ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อินคาทัส มหาสงครามศักดิ์สิทธิ์แห่งปฐพี

    ลำดับตอนที่ #2 : ความฝัน

    • อัปเดตล่าสุด 16 พ.ย. 49


    บทที่ 2 ความฝัน

    พยากรณ์ฝันในคืนจันทร์กระจ่าง     สิ่งนั้นต่าง หวนให้นึกถึงความหมาย

    โลหิตหลั่งไหล เป็นทางสาย      แห่งความตายของแผ่นดินสิ้นธรณี

    ********************

                   กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด



                   
    เสียงกรีดร้อง อย่างทรมาน ดังไปทั่ว ทุกสารทิศ



                   
    หยาดโลหิต หลั่งไหลเป็นสายทางไปทั่วผืนดิน  ซากศพกระจัดกระจายเกลื่อนกลาด  กลิ่นสาปลอยมาแตะจมูกจนน่าสะอิดสะเอียน


                    คืนแห่งเปลวเพลง ภายใต้ความมืดมิดและสายลมที่กรรโชกราว เป็นการต้อนรับเทพีแห่งความตาย ความหายนะกำลังเกดขึ้นอย่างไม่คิดฝัน 

     
                   
    " เผาเมืองนี้ให้ราบคาบ  อย่าให้เหลือแม้แต่ชีวิตเดียว!!" เสียงออกคำสั่ง ดังก้องไปทั่วบริเวณ



                   
    " จับราชนิกุลทั้งหมดได้แล้วครับท่าน " ชายผู้ซึ่งน่าจะเป็นลูกน้องของชายผู้ออกคำสั่งคนแรก วิ่งมารายงาน ความคืบหน้า



                   
    " ดีมาก ถ้าอย่างนั้นก็ฆ่าพวกมันทิ้งเสียให้หมด อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียวไม่เช่นนั้น หากรู้ถึงหู ขององค์ราชา หัวเจ้าจะได้หลุดจากบ่า !!"



                   
    " ขอรับ ท่านแม่ทัพ "



               
    " เจ้าอย่ามาแตะต้องตัวแม่ข้า !!" เสียงชายหนุ่มในเครื่องทรงแบบ ชนชั้นปกครอง แข็งกร้าวอย่างทรงพลังอำนาจ แต่กลับเย็นยะเยือก ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลมีแววแห่งโทสะราวมีเปลวอัคคีลุกไหม้ในนัยตาสีเย็นคู่นั้น.....แต่หาได้ทำให้ชายผู้นั้นสะทกสะท้านไม่ 



                   
    " ปากดีนัก งั้นเจ้าก็ตายไปเสียเลยสิ จะได้ไม่ต้องทนเห็นข้าจับตัวแม่ของเจ้า  มาข้าจะสงเคราะห์ให้   ฮ่าๆๆๆ" พูดจบนายทหารก็ฟันคอของชายผู้นั้นกระเด็นหลุดออกจากบ่าทันทีทั้งๆที่ตัวของเขายังคงผูกติดอยู่กับต้นไม้ แต่ศีรษะกลับกระเด็นไปไกลเสียเหลือเกิน



                   
    "ไม่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!" เสียงกรีดร้องของผู้เป็นมารดาของชายผู้นั้น ราวกับขาดใจ...ดวงตาไร้แววความรู้สึกอีกต่อไป..ดวงตาที่มีสีเดียวกับผู้เป็นบุตรชายไม่ผิดเพี้ยน...ความเจ็บปวดเจียนตายราว ตายทั้งเป็น..ไร้ซึ่งความรู้สึกอีกต่อไปเมื่อความเสียใจมากเกินจักรับไหว...

                    เฮือก!!!



                   
    ดวงตาสีชมพูประกายเงิน เบิกกว้างขึ้น ในความมืดแห่งราตรีกาล

                    เหงื่อ เม็ดเป้ง ผุดขึ้นบนหน้าผากเนียน ...ฝันเมื่อกี้มันอะไรกัน เหตุใดมันจึงเหมือนจริงนัก  รับรู้กระทั่ง กลิ่น ของสาปโลหิต....


