คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : D. BOY - CHAPTER 2
- CHAPTER 2 -
รถประจำทางสาย 101 เส้นทางไปโรงเรียนมัธยมคารอน มัธยมนาสเซอร์ และมัธยมเอลล์ สามโรงเรียนมัธยมพี่น้องที่มีประวัติมายาวนาน มัธยมคารอนเป็นโรงเรียนประจำชายล้วน เช่นเดียวกับมัธยมเอลล์ที่เป็นโรงเรียนประจำหญิงล้วน ส่วนมัธยมนาวเซอร์เป็นโรงเรียนประจำแบบสหศึกษา ทั้งสามโรงเรียนอยู่ในเครือเดียวกัน ที่ตั้งห่างกันคนละบล็อคถนน
ข้อมูลข้างบนนั้นจะไม่เกี่ยวอะไรกับชีวิตผมเลย ถ้าผมไม่จำเป็นต้องปลอมตัวเข้ามาสอนในโรงเรียนมัธยมคารอน T^T ผมถอนหายใจแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างรถเมล์ ชีวิตมันช่างซวยซ้ำซวยซ้อนอย่างไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ ทำไมผมต้องหอบข้าวหอบของขึ้นรถเมล์ย้ายไปอยู่ที่มัธยมคารอนด้วยเนี่ย!!!
กรอดดดดดด
ผมกำลังกลุ่มจนจะเป็นประสาทตายอยู่แล้ว พี่นะพี่ ให้ผมปลอมตัวมาเป็นครูที่นี่ไม่พอยังให้ผมมาพักอยู่ที่นี่อีก! พี่บอกว่าในใบคำร้องขอพักการเรียนของผม เธอเขียนเหตุผลเกี่ยวกับการเดินทางไปต่างประเทศเอาไว้ แต่ด้วยความที่ว่าบ้านผมอยู่ใกล้โรงเรียน ถ้าเพื่อนๆ หรือครูมาเห็นเข้าจะความแตกเอาได้ การที่ให้ผมย้ายเข้าไปอยู่ในโรงเรียนมัธยมคารอน ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำดูเหมือนว่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เฮอะ... ไม่เห็นจะดีตรงไหนเลย มีแต่ผู้ชายทั้งโรงเรียนแบบนี้ ผมจะอยู่เข้าไปได้ยังไง T^T (แต่เอ๊ะ... ผมก็ผู้ชายนี่หว่า ถึงจะอ้อนแอ้นบอบบางออกแนวผู้หญิงหน่อย แต่ยังไงก็ผู้ชายล่ะวะ!)
เอี๊ยด...
รถเมล์จอดรับผู้โดยสารระหว่างทาง ผมเหลือบตามองไปทางประตูหลังเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปมองอย่างเต็มตา
นั่น! ชุดยูนิฟอร์มโรงเรียนมัธยมคารอน O_O
โอ้โห ไม่อยากจะเชื่อสายตาเลยแฮะ เดี๋ยวนี้เด็กคารอนขึ้นรถเมล์เป็นด้วยหรอ ไม่ใช่ว่าผมประชดหรืออะไรหรอกนะ แต่พวกเด็กโรงเรียนสามพี่น้องเป็นพวกคนมีอันจะกิน พวกเขาไม่นิยมขึ้นรถเมล์กันสักเท่าไหร่ ในสายตาของเด็กโรงเรียนเอกชนธรรมดาๆ อย่างผม การได้เห็นชุดยูนิฟอร์มของโรงเรียนสามพี่น้องเดินไปเดินมามันเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น เพราะปกติถ้าไม่ได้มีบ้านอยู่ละแวกเดียวกับโรงเรียนมัธยมสามพี่น้องจะไม่ได้เห็นพวกเขาบ่อยนัก
ตี๊ดๆ
เสียงโทรศัพท์มือถือและกลิ่นหอมของคนข้างหลังทำให้ผมหลุดจากภวังค์ทันที ผมหันหลังให้ร่างสูงที่กำลังยืนคุยโทรศัพท์ เนื่องจากบนรถมีเพียงผมกับเขาที่ยืนจับราวอยู่ เราก็เลยสบตากันอย่างเลี่ยงไม่ได้ สิ่งที่ทำให้ผมตื่นเต้นกว่าปกติ นอกจากเขาจะอยู่ในชุดยูนิฟอร์มของคารอนแล้ว ใบหน้าอันโดดเด่นนั้นยิ่งทำให้ผมหยุดมองไม่ได้ คิ้วเข้มเรียงสวยตัดกับผิวสีไข่ของเขาดึงดูดสายตาได้อย่างไม่น่าเชื่อ สันจมูกสูงโด่งอยู่เหนือริมฝีปากสีพีชอ่อน ใบหน้าเรียวได้รูปแบบลูกครึ่ง ไม่เพียงแค่ความหน้าตาดีเท่านั้น แต่เขากลับมาเสน่ห์ดึงดูดบางอย่างที่ปฏิเสธไม่ได้อีกด้วย...
