ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อินคาทัส มหาสงครามศักดิ์สิทธิ์แห่งปฐพี

    ลำดับตอนที่ #19 : ต่างหน้าที่

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ค. 50


    บทที่ 19 ต่างหน้าที่

    กระแสลมแสนหนาวเริ่มพัดพา   นำนาวาแข็งตัวเริ่มมัวหมอง

    แมกไม้ที่ไร้ใบไม่ชวนมอง  จงตริตรองท่านจักพบสายอัสนีย์

    นางสูงศักดิ์สมเลือดสีน้ำเงิน  แม้มองเผินท่านยังเห็นศักดิ์วงศ์หงส์

    เปล่งรัศมีเกรียงไกรความทระนง  ณ ที่ตรงดินแดนไร้แสงจันทร์

                รางบางของหญิงสาวที่เปล่งประกายรัศมีเจิดจ้าชวนมองลอยอยู่เหนือมหานที  ตรึงสายตาของชายหนุ่มให้มองอย่างมิอาจละไปจากร่างระหง...น่าเกรงขามแต่งดงามดั่งเทพธิดา..แม้จะสิ้นร่างเจ้าหญิงแห่งพรายน้ำไปแล้ว

                    พลัน!!!ดวงตาที่เป็นสีฟ้าประกายเงินกลับเป็นสีชมพูประกายเงินซึ่งหลบหลังเปลือกตา  เส้นผมสีเงินยวงพลันกลับเป็นสีทองเรืองรอง รัศมีราวสายน้ำหุ้มกายหายไปราวไม่เคยมี..ร่างบางล่วงดิ่งสู่ผืนน้ำทันที!!

                "เฮ้อออออ..รอด"เฟธานพูดพลางมองหน้าหญิงที่ไร้ซึ่งสติในอ้อมแขนของตน หลังจากร่ายคาถาทันท่วงที..

                    ...เรื่องเมื่อครู่ คืออาไรกันหนอ..

                    เช้าวันนี้ท้องฟ้างดงามไปด้วยดวงอาทิตย์แย้มรับกับชายฟ้าเปิดสะอาดสดใส ท้องทะเลสีครามงดงามราวกับภาพวาด เรือเดินสมุทรซึ่งกำลังเข้าฝั่ง..เรือที่เดินทางข้ามคืนมาเพื่อถึงเกาะซิกนัส..อาณาจักรที่เล็กที่สุดในแผ่นดิน..

                    "อีกครึ่งชั่วโมงจะเข้าฝั่งแล้วนะขอรับท่าน"เสียงของผู้เดินเรือตะโกนขึ้น

                    "ทำไมอาจารย์ไม่ตื่นเลยล่ะคะ"ไมเนอร่าถามเฟธานซึ่งกำลังปลุกหญิงสาวในอ้อมกอดอยู่

                    เหงื่อไคลในตัวของหญิงสาวออกมาไม่หยุดด้วยความร้อนจากพิษไข้  แสงแดดส่องกระทบเส้นผมสีน้ำตาลทอง และคิ้วสีเดียวกันที่ขมวดมุ่นแม้ตาจะหลบอยู่หลังเปลือกตา

                    "อ๊ากกกกกกกก!!!"เสียงเมเจอร์ร้อง ขึ้นทันทีที่หกล้มลง แก้วน้ำที่ถืออยู่ในมือสาดลงเข้าใส่ร่างของหญิงสาวที่สลบไสลไม่ได้สติ

                    เฮือก!!!

                    ดวงตาสีชมพูประหายเงินเบิกกว้างขึ้นพร้อมกับพาร่างของตนลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว  ไมเนอร่าผงะถอยหลังด้วยความตกใจ  ลีนน์เกาะแขนไมเนอร่าแน่น เมเจอร์ซึ่งนอนอยู่บนพื้นเรือมองมาด้วยดวงตาสีฟ้าเขียวน้ำทะเล  เส้นผมสีแดงเพลิงของแฝดผู้พี่เปียกไม่ได้น้อยกว่าของผู้เป็นอาจารย์ ดาริคผวาเข้าหาผู้เป็นนายด้วยความห่วงใยเช่นเดียวกับเฟธาน ไรมิสซึ่งนั่งอยู่บนกาบเรือแทบล่วงสู่ผืนน้ำ...

                    "เอโรร่า ฟะ..ฟื้นได้ยังไงกัน.."เสียงของลีนน์ขาดหายไป

                    เอโรร่าหันไปมองรอบด้าน...แต่ละคนมีสภาพไม่ต่างกับเจอผีทำไมกันล่ะ??..

                    "เป็นอะไรกันหรือ..แล้วทำไมทุกคนถึงมาอยู่ข้างนอก..แล้วทำไมข้าตื่นข้างนอกล่ะ"คำถามพรูออกมาด้วยความรัวเร็วทันทีที่ตั้งสติได้

                    "ก็เมื่อคืนเจ้าสลบไป..ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น แต่พอน้ำสาดแค่แก้วเดียว...ตื่นขึ้นมาเชียว"เฟธานค่อยๆตอบทีละคำถามโดยเลือกเว้นช่วงของพรายวารีเอาไว้

                    "ซิกนัสสสสสสสสสสสส"เสียงประกาศก้องของผู้เดินเรือดังขึ้นเป็นอันหยุดบทสนทนาทั้งสิ้นลง...

