ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พบรักที่ปลายดอย

    ลำดับตอนที่ #1 : 1 จุดเริ่มต้น

    • อัปเดตล่าสุด 26 ก.พ. 56


    ลมหนาวพักผ่านมาโดนตัว  เป็นสัญญาณว่าเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว นุ่นนั่งอยู่บน แสตนเชียร์ มองบรรยากาศโรงเรียนขณะที่ตะวันกำลังลับขอบฟ้า

    สาวน้อยนั่งด้วยความใจเย็น ก่อนจะยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมา คุยกับแฟนหนุ่มของเธอเรื่องของวันพรุ่งนี้ที่เธอจะต้องไปค่ายชุมชน

    ไม่นานราชรถของหอก็มารับนุ่น เธอวายสายก่อนจะเดินไปขึ้นรถ เพื่อที่เธอจะได้กลับไปเตรียมของเพื่อเดินทางไปยังค่ายที่เชียงใหม่

    “ไงละ เพื่อนหน้าดูไม่ดีเลยเพื่อน”เสียงผู้ชายคนหนึ่งเอ่ยปากถามเพื่อนผู้ชายอีกคนที่นั่งอยู่ที่ม้ายาว

    “ไม่มีอะไรหรอก”เสียงผู้ชายอีกคนตอบมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

    “แน่ใจนะ เตรียมตัวได้แล้ว”ผู้ชายอีกคนบอกให้เพื่อนของเขาเตรียมตัวก่อนจะเดินหายไปท่ามกลางความมืดมิดในช่วงประมาณตีห้ากว่าๆ ผู้ชายที่ยังนั่งอยู่หยิบมือถือขึ้นมาดูรูปเขากับผู้หญิงที่เคยเป็นคนรักของเขา ถ่ายร่วมกันก่อนจะบอกเลิกกันไป

    น้ำตาก็ไหลออกมาด้วยความเสียใจ

    รุ่งเช้าของวันใหม่ นุ่นมาโรงเรียนแต่เช้าพร้อมสัมภาระที่จะเอาไปเข้าค่ายครั้งนี้

    “นุ่นมาแล้วค่ะครู”เพื่อนของนุ่นพยายามตะโกนบอกอาจารย์ที่กำลังเช็คชื่ออยู่ด้านหน้า

    “มาเข้าแถวเลยนักเรียนจะออกเดินทางแล้ว”อาจารย์ผู้ชายยืนเรียกแถวเพื่อจัดนักเรียนขึ้นรถ

    นักเรียนต่างพากันมาเข้าแถวจะได้ขึ้นรถ

    ไม่นานนักรถเมล์สีเขียวที่วิ่งระหว่างจังหวัดเชียงใหม่กับลำปางก็แล่นเข้ามาในโรงเรียน

    “นักเรียนผู้หญิงขึ้นก่อนเลยนักเรียนชายช่วยกันขนสัมภาระขึ้นรถ

    ทุกคนทำตามอาจารย์บอก นักเรียนผู้หญิงขึ้นไปนั่งบนรถ นุ่นเอาหูฟังออกมาเสียบกับโทรศัพท์มือถือก่อนจะเปิดเพลงฟังรอเวลา

    ณ โรงเรียนเจ้าภาพ

    “หมูไปช่วยกรุงเทพขนของปะ”ปังปอนเอ่ยเรียกเพื่อนสนิทของเขา

    หมูพยักหน้าก่อนจะตรงไปยังลานจอดรถที่มีรถบัสคันใหญ่สามคันจอดอยู่พร้อมกับทีมงานของเจ้าภาพ

    ทั้งโรงเรียนที่มาและเจ้าภาพช่วยกันขนของลงมาจากรถบัสทั้งสามคันไม่นานก็เสร็จ

    “ทีมงานส่วนหนึ่ง นำคนไปยังจุดลงทะเบียนแล้วก็ให้เขากินข้าวเช้าเลย ส่วนอีกกลุ่มรอโรงเรียนที่เหลือมา”หลังจากขนของเสร็จปังปอนก็สั่งการให้รุ่นน้องพาเพื่อนจากต่างโรงเรียนไปยังโรงอาหารเพื่อลงทะเบียนและรับประทานอาหารเช้า

    รุ่นน้องต่างพาแต่ละโรงเรียนไปยังโรงอาหาร ส่วนปังปอนกับเพื่ออีกสี่คนก็ได้แต่นั่งรออีกหลายโรงเรียนที่กำลังเดินทางมาร่วมค่ายที่นี่

    “เฮ้ย หมูเป็นเอาหนักนะเพื่อน เป็นอะไรก็บอกนะ”ปังปอนหันมามองเพื่อที่นั่งซึมอยู่ข้างๆ

