ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อินคาทัส มหาสงครามศักดิ์สิทธิ์แห่งปฐพี

    ลำดับตอนที่ #3 : พรากเพื่อพบ

    • อัปเดตล่าสุด 25 เม.ย. 50


    บทที่ 3 พรากเพื่อพบ

    การจากลาเพื่อพบในวันหน้า      พบคุณค่าในการพรากมิสูญหาย

    ดีกว่าจากมิได้พบจนวันตาย          หวังมลายหากตัวตายมิเคยเลือน

    ****************

                    กึกๆๆๆๆๆๆๆๆ

                    เสียงจังหวะการย่างก้าวของหญิงสาวในความมืดดังชัดเจน ทุกๆย่างก้าวรวมกับเหยียบย่ำลงบนแผ่นทรายราวกับดึงร่างของนางให้จมดิ่งสู่ผืนดินในจินตนาการที่มิมีตัวตน สร้างความรู้สึกแห่งความเยือกเย็น หดหู่ และอ้างว้าง

                    ที่นี่ที่ไหน!!!???

                    ความตกใจ และความกลัว ผสมปนเปในความรู้สึกของนาง..หญิงสาวกำลังเดินเข้าไปในความมืดอันไร้จุดจบ 
                   กึกๆๆๆๆๆๆๆๆ           
                   เสียงดังขึ้นเป็นจังหวะการวิ่ง ดัง และชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

                    สักพัก เด็กผู้ชายหน้าตามอมแมม ก็ปรากฏขึ้นแก่สายตาของเอโรร่า ในมือของเด็กชายผู้นั้นมี โคมตะเกียงที่ส่องสว่างเพียงแค่ในอาณาบริเวณ อยู่

                    " พี่สาว ช่วยผมด้วย" คำพูดที่หลุดออกจากปากของเด็กน้อย นี้ช่างน่า พิศวงยิ่งนัก

                    " พี่สาวผมกลัว ช่วยผมที พาผมออกไปจากที่นี่  ได้โปรดเถิด " น้ำเสียงสั่นเครืออย่างรุนแรง ของเด็กน้อยทำให้เอโรร่าใจหายวาบ..เหตุใดเธอจึงรู้สึกอยากช่วยเด็กน้อยตรงหน้านักทั้งๆที่เธอไม่รู้จักเสียด้วยซ้ำ

                    " งั้น มาอยู่กับพี่สาวนะจ๊ะ " เธอปัดความคิดนั้นออกไปแทบจะทันที ..จะอย่างไร เที่นี่ก็ไม่มีใครอื่นนอกจากเธอ กับเด็กน้อยตรงหน้าแล้วนี่

                    ทันทีที่เอโรร่าจับมือกับเด็กน้อยตรงหน้า ความมืดอันไร้จุดจบ กลิ่นอายแห่งความปล่าวเปลี่ยว ผืนดินอันไม่มีตัวตน ก็แปลเป็นความสว่าง ห้อมล้อมไปด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะราวลำนำจากสรวงสวรรค์ ทันที

                    " ขอบคุณนะครับ พี่สาวที่ช่วยผมไว้  ขอบคุณมากครับพี่สาว  ผมเฟธานนะฮะ แล้วพี่สาวล่ะ"ดวงหน้ากลมอิ่มเอิบ อันมีดวงตาสีน้ำเงินแกมน้ำตาลใสสะอาด ในชุดที่สะอาดราวเทวดาองค์น้อยๆ จ้องตอบกลับมาด้วยความสุข หญิงสาวพยายามใช้พลังวิเศษในการความคิดจากนัยน์ตา หากหลงเหลือแต่เพียงเสียงสว่างอันเจิดจ้า จรมิอาจทนได้
                    "เฟธานนนนนนนนนนนนนนน!!!" หญิงสาวกรีดร้องสุดเสียงก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบลง

                    เอโรร่าลุกขึ้นนั่งบนเตียงของเธอ...ทำไมเราถึงมาอยู่บนเตียงได้กันล่ะนี่...