“ฉันรู้แล้วน่า แค่นี้ก่อนนะ มีโรคจิตกำลังจ้องฉันจนสายตาทะลุเข้าไปในเสื้อแล้ว”
ปิ๊บ!
แล้วเขาก็กดวางสาย
แต่เอ๊ะ เดี๋ยวนะ... ไอ่โรคจิตที่ว่าเมื่อกี้นี่หมายถึงผมรึเปล่านะ O_O เฮอะ... ไม่ใช่แค่ผมสักหน่อยที่มองเขา คนเกือบทั้งรถก็พากันมองเขาเหมือนกันทั้งนั้นแหละ ฉะนั้นที่พูดเมื่อกี้คงไม่ได้หมายถึงผมคนเดียวแน่ๆ
ใช่มั้ย
“นี่! ถ้าจะมองกันขนาดนี้ ฉันจะเรียนตำรวจละนะ”
“หะ... หา?” ผมทำหน้าเอ๋อ หันไปหาเขาอีกครั้ง
“-_-”
“โรคจิตที่ว่านี่นายหมายถึง...” ผมยกนิ้วขึ้นชี้หน้าตาตัวเอง “ฉันเหรอ!”
เขายักคิ้วเป็นคำตอบ
“ไม่ใช่แค่ฉันสักหน่อย ใครๆ เขาก็มองนายกันทั้งนั้นแหละ!”
“แต่เธออยู่ใกล้ซะขนาดนี้...” ว่าไม่พอ เขาโน้มหน้ามาใกล้จนปลายจมูกเราแทบชนกัน สงสัยหมอนี่จะคิดว่าผมเป็นผู้หญิงจริงๆ สินะ ถึงกล้าเข้ามาใกล้ขนาดนี้ -_-^
ผมกลั้นหายใจ ดวงตาทั้งสองเบิกกว้างมองใบหน้าเขา เหมือนหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะด้วยความตื่นเต้น ทันใดนั้นเองสองแขนผมก็พลันหมดแรงขึ้นมาซะดื้อๆ ผมปล่อยกระเป๋าใบโตอออกจากอ้อมแขนโดยไม่รู้ตัว
พลั่ก!
“อะ... อ๊ากกก!!!” ของหนักหล่นลงกระแทกเท้าหมอนี่เข้าเต็มๆ เขารีบยกมือขึ้นกุมอย่างเจ็บปวด
“เอ่อ... โทษทีๆ”
ผมแอบสมน้ำหน้า อยากหาเรื่องผมก่อนเอง
“เธอ!”
เอี๊ยดดด!!
รถเมล์เบรกแรงอย่างเฉียบพลัน ผมเสียหลักหงายหลัง แต่วงแขนของคนที่อยู่ใกล้ๆ ก็คว้าเอวผมไว้ได้ทัน กลิ่นหอมของเขายิ่งชัดเจนมากขึ้น เมื่อสันจมูกของผมชิดกับหน้าอกเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ พลันสายตาก็เหลือบมองเนื้อออกเนียนใสในซอกเสื้อเชิ้ตที่ไม่ได้ติดกระดุมอย่างถือวิสาสะ
เอ้าเห้ยยย... นี่ผมมองอะไรอยู่เนี่ย -///-
“อ่ะแฮ้ม” ร่างสูงที่กำลังกอดผมอยู่หลวมๆ แกล้งกระแอม
ผมเงยหน้าขึ้นสบตาเขา ( - -)
“เธอนี่มันโรคจิตจริงๆ”
“หะ...หา?”