                   
    เอโรร่า สะบัดผ้าห่ม ลุกขึ้นจากเตียงนอนโออ่า เดินไปยังประตูกระจก ที่จะพาออกไปยังลานระเบียงกว้างขวาง ...เอโรร่าลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะตัดสินใจ เดินออกไปที่สุดระเบียง..



                   
    ท้องฟ้า ยามรัตติกาลมืดมิด  ดวงดาวนับล้านดวงทอแสงประกายแข่งกัน แต่ก็มิอาจเทียบได้กับความสว่างของดวงบุหลัน..ทุกอย่างดูสงบเหมือนเดิม  มหานทียังคงไหลซัดคลื่นตามหาดฝั่งอย่างเป็นจังหวะ  สายลมปลิวพัดผ่านหญิงสาว  เส้นผมสีน้ำตาลทองราวแพรไหมสยายไปตามกระแสสายลมอบอุ่น...



                   
    เอโรร่าหลับตาลง ด้วยสีหน้าทุกข์ใจ...เวลาแห่งความตายของผู้คนกำลังใกล้เข้ามา..เธอรับรู้เช่นนั้น.

    ฝันของผู้ใช้มนตรา ที่มีกลิ่น หรือสัมผัสได้ มักเป็นความจริงเสมอ...ฝันบอกเหตุ...



                   
    แต่..ฝันบอกเหตุของผู้ใช้มนตรา มักเกี่ยวกับตัวผู้ใช้มนตราเองไม่มากก็น้อยเสมอเช่นกัน...

    ************

                   
    " ท่านตาคะ ..."เสียงของเอโรร่า ดังขึ้นพร้อมกับเสียงเคาะประตู



                   
    " เข้ามาสิหลานรัก " เสียงของชายชราที่คุ้นเคยดังตอบกลับมาหลังประตูบานใหญ่ก่อนที่หญิงสาวจะกล่าวจบประโยคราวกับรอหญิงสาวอยู่ก่อนแล้ว



                   
    หลังบานประตู เป็นห้องทำงานของ ท่านผู้เฒ่าการ์ซิลินด์ ห้องทำงานนี้ เป็นห้องที่ค่อนข้างใหญ่  ผนัง สองด้าน เป็นตู้หนังสือที่แน่นขนัดยาวตลอดแนว  ผนังด้านที่สาม เป็นกระจกบานใหญ่ และผนังด้านสุดท้าย เป็น ประตูที่เชื่อมกับตัวตำหนัก แล้วกลางห้อง มีโต๊ะทำงานตัวใหญ่ ที่ขณะนี้มีชายชรา ผู้หนึ่งกำลังนั่ง ยิ้มรับหญิงสาวที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องของเขา



                   
    " มีอะไรหรือหลานรัก " ดวงตาสีเทาจางฉายแววอ่อนโยนอย่างที่มองมายังเธอทุกครั้ง..

                    " ท่านตาคะ  ข้ามีเรื่องอยากจะปรึกษาท่าน "



                   
    " เอ...เรื่องอะไรกันหนอ  ที่ทำให้จอมปราชญ์อย่างเจ้า ต้องมาปรึกษากับข้า "มหาปราชญ์การ์ซิลินด์ หยอกหลานสาวอย่างเอ็นดู



               
    " โถ่ ท่านตา ข้ามิใช่จอมปราชญ์เสียหน่อย  ข้าออกจะ...สะเพร่า"

                    ...ไม่หรอก หลานรักอีกไม่นาน ปัญญาของเจ้าจะเฉียบแหลมกว่าผู้ใดในหล้า แม้กระทั่งตัวของตาเอง..


                    
     
    " แล้วเรื่องอะไรล่ะ หลานรัก "ผู้เป็นตาไม่ได้พูดประโยคในใจออกไป...



               
    ดังนั้นเอโรร่าจึง เล่าเรื่องฝันของเธอให้แก่ผู้เป็นตา ฟัง..



