ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อินคาทัส มหาสงครามศักดิ์สิทธิ์แห่งปฐพี

    ลำดับตอนที่ #17 : ผู้ที่ถูกเลือก

    • อัปเดตล่าสุด 17 พ.ค. 49


    บทที่ 17 ผู้ที่ถูกเลือก

    ขุมอำนาจ ขุมพลัง ขุมปัญญา   จักรักษาต้องใช้ความนึกคิด

    ความท่องแท้สถิตอยู่ในจิต  ชั่วชีวิตตราบเท่ามีลมหายใจ

    ดาบในตำนานอันยิ่งใหญ่  จารจำไว้ยอดบุรุษผู้นั้นไซร้

    ผู้ครอบครองดาบนั้นเพื่อจักใช้  ระบือไกลเกียรติยศวีรบุรุษ

                    เกล็ดหิมะขาวนวลล่องลอยลงมาจากนภาเบื้องบนด้วยความแผ่วเบาราวปีกนางฟ้าแห่งสวรรค์ ต้นไม้ใบหญ้าไร้ใบต่างดูงดงามแทนความหดหู่ ตามทางเดินที่แม้นอากาศหนาวเข้ากระดูก แต่ผู้คนก็พลุกพล่านและเปื้อนด้วยรอยยิ้ม เสียงพูดคุยดังขึ้นทั่วกลางจตุรัสแห่งอาณาจักร น้ำพุกลางเมืองที่เคยมีการประทะดาบของสาวน้อย และบุรุษใหญ่ บัดนี้กลายเป็นน้ำแข็งซึ่งแม้นมีใครตกลงไป คงมิมีเสียงน้ำสาดกระเซ็นให้ได้ยินเหมือนเช่นวันวาน

                    เลยจตุรัสนั้นมาสักระยะ เผยให้เห็นร้านตีดาบเล็กๆร้านหนึ่ง  ภายในร้านมีความอบอุ่นต่างจากข้างนอกมากนัก ด้วยพลังแห่งเตาเผาอันร้อนระอุ  สาวน้อยร่างบางกำลังง่วนอยู่กับการตีดาบด้วยพละกำลังทั้งหมดของนาง ใบหน้าขาวนวลตัดกับสีผมและตาซึ่งเป็นสีนิล เปรอะเปื้อนไปด้วยเขม่าควันจากเตาเผา  กลายเป็นภาพที่เจนตาสำหรับคนในละแวกนั้นรวมถึง..

                    "ลีนน์ข้ากลับมาหาเจ้าแล้ว" ไรมิสส่งเสียงโหวกเหวกทั่วร้านเล็กๆนั้น ซึ่งบัดนี้แออัดไปด้วย บุรุษรูปงาม  หญิงสาวร่างระหง  เด็กชายและเด็กสาวที่หน้าตาเหมือนกันอย่างกับแกะ รวมดึงสิ่งมีชีวิตตัวเล็กเท่าหัวเข่า และผู้ส่งเสียงทำลายความสงบ..

                    "ท่านกลับมาทำไม" ลีนน์พูดทั้งๆที่รอยยิ้มเปื้อนใบหน้าน่าเอ็นดูนั้น

                    "นี่ไงคนตีดาบของข้าน่ะอาจารย์" เมเจอร์ พูดกับหญิงสาวร่างระหงนั้น

                    " ข้าชื่อเอโรร่า ลีไลน์เนอร์" เอโรร่าเริ่มแนะนำตนเอง

                    "ข้าลีนน์ คอริช ท่านมีอะไรให้ข้าช่วยหรือ??" เด็กสาวอารมณ์สดใสตอบกลับ

                    "ข้าอยากจะรู้ว่าท่านรู้อักขระพวกนี้หรือ" หญิงสาวพูดพลาง หยิบดาบสีดำสนิทขึ้น เพื่อหมายถึงอักขระบนตัวดาบ

                    "แน่นอน มิเช่นนั้นข้าจักสลักมันลงไปได้อย่างไรล่ะ"

                    "ถ้าเช่นนั้นท่านช่วยเราอ่านได้หรือไม่"รอยแห่งความหวังฉายชัดในดวงตาสีสวยคู่นั้น ลีนน์มองดวงตาสีประหลาดของหญิงสาวรูปงามเบื้องหน้าพลางคิด..นางสวยจัง  เหมือนเทพธิดาอย่างไรอย่างนั้น..

