ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อินคาทัส มหาสงครามศักดิ์สิทธิ์แห่งปฐพี

    ลำดับตอนที่ #13 : เทพธรณี

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ค. 49


    บทที่ 13 เทพธรณี

    ข้าคือจอมอสูรแห่งวนา  ร่ายคาถามนตราแห่งพงไพร

    พฤกษาปฐพีทุกสิ่งไซร้  ผนึกไว้จอมราชันย์คอร์โรรัส

    ข้านั้นอาศัยอยู่ในทักษิณทิศ  ล้วนพินิจงดงามหาใดเหมือน

    มีความสุขใต้ชะตาที่มาเยือน  เป็นเสมือนทรงจำข้ากรีกอรี่   

    ****************

                    ข้ามีนาม ว่า กรีกอรี่ สัตว์น้อยใหญ่ในป่าอาถรรพ์แห่งนี้ต่างนับถือข้าเสมือนราชันย์  ข้ามีรูปร่างเหมือนชาวมนุษย์ ข้ามีผมสีเปลือกไม้และดวงตาสีเขียวมรกตดั่งพฤกษา  ข้าถือคติ ไม่ยุ่งเกี่ยวกะชาวมนุษย์ จนกระทั่ง  ผู้เป็นนายมาเยือนข้า..มหาเทพแห่งนภา..มหาเทพเอคาเทส

                    ไม่ได้พบกันเสียนาน กรีกอรี่ สุรเสียงของมหาเทพยังคงไว้ด้วยความมีอำนาจเช่นเคย ท่านกล่าวทักข้าเมื่อข้าโค้งกายทำความเคารพ

                    นานเสียจนมีอสูรบางตนลืมข้าไปเสียแล้ว มหาเทพเอคาเทสพูดกับศิลาสีรุ้งในมือ

                    อสูรตนนั้นคงมิใช่ข้าเป็นแน่...ข้ามั่นใจ ข้าตอบกลับพลางยืดตัวตรงเต็มความสูง

                    ข้าก็เห็นเป็นเช่นนั้น  อสูรผู้กุมอำนาจแห่งจิตใจ มหาเทพเอคาเทส กล่าว

                    ข้ามิบังอาจถามท่านว่าท่านมาด้วยการณ์ใด แต่ข้าน้อมรับบัญชาท่านเสมอ ขอให้ท่านได้รู้ไว้ ท่านมหาเทพ..แม้จะผ่านไปหลายหมื่นปีแล้ว ข้ายังคงเป็นกรีกอรี่..อสูรที่ท่านสร้างขึ้นมา.. ข้ากล่าวอย่างนอบน้อม

                    ดูท่า เจ้าจักความจำดีกว่าอสูรมาคีย์ผู้โอหังนั่นมาก”..คิดแล้วว่าต้องเป็นมาคีย์ ในอสูรอาวุโสทั้งห้ามี นางยะโสอยู่ตนเดียว

                    ข้ามานี่ เพื่อจะใช้เจ้า ข้านิ่งรับฟัง

                    ข้าเกิดมาเพื่อรับใช้ท่าน..ท่านมหาเทพ..

                ดี!!!”

                พลัน!!!ร่างของข้าเหมือนกลายเป็นอากาศธาตุ ข้าถูกดูดลงไปในศิลาสีรุ้งที่ท่านมหาเทพถืออยู่

                    กรีกอรี่!!”

                    มาคีย์!!”

                    ...นับจากวันนั้นข้าก็มิได้เห็นแสงตะวันอีกเลย...

