ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (exo) EMPEROR ♛ chanbaek.

    ลำดับตอนที่ #2 : ♕ EMPEROR l Episode one

    • อัปเดตล่าสุด 3 เม.ย. 57












    E M P E R O R

     



     

                ยามราตรีกาลเป็นเวลาพักผ่อนของเหล่าเด็กนักเรียนผู้เหนื่อยอ่อนจากการร่ำเรียนในยามกลางวัน ท่ามกลางลมหายใจสม่ำเสมอของพวกเขากลับมีเสียงหอบหายใจสอดแทรก คบไฟตามผนังทอแสงอ่อนแรง แสงจากปลายไม้ไหววูบ เงาสะท้อนของผู้รุกล้ำกฎยามวิกาลจึงบิดเบี้ยวคล้ายปีศาจร้าย

     

                “เดินตามฉันมาคิมจงอิน” สิ้นเสียงหวานร่างสูงของอีกคนจึงก้าวออกมาจากเงามืด

     

                “โรงเรียนหลังสี่ทุ่มมันน่าขนลุกพิลึก” ถึงถ้อยคำจะฟังคล้ายหวาดกลัวแต่น้ำเสียงของคิมจงอินกลับสนุกสนาน “พึ่งเคยออกจากหอหลังเวลาต้องห้ามก็วันนี้ อยู่กับนายนี่มันโชคดีจริงๆแบคฮยอน”

     

                “หุบปากแล้วตามมาเงียบๆ” ร่างเล็กออกเดินนำอีกฝ่ายไปตามระเบียงหินแกร่งที่ทอดยาว คืนนี้ท้องฟ้าปิดแม้แต่ดาวซักดวงเขายังไม่เห็นเลยด้วยซ้ำ แสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวของราตรีกาลคือคบไฟโบราณตามผนัง

     

                “นายออกมาจากหอพักตอนดึกเคยเจอพวกผู้คุมกฎชุดดำบ้างรึเปล่า”

     

                “นิทานหลอกเด็กพรรค์นั้นนายเชื่อด้วยหรอ” แบคฮยอนเหยียดยิ้มเย้ยหยัน “ฉันฝ่ากฎเหล็กเป็นตั้งนั่นมาห้าปีแล้ว ยังไม่เคยเจอไอ้ตำนานพิลึกประหลาดพวกนี้ซักที ก็แค่คำขู่ลวงโลกไม่ให้เด็กนักเรียนแหกกฎของมาสเตอร์”

     

                ฝีเท้าของแบคฮยอนเงียบกริบ มีเพียงเสียงเดินของจงอินเท่านั้นที่สะท้อนไปมาตามระเบียงกว้างแม้เจ้าของจะพยายามบังคับให้เบาแล้วก็ตาม แบคฮยอนพาอีกฝ่ายลัดเลาะไปตามโถงทางเดินกลางที่เชื่อมต่อตึกเรียนทั้งสี่ไว้ ก่อนจะนำคิมจงอินขึ้นบันไดไปจนถึงชั้นบนสุดของตึกเรียนที่สามและหยุดลงหน้าประตูไม้บานหนา

     

                “ห้องนี้มีของที่นายต้องการอยู่ กรุณาจ่ายมาหนึ่งแสนวอนค่านำทางและค่าเสี่ยงภัยเข้าเขตหวงห้ามของห้องสมุดด้วย”

     

                “แล้วฉันจะมั่นใจได้ยังไงว่านายเอามันออกมาได้จริง ไม่ใช่ถูกมาหลอกให้เสียเงินฟรี”

     

                “หนังสือเล่มนั้นอยู่ในนี้แน่นอน ฉันไม่เสี่ยงทำเรื่องโง่ๆให้เสียลูกค้าหรอกน่า” แบคฮยอนกล่าวอย่างใจเย็นทั้งที่ความจริงเขาเหนื่อยหน่ายเต็มทีกับความระแวงของคนตรงหน้า

     

                เงินปึกหนาจากคิมจงอินวางบนฝ่ามือนุ่ม เอ่ยสั่งคนนำทางเสียงเข้ม “นายรอฉันอยู่ตรงนี้นะแบคฮยอน”

     

