ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่หนึ่ง - The Day After 2,000year 50%
สองพันปีผ่านไป ไวเหมือนอ่านนิยาย
เมืองในอุดมคติที่ราชาปีศาจวาดฝันไว้ ได้ถูกสร้างขึ้นทางตอนเหนือของมิดการ์ด(ชื่อแผ่นดินในขณะนั้น) โดยมีชื่อว่า ลัลลาบาย(Lullaby) แต่ก็มักจะถูกเรียกในชื่อของ เมืองต้องสาปหรือไม่ก็ดินแดนปีศาจ และเป็นที่รังเกียจของเหล่ามนุษย์ธรรมดา
ใช่ เฉพาะมนุษย์ธรรมดาล่ะนะ แต่กับเหล่านักล่าสมบัติ พ่อค้า อัศวิน จอมเวทย์ ฯลฯ ที่นี่เปรียบดั่งดินแดนในฝัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทรัพยากรที่มีอยู่มากมาย อาวุธในตำนาน เหล่าภูตต่างๆ และอื่นๆอีกมากมาย แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสามารถเข้าออกดินแดนได้อย่างอิสระ เพราะนอกจากถนนหลักที่ตรงเข้าสู่อาณาจักรแล้ว เส้นทางอื่นล้วนเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าปีศาจนานาชนิด
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หน้าปราสาท "ลัลลาบาย"
เด็กสาวคนหนึ่งกำลังยืนพิงกำแพงอยู่ด้วยใบหน้าเซ็งชีวิต กระเป๋าขนาดใหญ่ที่วางอยู่ข้างตัวเป็นเครื่องหมายแสดงถึงความเป็นนักเดินทาง ขณะที่ยกมือปัดผมที่ตกลงมา่ปรกหน้าตัวเองอย่างเบื่อๆ ดวงตาสีทองเหม่อมองท้องฟ้าอย่างไร้จุดหมายพลางคิดถึงเรื่องไม่กี่วันก่อน
อาทิตย์ก่อน ที่ตรงนี้แหละ เธอกำลังพูดกับพ่อเรื่องที่อยากจะเข้าโรงเรียน
"อะไรนะ อยากเข้าโรงเรียน" ชายหนุ่มผมสีทองพูดขึ้นมาอย่างไม่เข้าใจ ดวงตาสีฟ้าเบิกค้างประหนึ่งกำลังถูกพิพากษาประหารชีวิต
"ก็ใช่น่ะสิ หนูอายุสิบห้าแล้วนะ ถึงเกณฑ์ที่จะไปโรงเรียนแล้วด้วย"
"แต่ว่า..." ผู้เป็นพ่อกำลังห้ามในสิ่งที่เธอกำลังจะทำ ถึงแม้จนถึงวันนี้เขาจะไม่เคยห้ามเธอได้สักเรื่องเลย
ก็เถอะ
"ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น ถ้าไม่ยอมให้หนูเข้าโรงเรียนล่ะก็นะ หนูจะ... " คำพูดถูกเว้นไปเพราะเจ้าตัวก็ไม่รู้จะเอาอะไรมาขู่ชายตรงหน้าดีั
"จะ...?"
