คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : ผู้ที่ถูกเลือก
บทที่ 17 ผู้ที่ถูกเลือก
ขุมอำนาจ ขุมพลัง ขุมปัญญา จักรักษาต้องใช้ความนึกคิด
ความท่องแท้สถิตอยู่ในจิต ชั่วชีวิตตราบเท่ามีลมหายใจ
ดาบในตำนานอันยิ่งใหญ่ จารจำไว้ยอดบุรุษผู้นั้นไซร้
ผู้ครอบครองดาบนั้นเพื่อจักใช้ ระบือไกลเกียรติยศวีรบุรุษ
เกล็ดหิมะขาวนวลล่องลอยลงมาจากนภาเบื้องบนด้วยความแผ่วเบาราวปีกนางฟ้าแห่งสวรรค์ ต้นไม้ใบหญ้าไร้ใบต่างดูงดงามแทนความหดหู่ ตามทางเดินที่แม้นอากาศหนาวเข้ากระดูก แต่ผู้คนก็พลุกพล่านและเปื้อนด้วยรอยยิ้ม เสียงพูดคุยดังขึ้นทั่วกลางจตุรัสแห่งอาณาจักร น้ำพุกลางเมืองที่เคยมีการประทะดาบของสาวน้อย และบุรุษใหญ่ บัดนี้กลายเป็นน้ำแข็งซึ่งแม้นมีใครตกลงไป คงมิมีเสียงน้ำสาดกระเซ็นให้ได้ยินเหมือนเช่นวันวาน
เลยจตุรัสนั้นมาสักระยะ เผยให้เห็นร้านตีดาบเล็กๆร้านหนึ่ง ภายในร้านมีความอบอุ่นต่างจากข้างนอกมากนัก ด้วยพลังแห่งเตาเผาอันร้อนระอุ สาวน้อยร่างบางกำลังง่วนอยู่กับการตีดาบด้วยพละกำลังทั้งหมดของนาง ใบหน้าขาวนวลตัดกับสีผมและตาซึ่งเป็นสีนิล เปรอะเปื้อนไปด้วยเขม่าควันจากเตาเผา กลายเป็นภาพที่เจนตาสำหรับคนในละแวกนั้นรวมถึง..
"ลีนน์ข้ากลับมาหาเจ้าแล้ว" ไรมิสส่งเสียงโหวกเหวกทั่วร้านเล็กๆนั้น ซึ่งบัดนี้แออัดไปด้วย บุรุษรูปงาม หญิงสาวร่างระหง เด็กชายและเด็กสาวที่หน้าตาเหมือนกันอย่างกับแกะ รวมดึงสิ่งมีชีวิตตัวเล็กเท่าหัวเข่า และผู้ส่งเสียงทำลายความสงบ..
"ท่านกลับมาทำไม" ลีนน์พูดทั้งๆที่รอยยิ้มเปื้อนใบหน้าน่าเอ็นดูนั้น
"นี่ไงคนตีดาบของข้าน่ะอาจารย์" เมเจอร์ พูดกับหญิงสาวร่างระหงนั้น
" ข้าชื่อเอโรร่า ลีไลน์เนอร์" เอโรร่าเริ่มแนะนำตนเอง
"ข้าลีนน์ คอริช ท่านมีอะไรให้ข้าช่วยหรือ??" เด็กสาวอารมณ์สดใสตอบกลับ
"ข้าอยากจะรู้ว่าท่านรู้อักขระพวกนี้หรือ" หญิงสาวพูดพลาง หยิบดาบสีดำสนิทขึ้น เพื่อหมายถึงอักขระบนตัวดาบ
"แน่นอน มิเช่นนั้นข้าจักสลักมันลงไปได้อย่างไรล่ะ"
"ถ้าเช่นนั้นท่านช่วยเราอ่านได้หรือไม่"รอยแห่งความหวังฉายชัดในดวงตาสีสวยคู่นั้น ลีนน์มองดวงตาสีประหลาดของหญิงสาวรูปงามเบื้องหน้าพลางคิด..นางสวยจัง เหมือนเทพธิดาอย่างไรอย่างนั้น..
"..."
"ลีนน์!!!"ไรมิส ตะโกนเมื่อสาวน้อยไร้ซึ่งคำตอบ
"หะ..หื้มม??"ลีนน์สะดุ้งสุดตัวด้วยความตกใจ
"เอรี่ถามว่า อ่านเจ้านี่ให้พวกเราฟังได้ไหม"ไรมิสพูดพลางยื่นมือข้างซ้ายออกไปข้างหน้า และถลกแขนเสื้อยาวนั้นขึ้น เผยให้เห็น...
