ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อินคาทัส มหาสงครามศักดิ์สิทธิ์แห่งปฐพี

    ลำดับตอนที่ #15 : ดุจตะวัน

    • อัปเดตล่าสุด 9 พ.ค. 49


    บทที่ 15 ดุจตะวัน

    ดวงตะวันบนเวหาสุดล้ำลึก  ไร้คนนึกสงสัยความยิ่งใหญ่

    จ้าวนภาสาดแสงทุกแห่งไป  ระบือไกลความลึกลับทรงอำนาจ

    ดวงบุหลันบนนภาสุดงดงาม  ทุกคืนยามเฝ้ามองทุกแห่งหน

    ไร้ดวงใดสาดแสงได้น่ายล  ดั่งเช่นดลดวงจันทรากลางราตรี

                    ดวงจันทร์ส่องแสงนวลเหมือนมีนางฟ้ามาจุติ  กลบความสว่างสุกใสของดวงดาวอื่นหมดสิ้น ค่ำคืนเงียบสงัดราวกับทุกคนหลับใหลไม่รู้ตื่นด้วยความฝันดี...อากาศอันหนาวเย็น เริ่มมีหิมะโรยตัวลงมาในความเงียบ...

                    ร่างระหงยืนพินิจจ้าวรัตติกาลด้วยความมิรู้เบื่อ  เสี้ยวหน้าขาวนวลที่กระทบแสงจันทร์ยิ่งชวนมองมากกว่าเดิมอีกทวีเท่า เส้นผมสีน้ำตาลทองราวแพรไหมสยายไปตามสายลมแห่งความหนาวเย็น  คงเป็นภาพที่ละสายตาไม่ได้หากว่า ดวงตาสีชมพูประกายเงินคู่งามไร้ซึ่งแววเศร้ามอง..


                   
    "ยืนมองพระจันทร์อีกแล้ว"เสียงของชายหนุ่มที่คุ้นเคยดังขึ้น  เอโรร่าหันไปตามทิศทางของเสียง และยิ้ม..เพียงปาก..

           
            
    "เจ้าจะมองอะไรนักหนาน้า"เฟธานเดินเข้ามา ก่อนที่จะทรุดตัวนั่งที่ระเบียงหน้าร่างบาง รอยยิ้มน้อยๆผุดขึ้นที่ริมฝีปากอีกครา รอยเศร้าในแววตาเริ่มเลือนหายไป

                 
                  
    "เจ้ายังใส่อยู่อีกหรือ"เอโรร่าชี้ไปที่คอของชายหนุ่ม..ซึ่งมีสร้อยเส้นบางจี้รูปพระจันทร์เสี้ยวห้อยอยู่

                  
                   
    "แน่นอน เจ้าให้ข้านี่"เฟธานยิ้มเจ้าเล่ห์  เอโรร่าหัวเราะในท่าทางนั้น

                  
                   
    "มันก็ตั้งนานแล้ว นึกว่าเจ้าทำหายไปแล้วเสียอีก เห็นปกติของที่เจ้ามีมักหายก่อนหนึ่งเดือน"

          
             
    "เจ้าก็พูดซะ "เฟธานกล่าวลอยๆก่อนที่จะย้อนนึกถึงอดีต

                   
                    
    "เฮ้อออ"

                   
                    
    "เจ้าจะถอนหายใจทำไมน่ะ เอรี่"

                   
                    
    "ข้าพยายามทั้งบ่ายแล้ว  นางไม่ยอมคลายเรื่องเกี่ยวกับศิลาอินคาทัสนั่นเสียที ข้าชักท้อไม่เคยมีใครเลี่ยงคำพูดข้าได้ขนาดนี้"ดวงหน้างามงองุ้มก่อนจะทรุดตัวลงข้างชายหนุ่ม


                   
    "นั่นอาจเป็นเพราะคนที่เจ้าเคยพูดด้วยมีอยู่น้อยคน"พูดจบเฟธานก็หัวเราะกับความคิดของตนเองยกใหญ่


                   
    ..แม้อากาศจะหนาว แต่ก็อุ่น..ข้างใน..เพียงเพราะรอยยิ้มของชายหนุ่มข้างๆนี้เองน่ะหรือ..

                    ..คงเป็นเช่นนั้นแหละ..

