ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สวย แสบ ซ่า ปิ๊งรักร้ายนายมาดเข้มรักร้า

    ลำดับตอนที่ #2 : บทนำ 50%

    • อัปเดตล่าสุด 13 มิ.ย. 55


     “เพราะว่าใจกลัว กลัวว่าเธอจะทิ้งกัน………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

                    แป๊ะ! แป๊ะ! แป๊ะ! กรี๊ด! กรี๊ด! กรี๊ดกร๊าด! เสียงปรบมือดังกระหึมทั่วบริเวณหอประชุม แล้วไหนจะเสียงกรี๊ดที่น่าปวดหูนี่อีก หูของฉันจะอื้ออยู่แล้วไม่รู้ว่าพวกหล่อนทนกันได้ยังไง ให้ตายเถอะ นี่แค่งานโรงเรียน ยังกรี๊ดจนจะสลบอย่างนี้ แล้วถ้าเป็นคอนเสิร์ตนักร้องเกาหลีจะขนาดไหน ฉันยกมือขึ้นปิดหูทั้งสองข้าง ที่พวกหล่อนทั้งหลายต่างตะโกนใส่แก้วหูของฉัน ส่วนยัยเพื่อนสองชีวิตที่เต้นอยู่ใกล้ๆฉัน บัดนี้  ตัวและหัวใจของพวกเธอ ติดชิด อยู่ขอบเวทีพร้อมทั้งยื่นมือไปขอมือรุ่นพี่มาจับอีก ไม่มีความเป็นกุลสตรีเลยจริงๆ รุ่นพี่ก็ใช่ว่าจะดูดีในสายตาของฉัน และในสายตาของใครอีกหลายคน หรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ แต่สำหรับฉัน say no ค่ะ อย่าหวังว่าฉันจะกรี๊ดๆๆเหมือนพวกนี้น่ะ  ฉันเดินเบียดเสียดคนนับร้อยเพื่อไปดึงยัยเพื่อนสองคนให้ออกมา ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่นานเพราะฉันปวดหู จะสิ้นชิวิตอยู่แล้ว อดทนอีดหน่อยน่ะ น้ำหนาว เป้าหมายของเธออยู่แค่เอื้อมแล้ว  สิ่งที่ไปก่อนตัวของฉันก็คือมือฉันพยายาม ที่จะคว้าตัวยัยคราวเดียร์ แต่สิ่งที่เจอคือฉันถูกดันด้วยคนประมาณสิบคนได้ ทำให้ร่างอันบอบบางเซถลาล้มทับ ทับ เออทับ เท่าที่รู้สึกตอนนี้ น่าจะเป็นผู้ชายอ่ะน่ะ เพราะมีแต่กล้ามไปหมด ไม่ว่าจะเป็นหน้าอก แขน และที่สำคัญคือหน้าตาเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าคือเพศอะไร

    “ขอโทษค่ะ!”ฉันรีบพยุงตัวเองลุกขึ้นก่อนที่ร่างกายของฉันจะสัมผัสอะไรของชายดังกล่าวไปมากกว่านี้

    “ไม่เป็นไรครับ น้องเป็นอะไรหรอเปล่า” สลบอยู่กับพื้นมั้ง ก็เห็นเห็นกันอยู่ไม่น่าถาม 

    “เปล่าค่ะ” สายตาของชายดังกล่าวที่มองมาที่ฉัน สายตาอย่างนี้เดาได้ทันทีมันต้องคิดลามกแน่ๆ ไอ้จิตวิปริต

    อยู่ไปก็มีแต่จะเสีย ออกไปข้างนอกดีกว่า ฮึม!อย่าให้รู้น่ะว่าคิดอะไร ถ้าฉันรู้..เรื่องไม่จบแค่นี้แน่  ฉันเดินออกมาข้างนอกเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ อยู่ข้างในอึดอัดจะตายชัก แล้วอีกอย่างเสียงก็ไม่ค่อยดัง ดีจะได้ไม่ปวดหู

    “อ้าว!ไม่มาสนุกกันข้างในล่ะ น้ำหนาว”เสียงยัยมอลเล่ ตะโกนออกมาจากข้างใน

    “อ้อ พอดีหายใจไม่ค่อยออกอ่ะ เลยมาสูดอากาศข้างนอก”

    “ยัยผู้ดี”

    “พูดงี๊ตบกับเลยดีกว่าไหม”

    “แหม พูดเล่นแค่นี้ทำเป็นโกรธไปได้”

    “เป็นอะไรหรอเปล่า”มอลเล่เพื่อนที่แสนดีถามฉันด้วยความเป็นห่วง

    “ก็เมื่อกี้ฉันเจอคนโรคจิตมาน่ะสิ คิดแล้วขยะแขยง”

    “หรอ หล่อไหม?”แทนที่มันจะเป็นห่วงเพื่อนมัน มันยังมีหน้าถามถึงผู้ชายนั่นอีก เป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ

    “อือ ก็ดูดีอ่ะน่ะแต่ไม่น่าเป็นพวกโรคจิต”

    “แกลองบอกสิ โรคจิตขอแกเป็นยังไง”

    “ไม่รู้สิ แต่เขามองฉันแปลกๆ”

    “เนี่ยหรอโรคจิตของแก คิดมากไปหรือเปล่า ไปล่ะ!อุตส่าห์สนทนาด้วยตั้งนาน เสียเวลาไปแด๊นจริงๆ

    “นี่พูดงี้ไม่ห่วงกันเลยหรอไง”เพื่อนอันเป็นสุดที่รักของฉันเดินจากไปโดยไม่ฟังคำใดใดจากปากของฉันเลย

    ฉันขอคืนคำที่คิดว่าแกคือเพื่อนที่ดีที่สุด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×