     

     

     

                    ป่าอาถรรพ์คอร์โรรัส  เต็มไปด้วยพืชพรรณหลากชนิดที่น้อยคนนักที่จะรู้จัก

      สัตว์น้อยใหญ่ต่างมีรูปร่างประหลาดตา ทุกตัวมีรัศมีเปล่งประกาย ต่างกันไป

                    อ๊ากกกกกกเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดของเอโรร่าและสองฝาแฝดดังขึ้น ก่อนที่ทั้งสามจะทรุดตัวลงไปยังพื้นที่เต็มไปด้วยตะไคร้ของมหาพงไพร

                    เอโรร่า  เมเจอร์  ไมเนอร่า เจ้าเป็นอะไร เฟธานซึ่งเดินรั้งท้ายวิ่งมารับร่างระหง

                    หญิงสาวหายใจถี่รุนแรงและรวดเร็ว  เหงื่อเม็ดเป้งผุดขึ้นตามหน้าผากขาวนวลเนียน  ริมฝีปากที่เคยเป็นสีกุหลาบบัดนี้ซีดจางราวกุหลาบไร้สี  แก้มสีชมพูระเรื่อด้วยความร้อนกลับกลายเป็นขาวเหมือนกระดาษ  ลำตัวเย็นเยียบราวไม่เคยต้องแสงอาทิตย์..และข้อมือที่เคยขาวสะอาดน่าสัมผัสบัดนี้มีรอยสลักรูปดาวห้าแฉกซึ่งมีวงกลมล้อมรอบรวมถึงอักขระที่กลางดาวทั้งห้าด้านภาษาประหลาดสีทองเปล่งประกาย  ก่อนที่แสงจะดับหายไปเหลือเพียงรอยลึกของดาวรูปเดิมสีน้ำตาลไหม้...

                    เมเจอร์และไมเนอร่า มีอาการไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ที่ข้อมือของทั้งสอง...กลับปรากฏรูปดาวเพียงคนละสองแฉกครึ่ง..ที่ข้อมือของเมเจอร์มีรูปดาวครึ่งขวา  ไมเนอร่าครึ่งซ้าย...

                    เกิดอะไรขึ้น..เสียงของเมเจอร์ขาดหายไป

                    ค..ครูกะไม่รู้น้ำเสียงติดขัดด้วยความกลัวเกิดขึ้นครั้งแรก

                    แต่ดาวรูปนี้...คุ้นเหลือเกิน  ครูเคยเห็นมัน เอโรร่ากล่าวพลางมองไปที่ศิษย์ทั้งสอง

                    นายหญิง  เจ้าลิงคู่!!!!”เสียงร้องเรียกด้วยความตกใจของดาริคดังขึ้น

                    นี่มัน...สัญลักษณ์โฮลี่สตาร์นี่!!!!”ดาริคกล่าวพลางมองหน้าผู้เป็นนายด้วยความตกใจระคนสงสัย

                    โฮลี่สตาร์...ข้าเคยเห็นมันในฝันครั้งล่าสุดที่เกี่ยวกับอินคาทัส รอยขมวดที่หัวคิ้วจางหายไป

    ล่องลอยตามข้า  ดาราแห่งแสง

    โปรดอย่าระแวง  ไว้ใจตัวข้า

    หากตามข้านี้  มิมีวันหลง

     แต่หากท่านปลง ประสงค์ความหวัง

    เดินตามข้าน้อย  ผู้คล้อยศิลาขลัง

    ผู้แปลพลัง  ภาษาเทพา

    แม้นไม่ใช่จันทร์  ผกผันดารา

    หากแต่ฤทธา พราวแสงไม่ซ้ำ

    ข้านี้คือสิ่งนำ ท่านสู่ความจริง...

                    เสียงของหญิงสาวที่ฟังแล้วชวนต้องมนตร์  ดังขึ้นจากโฮลี่สตาร์ ที่ข้อมือของเอโรร่า  แสงสีทองกระพริบตามบทเพลง  ประสานกับเสียงของบุรุษที่ดังจากข้อมือของสองฝาแฝดเป็นท่วงทำนอง

                    ตามดาวไปแล้วจะเจอสิ่งที่เราค้นหา เช่นนั้นหรือ??เอโรร่ารำพึง

                    ถ้าอาจารย์ไม่รู้ใครจะไปรู้ล่ะคะไมเนอร่าพูดขึ้น  ซึ่งทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วย

                    การเดินทางเป็นไปอย่างยากลำบากเพราะต้นไม้ที่รกชัฏ  การนำทางเป็นไปตามบทลำนำแห่งดาริกา เมื่อเดินไปสักพัก ก็จะปรากฏแสงสีทองตามปลายแฉกของดาวที่เป็นทิศทางที่ถูกต้อง จนกระทั่ง...

