คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : สวัสดี คุณเนื้อคู่ 8 .
8
พรึ่บ !
ขายาวรีบสาวเท้าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ บวกกับบรรยากาศรอบๆตัวรู้สึกวังเวงน่ากลัวยังไงๆชอบกล ยิ่งต้องเพิ่มความเร็วของขาเข้าไปอีก
เป็นเพราะวันนี้เป็นวันเกิดลู่หาน เพื่อนสนิทของพี่คริส แล้วอยู่ดีๆจะมาลากพี่คริสไป ตัวเองก็เลยต้องจำยอมมาเดินกลับคนเดียว ตอนแรกตัวคริสเองก็ดึงดันจะไม่ไป เพราะไม่อยากปล่อยเค้าไว้คนเดียว แต่สุดท้ายก็โดนเพื่อนตัวเล็กลากไปอยู่ดี โดยที่ไม่สามารถจะปฏิเสธอะไรได้... แถมวันนี้คณะของเค้าดันปล่อยช้าอีกต่างหาก นี่ก็สองทุ่มกว่าแล้ว รอบๆข้างก็มืดๆวังเวง น่ากลัวแปลกๆยังไงไม่รู้
ตากลมมองไปรอบๆด้านอย่างหวาดระแวง มองหลังที ซ้ายที ขวาที จากสัญชาติญาณของตัวเอง มันรู้สึกหวิวๆที่ด้านหลัง เหมือนมีคนตามมายังไงไม่รู้
“เมื่อไหร่จะถึงหอวะ” บ่นกับตัวเองเสียงเบา มือบางหยิบไอพอดเครื่องเล็กแล้วยัดหูฟังไปที่หูทั้งสองข้าง แล้วปรับเสียงให้ดังจนสุดเพราะไม่อยากจะได้ยินเสียงอะไรแล้ว
ขายาวพาตัวเองมาถึงหอพักของพี่ชายตัวโตจนได้ พลางถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เพราะตลอดการเดินทางมานี่ไม่ได้เกิดเรื่องอะไรที่น่าตื่นเต้น ระทึกขวัญ อาจจะเป็นเพราะเดินกลับบ้านคนเดียวแล้วไม่ค่อยจะชินเท่าไหร่ ก็เลยคงรู้สึกขึ้นมาแบบนี้เฉยๆ
ขายาวก้าวขึ้นบันได้พลางผิวปากอย่างอารมณ์ดี เห็นพี่คริสบอกจะกลับดึก ก็ดีแล้ว... จะได้ไม่ต้องมีใครมาลวนลามทำให้เค้าเขิน ไม่ใช่ว่าจะรังเกียจอะไรหรอกนะ...
ก็คนมันเขินนี่นา...
มือบางควานหาลูกกุญแจในกระเป๋าเป้ใบโต แต่เหมือนพยายามหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอซักที ทั้งกระเป๋าเล็กระเป๋าน้อย กระเป๋ากางเกงก็ไม่มี มือเพรียวตบป้าบไปที่หน้าผากของตัวเองสามสี่ทีพลางถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ตาโตกรอกไปมาอย่างหนื่อยหน่ายกับความเด๋อด๊าของตัวเอง... แล้วนี่ก็ไม่รู้ว่าไปลืมไว้ที่ไหน
