คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิ
บทที่ 11 จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิ
อาณาจักรแห่งความสุขสบาย ไร้สิ่งร้ายแท้จริงเช่นนั้นหรือ
ประชาชนอยู่สุขแท้อย่างที่ลือ ด้วยน้ำมือจักรพรรดิเดเลลอยด์
บ้านเมืองสุขร่ำรวยด้วยเงินทอง แต่ไม่ปรองดองกันร่วมประชา
ไร้ซึ่งความเจริญความศรัทธา ในจิตราของผู้คนสกาล่าทรอย
****************
ตามเส้นทางที่ปูด้วยหินอย่างดีตลอดเส้นทางการเดินทางเข้าสู่มหานครเดมอร์ลิชต์ ล้วนแต่มีความเจริญสมชื่ออาณาจักรแห่งเงินตรา ความหรูหราของบ้านเมือง ความสูงส่งของเศรษฐกิจ..แต่ไร้ซึ่งความสูงส่งของจิตใจ..
ดวงหน้าของผู้คนต่างไร้ซึ่งความเป็นมิตร คำพูดที่ใช้ก็เช่นกัน ไม่มีการต้อนรับแขก เดินทางผ่านหน้าบ้านผู้คน ต่างมองอย่างกับว่าพวกเขาเป็นตัวประหลาด ดวงหน้าของผู้คนต่างขมวดคิ้วอยู่ตลอดเวลา ปากพึมพำคำพูดเบาๆ...
....อะไรกันล่ะนี่!!!..
“เฮ้อออ!!คนเมืองนี้เป็นอะไรกันไปหมดหนอ”เมเจอร์ถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่ายกับภาพที่ผู้คนมอง เยี่ยงตัวประหลาด
“นั่นน่ะสิ ข้าก็ไม่เข้าใจเหมือนกันจ้องอะไรกันนักกันหนา..”ดาริคบ่นขึ้นบ้างด้วยความหงุดหงิด
“ไวท์ไลท์ วิ่งเหยาะๆนะ” เอโรร่าพูดกับอาชาสีขาวของนาง
เบื้องหน้าของคณะเดินทาง เป็นกำแพงสีเทา สูงใหญ่ และแข็งแรงดุจภูผา...มหานครเดมอร์ลิชต์
“ถึงแล้ว..”เฟธานกล่าวพลางมองไปรอบๆ
“จอมเวทสี่คน ม้าสี่ตัว สัตว์ประหลาดหนึ่งตัว ไปที่หอตรวจสอบ!!”เสียงกึ่งตะคอกของยามหน้าด่านของมหานครเดมอร์ลิชต์กล่าวพลางจดรายละเอียดลงสู่กระดาษสีเหลือง
“ข้าไม่ใช่สัตว์ปะ..”ดาริคบ่นอย่างหงุดหงิด ก่อนจะโดนเด็กชายเจ้าของผมสีแดงเพลิงปิดปาก ทหารผู้นั้นจ้องดาริคและเมเจอร์ราวจะกินเลือดเนื้อ เป็นเหตุให้แฝดผู้พี่ส่งยิ้มแหยด้วยความเสียว
หอตรวจสอบไม่สมควรเรียกว่าหอตรวจสอบเอาเสียเลย เพราะ มันเป็นเพียงเพิงเล้กๆหลังหนึ่งเท่านั้น ภายในหอตรวจสอบมีทหารสองคนและจอมเวท..
“สวัสดีท่านท่านหลาย”ชายชราผู้เป็นจอมเวททักขึ้น
“สวัสดีค่ะ/ครับ”
“ข้าต้องขอเชิญท่านทั้งสี่ และ..เอ่อ..”
“ไทนายล์ค่ะท่าน”เอโรร่าตอบ ซึ่งชายชราก็พยักหน้าเป็นเชิงรับรู้
“นั่งลงตรงนี้และขอข้าตรวจสอบประวัติของท่านเล็กน้อย”
การตรวจสอบผ่านไปอย่างราบรื่น..
“ข้าคิดว่าทั้งเมืองคงมีตาเฒ่าคน เมื่อกี้เป็นมิตรกับเราอยู่แค่คนเดียวกระมัง”ไมเนอร่าบ่นกระปอดกระแปด เพราะ ประชาชนในมหานครแย่ยิ่งกว่าคนในมณฑลฟอว์เสียอีก
ในที่สุดทั้งหมดก็หาโรงแรมแห่งเดียวในมหานครแห่งนี้ได้..
“ยี้~โสโครกสิ้นดี”
“เธอก็นอนข้างนอกละกัน” คำพูดของเมเจอร์ทำให้ไมเนอร่าค้อนขวับ
“ก็ต้องพักที่นี่แหละ อย่างไรซะก็ดีกว่าไม่มีที่นอน อีกอย่างสกปรกแค่นี้เวทมานตร์นิดเดียวก็สะอาดแล้ว”เอโรร่าพูดปลอบใจไมเนอร่า พลางยิ้ม
“ค่ะ!!”
