ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อินคาทัส มหาสงครามศักดิ์สิทธิ์แห่งปฐพี

    ลำดับตอนที่ #9 : ห้วงมิติ

    • อัปเดตล่าสุด 27 เม.ย. 49


    บทที่ 9 ห้วงมิติ

    ไยศัตรูรู้คุณค่าความเป็นคน  ไม่สับสนความผิดที่ทำไป

    ไยตัวเรายังสับสนยังสงสัย  ตกลงใครกันแน่ที่เป็นศัตรู

    ศัตรูนั้นร้ายกาจเป็นความจริง  แต่เรายิ่งน่ากลัวเพราะไม่รู้

    ไม่สามารถคาดเดาตัวเราดู  ดังนั้นผู้มีสติจึงปลอดภัย

    *****************

                    ดวงตาสีประหลาดจ้องมองไปทั่วบริเวณเพื่อหาชายหนุ่มที่หายตัวไป ใบหน้าร้อนรนเพราะร้อนใจ..ฝาแฝดต่างไม่กล้าแม้เพียงสะกิดผู้เป็นอาจารย์...

                    ....เฟธานหายไปไหน...

                    เสียงกรีดร้องด้วยความทรมานดังมาจากชั้นล่างของโรงเตี๊ยม..ดวงตาสีชมพูประกายเงินเบิกกว้าง..เสียงของเด็กผู้หญิง..

                     เมเจอร์  ไมเนอร่า  เดี๋ยวครูมา นางพูดพลางวางดาริคลง และวิ่งฝ่าเข้าไปในโรงเตี๊ยม

                   

     

     

                    เอโรร่าเดินตามเสียงกรีดร้องด้วยความทรมาน  ดวงตาเริ่มพร่ามัวด้วยฤทธิ์ของเขม่าควัน..

                    นางก็หันไปเห็นร่างของเด็กหญิงหมอบกายลงต่ำ กำลังหอบ..เด็กหญิงวันประมาณ 5 ขวบปีกำลังนั่งหันหลังให้นาง...และ...สลบไป

                    เอโรร่าวิ่งเข้าไปจับร่างของเด็กน้อย

                    พลัน!!!บรรยากาศโดยรอบก็เปลี่ยนไป จากความร้อนกลายเป็นความเย็นยะเยือก  จากการแผดเผากลายเป็นความเสียดแทง...จากสีเพลิงกลายเป็นสีราตรีไร้จันทร์!!!

                    เบื้องหน้านางเป็นบุรุษอาภรณ์ดำประหลาด..ประหลาดแต่น่าเกรงขาม..ดวงตาสีดำสนิทจ้องมองด้วยความ...แค้น..ก่อนที่เอโรร่าจะได้อ่านนัยน์ตา..บุรุษผู้นั้นก็ดึงผ้าบางลงมาปิดดวงตา...ปิดจุดอ่อนของตน

                    ท่านเป็นใคร น้ำเสียงสงบนิ่งราวไม่เกิดอะไรขึ้น  ร่างของเด็กหญิงที่เป็นเหมือนกับดักหายไปแล้วเหลือเพียงบุรุษเบื้องหน้าและนางยืนประจันหน้ากัน

                    ความกลัวเกิดขึ้นจับใจ..ผู้ที่ลอบทำร้ายได้อย่างเงียบสนิทราวพยัคฆ์...เวทมนตร์สูงส่งกว่า และมีรัศมีแห่งการเข่นฆ่า..นางจะทำอย่างไรดี

                    ไม่มีเวลาให้คิดอะไรมากนัก คมดาบจากบุรุษตรงหน้าเข้ามาใกล้หมายจะฟันร่างของนางให้เป็นสองท่อน..ดวงตาสีชมพูประกาบเงินเบิกกว้าง  นางล้มตัวลงและหลบคมดาบได้อย่างเฉียดฉิว..คมดาบที่ฝากรอยแผลบนแก้มเนียนไว้เป็นเส้นยาว

                    การต่อสู้กินเวลามานานเหลือเกินทั้งคมดาบและเวทมนตร์  เอโรร่ายืนด้วยความอ่อนแรง..หากแต่บุรุษตรงหน้าไม่มีแม้แต่อาการหอบ...เวทมนตร์บทหนึ่งได้ถูกร่ายคาถาออกจากปากของบุรุษนิรนาม...ไร้ซึ่งแรงขัดขืนแล้ว...

                    เวทมนตร์ประหลาดเป็นไอสีม่วงคล้ำพุ่งตรงเข้าหานาง...!!!!!

     

     

                    เมเจอร์อาจารย์หายไปนานแล้วนะไมเนอร่าตวาดขึ้น

                    ความผิดข้ารึไง

                    ทั้งสองเถียงกันอย่างไร้ประโยชน์...ไร้ประโยชน์จริงๆ

                    ไอ้เจ้าแฝดๆๆๆๆๆเสียงของดาริคดังขึ้นและชี้ไปยังข้างหน้า เป็นผลทำให้สองฝาแฝดยุติการทะเลาะกันลง...เฟธาน!!!!

                    เฮ้  ข้ามาแล้วน้ำเสียงสดใสร่าเริงทักทั้งสามดวงตาสีน้ำเงินแกมน้ำตาลมองไปทั่วบริเวณ

                    แล้วเอรี่ล่ะ??คำตอบที่ได้รับคือ ทั้งสามชี้ไปยังโรงเตี๊ยม

                    เฟธานวิ่งเข้าไปยังโรงเตี๊ยมที่บัดนี้  เพลิงการดับลงอย่างง่ายดาย...ประหลาด...ทั้งๆที่ลองหลายต่อหลายครั้งเหตุใดครั้งนี้จึงสำเร็จ...

