คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ♕ EMPEROR l Episode one
E M P E R O R
ยามราตรีกาลเป็นเวลาพักผ่อนของเหล่าเด็กนักเรียนผู้เหนื่อยอ่อนจากการร่ำเรียนในยามกลางวัน ท่ามกลางลมหายใจสม่ำเสมอของพวกเขากลับมีเสียงหอบหายใจสอดแทรก คบไฟตามผนังทอแสงอ่อนแรง แสงจากปลายไม้ไหววูบ เงาสะท้อนของผู้รุกล้ำกฎยามวิกาลจึงบิดเบี้ยวคล้ายปีศาจร้าย
“เดินตามฉันมาคิมจงอิน” สิ้นเสียงหวานร่างสูงของอีกคนจึงก้าวออกมาจากเงามืด
“โรงเรียนหลังสี่ทุ่มมันน่าขนลุกพิลึก” ถึงถ้อยคำจะฟังคล้ายหวาดกลัวแต่น้ำเสียงของคิมจงอินกลับสนุกสนาน “พึ่งเคยออกจากหอหลังเวลาต้องห้ามก็วันนี้ อยู่กับนายนี่มันโชคดีจริงๆแบคฮยอน”
“หุบปากแล้วตามมาเงียบๆ” ร่างเล็กออกเดินนำอีกฝ่ายไปตามระเบียงหินแกร่งที่ทอดยาว คืนนี้ท้องฟ้าปิดแม้แต่ดาวซักดวงเขายังไม่เห็นเลยด้วยซ้ำ แสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวของราตรีกาลคือคบไฟโบราณตามผนัง
“นายออกมาจากหอพักตอนดึกเคยเจอพวกผู้คุมกฎชุดดำบ้างรึเปล่า”
“นิทานหลอกเด็กพรรค์นั้นนายเชื่อด้วยหรอ” แบคฮยอนเหยียดยิ้มเย้ยหยัน “ฉันฝ่ากฎเหล็กเป็นตั้งนั่นมาห้าปีแล้ว ยังไม่เคยเจอไอ้ตำนานพิลึกประหลาดพวกนี้ซักที ก็แค่คำขู่ลวงโลกไม่ให้เด็กนักเรียนแหกกฎของมาสเตอร์”
ฝีเท้าของแบคฮยอนเงียบกริบ มีเพียงเสียงเดินของจงอินเท่านั้นที่สะท้อนไปมาตามระเบียงกว้างแม้เจ้าของจะพยายามบังคับให้เบาแล้วก็ตาม แบคฮยอนพาอีกฝ่ายลัดเลาะไปตามโถงทางเดินกลางที่เชื่อมต่อตึกเรียนทั้งสี่ไว้ ก่อนจะนำคิมจงอินขึ้นบันไดไปจนถึงชั้นบนสุดของตึกเรียนที่สามและหยุดลงหน้าประตูไม้บานหนา
“ห้องนี้มีของที่นายต้องการอยู่ กรุณาจ่ายมาหนึ่งแสนวอนค่านำทางและค่าเสี่ยงภัยเข้าเขตหวงห้ามของห้องสมุดด้วย”
“แล้วฉันจะมั่นใจได้ยังไงว่านายเอามันออกมาได้จริง ไม่ใช่ถูกมาหลอกให้เสียเงินฟรี”
“หนังสือเล่มนั้นอยู่ในนี้แน่นอน ฉันไม่เสี่ยงทำเรื่องโง่ๆให้เสียลูกค้าหรอกน่า” แบคฮยอนกล่าวอย่างใจเย็นทั้งที่ความจริงเขาเหนื่อยหน่ายเต็มทีกับความระแวงของคนตรงหน้า
เงินปึกหนาจากคิมจงอินวางบนฝ่ามือนุ่ม เอ่ยสั่งคนนำทางเสียงเข้ม “นายรอฉันอยู่ตรงนี้นะแบคฮยอน”
มือแกร่งผลักประตูบานนั้นก่อนร่างสูงโปร่งของจงอินจะก้าวเข้าไปและปิดประตูตามหลัง คนถูกสั่งให้รอเบ้ปากแล้วเดินจากมาราวกับคำพูดของจงอินเป็นเพียงอากาศ
“รอให้โง่สิคิมจงอิน ถึงผู้คุมกฎจะไม่มีอยู่จริงแต่มาสเตอร์ที่เดินตรวจอาคารยามวิกาลใช่ว่าจะไม่มี” คนตัวเล็กแสยะยิ้มจนใบหน้าบิดเบี้ยวขณะก้าวเท้าหายลับไปในความมืดมิดของราตรีกาล
ขอให้รอดปลอดภัยนะคิมจงอินคนโง่!!