                    "..."

                    "ลีนน์!!!"ไรมิส ตะโกนเมื่อสาวน้อยไร้ซึ่งคำตอบ

                "หะ..หื้มม??"ลีนน์สะดุ้งสุดตัวด้วยความตกใจ

                    "เอรี่ถามว่า อ่านเจ้านี่ให้พวกเราฟังได้ไหม"ไรมิสพูดพลางยื่นมือข้างซ้ายออกไปข้างหน้า และถลกแขนเสื้อยาวนั้นขึ้น เผยให้เห็น...

                    "โฮลี่สตาร์!!" น้ำเสียงตกใจ และชื่อของสัญลักษณ์ที่หลุดออกมาจากปากของลีนน์ทำให้ทุกคนรู้ว่า  นางไม่ธรรมดาเสียแล้ว

                    "จะ..เจ้ารู้จักหรือ??"ไมเนอร่าพูดเป็นครั้งแรกตั้งแต่เข้าร้าน

                    "แน่นอน" พูดจบลีนน์ก็วิ่งหายเข้าไปหลังร้าน ก่อนที่จักออกมาพร้อมกับดาบเล่มหนึ่ง

                    " ดาบเล่มนี้เป็นดาบที่บางมากแต่มีความคมจนท่านไม่อาจพรรณนาได้  ตัวดาบมีความสมดุลสูง "ลีนน์ทำท่าประกอบคำอธิบายชัดโดยการวางดาบไว้ที่ปลายนิ้วของนางโดยให้รอยเชื่อมระหว่างด้ามดาบและใบดาบอยู่ตรงนิ้วพอดีซึ่งตัวดาบก็อยู่ในสถานะสมดุลเป็นเส้นตรง...ไม่เห็นจะเกี่ยวกับที่ถาม..เมเจอร์คิด

                    "ดาบนี้ถูกสร้างโดยปู่ของข้า โดยใช้แร่จากผู้วิเศษพเนจรท่านหนึ่งที่ผ่านมาขอที่พัก  ลงอาคมโดยใช้เลือดของมังกรวายุเชียวนะท่าน!!! ช่วงนั้นมีวีรบุรุษพิชิตมังกร และดาบที่ใช้พิชิตเป็นของปู่ข้าดังนั้นปู่ข้าจึงได้เลือดมังกรเป็นการตอบแทน อักขระที่ลง..เป็นภาษาเดียวกันกับเบลส..ดาบของท่าน"ลีนน์พูดพลางหยุดมองที่เมเจอร์

                    "และคำที่สลักไว้คือ..."ลีนน์หันด้ามดาบปรากฏรอยสลัก...โฮลี่สตาร์!!!

                "นี่มันโฮลี่สตาร์นี่หน่า" ไทนายล์น้อยร้องเสียงหลง  สายตาปรามของเอโรร่าเชิงไม่ให้ขัดทำให้ในที่สุดดาริคก็เงียบลงได้ ลีนน์พยักหน้าเป็นเชิงตอบรับ

                    "และชื่อของดาบเล่มนี้คือ..ไอซ์บลีส..ในตำนานหรืออีกชื่อหนึ่งลมพิทักษ์แห่งรัตติกาล" ลีนน์พูดจบพร้อมรอยยิ้ม ภูมิใจ