"หนูจะหนีไปกับผู้ชาย และจะไม่กลับมาให้เห็นหน้าอีกเลย ><" คำขู่ที่สิ้นคิดของเธอ ปกติมันก็คงไม่น่ากลัวอะไร ถ้าใช้กับคนธรรมดาทั่วไป
ใช่ สำหรับคนธรรมดาทั่วไปน่ะนะ ไม่ใช่กับคุณพ่อที่(โคตร)หวงลูกสาวคนนี้
"อ... อะไรนะ... ผู้ชาย..." การตอบสนองที่ผิดไปจากเดิมทำให้เธอรู้แล้วว่า เรื่องมันจะง่ายขึ้น ถ้าหากเธอรุกไล่ต่อไป
"ใช่ ผู้ชาย แล้วหนูก็มั่นใจด้วย ว่าเขาดูแลหนูได้แน่นอน" น้ำเสียงที่แสดงถึงความมั่นใจยิ่งตอกย้ำให้ชายหนุ่มตกใจยิ่งกว่าเดิม
"ถ้าอย่างนั้น ก็พามาให้พ่อเห็นหน่อยสิ ว่ามันเป็นใคร คงได้สินะ" ถึงจะตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ชายหนุ่มก็มีสติพอที่จะถามเข้าประเด็นหลัก และุ้ถ้าเธอตอบไม่ได้ พ่อของเธอต้องรู้แน่นอน ว่าเธอโกหกเรื่องผู้ชาย และมันจะทำให้เธอไม่ได้เข้าโรงเรียนที่ต้องการด้วย
"ได้ เดี๋ยวหนูจะพามาให้ พ่อรออยู่ตรงนี้นะ ห้ามไปไหนล่ะ" 'ไหนๆก็โกหกแล้ว เอาให้สุดๆไปเลยดีกว่า เดี๋ยวค่อยหาตัวตายตัวแทนมารับเคราะห์' หลังจากพูดจบเธอก็วิ่งหายลับไปจากสายตาของผู้เป็นพ่อ
'แล้วจะหาใครมาช่วยดีล่ะเนี่ย พระเจ้าขา ได้โปรดช่วยให้หนูไปโรงเรียนด้วยเถอะ' หลังจากหนีจากสายตาของพ่อได้ เธอก็กลับมาคิดถึงเรื่องที่จะต้องทำเป็นอันดับต่อไป คือการ หาเหยื่อ เอ๊ย หาวีรบุรุษมาช่วยเธอจากเรื่องนี้ หลังจากสวดภาวนาเสร็จ เธอได้มาหยุดยืนอยู่หน้าผู้ชายคนหนึ่ง ผมสีน้ำตาลที่ยาวถึงบ่าของเขาถูกรวบมัดไว้อย่างง่ายๆข้างหลัง เช่นเดียวกับดวงตาสีน้ำตาลของเขาที่ฉายแววประหลาดใจที่เห็นเธอกำลังยืนสำรวจเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า
"เฮ้ นายน่ะ" คำพูดแรกของหญิงสาวที่ดูน่ารักแต่ห้าวๆ กลับสะกดเขาให้ตะลึงยิ่งกว่าโดนคำสาป
"มาเป็นแฟนฉันซะดีๆ" เธอยิ้มเหมือนเด็กตัวน้อยๆ ใบหน้าของเธอเวลายิ้มน่ารักจนผมตะลึง
แต่ทำไมผมรู้สึกเหมือนกำลังจะโชคร้ายนะ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หลังจากที่พูดคุยแนะนำตัว(และถูกบังคับให้ช่วย) ผมก็ได้รู้ว่า เธอชื่อชาลอต พ่อของเธอเป็นห่วงเธอมาก เธอจึงต้องขอให้เขาช่วยแสดงเป็นคนรักของเธอ เพื่อที่พ่อของเธอจะได้สบายใจที่มีคนดูแลลูกสาว แล้วเธอจึงจะได้เข้าโรงเรียน
'ก็เอาเถอะนะ ยังไงเราก็มาเพื่อเรียนที่นี่เหมือนกัน แถมเธอคนนี้ก็น่ารักมากด้วยสิ ให้แสดงเป็นแฟนกันสักพักก็คงไม่เสียหายอะไร'
ความคิดในใจของชายหนุ่มย่อมเหมือนกับคนธรรมดาทั่วไป โดยที่ไม่รู้ว่า เขาจะเสียใจที่ตอบตกลงไปอีกนาน
"ได้ครับ ผมจะทำตัวเป็นแฟนของคุณ และช่วยให้คุณได้เข้าโรงเรียนเอง"
"ว่าแต่ ฉันยังไม่รู้จักชื่อของนายเลยนะ"
"ผม โรแลนด์ ครับ โรแลนด์ โคลว์ดี้"
"ยินดีที่ได้รู้จักนะ โรแลนด์ เตรียมตัวพร้อมรึยังล่ะ เราจะไปหาพ่อของฉันด้วยกัน"
"ผมพร้อมแล้วครับ นำทางไปได้เลย"
เอ็นวี่ ซีเซอร์แวนท์ กำลังคิดถึงการตัดสินใจในครั้งนี้ของลูกสาวตนเองอย่าหนักใจ
'ครั้งนี้เราเองก็คงจะพูดเกินไป ยังไงซะนี่ก็เป็นความต้องการของลูกเรา ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องอนุญาตสินะ'
'แต่ว่า ถ้าเข้าโรงเรียน ก็หมายความว่าจะมีไอ้พวกผู้ชายมาเกาะแกะน่ะสิ ลูกเรายิ่งอ่อนโยนอยู่ คงตามเล่ห์เหลี่ยมพวกนั้นไม่ทันแน่'
'ถ้าอย่างนั้นก็ต้องให้ไปเรียนโรงเรียนหญิงล้วน ใช่ แบบนี้จะได้ไม่มีเจ้าพวกน่ารังเกียจมายุ่มย่ามกับลูกสาวเรา'
'แต่ถ้าชาลอตรู้ แล้วเกิดโกรธเราจนหนีออกจากบ้านขึ้นมาจริงๆล่ะ จะทำยังไงดี'
'ถ้าอย่างนั้น ก็ต้องเป็นโรงเรียนที่เราสามารถเข้าไปดูแลได้ ที่ลัลลาบายนี่แหละ'
'เอาล่ะ ต่อไปก็ ต้องหาเหตุผลมาเกลี้ยกล่อมให้ชาลอตเข้าเรียนที่นี่สินะ....'