E M P E R O R
ยามเช้าในห้องเรียนเต็มไปด้วยเสียงโหวกเหวกโวยวาย ระเบียงทางเดินพลุกพล่านไปด้วยเด็กนักเรียนมากหน้าหลายตาเดินสวนกันไปมา แบคฮยอนกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะเรียนริมหน้าต่างของตน ขณะเจ้าของใบหน้าน่ารักจนผู้ชายด้วยกันยังชื่นชมถลันเข้ามาในห้องอย่างหน้าตาตื่นแล้วแหกปากดังลั่น
“เกิดเรื่องใหญ่แล้ว มาสเตอร์พบศพคิมจงอินที่ตึกแบคโฮเมื่อเช้านี้!!”
“นายว่ายังไงนะแทมิน?! พบศพเด็กนักเรียนหรอ?!” ใครบางคนในห้องถามย้ำเพื่อความมั่นใจในขณะที่นักเรียนส่วนใหญ่ในห้องล้วนชะงักค้างกับถ้อยคำของเพื่อน
“ใช่ พบศพคิมจงอินถูกฆ่าที่ชั้นเจ็ดของตึกแบคโฮ มันน่ากลัวมากเลือดท่วมไปหมดเลย ฉันได้แต่ยืนอยู่วงนอกแทบไม่กล้ามองหน้าเขาด้วยซ้ำ!!” คนบอกข่าวหน้าซีดปากสั่น เสียการควบคุมตัวไปอย่างสิ้นเชิง
คล้ายถูกน้ำเย็นราดลงตั้งแต่ศีรษะจรดปลาดเท้า ความรู้สึกปวดมวนในท้องแล่นวาบเข้าในตัวแบคฮยอนทันที มือเนียนกำหมัดแน่นจนเห็นข้อขาว เสียงซุบซิบตื่นตระหนกของเพื่อนร่วมห้องไม่ได้อยู่ในโสตประสาทของคนตัวเล็กเลยซักนิด พวกเขาพากันวิ่งหน้าตาตื่นออกไปจากห้อง
คงไปดูว่าเรื่องนี้เป็นยังไงกันแน่
โรงเรียนแห่งนี้ก่อตั้งมาร้อยสามสิบกว่าปี มีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นมากมาย มีทั้งอาการบาดเจ็บของนักเรียนไม่ว่าจะสาหัสจากการจงใจกระทำหรืออุบัติเหตุก็ตามที...แต่ไม่เคยมีการฆาตกรรม ไม่เคยมีใครตาย...
แล้วใคร?!
ใครฆ่าคิมจงอิน?!
หัวสมองเต้นตุ้บพยายามหาความเป็นไปได้ในเรื่องนี้ หัวใจเต้นกระหน่ำอย่างตื่นกลัว...ถ้าใครรู้เข้าว่าเขาพาจงอินออกจากหอไปที่นั่นเมื่อคืนละ เขาจะถูกกล่าวหาว่าเป็นคนฆ่าใช่มั้ย?
ไม่ใช่ฉัน!
ฉันไม่ได้ฆ่าหมอนั่น! ไม่แม้แต่จะแตะต้อง!