    “ไม่มีอะไรหรอก”หมูปฏิเสธ

    “เอาเถอะไม่ยุ่งกับชีวิตเอ็งละกัน”ปังปอนบอก

    “เฮ้ย หิวข้าววะ ไปหาอะไรกินปะ”ก้องเอ่ยขึ้นมา

    “กินอะไรวะ”ปังปอนหันมาถาม

    “ข้าวราดแกงหน้าโรงเรียนปะ”ก้องแนะนำให้เพื่อน

    “จะทันหรือวะ”ปังปอนท้วง

    “จริงด้วยก้องมันไม่ทัน”เบสที่ยืนข้างๆเอ่ยเสริมขึ้นมา

    “อะ...เอาไงดีละ”ก้องก็ถึงกับสะดุด

    “ก็ไปหาอะไรง่ายกินสิ”ปังปอนเสนอ

    “ก็ดีนะ”เบสเห็นด้วย

    “เอาอย่างนี้ไปซื้อขนมปังหน้าโรงเรียนมากินละกัน”ก้องไปขอสรุปก่อนจะเดินออกไปหน้าโรงเรียนเพื่อหาขนมปังกิน
    ก้องกับเบสเดินออกไปร้านขายของชำก่อนจะเดินตรงไปหาขนมปังกับนมถั่วเหลือง ส่วนหมูกับปังปอนยืนคอยหน้าประตูประตูโรงเรียน ส่ายตาก็มองหารถของโรงเรียนที่ไปรับสมาชิกค่ายจากท่ารถโดยสาร

    รถเมล์สีเขียวแล่นผ่านขุนเขาสลับป่าจนกระทั่งเข้าสู่เขตโรงงานของลำพูน นุ่นหลับมากตลอดทางจนกระทั่งเธอรู้สึกว่ารถหยุดเหวี่ยงไป เธอลืมตาขึ้นมามองไปรอบๆเพื่อนทยอยลงกันเธอเก็บหูฟังก่อนจะขยี้ตาเล็กหน่อยแล้วก็ลุกขึ้นบิดขี้เกียจก่อนจะหันไปเห็นกลุ่มคนกำลังมุ่งอะไรอยู่

    “นัทๆ”เสียงจากกลุ่มคนนั้นเปล่งออกมา

    “นุ่นเดินเข้าไปก็เห็นภาพเด็กผู้หญิงที่นอนพิงเบาะไม่ได้สติอยู่

    “นุ่น ปลุกน้องสิ”เพื่อนของนุ่นซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มบอกให้นุ่นซึ่งใกล้ที่สุดปลุกน้อง

    นุ่นรับคำขอมาก่อนจะเดินเข้าไปเขย่ารุ่นน้องแต่ก็ยังไม่มีปฏิกิริยาอะไร ทันใดนั้น รุ่นน้องที่นอนรับอยู่ก็สะดุดตื่นขึ้นมา ทำเอาคนโดยรอบต่างสะดุดตกใจกันทั่ว

    “เกิดอะไรขึ้น”นัทเอ่ยถามเพื่อนๆ

    “ถึงแล้วละ”เพื่อนของนัทบอกก่อนที่เธอจะลุกแล้วเดินลงไป

    นุ่นก็งงแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรแล้วเธอก็เดินลงจากรถเมล์เพื่อมารอ รถของทางเจ้าภาพมารับ

    ทางด้านเจ้าภาพที่ได้ส่งรถไปรับโรงเรียนต่างๆก็ทยอยกลับมา

    “มาแล้ว มาแล้ว”ปังปอนยืนรออยู่น่าก่อนที่จะดีใจที่เห็นรถโรงเรียนของตนแล่นเข้ามาก่อนจะเลี้ยวเข้าประตู ท้ายรถมีนักเรียนที่มาร่วมค่ายเต็มคันรถ

    ก้องและเบสวิ่งตามเข้ามาในโรงเรียนหมูกับปังปอนเห็นก็วิ่งรถไปยังที่เก็บสัมภาระ

    “ไอ้หมู รอกูด้วย”ก้องเอ่ยเรียกขณะที่หมูกำลังวิ่งแซงไป

    แต่หมูก็ไม่ได้สนใจอะไรก็ยังวิ่งตีคู่กับปังปอนตามท้ายรถไปจนมาถึงอาคารที่ใช้เก็บสัมภาระ

    “โรงเรียนอะไรอาจารย์”ปังปอนที่มาถึงก่อนวิ่งเข้าไปถามอาจารย์ที่ขับรถมา

    “นี้จาก อุบลราชธานีนะ บอกเขารีบขนของลงเลย ลำปางมาถึงแล้ว เดี๋ยวต้องตีรถไปรับลำปางอีก”อาจารย์ที่ขับรถบอกก่อนจะสั่งให้ปังปอนรีบนำสัมภาระของ โรงเรียนนี้ลงให้เร็วที่สุดเพื่อไปรับอีกโรงเรียนหนึ่งที่รออยู่

    “ได้ครับ”ปังปอนรับคำสั่งก่อนจะหันมาบอกหมูและก้องที่พึ่งมาถึง

    ทั้งสามและโรงเรียนที่มาถึงช่วยก่อนขนของสัมภาระของโรงเรียนนี้ลงอย่างรวดเร็วเพื่อให้รถของโรงเรียนไปรับอีกโรงเรียนให้เร็วที่สุด

