คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : 2 การเดินทาง
วันที่สองหมูตื่นนอนตอนตี4 เพื่อทำธุระส่วนตัวและเตรียมตัวที่จะทำงานในวันนี้ ซึ่งมีกำหนดขึ้นไปยังหมู่บ้านที่ได้กำหนดไว้ตั้งแต่ต้น
หมูเดินลงมาจากตึกจนมาถึงห้องน้ำแล้วจัดการล้างหน้าแปรงฟัน บรรยากาศมืดมิด ลมพัดมาโดนตัว เขามองซ้ายมองขวาไม่มีใครเลยแม้แต่คนเดียว หมูรีบแปรงฟันเพื่อจะได้รีบขึ้นไปบนห้อง ทันใดนั้นเขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินก้าวมายังที่ๆเขาอยู่
หมูไม่รู้ว่าเป็นใคร จะว่าไปโรงเรียนเรามีประวัติมากมายเลย ทั้งศพของอาจารย์ใหญ่ที่ถูกฝังไว้ใต้อาคารที่ผู้หญิงนอนหรือ ชายโบราณที่ตึกเตี้ย หรือเรื่องที่มีคนตายในขณะที่สร้างตึกที่ใช้เก็บสัมภาระในวันแรกก็มีหรือเหล่านักเรียนที่ตายไปช่วงมีชีวิตอยู่แล้วจิตผูกพันกับโรงเรียนก็มี ให้ตายเถอะเขาคิดอะไรกันอยู่ เสียงเท้านั้นเข้ามาใกล้แล้ว
ทันใดนั้น
“อ้าว หมูลงมาแต่เช้าเลยนะ”เบสถือขันพร้อมกับแปรงสีฟันเข้ามาในห้องน้ำก่อนจะเห็นหมูที่ฟองยาสีฟันเต็มปาก
“เช้าที่ไหน ตีสี่แล้ว”หมูบอกก่อนจะล้างหน้าล้างตา
“อยู่ด้วยกันก่อน”เบสบอก
“ก็ได้”หมูยืนรออยู่อยู่หน้ากระจกหน้าห้องน้ำก่อนส่องดูหน้าตาตัวเอง เข้าเห็นผู้หญิงใส่ชุดพละของโรงเรียนเข้าเดินอยู่ห่างออกไป
“คงจะเป็นสักคนละ”หมูพูดกับตัวเอง ก่อนที่เบสจะออกมาและก็เดินไปยังห้องที่เราพัก ส่วนผู้หญิงคนนั้นหลังจากที่ทั้งคู่หลังให้เธอก็หายตัวไปทันที
หมูกะเบสเดินขึ้นมาถึงห้องพัก แล้วก็เอาของเก็บแล้วจัดการเต็มกระเป๋าเพื่อจะขนขึ้นดอย ในขณะที่บ้างคนยังสลบอยู่ในถุงนอนอยู่
“รีบตื่นทำไมวะ”ก้องตื่นขึ้นมาถามหลังจากที่มีเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ
“ตีห้าแล้ว เขาก็เริ่มตื่นกันแล้วละ”หมูบอกก้อง
ก้องยกนาฬิกาขึ้นมาดูก่อนจะหลับต่อโดยไม่สนใจอะไร
ส่วนคนอื่นๆที่ตื่นมาก็ทยอยลงไปทำธุระส่วนตัวกันแล้วก็ขึ้นมาเก็บของเพื่อเตรียมขึ้นดอย
จนกระทั่งตีห้าครึ่งความวุ่นวายไม่แค่ห้องเดียวแต่เป็นทั้งตึกเริ่มขึ้น มันสามารถปลุกคนที่ยังนอนอยู่ได้ดีเลย
ทุกคนในแต่ละห้องรีบเก็บสัมภาระที่จะต้องขึ้นดอยกันมีแต่ห้องของเจ้าภาพที่มีบางคนออกมานั่งรอเวลาแล้ว
“พี่หมู พี่คิดว่าเราจะเจออะไรบ้าง”น้องพีพีเอ่ยถามถึงเรื่องวันนี้
“พี่คิดว่านะ เราจะได้เจอวิวน้ำตกสวยๆที่มีหมอกลงเป็นชั้นๆ”หมูพรรณนา
“ก็ดีนะ”น้องพีพีบอก
6.30น.