“บะ แบคฮยอนเป็นอะไรมั้ย? นายหน้าซีดมากเลยนะ” เสียงหวานของลีแทมินปลุกแบคฮยอนจากห้วงความคิดของตน
“แทมินนายแน่ใจนะว่าคิมจงอินถูกฆ่าจริงๆ”
“เป็นคิมจงอินแน่นอนแบคฮยอน หมอนั่นถูกไม้แหลมแทงลงตรงหัวใจเหมือนในหนังฉากฆาตกรรมแวมไพร์ เลือดนองไปทั่วพื้นแถมกลิ่นคลุ้งไปหมด ภาพบ้าๆนั่นยังติดตาฉันอยู่เลย มัน---”
แบคฮยอนไม่ได้ฟังต่อ ความรู้สึกขมปร่าพุ่งขึ้นจุกลำคอจนคนตัวเล็กวิ่งไปอ้วกจนแสบหน้าอก สั่นสะท้านไปทั้งตัว...
“นายรอฉันอยู่ตรงนี้นะแบคฮยอน”
ถ้าแบคฮยอนรอคิมจงอินอยู่ที่นั้น บางทีเรื่องบ้าๆนี่คงไม่เกิดขึ้น
หรือไม่...
คนที่ถูกฆ่าคงเป็นเขาเอง!
แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นสบตากับเงาของตนในกระจก ใช่ เขายังยืนอยู่ตรงนี้ ยังเป็นบยอนแบคฮยอนที่มีลมหายใจ ไม่มีใครรู้ว่าเขาออกไปข้างนอกกับคิมจงอินในเวลาต้องห้าม ไม่มีใครทั้งนั้น!
ฉันไม่ได้ฆ่าใครและไม่ถูกใครฆ่า
มันเป็นกรรมของคิมจงอิน
ร่างบางตั้งสติให้มั่นคง เรื่องเลวร้ายกว่านี้เขายังเคยผ่านมันมาได้ แค่เพื่อนร่วมโลกร่วมโรงเรียนตายไปซักคนนึงมันไม่ได้ทำให้โลกของเขาต้องบิดเบี้ยวตาม เขาคือบยอนแบคฮยอนผู้ยังต้องมีชีวิตอยู่และไม่มีใครจะทำลายเขาได้ง่ายๆ ไม่มีใครและไม่มีวัน!
ขณะเดินกลับไปยังห้องเรียนแบคฮยอนสัมผัสได้ถึงกระแสความตื่นตระหนกในหมู่นักเรียน ไม่มีใครจับกลุ่มกันตามระเบียงเพื่อร้องเพลงหรือเล่นเกมอีกต่อไปแล้ว พวกเขาล้วนจับกลุ่มพูดคุยกันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีฝูงนักเรียนกระโดดโลดเต้นวิ่งแข่งกันตามทางเดิน ไม่มีเสียงโหวกเหวกโวยวาย
คนตัวเล็กกำหมัดแน่นแล้วรีบก้าวให้พ้นจากสายตาบางคู่ที่มองมายังเขา ราวกับรู้ทันว่าคิมจงอินออกจากห้องนอนในยามวิกาลไปพร้อมกับเขา ถึงพวกนายรู้แต่มันทำอะไรเขาไม่ได้ทั้งนั้น ไม่มีหลักฐานแน่นหนาแค่คำพูดลอยลมของเด็กนักเรียนที่อาจกุขึ้นมา
ทันทีที่สองขาข้ามพ้นประตูห้องแรงบีบหนักตรงไหล่ก็เข้าจู่โจม โอเซฮุนยืนอยู่ตรงนั้นนัยน์ตาฉายแววบางอย่างที่แบคฮยอนอ่านไม่ออก แต่เขารู้ดี...สายตาอ่านไม่ออกของโอเซฮุนคืออันตราย โดยเฉพาะกับคนมีชนักติดหลัง
“นายรู้เรื่องการตายของคิมจงอินใช่มั้ย” กดเสียงเข้มพร้อมแรงบีบหนักหน่วงกว่าเก่า
ดวงตาคู่สวยของแบคฮยอนสบกับสายตาแข็งกร้าวของอีกฝ่ายอย่างไม่เกรงกลัว “ฉันไม่รู้เรื่อง อย่ามากล่าวหากันลอยๆนะโอเซฮุน!”