ยังไม่ทันได้คิดอะไรต่อจากนี้ เขาก็จับสัมผัสถึงลูกสาวของเขาที่กำลังเดินตรงมาทางนี้ และเมื่อหันไปมองเขาก็พบผู้ชายคนหนึ่งเดินมาพร้อมกับลูกสาวของเขา
"เอ่อ... พ่อคะ นี่คือโรแลนด์ คนรักของหนูค่ะ" น้ำเสียงที่เขินอายเล็กน้อยของลูกสาว ไม่ต่างจากสายฟ้าที่ฟาดเข้าเต็มหัว สมองสับสนจนคิดหาคำพูดต่อไปไม่ออก ดวงตาเบิกโพลงเหมือนเห็นสิ่งเหลือเชื่อปรากฎอยู่ตรงหน้า ปากขยับเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา
"ว ว่าไงนะ..." ไม่จริง เป็นไม่ไม่ได้ เมื่อกี๊เราหูฝาดไปเองแน่ๆ ไม่ก็ชาลอตแค่ล้อเราเล่นเท่านั้นสินะ ใจเย็นไว้ก่อนซี่ เอ็นวี่ เรื่องแบบนี้มันไม่มีทางเป็นจริงไปได้หรอก อีกเดี๋ยวชาลอตก็จะหัวเราะแล้วพูดว่า ถูกหนูหลอกแล้วนะคะพ่อ แน่นอน ไม่สิๆ มันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว
"เขาเป็นแฟนของหนูค่ะ" คำพูดที่ตอกย้ำความเป็นจริงอันโหดร้าย(ของพ่อหวงลูกสาว) ทำให้เอ็นวี่หยุดนิ่งไม่ไหวติง ช๊อคจนหยุดหายใจไปชั่วขณะ ยิ่งเห็นลูกสาวของตนหันไปส่งยิ้มให้กับเจ้าแมลงสาบ(ในสายตาของเอ็นวี่) ยิ่งทำให้เขาแทบคลั่ง
"ผม โรแลนด์ โคลว์ดี้ ยินดีที่ได้รู้จัก และขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ ท่านพ่อ"ชายหนุ่มโค้งให้เขาตามมารยาท โดยไม่รู้ว่า ได้เหยียบกับระเบิดลูกโตเข้าซะแล้ว
"แกเรียกใครว่าพ่อฟะ ไปเกิดใหม่ซะเถอะ ไอ้แมลงสาบ"เท้าซ้ายถูกส่งไปประทับที่หน้าอกชายหนุ่มแทบจะทันทีที่เขาพูดจบ ส่งผลให้เขากระเด็นไประยะหนึ่งก่อนจะนอนหมดสภาพไปกับพื้น แต่ก่อนที่จะได้ตามเข้าไปซ้ำ เอ็นวี่กลับต้องชะงักเพื่อหลบดาบที่ฟันผ่านหน้าเขาไปอย่างเฉียดฉิว
เป็นชาลอตที่เข้ามาขวางเขาไว้ ดาบในมือถูกยกขึ้นมามาตั้งในลักษณะพร้อมที่จะฟัน สายตาที่เด็ดเดี่ยวของลูกสาวทำให้เขาชะงัก
"พ่อทำแบบนี้ได้ยังไงคะ แถมยังลงมือตอนเขาไม่ได้ตั้งตัวอีก ขอโทษโรแลนด์เดี๋ยวนี้เลยนะ"
"ต แต่ว่า... หมอนี่มัน..."