นักเรียนทั้งหมดไปรวมตัวกันที่โรงอาหารเพื่อรับประทานอาหารเช้ากัน ทีมงานเองก็มานั่งกินข้าวเหมือนกัน
“ต้องแยกกันแล้ว เตรียมตัวไว้เลย”ม่อนมาเป็นกำลังใจให้
“แล้วพี่ละ”ปังปอนถาม
“พี่ก็ไม่ได้ขึ้นดอยหรอก พี่จะไปเที่ยวสักหน่อย”ม่อนบอก
“ชิวๆจริงๆ”พีพีบอก
“พระเจ้าคุ้มครองทุกคนนะทำหน้าที่เจ้าภาพให้ดีละกัน”ม่อนอวยพรตามภาษาคนคริสต์
“ครับพี่”ทุกคนรับพรก่อนจะรีบเก็บโต๊ะแล้วหันไปเตรียมยกสัมภาระขึ้นรถเมล์
โดยที่ทางด้านโรงเรียนจากกรุงเทพที่มีรถบัสมา ก็ใช้รถของตัวเองเพื่อไปยังสถานที่แรกส่วนโรงเรียนที่ไม่มีรถบัสมารวมทั้งโรงเรียนเจ้าภาพด้วย ทางเจ้าภาพได้จัดรถเมล์มาให้สองคันมารับส่ง
เมื่อถึงกำหนด นักเรียนก็ทยอยขึ้นรถที่จัดกันไว้ ส่วนเจ้าภาพแยกไปประจำรถเมล์สองคัน
ไม่ช้ารถแต่ละคันก็แล่นออกจากโรงเรียนไปสู่เป้าหมายแรกที่จอมทอง ระหว่างทางพวกเราก็เสวนากันไปจนทันใดนั้น รถก็เบียดเข้าซ้ายก็จะจอด
“นักเรียนรถเราเสียนะ เดียวเขาจะส่งรถคันใหม่มารับ”ครูที่คุมรถคันนี้ขึ้นมาประกาศ ทำให้นักเรียนบางคนถึงกับเซ็งไปเลย ก่อนที่จะลงจากรถาส่วนพวกผู้ชายก็ช่วยกันขนสัมภาระลงจากรถ เพื่อมานั่งรอรถคันใหม่
หลังจากลงจากรถมาแล้ว นักเรียนและอาจารย์ที่คุมนักเรียนแต่ละโรงเรียนก็แยกกันไปนั่งเป็นกลุ่มคุยสนทนากัน
แต่มีปังปอน ก้องและหมูที่คอยเดินป่วนปล่อยมุขสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะกัน
รอได้ประมาณสิบห้านาทีได้ รถคันใหม่ก็มา นักเรียนยกสัมภาระขึ้นรถอีกครั้งหลังจากนั้นก็ทยอยขึ้นรถกันจนหมด รถแล่นออกจากจุดนั้น ทิ้งรถที่เสียไว้ตรงนั้น
รถเมล์สี่ส้มแล่นออกนอกเมื่อไปเรื่อยๆ บรรยากาศสองข้างทางเป็นบ้านเรือนสลับทุ่งนาสีเหลืองทองของรวงข้าว มีกลิ่นหอมลอยมาเตะจมูกตลอดเวลา
เรานั่งเล่นต่อเพลงกันไปมาไม่นานรถก็เข้าถึงเขตจอมทอง ก่อนจะลัดเข้าซอยที่มีทุ่งนาสองข้างทางมองไปไกลๆมีดอยอินทนนท์เป็นฉากหลัง ไม่นานรถก็มาถึงจุดนัดพบ นักเรียนนั่งรออยู่เป็นหมู่บ้าน รถแล่นเลยไปเพื่อกลับรถก่อนจะ กลับมาจอดให้นักเรียนลง
นักเรียนทยอยลงพร้อมสัมภาระของตนแล้วตรงไปเข้าแถวตามหมู่บ้านของตน