เขาทำทีก้มมองหน้าอกตัวเองแล้วเหลือบสายตาขึ้นมายักคิ้วใส่ผม เป็นเชิงบอกว่า รู้นะว่ากำลังมองตรงส่วนไหนของเขาอยู่ เหมือนหัวใจหยุดเต้นไปหนึ่งวินาทีเมื่อเห็นท่าทีรู้ทันของหมอนี่ ผมรีบผละตัวออกจากเขาทันที แต่ยิ่งผละตัวเองออกเท่าไหร่ก็เหมือนยิ่งเข้าไปใกล้มากเท่านั้น รู้ตัวอีกทีก็ตะขอกางเกงผมกำลังเกี่ยวกับซิปกระเป๋าสะพายของเขาอยู่ ผมพยายามแกะมันออกให้เร็วที่สุดเพื่อให้พ้นไปจากสถานการณ์ที่น่าอับอายนี้ แต่...
ตึก!
ไอ้ตะขอกางเกงนี่มันเกี่ยวกับซิปไม่ยอมหลุดเลย อ๊ากกก ผมจะทำยังไงดี! อายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปมุดไว้ซอกหลืบไหนของรถเมล์แล้ว TOT โฮๆ
“^^” ไอ่คนที่ยืนอยู่นิ่งๆ ก็ยิ้มใหญ่
“ออกสักทีเซ่!” ผมหมดความอดทนที่จะแกะมันอีกต่อไป จึงกระชากขอบกางเกงตัวเองไปมา เพื่อดึงมันออกให้ได้ ช่างหัวกางเกงแล้ว ตะขอเสียยังซ่อมได้ แต่หน้าเสียนี่ซ่อมไม่ได้แล้วจริงๆ TTOTT!
“เฮ้ เดี๋ยวสิ ใจเย็น” หมอนี่ดึงกระเป๋าสะพายตัวเองกลับ เมื่อเห็นว่าผมเริ่มใช้กำลังรุนแรง ชนิดที่แทบจะลากกระเป๋าเขาติดกางเกงวิ่งหนีลงจากรถไปอยู่แล้ว - -^
“อ๊ากกกก ปล่อยฉันนะๆ” ผมโวยวายพลางดึงมือตัวเองออกอย่างมาสนใจเสียงปราม
“หยุดดิ้นซะที”
“ก็มันไม่ยอมออกนี่!”
“หยุด....”
แควกกกก!
ทันทีที่เสียงดังขึ้น ผมกับเขาก็พากันหยุดนิ่งกึก ผมถลึงตามองตะขอกางเกงของตัวเองที่หลุดออก แรงกระชากทำให้กางเกงขาดเป็นทางยางลงมาจนเกือบถึง... (ละไว้ในฐานที่เข้าใจ -_-^) วินาทีนั้นเองกางเกงผมก็ค่อยๆ ลู่ลงพื้นราวกับใบไม้ร่วง ผมยืนตัวแข็งทื่อ รู้สึกชาไปทั้งตัวโดยเฉพาะที่ใบหน้า ลมพัดเอาความเย็นเข้าสัมผัสกับเนื้อขา ที่มีเพียงบ็อกเซอร์ตัวบางปิดอยู่ ไม่เพียงแค่หนุ่มมัธยมคารอนเท่านั้นที่กำลังให้ความสนใจกับเบื้องล่างของผม ทุกสายตาของคนบนรถเมล์ต่างพากันมองเป็นจุดเดียว...
อ๊ากกกก!! ให้ตายเถอะ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยโป๊ขนาดนี้ต่อหน้าใคร T^T
“TTOTT” ผมยืนอ้าปากพะงาบๆ แต่ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมา แน่นอนว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของอาการช็อก ช๊อก ช้อก!!