“หึ ถ้าบอกว่าฉันเห็นนายกับหมอนั่นเดินด้วยกันตรงระเบียงทางเดินตอนห้าทุ่มครึ่งนายจะว่ายังไง” ความหวาดหวั่นแล่นวาบเข้าเกาะกุมหัวใจของแบคฮยอน ขอบตาร้อนผ่าวแต่ต้องฝืนเอาไว้
“นายมีหลักฐานหรือไง”
“....”
“ก่อนจะกล่าวหากันช่วยหาหลักฐานมายืนยันด้วยนะโอเซฮุน เพราะฉันไม่ได้ฆ่าคิมจงอิน! และไม่มีวันจะทำอย่างนั้นด้วย!”
“หมาจนตรอกอย่างนายมันทำได้ทุกอย่าง น่าสมเพช” แรงบีบหนักหายไปแล้วแต่กลับได้รับสายตาดูถูกเหยียดหยามแทน
“สมเพชกันมากใช่มั้ยโอเซฮุน” รอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏบนเรียวปากสวย “อย่าลืมแล้วกันว่าครั้งหนึ่งนายต้องการคนน่าสมเพชคนนี้มากขนาดไหน”
“บยอน แบคฮยอน” เอ่ยเสียงเข้มคล้ายข่มขู่ “อยากทำอะไรนายทำไปแต่จำใส่สมองไว้ ทุกการกระทำมีคนจับตามองนายอยู่ตลอดเวลา!”
บางทีแบคฮยอนก็ลืมไปว่าคนอย่างโอเซฮุนเป็นพวก ‘กัดไม่ปล่อย’ จนกว่าเหยื่อจะตาย
และในเกมนี้...เขาคือเหยื่อ
E M P E R O R
คืนนี้ฟ้าปิดเฉกเช่นเมื่อวาน คบเพลิงตามทางเดินหม่นแสงลงกว่าเก่าบางอันริบหรี่ลงจนแทบไม่เห็นเปลวไฟ บยอนแบคฮยอนเดินไปตามระเบียงหินเก่าแก่นับร้อยปีอย่างเงียบเชียบ เขาแค่ต้องการเห็นห้องนั้นอีกครั้ง...ห้องที่คิมจงอินถูกฆ่าตาย
บริเวณชั้นเจ็ดของอาคารถูกกั้นด้วยเทปสีเหลืองของตำรวจ แต่ในยามราตรีเช่นนี้ไม่มีใครนึกอยากจะขึ้นมาอยู่ที่เกิดเหตุหรอก ยกเว้นเพียงแบคฮยอนเท่านั้น
ร่างเล็กยกเทปกั้นขึ้นแล้วลอดตัวเข้าไป หากเป็นในยามปกติชั้นเจ็ดจะสว่างไสวด้วยคบไฟแต่ในยามนี้กลับมืดมิดไร้สิ้นซึ่งแสงสว่างใดๆ ไฟฉายกระบอกเล็กถูกเตรียมมาไว้เพื่อการนี้ คนตัวเล็กกราดไฟตามทางเดินอย่างระแวดระวัง
เลือดสีเข้มนองนิ่งอยู่กับพื้นส่งกลิ่นคาวคละคลุ้งจนแบคฮยอนต้องปิดจมูก คนตัวเล็กสืบเท้าใกล้เข้าไปกว่าเดิมขณะเบนกระบอกไฟฉายไปยังกำแพงหินเก่าแก่ กราดไฟไล่ไปเรื่อยเมื่อไม่พบอะไรน่าสนใจจึงได้ก้มลงเพ่งพินิจกองเลือดนั้นใกล้ๆ
เหมือนเหตุการณ์ในวันนั้นไม่มีผิด...เลือดไหลนองเต็มพื้น
ทั่วร่างของเขาย้อมด้วยสีชาด
ไม่! แบคฮยอนตั้งสติเดี๋ยวนี้
คนตัวเล็กยังคงก้าวตามรอยเลือดที่ไหลนองลึกเข้าไปเรื่อยๆ มือไม้สั่นอย่างควบคุมไม่อยู่ คล้ายอากาศรอบตัวเย็นยะเยือกลงกว่าเก่า กองเลือดพวกนี้ไหลมาจากใต้ประตูบานหนาหนักบานนั้น...