“มาช้าจังเลยวะ”ปังปอนถาม
“รถเสีย”หมูตอบ
“ถือเลย”ปังปอนยื่นป้ายหมู่บ้านให้หมูถือ
หมูรับป้ายมาก่อนจะเดินไปยืนที่หัวแถวก่อนปังปอนจะเดินไปนั่งท้ายแถว ช่างรักเพื่อนจริงๆ
“ถึงเวลาแล้ว หมู่บ้านแรก ป่ากล้วยลุกแล้วเอาสัมภาระไปยังรถคันแรกเลย”อาจารย์โอเรียกหมู่บ้านแรกให้ลุกขึ้นแล้วนสัมภาระไปไว้ที่รถคันแรก อาจารย์อีกสองคนและเอิร์ทกับฟลุ๊กช่วยจัดคนขึ้นรถ
พวกเราได้ขึ้นรถเป็นคันที่สอง ก็ที่สมาชิกหมู่บ้านจะนำของไปไว้รถคันที่สองต่อจากอีกคันแรก ก่อนจะเดินมาขึ้นรถที่อยู่ด้านหลัง กลุ่มของผู้หญิงแยกไปขึ้นรถกระบะคันแรก ส่วนผู้ชายก็แยกขึ้นรถที่เหลืออีกสี่คัน
ปังปอน หมู น้องพีพีเดินไปขึ้นรถคันที่หา และมีพี่อีกสองคนมาขึ้นด้วยก่อนที่รถจะออกก็มีพี่อีกสองคนมาขึ้นรถ
“พี่เศษ พี่โอ๊ตไปด้วยหรือ”ปังปอนเอ่ยทักรุ่นพี่อีกสองคน
“อืมๆ”ทั้งคู่ตอบพร้อมกัน
ก่อนที่รถจะแล่นออกไป เพื่อไปสู่เป้าหมายที่สอง น้ำตกแม่ยะ ระหว่างรถเคลื่อนไปตามถนนก็มีการเสวนากัน
“พี่สองคนชื่ออะไรบ้างละครับ และโรงเรียนอะไรบ้าง”ปังปอนถาม
“พี่ชื่อ เบส จากระนอง สายศิลป์”เบสจากระนองแนะนำตัว
“พี่ชื่อกี้ จากกรุงเทพ สายวิทย์”กี้แนะนำเป็นคนที่สอง
“พี่เศษพี่ติดคณะอะไรนะ”ปังปอนหันไปถามเศษที่นั่งอยู่ขอบกระบะ
“พี่ติด คณะวิทยาศาสตร์ โครงการพิเศษ”เศษบอก
“อิจฉาจัง แล้วพี่สองคนละ”น้องพีพีอิจฉาก่อนจะหันไปถามพี่เบสกับพี่กี้
“พี่จะเข้านิเทศ สื่อและเสียง จุฬา”เบสบอก
“พี่ยังไม่ได้คิดเลย”พี่กี้บอก
“พี่ยังไม่ได้คิดเลยหรือ”ปังปอนถึงกับงง
“คือพวกผมคิดไว้แล้ว แค่ม.4เอง”หมูอธิบายขยายความปังปอน
“พี่ก็พึงมาคิดตอนม.5เองนะ”พี่เบสบอก
“ม.4ที่เชียงใหม่เข้าให้คิดไว้แล้ว เด็กเชียงใหม่ก็มีแค่ หมอไม่ก็ทันตะไม่ก็เภสัชเท่านั้น ”พี่เศษขยายความต่อ
“อย่านี้เอง”พี่เบสเข้าใจ
ไม่นานรถก็มาถึงเป้าหมายที่สองคือ น้ำตกแม่ยะ
“นักเรียนไปกินข้าวในน้ำตกแล้วเก็บด้วยนะ”อาจารย์กันประกาศให้นักเรียนทราบก่อนที่นักเรียนจะเดินเข้าไปในน้ำตกแม่ยะ เขตอุทยานดอยอินทนนท์
เมื่อมาถึงน้ำตกนักเรียนที่มาถึงก็แยกกันไปตามที่ว่างๆแถวน้ำตก บางคนก็ลงเล่นน้ำที่น้ำตก บางคนก็นั่งกินข้าว