                มือแกร่งผลักประตูบานนั้นก่อนร่างสูงโปร่งของจงอินจะก้าวเข้าไปและปิดประตูตามหลัง คนถูกสั่งให้รอเบ้ปากแล้วเดินจากมาราวกับคำพูดของจงอินเป็นเพียงอากาศ

     

                “รอให้โง่สิคิมจงอิน ถึงผู้คุมกฎจะไม่มีอยู่จริงแต่มาสเตอร์ที่เดินตรวจอาคารยามวิกาลใช่ว่าจะไม่มี” คนตัวเล็กแสยะยิ้มจนใบหน้าบิดเบี้ยวขณะก้าวเท้าหายลับไปในความมืดมิดของราตรีกาล

     

                ขอให้รอดปลอดภัยนะคิมจงอินคนโง่!!

     

    E M P E R O R

     

                ยามเช้าในห้องเรียนเต็มไปด้วยเสียงโหวกเหวกโวยวาย ระเบียงทางเดินพลุกพล่านไปด้วยเด็กนักเรียนมากหน้าหลายตาเดินสวนกันไปมา แบคฮยอนกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะเรียนริมหน้าต่างของตน ขณะเจ้าของใบหน้าน่ารักจนผู้ชายด้วยกันยังชื่นชมถลันเข้ามาในห้องอย่างหน้าตาตื่นแล้วแหกปากดังลั่น

     

                “เกิดเรื่องใหญ่แล้ว มาสเตอร์พบศพคิมจงอินที่ตึกแบคโฮเมื่อเช้านี้!!

     

                “นายว่ายังไงนะแทมิน?! พบศพเด็กนักเรียนหรอ?!” ใครบางคนในห้องถามย้ำเพื่อความมั่นใจในขณะที่นักเรียนส่วนใหญ่ในห้องล้วนชะงักค้างกับถ้อยคำของเพื่อน

     

                “ใช่ พบศพคิมจงอินถูกฆ่าที่ชั้นเจ็ดของตึกแบคโฮ มันน่ากลัวมากเลือดท่วมไปหมดเลย ฉันได้แต่ยืนอยู่วงนอกแทบไม่กล้ามองหน้าเขาด้วยซ้ำ!!” คนบอกข่าวหน้าซีดปากสั่น เสียการควบคุมตัวไปอย่างสิ้นเชิง

     

                คล้ายถูกน้ำเย็นราดลงตั้งแต่ศีรษะจรดปลาดเท้า ความรู้สึกปวดมวนในท้องแล่นวาบเข้าในตัวแบคฮยอนทันที มือเนียนกำหมัดแน่นจนเห็นข้อขาว เสียงซุบซิบตื่นตระหนกของเพื่อนร่วมห้องไม่ได้อยู่ในโสตประสาทของคนตัวเล็กเลยซักนิด พวกเขาพากันวิ่งหน้าตาตื่นออกไปจากห้อง

     

                คงไปดูว่าเรื่องนี้เป็นยังไงกันแน่

     

                โรงเรียนแห่งนี้ก่อตั้งมาร้อยสามสิบกว่าปี มีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นมากมาย มีทั้งอาการบาดเจ็บของนักเรียนไม่ว่าจะสาหัสจากการจงใจกระทำหรืออุบัติเหตุก็ตามที...แต่ไม่เคยมีการฆาตกรรม ไม่เคยมีใครตาย...

               

                แล้วใคร?!

     

                ใครฆ่าคิมจงอิน?!

               

                หัวสมองเต้นตุ้บพยายามหาความเป็นไปได้ในเรื่องนี้ หัวใจเต้นกระหน่ำอย่างตื่นกลัว...ถ้าใครรู้เข้าว่าเขาพาจงอินออกจากหอไปที่นั่นเมื่อคืนละ เขาจะถูกกล่าวหาว่าเป็นคนฆ่าใช่มั้ย?

     

                ไม่ใช่ฉัน!

     

                ฉันไม่ได้ฆ่าหมอนั่น! ไม่แม้แต่จะแตะต้อง!