                    "ไอซ์บลีส!!!???" ดูครานี้ไรมิสจักเป็นคนเดียวที่รูปจักดาบเล่มนั้น

                    "เมื่อไหร่เจ้าจักอ่านอักขระให้เราฟังเสียทีนี่ยัยเด็กขี้โอ่!"เสียงเล็กๆของดาริคทำให้ลีนน์หันไปมอง

                    " ดาริคเจ้านี่ขยันหาคนทะเลาะด้วยเสียจริง" เอโรร่าบ่นเหนื่อยหน่าย เมื่อเห็นลีนน์เตรียมตัวจะเถียงกลับ

                    "ลีนน์ อ่านให้ข้าฟังเถิด" เอโรร่าหันไปพูดกับเด็กสาวตรงหน้า ลีนน์พยักหน้า พลางหันไปค้อนให้ไทนายล์ปากไม่รู้กาลเทศะ

                    "เอาล่ะ  อักขระที่ท่านเห็นเป็นอักขระโบราณของเผ่าพันธุ์อันสูงส่ง..เอลฟ์..มันคือภาษาเอรีนนีส มันเป็นภาษาที่ดัดแปลงมาจากภาษาเทพ ดังนั้นทุกตัวอักษรจึงมีพลังสถิตอยู่ กลางโฮลี่สตาร์ที่มีอักขระปรากฏอยู่ห้าด้านนั้น อ่านได้ว่า  มาคีย์  กรีกอรี่  เฟเรย่าห์  ธอร์รัส  สตอร์ริอุส ซึ่งทั้งหมดคือนามแห่งอสูรในป่าอาถรรพ์..อสูรแห่งบัลลังก์ทั้งห้า แต่ข้าไม่รู้ว่าโฮลี่สตาร์คืออะไรหรือมีไว้ทำไม ข้ารู้แต่ว่าสลักมันลงบนดาบด้วยเลือดมังกรแล้ว ดาบจะมีฤทธิ์แบบที่ไรมิสรู้" ความเงียบครอบคลุมไปทั่วบริเวณ ทุกคนต่างอยู่ให้ห้วงภวังค์ของตน

                    "ดาบไอซ์บลีสงั้นหรือ??"เฟธานเป็นคนแรกที่เปล่งเสียงออกมา

                    พลัน!!ไอซ์บลีสก็เปล่งแสงสีฟ้าเงินสว่างไสวราวกับดวงจันทราสีนวล รัศมีเจิดจ้าแต่ไม่บาดตา สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ตัวดาบเปล่งรัศมีสีทองราวตะวันเฉิดฉาย ตัดกับสีของตัวดาบ และดับหายไปราวไม่เคยเปล่งรัศมีตระการตานั้นขึ้น..

                    "อะ...อะ...อะไรกัน??" ไรมิสกล่าวตะกุกตะกัก

                    "เหมือนกับตอนที่ท่านเรนัสเรียกชื่อดาบเลย ปู่ข้าเคยเล่าให้ฟัง"ลีนน์พูดพลางมองเฟธานตาค้าง

                    ..เรนัสวีรบุรุษในตำนาน ผู้ครอบครองดาบลมพิทักษ์แห่งรัตติกาล  ครั้งในอดีตเมื่อเกิดสงครามซึ่งไร้มูลเหตุ  กาลผ่านไป จึงถูกจารจำเป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่ง หลังจากนั้นไร้วึ่งบุคคลใดสามารถทำให้แสงเปล่งประกายอย่างที่เคยจนกระทั่ง..ยามนี้..

                    จบคำพูดของหญิงสาวนัยน์ตาสีนิล สายตาทุกคู่จึงหยุดอยู่ที่ชายหนุ่มรูปงาม แม้กระทั่งตัวของเขาเอง ยังเบิกตาโตเสียยิ่งกว่าโต

                    "แสงเมื่อครู่เพราะข้าเรียกชื่อดาบว่าไอซ์บลีสเช่นนั้นหรือ??"