                    ยามเช้าเป็นวันที่อากาศสดใสอีกวันหนึ่ง  แสงอาทิตย์สาดกระทบเกล็ดหิมะขาวนวลที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณ ...หนาวจัง..เด็กสาวผมสีเพลิงคิดขึ้นพลางขยับมือโอบรอบกายตนราวกับช่วยให้อบอุ่นขึ้น  ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลสดใส มองไปยังวิถีชีวิตที่ชาวบ้านกำลังดำเนินตามปกติ..เช่นทุกวัน


                   
    ไมเนอร่าเดิน เข้าไปในตัวบ้านอีกครั้ง..การเดินทางจักย่อมมีที่สิ้นสุด  สักวันนางจะต้องได้พบแม่ของนางอีก แม้ท่านจักไม่ใช่แม่แท้ๆของนางก็ตาม..


                   
    "ไมเนอร่า" เอโรร่าร้องเรียกเด็กสาว ทีเพิ่งเดินเข้ามาจากประตูทางหน้าบ้าน

       
                
    "คะ??" น้ำเสียงที่พยายามทำให้สดใสตอบกลับไป

        
               
    "ยืนเหม่อคิดถึงบ้านอยู่นั่นแหละ  มาเร็วเราต้องรู้สิ่งที่ต้องการรู฿จากเสนาธิการหญิงแอนลีสให้ได้ก่อนพรุ่งนี้เช้านะ" เอโรร่าอ่านดวงตาของไมเนอร่าด้วยความรวดเร็วและจูงผู้เป็นลูกสิษย์เดินไปยังห้องนั่งเล่นห้องเดียวกันกับเมื่อวาน..ซึ่งตอนนี้ ทวดแอนลีส เฟธาน เมเจอร์ และไทนายล์ตนหนึ่งนั่งรออยู่ก่อนแล้ว


                   
    แอนลีสเลิกคิ้วขึ้นและวางถ้วยชาลงทันทีที่เอโรร่าเดินเข้ามา  รอยยิ้มผุดขึ้นที่ริมฝีปากสีจัด นางนั่งไขว่ห้างด้วยท่าทีสบายใจ


              "วันนี้เจ้าจะมานั่งล้วงสิ่งที่เจ้าต้องการรู้ต่อหรือ เอโรร่า?" คำถามนั้นเหมือนตั้งใจจะทำให้อารมณ์เสียมากกว่าคำถามที่ต้องการคำตอบ  เอโรร่าไม่โต้กลับ ใบหน้านิ่งเฉย ไร้ซึ่งอารมณ์ขุ่นเคืองใดๆ


                   
    "แต่ วันนี้ข้ามีงานในวัง เจ้ารอไปก่อนละกัน"พูดจบผู้วิเศษแอนลีสก็วางถ้วยชาที่ไร้ชาอีกต่อไป และ..หายตัวไปจากบ้านของนาง...


                   
    "ให้มันได้อย่างนี้สิ!!!"เอโรร่าสบถด้วยความโมโห


                   
    "เอ่อ..ข้าจะเข้าไปในเมืองมีใครอยากไปกับข้าไหม??"ไรมิสขัดขึ้น


                   
    "ข้า.." เด็กชายผมแดงผู้ซึ่งต้องการจะไปในเมืองลุกและเดินออกไปหน้าบ้านโดยไม่พูดอะไร..

    เคร้งๆๆฉับๆๆ!!!


                   เสียงดาบกระทบกันดังสนั่นมาจากจตุรัสกลางมหานครคลาไมล์ ซึ่งพลุกพล่านไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา  เป็นเหตุทำให้เกิดเสียงเอะอะเอ็ดตะโรมากมายเมื่อมีคน สอง คน กำลังฟันดาบปะทะกันไปตามทางเดินของอิฐสีชมพูส้ม  ไรมิสและเมเจอร์ต่างหยุดมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


            "โถ่ ฝีมืออย่างท่าน เนี่ยนะ จะมาเอาชนะข้า เร็วไปร้อยปี " หนึ่งในคนที่ฟันดาบ พูดขึ้นพลางกระโดดขึ้นไปยืนตรงขอบอ่างน้ำพุซึ่งอยู่ใจกลางจตุรัสพอดิบพอดี  โดยเห็นได้ชัดว่า คนที่พูดฝีมือเหนือกว่าอย่างที่ปากว่าจริงๆ เพราะในขณะที่ อีกคนหนึ่งฟันอย่างเอาเป็นเอาตาย คนที่พูดเดินหลบอย่างสบายๆอยู่บน ขอบอ่างน้ำพุ


                   ตูมมมมม
    !!