                    ถึงแล้วหรือ...เฟธานกล่าวเพราะ โฮลี่สตาร์ที่ข้อมือของเอโรร่า และสองฝาแฝด เปล่งแสงสว่างจัด

                    ไร้คำตอบจากหญิงสาว..มีเพียงสายตาที่มองออกไปข้างหน้า..เฟธานมองตามสายตานั้น..เบื้องหน้าเป็นวิหารสีขาว ดูศักดิ์สิทธิ์  ยิ่งใหญ่  แม้จะคงอยู่นานแล้วจากสีที่คล้ำและตะไคร้เกาะ แต่ก็มิอาจจะบั่นทอนความงดงามในความขลังของวิหารแห่งนี้ลงได้เลย

                    ภายในตัววิหาร ..ยังคงความใหม่ราวสร้างเสร็จวานคืน..มีเทียนราวไม่เคยมอดดับ..กลางวิหารมีแท่นวางของ..ใจกลางแท่นนั้นมี ศิลาสีรุ้งงดงามสูงค่าวางอยู่

                    เอโรร่าเอื้อมมือหมายจะจับต้องศิลาก้อนนั้น..ศิลาอินคาทัส

                    ฟึ่บบบบบ!!

                    มือขาวชะงักทันทีด้วยความเจ็บปวด..ใบไม้คมกริบสีเขียวแก่ใบนึงพึ่งเฉี่ยวผ่านมือขาวนวลไป เรียกโลหิตสีแดงให้ไหลหยดตามหลังมือ  ดวงตาสีชมพูประกายเงินมองไปรอบทิศ  ดวงหน้าขาวผ่องไม่แสดงอารมณ์เจ็บปวดเล็ดลอดให้เห็น

                    เฟธานเดินมาหยุดข้างเอโรร่า  ดาริคห่อตัวพลางส่องสายตาระแวงไปรอบด้าน  เอโรร่ายื่นมือไปแตะศิลาศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง

                    เฟี้ยวววววว!!!

                    เสียงของใบไม้พุ่งมาด้วยความเร็วอีกครั้ง...เอโรร่าชักมือกลับทันท่วงที

    ฉึ่กกก!!!

    ใบไม้ปักลงที่โต๊ะหินอ่อน ดวงตาสีน้ำเงินแกมน้ำตาลมองไปยังทิศทางที่จับได้

    เจ้าคือใครน้ำเสียงเย็นเยียบของชายหนุ่มดังขึ้น  แววตาชวนหลงใหลคู่นั้นเปลี่ยนเป็นรอยแห่งความจริงจังที่น้อยครั้งนักจะได้เห็น

    ไยข้าต้องตอบเจ้า??เสียงอขงชายหนุ่มแสนกวนโทสะ ย้อนกลับมา

    ดีงั้นเจ้าไม่ต้องตอบ เฟธานกล่าวก่อนที่พายุลูกใหญ่จะซัดเข้าที่เสาหินบริเวณเจ้าของใบไม้พิฆาต  เผยร่างชายหนุ่มที่ดูดีคนหนึ่ง..ดวงตาสีเขียวเหลือบเหลืองสดใสขี้เล่น ผมสีชา ยาวและตั้ง กระจายทั่วหัว ใบหน้าขี้เล่นนั่นยังยิ้มละไมอยู่

    ส่งศิลาคืนข้า..ข้ามีหน้าที่ต้องนำมันไป

    ข้าก็เช่นกัน เอโรร่าตอบพลางพินิจบุรุษตรงหน้า

    เหตุใดท่านต้องลงมือ  ท่านไม่สังเกตหรือว่าเรามีจุดประสงค์เดียวกันและหน้าที่ท่านก็เช่นเดียวกับข้า..”

    จุดประสงค์เดียวกับเจ้า???

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×