หมู ปังปอน น้องพีพี นั่งเล่นกันที่ลานหินใกล้น้ำตกก่อนจะนักเรียนของโรงเรียนเจ้าภาพมานั่งกินด้วย หมูใช่เวลาทานข้าวไม่นานก็ลุกออกจากวงนั้นไปก่อนจะออกเพื่อเอาขยะไปทิ้งก่อนจะเห็นเด็กผู้หญิงสองนั่งทานข้าวอยู่ที่ม้านั่ง
“พวกเธอ”หมูจะเข้าไปทักแต่อยู่ก็เกิดอาการเดิมขึ้นมาแต่หมูก็ทำหน้าตายสู้
“มีอะไรหรือ”นัทถาม
“พวกเธออยู่ลำปางใช่ไม”หมูถาม
“ใช่ๆ”นัทตอบ
“เธอรู้จัก เมย์ สุวิมล ไม”หมูถาม
“...อ้อ เรียนเก่งมากเลยนะ ติดที่เชียงใหม่คนเดียวสะด้วย”นัทบอก
“ขอบใจมากนะ”หมูรีบขอบคุณเพราะเริ่มจะสู่อาการไม่ไหวแล้วก่อนจะรีบเดินออกไป
“นัท นัท นัท”เพื่อนข้างๆนั้นเรียกเธอ
“อะไร”นัทสะดุด ขึ้นมาหลังจากที่มองตามหลังหมูไป
“เป็นอะไรหรือป่าว”เพื่อนถาม
“ไม่มีอะไรหรอก”นัทตอบ
หมูเดินไปยังชั้นบนสุดของน้ำตกซึ่งทางขึ้นก็ไม่ได้ลำบากอะไรมาก ก่อนจะเดินลงมารวมกลุ่มกะโรงเรียนของตน
“นักเรียนบ้านตีนตก ป่ากล้วย ขึ้นได้แล้ว รถจะออกแล้ว”อาจารย์โอที่พึ่งตามขึ้นมาเรียกนักเรียนสองหมู่บ้านนี้
“ปะ”หมูรีบเดินออกจากน้ำตกก่อนใครเพื่อน
ก่อนจะมายืนรอพร้อมป้ายหมู่บ้านมารอ โดยมีเจเจยืนอยู่ข้างๆ
ไม่นานสมาชิกในหมู่บ้านก็มารวมตัวกันจับกลุ่มเพื่อเตรียมตัวขึ้นรถ
ทุกคนในหมู่บ้านแยกกันไปขึ้นรถไม่ช้า รถก็ออกจากน้ำตกแม่ยะสู่หมู่บ้านของเรา “ตีนตก”
ทางขึ้นหมู่บ้านเป็นทางชันลัดไปตามแนวเขาซึ่งวิวสวยมาก
รถที่หมู ปังปอนนั่งนั้นเกิดเสียขณะที่กำลังไต่ขึ้นเนินทำเอารถติดยาวเลย แต่ชาวบ้านก็พอมีความรู้สามารถซ่อมรถได้ รถกลับมาใช่ได้อีกครั้ง พวกเรารีบกระโดดขึ้นรถก่อนที่รถจะพุ่งออกตัวอย่างรวดเร็ว
ระหว่างทางพี่เบสก็เอากล้องถ่ายรูปวิวข้างทางซึ่งเป็นนาขั้นบันได แล้วก็มีวิวของตัวเมืองจอมทองซึ่งเราพึ่งจะจากมาท่ามกลางกลุ่มเมฆที่เมื่อเช้าเป็นทะเลหมอก เวลาตอนนี้บ่าย2โมงแดดร้อนมากเพราะใกล้กับดวงอาทิตย์
ระหว่างทางก็คุยกันเรื่องกล้องถ่ายรูป เรื่องชมรมถ่ายภาพ บ้าง การเรียนบ้างจนกระทั่งมาถึงหมู่บ้าน
เมื่อลงจากรถได้ ก็เกิดอาการปวดเมื่อยกันด้วยระยะทางที่ไกล