ร่างสูงกลั้นยิ้มไว้แทบไม่อยู่ เขาเปิดกระเป๋าสะพายของตัวเองแล้วหยิบเสื้อคลุมออกมาพันรอบเอวผมไว้ ผมหันใบหน้าที่มีน้ำตาคลอไปทางเขา ร่างสูงสบตาผมแล้วค่อยๆ ไล่ระดับสายตาลงมามองเบื้องล่าง รอยยิ้มที่มุมปากแสดงความพึงพอใจก่อนจะพูดขึ้น...
“เป็นผู้ชายหรอกหรอ แต่นายนี่... ก็ไม่เลวเหมือนกันนะ”
กะ... กร๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ!!!
“นาย! ไอ้โรคจิต! ไอ้โรคจิตตตตตต!!!” ผมตะโกนเสียงดังเพื่อเรียกความสนใจจากทุกคน
“เฮ้ยๆ นายทำตัวเองนะ -_-!”
“ช่วยด้วย หมอนี่เป็นโรคจิต เขา...”
พลั่กกกก!!
ยังไม่ทันได้พูดจบ พลเมืองดีก็พากันกระโจนเข้าทับตัวเขา หมอนี่หงายหลังลงพื้นอย่างแรง เขาพยายามดีดตัวเองออกจากกลุ่มผู้ชายที่บ้าคลั่ง แต่แรงกำลังของหลายๆ คน ทำให้เขาได้แต่ตะโกนเป็นบ้าอย่างโมโห ขณะที่ทุกคนกำลังวุ่นวายกับหมอนี่ ผมจึงใช้โอกาสนี้รีบคว้ากางเกงที่อยู่บนพื้นแล้ววิ่งหนีลงมาจากรถเมล์ทันที
“ปล่อยนะโว้ยยยย ฉันไม่ใช่โรคจิตนะ นี่! กลับมาเดี๋ยวนี้นะ ไอ้เตี้ย ไอ้เต่าตนุ ไอ้แบคทีเรีย ไอ้!!! ไอ้แมวดำ!!!”
หมอนั่นเสียสติไปแล้ว - -^ ฮึ! สมน้ำหน้า ใครจะยอมขายหน้าอยู่คนเดียว แต่เอ๊ะ... เขาก็รู้แล้วสิว่าผมเป็นผู้ชาย อ๊ากกก!! ตาย ตายแน่ๆ ลู่หายเอ๊ยย T^T
มัธยมคารอน
นี่มันฝันร้ายชัดๆ
ลองนึกภาพดูแล้วกัน... คนบ้าคนหนึ่งกำลังยืนตีหน้านิ่ง ความคิดในหัวขมขื่นราวกับโลกทั้งโลกจะแตกภายในห้านาทีนี้ เบื้องหน้าเป็นทางเดินตัดกับสนามหญ้าสีเขียวยาวไปจนถึงตัวตึกอันแสนหรูหรา สองมือกอดกระเป๋าเสื้อผ้าอันหนักอึ้ง...
เฮ้ออออออ มันเป็นวันที่โชคร้ายที่สุด ไม่ควรจะเป็นวันเริ่มต้นสำหรับการสอนที่โรงเรียนแห่งนี้เลย T^T ลำพังแค่ต้องปลอมเป็นครูก็ลำบากจะแย่อยู่แล้ว ไหนยังต้องไม่ให้ใครจับได้ว่าเป็นผู้ชายอีก
“อ๊าๆๆๆ L” ผมสะบัดหัวตัวเองไปมาแล้วทิ้งกระเป๋าเสื้อผ้าลงพื้นด้วยความหงุดหงิดสุดๆ
“มาพบใครครับ” ยามที่ยืนประจำอยู่หน้าโรงเรียนเดินเข้ามาถามผม
“เอ่อ... ตึกคณะผู้บริหารไปทางไหนครับ เอ๊ย!... คะ -_-^” ผมเกาหัว พลางยิ้มแห้งๆ ส่งไปให้ยามคนนั้น เกือบหลุดไปแล้วไหมล่ะ อ๊ากกกก!!
