คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : 7
7
ตุบ!
“โอ้ย!ใครขว้างอะไรมาเนี่ย!”
เห้ออ ขอบคุณคนที่ขว้างหมวกนี่มา ไม่งั้นฉันแย่แน่ๆเลย เอ๊ะหมวก? นั่นมันหมวกของ ฟรานนี่!0[]0
ฉันหันหลังไปมองฟราน เห็นหมอนี่กำลังเดินมาทางนี้พอดีเลย แล้วฟรานจะมามองค้อนฉันทำไมเนี่ย ฉันไม่ได้ขโมยหมวกนายมานะ=___=
“โทษทีนะ พอดีมือของฉันมันลื่นไปหน่อย”
“หึ ลื่นไกลไปไหม หลังห้องมาหน้าห้องนี่นะ”
ฟรานไม่ตอบเพียงแต่ยักไหล่ แล้วก็ก้มลงไปเก็บหมวกขึ้นมาใส่
“อย่าทำเป็นหวงก้างไปหน่อยเลยฟราน”
หวงก้างอะไรกัน หรือว่าที่ฟรานรีบก้มไปเก็บหมวกนั่นก็เพราะหวง?แต่หมอนี่ไม่ใช่คนขี้หวงนี่=___=
“ฉันไม่ได้หวง แต่ไม่ชอบให้ใครมายุ่ง”
“ปากแข็งจริงๆ แต่นั้นก็ไม่ใช่ของนายเนี่ย”
“นั่นก็ไม่ใช่ของนายเหมือนกัน”
“หึ อีกไม่นานหรอก ยังไงๆก็ต้องเป็นของฉัน หึหึหึ”
คุยบ้าอะไรกันอีก ทำไมฉันจะต้องมาทนฟังไอ้บ้าพวกนี้คุยอะไรที่ฉันไม่รู้เรื่องด้วยเนี่ย
“คิดว่าทำได้ก็ลองดูสิ หึ”
พูดจบฟรานก็หันหันเดินกลับไป แต่ก่อนที่จะเดินกลับหมอนั่นหันมามองฉันแล้วก็พูดว่า
“ที่เธออยู่ตรงนี้หรือไง กลับไปนั่งที่เซ่!!”
ฉันก็อยากจะด่าหมอนี่อยู่หรอก แต่ถ้าจะให้นั่งอยู่ตรงนี้ต่อไป ฉันกลัวว่าจะทำตัวไม่ถูกแล้วก็รู้สึกไม่ปลอดภัยด้วยแฮะ นี่ถ้าฟรานไม่ขว้างหมวกมานี่ฉันต้อง…กับวินแน่ๆเลย ไม่ใช่ว่าฉันรังเกียจวินหรอกนะ แต่ฉันยังไม่พร้อม…แถมไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อยจะมาทำแบบนี้ได้ที่ไหนกัน แอบเสียดายนะเนี่ย แฮ่ๆ
ฉันเดินตามฟรานกลับมานั่งที่โต๊ะ หมอนี่ก็เอาแต่บ่นๆๆ
“ไม่อายบ้างหรือไง ทำแบบนั้นนะ”
“อาย”
“แล้วเธอเอาหน้าไปใกล้ๆมันทำไมห๊ะ รู้ไหมถ้าฉันขว้างหมวกไปไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้น!”
“รู้สิ แต่หมอนั่นเอาหน้ามาใกล้ฉันเองนะ”
“แล้วเธอจะหลับตาหน้าหาพระแสงอะไรห๊ะ!!”
“ก็ฉันกลัวนี่”
“คราวหลังห้ามไปอยู่ใกล้มันอีกนะ”
“แต่วินก็ยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ จริงๆหมอนั่นอาจจะแค่เอาขี้ตาของฉันออกให้ก็ได้”
“แค่แคะขี้ตาไม่ต้องเข้าไปใกล้ขนาดนั้นหรอก”
“หมอนั่นอาจจะสายตาไม่ดีไง”
“อย่ามาแก้ตัวให้มันหน่อยเลย”
“ไม่ได้แก้ตัวให้สักหน่อย…”
“เงียบไปเลย!”
แล้วนายจะมาโกรธอะไรหนักหนา นี่มันตัวของฉันนะ ไม่ใช่นายสักหน่อย
“แล้วนายจะมาโกรธทำไม ไม่ใช่เรื่องของนายสักหน่อย…”
“กะ ก็พ่อแม่เธอฝากให้ฉันช่วยดูแลเธอนี่”
“ปล่อยมั้งก็ได้ พ่อแม่ฉันไม่ได้เคร่งขนาดนั้น”
“เธอก็เลยปล่อยตัวแบบนั้นอะนะ”
“ไม่ได้ปล่อยนะ เราเลิกคุยเรื่องนี้กันสักทีเถอะ ฉันรำคาญ!”
