกครูต่อ
“ครับ”ไอต่อรับ
ผมเดินตามตั้วไป แต่กลับมีคนเรียกผม
“เฮ้ย มึงจะไปไหนน่ะ”ไอต่อถามตามหลัง
หือ...ถามแปลกจริง
“ก็ห้อง 5/1 ไง”อย่าบอกนะว่ามึงลืม
“มึงจะไปห้องตั้วทำไม”อ่าว ไอนี่
“ก็โต๊ะกูมันอยู่ในห้องเรียนตั้วนี่หว่า ช่วยไม่ได้”ผมตอบไปตามสาเหตุที่มี
“อ่อ เออ น่าอิจฉานะมึง”มันตะโกนให้ท้าย แล้วเดินจากไป
“....”
ผมไปดีกว่า
ตอนนี้เป็นชั่วโมงโฮมรูม เนื่องจากครูประจำชั้น 5/1 เป็นครูพี่เลี้ยงผม ผมเลยต้องตามมาเข้าโฮมรูมด้วยครับ ดูเหมือนว่าวันนี้ครูเขาจะมีไรมาแจ้งนะ
“เอาล่ะค่ะ นักเรียนรู้เรื่องของการเข้าค่ายกิจกรรของนักเรียนชั้น ม.5 รึยังคะ ในปีนี้ห้องเราจะได้ไปเข้าค่ายถึงบนเขาเลยนะคะ ให้นักเรียนเตรียมเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวให้พอกับ 3 วัน 2 คืนนะคะ ส่วนครูจะไม่ได้ไปด้วย ลูกครูรับปริญญาน่ะค่ะ ครูจะให้ครูมาร์ชไปดูแลพวกเราแทนค่ะ”ใช่ครับ หา!!!!
ผมพยักหน้านิดหน่อย
ก็ดีแล้วแหละ เข้าค่ายกิจกรรมหนุกจะตาย แถม 1 ที่ ไป 1 ห้องนี่โคตรหนุกเลย ดีแล้วแหละที่ผมได้ไป คริๆๆ (ใช่ ไรท์อยากบอกว่ามันหนุกมาก ตอนไรท์ไปเข้าค่ายที่ศูนย์วิจัยสะแกราชนะ สนุกมาก ไปแค่ 2 ห้องน่ะเพราะเป็นค่ายวิทย์-คณิต ถ้าใครมีโอกาสได้ไปค่ายแบบนี้อย่าปล่อนโอกาสไปนะจ๊ะ เพราะเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้รับความรู้นอกห้องเรียนแบบเต็มที่จ้า)
กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แล้วเสียงออดก็เตือนว่าหมดเวลาแล้วล่ะ
“เอาล่ะ ครูคงต้องไปล่ะค่ะ สวัสดีค่ะนักเรียน”แล้วเจ๊แกก็เดินออกจากห้องไปยังไม่ทันรอให้หัวหน้าห้องบอกทำความเคารพ - -
“เน่ๆๆ คาบต่อไปของครูนะ passive voice ที่ครูสั่งไว้น่ะยังไม่จบนะ วันนี้ใครไม่ส่งละก็...”ผมขู่นักเรียน อันที่จริงผมก็ไม่ทำไรมากหรอกครับถ้าเขาไม่ส่ง อาจจะวิ่งรอบสนามเป็นพอแล้วล่ะ
ที่โรงเรียนวันนี้ผมไม่มีอะไรมากมายหรอกครับ แค่มาสอน สั่งการบ้าน ใส่ใจกับสิ่งที่ผมรักที่จะทำก็เท่านั้นเอง ส่วนตอนนี้น่ะเหรอ ผมก็กำลังเฝ้าพวกที่ทำเวรอยู่น่ะ อันที่จริงนี่ก็เย็นพอที่จะไม่มีใครอยู่ในตึกแล้วนะนอกจากผมและเด็ก ม.5 ประมาณ 6 คนซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นตั้ว
“เฮ้ยตั้ว กูไปละนะ”เพื่อนๆของเด็กตัวแสบบอกลา ผมว่าเขาน่าจะถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว
“จำไว้นะพวกมึง” เอาล่ะ ผมพอจะคิดได้ละ เรื่องน่าจะประมาณว่า ตั้วกำลังทำหน้าที่ในเวรของตัวเอง ในขณะที่เพื่อนๆทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ตั้วยังทำไม่เสร็จจนเพื่อนๆหมดความอดทนแล้วบอกลาตั้วก่อน และถ้าตั้วยังช้าอยู่ คนต่อไปที่จะหมดความอดทนคือผม
เหลือแค่ผมกะตั้วแล้วล่ะ ผมน่าจะทำลายความเงียบที่อยู่รอบๆซะหน่อย
“ตั้ว”ผมเรียก
“ครับ”
“สำหรับตั้วน่ะ ความรักมันเป็นยังไงเหรอ”ผมถามคำถามที่ทำให้ผมหน้าแดงนิดๆ
“ผมว่านะ มันก็คงเป็นเรื่องของความรู้สึกดีๆที่คนสองคนมีให้กัน ไม่ใช่ชายกับหญิงนะครับ แต่เป็น ‘คนสองคน’ ”
...