“อ้อ คงเป็นอาจารย์คนใหม่สินะครับ ตามผมมาเลยครับ”
ผมเดินตามเขาไปตามทางเดินอันกว้างขวาง นี่คงเป็นเหมือนก้าวแรกในการใช้ชีวิตอยู่ในมัธยมคารอน ก้าวที่ผมก้าวเข้าไปแล้ว จะต้องใช้ชีวิตอยู่กับการโกหกตลอด คิดแล้วมัน... T^T
ตึกยาวสูงขนาดใหญ่ห้าชั้น คือตึกเรียนและตึกของคณะอาจารย์ ห่างออกไปไม่ไกลมากนักคือหอพักนักเรียนเรียงติดกันสามตึก
โรงเรียนนี่มัน... สุดยอดจริงๆ
“นี่คือตึกประจำที่คุณต้องทำงานครับ ตึกของอาจารย์และนักเรียน ม.ปลายปีสาม” รอง ผอ. พูดพลางเดินนำไปทางประตู เพื่อเข้าไปในตึก
“ที่นี่สวยจังเลยนะครั... คะ” เกือบหลุดอีกแล้วมั้ยล่ะลู่หาน -_-^ ผมไม่ชินเอาซะเลยที่ต้องมาพูดคะ พูดค่ะ แบบเน้ อ๊ากกกก!!
“ข้างในก็สวยไม่แพ้กันเลยนะครับ เชิญเลยครับ” รอง ผอ. ดันประตูให้ผมผ่านเข้าไปก่อน
“นี่เป็นครั้งแรกของการสอนของฉัน ฝากเนื้อฝากตัวให้ช่วยแนะนำด้วยนะคะ ^^”
“แน่นอนครับ ถ้ามีอะไรที่ผมพอจะช่วยได้ ปรึกษาได้ตลอดเลยนะครับ”
“ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ^^ ว่าแต่... ขอถามซักสองสามข้อได้มั้ยคะ”
“เอาสิครับ”
“ที่มีเป็นโรงเรียนประจำชายล้วน การรับอาจารย์หญิงเข้ามาสอน จะไม่เป็นปัญหาหรอคะ” ผมยิ้มแห้งๆ แล้วก็ถามออกไป... เอาวะ เป็นไงเป็นกัน ไหนๆ ก็อยู่ในคราบผู้หญิงละ ก็ขอตามน้ำสักหน่อยละกัน -_-^
“มัธยมคารอนมีอาจารย์ผู้หญิงอยู่มากนะครับ เนื่องจากกฎของคณะกรรมการนักเรียนเมื่อสองปีก่อน เพื่อเป็นการกระตุ้นการเรียนรู้ของนักเรียนในโรงเรียนครับ กฎคือถ้านักเรียนห้องใดทำคะแนนได้สูงสุดจะได้อาจารย์ผู้หญิงมาสอนครับ”
สรุปคือถ้าทำคะแนนได้ดีจะได้อาหารตาสินะ -_-^ ไม่แปลกเลยที่ไอเดียนี้มาจากสมองของพวกนักเรียนชาย
“แล้ว... อย่างนี้ปัญหาเรื่องอาจารย์หญิง กับนักเรียนชาย... ?”
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหาแน่นอนครับ โรงเรียนเราค่อนข้างเข้มงวดกับกฎข้อนี้ นักเรียนทำคะแนนสอบดีขึ้น ผมว่ามันผลดีที่เดียว เพราะถ้าคะแนนเฉลี่ยลดลง พวกเขาจะต้องทนเรียนกับอาจารย์ผู้ชายอีกทั้งเทอม”
“อ้อ อย่างนี้นี่เอง”
“คุณโชคดีนะครับ ห้องเรียนที่คุณได้รับมอบหมายให้เป็นอาจารย์ เป็นห้องที่มีนักเรียนประวัติเรียนดี และประพฤติดีเยี่ยม พวกเขาคือราชาแห่งคารอนครับ ”
“โอ้โห จริงหรอคะ ถ้าอย่างนั้นฉันก็หายห่วงแล้วใช่ไหมคะ ^^”
วู้!! โชคดีจังแฮะเรา ตัดปัญหาเรื่องปวดหัวกับนักเรียนไปได้แล้ว ค่อยเบาใจหน่อย ชีวิตในมัธยมดูสดใสขึ้นตั้งเยอะ
“ถึงแล้วครับ” รอง ผอ. หยุดอยู่ตรงหน้าห้องเรียนห้องหนึ่ง
“ห้องนี้สินะ...” ห้องนี้สินะ ห้องที่ผมต้องเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา ผมมองไปยังประตูด้วยความมุ่งมั่น มองจากด้านนอกบรรยากาศดูเงียบสงบดี นักเรียนในห้องนี้คงเป็นเด็กเนิร์ดใส่แว่นหนาเท่าขอบฟุตบาธ และคงกำลังนั่งอ่านหนังสือติวเข้าสอบมหาลัยเล่มโตอยู่แน่
แอ๊ด...