“เหอะ ฉันก็รำคาญ!”
แล้วหลังจากนั่นฟรานก็ไม่คุยกับฉันอีกเลยหมอนั่นเอาแต่นั่งมองท้องฟ้า นี่ฉันผิดหรอ?
“เอ่อ…ฟะ”
เพียงแค่ฉันอ้าปากหมอนี่ก็ลุกเดินหนีไปเลย นายอยากตายใช่ไหมฟราน!
“ไอ้บ้าเอ้ย คนเขาอุตส่าห์จะง้อแล้วแท้ๆ ทำมาเล่นตัวอีก ไอ้บ้าฟราน!”
“เห้ออ พวกเธอทะเลาะกันอีกแล้วหรอเนี่ย”
คู่หูปาท่องโก๋คิมเรียวเดินกลับมานั่งที่หลังจากที่ไปเข้าห้องมา…ไม่เข้าใจทำไมต้องไปพร้อมกัน =__=?
“ก็หมอนั่นโกรธอะไรไม่เข้าเรื่อง”
“ก็เพราะฟรานมันห่วงเธอนะสิ”
“ใช่เรียวพูดถูก ฉันไม่รู้ว่าพวกเธอทะเลาะกันเรื่องอะไรแต่ฉันคิดว่าที่ฟรานทำไปก็เพราะเป็นห่วงเธอนะพาย”
“แต่เมื่อกี้ฉันจะง้อแล้วแต่หมอนั่นก็ไม่ฟัง ลุกไปเฉยเลย”
“ตามไปสิ”
“หมอนั่นไปไหนแล้วก็ไม่รู้”
“คงไปห้องชมรมมั้ง อยากไปไหม เดี๋ยวฉันพาไป”
“ไม่อ่ะ เดี๋ยวหมอนั่นก็หายโกรธ หมอนั่นโกรธได้ไม่นานหรอก”
“ครั้งนี้มันไม่ง่ายหรอ”
“นายอย่ามาขู่ฉันเลยเรียว”
ใช่!เรียวนายขู่ฉันแน่ๆ ฉันรู้จักฟรานดี หมอนั่นโกรธได้ไม่นานหรอก เดี๋ยวก็หาย ถ้าไม่หายก็แค่อ้อนนิดๆหน่อยๆเดี๋ยวก็หาย ไม่ต้องไปตามง้อขนาดนั้นหรอกมั้ง
“แต่ฉันก็คิดแบบเดียวกับเรียวนะ ครั้งนี้ฟรานอาจจะโกรธนาน เดี๋ยวนี้หมอนั่นยิ่งทำตัวแปลกๆอยู่ด้วย”
ก็จริงแฮะ เดี๋ยวนี้หมอนั่นอารมณ์แปรปรวนง่ายจริงกว่าคนเข้าสู่วัยทองเสียอีก=0=
“งั้นฉันต้องไปง้อสินะ”
“ช่ายยย ปะเดี๋ยวฉันพาไปเอง หุหุหุ”
ดูนายจะดีใจเป็นพิเศษเลยนะคิม พวกนี้มีแผนอะไรหรือป่าวเนี่ย?
#ห้องชมรม
“ห้องนี้แหละ เข้าไปได้เลย หมอนั่นคงอยู่ในนี้แหละ”
“อ่อ นายก็เข้ามาด้วยกันสิ”
“ไม่อ่ะ เดี๋ยวฉันจะต้องไปดูหนังแล้วฮี่ๆ”
“โอเคๆ งั้นก็ดูหนังให้สนุกนะ”
“เธอก็โชคดีนะ” J
ฉันเดินเข้ามาในห้อง โห้ ห้องกว้างเลย มีโซฟา ทีวี ตู้เย็น ไมโครเวฟ แล้วก็เครื่องอำนวยความสะดวกอีกเพียบ นี่มันไม่เหมือนห้องชมรมเลยสักนิดมันแอบเหมือนคอนโดย่อมๆมากกว่านะ แล้วฟรานไปไหนล่ะ? ฉันมองไปรอบ เอ๊ะ ตรงนั้นเป็นระเบียงเนี่ย สงสัยอยู่ตรงนั้นแน่ๆ
ฉันเดินไปเลื่อนประตูออกไปที่ระเบียง ภาพที่เห็นคือฟรานกำลังยืนสูบบุหรี่อยู่! นายสูบบุหรี่ตั้งแต่เหมือนไหร่กัน ฉันจะฟ้องพ่อแม่นายแน่!