“ไอเอ๋อชานยอลเอ้ยยยยยยย” ตบหน้าผากตัวเองจนเป็นรอยแดงจนต้องหยุดทำ เพราะเริ่มแสบขึ้นมาตงิดๆ
ได้แต่ยืนโทษตัวเองอยู่อย่างนั้น แต่ก็ต้องตกใจกับเสียงกรีดร้องจากโทรศัพท์มือถือเครื่องเล็กดังขึ้น เรียกให้เด็กตัวสูงรีบคว้าขึ้นมาดูคนที่โทรเข้ามา และเมื่อรู้ว่าเป็นใคร นิ้วเรียวก็รีบกดรับอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องให้รอนาน
“ฮัลโหล”
(กินข้าวหรือยัง กับข้าวอยู่ในตู้เย้นนะเห็นไหม ทำอะไรอยู่ อาบน้ำหรือยัง ล็อคประตูห้องดีหรือเปล่า โทรศัพท์ห้ามให้แบตหมดนะ ถ้าหมดแล้วรีบชาร์ตเลยนะ แล้วถ้าหากเกิดเหตุอะไรขึ้นร้องให้ดังที่สุดเท่าที่จะทำได้หรือไม่ก็ต้องโทรหาพี่แบบด่วนๆ ก่อนจะนอนก็ปิดไฟปิดอะไรให้เรียบร้อย แล้วอย่าเปิดประตูให้ใครเข้าห้องแบบมั่วๆนะ ปลั๊กไฟทุกอย่างถอดให้หมดเลย... มันประมาทไม่ได้เข้าใจไหม)
ถามออกมายาวเหยียดเพราะเป็นห่วง จนคนฟังได้แต่หลุดขำออกมานิดหน่อย คนปลายสายก็ได้นั่งขมวดคิ้วสงสัยไม่เข้าใจว่ามันมีอะไรที่น่าตลกขนาดนั้นเลยหรอ
ใจจริงก็อยากจะพูเออกไปเหลือเกินว่าตัวเองเบ๊อะบ้ะเอากุญแจห้องไปไว้ไหนไม่รู้ แต่ถ้าบอกไปไอคนตัวสูงต้องรีบวิ่งหน้าตื่นกลับมาแน่ๆ นานๆทีเค้าจะออกไปเที่ยวสังสรรค์เลยไม่ดีกว่า ลองไปขอให้ยามหน้าหอมาช่วยงัดห้องเอาก็ได้
“คิก... เข้าใจแล้ว”
(พี่เป็นห่วงนายจังเลย)
“เที่ยวให้หนุกไปเถอะน่า... วันเกิดพี่ลู่หานไม่ใช่หรอ เดี๊ยวพี่เค้าจะน้อยใจเอาหรอก ผมโตแล้วน่า”
(โตแต่ตัวอ่ะสิ... แล้วไม่คิดจะห่วงพี่บ้างเลยหรอ สาวๆที่นี่หน้าตาดีก็เยอะมากเลยนะไม่อยากจะพูด) พูดขึ้นมาลองเชิงเด็กตัวโย่ง ร่างบางยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีพลางย่นจมูกอย่างหมั่นไส้
“ไม่หรอก”
(ใจร้าย)
“เพิ่งรู้หรอ”
(ชิ... คิดถึงจังเลย)
“ไอบ้า”
(คิ... ลู่หานแปปนึงดิ เออๆ... แค่นี้ก่อนนะชานยอล ฝันดีนะ ถ้าไอลู่หานมันเมาได้ที่เมื่อไหร่ พี่จะรีบชิ่งกลับทันที... จุ๊บ)
“อืม”
(จุ๊บบ้างสิ)
“วางสายแล้วนะ”