คำตอบของตั้วทำให้ผมนิ่งและหยุดคิดถึงอะไรบางอย่างเกี่ยวกับคำพูดของตั้วสักพัก สิ่งนี้ มันเกี่ยวกับไอต่อและผมโดยตรงเลย แต่ผมไม่อยากนึกถึงมันเท่าไหร่
จริงด้วย ความรักมันเป็นเรื่องของคนสองคนนี่นา ไม่ใช่เฉพาะชายกะหญิง แต่เป็นคนสองคน
มันอาจเป็นบางสิ่งบางอย่างที่จะทำให้ผมเข้าใจตัวเอง
“อ่อ เหรอ ครูก็...เหมือนกัน”
ตั้วหันมาแล้วยิ้มกว้างให้ผม
น่ารัก
มันดูคล้ายๆไอต่อตอนที่ผมรู้จักกับมันใหม่ๆเลย
“เอ่อ...ตั้ว”ผมเรียกตั้วอีกครั้ง
“มีไรเหรอครับ”
“จะเป็นไรมั้ย ถ้าครู...ชอบตั้ว”ผมใช้โอกาสนี่ โอกาสที่มีแค่เราสองคนถามไป
“...”ตั้วเงยหน้าจากการก้มกวาดพื้นขึ้นโดยที่ไม่มองหน้าผมและไม่พูดอะไรเลย
“ตั้ว...”ผมเรียกตั้ว
“เอ่อ...ผม...ทำเวรเสร็จแล้วล่ะครับ กลับคอนโดกันเถอะ ป่านนี้ครูต่อคงรอนานแล้วล่ะครับ”ตั้วพยายามนอกเรื่องอย่างเห็นได้ชัด แต่ผมก็ไม่ทักท้วงอะไร เพราะผมรู้ว่าตั้วก็คงรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ ผมไม่อยากให้ตั้วรู้สึกแย่ไปกว่านี้หรอกครับ
“เฮ้ย ทำไรอยู่วะ นานจัง”ไอต่อซึ่งนั่งรอพวกเราอยู่ที่ม้านั่งใกล้ลานจอดรถลุกขึ้นถามพร้อมบิดขี้เกียจ
“อ่อ...คือ...”ผมพยายามพูด
“ผมทำเวรน่ะครับ”ตั้วตอบตัดหน้าผมไป
“ตั้วทำเวรเหรอ ขยันจัง”ทำเวรมันก็เป็นเรื่องธรรมดา ขยันตรงไหน
“ไปกันได้แล้วล่ะ ขึ้นรถ”ผมพูดพร้อมเปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่ง ส่วนไอต่อก็บริการตั้วอย่างดี มันทำเหมือนที่มันทำเมื่อเช้าไม่มีผิด และแน่นอน ผมนั่งเงียบตลอดทางเสมอ
zzzzzz