“ฟรานทิ้งบุหรี่ไปเดี๋ยวนี้นะ!!”
“ธะ เธอมาที่นี่ได้ไง”
“นายไม่ต้องมาเบี่ยงเบนประเด็นเลย ทิ้งบุหรี่เดี๋ยวนี้”
“มันเรื่องของฉันน่า อย่ามายุ่ง”
“ฉันจะฟ้องพ่อกับแม่ของนายแน่”
“พ่อกับแม่ของฉันไม่เคร่งเรื่องนี้”
รู้สึกประโยคมันคุ้นๆแฮะ=___=;
“แต่ฉันเคร่ง!ทิ้งเดี๋ยวนี้เลย”
“อย่ามายุ่งน่า แล้วเธอก็ออกไปได้แล้ว”
“ทิ้งมันไปตอนนี้ที่ฉันยังอารมณ์ดีๆอยู่ อย่าให้ฉันหมดความอดทนนะฟราน!”
“ก็บอกว่าอย่ายุ่ง แล้วก็ออกไปได้แล้ว ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็อย่ามาหาว่าฉันไม่เตือนนะ”
“นายจะลองดีกับฉันใช่ไหมฟราน ได้!”
ฉันเดินไปกระชากบุหรี่ออกมาจากมือของฟรานแล้วก็จัดการโยนทิ้งซะเลย หึ! บอกให้ทิ้งตั้งนานไม่ทิ้ง จะต้องให้ถึงมือฉันตลอด ทันทีที่ฉันโยนบุหรี่ทิ้งฟรานก็กระชากแขนของฉันแล้วตึงไว้กับผนัง แล้วก็ดันให้ฉันติดผนัง…นายจะทำอะไรน่ะ
“นะนายจะทำอะไรห๊ะปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!”
“ฉันเตือนเธอแล้วว่าอย่ามายุ่งกับฉัน”
“แต่ฉันหวังดีกับนายนะ”
“ฉันไม่ต้องการ!”
“นายเป็นอะไรห๊ะฟราน ทำไมเดี๋ยวนี้นายทำตัวไร้เหตุผลแบบนี้”
“ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้ เธอจะมาสนใจทำไม”
“ถ้าไม่ให้ฉันสนใจนาย แล้วจะให้ฉันไปสนใจหมาที่ไหน นายเป็นเพื่อนของฉันนะฟราน”
“ฉัน…”
ฉันมองเข้าไปในตาของฟรานหวังว่านายจะเข้าใจฉันนะ ถ้านายไม่ใช่เพื่อนของฉัน ฉันก็จะปล่อยให้นายสูบบุหรี่ต่อไป ถ้านายไม่ใช่เพื่อนของฉัน ฉันจะไม่ตามมาง้อนายแบบนี้ ฉันไม่รู้ว่าฟรานจะเข้าใจไหม แต่หมอนี่ก็ดูสงบกว่าเมื่อกี้ แล้วจู่ๆฟรานก็ค่อยๆเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ สายตาหมอนั่นมันเหมือนกับ…ผิดหวัง สับสน?
“ถอยออกไปน่าฟราน มันใกล้เกินไปแล้ว”
“ทีฉันทำเป็นบอกให้ถอยออกไป แต่ไอ้วินเธอกลับหลับตาเนี่ยนะ!”
ไอ้บ้า!อารมณ์ขึ้นๆลงๆ ฉันตามไม่ถูกนะ แล้วนายจะมาบีบข้อมือฉันทำไมเนี่ย ฉันเจ็บนะ!T0T
“ปล่อยนะฟราน ฉันเจ็บ!”
ฟรานไม่ฟังที่ฉันบอกเลยสักนิด หมอนี่บีบข้อมือแรงกว่าเดิมอีก แล้วก็ก้มหน้าเข้ามาใกล้…ใกล้เรื่อยๆจนปลายจมูกของเราเกือบจะชนกันแล้ว… เฮือกกก!>0<แล้วหัวใจของฉันก็เริ่มเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ตึกๆๆ
“รู้ไหม ถ้าฉันขว้างหมวกไปไม่ทันเธอจะเป็นยังไง!”