ปึ้งๆๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นกลางราตรี..เฮ้ออเมื่อไหร่จะได้นอนเต็มอิ่มสักวันหนอ!!??..เอโรร่าลืมตาขึ้นพลางเดินไปเปิดประตู ซึ่งมีเฟธาน สองฝาแฝด และ..ชายร่างใหญ่อีกสองคน..
เอโรร่าส่งสายตาแห่งความกังขาไปยังเฟธาน..ชายหนุ่มตอบ..ในดวงตา
...ดาริค..
..ขอรับนายหญิง..
..เจ้ากลายร่างเป็นชายหนุ่มและดูแลของที่นี่..
..ตามบัญชา..
คำสั่งของเอโรร่าผ่านทางจิตที่เชื่อมกันของนายและบ่าวด้วยความรวดเร็ว..
ชายร่างใหญ่สองคนเป็นคนจากทางการ ซึ่งได้รับคำสั่งจากจักรพรรดิเดเลลอยด์ ให้เรียกพบพวกเขา ...เรียกพบทำไม??แต่การขัดขืนคำสั่งของจักรพรรดิคงไม่ใช่ทางเลือกที่ถูกนัก..
“ขึ้นไป!!”ชายคนหนึ่งสั่งให้ทั้งหมดขึ้นไปนั่งบนรถม้าอย่างดี
ราชวังหลวงแห่งอาณาจักรสกาล่าทรอยดูน่ากลัวมากกว่างดงามหลายเท่านัก เนื่องจากปลูกสร้างด้วยอัคนีสีดำสนิททั้งหลัง..น่ากลัวแต่น่าเกรงขาม
“ข้ากลัว~”ไมเนอร่าพูดพลางเขยิบตัวเข้าใกล้ผู้เป็นอาจารย์
ภายในห้องโถงอันโอ่อ่าของจักรพรรดิแห่งสกาล่าทรอย มีบังลังก์สามตัว ตัวตรงกลางใหญ่กว่าสองตัวที่ขนาบข้าง..ผู้ที่นั่งอยู่บนนั้น..จักรพรรดิผู้เกรียงไกรด้วยความเหี้ยมโหด..จักรพรรดิเดเลลอยด์..ผู้ซึ่งทรงหาวอยู่บนบัลลังก์..
“อ้าวว มากันแล้วหรือ ข้ากำลังรออยู่เลยเชียว”
“ถวายบังคม กระหม่อม”เฟธานกล่าวด้วยความเหนือคาดในรูปลักษณ์ของจักรพรรดิผู้เหี้ยมโหด
“อืมๆๆๆ สงสัยล่ะสิว่าข้าเรียกเจ้ามาทำไม”เดเลลอยด์ถาม และพูดต่อ
“ไหนๆๆคนไหนกันหลานสาวมหาปราชญ์ผู้เกรียงไกร เฒ่าการ์ซิลินด์???”
“คือข้า ”คำตอบที่สั้นห้วนและไร้ซึ่งการเคารพของหญิงสาวร่างระหงตรงหน้าทำให้จักรพรรดิเดเลลอยด์สะอึก และสนใจนางด้วยท่าทางที่นั่งหลังตรง
“เจ้าเองหรือ..รูปงามสมคำลือ”เดเลลอยด์ไม่สนใจในแววตาที่เย็นชาของนาง ยังคงสรวลด้วยความถูกใจ รอยยิ้มเย็นผุดขึ้นที่ริมฝีปาก หญิงสาว
“อยู่ที่ท่านคิด”
“ข้าล่ะอยากรู้นัก ไหนๆคำลือแรกก็เป็นจริงแล้ว..แล้วที่เขาว่าเจ้าปราดเปรื่องไม่แพ้ผู้เป็นตาล่ะ??”
“ข้าก็ไม่สามารถตอบท่านได้ท่านจักรพรรดิ คำว่าปราดเปรื่องคงยกยอเกินไป มันเป็นการยาก ที่จะใช้ชีวิตอันแสนสั้นเดินทางไปยังความรู้ที่ไร้ขอบเขต ดังนั้นคำว่าฉลาดคงเป็นการยกยอเกินไป” คำพูดเย็นชาทำให้บรรยากาศรอบบริเวณเย็นยะเยือก แต่รอยสรวลยังคงติดอยู่ที่พระโอษฐ์
“เจ้าช่างหน้าสนใจเสียจริง”
“ความน่าสนใจของข้าคงไม่มากเท่าพระมเหสีของพระองค์” รอยสรวลเริ่มเลือนหายจากพระโอษฐ์
“เจ้ารู้ได้อย่างไร?”ชั่วครู่ พระองค์ก็ทรงแย้มโอษฐ์ขึ้นอีกครา
“เอาล่ะ นี่ก็ดึกมากแล้ว พวกเจ้าไปนอนเถิดข้าจะให้คนจัดห้องให้..เจ้าคงไม่ขัดใจข้า”
ความคิดเห็น