     

                “บะ แบคฮยอนเป็นอะไรมั้ย? นายหน้าซีดมากเลยนะ” เสียงหวานของลีแทมินปลุกแบคฮยอนจากห้วงความคิดของตน

     

                “แทมินนายแน่ใจนะว่าคิมจงอินถูกฆ่าจริงๆ”

     

                “เป็นคิมจงอินแน่นอนแบคฮยอน หมอนั่นถูกไม้แหลมแทงลงตรงหัวใจเหมือนในหนังฉากฆาตกรรมแวมไพร์ เลือดนองไปทั่วพื้นแถมกลิ่นคลุ้งไปหมด ภาพบ้าๆนั่นยังติดตาฉันอยู่เลย มัน---

     

                แบคฮยอนไม่ได้ฟังต่อ ความรู้สึกขมปร่าพุ่งขึ้นจุกลำคอจนคนตัวเล็กวิ่งไปอ้วกจนแสบหน้าอก สั่นสะท้านไปทั้งตัว...

     

              “นายรอฉันอยู่ตรงนี้นะแบคฮยอน”

     

                ถ้าแบคฮยอนรอคิมจงอินอยู่ที่นั้น บางทีเรื่องบ้าๆนี่คงไม่เกิดขึ้น

     

                หรือไม่...

     

                คนที่ถูกฆ่าคงเป็นเขาเอง!

     

                แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นสบตากับเงาของตนในกระจก ใช่ เขายังยืนอยู่ตรงนี้ ยังเป็นบยอนแบคฮยอนที่มีลมหายใจ ไม่มีใครรู้ว่าเขาออกไปข้างนอกกับคิมจงอินในเวลาต้องห้าม ไม่มีใครทั้งนั้น!

     

                ฉันไม่ได้ฆ่าใครและไม่ถูกใครฆ่า

     

                มันเป็นกรรมของคิมจงอิน

     

                ร่างบางตั้งสติให้มั่นคง เรื่องเลวร้ายกว่านี้เขายังเคยผ่านมันมาได้ แค่เพื่อนร่วมโลกร่วมโรงเรียนตายไปซักคนนึงมันไม่ได้ทำให้โลกของเขาต้องบิดเบี้ยวตาม เขาคือบยอนแบคฮยอนผู้ยังต้องมีชีวิตอยู่และไม่มีใครจะทำลายเขาได้ง่ายๆ ไม่มีใครและไม่มีวัน!

     

                ขณะเดินกลับไปยังห้องเรียนแบคฮยอนสัมผัสได้ถึงกระแสความตื่นตระหนกในหมู่นักเรียน ไม่มีใครจับกลุ่มกันตามระเบียงเพื่อร้องเพลงหรือเล่นเกมอีกต่อไปแล้ว พวกเขาล้วนจับกลุ่มพูดคุยกันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีฝูงนักเรียนกระโดดโลดเต้นวิ่งแข่งกันตามทางเดิน ไม่มีเสียงโหวกเหวกโวยวาย

     

                คนตัวเล็กกำหมัดแน่นแล้วรีบก้าวให้พ้นจากสายตาบางคู่ที่มองมายังเขา ราวกับรู้ทันว่าคิมจงอินออกจากห้องนอนในยามวิกาลไปพร้อมกับเขา ถึงพวกนายรู้แต่มันทำอะไรเขาไม่ได้ทั้งนั้น ไม่มีหลักฐานแน่นหนาแค่คำพูดลอยลมของเด็กนักเรียนที่อาจกุขึ้นมา

     

                ทันทีที่สองขาข้ามพ้นประตูห้องแรงบีบหนักตรงไหล่ก็เข้าจู่โจม โอเซฮุนยืนอยู่ตรงนั้นนัยน์ตาฉายแววบางอย่างที่แบคฮยอนอ่านไม่ออก แต่เขารู้ดี...สายตาอ่านไม่ออกของโอเซฮุนคืออันตราย โดยเฉพาะกับคนมีชนักติดหลัง

     

                “นายรู้เรื่องการตายของคิมจงอินใช่มั้ย” กดเสียงเข้มพร้อมแรงบีบหนักหน่วงกว่าเก่า

     

                ดวงตาคู่สวยของแบคฮยอนสบกับสายตาแข็งกร้าวของอีกฝ่ายอย่างไม่เกรงกลัว “ฉันไม่รู้เรื่อง อย่ามากล่าวหากันลอยๆนะโอเซฮุน!

