คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : os - my valentine
my valentine
couple krisyeol
bgm (x)
ใครๆก็บอกว่าผมกับเค้า บางทีก็อาจจะต่างกันมากเกินไป
คนเราถ้าทัศนคติ ความคิดต่างกันมากๆอยู่ด้วยกันไปมันก็คงไม่มีความสุข
มีคนบอกผมว่า... การแยกทางเดินคงจะเป็นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดของเรื่องนี้ และทุกอย่างก็จะจบลง...
แต่ทำไม... ผมไม่เห็นจะมีความสุขอย่างที่ใครๆเขาว่ากันเลยซักนิด
.
.
.
.
.
.
14 กุมภาพันธ์
“มีอะไรหรือเปล่า”
เสียงนุ่มทุ้มคุ้นหูของใครบางคนดังขึ้น เรียกให้ผมที่กำลังเหม่อลอยมองจ้องไปที่นอกหน้าต่างสะดุ้งจนตัวโยน ใครบางคนที่ผมไม่ได้เห็นหน้าของเค้ามานาน... นับๆได้ก็ประมาณสองปีกว่าๆเห็นจะได้ล่ะมั้ง หน้าตา ท่าทางของเค้าไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่นิดเดียว เหมือนเดิมทุกอย่าง เหมือนเมื่อก่อน...
เค้ายังหล่อแบบสุดๆไม่เคยเปลี่ยน ตั้งแต่ที่ผมและเค้าเคยเจอกันครั้งแรก คิ้วเข้ม ดวงตาคมกริบ จมูกโด่งเป็นสันที่รับกับริมฝีปากบางสวย ท่าทางนิ่งเฉยเย็นเยียบแต่พอได้อยู่ใกล้แล้วรู้สึกอบอุ่น ซึ่งแตกต่างกับลักษณะภายนอกของเค้าอย่างสิ้นเชิง... ทุกอย่างยังคงดูเหมือนเดิม
“เรียกฉันมามีอะไรหรือเปล่า”
เค้าถามขึ้นมาอีกครั้ง ผมสะดุ้งตกใจ ก่อนจะส่ายหน้าไปมา... ผมก็ยังตอบไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมต้องเรียกเค้ามา เราทั้งคู่ห่างกันไปแล้วก็ไม่ควรมาเจอกันอีกก็ถูกแล้วนี่นะ?
ผมไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ
รอบๆตัวของเราทั้งคู่มีแค่เสียงไวโอลินที่บรรเลงเพลงหวานสบายหู อากาศในร้านหนาวจนผมต้องกระชับเสื้อผ้าของตัวเองให้แนบชิดกับตัวเอง ทั้งๆที่อากาศหนาวขนาดนี้ผมก็ยังใส่เสื้อผ้าบางๆออกมาด้านนอก ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงจะต้องถูกเค้าดุแน่ๆ ข้อหาที่ไม่ยอมดูแลตัวเอง...
“เรียกฉันมาเพื่อมองเธอนั่งเหม่อน่ะหรอปาร์คชานยอล”
เสียงของเค้าปลุกผมให้ตื่นจากภวังค์อีกครั้ง ผมยิ้มแหยๆแล้วเกาหัวตัวเอง “เปล่าหรอก...”
“...”