นายจะมาฟื้นฝอยหาตะเข็บทำด๋อยอะไร ยังไงๆเรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว แล้ววินก็ยังไม่ได้ทำอะไรฉันสักหน่อย…
สายตาของฟรานที่มองมาฉันทำให้รู้ว่าหมอนี่กำลังโกรธอย่างมาก ฉันไม่เคยเห็นสายตาแบบนี้มานานมากแล้ว ครั้งสุดท้ายที่เห็นก็คงตอนที่ฉันปีนหน้าต่างไปหาฟรานแล้วพลาดตกลงมาหมอนี่โกรธเป็นฟื้นไปไฟเลยไปเอาไม้ไปตีหน้าต่างเหตุเพราะทำให้ฉันตกลงมา มันอาจจะเป็นเหตุผลที่ดูไร้สาระแต่ตอนนั้นทำให้ฉันประทับใจหมอนี่มากๆ มันทำให้รู้ว่าหมอนี่ห่วงฉันมากแค่ไหน ก็คงจะเหมือนครั้งนี้สินะ
“ชั่งมันเถอะฟราน ยังไงฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่”
“ถ้ามันเกิดขึ้นอีกล่ะ”
“ฉันสัญญาว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก โอเคมะ?”
“ฉันจะเชื่อเธอได้ไง”
อย่ามาเรื่องมากตอนนี้น่าฟราน ถ้านายยิ่งพูดมากปากนายกับปากของฉันต้องชนกันแน่ๆ และด้วยความที่หน้าของฉันและฟรานใกล้กันจนมดยังเดินผ่านลำบาก ทำให้ฉันไม่กล้าหายใจออกมาด้วย 0-0
“ฉันสัญญาแล้วไง ถอยออกไปได้แล้วน่า”
ถ้าอยู่นานกว่านี้ฉันขาดอากาศหายใจตายพอดี ไม่เข้าใจว่าเดี๋ยวนี้ฉันเป็นอะไรทั้งๆที่เมื่อก่อนอยู่ใกล้ขนาดกว่านี้ ฉันก็ยังเรอให้หมอนี่ดมได้อยู่เลย แล้วนี่อะไรแค่หายใจฉันยังไม่กล้าเลย…
“พาย…ฉันเริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว…”
ฟรานพึมพำเบาๆ จนฉันไม่ได้ยินที่หมอนี่พูดเลย ฉันพยายามมองเข้าไปที่ดวงตาหมอนี่ เผื่อจะได้รู้ว่าหมอนี่คิดอะไรอยู่ แต่ยิ่งมองฉันกลับรู้สึกแปลกๆเหมือนยิ่งมองยิ่งเป็นแรงดึงดูดให้ฟรานเข้ามา ฟรานก้มลงมาเรื่อยๆจนทำให้ปากของหมอนี่แตะกับปากของฉัน 0_0
ริมฝีปากอุ่นๆ นุ่มๆของฟรานแตะอยู่กับปากของฉัน!!! นี่เขาเรียกว่าจูบหรือป่าว?! แล้วทำไมฉันขยับไม่ได้เลยล่ะ หัวใจของฉันก็กำลังจะออกมาเต้นเป็นจังหวะแทงโก้อยู่ข้างนอกแล้วเนี่ย>0< ตึกๆ ฉันจะปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้นะ เราเป็นเพื่อนกันนะ! ยังไม่ทันที่ฉันจะตั้งสติได้เต็มร้อย ฟรานเริ่มกัดริมฝีปากล่างของฉันเบาๆ เฮ้ยยย!! ไม่นะ แล้วไอ้ขาบ้านี่มันจะมาอ่อนแรงอะไรตอนนี้เนี่ย!ฟรานนายตั้งสติหน่อยเซ่!!
“เห้ยย ฟรานแกอยู่ไหนวะ ฟะ…ฟราน” 0[]0
ธันเดอร์โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ ดูจากหน้าแล้วหมอนี่ต้องเห็นที่ฉันกับฟรานกำลัง…แน่ๆเลยT0T
“เอ่อ โทษทีๆ ฉันไม่ได้ตั้งใจมาขัดจังหวะแฮ่ๆ แต่ยัยแว่นให้มาตามไปซ้อมละครว่ะ” J
“ชิท!เออเดี๋ยวไปๆ”
นายจะมามองฉันแบบนั้นทำไม มีอะไรก็พูดมา อย่ามายิ้นกวนประสาทฉันนะธันเดอร์!
“เอางี้ดีกว่า โทษฐานที่ฉันมาขัดจังหวะ ฉันจะต่อเวลาให้พวกนายได้สวีทกันอีกสักห้านาที พอไหม? ฮ่าๆ”
แก๊ก!
พูดเสร็จธันเดอร์ก็รีบปิดประตูแล้วก็ล็อกประตูอีกต่างหาก ไม่นะธันเดอร์นายมาเปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ
“ธันเดอร์เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ!”
“ธันเดอร์ เปิดประตูๆ เปิดเซ่!”