ตอนนี้ผมอยู่ที่คอนโดน นั่งคิดนอนคิดถึงเรื่องเมื่อเย็นอยู่นาน ทั้งคำพูดของตั้ว และสิ่งที่ผมถามตั้วไป ผมว่า...ผมอาจต้องปรึกษาไอต่อ ว่าสิ่งใดมันทำให้ผมเป็นแบบนี้
ผมเดินออกจากห้องแบบเงียบๆแล้วไปเคาะห้องไอต่อ
Knock Knock Knock
“ตั้วเหรอคร้าบ อ่าว มึงนี่เอง”ไร แค่ตั้วไม่ได้มาเคาะห้องมึงอารมณ์เสียเหรอ
“เออ กูเองแหละ กูมีเรื่องอยากปรึกษา”ผมตอบแล้วเดินเข้าไปในห้อง นั่งลงบนโซฟายาวสีเขียวที่ตั้งอยู่หน้าโทรทัศน์ในห้องมัน ไม่นานนัก มันก็มานั่งลง นั่งข้างๆผมเลย
“อะไรล่ะมึงน่ะ เป็นบ้าเหรอ”มันถามกวน
“น่าจะใช่ว่ะ มึงคิดว่า กูเป็นไงกะตั้ววะ”ผมเริ่มถาม
“พวกมึง ก็ดูธรรมดานิ่ ไม่เห็นมีไร”
“ทำไมจะไม่มี”
“อ่ะงั้นถ้ามีมึงเป็นไร”
ได้ ผมจะบอกทุกสิ่งที่ผมเคยรู้สึก ทุกสิ่งที่ผมเคยคิดเคยทำกับตั้ว
“คือ...เวลาที่กูอยู่กะตั้ว หลายครั้งที่กูคิดว่าตัวเองมีความสุข กูรู้สึกดีเวลาที่กูได้อยู่ใกล้ๆเด็กคนนั้น หัวใจกู มันเต้นแรงทุกครั้งเวลาที่กูอยู่กะตั้วแค่ 2 คน เหมือนเมื่อเย็นนี้” ผมพอบอกสิ่งที่เกิดขึ้นได้นิดหน่อย
“ไอมาร์ช นี่มึงอย่าบอกนะว่า...”
“กูว่าน่าจะเป็นอย่างงั้นนะ”ผมตอบ
“แต่...มึงก็รู้ว่ากูชอบตั้ว...ทำไมมึงต้องมายุ่งกะกูด้วยล่ะ”มันลุกขึ้นแล้วเริ่มใช้เสียงดัง
“แล้วมึงห้ามไม่ให้คนรักกันได้เหรอวะ”ผมลุกขึ้นและใช้เสียงดังเหมือนกัน เพื่อไม่แสดงถึงความตกต่ำ
“กู...กูไม่สน...ตั้วของกู”มันดื้อชะมัด
“ได้ มึงรู้รึเปล่า ว่าวันนี้น่ะ กูบอกชอบตั้วไปแล้ว”ผมบอกอย่างสะใจ
“ตกลงนี่มึงชอบตั้วจริงๆใช่ไหม”ไอต่อถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“ใช่ แล้วกกูก็...อุ๊บ”...