                   
    "เข้าใจ ล่ะ  ที่จริงตาก็พอจะรู้ อยู่ก่อนแล้วเรื่องของหลาน เรื่องนี้ "



               
    " หมายความว่าท่านตาตรวจดูอนาคตได้หรือคะ "



               
    " ก็ไม่เชิงอย่างนั้นหรอก ถึงแม้ตาจะสามารถทำนายอนาคตได้ ทุกอย่างย่อมมีขอบเขต และขอบเขตของตาก็คือ ไม่สามารถที่จะทำนายอนาคตของตนเองได้  และจะไม่สามารถล่วงรู้อนาคตของผู้ที่มีความผูกพันกับตาได้ทั้งหมด "


               
    " ไม่สามารถล่วงรู้ได้ทั้งหมด?? หมายความว่าท่านอาจจะรู้บางส่วน??"


                    " ถูกแล้วหลานรัก " การ์ซิลินด์ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงคงเดิม



                   
    ถึงแม้ว่าสติปัญญาของเอโรร่าจะเฉียบแหลมขนาดไหน  แต่เธอก็ยังเด็กอยู่มาก  ประสบการณ์ย่อมน้อยกว่าผู้ที่ผ่านร้อนผ่านหนาว มานานดังเช่น ตาของเธอ



                   
    " เรื่องในฝันของเจ้าเกี่ยวพันกับเจ้า ครึ่งหนึ่ง ..."



               
    "ครึ่งหนึ่งเชียวหรือ ท่านตา..." ความฝันเรื่องนี้ชักไม่ธรรมดาเสียแล้ว เธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับสงครามตั้ง ครึ่งหนึ่ง!!!หญิงสาวคงจะล้มพับลงเสียตรงนั้น หากไมได้นั่งอยู่ก่อนแล้ว

                " เจ้ารู้เรื่องชะตาชีวิตไหม เอโรร่า"


                   
    " พอรู้ค่ะ ท่านตา" เธอตอบอย่างกลับมามีสติอีกครั้ง



                   
    "แล้วเจ้ารู้ตรงที่ว่า หากชะตาลิขิตให้ ผู้ใช้มนตรา เป็นเนื้อคู่กับมนุษย์  แล้วมนุษย์ผู้เป็นเนื้อคู่ เสียชีวิตลง ผู้ใช้มนตราจะเป็นอย่างไร ??"



                   
    " ก็ต้องตาย ตามผู้เป็นเนื้อคู่  ....การรักกันของมนุษย์กับผู้ใช้มนตรา ผิดกฎของธรรมชาติ แต่เมื่อชะตาลิขิตที่บิดเบี้ยวนั้น กำหนดให้เป็นเช่นนั้น ผู้ใช้เวทย์ก็ย่อมต้องรับการลงทัณฑ์..คือความตาย ทันทีต่อจากที่คู่ครองตาย "เอโรร่าตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มๆ อย่างเริ่มเครียดขึ้นมา



                   
    " เจ้าเข้าใจแล้วสินะ หลานรัก  ชายผู้นั้นในฝันของเจ้า คือองค์ชายรัชทายาทอันดับหนึ่งแห่งอาณาจักรพาราเรียส  เจ้าชายแอร์รอน  ดราโกรอน ดั๊กลาส เด วิส เกรซเซส หรืออีกนัยน์หนึ่ง คู่ครองของเจ้าตามลิขิตฟ้า "



               
    "..." ไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกจากปากบาง สีกุหลาบ


                   
    " แล้วข้าจะทำอย่างไรดี ...ท่านตา..ข้ายังไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำ "ขอบตาของเธอร้อนผ่าว ก่อนที่น้ำใสๆจะหยดลงสู่มือขาวนวล


                   
    " ข้าไม่อาจช่วยเจ้าได้...หลานรัก มีเพียงตัวเจ้าเท่านั้น ที่จะเลือกทำเช่นไรใน เวลาที่เหลืออันน้อยนิดนี้ "



                      มหาปราชญ์การ์ซิลินด์ส่ายศีรษะอย่างหมดหนทาง


                    ********************

                    นัยน์ตา สีชมพูประกายเงิน ไร้ซึ่งชีวิตชีวา ดูเลื่อนลอยไร้ที่สิ้นสุด ผมสีน้ำตาลทองโบกพลิ้วไปตามกระแสสายลมอันอบอุ่น...ทำไมเธอถึงดูเศร้านัก



                   
    "เอรี่..." เสียงทุ้มอบอุ่นของ ชายที่เธอคุ้นเคยลอยตามกระแสสายลมอันอบอุ่นมา..เหมือนทุกครั้ง



                   
    " เฟธาน..."