นิ้วเรียวกดวางสายพี่ชายจอมกวน แล้วหันไปยิ้มกับตัวเองอย่างเคอะเขิน พลางคิดได้ว่าตัวเองนั้นควรจะหาทางเข้าห้องไปได้แล้ว ก่อนที่พี่ลู่หานจะเมาจริงๆแล้วพี่คริสกลับมา เพราะถ้าร่างสูงเห็นเค้าอยู่อย่างนี้ ได้โดนบ่นแล้วบ่นอีกจนหูชาแน่นอน
ขาเพรียวเตรียมจะเดินไปชั้นล่างของหอ แต่ก็ต้องสะดุดเพราะผู้ชายผิวเข้มร่างสูงที่ยืนยิ้มหวานให้ตัวเอง และไม่ว่าจะเดินหลบไปทางไหน เจ้าผู้ชายตัวสูงนี่ก็ตามไปพลางยิ้มกวนล่อเท้าอยู่ได้
ชานยอลหันไปค้อนใส่ผู้ชายร่างสูงพลองยืนกอดอกตัวเองแน่น แก้มป่องๆพองลมอย่างหน้าฟัด และกำลังจะพยายามเพ่งมองหน้าผู้ชายตัวสูงข้างหน้าว่าคือใคร เพราะหน้าตาช่างดูคุ้นเคยเหมือนจะเคยเห็นจากที่ไหนซักที่เสียเหลือเกิน
“นายคือใครเนี่ย” ถามออกมาเสียงรำคาญ เมื่อยิ่งนึกเท่าไหร่ก็ยิ่งนึกไม่ออก แถมเจ้าบ้านี่ยังยืนกั้นเค้าไม่ให้ไปไหนได้อีกด้วย
“นายจำฉันไม่ได้หรอ”
เสียงทุ้มๆถามออกมา ร่างโปร่งส่ายหัวไปมาพลางขมวดคิ้วจนชิดกัน
“ว้า... เสียดายจังเลย ทั้งๆที่การเจอกันครั้งแรกของพวกเรามันเป็นที่น่าจดจำจะตายไปนะ”
“จื้อ... อะไรจื้อๆนะ คนที่จะพยายามจูบฉันในผับวันนั้นใช่มะ”
ดีดนิ้วดังเป๊าะอย่างถูกใจ ชานยอลเบ้หน้าอย่างรำคาญก่อนจะใช้มือกุมหัวตัวเองไว้ไม่ให้ระเบิด... นี่มันโรคจิตขนาดต้องตามมาบ้านกันเลยหรือไงก็ไม่รู้... พี่คริสไม่อยู่นี่มันน่าปวดหัวซะจริงๆเลยให้ตาย
“ฮวงจื้อเทา”
“มาทำไมไอแพนด้าโรคจิต” เสียงทุ้มๆเอ่ยด่าออกไป มือบางทั้งสองข้างสะเอวอย่างเอาเรื่อง
“นายทำอะไรหายไปหรือเปล่า”
ชานยอลเบิกตากว้าง พลางพยายามคว้าลูกกุญแจห้องที่ตัวเองทำหายไป มันไปอยู่ที่เจ้าบ้านั่นไดยังไงก็ไม่สามารถจะไปตรัสรู้ได้ เพราะพยายามจะคว้ามันมา แต่ก็คว้าไม่ได้ซักที เพราะผู้ชายหน้าตากวนประสาทคนนี้แกล้งเค้าโดยการเขย่งเท้าให้สูงขึ้นกว่าเดิมเค้าก็เอื้อมไม่ถึงซักที !
“เอาคืนมานะ !”
“ก็แหม... เดี๊ยวก่อนสิ”
“ฉันไม่มีเวลามาเล่นลิ้นนะ”
“ขอโทษๆ... อ่ะ เอาไป” มือหนายื่นลูกกุญแจไปวางไว้บนมือเล็ก ชานยอลที่กำลังหมุนตัวกลับจะเดินเข้าห้องไปซักที แต่ก็ถูกมือหนาดึงแขนเอาไว้
“ปล่อย”
“เดี๊ยวก่อน”
“ต้องการอะไรของนายเนี่ย !”