ไอต่ออยู่ๆก็ดึงผมเข้าไปแล้วจูบผมทันทีแบบที่ว่าไม่ปล่อยให้ผมพูดก่อน ผมไม่รู้ว่าเรื่องนี่มันเกิดอะไรขึ้น ผมคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะมีอยู่แค่นี้ แต่ลิ้นแกร่งของมันกลับเข้ามาความหาความหวานไปทั่วช่องปาก
ผมไม่ได้ห้ามอะไรมันหรอก
Tou’s part
“โอ้ยๆๆๆ”ผมอุทานออกมาพร้อมใช้มือสองข้างเกาหัวจนยุ่งไปหมด ก็การบ้านวิชาเลขมันยากซะขนาดนี้เนี่ย
“ทำไงดีเนี่ย คิดไม่ออกอ่ะ”ผมคิด
จริงด้วย เราจะกลัวอะไร คนสั่งการบ้านเขาเป็นคนข้างห้องเรา อีกอย่าง ถ้าเราไปถามครูต่อก็คงไม่ปฏิเสธหรอก
ผมคว้าสมุดการบ้านเจ้าปัญหาพร้อมปากกาน้ำเงินหนึ่งด้ามออกมาแล้วมายืนหน้าห้องครูต่อ
ผมเอื้อมมือไปที่ลูกบิดประตูแล้วบิดมัน เปิดมันออกเบาแบบว่าไม่มีเสียงเลย
ไม่มีใครทักผมเลย แสดงว่าผมเปิดประตูได้เงียบจริงๆ
เมื่อประตูอ้าออกพอสมควร ผมกระเถิบตัวเข้าไปในห้องของครูต่อผ่านช่องเล็กๆที่เกิดจากการเปิดประตู เพราะผมมีแผนเด็ดกะจะเข้ามาแกล้งหลอกให้ครูต่อตกใจด้วยแหละ
ผมเดินเข้าไป...
...
ภาพที่ผมเห็นคือครูมาร์ชกำลังจูบกลับครูต่อ ผมรู้ด้วยว่าพวกเขาถึงขั้นเล่นลิ้นกัน ผมคงไม่สงสัยอะไรอีกแล้วล่ะ
พวกเขาสองคนดูมีความสุขกันมากสินะ ผมนี่แย่จริงๆที่เข้ามา ผมจึงเดินออกจากห้องแล้วปิดประตูให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อไม่ให้พวกเขาได้ยิน
ผมไม่สงสัยอะไรแล้วล่ะ
March’s part
ไอต่อผละจูบดูดดื่มนั้นออกมา มันเป็นเวลาที่ผมรอคอยเลยแหละ
“มาร์ช”มันเรียก
ผมเงยหน้าไปมองมันทั้งๆที่ไม่อยากมอง
“นานแค่ไหนแล้วนะ ที่เราไม่ได้จูบกันแบบนี้”มันถาม
“กู...กูก็จำไม่ได้เหมือนกัน”ผมตอบเบาๆ
ÐÑÐÑÐÑÐÑÐÑÐÑÐÑÐÑÐÑÐÑÐÑÐÑÐÑ
เอาล่ะ ได้ลงสักที ตอนนี้ไรท์ใช้เนื้อหาที่มีจำกัดส่วนใหญ่ไปกับการขยายเรื่องต่างๆของมาร์ชจ้า
บางคนบอกว่า หายไปนานเลยนะไรท์คนนี้ คือที่โรงเรียนของไรท์มีกิจกรรมมากมายเลยช่วงนี้ ไหนจะปีใหม่ ไหนจะมีคริสต์มาส และที่หนักสุด สอบกลางภาค แม่เจ้า
ตอนนี้ไรท์และเพื่อนๆเหลือสอบวันศุกร์อีกวันเดียวจ้า ส่วนสอบวันอื่น ไรท์ใช้เวลาว่างส่วนใหญ่ไปกับการอ่านหนังสือ รีดเดอร์หลายๆคนคงเข้าใจไรท์ ว่าในชีวิตของการเป็นนักเรียน การสอบสำคัญแค่ไหน มันมีอิทธิพลต่อหลายสิ่งหลายอย่างของไรท์เลยล่ะ
นี่อาจจะเป็นตอนสุดท้ายของปีนี้นะจ๊ะ ที่เหลือก็ขอให้ทุกคนมีความสุขช่วงวันปีใหม่นะ ใครที่เดินทางกลับภูมิลำเนาเหมือนไรท์ ก็ขอให้เดินทางอย่างสวัสดิภาพจ้า หวังสิ่งใดขอให้สมปรารถนา ขอให้ปีหน้าเป็นปีที่ดีของรีดเดอร์ทุกคนจ้า แล้วก็อย่าลืมติดตามฟิคของไรท์นะจ๊ะ ขอบคุณทุกคนที่ยังอ่านฟิคของไรท์อยู่ เป็นกำลังใจที่ดีมากเลย
ขอบคุณจ้า
ความคิดเห็น