     

                “หึ ถ้าบอกว่าฉันเห็นนายกับหมอนั่นเดินด้วยกันตรงระเบียงทางเดินตอนห้าทุ่มครึ่งนายจะว่ายังไง” ความหวาดหวั่นแล่นวาบเข้าเกาะกุมหัวใจของแบคฮยอน ขอบตาร้อนผ่าวแต่ต้องฝืนเอาไว้

     

                “นายมีหลักฐานหรือไง”

     

                “....”

     

                “ก่อนจะกล่าวหากันช่วยหาหลักฐานมายืนยันด้วยนะโอเซฮุน เพราะฉันไม่ได้ฆ่าคิมจงอิน! และไม่มีวันจะทำอย่างนั้นด้วย!

     

                “หมาจนตรอกอย่างนายมันทำได้ทุกอย่าง น่าสมเพช” แรงบีบหนักหายไปแล้วแต่กลับได้รับสายตาดูถูกเหยียดหยามแทน

     

                “สมเพชกันมากใช่มั้ยโอเซฮุน” รอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏบนเรียวปากสวย “อย่าลืมแล้วกันว่าครั้งหนึ่งนายต้องการคนน่าสมเพชคนนี้มากขนาดไหน”

     

                “บยอน แบคฮยอน” เอ่ยเสียงเข้มคล้ายข่มขู่ “อยากทำอะไรนายทำไปแต่จำใส่สมองไว้ ทุกการกระทำมีคนจับตามองนายอยู่ตลอดเวลา!

     

                บางทีแบคฮยอนก็ลืมไปว่าคนอย่างโอเซฮุนเป็นพวก กัดไม่ปล่อย จนกว่าเหยื่อจะตาย

     

                และในเกมนี้...เขาคือเหยื่อ

     

    E M P E R O R

     

                คืนนี้ฟ้าปิดเฉกเช่นเมื่อวาน คบเพลิงตามทางเดินหม่นแสงลงกว่าเก่าบางอันริบหรี่ลงจนแทบไม่เห็นเปลวไฟ บยอนแบคฮยอนเดินไปตามระเบียงหินเก่าแก่นับร้อยปีอย่างเงียบเชียบ เขาแค่ต้องการเห็นห้องนั้นอีกครั้ง...ห้องที่คิมจงอินถูกฆ่าตาย

     

                บริเวณชั้นเจ็ดของอาคารถูกกั้นด้วยเทปสีเหลืองของตำรวจ แต่ในยามราตรีเช่นนี้ไม่มีใครนึกอยากจะขึ้นมาอยู่ที่เกิดเหตุหรอก ยกเว้นเพียงแบคฮยอนเท่านั้น

     

                ร่างเล็กยกเทปกั้นขึ้นแล้วลอดตัวเข้าไป หากเป็นในยามปกติชั้นเจ็ดจะสว่างไสวด้วยคบไฟแต่ในยามนี้กลับมืดมิดไร้สิ้นซึ่งแสงสว่างใดๆ ไฟฉายกระบอกเล็กถูกเตรียมมาไว้เพื่อการนี้ คนตัวเล็กกราดไฟตามทางเดินอย่างระแวดระวัง

     

                เลือดสีเข้มนองนิ่งอยู่กับพื้นส่งกลิ่นคาวคละคลุ้งจนแบคฮยอนต้องปิดจมูก คนตัวเล็กสืบเท้าใกล้เข้าไปกว่าเดิมขณะเบนกระบอกไฟฉายไปยังกำแพงหินเก่าแก่ กราดไฟไล่ไปเรื่อยเมื่อไม่พบอะไรน่าสนใจจึงได้ก้มลงเพ่งพินิจกองเลือดนั้นใกล้ๆ

     

              เหมือนเหตุการณ์ในวันนั้นไม่มีผิด...เลือดไหลนองเต็มพื้น

     

              ทั่วร่างของเขาย้อมด้วยสีชาด

     

                ไม่! แบคฮยอนตั้งสติเดี๋ยวนี้

     

                คนตัวเล็กยังคงก้าวตามรอยเลือดที่ไหลนองลึกเข้าไปเรื่อยๆ มือไม้สั่นอย่างควบคุมไม่อยู่ คล้ายอากาศรอบตัวเย็นยะเยือกลงกว่าเก่า กองเลือดพวกนี้ไหลมาจากใต้ประตูบานหนาหนักบานนั้น...