"ขอโทษเขาเดี๋ยวนี้เลย หนูไม่ชอบพ่อที่ทำตัวไม่เป็นลูกผู้ชายแบบนี้นะ"
เอ็นวี่ช๊อคแทบจะทันที ในสมองมีแต่เคำว่า ไม่สมกับเป็นลูกผู้ชาย ของชาลอตสะท้อนไปมา
หลังจากทำใจสักพักเอ็นวี่จึงเดินไปหยุดตรงหน้าโรแลนด์ที่พยุงตัวขึ้นมานั่ง ส่งสายตาอำมหิตไปให้แบบไม่คิดจะปิดบังแม้แต่น้อย
"วันนี้ข้าจะปล่อยแกไปก่อน" ด้วยเสียงที่กัดฟันแบบสุดๆ และรังสีอำมหิตที่กดดันจนแทบหายใจไม่ออก โรแลนด์รู้ได้ทันทีว่า ถ้าหากชาลอตไม่ได้อยู่ที่นี่ ตอนนี้ เขาต้องกลายเป็นศพอย่างแน่นอน และคงเละจนไม่มีใครจำได้แน่ๆ
หลังจากข่มขู่โรแลนด์เสร็จ เอ็นวี่ก็เดินจากไป โดยมีคำพูดทิ้งท้ายเอาไว้ให้ชาลอตขณะที่เดินผ่าน
"เรื่องเรียนน่ะ พ่ออนุญาต อยากทำอะไรก็ทำตามใจเลยก็แล้วกัน"
ชาลอตยิ้มอย่างสดใสให้กับผู้เป็นพ่อพลางเริ่มคิดถึงอนาคตอันแสนวิเศษที่กำลังใกล้เข้ามา หากแต่ถูกขัดด้วยน้ำเสียงหนึ่งที่แผ่วเบาไม่ต่างไปจากเสียงกระซิบ
"เอ่อ... ช่วยพาผมไปโรงพยาบาลก่อนได้ไหมครับ"
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เมืองในอุดมคติที่ราชาปีศาจวาดฝันไว้ ได้ถูกสร้างขึ้นทางตอนเหนือของมิดการ์ด(ชื่อแผ่นดินในขณะนั้น) โดยมีชื่อว่า ลัลลาบาย(Lullaby) แต่ก็มักจะถูกเรียกในชื่อของ เมืองต้องสาปหรือไม่ก็ดินแดนปีศาจ และเป็นที่รังเกียจของเหล่ามนุษย์ธรรมดา
ใช่ เฉพาะมนุษย์ธรรมดาล่ะนะ แต่กับเหล่านักล่าสมบัติ พ่อค้า อัศวิน จอมเวทย์ ฯลฯ ที่นี่เปรียบดั่งดินแดนในฝัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทรัพยากรที่มีอยู่มากมาย อาวุธในตำนาน เหล่าภูตต่างๆ และอื่นๆอีกมากมาย แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสามารถเข้าออกดินแดนได้อย่างอิสระ เพราะนอกจากถนนหลักที่ตรงเข้าสู่อาณาจักรแล้ว เส้นทางอื่นล้วนเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าปีศาจนานาชนิด
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หน้าปราสาท "ลัลลาบาย"
เด็กสาวคนหนึ่งกำลังยืนพิงกำแพงอยู่ด้วยใบหน้าเซ็งชีวิต กระเป๋าขนาดใหญ่ที่วางอยู่ข้างตัวเป็นเครื่องหมายแสดงถึงความเป็นนักเดินทาง ขณะที่ยกมือปัดผมที่ตกลงมา่ปรกหน้าตัวเองอย่างเบื่อๆ ดวงตาสีทองเหม่อมองท้องฟ้าอย่างไร้จุดหมายพลางคิดถึงเรื่องไม่กี่วันก่อน
อาทิตย์ก่อน ที่ตรงนี้แหละ เธอกำลังพูดกับพ่อเรื่องที่อยากจะเข้าโรงเรียน
"อะไรนะ อยากเข้าโรงเรียน" ชายหนุ่มผมสีทองพูดขึ้นมาอย่างไม่เข้าใจ ดวงตาสีฟ้าเบิกค้างประหนึ่งกำลังถูกพิพากษาประหารชีวิต
"ก็ใช่น่ะสิ หนูอายุสิบห้าแล้วนะ ถึงเกณฑ์ที่จะไปโรงเรียนแล้วด้วย"
"แต่ว่า..." ผู้เป็นพ่อกำลังห้ามในสิ่งที่เธอกำลังจะทำ ถึงแม้จนถึงวันนี้เขาจะไม่เคยห้ามเธอได้สักเรื่องเลย
ก็เถอะ
"ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น ถ้าไม่ยอมให้หนูเข้าโรงเรียนล่ะก็นะ หนูจะ... " คำพูดถูกเว้นไปเพราะเจ้าตัวก็ไม่รู้จะเอาอะไรมาขู่ชายตรงหน้าดีั
"จะ...?"