บานที่เขาให้คิมจงอินเดินเข้าไปเมื่อคืนก่อน
มือเรียวบรรจงดันประตูอย่างแผ่วเบา ไม่มีที่เหลือให้เขาเดินอีกต่อไปแล้ว ทุกหนแห่งเต็มไปด้วยเลือดสีคล้ำเข้ม ไฟฉายในมือกราดเข้าไปในห้องแต่คนตัวเล็กต้องหลุดปากหวีดร้องอย่างตกใจ ไฟฉายในมือตกจมกองโลหิตทั่วทั้งร่างสั่นเทิ้ม
คิมจงอินนอนอยู่ตรงนั้น! แท่งไม้แหลมแทงทะลุอกปักตรึงไว้กับพื้นห้อง นัยน์ตาคู่นั้นเบิกโพลง
นี่มันเกินกว่าคำว่าเลวร้าย! ร่างเล็กทรุดตัวลงกับพื้นมวลอากาศรอบตัวหนาหนักจนคล้ายบีบให้เขาจมดิน เพียงแค่หายใจยังลำบาก ลมหายใจของเขาติดขัดคล้ายรอบกายไร้สิ้นซึ่งออกซิเจน หยาดน้ำตาพร่างพรูเป็นสาย
แบคฮยอนไม่รู้ว่าตนนั่งอยู่ตรงนั้นนานแค่ไหน แต่มันนานพอให้หยดน้ำตาแห้งเหือดไป คนตัวเล็กเม้มปากแน่นขณะหยิบไฟฉายเปื้อนเลือดขึ้นมา แสงไฟที่ยังไม่ถูกปิดฉายเข้าไปในห้องโดยบังเอิญ สายตาของแบคฮยอนไล่ตามแสงนั้นจนถึงผนัง
‘แกต้องตายเหมือนอย่างที่ฉันตาย!!’
คล้ายสมองไม่สั่งการร่างเล็กได้แต่ยืนแข็งเป็นหิน คล้ายถูกก้อนหินกระหน่ำทุบลงตรงกลางศีรษะ หัวใจเต้นตุ้บไม่เป็นจังหวะ หนาวเหน็บจับขั้วปอด ปวดร้าวทั่วร่างเหมือนถูกกรีดด้วยคมมีดเป็นริ้ว
เขากำลังกลัว กลัวมากเสียด้วย
เล็บจิกลงในเนื้อเป็นสิ่งเรียกสติแบคฮยอนกลับมา คนตัวเล็กรีบปิดไฟฉายแล้ววิ่งลงมาชั้นล่างทันที แต่ยังไม่ทันได้ไปไหนไกลเสียงฝีเท้าและเสียงเสียดสีของเนื้อผ้ากลับดังขึ้นมาก่อนจนเขาต้องผลุบเข้าไปหลบในห้องเรียนแถวนั้น หัวใจเต้นกระหน่ำเสียจนกลัวว่าเสียงเต้นนั้นจะดังจนคนด้านนอกได้ยิน
ดวงตาคู่สวยแอบมองลอดช่องประตูที่แง้มเปิด ร่างในชุดดำยาวปกปิดมิดชิดกำลังเดินผ่านไป ชายผ้าลากพื้นไปตามแผ่นหินอย่างไม่กลัวเปรอะเปื้อน
ผู้คุมกฎชุดดำ!!!!
ไอ้ตำนานบ้านั่นเป็นจริงหรือนี่ คนตัวเล็กกัดฟันกรอดมือกำขอบโต๊ะเรียนแน่น
“เด็กไม่ดีต้องโดนลงโทษ!” ร่างนั้นหยุดฝีเท้าแล้วหันกลับมาทิศที่เขาหลบอยู่ “เด็กดื้อต้องถูกจักรพรรดิลงโทษ!”
- EMPEROR ♕
เราลบแก้บ่อยมากเหมือนสับสนกับชีวิตตัวเอง
ก็บอกแล้วไงว่าเป็นฟิคสืบสวน #ฟิคจักรพรรดิ
ความคิดเห็น