เมื่อมาถึงนักเรียนก็เอากระเป๋าลงจากรถมาวางหน้าโบสถ์คริสต์ ก่อนจะนั่งรอการจัดสรรของคณะอาจารย์กับผู้ใหญ่บ้าน
ไม่นานอาจารย์กันก็กลับมา
“นักเรียนนี้คือรายชื่อของแต่ละบ้านนะ”อาจารย์กันเอ่ยนำ
ก่อนจะแยกผู้หญิงก่อนและต่อด้วยผู้ชาย บ้านแต่ละบ้านถูกแยกออกหลังละ3คนบางหลังก็มี4คน
ปังปอน อยู่กับเด็กจากชลบุรี น้องพีพีแยกไปอยู่กับเด็กจากฉะเชิงเทรา และพานิช
พี่เจเจแยกไปอยู่กับเด็กจากชลบุรีและบางรัก
ส่วนหมูได้อยู่กับพี่กี้และเด็กจากชลบุรีและบางรักและพี่โอ๊ต
หลังจากนั้นต่างคนต่างก็แยกกันไปตามบ้านที่กำหนด
บ้านเรามีเจ้าของชื่อ พ่อเกษมและแม่บัวคำซึ่งเมื่อปี่ที่แล้วหมูได้เคยมาพักที่บ้านของท่านทั้งสอง
ไม่นานแม่บัวคำก็มาถึงและรับพวกเราไปยังบ้าน
“แม่ จำผมได้ก้อ”หมูเอ่ยถาม
“จำได้ จำได้”แม่บัวคำมองหน้าก็จะนึกออก
“๑โอ มุด เชอ เปอ”หมูทักทายเป็นภาษาปกา กะ ญอ
“โอ มุด เชอ เปอ “แม่บัวคำทักทายกลับ
“นี้ เป็นเปื้อนที่จะอยู่โตยเน้อแม่”หมูแนะนำทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องที่จะมาพักที่บ้านหลังดียวกัน
“โอ มุด เชอ เปอ”พี่กี้เอ่ยต่อก่อนที่ทุกคนจะเรียงตัวกันมาทักทาย
“บ้านหลังนี้เลยเน้อ”แม่บัวคำชี้ไปยังบ้านใหญ่ที่อยู่ไปใกล้จากที่ยืน
โอ มุด เชอ เปอ เป็นการทักทายของชนเผ่า ปกา กะ ญอ
“บ้านใหญ่กะ แม่”หมูถาม
“จ้า”แม่บัวคำบอก
หมูเดินนำขึ้นบ้านไปก่อนแล้วก็จัดกระเป๋า แม่บัวคำได้จัดที่นอนผ้าห่มให้เรียบร้อย
“พี่กี้ไปจะนอนไหน”หมูเอ่ยถาม
“ปันจะนอนไหน”พี่กี้หันไปถามสมาชิกที่ตัวเล็กที่สุดในบ้าน
“นอนตรงนี้เลย”ปันเด็กน้อย ป.6จากบางรักรีบเข้าไปนั่งจับจ้องที่นอนของตน
“งั้นพี่นอนนี้แล้วละกัน”พี่กี้เดินไปไว้สัมภาระที่ข้างนอนน้องปัน
“ผมเอาตรงนี้ละกัน”หมูวางกระเป๋าลงที่ที่นอนที่ใกล้ที่นั่ง
พี่โอ๊ตนอนริมสุดด้านใกล้ผนัง ส่วนเด็กศรีราชานอนใกล้พี่กี้
หลังจากที่จัดการสัมภาระก็พากันไปอาบน้ำหมูเดินไปยังห้องครัวซึ่งเป็นบ้านหลังเก่าสุดของครอบครัวนี้
“ของกิ๋นมียังพองกาแม่”หมูถามแม่บัวคำที่กำลังก่อไฟเพื่อประกอบอาหาร
“ของที่ลูกได้มามีไหน”แม่บัวคำถาม
“แม่ อยู่บนบ้านเดี๋ยวผมไปเอามาเน้อ”หมูนึกออกว่าเสบียงที่ได้รับจากกองกลางถูกขนขึ้นบนบ้านหมดเลย