    พอขนสัมภาระเสร็จรถโรงเรียนก็ออกไปรับอีกโรงเรียนทันที

    “เอาหมูพาอุบลไปลงทะเบียนและก็กินข้าวเลย”ปังปอนบอกให้หมูไปส่งโรงเรียนนี้ที่โรงอาหารเพื่อลงทะเบียนและรับประทานอาหารเช้า

    หมูตอบรับคำขอร้องของปังปอนก่อนจะหันมาเรียกโรงเรียนนี้ให้จัดกลุ่มเพื่อไปยังโรงอาหาร

    “หนูๆ อย่าพึ่งรีบ ให้นักเรียนทำธุระส่วนตัวก่อน”ครูประจำโรงเรียนเดินเข้ามาคุยกับหมู

    “ได้ครับ ได้ครับ”หมูยกนาฬิกาขึ้นมาดูก็ยังเหลือเวลาอีกหลายชั่วโมงกับอีกสองโรงเรียนที่ยังไม่มา

    นักเรียนจากอุบลเดินเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัวส่วนหมูก็ทิ้งตัวลงไม่ใกล้ไม่ไกลก่อนจะหยิบมือถือเครื่องเดิมขึ้นมา ก็พลางน้ำตาไหลอีกครั้ง

    ไม่นานหนักนักเรียนจากอุบลก็ทำธุระส่วนตัวเสร็จ หมูรีบปาดน้ำตาก่อนจะจะเอ่ยเรียกกลุ่มนักรเยนเพื่อพาไปยังโรงอาหารด้วยรอยยิ้ม

    เมื่อหมูมาถึงโรงอาหารก็บอกให้กลุ่มนักเรียนจากอุบลไปทะเบียนที่โต๊ะ

    “หมูกินข้าวหรือยัง”พีพีเดินมาถาม

    “ยังเลย”หมูตอบ

    “เหลือใครอีกไมที่ยังไม่ได้กิน”พีพีถาม

    “เหลือข้ากับปังปอนที่ยังไม่ได้กิน”หมูบอก

    “โอเค เดี๋ยวข้าไปแทนปังปอนเอง”พีพีรับก่อนจะเดินไปยังอาคารที่ใช้เก็บสัมภาระ

    ส่วนหมูหลังจากส่งโรงเรียนนี้เสร็จก่อนเดินเข้าไปในโรงอาหารเพื่อทานข้าวเช้า

    ปังปอนที่นั่งรออย่างมีความหวังที่จะโรงเรียนต่อไปก็คงนั่งรอต่อไป

    “ปังปอน กินข้าวเลย”พีพีเดินมาถึงก็บอกให้ปังปอนไปกินข้าว

    “เฮ้ย ไม่เป็นไร”ปังปอนปฏิเสธที่จะไปกินข้าว

    “ไม่มีเวลาแล้ว ข้ากินข้าวแล้ว เดี๋ยวไม่มีแรงไปอีก”พีพีเตือนด้วยความหวังดี

    “ได้ๆ”ปังปอนยอมจำนนต่อคำขอของพีพีแล้วเขาก็ลุกไปกินข้าว

    ฝั่งด้านของนุ่นหลังจากที่รอมานานสองนาน ในที่สุดรถจากโรงเรียนเจ้าภาพก็มารับ

    “นักเรียนขนสัมภาระขึ้นเลย”อาจารย์ที่คุมนักเรียนมา บอกให้นักเรียนช่วยกันขนสัมภาระขึ้นรถ

    นักเรียนทำตามที่อาจารย์สั่งก่อนจะโยกย้ายตัวเองขึ้นรถไปด้วย ไม่นานการขนสัมภาระก็เสร็จ ทุกคนก็ขึ้นรถเรียบร้อยแล้วรถก็แล่นออกจากจุดนั้นเพื่อไปสู่โรงเรียนที่จัดงาน

    ปังปอนมาถึงโรงอาหาร แวะทักทายทีมงานที่อยู่จุดลงทะเบียนก่อนจะเดินเข้ามาในโถงโรงอาหาร มองหานักเรียนโรงเรียนเราก่อนจะเดินไปตักข้าวพร้อมกับแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะ

    “ไอ้หมูไม่ชวนเลย”ปังปอนนั่งลงก่อนจะอ้าปากแควะหมู

    “ทำไงวะไม่มีเบอร์”หมูบอก

    “เอาเถอะ”ปังปอนไม่แคร์อะไรก่อนจะหันกลับมาก้มหน้าก้มตากินอาหารที่อยู่ตรงหน้าเข้าอย่างรวดเร็วเพื่อกลับไปทำหน้าที่เหมือนเดิม