บานประตูถูกเปิดออกอย่างช้าๆ รอง ผอ. เดินนำเข้าไปในห้องเรียนที่เงียบสงบ นักเรียนทุกคนนั่งอยู่ประจำที่ของตัวเอง ผมมองไปรอบๆ ห้อง ดวงตาทั้งสองข้างค่อยๆ เบิกกว้างขึ้น
นะ... นี่มันอะไรกันเนี่ยย OoO
มันคือการรวมตัวของหนุ่มหน้าตาดีทั้งห้อง
OMG นี่มันสวรรค์ชัดๆ *O*!!
“ยินดีต้อนรับเข้าสู่เทอมใหม่ในคารอนครับทุกคน วันนี้ผมพาอาจารย์ที่ปรึกษาคนใหม่มาแนะนำตัวกับทุกคน ถือซะว่าเธอเป็นเพื่อนอีกคนที่พวกคนสามารถปรึกษาได้ตลอดเวลาเลยนะ เอาล่ะ อาจารย์เชิญแนะนำตัวครับ” หลังจากรอง ผอ. พูดจบ นักเรียนทั้งหมดก็หันมามองผมเป็นตาเดียว... คงสงสัยว่าทำไมเป็นอาจารย์หญิงแล้วถึงตัดผมสั้นแบบผู้ชายสินะ -_-^
“เอ่อ... ฉันชื่อลู่หะ... ลู่ชิงนะ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนเลยนะ ^^” ผมยิ้มแห้งๆ พลางแนะนำตัวเองไป เกือบหลุดชื่อตัวเองอีกแล้วสินะ -_-^
“อาจารย์เป็นทอมหรอครับ ทำไมหน้าหวานๆ แต่ตัดผมสั้นแบบผู้ชาย” นักเรียนชายคนหนึ่งมองผมอย่างพิจารณาแล้วเอ่ยถามผม
“เอ่อ...” ผมนิ่งไปสักพัก “มันเป็นแฟชั่นน่ะ พอดีฉันเป็นคนขี้ร้อน เลยชอบไว้ผมสั้นแบบผู้ชายมากกว่าน่ะ ^^” ผมแถไปเรื่อย ขอเอาตัวรอดก่อนละกัน TTOTT
“อ๋อ... เข้าใจแล้วคร้าบ”
“ต่อไปนี้ฉันจะมาดูแลพวกเธอ ฝากตัวด้วยนะ ^^”
“แน่นอนฮะ... แต่อาจารย์น่ารักจังนะฮะ” สมาชิกคนหนึ่งในห้องเอ่ยขึ้น ทำเอาผมเขินเลยทีเดียว ถึงจะผู้ชายด้วยกันก็เถอะ >////<
ทำไมโรงเรียนผมถึงไม่มีการรวมผู้ชายหน้าตาดีแบบนี้บ้าง อย่างกับคนละโลกเลย พวกเขาหล่อดูดีมีสกุล แถมยังยิ้มน่ารักอีก
“อาจารย์ลู่ชิงครับ ผมจะให้คุณทำความคุ้นเคยกับนักเรียนจนกว่าจะเริ่มคาบต่อไปละกันนะครับ”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะ ^^”
“ขอให้เป็นวันที่ดีนะครับ” พูดจบ รอง ผอ. ก็เดินออกจากห้องเรียนไป
“เอาล่ะทุกคน มาแนะนำตัวกันทีละคนเถอะ” ขณะที่ใบหน้าของผมอิ่มเอิบไปด้วยความสุข แต่... บรรยากาศในห้องกลับเงียบกริบ สายตาหวานๆ ของหนุ่มๆ ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสายตาแห่งความเพิกเฉย แต่ก็ยังจ้องมาที่ผมเป็นตาเดียว
ทันใดนั้นเองนักเรียนเกือบครึ่งห้องที่ใส่แว่นกรอบดำก็พากันถอดแว่นออก สองสามคนที่นั่งด้านหน้าก็พากันยกเท้าขึ้นมาพาดบนโต๊ะอย่างสบายอารมณ์ อีกคนหยิบเฮดโฟนขึ้นครอบหูอยู่ในโลกส่วนตัว และอีกหลายๆ ก็จดจ่ออยู่กับการเล่นพีเอสพี เล่นกีตาร์ อ่านการ์ตูนโป๊ ยิ่งไปกว่านั้นมีอีกคนลุกไปยืนตรงหน้าต่างพร้อมกับคาบบุหรี่ที่ริมฝีบาก ผมกลายเป็นกระต่ายตัวเล็กๆ ที่กำลังชักดิ้นชักงอ ช็อกกับภาพที่เห็น
@#$%^&*@#$%^&!!!!!!