                   
    " เป็นอะไรบอกข้าได้ไหม ?? " ทำนบน้ำตาของเธอทะลักในทันที  ชายหนุ่มไม่ว่ากระไรเพียงแต่ใช้ดวงตาสีน้ำเงินแกมน้ำตาล มองลึกเข้าไปในดวงตาหญิงสาวราวตอกย้ำว่า...หากยังไม่พร้อมก็ไม่ต้องพูด


                    ในที่สุด เธอก็เริ่มควบคุมอารมณ์ที่อดกลั้นไว้ได้ หญิงสาวผละออกจากอ้อมกอดของชายหนุ่ม เธอค่อยๆเล่าเรื่อง ฝัน เนื้อคู่ และชะตาของเธอให้เฟธานฟัง



                   
    ชายหนุ่มเจ็บแปลบ ในหัวใจ...เนื้อคู่ของเธอไม่ใช่เรา  ใช่สิ ข้าก็ไม่มีสิทธิ์จะแตะต้องนางแต่แรกแล้วนี่..



                   
    " ข้าคิดว่าเจ้าควรจะไปพาราเรียส " แต่ถึงกระนั้น มันเป็นสิ่งที่ถูกที่ควร  และเขาก็ต้องยอมรับอย่างไม่มีข้อแม้ใดใด


                    " ให้ข้าไปพาราเรียสหรือ "ดวงตาสีประหลาดของหญิงสาวมองจ้องเข้าไปในดวงตาของชายหนุ่มอย่างต้องการคำตอบ...ซึ่งเธอต้องได้มันอย่างแน่นอน..

                    " ใช่ อย่างน้อย เจ้าก็ได้รู้จักผู้เป็นคู่ครอง แม้ชะตาอาจจะลืมให้เจ้าได้คู่กันก็ตาม "น้ำเสียงของเฟธานเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด..เศร้าโศก เสียใจ น้อยใจ หึงหวง...


                   
    เฮือก
    !!!



               
    คืนที่ 3 ติดต่อกันแล้วที่ฝันเรื่องเดิมๆ  เอโรร่า ใช้หลังมือปาดหน้าผากของตนที่เปียกชื้น ก่อนที่จะเดิน ออกไปสู้ระเบียงกว้าง



                   
    พื้นที่ฝั่งตะวันออกของอาณาจักรอันดาซัส จะติดกับทะเลทั้งหมด ดังนั้น อันดาซัส จึงถือเป็นเมืองท่าที่สำคัญ มาก ของอาณาจักรทั้ง 5 ทางฝั่งตะวันตก



                   
    นัยน์ตาสีประหลาด มองไปทั่วบริเวณ



                   
    ...ทุกอย่างเหมือนเดิม  ความงดงามของทะเล  สายลมอันอบอุ่น  ราตรี ที่สุกสกาวไปด้วยดวงดารา  บ้านเมืองที่เป็นระเบียบ อย่างที่เมืองหลวงพึงจะเป็น....10 ปีแล้วสินะที่เราอาศัยอยู่ที่อาณาจักรแห่งนี้...


                   
    ขอบตาของนางร้อนผ่าว ก่อนที่น้ำใสๆจะหลั่งรินออกมา ... เธอกำลังจะตาย เพราะผู้ที่ชะตาชีวิตผูกกับเธอกำลังจะตาย มันดูเหมือนไม่ใช่เรื่องของเธอ เพราะเธอยังไม่รู้จักเขาผู้นั้นด้วยซ้ำ
    !!!



                   
    ทันทีที่เธอคิดเสร็จ สายลมอันแผ่วเบา  ก็กรรโชกอย่างรุนแรงจนกลายเป็นพายุ ก่อนที่ ทุกสรรพสิ่งรอบตัวเธอจะหายไป เหลือเพียงความมืดมิดที่เกาะกุมจิตใจของเธอ...






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×