"โฮลี่สตาร์!!" น้ำเสียงตกใจ และชื่อของสัญลักษณ์ที่หลุดออกมาจากปากของลีนน์ทำให้ทุกคนรู้ว่า นางไม่ธรรมดาเสียแล้ว
"จะ..เจ้ารู้จักหรือ??"ไมเนอร่าพูดเป็นครั้งแรกตั้งแต่เข้าร้าน
"แน่นอน" พูดจบลีนน์ก็วิ่งหายเข้าไปหลังร้าน ก่อนที่จักออกมาพร้อมกับดาบเล่มหนึ่ง
" ดาบเล่มนี้เป็นดาบที่บางมากแต่มีความคมจนท่านไม่อาจพรรณนาได้ ตัวดาบมีความสมดุลสูง "ลีนน์ทำท่าประกอบคำอธิบายชัดโดยการวางดาบไว้ที่ปลายนิ้วของนางโดยให้รอยเชื่อมระหว่างด้ามดาบและใบดาบอยู่ตรงนิ้วพอดีซึ่งตัวดาบก็อยู่ในสถานะสมดุลเป็นเส้นตรง...ไม่เห็นจะเกี่ยวกับที่ถาม..เมเจอร์คิด
"ดาบนี้ถูกสร้างโดยปู่ของข้า โดยใช้แร่จากผู้วิเศษพเนจรท่านหนึ่งที่ผ่านมาขอที่พัก ลงอาคมโดยใช้เลือดของมังกรวายุเชียวนะท่าน!!! ช่วงนั้นมีวีรบุรุษพิชิตมังกร และดาบที่ใช้พิชิตเป็นของปู่ข้าดังนั้นปู่ข้าจึงได้เลือดมังกรเป็นการตอบแทน อักขระที่ลง..เป็นภาษาเดียวกันกับเบลส..ดาบของท่าน"ลีนน์พูดพลางหยุดมองที่เมเจอร์
"และคำที่สลักไว้คือ..."ลีนน์หันด้ามดาบปรากฏรอยสลัก...โฮลี่สตาร์!!!
"นี่มันโฮลี่สตาร์นี่หน่า" ไทนายล์น้อยร้องเสียงหลง สายตาปรามของเอโรร่าเชิงไม่ให้ขัดทำให้ในที่สุดดาริคก็เงียบลงได้ ลีนน์พยักหน้าเป็นเชิงตอบรับ
"และชื่อของดาบเล่มนี้คือ..ไอซ์บลีส..ในตำนานหรืออีกชื่อหนึ่งลมพิทักษ์แห่งรัตติกาล" ลีนน์พูดจบพร้อมรอยยิ้ม ภูมิใจ
"ไอซ์บลีส!!!???" ดูครานี้ไรมิสจักเป็นคนเดียวที่รูปจักดาบเล่มนั้น
"เมื่อไหร่เจ้าจักอ่านอักขระให้เราฟังเสียทีนี่ยัยเด็กขี้โอ่!"เสียงเล็กๆของดาริคทำให้ลีนน์หันไปมอง
" ดาริคเจ้านี่ขยันหาคนทะเลาะด้วยเสียจริง" เอโรร่าบ่นเหนื่อยหน่าย เมื่อเห็นลีนน์เตรียมตัวจะเถียงกลับ
"ลีนน์ อ่านให้ข้าฟังเถิด" เอโรร่าหันไปพูดกับเด็กสาวตรงหน้า ลีนน์พยักหน้า พลางหันไปค้อนให้ไทนายล์ปากไม่รู้กาลเทศะ
"เอาล่ะ อักขระที่ท่านเห็นเป็นอักขระโบราณของเผ่าพันธุ์อันสูงส่ง..เอลฟ์..มันคือภาษาเอรีนนีส มันเป็นภาษาที่ดัดแปลงมาจากภาษาเทพ ดังนั้นทุกตัวอักษรจึงมีพลังสถิตอยู่ กลางโฮลี่สตาร์ที่มีอักขระปรากฏอยู่ห้าด้านนั้น อ่านได้ว่า มาคีย์ กรีกอรี่ เฟเรย่าห์ ธอร์รัส สตอร์ริอุส ซึ่งทั้งหมดคือนามแห่งอสูรในป่าอาถรรพ์..อสูรแห่งบัลลังก์ทั้งห้า แต่ข้าไม่รู้ว่าโฮลี่สตาร์คืออะไรหรือมีไว้ทำไม ข้ารู้แต่ว่าสลักมันลงบนดาบด้วยเลือดมังกรแล้ว ดาบจะมีฤทธิ์แบบที่ไรมิสรู้" ความเงียบครอบคลุมไปทั่วบริเวณ ทุกคนต่างอยู่ให้ห้วงภวังค์ของตน
"ดาบไอซ์บลีสงั้นหรือ??"เฟธานเป็นคนแรกที่เปล่งเสียงออกมา
พลัน!!ไอซ์บลีสก็เปล่งแสงสีฟ้าเงินสว่างไสวราวกับดวงจันทราสีนวล รัศมีเจิดจ้าแต่ไม่บาดตา สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ตัวดาบเปล่งรัศมีสีทองราวตะวันเฉิดฉาย ตัดกับสีของตัวดาบ และดับหายไปราวไม่เคยเปล่งรัศมีตระการตานั้นขึ้น..