จากหนุ่มเนิร์ดที่แสนดีตอนนี้พวกเขากลายเป็นซาตานในพริบตาเดียว!
“นี่! พวกนายทำอะไรกันน่ะหา” ผมเดินรี่ไปที่ริมหน้าต่างก่อนจะรีบดึงบุหรี่ออกจากปากไอ้หน้าหล่อนั่น “คิดว่าตัวเองเป็นใครถึงกล้าสูบบุหรี่ในโรงเรียน!!!”
“ทำอะไรของเธอ เอาคืนมา” ร่างสูงเหลือบตามองผมด้วยท่าทางสุขุม
ผมเริ่มกังวลแต่ก็ต้องทำใจสู้ พยายามคิดว่าถ้าเป็นพี่ลู่ชิงจะทำยังไงกับเรื่องนี้... และภาพที่ออกมาก็คือ เธอแค่ไม่ดึงบุหรี่ออกจากปากเขาเท่านั้น แต่แถมตบหัวหมอนี่จนพลัดตกหน้าต่างไปเลย! แต่ผมคงทำใจตบหัวคนหน้าตาดีขนาดนี้ไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ยอมไม่ได้เด็ดขาด! -_-^
“ทำไมฉันต้องคืนนายด้วย เห็นฉันเป็นคนตาบอดรึไง ถึงได้ทำเรื่องแบบนี้ในห้องเรียนพวกนายก็เหมือนกัน...” ผมหันไปเอาเรื่องคนอื่นบ้าง “นี่ไม่ใช่เวลามานั่งอ่านการ์ตูนโป๊ หรือเล่นเกมส์ไรนั่นนะ เก็บมันไปซะ!”
“ฮึๆ” คนข้างๆ แค่นหัวเราะ
“ตลกอะไรไม่ทราบ กลับไปนั่งที่ได้แล้ว จะได้เริ่มแนะนำตัวกันสักที!”
เขาเหลือบหางตามามองผมก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “แนะนำตัวงี่เง่าอะไรกัน เธอสอนเด็กประถมอยู่หรือไง”
ผมอึ้งไปนิดๆ กับคำประชดประชันนั่น
“ราชาคารอนอะไรกัน จริงๆ แล้วพวกนายมันคือปีศาจใช่ม๊ายยยย!”
“รู้อย่างนั้นก็ดีแล้ว อย่าเข้ามาในห้องของพวกเราอีก!” เชาว่าพลางคว่าบุหรี่ไปจากมือผมอย่างรวดเร็ว
“มะ... หมายความว่าไง”
“พวกเราไม่ต้องการอาจารย์ที่ปรึกษา”
“เอ๋...?”
“เธอ...”
“...”
“ไปลาออกซะ”
ผมอ้าปากค้าง แทบไม่เชื่อหูตัวเอง
แอ๊ด...
เสียงประตูเปิดออกคั่นจังหวะสงครามเล็กๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น ทุกคนต่างพากันมองไปที่ประตู แล้วผมก็เจอเรื่องที่น่าระทึกใจมากกว่าเดิมเมื่อหนุ่มคนที่ยืนค้ำประตูห้องนั้นช่างคุ้นตาเหลือเกิน
หมอนี่มัน... ไอ่คนที่เพิ่งทำกางเกงผมขาดบนรถเมล์!!!