                  เสียงน้ำกระเซ็น ดังมาอีกพักใหญ่เนื่องจากผลแพ้ชนะที่ออกมาแล้ว  ผู้แพ้ตกไปอยู่ในน้ำพุ ซึ่งผู้แพ้ก็เป็นใครไปไม่ได้ นอกจากบุรุษคนที่ไร้คำพูดออกจากปาก...หนาวแย่เลย..เมเจอร์คิด


                  รอยยิ้ม พึงพอใจปรากฏขึ้นบนริมฝีปากบาง ที่อยู่ใต้ผ้าคลุมปิดหน้า


            " เจ้า !!! แน่จริงก็เผยโฉมหน้าออกมา จะหลบหงออยู่ใต้ผ้าคลุมทำไมกัน !!!" คำพูกแรกหลุดออกจากปากของผู้แพ้ด้วยความเดือดดาล


            "ท่านแน่ใจหรือว่าอยากเห็นหน้าข้าจริงๆ " ประโยคพิสดาร หลุดออกจากปากที่มีรอยยิ้มกรุ่มกริ่มอยู่ใต้ผ่าคลุม


            "ก็ใช่น่ะสิ ถามมาได้ "
           
            "เอางั้นก็ได้  แล้วเจ้าจะเสียใจ.."ผู้ชนะดึงผ้าที่ปกปิดใบหน้าออก..


             "หาาาาา!!!!" คำอุทานดังลั่น จากปากของชายที่ยังอยู่ในน้ำพุ


             " จะ..จะ..จะ..เจ้าเป็นผู้หญิงอย่างนั้นหรือ!!!!"


             "แล้วเจ้าเห็นข้าเป็นผู้ชายรึไง "ใบหน้าที่เผยออกมาใต้เสื้อคลุมคือ ใบหน้า ขาวนวล ตัดกับดวงตาสีดำสนิทราวกับนิล  และเส้นผมสีดำราวขนนกกายาว ประบ่า ดูน่ารักราวกับนางฟ้าน้อยๆ นางไม่ได้สวยเลิศเลอ  แต่มีความน่ารักและมีเส่นห์


             " เจ้านึกว่าข้าชอบนัก รึไงที่ไม่ได้ฟันดาบกับใคร เพราะข้าเป็นผู้หญิงน่ะ " พูดจบ เด็กสาวก็ กระโดดขึ้น ปีนไปตามหลังคา จนลับตาทุกคนไป


                   หญิงชรา ผู้หนึ่งกำลังมองเด็กสาว ด้วยสายตาเอ็นดู  ดวงตาสีนิล สดใส กำลังตีดาบในมือด้วยความมุ่งมานะ   ดวงหน้าขาวเลอะเทอะไปด้วย เขม่าควัน ผมสีชา ถูกมัดอย่างลวกๆ เพื่อความ ทะมัดทะแมง ถึงแม้เหงื่อกาฬจะไหล แต่ใบหน้าของเธอกลับดูมีความสุขอย่างประหลาด


            "ลีนน์  หลานรัก "  ความรักและความเอ็นดูของหญิงชราได้ถ่ายทอดผ่านออกมาทางน้ำเสียง


            " จ๋าาา?? ย่า…"เด็กสาว หันมาพร้อมกับเอาแขนเสื้อเช็ดที่ใบหน้า แต่ก็ส่งรอยยิ้มมาให้ด้วยความสดใส


                  ลีนน์ หรือ ลีนาริส  คอริช เด็กสาวที่อาศัยอยู่กับ แม่  ย่า ของเธอ  ในตัวเมือง  ถึงแม้บ้านของเธอจะเป็นร้านตีดาบเล็กๆ แต่ดาบแต่ละเล่มที่ตีออกมาจะแปลกประหลาด ล้วนแต่มีคุณภาพทั้งสิ้น  ลีนน์เป็นเด็กสาวที่คลั่งไคล้ ในเรื่องดาบมาก ฝีมือของเธอในการใช้ดาบ  ทั้งทักษะ  กระบวนท่า ลูกเล่นการหลอกล่อ  ความเร็ว  และความคล่องตัว  หากเทียบแล้วเธอก็คงจะเป็นหนึ่งในนักดาบคุณภาพอย่างแน่นอน ด้วยการขยันฝึกซ้อมแต่เล็ก รวมกับพรสวรรค์ของเธอ แต่
    เธอเป็นเพียง เด็กผู้หญิง ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าร่วมการประลอง  การแข่งขัน หรือการคัดเลือก ตำแหน่งต่างๆเช่นอัศวิน หรือ องครักษ์


             " เจ้าไปฟันใครมาอีกล่ะ นี่ " ลีนิสตรา อดีต หมอ ในเมืองผู้เป็นย่าของลีนน์ถามขึ้นอย่างรู้ทัน