    ไม่นานปังปอนก็กินข้าวเสร็จแล้วเขาก็รีบเก็บถ้วยชามแล้วรีบออกไป                                 

    เมื่อเดินมาถึงอาคารที่ใช้เก็บสัมภาระก่อนเห็นเพื่อนๆนั่งยมอยู่หน้าตึก

    “อ้าว มานั่งทำอะไร ลำปางมาแล้วหรือ”ปังปอนเอ่ยถาม

    “มาแล้วละ ไปกินข้าวแล้ว”พีพีเอยบอก

    ปังปอนพยักหน้าก่อนจะเดินเข้าไปในอาคาร

    หมูที่พึ่งกินข้าวเสร็จเดินชิวๆมาตามถนนก่อนจะส่วนกับกลุ่มลำปางที่กำลังเดินไปที่โรงอาหาร

    ทันใดนั้น มีบ้างสิบ้างอย่างดลใจหมูหลังจากที่กลุ่มลำปางเดินผ่านไป หมูหยุดเดินแล้วหันไปมองตามกลุ่มนั้น

    “อะไรวะ รู้สึกแปลกๆ”หมูสบถขึ้นมา

    “นัทมีอะไรหรือป่าว”เพื่อนของนัทเอ่ยถามเมื่อเห็นเพื่อหันไปมองอะไรบ้างอย่าง

    “ป่าวๆไม่มีอะไรหรอก”นัทตอบเพื่อนก่อนจะหันมามองก่อนที่เธอจะหันกลับมาเดินต่อ

    หมูเดินมาถึงอาคารก่อนจะยกนาฬิกาดูเหลือเวลาอีกไม่มากนักก่อนถึงพิธีเปิดแต่ยังมีอีกสองโรงเรียนที่ยังไม่ได้มาถึงคือโคราชและนครพนม

    โรงเรียนอื่นๆที่รับประทานอาหารเสร็จก็กลับมาจัดการธุระตัวเองจัดสัมภาระและคุยเล่นกัน

    แต่พอนาฬิกาบอกเวลาเก้าโมงความเคลื่อนไหวก็เกิดขึ้น

    “อาจารย์ครับคือทางเจ้าภาพนัดสิบโมงนะครับ”ก้องเดินเข้าไปเจรจาทันที หลังจากเห็นกลุ่มของลำปางลุกจัดแถว

    “จะเป็นไรไปละก็ให้เด็กขึ้นไปทำความรู้จักกันก่อน”อาจารย์ตอบกลับมา

    “พักผ่อนก่อนก็ได้นะครับเดินทางมาเหนื่อยๆ”เบสเข้ามาร่วมเจรจาอีกคน

    “พักกันมาพอแล้ว อ้าวจัดแถว”อาจารย์ท่านไม่ฟังอะไรเลยก่อนจะหันไปสั่งให้นักเรียนจัดแถว

    นักเรียนก็ทำตามที่อาจารย์สั่ง

    มีน้องทีมงานพยายามเข้าไปเจรจาแต่ก็ไม่เป็นผล

    “มาประชุมกันก่อน”ก้องเรียกประชุม

    “เอาอย่างไงดีละ”น้องพีพีถามความเห็นจากที่ประชุม

    “ตามโรงเรียนอื่นมารวมกันเลยดีกว่าแล้วเอามารวมที่ลานของอาคารละกัน”ก้องเสนอ

    “โอ๊ต พาลำปางไปห้องประชุมกลางที่สิ”หมูหันไปบอกเด็กในทีมชื่อโอ๊ตให้นำนักเรียนจากลำปางไปห้องประชุมกลางซึ่งใช้ในพิธีเปิดให้ที่

    “ได้ครับ”โอ๊ตตอบตามภาษาเด็กม.1ก่อนจะนำคณะนักเรียนจากลำปางไปยังห้องประชุมกลาง

    “เฮ้ยๆเดี๋ยว”ก้องพยายามห้ามเพราะทำผิดหลักการ

    “ช่างมันเถอะเดี๋ยวเราก็สู้อาจารย์ไม่ได้อยู่ดี”หมูบอกก้อง

    “รีบไปตามโรงเรียนอื่นเลย”ก้องหันกลับมากระจายงาน

    “เดี๋ยวๆอาจารย์โอบอกว่า ให้พามาเลย ไม่ต้องรวมกันเสียเวลา”เบสซึ่งคุยโทรศัพท์กับอาจารย์โอ อาจารย์ที่ปรึกษาค่าย เสร็จรีบนำแผนมาบอก

    “ได้ๆ ทำตามที่อาจารย์โอบอกเลย โรงเรียนใครโรงเรียนมัน”ก้องยอมรับแผนของอาจารย์โอก่อนจะกระจายงานออกกันไปทำ

    ทุกคนต่างพากันไปทำงานตามที่ตนได้รับมา ไม่นานทุกคนก็ต่างย้ายตัวเองไปยังห้องประชุมกลางเพื่อเตรียมทำพิธีเปิด