“จ้า จ้า”แม่บัวคำรับ ก่อนหมูจะเดินลงจากห้องครัวเดินกลับบ้านหลังใหญ่
พี่กี้กับน้องปันอาบน้ำเสร็จพอดีเลยจะอาสาเอาเสบียงที่ได้มาไปให้แม่ที่ห้องครัว
ก่อนที่หมูจะลงมาอาบน้ำ
น้ำแม้จะไม่หนาวเต็มขั้นแต่มันก็ทำให้สะท้านได้เมื่อโดนตัวแค่นิดเดียว หมูรีบอาบน้ำ สระผม ล้างหน้าก่อนจะรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะรีบไปยังห้องครัวที่มีไฟให้ความอบอุ่นรอยู่
เมื่อมาถึงห้องครัวหมูก็รีบไปนั่งใกล้ที่ประกอบอาหารเพื่อรับความอบอุ่นจากไฟ
ในห้องครัวไม่ใช่มีแค่พี่กี้ น้องปัน แม่บัวคำ ยังมีแมวสองแม่ลูกมานั่งพิงไฟด้วย
“มีอะไรกินบ้าง”น้ำเสียงกวนๆดังขึ้นมาพร้อมกับการปรากฏตัวของชายคนหนึ่งซึ่งหมูรู้ว่าใคร
“มี ๑ออม แม ครู กะศวร”แม่บัวคำเอ่ยบอก
“ออม แม เสร็จพอดีเลย”อาจารย์กะศวรตอบกลับ
แม่บัวคำจัดสำรับข้าวให้พวกเรา หมูที่พอจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรก็ช่วยแม่บัวคำจัดสำรับส่วนที่เหลือออกไปรอที่ชายคาระเบียงหน้าห้องครัวเพื่อรอรับประทานอาหารในมื้อแรกบนดอย
มื้อแรกบนดอยนี้มีไข่เจียว ปลาแห้งทอด ต้มเส้นหมี่ หมี่ผัด และก็ข้าวดอยซึ่งแตกต่างจากข้าวหอมมะลิอยู่
มาก
๑ ออม แม ภาษาปกา กะ ญอ แปลว่า กินข้าว
หลังจากที่ลงมือกินข้าว อาหารมื้อแรกแทบจะไม่มีรสชาติเลย อาจจะเป็นเพราะชาวบ้านที่นี้ไม่มีเครื่องปรุงรสเหมือนพื้นราบ
“๒ออม บุ๊ๆ นะลูก ครู อาจารย์” แม่บัวคำบอกก่อนจะยิ้มอย่างจริงใจจริงๆ
“ครับ”หมูที่พอจะรู้เรื่องรับก็จะยิ้มตอบ
ฟ้าค่อยๆค่ำลงเวลาหกโมงก็แทบจะมืดสนิทแล้ว
“กินข้าวนักเรียน”อาจารย์กะศวรเอ่ยเรียกคนที่กำลังเดินตามความมืดมา
“กินแล้วค่ะ อาจารย์”เสียงผู้หญิงตอบมา เธอคือนัทกับผู้หญิงอีกคน
“กินกับอะไรนักเรียน”อาจารย์กะศวรถามต่อ
“ปลากระป๋องค่ะ”นัทตอบ
“เขานัดตอนทุ่มนะไปรอที่โบสถ์เลยก็ได้”อาจารย์กะศวรบอก
“ค่ะ”นัทตอบก่อนจะจับมือเด็กสาวเดินขึ้นไปยังโบสถ์
“ว่าแต่น้องศรีราชาชื่ออะไร”พี่กี้เอ่ยถามสมาชิกในบ้านที่ยังไม่ได้แนะนำตัว
“ผมชื่อกู้ครับ”กู้แนะนำตัว
“กู้กับหมูล้างจานนะ”พี่กี้บอก