“ตะโกนไปก็เท่านั้นแหละ ไอ้ธันเดอร์มันพูดแล้วไม่เคยคืนคำ”
เวรแล้วไง…
“ไอ้ธันเดอร์!! ถ้าฉันออกไปได้ นายตายแน่”
“พาย เมื่อกี้ฉัน…”
“ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องคิดมาก ฉันเข้าใจมาว่านายอาจจะมึนบุหรี่ แฮะๆ “
เกี่ยวไหม? แต่ทำไงได้ฉันไม่อยากให้บรรยากาศมันกระอักกระอ่วนไปมากกว่านี้แล้วนี่ แล้วฉันก็ไม่ได้คิดอะไรมากหรอกที่ฟรานทำไปคงจะเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ คงจะเห็นฉันเป็นอั้มล่ะสิ ฮ่าๆ แต่จริงๆฉันจะบอกว่าฉันไม่เป็นอะไรก็ไม่เชิง ก็เพราะหัวใจของฉันมันยังเต้นแรงเป็นจังหวะแทงโก้อยู่เลยนะสิ ตึกๆๆ
“ไม่ใช่สักหน่อย”
“วันนี้นายเอารถมาใช่ไหม กลับด้วยกันไหม?”
“อือ”
“ฟราน นายจะไม่โกหกฉันใช่ไหม?”
ฟรานไม่ตอบเพียงแต่พยักหน้า แล้วก็หันเดินไปที่ระเบียง สายตาทอดมองไปยังวิวรอบๆโรงเรียน ตึกนี้ถึงจะไม่ใช่ด้านฟ้าแต่นี่ก็ระเบียงชั้นห้านะ สูงเอาการอยู่=0=
“นายจะไม่ตะโกน ไม่โมโหใส่ฉันอีกใช่ไหม”
“มันก็แล้วแต่สิ่งที่เธอทำ”
“ฟราน…”
“แล้วเธอล่ะ เธอจะไม่ปล่อยตัว เธอจะไม่เถียงฉันอีกได้ไหม”
“ฉันไม่เคยปล่อยตัวนะ”
“แน่ใจ?”
ฟรานหันหน้ามามองฉัน เราสบตากันสักพัก สายตาแบบนี้ฉันยังจำได้ดี มันเหมือนกับเมื่อกี้นี้เลย…
“อื้อ ว่าแต่นายเถอะอย่าไปมีอารมณ์ชั่ววูบบ่อยๆก็แล้วกัน นี่ถ้าเกิดเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ฉันนายงานเข้าแน่ๆ”
ถ้าเป็นคนอื่นนะนายโดนตบเลือดกลบหู โดนฟ้องข้อหาพยายามข่มขื่น?(เว่อร์ไปไหม)แน่ฟราน แต่นี่เป็นฉันไง ฉันที่เป็นคนสวย ฉันที่เป็นเพื่อนของนาย ฉันที่เข้าใจนายดี เป็นไงฉันเป็นเพื่อนที่ดีใจไหม ใจกว้างเท่ามหาสมุทรเลย ฮ่าๆ
“ฉันไม่…”
“เฮ้ๆ ไม่ต้องมาแก้ตัวเลย อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่านายจะพูดอะไร ฮึ่ยๆมาให้ตบหัวสักทีสิ ฮึ่ยๆๆ”
ฉันไม่พูดเปล่ากระโดนกอดคอของฟราน แล้วก็ล็อกคอของหมอนี่ให้ก้มต่ำลง ทำให้ฉันสามรถตบหัวของหมอนี่ได้ถนัดๆ นี้แหนะๆ อยากมาทำให้ปากของฉันเสียหาย! และนี่แหละ อยากมาทำให้ฉันเหนื่อยเพราะหัวใจเต้นแรงเป็นจังหวะแทงโก้…
“เห้ย เธอกล้าตบหัวฉันหรอ!”
“กระโดนถีบฉันก็เคยทำมาแล้วฮ่าๆ”
“เดี๋ยวเถอะ!”
นายจะทำอะไรฉันได้ หึ! ฉันชิงกระชากผมของฟรานก่อนเลย โบราณเขาว่าอย่าเว้นช่วงให้ศัตรูมีโอกาส (ไปได้ยินที่ไหนมา?) ฮ่าๆๆ
ครืดดดด!
“หมดเวลาสนุกแล้วสิ ออกมาได้แล้วเว่ย เร็วๆเห็นแล้วอยากจะอ้วก!”
“นายอยากกินอ้วกหรอ”
“ฉันไม่แย่งเธอกินหรอก!”