    หมูกับวิน ซึ่งขึ้นไปเรียบร้อยแล้วขอตัวลงมาเข้าห้องน้ำ

    “จะขึ้นไปอยู่ไม”หมูหันมาถาม

    “ไม่ละ อยู่ด้านล่างดีกว่า เดี๋ยวพิธีเสร็จค่อยขึ้นไป”วินบอก

    “ได้ๆ โอเค”หมูเห็นด้วยกับวินก่อนจะเดินมายังอาคารที่เก็บสัมภาระของทุกโรงเรียน ซึ่งมีทีมงานอีกกลุ่มที่คอยเฝ้ากระเป๋าให้อยู่

    “ไม่ขึ้นไปรวมหรือ”เอิร์ทถาม

    “ไม่ละ บนห้องร้อนมากๆด้านล่างเย็นกว่าเยอะ”วินบอก

    “แล้วแต่ละกัน”รัก ซึ่งนั่งออกๆไปไม่ห่างบอก

    “เดี่ยวจะยม หลังจากที่เห็นแต่ละโรงเรียนแล้วชอบสาวจากที่ไหนบ้างว่ามาเลยแต่ละคน”เอิร์ทตั้งประเด็นขึ้นเพื่อถามแก้ยม

    “ข้าชอบ บางรักวะ”ฟลุ๊กบอกเป็นคนแรก

    “ข้าชอบจากบางรักเหมือนกัน” เอิร์ทมีความเห็นตรงกัน

    “โคราช”พีพีเอ่ยขึ้นมาเป็นที่สาม

    “แล้วแกละหมู”ก่อนจะหันมาถามหมู

    “ไม่รู้สิ ไม่ได้สังเกตเลย”หมูบอก

    “เป็นคำตอบที่น่าผิดหวังมาก”เอิร์ทส่ายหัว

    “เอาเถอะยังมีเวลาอีกหลายวันไม่แน่ในที่นี้อาจได้แฟนลงมา”ฟลุ๊กเอ่ยให้กำลังใจหมู

    “จริงด้วยสิพี่”หมูเห็นด้วยกับคำพูดนี้

    การรอคอยพิธีเปิดก็นานพอดูจนทำให้วินหลับไป ส่วนหมูก็ยังนั่งเดินมือถือแต่ก็อดไม่ได้ที่จะเปิดดูรูปภาพที่ทำให้ปวดใจ

    รัก ซึ่งนั่งออกไปไม่ห่างเห็นวินหลับอยู่ก็นึกสนุกเลยเอากล้องถ่ายรูป ถ่ายรูปวินซึ่งกำลังหลับอยู่หลายต่อหลายรูป พอเสร็จ รัด ยังไม่หนำใจเลยเอาปากกาเมจิกจากกระเป๋าออกมาแล้วเอามาเขียนที่แขนของวิน

    “อย่าบอกมันนะ”รัก หันมาบอกหลังจากเขียนแขนของวินเสร็จ

    ก่อนที่หมูจะเดินไปปลุกวินเพื่อขึ้นไปบนห้องประชุมกลาง

    พอเดินมาได้เกือบครึ่งทางวินแทบจะตกใจเมื่อเห็นแขนตัวเองมีรอยปากกาเขียนไว้

    “ใครทำวะ”วินอุทานขึ้นมา

    “ไม่รู้”หมูรีบปฏิเสธก่อน

    “ลบไม่ออกด้วย”วินพยายามเอามือถูแต่ก็ไม่ออก

    เมื่อขึ้นมาถึงห้องประชุมกลาง ก็เห็นหัวหน้าอาจารย์และผู้อำนวยการค่ายกำลังปฐมนิเทศอยู่ หมูกับวินจึงอ้อมไปขึ้นด้านหลังแล้ววิ่งหลบฉากเล็กน้อยเพื่อมาอีกฝั่งหนึ่งซึ่งมีอาจารย์โอยืนอยู่

    “อาจารย์”หมูเรียกอาจารย์โอ

    “เดี๋ยวลงไปถ่ายรูปนะ หลังทำกิจกรรมปลุกจิตสำนึกเสร็จ พวกเราต้องมาต้อนรับเขาพวกเขานะ”อาจารย์โอเอ่ยบอก

    “ครับๆ”หมูรับคำสั่งมาก่อนจะยืนฟังผู้อำนวยการค่ายปฐมนิเทศจนถึงเที่ยงวัน ก่อนจะถ่ายรูปแต่ละโรงเรียนและปล่อยลงมากินข้าวเที่ยง เก็บสัมภาระ แล้วกลับมาตอนบ่ายโมงครึ่งที่ห้องประชุมกลาง

    “เดี๋ยวหลังจากนี้ เขาจะปล่อยให้เอาสัมภาระไปเก็บ แบ่งงานกันเลยว่าใครทำอะไร”อาจารย์โอเดินมายืนหัวโต๊ะที่ทีมงานเจ้าภาพนั่งก่อนจะบอกกำหนดการแล้วก็เดินไปบอกกำหนดการต่อไปกับคณะครูจากโรงเรียนต่างๆ