                    เมืองเล็กๆกลางมหานทีแห่งนี้คราคร่ำไปด้วยผู้คนมากมาย..แต่ละคนต่างกันทั้งลักษณะสีผิวเส้นผมดวงตาหรือแม้กระทั่งวิธีการเดิน  บรรยากาศแสนครึกครื้นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะทั่วถนนสายกลาง  คณะเดินทางที่ประกอบไปด้วยหญิงสาวสองนาง ชายหนุ่มสองนาย คู่แฝด และตัวประหลาดอีกหนึ่ง เดินไปตามทางที่ปูด้วยอิฐสีเขียวประหลาด...

                    ทั้งหมดเดินไปตามทางก่อนที่จะเลือกเข้าพักใน            'โรงแรมจิม เดอะลุ๊กส์'ซึ่งเป็นโรงแรมสามชั้นขนาดเล็กที่มีผู้คนเดินเข้าออกตลอดเวลา

                    "สวัสดีครับ ผมจิมเจ้าของโรงแรม ต้องการห้องพักแบบไหนดีครับ"ชายวัยกลางคนตัวใหญ่ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยแห่งความเป็นมิตรรวมถึงหนวดดกเฟิ้มสีน้ำตาลแดงทักทายอย่างเป็นกันเอง

                    "ขอห้องธรรมดาสามห้องครับ"เฟธานตอบอย่างถูกชะตากับนายจิม

                    "เอ่อ..ตอนหัวค่ำลงมาทานอาหารที่ห้องอาหารของโรงแรมดูสิครับรวมอยู่ในค่าห้องแล้วนี่ครับกุญแจห้อง ชั้นบนสุดห้องสี่  ห้าและหกนะครับ" จิมชวนคุยพลางหยิบกุญแจสามดอกส่งให้ชายหนุ่ม

                    "เอ้า เชิญเลือกครับคุณผู้หญิงอยากได้ห้องไหน"ไรมิสพูดเมื่อทุกคนยินอยู่บนชั้นสามของโรงแรม

                    "ข้าขอห้องในสุด เบอร์อะไรนะ...หกใช่อะป่าว??"เมเจอร์พูดพลางคว้ากุญแจไปโดยไม่รอให้ได้รับคำตอบ

                    "งั้นข้ากับลีนน์ขอห้องกลาง" เอโรร่าพูด

                    "ส่วนเราสองคนก็เหลือห้องสุดท้าย หน้าบันไดพอดี" ไรมิสกับเฟธานมองหน้ากัน

                    "อีกครึ่งชั่วโมงเจอกันข้างล่างนะสาวๆ"ไรมิสพูดพลางหยิบสัมภาระขึ้นพาดบ่า

                    "เฮ้ยยยย ข้าเป็นผู้ชายนะ!!"เมเจอร์แย้ง

                    "เออ หน่า..เรื่องมากจริงไอเตี้ย" ไรมิสกล่าวเป็นประโยคสุดท้ายก่อนจะผลุบหายเข้าไปในห้องพัก

                    เสียงอึกทึกดังขึ้นทันทีที่ลงมาถึงชั้นล่างผู้คนต่างสำราญรมย์กันด้วยเครื่องดื่มและอาหารรสเลิศของโรงแรมจิม เดอะ ลุ๊กส์

                    "คืนนี้ระวังกันให้ดีนะทุกคนได้ข่าวว่าโจรสลัดเทียบท่า"ชายกลุ่มหนึ่งพูดคุยกันถึงโจรสลัด

                    "หา!!มีโจรสลัดด้วยหรือเกาะนี้" เมเจอร์ซึ่งนั่งหัวหลังชนกับผู้ชายกลุ่มนั้นโวยวายขึ้น เป็นเหตุให้ชายวัยกลางคนทั้งกลุ่ม หันมามองตามกระแสเสียง

                    "ก็ใช่น่ะสิเจ้าหนู เจ้าไม่รู้จักหรือเช่นไร จอมโจรทะเลไทปัส  คอเคซัส!"ชายผู้นั้นพูดอย่างประหลาดใจ

                    "ข้าไม่รู้จักหรอกแต่ฟังจากชื่อข้าก็คิดว่าไม่รู้จักนั่นแหละดีแล้ว" เมเจอร์ตอบแหยๆ

                    ....ไทปัส  คอเคซัส....ชื่อนี้ไม่ชอบมาพากลเอาเสียเลย...คืนนี้คงต้องตื่นกลางดึกอีกแล้วเป็นแน่...หญิงสาวครุ่นคิด

                    กลางมหานทีในความมืดมิดที่โรยตัวลงมาเสมือนเงาที่ปิดบังความสว่างแห่งแสง...เรือสลัดลำยักษ์ที่ไม่เคยมีผู้ใดกล้าล่วงรู้ถึงความลับ ลอยลำเข้ามาใกล้ถึงอาณาจักรกลางทะเล  ฟองคลื่นแตกกระจายขึ้นสูงเหมือนเป็นพายุแห่งการต้องรับผู้เป็นดังเทพแห่งท้องนที...

                    กลางใบเรือสีดำสนิทของเรือมีลายดาบไขว้ทับหัวกระโหลกสีขาวตราอยู่ดั่งต้องการประกาศลั่นถึงศักดิ์แห่งท้องทะเลแห่งนี้...เรือของกัปตันไทปัส  คอเคซัส..

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×