     

     

                    ลำแสงสีม่วงคล้ำพุ่งเข้ามาด้วยความรวดเร็วหมายจะปลิดชีวิตนาง..ดวงตาสีชมพูประกายเงินหรี่ลงด้วยความอ่อนแรง....สติพร่าเลือนลงเรื่อยๆ..

                    พลัน!!!..แสงสว่างสีฟ้านวลตาปรากฏขึ้นเป็นรัศมีรอบๆร่างของหญิงสาวซึ่งบัดนี้ลอยอยู่เหนือพื้น..ดวงตาที่เคยเป็นสีชมพูประกายเงินบัดนี้กลายเป็นสีฟ้าประกายเงิน ..และเบิกกว้างขึ้น..เส้นผมสีน้ำตาลทองโบกพลิ้วราวกับสายน้ำสีทองเปล่งสีนวลดุจเจ้านภายามราตรี

                    บุรุษนิรนามผู้ลอบสังหารจ้องมองมาที่นาง..ลำแสงสีม่วงคล้ำใกล้จะหมดฤทธิ์ด้วยอำนาจเวทย์ที่รุนแรงกว่า...

                    มิติสีราตรีแตกกระจายออกกลับมาเป็นโรงเตี๊ยมเช่นเดิม...จะให้ถูกคงจะเป็นซากโรงเตี๊ยมมากกว่า..บุรุษนิรนามกระอักเลือดทรุดตัวลงไปบนพื้น..รัศมีสีวารีดับหายไป..ดวงตาสีชมพูประกายเงินหลบอยู่หลังเปลือกตา..สติของนางพร่าเลือนอีกครั้ง..ก่อนที่จะดับลง..

                    เอโรร่า!!!”น้ำเสียงของเฟธานไม่ทำให้ร่างระหงบนพื้นฟื้นขึ้นมาได้เลย

                    สายตาสีน้ำเงินแกมน้ำตาลมองไปรอบบริเวณหยุดลงที่ร่างของชายคนหนึ่งนอนกระอักเลือด...ชุดอย่างนี้...ผู้ลอบสังหารคนนั้นนี่หน่า!!!

                    ดวงตาสีดำสนิทของบุรุษนิรนามเบิกกว้างก่อนที่จะใช้แรงเฮือกสุดท้ายยกนิ้วมือข้างขวาขึ้นสัมผัสกับแหวนสีเดียวกับดวงตา..ร่างของชายผู้นั้นจึงหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย...

     

     

     

                    อาจารย์!!!”เสียงแสบแก้วหูของไมเนอร่าหวีดร้องขึ้นทันทีที่เห็นร่างไร้สติของผู้เป็นอาจารย์

                    นายหญิง!!!”ดาริคตะโกนด้วยความตกใจ

                    ดาริคกุลีกุจอ ทำแผลให้เอโรร่า  ด้วยความยากลำบากเพราะขนาดตัว ทุกคนมองดาริคด้วยสายตา     แล้วไมมันไม่เปลี่ยนร่างล่ะนั่น โดยคำตอบที่ดาริคตอบคำถามนั้นก็คือ..

                    นายหญิงไม่ให้เปลี่ยนร่างเป็นเหตุทำให้ไมเนอร่าต้องไปทำแผลแทนเนื่องจากดาริคโดนเมเจอร์เตะสลบเหมือดไปเป็นที่เรียบร้อยเสียแล้ว

     

     

     

                    วันรุ่งขึ้นทั้งหมดเตรียมตัวข้ามแม่น้ำรีมิสทิเคิลตอนบนซึ่งเป็นพรมแดนธรรมชาติที่กั้นระหว่างมณฑลเมราห์แห่งอาณาจักรอันดาซัสและมณฑลฟอว์แห่งอาณาจักร์สกาล่าทรอย..

                    แม่น้ำรีมิสทิเคิลเป็นแม่น้ำสายที่ยาวที่สุดในแผ่นดิน แม่น้ำไหลผ่านตั้งแต่ตอนบนจรดล่างสุดของแผ่นดินฝั่งพายับ..มีวามกว้างประมาณ5โยชน์

     

     

                    พี่ๆเช่าเรือหนึ่งลำไปท่าเรือฝั่งนู้นเท่าไหร่ เมเจอร์ถามชายผู้เป็นเจ้าของเรือที่เป็นชายอ้วนลงพุง แต่งกายสกปรก ท่าทางไม่เป้นมิตร

                    สามพัน เอนซาร์ น้ำเสียงของชายผู้นั้นไม่เป็นมิตรเช่นเดียวกับรูปลักษณ์

                    ห๊า!!!?? สามพัน เอนซาร์ จะบ้าเรอะลุงไมเนอร่าถามด้วยความฉุน

                    สามพัน ไม่มีการต่อราคา ถ้าต่อก็ไม่ต้องไป!!”น้ำเสียงที่ตะคอกกลับมานั้นไม่ได้ดังน้อยไปกว่าเสียงของไมเนอร่าเลยแม้แต่น้อย

                    เอโรร่าส่งสายตาเป็นเชิงปราม..

                    เท่าไหร่เท่ากัน หวังว่าเรือคงจะมีคุณภาพเหมาะสมกับราคานะลุง!!!!”เฟธานพูดพลางหยิบเงินสามพันเอนซาร์แก่เจ้าของเรือ

                    ...ไอ้แก่พุงพุ้ย อย่าให้ข้าเจออีกครั้งนะ ไม่งั้นมีเจ็บแน่!!!...

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×