"อะ...อะ...อะไรกัน??" ไรมิสกล่าวตะกุกตะกัก
"เหมือนกับตอนที่ท่านเรนัสเรียกชื่อดาบเลย ปู่ข้าเคยเล่าให้ฟัง"ลีนน์พูดพลางมองเฟธานตาค้าง
..เรนัสวีรบุรุษในตำนาน ผู้ครอบครองดาบลมพิทักษ์แห่งรัตติกาล ครั้งในอดีตเมื่อเกิดสงครามซึ่งไร้มูลเหตุ กาลผ่านไป จึงถูกจารจำเป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่ง หลังจากนั้นไร้วึ่งบุคคลใดสามารถทำให้แสงเปล่งประกายอย่างที่เคยจนกระทั่ง..ยามนี้..
จบคำพูดของหญิงสาวนัยน์ตาสีนิล สายตาทุกคู่จึงหยุดอยู่ที่ชายหนุ่มรูปงาม แม้กระทั่งตัวของเขาเอง ยังเบิกตาโตเสียยิ่งกว่าโต
"แสงเมื่อครู่เพราะข้าเรียกชื่อดาบว่าไอซ์บลีสเช่นนั้นหรือ??"
พลัน!!แสงสว่างเช่นเดียวกับเมื่อครู่ก็เจิดจ้าขึ้นอีกครา ก่อนที่จักดับหายไป..อย่างที่เป็นก่อนหน้านี้
"..."ภายในร้านตีดาบ ไร้ซึ่งสรรพเสียงใด เมื่อถูกอย่างกระจ่างแล้วว่าเหตุใดดาบในตำนานเล่มนี้จึง
เปล่งรัศมี...
"เจ้าควรเอามันไปด้วย" เสียงของหญิงชรานางหนึ่งดังขึ้นจากหลังร้าน
"ย่า..."เสียงของลีนน์ขาดหายไปด้วยความตกใจที่ย่าของนางยอมเดินออกมาเพื่อพบ...คนแปลกหน้า..
หญิงชราผู้เป็นย่าของหญิงสาว ประสานดวงตาสีดำสนิทของนางกับดวงตาสีน้ำเงินแกมน้ำตาลของชายหนุ่ม...เมื่อดวงตาทั้งสองคู่สบกัน ดวงตาที่เคยสีดำสนิทแปลเปลี่ยนเป็นสีฟ้าทองสดใสก่อนที่จะกลับกลายเป็นสีเดิม..อย่างรวดเร็ว
เฟธานสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงในนัยน์ตาของผู้เป็นย่าของลีนน์...นางเป็นจอมเวท...
"เอาล่ะ ได้เวลาแล้ว เจ้าเอาไอซ์บลีสไปซะ แล้วเอาหลานสาวของข้าไปด้วย.."
"ย่า!!"
"ห๊า!!"เสียงร้องด้วยความตกใจดังขึ้นจากสองฝาแฝดและ..คนไม่รู้จักโต
" ข้าอาจไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่ท่านช่วยตอบข้าได้หรือไม่ว่า..ข้ารู้ว่านางสามารถช่วยเราได้แน่นอน ถ้าท่านบอกให้นางไปกับเรา แต่นางจักช่วยสิ่งใดกับเราหรือคะ??"เอโรร่าถาม
"เจ้ามองเห็นตาข้าเมื่อกี้หรือไม่??" เอโรร่าพยักหน้าตอบรับ
"ข้าบอกเจ้าไม่ได้หรอกสาวน้อย ทุกอย่างมีเหตุผลในตัวมันเอง และที่ข้าไม่บอกเจ้าก็เพราะข้ามีเหตุผลในเรื่องนี้เช่นกัน ข้ารู้ว่าเจ้าฉลาดกว่าที่ข้าเห็น ไม่ช้าก็เร็วสักวันเจ้าจักรู้ว่าเพราะเหตุใด "คำตอบที่ได้ยิ่งชวนให้คนอื่นๆงงหนักยิ่งขึ้นเมื่อได้ฟังบทสนทนาชวนหัวของสองหญิงต่างวัย
เอโรร่ายิ้มให้หญิงชรา ซึ่งนางก็ยิ้มตอบ..
"ไปกันเสียทีเถิด..ลีนน์หลานรักรีบกลับมา..."
"ทำไมข้าจะต้องไปด้วยล่ะท่านย่า ข้าไม่รู้จักพวกเขาเลยนะ ข้าไม่รู้ว่าเขาจะไปไหนกัน ชื่อของพวกเขาข้ายังรู้ไม่ครบทุกคนเลย ทำไมย่าถึงโยนข้าให้ไปกับพวก..." เสียงของหญิงสาวขาดหายไปเมื่อดวงตาสีนิลเหมือนดั่งของนางจ้องด้วยแววตาแห่งความจริงจัง
"ค่ะ ไปก็ไป.."เสียงแสดงความผิดหวังของหญิงสาวทำให้ไรมิสต้องกลั้นหัวเราะแทบไม่ไหว"
บทใหม่ของการเดินทางได้เริ่มต้นขึ้นอีกครา..
ความคิดเห็น