“O_O”
....
ตกอยู่ในความอึ้งอย่างไม่มีที่สิ้นสุด... ความซวยกำลังจะบังเกิดกับผมแน่นอน TTOTT
ผมรีบเดินไปที่ประตูแล้วยกนิ้วขึ้นชี้หน้าหมอนั่นราวกับเห็นผี
“นาย!!!”
“J” คนตรงหน้ายิ้มให้ผม
“พวกนายรู้จักกันเหรอ” ไอ่คนติดบุหรี่ย่นคิ้วถาม
“เปล่า” คนที่ประตูยักไหล่
“เออ คริส ยัยนี่คืออาจารย์ที่ปรึกษาที่ว่าน่ะ”
“ยัยนี่... หรอ ?” เขาเน้นตรงคำว่า ‘ยัยนี่’ ทำเอาผมขนลุกเลยทีเดียว TTOTT
เขาเดินเข้ามาใกล้ผมอย่างช้าๆ ท่ามกลางสายตาของทุกคนที่กำลังมองผมอยู่ “อาจารย์ที่ปรึกษางั้นหรอ... ฮึ” เขาแสยะยิ้มเหมือนกับว่าผมได้ตกเป็นลูกไก่ในกำมือของเขาเรียบร้อยแล้ว สายตาที่เต็มไปด้วยความแค้นของเขามันดูน่ากลัวเป็นพิเศษ TTOTT โฮๆๆๆ จะซวยไปถึงหนายยย! หนีหมอนี่จากรถเมล์ แต่ดันมาได้เป็นที่ปรึกษาของเขาอีก อ๊ากกกกกก!!
“ยะ... ยินดีที่ได้รู้จัก เราไม่เคยเจอกันเลยนะเนี่ย TOT”
“J”
รอยยิ้มแบบนี้ TTOTT ไม่ต้องมายิ้ม ยิ้มทำมายยย กลัววว!!!
“โทษทีครับอาจารย์ที่มาสาย พอดีผมติดธุระอยู่ที่สถานีตำรวจ”
เฮือกกกก!!! ความซวยจะบังเกิดกับผมอีกแล้วสินะ TT^TT
ผมเริ่มก้าวถอยหลังหนีหนึ่งก้าวพลางจ้องหน้าหมอนั่นแบบหวั่นๆ เหงื่อเริ่มตก ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด (เล็กน้อย) แววตาอันแน่วนิ่งของเขาที่กำลังจ้องมองมาทำให้ผมเสียวไปถึงสันหลัง
“ฉัน... ฉันลาออกไม่ได้ ยังไงฉันก็ไม่มีวันลาออก!”
ขวับ!
คริสยื่นนิ้วเรียวยาวมาจับคางผมเบาๆ น้ำเสียงนุ่มๆ ของเขาฟังดูร้ายกาจอย่างขัดแย้ง “เอาเสื้อมาคืนฉัน แล้วจากนั้นก็ไปลาออกซะ หรืออยากให้ฉันวาดสัดส่วนของเธอลงบนกระดานดำเป็นของขวัญด้วยล่ะ?”
“...!!” อ๊ากกกกก นายพูดอะไรของนาย สัดส่วนอารายยยย TTOTT
ผมอ้าปากค้างรอบที่ร้อยของวัน... ตาเตอเบิกกว้างแทบคุมสติไม่อยู่
“ออกจะน่าประทับใจขนาดนั้น ฉันจำได้ทุกรายละเอียดเลยนะ J”
เฮ๊ยยยย! จำได้ทุกรายละเอียดอะไรกัน เขาเป็นผู้ชาย แล้วเขาก็รู้ว่าผมเป็นผู้ชาย
อ๊ากกกกก!!! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน... !!!
เสี่ยวลู่คนนี้ขอกัดลิ้นตัวเองตายก่อนนะ TT^TT
-------------------------------------------------------------------------------------
ตอน 2 มาแล้ว
นักเรียนสุดหล่อของเราโผล่มาแล้วนะ ^^
ความคิดเห็น