             " โถ่ ย่าจ๋า ลีนน์ไปฝึก ไม่ได้ไปไล่ฆ่าใคร  พูดซะ  เสียหายหมดเลย " พูดจบก็ยิ้มเจื่อนๆ เมื่อเจอกับสายตา ที่มีความหมายประมาณว่า 'แล้วมันต่างกันตรงไหน'


             "เอ๊ะ  มีคนมาซื้อดาบนี่ " ลีนน์พูดด้วยน้ำเสียงดีใจ


                    ลูกค้าของ ลีนน์เป็นชายวัยกลางคนผอมสูง เหมือนคนขี้โรค 


             
    "ข้าต้องการ ดาบที่ดีที่สุดในร้านของเจ้า " ชายวัยกลางคนร่างซูบผอม พูดขึ้น


             "ดาบในร้านข้า ดีทุกเล่มแล้วแต่ ว่าคำจำกัดความของคำว่า ' ดาบดี ' ของท่าจะเป็นเช่นไร " ลีนน์พูดด้วย คำพูดที่ไม่ค่อยเข้าหูเท่าไรนัก หากแต่มันเป็นนิสัย มิใช่การยอกย้อน


             " เจ้า !!!" คำพูดด้วยความโมโห หลุดออกจากปากของชายคนเดิม พร้อมกับ ดาบที่จ่ออยู่ห่างจากคอของลีนน์ไม่ถึงคืบหนึ่ง


             " โอ๊ะโอ่ พี่ชาย อารมณ์ฉุนเฉียวจัง " แต่ ลีนน์ก็หาได้กลัวไม่


             " ข้าว่าทานไปเลือกดาบเองเถอะ  ดาบที่ข้าตีเสร็จแล้วอยู่ทางฝั่งนู้น ส่วนดาบเล่มนี้ของท่านข้าว่า ไปหาเล่มใหม่น่ะถูกแล้ว  ทั้งหนาทั้งหนักไม่มีสมดุลของดาบ ลายก็หยาบ แต่นั่นก็พอไปวัดไปวาได้ "ลีนน์วิจารณ์ดาบเล่มที่อยู่ตรงขอของเธอด้วยความอาจหาญ


             " กล้าเหลือเกินนะ แม่นาง " สิ้นคำพูดดาบก็ทำงานของมัน ตามความประสงค์ของชาย เจ้าของดาบที่ต้องการ หัวของลีนน์


                    ฉวึกกกก
    !!!!!!

    ลีนน์ใช้ ค้อนสำหรับตีเหล็กที่อยู่ในมือของเธอปัด ' ดาบหมดสภาพ 'ของชายผู้นั้น ไปปักตรงที่ประตู หลัง ชายผู้นั้น เฉียดศีรษะของเขา ไปทำให้เส้นผมที่มีน้อยอยู่แล้วแหว่งหายไปอีก


             " เจ้า เป็นอันธพาลรึไง ใครทำอะไรไม่พอใจหน่อย ก็จะตัดหัวทิ้ง ท่าเดียว" ลีนน์พูดด้วยน้ำเสียงฉุนขาด" ออกไปจากร้านของข้า  ข้าไม่ขายดาบให้แก่ คนไร้คุณธรรมแบบเจ้า !!! ดาบที่ข้าตีเองกับมือ จะต้องไม่เปื้อนเลือด โดยใช่เหตุ!!!!" นางพูดแล้วมองไล่ตามหลังของชายผู้นั้น ที่รีบล้มลุกคุกคลานออกไปจากร้านแทบไม่ทันด้วยความกลัว


             " ไอขี้ขลาดเอ๊ย!!!!"ลีนน์ตะโกนไล่หลังชายทั้งคู่พลางหันกลับไปตีดาบต่อ


                  กริ๊งงงง
    ~


                 เสียงกระดิ่งที่ร้านตีดาบดังขึ้นอีกครา..


            "ข้าบอกให้ออกไปไงเล่า ไอ้พวกอันธพาล!!!เฮ้ยย.."ลีนน์ตะโกนอย่างเดือดดาลก่อนที่จะหันไปพบชายสองคนที่..ไม่ใช่บุคคลเดียวกับเมื่อสักครู่


            "ข้าพึ่งมาเองนะ"ไรมิสพูดขึ้นอย่างงงๆ


            "เอ่อ ข้าขอโทษ"ลีนน์พูดพลางก้มลงทำงานของนางต่อ


            "เฮ้  นี่มันผู้หญิงนักดาบในตลาดนี่"เมเจอร์ เบิกตากว้าง พลางพินิจใบหน้าชวนมอง


            "รับผิด"ลีนน์ตอบแหยๆเพราะมีคนจำนางได้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×