“นายเลิกกับเจสสิก้าแล้วหรอ”
ผมถามออกไป คริสละสายตาออกจากหน้าของผมเสมองไปที่หน้าต่าง ก่อนจะพยักหน้าเบาๆโดยที่ไม่พูดอะไร
“ทำไมล่ะ... ใครๆก็บอกนะว่านายทั้งสองคนเป็นคู่ที่น่าอิจฉาสุดๆ และก็ดูรักกันมากๆด้วย”
“หึ... เธอคิดแบบนั้นหรอชานยอล”
“อือ... ใครๆก็บอกกันแบบนั้น”
ผมพยักหน้า เค้าแค่นยิ้มเบาๆแล้วลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูงแล้วเดินมาหาผม มือของเค้าจับไปที่แขนของผมแล้วออกแรงดึงเบาๆให้ผมลุกขึ้น ผมลุกขึ้นตามแต่โดยดีทั้งที่ยังงงๆอยู่ว่าเค้ากำลังจะทำอะไร เค้าปล่อยมือออกจากแขนของผม วางเงินจำนวนนึงลงบนโต๊ะแล้วเดินนำออกไปทิ้งให้ผมยืนงง ก่อนจะรีบสาวเท้าเดินตามเค้าออกไปจากร้าน
honey you are my valentine
ไม่ว่าเมื่อไหร่ ฉันยังคงรักเธอ
honey you are my valentine
เธอจากฉันไป แต่ฉันยังคงรักเธอ
เราทั้งสองคนเคยเป็นแฟนกัน... เคยเป็นคู่รักที่ใครก็อิจฉา คริสทั้งหล่อ รวย เก่ง เป็นเดือนคณะที่หล่อละลายใจใครทุกคนที่ได้เห็นหน้า เราทั้งคู่เป็นแฟนกันโดยที่เค้าเป็นคนมาขอผมคบก่อน ผมก็ตอบตกลงไปอย่างง่ายดาย ถึงแม้ว่าคนส่วนมากจะไม่ค่อยยอมรับเรื่องพวกรักร่วมเพศกันเท่าไหร่หรอกแต่ผมก็ไม่สนใจเรื่องแบบนั้นอยู่แล้ว คริสเป็นคนจีน เค้าอยู่ที่แคนาดาตั้งแต่เด็กๆ ก่อนจะย้ายมาเรียนที่เกาหลีตอนอายุ19
เราทั้งคู่ก็คบกันไปเหมือนคู่รักคนอื่นๆ คริสเป็นคนที่แสดงออกไม่ค่อยจะเก่งเอาเสียเลยต่างกับผมที่คิดอะไรยังไงก็พูดแบบนั้นออกมา เราทะเลาะกันบ่อยๆ เรื่องทุกอย่างผมก็เป็นคนจุดประเด็นขึ้นมาเองทั้งหมด คำบอกรักจากปากของเค้าผมได้ยินแทบนับครั้งได้ สายตาที่เฉื่อยชาของเค้าทำให้บางครั้งผมก็นึกน้อยใจ ระหว่างที่ผมคบกับเค้า ระยะเวลา1ปี ผมแทบจะนับไม่ได้เลยว่าผมร้องไห้ไปกี่ครั้ง... เพราะเค้า
ใครๆก็บอกว่านิสัยของเราทั้งคู่ต่างกันราวกับฟ้าและเหว นิสัยของเราเข้ากันไม่ได้เลยซักเรื่องเดียว เค้าเงียบ ผมพูด เค้านิ่ง ผมอยู่เฉยไม่ได้ เค้าเก็บความรู้สึกเก่ง ผมเก็บความรู้สึกไม่เป็น ผมพูดจาขวาญผ่าสากแต่เค้าเลือกที่จะเป็นคนฟัง ผมบอกรักเค้าแทบจะทุกวัน แต่เค้าไม่เคยที่จะปริปากพูดออกมา
ผมบอกเลิกเค้าในวันจบการศึกษา... ทั้งๆที่เป็นคนพูดเองแต่น้ำตาของผมกลับไหลออกมาไม่หยุด ในขณะที่คริสยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยต่างกับผมโดยสิ้นเชิง....
เราเหมือนจะจากกันโดยดี หลังจากที่เรียนจบ คริสบินไปเรียนต่อต่างประเทศ พร้อมกับีข่าวว่าเค้าคบกับนางแบบสาวชื่อดัง ผมรู้สึกจุกแต่ก็ยิ้ม... ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ยิ้มฝืนๆก็ตาเถอะ แต่มันก็คงจะดีที่ได้รู้ว่าเค้าเจอกับคนที่ใช่สำหรับเค้า เรื่องเก่าๆก็คงต้องปล่อยให้เป็นแค่อดีตไป ถูกไหม?
แต่สิ่งที่ผมคิดกับการกระทำของผมมันดันขัดกันอย่างสิ้นเชิง...