                    เธอยังรับรู้ถึงความรู้สึกอันอบอุ่นที่เด็กน้อยผู้นั้นมีให้ แก่เธอ มันไม่ใช่ความฝัน...หญิงสาวยกมือขึ้นเพื่อจะเช็ดเหงื่อตามไรผมและหน้าผาก หากแต่..
                   ...มือขวาของนางยังคงกระชับแน่นอยู่กับบุคคลหนึ่ง.....
                   บุคคลที่ครั้งเยาว์วัย น่ารักน่าทะนุถนอมราวกับเทวดาน้อยๆ
                   บุคคลที่เป็นเจ้าของดวงตาสีน้ำเงินแกมน้ำตาล
                   บุคคลที่มีผิวขาวจัดเนียนละเอียด จนเห็นเลือดฝาด
                   แต่หาก..บัดนี้...ในร่างชายหนุ่มรูปงาม

                    ...เฟธาน มาอยู่ในห้องนอนของเธอหรือนี่!!!!

                ดวงตาสีชมพูประกายเงินเบิกกว้างในความมืด เอโรร่ายังคงควบคุมสติได้ดีเยี่ยม เธอพินิจมองร่างชายหนุ่มอย่างถี่ถ้วน...และได้พบกับบาดแผลใหญ่เล็กอยู่บนร่างกายของชายหนุ่มผู้นั่งสลบอยู่ข้างเตียงนอนของเธอ!!!

                    เสียง ผ่อนลมหายใจของชายหนุ่มร่างสูงดังเป็นระยะ เฟธานนั่งบนพื้นซบกับ ริมเตียงข้างเอโรร่า เลือดไหลตามหลังจนเสื้อเปียกชื้น ใบหน้าชุ่มเหงื่อ คิ้วขมวดมุ่นแม้ว่าดวงตาสีประหลาดล้ำจะหลบอยู่หลังเปลือกตาก็ตาม

                    ....เฟธาน งั้นหรือ เมื่อกี้ไม่ใช่ฝัน หรือว่า…!!!

                    ก่อนที่จะได้ทำอะไรมากไปกว่านั้น เอโรร่าจัดการ ใช้เวทมนตร์พาชายหนุ่ม ขึ้นมาบนเตียงของเธอ และเริ่มใช้เวทย์ในการสมานแผล แต่มันไม่ได้ผล...ก็คงต้องเป็นเช่นนั้น ผู้ที่โจมตีจากท้องฟ้าคงเป็นพ่อมด จะใช้เวทมนตร์รักษาแผลที่เกิดจากเวทมนตร์ได้อย่างไรกัน...

                    ..ทำอย่างไรดีกันล่ะนี่...คิ้วเรียวบาง ขมวดมุ่นอย่างคนใช้ความคิด นัยน์ตาสีชมพูประกายเงิน มีแววมุ่งมั่นก่อนที่ในที่สุด เธอก็ออกเดินจากห้องนอนด้วยความรวดเร็ว

                    ปัง!!!

                เสียงกระแทกประตูเปิดออกอย่างรุนแรง ด้วยความรีบเร่ง

                    ภายในห้องโอสถ ของคฤหาสน์ เป็นห้องมีขนาดไม่ค่อยกว้างนัก มีประตูสองบาน คือบานที่ใช้เข้าออก และบานที่เชื่อมไปยังห้องสมุด   ผนังทั้งสี่ด้านเต็มไปด้วยสมุนไพร และยานานาชนิด ที่ตั้งอยู่บนชั้นจรดเพดานห้อง

                    เอโรร่า ปีนบันไดที่ยึดกับชั้นวาง ของ ขึ้นไปชั้นบนสุด ก่อนที่จะคว้า ของสิ่งหนึ่งลง มาจากชั้นวาง และรีบวิ่งกลับไปห้องนอนของเธอ

                    เฟธานหายใจถี่และดังขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

                    สิ่งของที่เธอหยิบมาจากห้องโอสถคือขวดแก้วซึ่งภายในบรรจุน้ำยาสีฟ้าเปล่งแสง

                    เอโรร่า ฉีกเสื้อของเฟธานออกทางด้านหลัง ...ขอร้องล่ะได้โปรด ขอให้เธอคิดถูก...

                    เอโรร่าราดน้ำสีฟ้าลงบนหลังของ เฟธาน ยาสีฟ้าเรืองแสงทำปฏิกิริยากับเวทมนตร์ที่เฟธานถูกเล่นงานทันที มันเปล่งแสงสว่างจ้าขึ้นจน ต้องหลับตา ก่อนที่แผลจะค่อยๆสมานตัวมันเองจนหายไป

                    รอยยิ้มผุดขึ้นบนริมฝีปากบางสีกุหลาบ ก่อนที่ร่างระหงจะล้มลงกับพื้น..