“ได้พี้กี้”หมูรับ แต่ใจอยากจะไปโบสถ์เต็มทน
หลังจากกินข้าวเสร็จทุกคนหมูกับกู้รีบจัดการล้างจานอย่างเร็วก่อนที่หมูจะไปเอาไฟฉายที่บ้านพักมาก่อนจะวิ่งขึ้นไปโบสถ์ก่อนใคร
เมื่อมาถึงโบสถ์ก็ ครูคำสอนประจำหมู่บ้านพร้อมลูกสาวมานั่งอยู่หน้าโบสถ์เพื่อเวลา
“ครูจำผมได้ก้อ”หมูเข้าไปทัก
“จำได้ จำหน้าได้แต่จำชื่อไม่ได้”ครูคำสอนบอก
“ผมชื่อหมู”หมูแนะนำชื่ออีกครั้งก่อนจะเห็นลูกสาวของครูคำสอนที่ปีที่แล้วยังถูกแม่อุ้มอยู่แต่ตอนนี้วิ่งเล่นได้สบายๆเลย
จนกระทั่งทุ่มตรง เสียงระฆังหน้าโบสถ์ก็ถูกตีเพื่อสัญญาให้คนมาร่วมกันเพื่อทำ พิธีกรรมทางศาสนาประจำวัน ในโบสถ์มีการแยกชายหญิงด้วยเส้นซึ่งปูด้วยกระเบื้องแต่ก็ไม่ได้ถืออะไรถ้าคนมีด้านใดด้านหนึ่งมีจำนวนมากเกิน
พิธีกรรมเริ่มขึ้น โดยภาษาปกา กะ ญอ เพื่อบูชาพระเจ้าของศาสนาคริสต์ ใช้เวลาประมาณ30นาทีก็จบลง
๒ออม บุ๊ๆ ภาษาปกา กะญอ แปลว่า กินให้อิ่ม
พ่อแม่ต่างกลับบ้านเพื่อเตรียมตัวพักผ่อนส่วนนักเรียนยังอยู่ในโบสถ์เพื่อแนะนำตัวเองสร้างความสนิทสนมและซ้อมเพลงที่ใช้ร้อนในคืนพรุ่งนี้
หมู ปังปอน น้องพีพีกับเจเจนั่งคุยกันเรื่องวันพรุ่งนี้ที่ต้องออกไปช่วยงานพ่อแม่ของแต่ละบ้าน
“บ้านแกมีใครบ้าง”หมูถามปังปอน
“มีตะวัน เจ็ท ใครอีกวะ และข้า”ปังปอนบอก
“บ้านพีพีละ”เจเจถาม
“บ้านผมมีเด็กบางรักคนหนึ่ง ฉะเชิงเทราคนหนึ่งแล้วใครนะ”น้องพีพีก็จำอีกคนไม่ได้เหมือนกัน
“หมูละ”เจเจถามต่อมายังหมู
“ผมมี พี่กี้ มีน้องปัน มีกู้”หมูตอบได้ครบ
“พี่มี น้องกราฟ จำได้คนเดียวจริงๆ”เจเจตอบ
“พรุ่งนี้ไปช่วยงานพ่อแม่เหนื่อยแน่เตรียมตัวไว้เลย แถมตอนบ่ายยังไปเดินป่าอีกอย่างน้อยก็มีหลับกลางอากาศแน่ถามไม่รีบหลับตอนนี้”เจเจเอ่ยถึงเรื่องในวันพรุ่งนี้
“พี่งั้นเรารีบไปนอนดีกว่า”น้องพีพีเสนอ
“ดีนะแต่ตกดึกขนาดนี้คงต้องเดินลงไปส่งละ”หมูจะลงไปส่งทุกคนน้องก่อนที่ทั้งสี่จะลุกเดินลงไปหน้าหมู่บ้าน
จากโบสถ์ถึงหน้าหมู่บ้านไม่ใกล้มากแต่สำหรับที่พักของหมูมันคือคนละด้านกันเลย
เมื่อเดินลงมาถึงหน้าหมู่บ้านก็เห็นกองไฟเล็กถูกก่อขึ้นมาพร้อมกลุ่มเด็กศรีราชานำทีมด้วยตะวันและเจ็ท