คริสกลับมาที่เกาหลี พร้อมกับข่าวที่ว่าเค้าเลิกกับแฟนสาวที่ชื่อเจสสิก้าแล้วเป็นที่เรียบร้อย หัวใจของผมเต้นอย่างบ้าคลั่ง ตลอดหลายวันที่ผ่านมาผมนอนไม่หลับเลยซักคืน ทั้งๆที่ต้องตื่นเช้าไปทำงาน ในใจผมว้าวุ่นแบบแปลกๆ วันๆเอาแต่จ้องโทศัพท์ เอาแต่จ้องเลขหลายตัวในจอมือถือของตัวเอง เอาแต่จ้องเบอร์ของคริสแล้วคิดนั่นคิดนี่ไปหลายอย่าง... คิดว่าควรจะโทรไปหาเค้าดีไหม? หรือเค้าจะเปลี่ยนเบอร์ไปหรือยัง? สุดท้ายผมก็ทนเสียงเรียกร้องภายในใจของตัวเองไม่ไหว ผมกดโทรออก โชคยังดีที่เค้ายังไม่เปลี่ยนเบอร์ไปใช้เบอร์อื่น ทันทีที่ได้ยินเสียงเค้าหลังจากที่ไม่ได้ยินมันมาเป็นปีๆ อยู่ดีๆน้ำตาผมก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่... ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ
อ่า... ผมคิดถึงเค้าที่สุดเลย
ผมบอกเค้าให้ออกมาเจอกันที่ร้านเดิมด้วยเสียงตะกุกตะกัก เค้าตอบรับด้วยคำสั้นๆแค่ว่า อืม ก่อนที่ผมจะตัดสายไป
“ลมเย็นเนอะ... ว่าไหม”
เค้าพูดขึ้น หลังจากที่เราทั้งคู่เดินออกมาจากร้านอาหารที่นัดกันไว้ เค้าก็พาผมเดินมาเรื่อยๆจนมาหยุดที่แม่น้ำตรงที่เราทั้งคู่เคยมานั่งสูดอากาศสดใจด้วยกันสองคนบ่อยๆ ลมที่พัดมามันทำให้ผมรู้สึกหนาวแบบสุดๆ สองแขนยาวกระชับกอดตัวเองแน่น ใช้สายตามองไปที่แม่น้ำด้านข้าง
ผมสะดุ้ง คริสถอดเสื้อโคลทตัวใหญ่ออกจากตัวพลางเอามาคลุมตัวของผมเอาไว้ ผมมองการกระทำของเค้าอย่างงงๆ ก่อนจะเสหน้าหันไปสนใจแม่น้ำด้านหน้าต่อเมื่อถูกเค้ามองกลับมา ผมกระชับเสื้อโคลทตัวหนา เราทั้งคู่ปล่อยให้ความเงียบครอบงำเราทั้งคู่เอาไว้ มีเพียงเสียงลมที่ผ่านพัดมาและรถที่ขับผ่านมาเท่านั้น
“จำตอนนั้นได้ไหม วันเกิดฉัน... ที่เราสองคนมานั่งกินเค้กกันตรงนี้”
“อ อือ... จำได้สิ”
“เธอกินมูมมามมากเลยนะ กินยังกับว่าใครจะมาแย่งกิน... ฉันจำได้ว่าฉันกินไปแค่สองคำเองมั้ง”
ผมลองนึกย้อนไปเมื่อตอนนั้น... คิดแล้วมันก็น่าขำ เค้าชอบบอกว่าผมเหมือนหมูบ่อยๆ แล้วผมก็งอนเค้า แต่เค้าก็ไม่ง้อ คิดแล้วก็ตลกตัวเองแบบแปลกๆดีเหมือนกัน
“ฉันมีอะไรอยากจะบอกเธอ ชานยอล...”
“อ อะไรหรอ”
“ตั้งใจฟังดีๆนะ”
เค้าพูดกับผมแล้วลุกขึ้น ใบหน้าหล่อที่ไม่ว่าจะเห็นกี่ครั้งๆก็เอาผมใจสั่นเลื่อนมาใกล้กับใบหน้าของผม โดยที่ปลายจมูกของเราทั้งคู่แทบจะชนกัน
“ฉันไปอยู่อเมริกาเมื่อประมาณสองปีก่อนพร้อมกับความว้าวุ่นภายในใจบางอย่างที่ฉันไม่เข้าใจมัน ฉันรู้สึกว่าชีวิตของฉันมันไม่มีความสุขเอาซะเลย ฉันกินเหล้า ฉันเที่ยว ฉันทำทุกอย่างเผื่ออะไรหลายๆอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม กลับมาเป็นเหมือนตอนที่ฉันยังไม่รู้จักเธอ”
“...”