    “ใครจะขึ้นไปคุมอาคารอะไรบอก”ม่อนหัวหน้าทีมงานซึ่งพึ่งมาถึงงานเอ่ยถามความสมัครใจ

    “ผมอาคารหญิง”หมูอาสาจะไปคุมอาคารนอนหญิง

    “ไอ้นี่มันเร็วจริงนะ งั้นพี่ไปคุ้มด้วย”ม่อนแซวหมูก่อนจะอาสาไปช่วยหมูอีกแรง

    “ผมอาคารชายละกัน”เบสอาสาไปอาคารนอนชาย

    “น้องๆไปช่วยพี่เบสหน่อยะละกัน”ม่อนกระจายงานก่อนที่จะหันมาก้มหน้าก้มตากินข้าวอย่างเร็วเพื่อรีบไปทำงาน

    ทีมงานรีบจัดการงานที่ได้รับ หมูกับพี่ม่อนรีบขึ้นไปยังอาคารนอนหญิง ส่วนเบสกับก้องก็ขึ้นไปเตรียมอาคารนอนชาย

    หลังจากที่ทีมงานเตรียมสถานที่เรียบร้อย นักเรียนจาดโรงเรียนต่างๆก็ทยอยขึ้นมา

    โรงเรียนที่ขึ้นมาคืนลำปาง

    “โรงเรียนอะไรครับ”ม่อนถาม

    “ลำปางพี่ม่อน”ปังปอนที่นำขบวนขึ้นมาเอ่ยบอก

    “ห้องในสุดเลย”หมูชี้ไปยังห้องสุดท้ายเดิน

    ปังปอนและม่อนเข้าไปช่วยถือสัมภาระก่อนจะเดินไปยังห้องท้ายสุด หมูก็หลบทางให้เดินลำปางเดินผ่าน

    ทันใดนั้นหมูก็รู้สึกว่ามีอะไรมาดลใจ แล้วใจก็เต้นแรงผิดปกติจนกระทั่งลำปางเดินผ่านไปหมด อาการนั้นก็หลายไป

    “เกิดอะไรขึ้น”หมูถามใจตัวเอง

    “นัทเป็นอะไรอีกละ”เพื่อนของนัทถามนัทหลังจากที่เห็นนัทมีอาการเหมือนตอนเช้าอีกครั้ง

    “ไม่ๆหรอก”นัทบอกก่อนจะหยุดเดิน

    นัทนึกในใจ ถึงอาการนี้ ใจสั้น ก่อนจะเดินเข้าห้องพักไป

    “นัทฉันเห็นแกมีอาการนี้แบบนี้มาสองรอบแล้วนะ และก็ตอนที่อยู่บนรถด้วย แกเป็นอะไรกันแน่”เพื่อนนัทถามนัท

    “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”นัทก็อธิบายไม่ถูก

    หลังจากที่ทุกคนต่างแยกย้ายไปตามห้องต่างๆ ทีมงานก็ลงไปรวมกันด้านล่างก่อนจะแยกย้ายกันไปตามจุดต่างๆเพื่อเตรียมทำกิจกรรมปลุกจิตสำนึก

    กิจกรรมนี้แบ่งเป็นสองกลุ่ม นักเรียนจากโรงเรียนต่างๆ เข้าไปฟังบรรยายและเสนอความคิดความเห็นกัน มีเกทมที่สอดแทรกความคิดเข้าไป แต่มันก็ช่วยปลุกจิตสำนึกได้จริงๆนะ

    หลังจากจิตกิจกรรมนี้ก็เป็นช่วงพักขั้นเวลา แต่ทีมงานกลับถูกเรียกไปรวมกันที่ห้องประชุมกลาง

    “เดี๋ยวเราต้องไปกล่าวต้อนรับพร้อมมีท่าอะไรเล็กน้อย”ม่อนบอก

    “ได้พี่ ขอให้พวกที่ซ้อมท่ามาแล้ว ขึ้นเวทีด้วยละกัน”ปังปอนรับคำสั่งก่อนจะหันมาขอร้องรุ่นน้อง

    “พี่จะดีหรือ”รุ่นน้องบางคนอายไม่กล้า

    “เพื่อโรงเรียนหน่อย”ปังปอนบอกให้รุ่นน้องคิดถึงโรงเรียน

    “ก็ได้”รุ่นน้องยอมรับที่จะขึ้นไปแสดงบนเวที

    หลังจากที่ตกลงกันไปทุกคนก็จัดแถวโดยมีอาจารย์โอยืนคุ้มหน้าเพื่อให้สัญญาณ

    “หลังจากที่พักกันมานะครับ ทางโรงเรียนเจ้าภาพจะมีการต้อนรับนะครับ ขอเชิญเลยนะครับ”พิธีกรเอ่ยนำก่อนจะเชิญนักเรียนทีมงาน

    “ไปเลยสู้”อาจารย์โอปลุกใจก่อนจะปล่อยแถว ทีมงานพวกเราเดินลงไปตามทางเดินพร้อมกับปรบมือไปด้วยจะมาถึงเวทีก่อนผายมือออกไป