                    ..ปวดหัวจัง..ทำไมปวดขนาดนี้กันนะ...

                    เอโรร่าค่อยๆลืมต้าขึ้นสู้กับแสงสว่างในยามเช้า ..เพดาน เพดานสีขาว อืม ห้องเราเอง..เธอเริ่มนึก  แล้วเอียงตัวไปทางซ้าย...ประตู  ตู้หนังสือ โต๊ะ เก้าอี้ อืมใช่ห้องนอนเราแน่ๆ..เธอคิดต่อ แล้วเอียงตัวไปทางขวา...หน้าต่าง ประตูกระจกออกสู่ระเบียงแต่ ..เอ..ใครเปิดผ้าม่านกันนะ  ..เธอลุกขึ้นนั่ง แล้วมองไปข้างหน้า ... อืมผนังห้อง แล้วก็เฟธาน....หา!!!เฟธานในห้องนอนของเธอ!!! ความทรงจำเมื่อคืนเริ่มร้อยเรียงกลับมาในความทรงจำ

                แล้วที่สำคัญเข้าดูไม่เหมือนคนเพิ่งโดนเล่นงานจากเวทมนตร์เลย ใบหน้าสะดุดตา รับกับดวงตาสีน้ำเงินแกมน้ำตาลประหลาดที่ทอแววขี้เล่นเหมือนเคย และ นั่งเปลือยท่อนบนอยู่...

                    เธอเริ่มลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน...เธอคงสลบไป เพราะใช้เวทมนตร์คู่กับยารีเคอร์สมากเกินไป

                    "อรุณสวัสดิ์เอรี่" น้ำเสียงสดใสทักมา

                    " เฟธานออก ไปจากห้องของข้าดีกว่า "เธอพูดพร้อมกับคิดว่าถ้ามีใครมาเห็นเข้าจะเป็นเช่นไร...

                    " เอางั้นหรือ..ข้าล่ะเสียดาย นานๆที จะได้มีโอกาสมาอยู่ในห้องนอนของหญิงสาวรูปงาม " ชายหนุ่มพูดพลางเอามือจับริมฝีปาก เป็นเหตุให้หญิงสาวหน้าขึ้นสีด้วยความอับอาย
                   
     "เฟธาน" หญิงสาวกดเสียงลงหนัก เป็นนัยว่า จริงจัง และกลบเกลื่อนความเขินอายของตนไว้


                   
    ร่างอรชรของเอโรร่าเดินเข้ามาหาเขาด้วยความรวดเร็วส่งผลให้ ดวงตาสีน้ำเงินแกมน้ำตาลพราวระยิบอย่างขบขัน

                    " เฟธาน เล่ามาเล่าทั้งหมด"เอโรร่าพูดอย่างรวบรัด

                    " เมื่อคืนที่เจ้าออกมายืนทำหน้าครุ่นคิดหน้าระเบียง สักพักหนึ่ง เกิดเงาดำประหลาด อยู่กลางท้องฟ้าในระยะที่เรียกได้ว่าใกล้กับตัวเจ้ามาก แต่เจ้าไม่เห็นมัน? ?"

                    " ข้าไม่เห็น"คิ้วเรียวขมวดมุ่นอีกครา

                    " ทันใดนั้นเจ้าควันประหลาดก็พุ่งใส่ตัวของเจ้า และเหมือนกับว่าร่างของเจ้าจะดูดกลืนควันประหลาดอย่างไม่ต่อต้านเลย  ข้าเห็นเลยเข้าไปช่วยเจ้า  ข้าวางเจ้าลงบนเตียงพอข้าหันมาทางประตูที่เชื่อมกับระเบียงอีกครั้งแสงสีแดงฉานก็พุ่งเข้ากลางหลังของข้า โดยที่ไม่ทันตั้งตัว แล้วข้า...ก็สลบไป "

                    " หมายความว่าเจ้าช่วยข้าจากการถูกเล่นงานหรอเฟธาน" เอโรร่าพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

                    เฟธานเมื่อเห็นรอยยิ้มนั้น  แทนที่จะยิ้มตาม แต่เขากลับทำสีหน้าเหมือนกระอักกระอ่วนเต็มที..ไม่ใช่เขาไม่รู้จักเธอ แต่เขารู้จักเธอดีเกินไปน่ะสิ!!!