ปังปอนกับน้องพีพีจึงเดินเข้าไปรวมกลุ่มส่วนหมูกับเจเจจะเดินกลับบ้านที่พัก
“เดี๋ยวหมู”เสียงของกู้เรียกหมู
“มีอะไร”หมูถาม
“ถ้าดึกเดี๋ยวข้านอนนี้เลยนะ”กู้บอก
“ได้ๆ”หมูตกลงก่อนจะเดินลัดไปตามทางที่เชื่อมทางระหว่างส่วนหน้าหมู่บ้านกับบ้านที่หมูพัก
“ยังไม่หลับอีกเหรอ”เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งถาม
“อ้าวนัทยังไม่นอนอีกหรือ”หมูหันไปเห็นหน้านัทก็ใจสั้นแต่ก็ต้องทำหน้าตายพูด
“เดี๋ยวก็นอนแล้ว”นัทตอบ
“ฝันดีนะ”หมูอวยพร
“ขอบใจจ้า”นัทบอกก่อนจะขึ้นบ้านไป
หมูเดินไปต่อก่อนจะใช้หางตามองเจเจที่อมยิ้มเล็กๆ
แต่หมูก็ไม่ได้สนใจอะไรไม่นานก็มาถึงที่พักของทั้งคู่
“ขอบใจมากนะหมู”เจเจขอบใจหมู
“ไม่เป็นไรพี่”หมุบอกก่อนจะเดินไปที่บ้าน
“กู้ละ”เมื่อเปิดประตูได้พี่กี้ก็ถามทันที
“คุยกับเพื่อนอยู่ถ้าดึกก็ไม่มาละ”หมูบอก
พี่กี้พยักหน้าก่อนจะล้มตัวลงนอนส่วนหมูเดินไปปิดไฟก่อนจะเดินมาท่ามกลางความมืดในบ้านมาที่นอนของตนก่อนจะมุดตัวลงในถุงนอนแล้วเอาผ้าห่มมาห่มอีกชั้นเพื่อกันหนาว น่าแปลกเห็นพี่กี้กับน้องปันเปิดหน้าต่างและใส่เสื้อแขนสั้นและกางเกงขาสั้นนอน
แต่หมูก็ไม่ได้สนใจอะไรแต่มันก็ทนหนาวไม่ไหวเขาจึงลุกปิดหน้าต่างที่หัวนอนก่อนจะกลับไปมุดในผ้าห่ม
“อ้าวคิดว่าผู้หญิงคนไหนสวยที่สุด”เจ็ทเปิดประเด็นในคนที่มารอบกองไฟได้แสดงความเห็น
“พี่น้ำฝนจากบางรัก”ตะวันบอก
“แม้ไม่ดูตัวเองเลยตะวันเขาข๊าวขาว แต่ดูแกสิดำหา....เถอะ”กู้แทงใจดำตะวัน
“โฮ”ตะวันถึงกับเซ็งเมื่อเจอแบบนี้เขาไป
“ไอ้นั้น ปังปอนใครละ”เจ็ทหันไปถาม
“พี่นุ่น ลำปางครับ”ปังปอนยิ้มอย่างเจ้าชู้
“แล้วเพื่อนผมละ แล้วพี่เจ๊เอิร์นละ”น้องพีพีเอ่ยขึ้นมา
“เฮย”ปังปอนก็โดนเผาเหมือนตะวัน
“ข้าก็พุ่นุ่น”เจ็ทบอก ทำให้ปังปอนหันมามอง
“ชอบเหมือนเดี๋ยวกันหรือวะ”ปังปอนถาม
“ใจเย็นก่อน”พี่อี้ดจากพานิชรีบห้ามศึก
“เอางี้ไปหลับได้แล้ว มันจะเที่ยงคืนแล้วพรุ่งนี้งานนะ”อาจารย์กันที่ยื่นเงียบฟังอยู่นานเสนอขึ้นมา
“โถ อาจารย์”ทุกคนต่างเซ็งไปตามๆกันก่อนจะรีบดับกองๆฟแล้วแยกย้ายกันไปนอน
เพื่อเตรียมตัวสู้งานในวันรุ่งขึ้น
ความคิดเห็น