“ไอ้…”
ฉันอยากจะหยิกตัวเองร้อยๆครั้ง ทำไมไม่รู้จักจำสักทีว่าอย่าไปคุยไปไอ้ธันเดอร์ปวดประสาทนี่! ฮึ่ย ฝากไว้ก่อนเถอะ
“อิจฉาก็บอก”
“แค่นี้ไม่ทำให้คนอย่างฉันเกิดอารมณ์อิจฉาหรอกเว่ย”
ธันเดอร์นายอิจฉาที่ฟรานโดนดึงผมเนี่ยนะ? นายมันประสาทเกินไปแล้ววว=0=
#ซ้อมละคร
“โธ่ สโนว์ไวท์ ทำไมเจ้าถึงเป็นเช่นนี่ ข้าจะช่วยเจ้ายังไงดี”
นี่เป็นฉากสุดท้ายแล้ว เป็นฉากที่สโนว์ไวท์นอนอยู่ในโรงแก้วแล้วเจ้าชายก็มาเจอ เมื่อเจ้าชายมาถึงเห็นสโนว์ไวท์นอนอยู่ในโรงแก้วก็ช็อค เขารู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถมาช่วยเธอไว้ได้ทัน และเขาก็ยังไม่ได้บอกความในใจให้สโนว์ไวท์ฟังเลย
“ข้ารักเจ้านะ สโนว์ไวท์…”
เจ้าชายค่อยๆก้มหน้าลงไปที่สโนว์ไวท์ แล้วก็จุมพิตที่นะ…ปาก!! ผิดคาด! ฉันคงไม่ได้ตาฟาดไปใช่ไหม?? เท่าที่จำได้ในบทเจ้าชายต้องจูบที่หน้าผากสิมะไม่ใช่ปาก… ทั้งสองจูบกันดูดดื่มมาก ให้ตายเถอะ!!! ไม่อายหรือไงคนมองเกือบร้อย ฮึ่ย!
“คัทๆๆๆๆ คัทโว้ย!!!!!!!!”
เจนรีบยืนขึ้นแล้วเดินเข้าไปที่หน้าเวทีทันที
“ฟรานอ่า ทำอะไรก็ไม่รู้ คนเยอะแยะ”
“ธะเธอ…”
“นี่อลิซฉันเห็นนะย๊ะ!จูบหน้าผากไม่ใช่ปาก จำเอาไว้!”
“ก็ฟราน…”
“อย่ามากินสตอแถวนี้ ฉันสี่ตา ฉันเห็นนะว่าเธอดึงฟรานเข้ามาจูบ!”
“นี่เธออย่ามากล่าวหาฉันนะ”
“ใช่เธอไม่มีสิทธิ์ไปกล่าวหาอลิซแบบนั้นนะ เรื่องแบบนี้เราต้องเห็นใจอลิซสิ อลิซเป็นคนเสียหายนะ”
ยัยโรสหน้าวอกเดินเข้าไปช่วยอลิซเต็มที่ เถียงคอเป็นเอ็นเลย จริงๆฉันก็ไม่ทันมองว่า อลิซเป็นคนทำหรือฟรานเป็นคนทำกันแน่ แต่เจนมีสี่ตานะ ยัยนี้ตาไวจะตาย…เห้ย นี่ฉันควรจะเข้าข้างผู้หญิงสิ ยังไงผู้หญิงก็ต้องเป็นฝ่ายเสียหายอยู่แล้ว
“เหอะ เสียหาย?เธอเนี่ยนะ”
“ก็ใช่นะสิ ใครๆก็เห็นว่าฟรานน่ะจูบอลิซ” ><
ตกลงเธอหรืออลิซถูกจูบ? โรสเธอปล่อยให้อลิซพูดมั่งเถอะ =__=;
“อมขี้มาพูดฉันก็ไม่เชื่อ! ไปๆเตรียมตัวซ้อมอีกทีคราวนี้ใครผิดหรือเล่นไม่ได้…ไม่ต้องกลับบ้าน!”