                    "อืม..ข้าเข้าใจแล้ว  แต่ที่ข้ายังสงสัย เจ้ามาทำอะไรที่หน้าระเบียงห้องนอนข้า ตอนกลางคืนกัน เฟธาน " น้ำเสียงชวนขนลุกหลุดออกมาจากปากสีกุหลาบ

                    เฟธานหลุบตาลงต่ำ ไม่อย่างนั้นความลับก็รั่วออกทางตาหมด ว่าเขาไปนั่งมองเธอตั้งแต่ที่เธอพูดถึงเนื้อคู่ของเธอ....หวั่นผวาเวลาอันน้อยนิดที่เธอจะอยู่ให้เขามอง

                    " ข้าก็อยู่ที่บ้านข้านั่นแหละ พอดีข้าลงมาเดินชมท้องฟ้ายามราตรี "คำโกหกที่พอถูไถไปได้อย่างไม่น่าเกลียดเพราะคฤหาสน์ของขุนนางใหญ่รองต์กาเลียสอยู่ติดกับคฤหาสน์ของการ์ซิลินด์ ทำให้เอโรร่าเลิกเค้นคำตอบแม้ลึกๆเธอไม่เชื่อเหตุผลของเฟธาน..ไม่เลยสักนิด!!!

                "เฟธาน "

                    "หือ" เฟธานส่งเสียงฮึมฮัมในลำคอเป็นการตอบรับ

                    "ข้ามีอีกเรื่องอยากจะถามเจ้า "

                    "เจ้าฉลาดกว่าข้าตั้งแยะ ยังต้องถามข้าอีกหรือ "น้ำเสียงล้อเลียน นั้นทำให้เธอหัวเราะออกมาได้

                    "เจ้าจะเชื่อไหมว่าข้าเห็นเจ้าในวัยเด็ก ในที่ๆหนึ่ง ที่ที่ความมืดกับแสงสว่างอยู่ห่างกันเพียงแค่เส้นบางๆที่เรียกว่าเงาคั่นกลาง"

                    " เจ้าเห็นอะไรเอโรร่า "น้ำเสียงที่เคร่งขึ้นบอกให้รู้ว่า ผู้พูดจริงจังกับเรื่องนี้มากเพียงใด

                    เอโรร่าค่อยๆอธิบายเรื่องที่เธอเห็นให้เฟธานฟัง

                    " ข้าก็ไม่รู้หรอกนะ ว่าที่ที่นั้นมันคือที่ไหน แต่ข้าบอกกับเจ้าได้ว่านั่นเป็นความทรงจำส่วนหนึ่งในวัยเด็กของข้า " กระแสแห่งความเศร้าเจือปนมากับน้ำเสียง 

                " เจ้ารู้ดีอยู่แล้วว่าความทรงจำของข้าไหลผ่านทางมือ เพราะข้าบาดเจ็บเลยไม่มีเรี่ยวแรงควบคุมความรู้สึก

                    เอโรร่าพยักศีรษะเป็นเชิงรับรู้..ความทรงจำของผู้ใช้เวทย์จะถูกถ่ายทอดแก่บุคคลอื่นได้ โดยผู้ใช้เวทย์นั้นจะส่งไปให้ผ่านทางสัมผัส  แต่หากเวลาผู้ใช้เวทย์นั้น ไม่รู้สึกตัวความลับก็จะไหลออกโดยง่าย

                    "ข้าต้องไปแล้วล่ะ เฟธานวันนี้ข้าต้องสอนวิชาสมุนไพรให้เจ้าฝาแฝดจอมยุ่งนั่น "น้ำเสียงของเอโรร่าคลายความกังวลจนหมดสิ้น ทำให้ผู้สนทนารู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก

                     หญิงสาวเริ่มเดินจากไป....ทิ้งไว้เพียงแต่กลิ่นหอม ยามเช้าของนางและสวนดอกไม้
                     .......ขอบคุณสวรรค์ที่นางไม่เป็นไร.....













    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×