“ฉันรู้จักเจสสิก้าเพราะเพื่อนแนะนำให้รู้จัก เธอเป็นผู้หญิงที่สวยเก่งและฉลาดเอามากๆ วันนึงเธอมาบอกกับฉันว่าเธอชอบฉันมากๆ อยากจะขอคบกับฉัน... แต่แปลก ทั้งๆที่มีผู้หญิงที่สวย เก่งและดีพร้อมทุกอย่างแบบนี้มาสารภาพรัก...
แต่ฉันกลับไม่รู้สึกอะไรเลย”
“... แล้วทำไมนายถึง... คบกับเธอล่ะ”
“ฉันก็แค่คิดว่าคบไปแล้วอะไรหลายๆอย่างอาจจะดีขึ้นก็ได้”
“...”
“แต่มันก็ไม่เลยซักนิด... ทุกวัน ทุกเวลา ทุกๆอย่างที่ทำไป หล่อนไม่เคยอยู่ในสายตาฉันเลยซักครั้ง มันมีแต่หน้าของคนๆนึงลอยไปมาอยู่ตลอดเวลาในหัวสมอง... แล้ววันนึงฉันก็ตัดสินใจบอกเลิกเธอ เธอดูเสียใจไม่น้อยนะ แต่ก็ยอมจบแต่โดยดี แล้วฉันก็กลับมาที่เกาหลี กลับมาใช้ชีวิตแบบเดิมๆ”
“ร หรอ... เธอคงจะเสียใจมากๆน่าดู”
“...”
“แล้ววันนึงโทรศัพท์ฉันก็ดังขึ้น เบอร์ที่คุ้นตาโชว์หราอยู่หน้าจอโทรศัพท์มือถือ เบอร์ของใครบางคนที่ฉันไม่เคยลืมเลยแม้แต่ตัวเดียว ฉันลังเลใจว่าควรจะกดรับดีไหม แต่สุดท้ายนิ้วของฉนมันก็กดรับอย่างรวดเร็ว”
“...”
“เสียงของคนที่โทรมาทำเอาหัวใจฉันแทบหลุดออกจากอก เค้าบอกให้ฉันออกไปเจอกับเค้าที่เดิมของเราทั้งสองคน ร้านประจำของเราทั้งคู่”
“คริส...”
“ฉันเจอเค้า หลังจากที่ไม่ได้เจอมานานนับปี อยากจะกอด อยากจะรัดแน่นๆ หอมแก้มแรงๆซักที แต่เพราะนิสัยที่มีมาตั้งแต่เกิดและสถานะของเราตอนนี้มันทำอะไรแบบนั้นไม่ได้....”
“...”
มันเหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอ รู้สึกกลืนน้ำลายไม่ลงคอ พูดไม่ออก อยากจะพูดบางคำออกมาแต่มันก็พูดไม่ได้... ขอบตามันร้อนผ่าว รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะต้องร้องไห้ต่อหน้าเค้า
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าตอนนั้นเธอบอกเลิกฉันไปเพราะอะไร อาจจะเป็นเพราะตัวของฉันเองที่ดูเหมือนไม่เคยสนใจอะไรเกี่ยวกับเธอเลย เธออาจจะคิดว่าฉันไม่ได้รักเธอเลยแม้แต่นิดเดียว”
“...”
“ฉันไม่รู้อีกนะว่าวันนี้ที่นายเรียกฉันมาเจอมันเพราะอะไร...”
ผมแค่อยากจะบอกคริส... ว่าผมคิดถึงเค้าที่สุดในโลก
“ฉันคิดถึงเธอที่สุดเลยชานยอล”
- FIN -
©Tenpoints!
ความคิดเห็น