“โห่ ยัยแว่นจอมโหด…. “
เสียงโห่ร้องของเหล่านักเรียนคนอื่นๆ ที่ไม่ค่อยชอบใจที่มีแววว่าจะไม่ได้กลับบ้าน ฉันก็เซ็งเหมือนกัน ซ้อมมาตั้งแต่เย็นนี่จะสองทุ่มแล้วยังไม่ถึงไหนเลย เหนื่อยชะมัด U_U
“ฉันละเบื่อพวกมโนไปเองจริงๆ”
เจนเดินกลับมานั่งที่เดิมอย่างหัวเสีย เจนหันมามองฉันแล้วก็เอามือมาตบไหล่เบาๆ
“เธอไม่ต้องคิดมากนะ ฟรานมันไม่ทำแบบนั้นแน่ๆสบายใจได้”
ฉันเกี่ยวอะไร? ฉันไม่ได้คิดมากอยู่แล้วนี่ ถึงจะแอบมีขุ่นๆในใจบ้างก็เถอะ แต่มันก็เป็นเรื่องของหมอนั่นไม่เกี่ยวกับฉันสักหน่อย
“ฉันไม่ได้คิดมากสักหน่อย”
“โอ๊ะ ฉันก็พูดเผื่อไว้เฉยๆ ฮ่าๆ แต่เมื่อกี้ฉันเห็นจริงๆนะ ตอนที่ยัยอลิซดึงคอเสื้อฟรานลงไปจูบอ่ะ อี๋ผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้ ~หน้าด้าน”
“มันไม่ได้คิดอะไรหรอก”
จู่ๆธันเดอร์ก็เดินมานั่งข้างๆแล้วก็หันมาพูดกับฉัน… งงค่ะ คือนายจะสื่ออะไร? (- _- )?
“ฟรานน่ะ มันไม่ได้คิดอะไรกับอลิซแน่นอน”
เอาอีกคนแหละ ทำไมทุกคนจะต้องมาบอกฉันด้วยเนี่ย หน้าฉันสงสัยขนาดนั้นเลยหรอ? ฉันไม่ได้สนใจเรื่องนี้สักหน่อย=__=
“แล้วมาบอกฉันทำไม”
“ฉันไม่ได้บอกเธอ แค่พูดลอยๆ”
หมั่นไส้! ทำมาพูดลอยหน้าลอยตา ถ้านายพูดลอยๆแล้วจะหันมาหาฉันทำพระแสงอะไร ประสาท!
“ประสาท”
“เธอจะด่าตัวเองทำไม”
หมอนี่มัน…ชั่งเถอะคุยกับหมอนี่ทีไรแล้วปวดประสาท +__+
“อ้าวพายอยู่ตรงนี้นี่เอง ฉันหาอยู่ตั้งนาน”J
“นายมีอะไรรึป่าววินเนอร์”
“ฉันจะมาถามว่าเลิกดึกๆแบบนี้ ให้ฉันไปส่งที่บ้านไหม”J
“วันนี้นายใจดีไปนะ แต่ไม่เป็นไรหรอกวันนี้ฉันกลับกับฟราน”
“อ่อๆ แล้วนี่กินไรยัง ไปหาไรกินกันไหม? ฉันเห็นร้านในโรงอาหารยังมีร้านข้าวเปิดอยู่”
พูดถึงข้าวแล้วก็หิวขึ้นมาทั้งทีเลย วันนี้กินข้าวไปนิดเดียวเองฟรานแย่งกินหมดT^T
“ก็ดีนะ นายไปกินด้วยกันไหมธันเดอร์”
ไหนๆธันเดอร์ก็ซ้อมคิวของตัวเองเสร็จไปตั้งนานแล้ว หมอนี่ก็คงหิวเหมือนกัน ลองชวนๆดูหน่อย
“ฉันไม่กินข้าวกับคนแปลกหน้า”
ไอ้…เอาเถอะ ฉันก็ไม่ได้หวังจะให้หมอนี่มาพูดดีๆด้วยหรอก ที่ชวนก็ตามมารยาทเห็นนั่งหัวโด่อยู่ข้างๆ เดี๋ยวจะหาว่าแห้งน้ำใจ
“ตามใจ”
ธันเดอร์ไม่ได้ตอบอะไร แล้วก็เหมือนจะไม่สนใจฉันเลยด้วยซิ หมอนี่เอาแต่มองไปที่เวทีอย่างเดียวเลย นิสัย… -___-
“คัทๆๆ โอเคดีมากๆ วันนี้เล่นดีมาก คราวหน้าก็จำไว้นะว่าครั้งนี้เล่นยังไง จะได้ไม่ผิดอีกงั้นฉันจะนัดซ้อมอีกทีวันพุธนะ วันนี้กลับบ้านได้”
ยังไม่ทันจะเดินออกจากที่นั่งเลย เจนก็บอกให้เลิกแล้ว ก็ดีแล้วฉันเริ่มเบื่อแล้วเหมือนกัน เหนื่อยด้วย เห้อ~
“พาย! ไปช่วยฉันเปลี่ยนชุด!”