"หนูจะหนีไปกับผู้ชาย และจะไม่กลับมาให้เห็นหน้าอีกเลย ><" คำขู่ที่สิ้นคิดของเธอ ปกติมันก็คงไม่น่ากลัวอะไร ถ้าใช้กับคนธรรมดาทั่วไป
ใช่ สำหรับคนธรรมดาทั่วไปน่ะนะ ไม่ใช่กับคุณพ่อที่(โคตร)หวงลูกสาวคนนี้
"อ... อะไรนะ... ผู้ชาย..." การตอบสนองที่ผิดไปจากเดิมทำให้เธอรู้แล้วว่า เรื่องมันจะง่ายขึ้น ถ้าหากเธอรุกไล่ต่อไป
"ใช่ ผู้ชาย แล้วหนูก็มั่นใจด้วย ว่าเขาดูแลหนูได้แน่นอน" น้ำเสียงที่แสดงถึงความมั่นใจยิ่งตอกย้ำให้ชายหนุ่มตกใจยิ่งกว่าเดิม
"ถ้าอย่างนั้น ก็พามาให้พ่อเห็นหน่อยสิ ว่ามันเป็นใคร คงได้สินะ" ถึงจะตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ชายหนุ่มก็มีสติพอที่จะถามเข้าประเด็นหลัก และุ้ถ้าเธอตอบไม่ได้ พ่อของเธอต้องรู้แน่นอน ว่าเธอโกหกเรื่องผู้ชาย และมันจะทำให้เธอไม่ได้เข้าโรงเรียนที่ต้องการด้วย
"ได้ เดี๋ยวหนูจะพามาให้ พ่อรออยู่ตรงนี้นะ ห้ามไปไหนล่ะ" 'ไหนๆก็โกหกแล้ว เอาให้สุดๆไปเลยดีกว่า เดี๋ยวค่อยหาตัวตายตัวแทนมารับเคราะห์' หลังจากพูดจบเธอก็วิ่งหายลับไปจากสายตาของผู้เป็นพ่อ
'แล้วจะหาใครมาช่วยดีล่ะเนี่ย พระเจ้าขา ได้โปรดช่วยให้หนูไปโรงเรียนด้วยเถอะ' หลังจากหนีจากสายตาของพ่อได้ เธอก็กลับมาคิดถึงเรื่องที่จะต้องทำเป็นอันดับต่อไป คือการ หาเหยื่อ เอ๊ย หาวีรบุรุษมาช่วยเธอจากเรื่องนี้ หลังจากสวดภาวนาเสร็จ เธอได้มาหยุดยืนอยู่หน้าผู้ชายคนหนึ่ง ผมสีน้ำตาลที่ยาวถึงบ่าของเขาถูกรวบมัดไว้อย่างง่ายๆข้างหลัง เช่นเดียวกับดวงตาสีน้ำตาลของเขาที่ฉายแววประหลาดใจที่เห็นเธอกำลังยืนสำรวจเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า
"เฮ้ นายน่ะ" คำพูดแรกของหญิงสาวที่ดูน่ารักแต่ห้าวๆ กลับสะกดเขาให้ตะลึงยิ่งกว่าโดนคำสาป
"มาเป็นแฟนฉันซะดีๆ" เธอยิ้มเหมือนเด็กตัวน้อยๆ ใบหน้าของเธอเวลายิ้มน่ารักจนผมตะลึง