    “เปื้อน+ นี่มันเปื้อนค่ายอาสานี่นา”ทีมงามกล่าวต้อนรับด้วยภาษาคำเมือง

     


    +เปื้อน แปลว่า เพื่อน

    ทุกคนต่างปรบมือให้ก่อนจะมาการกล่าวขอบคุณจากพิธีการพวกทีมงานรีบเรียกแถววิ่งขึ้นไปด้านบน ก่อนที่จะมีพิธีกรอีกท่านมาแนะนำสถานที่ที่จะไปค่ายอาสา

    มันอยู่ใน อ.จอมทอง เขตอุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนนท์ แต่พวกเราไม่ได้ขึ้นไปดอยอินทนนท์หรอกมันอยู่ก่อนถึงดอยอินทนนท์ แถวน้ำตกแม่ยะ

    มันเป็นหมู่บ้านเล็กๆของชาวปกา กะ ญอ มีเจ็ดหมู่บ้าน คือ ม.แม่ยะน้อย ม.ใหม่สวรรค์ ม.ตีนตก ม.เด่น

    ม.สัน ม.ป่ากล้วย และ ม.ห้าเกี๊ยะ ซึ่งมีแค่สองหมู่บ้านเท่านั้นที่เป็นพุทธที่เหลือเป็นหมู่บ้านคริสต์

    แต่ละหมู่บ้านก็มีเสน่ห์ของแต่ละหมู่บ้าน พิธีกรนำรูปจากหมู่บ้านต่างๆมาให้ดู

    “รายชื่อนะครับ อยู่ที่กระดาษด้านหน้าโรงอาหารแล้วใครที่ได้ไปดูแล้วคงจะรู้นะครับว่าอยู่หมู่บ้านไหน ขอบคุณครับ”พิธีกรเอ่ยขึ้นก่อนจะกล่าวขอบคุณแล้วเดินลงเวทีไป

    “ต่อไปนะครับ จะให้แยกไปตามหมู่บ้านพูดคุยแนะนำตัวกัน ประมาณห้าโมงเย็นให้ทุกคนมาร่วมกันที่หลังโรงเรียนเพื่อขึ้นไปยังถนนคนเดินนะครับ ขอให้ตรงเวลาด้วย”อาจารย์หัวหน้าค่ายขึ้นเอ่ยชี้แจงก่อนจะปล่อยนักเรียนลงไป

    “หมู น้องพีลงไปช่วยงานหน่อย”ฟลุ๊กเดินขึ้นมาตามหมูกับน้องพีพีเพื่อให้ไปช่วยงานหลังโรงเรียน

    หมูกับน้องพีพีเดินลงไปที่หลังโรงเรียน มีรถสี่ล้อแดงสัญลักษณ์ของเชียงใหม่มาจอดรออยู่หลายสิบคัน

    “พี่ ม่อนรถมากี่คันแล้ว อาจารย์โอถามมา”หมูเดินเข้าไปถาม

    “มาได้สิบกว่าคันแล้วเดี๋ยวก็ครบแล้วละ”ม่อนบอก

    “ขอบใจมากพี่”หมูขอบคุณสำหรับข้อมูล แล้วก็ชวนน้องพีพีไปหาหมู่บ้านของตนพลางโทรบอกอาจารย์โอถึงความคืบหน้า

    ระหว่างทางที่จะไปหาหมู่บ้านของตน ก็มีหมู่บ้านต่างๆที่นั่งนัดแนะกันอยู่

    หมูกับน้องพีพีเดินหาอยู่หลายรอบแต่ไม่เจอจนในที่สุดก็มาเจอเจเจนั่งอยู่

    “มานี่เร็วปังปอนออกไปตามหาทั้งสองคนอยู่”เจเจบอก

    หมูกับน้องพีพีนั่งลง

    “อะ มีสมาชิกใหม่มา พอดีเลย”อาจารย์หนุ่มซึ่งยืนอยู่ด้านหน้ากล่าวต้อนรับทั้งคู่ ก่อนจะมีครูนำเอาป้ายชื่อและสายคล้องคอมาให้ หมูหาปากกาเมจิกมาเขียนชื่อก่อนจะยื่นปากกาให้น้องพีพีเขียนชื่อต่อ

    หลังจากนั้นก็มีการแนะนำตัวเองของแต่ละคนรวมทั้งอาจารย์และครูด้วย

    โดยมี อาจารย์กันจากกรุงเทพเป็นแกนหลัก อาจารย์ไก่จากลำปาง ครูปุ๊ก ครูเมล์ เป็นผู้ดูแล และยังมีรองผู้นำจากหนุ่มมาคุ้มด้วย

    หลังจากนั้น อาจารย์ก็ปล่อยนักเรียนกลับไปร่วมตามโรงเรียนเรียนของตนเพื่อเตรียมตัวเดินทางไปยังถนนคนเดิน