นายมาอยู่ตรงนี้ได้ไง! ไม่รู้ฟรานโผล่มาจากไหน เมื่อกี้ฉันยังเห็นนายอยู่บนเวทีอยู่เลยนะ แล้วนี่จะเลิกลากฉันได้ยังเนี่ย
“บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าไปอยู่ใกล้มัน”
เอาอีกแล้ว ถ้าพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีกมีหวังฉันไม่ได้กลับบ้านแน่ๆ จะอะไรนักหนาก็แค่จะไปกินข้าวกับวินนี่นะ บางทีฉันก็เริ่มรำคาญแล้วนะฟราน นายโตแล้วนะไม่ใช่เด็กๆพูดครั้งเดียวก็น่าจะรู้เรื่อง
“นายไปเปลี่ยนชุดเถอะ จะได้รีบกลับบ้าน วันนี้ฉันเหนื่อยมากแล้ว”
ฟรานคงรู้สึกได้ว่าฉันไม่อยากจะมีเรื่องด้วย แล้วฉันก็เหนื่อยแล้ว หมอนั่นจึงไม่ได้พูดอะไรต่อ แล้วก็หันหลังเดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้อง
เริ่มปวดหัวแล้วแฮะ เวลากินข้าวไม่พอดีไรเป็นแบบนี้ทุกทีเลย กินน้อยก็เลยไม่ค่อยมีแรงด้วยT0T ทำไมฟรานเข้าไปเปลี่ยนชุดนานจัง นี่ฉันรอมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วนะ…
ครืนๆ!! ซู่!!
เห้ยย ฝนจะตกหรอ?? ตกได้ไงเนี่ย0[]0 เมื่อตอนกลางวันแดดนี่ยังเปรี้ยงๆอยู่เลย ไงมาตกตอนนี้ล่ะ นี่สินะอากาศประเทศไทย=0=
“อ้าวพาย ยังอยู่อีกหรอ?”
“อะ…อลิซ อื้อ ฉันกำลังรอฟรานนะ” J
หืออออ ฉันตัดใจจากเธอไม่ได้จริงๆอลิซน้อยหอยสังข์>___< เมื่อคืนฉันก็ดูหนังที่เธอเล่นด้วยนะ น่ารักมากๆ>0<
“หรอ แต่เมื่อกี้ฉันเห็นฟรานเดินออกทางประตูหลังไปแล้วนะ นี่เขาไม่ได้บอกเธอหรอ?”
“ไม่หรอกมั้ง ฟรานไม่น่าจะทิ้งฉันนี่ อลิซจำคนผิดหรือป่าว”
“ไม่นะ ฉันยังชวนเขากลับด้วยกันอยู่เลย”
ฉันมองหน้าอลิซแล้วก็รู้สึกได้ว่าเธอไม่ได้โกหก นี่นายทิ้งฉันจริงๆใช่ไหม? ! ให้ตายเถอะ แล้วฝนตกแบบนี้ฉันจะกลับยังไง!
“งั้นหรอ ขอบใจที่บอกนะอลิซ” J
“ไม่เป็นไรจ่ะ แล้วเธอจะกลับยังไงกลับด้วยกันไหม?” J
นางฟ้าชัดๆๆ *0* อลิซเป็นคนดีจะตายไม่เห็นจะเหมือนที่พวกนั้นพูดเลยอ่า
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันนั่งแท็กซี่กลับก็ได้”J
“งั้นฉันไปก่อนนะพาย กลับดีๆนะ”
ฉันรอให้อลิซเดินไปสุดทางแล้วก็หันกลับมามองห้องแต่งตัวอีกครั้ง ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าฟรานจะทิ้งฉันแต่อีกใจก็คิดว่าอลิซจะโกหกฉันไปทำไม ฉันเดินเข้าไปในห้องแต่งตัว ภายในห้องว่างเปล่า ประตูด้านหลังยังเปิดทิ้งอยู่เลย นายไปแล้วจริงๆสินะ นายทำแบบนี้กับฉันได้ยังไงห๊ะ ฟราน!!!!
ตอนนี้ฉันรู้สึกโกรธฟรานมากๆ โกรธมากจนอยู่ๆน้ำตาก็ไหลออกมา…หัวใจนายทำด้วยอะไร นายปล่อยให้ฉันรอได้ยังไง ถ้านายไม่อยากให้ฉันไปด้วยแล้วทำไมไม่บอกล่ะ ฉันเป็นเข้าใจอะไรง่ายๆ ถ้านายไม่อยากให้ไปฉันก็จะไม่ไป ไม่เห็นต้องมาโกหกกันเลย สุดท้ายแล้วนายก็ทิ้งฉันT0T
ความคิดเห็น