แต่ทำไมผมรู้สึกเหมือนกำลังจะโชคร้ายนะ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หลังจากที่พูดคุยแนะนำตัว(และถูกบังคับให้ช่วย) ผมก็ได้รู้ว่า เธอชื่อชาลอต พ่อของเธอเป็นห่วงเธอมาก เธอจึงต้องขอให้เขาช่วยแสดงเป็นคนรักของเธอ เพื่อที่พ่อของเธอจะได้สบายใจที่มีคนดูแลลูกสาว แล้วเธอจึงจะได้เข้าโรงเรียน
'ก็เอาเถอะนะ ยังไงเราก็มาเพื่อเรียนที่นี่เหมือนกัน แถมเธอคนนี้ก็น่ารักมากด้วยสิ ให้แสดงเป็นแฟนกันสักพักก็คงไม่เสียหายอะไร'
ความคิดในใจของชายหนุ่มย่อมเหมือนกับคนธรรมดาทั่วไป โดยที่ไม่รู้ว่า เขาจะเสียใจที่ตอบตกลงไปอีกนาน
"ได้ครับ ผมจะทำตัวเป็นแฟนของคุณ และช่วยให้คุณได้เข้าโรงเรียนเอง"
"ว่าแต่ ฉันยังไม่รู้จักชื่อของนายเลยนะ"
"ผม โรแลนด์ ครับ โรแลนด์ โคลว์ดี้"
"ยินดีที่ได้รู้จักนะ โรแลนด์ เตรียมตัวพร้อมรึยังล่ะ เราจะไปหาพ่อของฉันด้วยกัน"
"ผมพร้อมแล้วครับ นำทางไปได้เลย"
เอ็นวี่ ซีเซอร์แวนท์ กำลังคิดถึงการตัดสินใจในครั้งนี้ของลูกสาวตนเองอย่าหนักใจ
'ครั้งนี้เราเองก็คงจะพูดเกินไป ยังไงซะนี่ก็เป็นความต้องการของลูกเรา ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องอนุญาตสินะ'
'แต่ว่า ถ้าเข้าโรงเรียน ก็หมายความว่าจะมีไอ้พวกผู้ชายมาเกาะแกะน่ะสิ ลูกเรายิ่งอ่อนโยนอยู่ คงตามเล่ห์เหลี่ยมพวกนั้นไม่ทันแน่'
'ถ้าอย่างนั้นก็ต้องให้ไปเรียนโรงเรียนหญิงล้วน ใช่ แบบนี้จะได้ไม่มีเจ้าพวกน่ารังเกียจมายุ่มย่ามกับลูกสาวเรา'
'แต่ถ้าชาลอตรู้ แล้วเกิดโกรธเราจนหนีออกจากบ้านขึ้นมาจริงๆล่ะ จะทำยังไงดี'
'ถ้าอย่างนั้น ก็ต้องเป็นโรงเรียนที่เราสามารถเข้าไปดูแลได้ ที่ลัลลาบายนี่แหละ'
'เอาล่ะ ต่อไปก็ ต้องหาเหตุผลมาเกลี้ยกล่อมให้ชาลอตเข้าเรียนที่นี่สินะ....'