     

                บานที่เขาให้คิมจงอินเดินเข้าไปเมื่อคืนก่อน

     

                มือเรียวบรรจงดันประตูอย่างแผ่วเบา ไม่มีที่เหลือให้เขาเดินอีกต่อไปแล้ว ทุกหนแห่งเต็มไปด้วยเลือดสีคล้ำเข้ม ไฟฉายในมือกราดเข้าไปในห้องแต่คนตัวเล็กต้องหลุดปากหวีดร้องอย่างตกใจ  ไฟฉายในมือตกจมกองโลหิตทั่วทั้งร่างสั่นเทิ้ม

     

                คิมจงอินนอนอยู่ตรงนั้น! แท่งไม้แหลมแทงทะลุอกปักตรึงไว้กับพื้นห้อง นัยน์ตาคู่นั้นเบิกโพลง

     

                นี่มันเกินกว่าคำว่าเลวร้าย! ร่างเล็กทรุดตัวลงกับพื้นมวลอากาศรอบตัวหนาหนักจนคล้ายบีบให้เขาจมดิน เพียงแค่หายใจยังลำบาก ลมหายใจของเขาติดขัดคล้ายรอบกายไร้สิ้นซึ่งออกซิเจน หยาดน้ำตาพร่างพรูเป็นสาย

     

                แบคฮยอนไม่รู้ว่าตนนั่งอยู่ตรงนั้นนานแค่ไหน แต่มันนานพอให้หยดน้ำตาแห้งเหือดไป คนตัวเล็กเม้มปากแน่นขณะหยิบไฟฉายเปื้อนเลือดขึ้นมา แสงไฟที่ยังไม่ถูกปิดฉายเข้าไปในห้องโดยบังเอิญ สายตาของแบคฮยอนไล่ตามแสงนั้นจนถึงผนัง

     

                แกต้องตายเหมือนอย่างที่ฉันตาย!!’

               

                คล้ายสมองไม่สั่งการร่างเล็กได้แต่ยืนแข็งเป็นหิน คล้ายถูกก้อนหินกระหน่ำทุบลงตรงกลางศีรษะ หัวใจเต้นตุ้บไม่เป็นจังหวะ หนาวเหน็บจับขั้วปอด ปวดร้าวทั่วร่างเหมือนถูกกรีดด้วยคมมีดเป็นริ้ว

     

                เขากำลังกลัว กลัวมากเสียด้วย

     

                เล็บจิกลงในเนื้อเป็นสิ่งเรียกสติแบคฮยอนกลับมา คนตัวเล็กรีบปิดไฟฉายแล้ววิ่งลงมาชั้นล่างทันที แต่ยังไม่ทันได้ไปไหนไกลเสียงฝีเท้าและเสียงเสียดสีของเนื้อผ้ากลับดังขึ้นมาก่อนจนเขาต้องผลุบเข้าไปหลบในห้องเรียนแถวนั้น หัวใจเต้นกระหน่ำเสียจนกลัวว่าเสียงเต้นนั้นจะดังจนคนด้านนอกได้ยิน

     

                ดวงตาคู่สวยแอบมองลอดช่องประตูที่แง้มเปิด ร่างในชุดดำยาวปกปิดมิดชิดกำลังเดินผ่านไป ชายผ้าลากพื้นไปตามแผ่นหินอย่างไม่กลัวเปรอะเปื้อน

     

                ผู้คุมกฎชุดดำ!!!!

     

                ไอ้ตำนานบ้านั่นเป็นจริงหรือนี่ คนตัวเล็กกัดฟันกรอดมือกำขอบโต๊ะเรียนแน่น

     

                “เด็กไม่ดีต้องโดนลงโทษ!” ร่างนั้นหยุดฝีเท้าแล้วหันกลับมาทิศที่เขาหลบอยู่ “เด็กดื้อต้องถูกจักรพรรดิลงโทษ!”


     

                 - EMPEROR 

              เราลบแก้บ่อยมากเหมือนสับสนกับชีวิตตัวเอง

                ก็บอกแล้วไงว่าเป็นฟิคสืบสวน #ฟิคจักรพรรดิ





    PORCELAIN  THEMEs

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×