                    พลัน!!แสงสว่างเช่นเดียวกับเมื่อครู่ก็เจิดจ้าขึ้นอีกครา ก่อนที่จักดับหายไป..อย่างที่เป็นก่อนหน้านี้

                    "..."ภายในร้านตีดาบ ไร้ซึ่งสรรพเสียงใด เมื่อถูกอย่างกระจ่างแล้วว่าเหตุใดดาบในตำนานเล่มนี้จึง

    เปล่งรัศมี...

                    "เจ้าควรเอามันไปด้วย" เสียงของหญิงชรานางหนึ่งดังขึ้นจากหลังร้าน

                    "ย่า..."เสียงของลีนน์ขาดหายไปด้วยความตกใจที่ย่าของนางยอมเดินออกมาเพื่อพบ...คนแปลกหน้า..

                    หญิงชราผู้เป็นย่าของหญิงสาว ประสานดวงตาสีดำสนิทของนางกับดวงตาสีน้ำเงินแกมน้ำตาลของชายหนุ่ม...เมื่อดวงตาทั้งสองคู่สบกัน ดวงตาที่เคยสีดำสนิทแปลเปลี่ยนเป็นสีฟ้าทองสดใสก่อนที่จะกลับกลายเป็นสีเดิม..อย่างรวดเร็ว

                    เฟธานสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงในนัยน์ตาของผู้เป็นย่าของลีนน์...นางเป็นจอมเวท...

                    "เอาล่ะ ได้เวลาแล้ว เจ้าเอาไอซ์บลีสไปซะ แล้วเอาหลานสาวของข้าไปด้วย.."

                    "ย่า!!"

                    "ห๊า!!"เสียงร้องด้วยความตกใจดังขึ้นจากสองฝาแฝดและ..คนไม่รู้จักโต

                    " ข้าอาจไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่ท่านช่วยตอบข้าได้หรือไม่ว่า..ข้ารู้ว่านางสามารถช่วยเราได้แน่นอน ถ้าท่านบอกให้นางไปกับเรา แต่นางจักช่วยสิ่งใดกับเราหรือคะ??"เอโรร่าถาม

                    "เจ้ามองเห็นตาข้าเมื่อกี้หรือไม่??" เอโรร่าพยักหน้าตอบรับ

                    "ข้าบอกเจ้าไม่ได้หรอกสาวน้อย ทุกอย่างมีเหตุผลในตัวมันเอง และที่ข้าไม่บอกเจ้าก็เพราะข้ามีเหตุผลในเรื่องนี้เช่นกัน ข้ารู้ว่าเจ้าฉลาดกว่าที่ข้าเห็น ไม่ช้าก็เร็วสักวันเจ้าจักรู้ว่าเพราะเหตุใด "คำตอบที่ได้ยิ่งชวนให้คนอื่นๆงงหนักยิ่งขึ้นเมื่อได้ฟังบทสนทนาชวนหัวของสองหญิงต่างวัย

                    เอโรร่ายิ้มให้หญิงชรา ซึ่งนางก็ยิ้มตอบ..

                    "ไปกันเสียทีเถิด..ลีนน์หลานรักรีบกลับมา..."

                    "ทำไมข้าจะต้องไปด้วยล่ะท่านย่า ข้าไม่รู้จักพวกเขาเลยนะ ข้าไม่รู้ว่าเขาจะไปไหนกัน ชื่อของพวกเขาข้ายังรู้ไม่ครบทุกคนเลย ทำไมย่าถึงโยนข้าให้ไปกับพวก..." เสียงของหญิงสาวขาดหายไปเมื่อดวงตาสีนิลเหมือนดั่งของนางจ้องด้วยแววตาแห่งความจริงจัง

                    "ค่ะ ไปก็ไป.."เสียงแสดงความผิดหวังของหญิงสาวทำให้ไรมิสต้องกลั้นหัวเราะแทบไม่ไหว"

                บทใหม่ของการเดินทางได้เริ่มต้นขึ้นอีกครา..

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×