ยังไม่ทันได้คิดอะไรต่อจากนี้ เขาก็จับสัมผัสถึงลูกสาวของเขาที่กำลังเดินตรงมาทางนี้ และเมื่อหันไปมองเขาก็พบผู้ชายคนหนึ่งเดินมาพร้อมกับลูกสาวของเขา
"เอ่อ... พ่อคะ นี่คือโรแลนด์ คนรักของหนูค่ะ" น้ำเสียงที่เขินอายเล็กน้อยของลูกสาว ไม่ต่างจากสายฟ้าที่ฟาดเข้าเต็มหัว สมองสับสนจนคิดหาคำพูดต่อไปไม่ออก ดวงตาเบิกโพลงเหมือนเห็นสิ่งเหลือเชื่อปรากฎอยู่ตรงหน้า ปากขยับเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา
"ว ว่าไงนะ..." ไม่จริง เป็นไม่ไม่ได้ เมื่อกี๊เราหูฝาดไปเองแน่ๆ ไม่ก็ชาลอตแค่ล้อเราเล่นเท่านั้นสินะ ใจเย็นไว้ก่อนซี่ เอ็นวี่ เรื่องแบบนี้มันไม่มีทางเป็นจริงไปได้หรอก อีกเดี๋ยวชาลอตก็จะหัวเราะแล้วพูดว่า ถูกหนูหลอกแล้วนะคะพ่อ แน่นอน ไม่สิๆ มันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว
"เขาเป็นแฟนของหนูค่ะ" คำพูดที่ตอกย้ำความเป็นจริงอันโหดร้าย(ของพ่อหวงลูกสาว) ทำให้เอ็นวี่หยุดนิ่งไม่ไหวติง ช๊อคจนหยุดหายใจไปชั่วขณะ ยิ่งเห็นลูกสาวของตนหันไปส่งยิ้มให้กับเจ้าแมลงสาบ(ในสายตาของเอ็นวี่) ยิ่งทำให้เขาแทบคลั่ง
"ผม โรแลนด์ โคลว์ดี้ ยินดีที่ได้รู้จัก และขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ ท่านพ่อ"ชายหนุ่มโค้งให้เขาตามมารยาท โดยไม่รู้ว่า ได้เหยียบกับระเบิดลูกโตเข้าซะแล้ว
"แกเรียกใครว่าพ่อฟะ ไปเกิดใหม่ซะเถอะ ไอ้แมลงสาบ"เท้าซ้ายถูกส่งไปประทับที่หน้าอกชายหนุ่มแทบจะทันทีที่เขาพูดจบ ส่งผลให้เขากระเด็นไประยะหนึ่งก่อนจะนอนหมดสภาพไปกับพื้น แต่ก่อนที่จะได้ตามเข้าไปซ้ำ เอ็นวี่กลับต้องชะงักเพื่อหลบดาบที่ฟันผ่านหน้าเขาไปอย่างเฉียดฉิว
เป็นชาลอตที่เข้ามาขวางเขาไว้ ดาบในมือถูกยกขึ้นมามาตั้งในลักษณะพร้อมที่จะฟัน สายตาที่เด็ดเดี่ยวของลูกสาวทำให้เขาชะงัก
"พ่อทำแบบนี้ได้ยังไงคะ แถมยังลงมือตอนเขาไม่ได้ตั้งตัวอีก ขอโทษโรแลนด์เดี๋ยวนี้เลยนะ"
"ต แต่ว่า... หมอนี่มัน..."
"ขอโทษเขาเดี๋ยวนี้เลย หนูไม่ชอบพ่อที่ทำตัวไม่เป็นลูกผู้ชายแบบนี้นะ"
เอ็นวี่ช๊อคแทบจะทันที ในสมองมีแต่เคำว่า ไม่สมกับเป็นลูกผู้ชาย ของชาลอตสะท้อนไปมา
หลังจากทำใจสักพักเอ็นวี่จึงเดินไปหยุดตรงหน้าโรแลนด์ที่พยุงตัวขึ้นมานั่ง ส่งสายตาอำมหิตไปให้แบบไม่คิดจะปิดบังแม้แต่น้อย
"วันนี้ข้าจะปล่อยแกไปก่อน" ด้วยเสียงที่กัดฟันแบบสุดๆ และรังสีอำมหิตที่กดดันจนแทบหายใจไม่ออก โรแลนด์รู้ได้ทันทีว่า ถ้าหากชาลอตไม่ได้อยู่ที่นี่ ตอนนี้ เขาต้องกลายเป็นศพอย่างแน่นอน และคงเละจนไม่มีใครจำได้แน่ๆ
หลังจากข่มขู่โรแลนด์เสร็จ เอ็นวี่ก็เดินจากไป โดยมีคำพูดทิ้งท้ายเอาไว้ให้ชาลอตขณะที่เดินผ่าน
"เรื่องเรียนน่ะ พ่ออนุญาต อยากทำอะไรก็ทำตามใจเลยก็แล้วกัน"
ชาลอตยิ้มอย่างสดใสให้กับผู้เป็นพ่อพลางเริ่มคิดถึงอนาคตอันแสนวิเศษที่กำลังใกล้เข้ามา หากแต่ถูกขัดด้วยน้ำเสียงหนึ่งที่แผ่วเบาไม่ต่างไปจากเสียงกระซิบ
"เอ่อ... ช่วยพาผมไปโรงพยาบาลก่อนได้ไหมครับ"
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น