    โรงเรียนต่างๆพากันเดินไปที่รถแดงที่มีป้ายของแต่ละโรงเรียนติดอยู่ ทางเจ้าภาพเองก็มีรถแต่ยังไงก็ต้องรอเพื่อให้รถโรงเรียนอื่นไปก่อน

    รถของแต่ละโรงเรียนแล่นออกไปทีละคันทีมงานเจ้าภาพก็ทยอยขึ้นรถเพื่อไปยังถนนคนเดิน

    ก็มีการเสวนากันถึงเรื่องผู้หญิงแน่ๆโดยที่เป้าหมายบนรถคือปังปอนแน่แท้ รถพาอ้อมโลกกว่าจะถึงถนนคนเดินได้ก็ค่ำแล้ว พวกเรามาถึงแล้วก่อนรีบไปหาของฝากและของกิน ตอนแรกพวกเราก็มาเป็นกลุ่มนั้นแหละ แต่ไปๆมาๆก็กลับแยกออกไปเป็นกลุ่มย่อยๆ หมูแตกกลุ่มออกมาเดินคู่กับเบสหาของฝากและของกินกัน

    หมูกับเบสเดินเล่นๆไปตามทางที่มีร้านค้าของเต็มไปหมด

    “หมูแวะซื้อยาก่อน”เบสผ่านร้านยาก่อนจะเรียกหมูให้แวะร้านขายยา

    “ก็ได้ๆ”หมูเดินตามเข้าไปในร้าน

    เบสจัดการซื้อยาของตนเองเรียบร้อย หลังจากนั้นก็เดินกันต่อเพื่อหาของฝากและของกินกันต่อจนกระทั่งจนสุดถนนก็ไปเจอร้านขนมจีน เลยแวะกินก่อนที่หมูจะเห็นถุงผ้าขนาดใหญ่เหมาะที่จะซื้อใช้สอย

    หมูเลยเดินออกไปซื้อถุงนั้นเพื่อนำไปให้ชาวเขา

    “หมูได้ของฝากแล้วหรือ”เบสถาม

    “ใช่ ถุงผ้าไว้ใส่พวกกล้วยพวกกะหล่ำ”หมูบอก

    “ดีละ ตอนนี้ข้ายังไม่ได้เลย”เบสบอก

    ก่อนที่ทั้งสองจะนั่งกินขนมจีนของตน

    ก่อนที่ทั้งคู่กันเดินกลับมาทางเดิม ทันใดนั้นหมูก็ไปเห็นกำไลที่ว่างขายอยู่ หมูเดินเข้าไปเลือก

    “แกจะเลือกไปทำไมวะ”เบสถาม

    “ซื้อไปงั้นละ”หมูบอกก่อนจะก้มลงไปเลือกกำไลข้อมือ

    จนกระทั่งได้มาวงหนึ่งสีเขียว

    ก่อนที่เบสจะหยุดดูของใช้ไม้ เพื่อเป็นของฝากให้ชาวเขาที่เบสจะไปพักอาศัย

    กว่าจะได้ก็เกือบทุ่มครึ่ง เสียงโทรศัพท์มือถือของเบสดังขึ้น

    พี่เอิร์ทโทรตามเพื่อจะได้กลับโรงเรียนเพื่อพักผ่อนในคืนนี้ หลังจากใช้เวลาอยู่นานหมูกับเบสก็มาถึงรถ

    “ไปเลยลุง”ปังปอนที่โหนอยู่  นอกรถตะโกนบอกลุงคนขับ

    รถแล่นออกจากถนนคนเดินที่แสนจะติดขัดจนมาถึงโรงเรียนในเวลาสองทุ่ม

    หลังจากที่ทีมงานมาถึง ทีมงานก็จัดการแยกกลุ่มกันทำงานเพื่อให้นักเรียนได้อาบน้ำทำธุระส่วนตัวเล็กน้อยก่อนที่จะเข้านอนท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างผิดฤดู

    “เฮ้ยถามจริงเถอะพี่ ถ้าพรุ่งนี้ฝนตกจะทำไงดีละ”น้องพีพีเอ่ยถามขึ้นมา

    “ถ้าฝนตกจริงๆพรุ่งนี้เราก็ขึ้นค่ายไม่ได้”หมูตอบ

    “เสียเวลานะสิ”น้องพีพีทำหน้าไม่พอใจ

    “ก็ใช่สิ”หมูบอกด้วยความไม่พอใจในธรรมชาติ

    “ไม่หรอกพรุ่งนี้ฝนไม่ตกแน่”ปังปอนเข้าร่วมวงสนทนา

    “ไม่นอนกันหรือวะ พรุ่งนี้ตื่นแต่เช้านะ”ก้องเดินเข้ามาเตือนเพื่อที่นั่งคุยกันอยู่

    ทั้งหมดต่างแยกย้ายกันไปนอนตามที่ของตนเพื่อเตรียมตัวที่จะเดินทางขึ้นดอยในพรุ่งนี้ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×