“แหม... ก็แค่อยากจะมาขอโทษ เรื่องวันนั้นที่ฉันล่วงเกินนาย... ก็ฉันเมานี่นา ดื่มหนักไปหน่อยเลยทำให้ไม่มีสติ เลยเผลอทำไป นายไม่พอใจยังไงก็ขอโทษนะ” เสียงทุ้มเอ่ยออกมาพลางทำหน้าสำนึกผิด ชานยอลหรี่ตามองเจ้าแพนด้าตัวโตนิดหน่อยก่อนจะพยักหน้าหงึกหงักแบบส่งๆ ก่อนจะสบัดข้อมือเล็กให้หลุดออกจากการเกาะกุม
มือเล็กไขลูกบิดประตู ขายาวก้าวเข้าไปในห้อง พลางวางกระเป๋าเป้ลงบนชั้นรองเท้าข้างๆประตู กาอนจะหันไปทำหน้ายักษ์ใส่แพนด้าตัวสูงที่เดินตามเค้าเข้ามาในห้อง แล้วมายืนยิ้มแฉ่งทำหน้าตาหน้ากระทืบอยู่ได้
“ตามเข้ามาทำไม”
“ฉันอุตส่าห์เอากุญแจมาคืนนายนะ ถ้าฉันไม่เอามาให้นาย อย่าหวังเลยว่านายจะได้เข้าห้องน่ะ”
“จะเข้าห้องโดยที่ไม่มีกุญแจมันมีเยอะแยะน่า อย่ามาเยอะดิ ออกไปๆ” ทำท่าไล่ชิ่วๆ มือบางพยายามออกแรงผลักร่างสูงให้ออกไปนอกประตู แต่เพราะเเรงที่มีน้อยกว่า จึงไม่สามารถจะทำอะไรได้เลย
“หิวจังเลย”
เดินผ่านหน้าร่างโปร่งที่ยืนส่งค้อนใส่เค้าอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว มือหนาหยิบกล่องสปาเก็ตตี้สองกล่องที่อยู่ในตู้เย็นมาแกะเปลือก แล้วเอาเข้าตู้เวฟอย่างสบายอารมณ์ โดยที่ไม่สนใจสายตาของคนที่ยืนมองอยู่ห่างๆเลยแม้แต่นิดเดียว
พออุ่นเสร็จเรียบร้อย ร่างหนาเดินไปหยิบจานเปล่าสองใบมาวางไว้ พลางหยิบกล่องอาหารที่เพิ่งอุ่นไป มาเทใส่จานด้วยท่าทีสบายๆแล้วผิวปากอย่างอารมณ์ดี จนคนที่ยืนมองอยู่ต้องย่นจมูกให้อย่างหมั่นไส้ ชานยอลเดินเข้าไปหาร่างสูงที่กำลังถือจานสปาเก็ตตี้สองใบไปวางไว้ที่โต๊ะเล็กๆหน้าโทรทัศน์ พร้อมกับกดเปิดแบบเสร็จสรรพเรียบร้อย
“อะไรวะเนี่ย”
“อุตส่าห์ช่วยเหลือ มันก็ต้องมีของตอบแทนเป็นธรรมดา นั่งลงซี่...” มือหนาฉุดคนตัวเเห้งให้นั่งลงที่ด้านข้าง พลางพยายามจะป้อนสปาเก็ตตี้ที่ส่งกลิ่นหอมฉุยเข้าปากของคนหน้าหวาน ที่ตอนแรกพยายามเบือนหน้าหนี แต่ไปๆมาๆก็ทนไม่ไหว จำต้องงับเข้าปากไปเคี้ยวตุ้ยๆแต่โดยดี
“นายคารจะกลับไปได้แล้วนะ”
ร่างโปร่งยืนกอดอกมองคนตัวสูงที่นั่งไขว่ห้างเปิดโทรทัศน์ดูด้วยท่าทีสบายๆ ที่อยู่อย่างนี้มาเป็นชั่วโมง สองแขนยาวพาดไปที่พนักพิงของโซฟาพลางผิวปากอย่างมีความสุข ทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนน่าหมั่นไส้ ชานยอลกำมือแน่น รู้สึกอยากจะกรีดร้องใส่ไอหน้าแพนด้าขอบตาดำนี่ดังๆซักครั้ง
“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ... ฉันก็แค่... อยากจะมาเยี่ยมเพื่อนเก่า” พูดแล้วยักไหล่
“เพื่อนเก่าบ้าอะไรของนาย”
“ก็ไอคริสไง... คิดถึงเพื่อน ผิดด้วยหรอ”
มือบางดันหน้าเหมือนแพนด้าของคนตัวสูงให้ออกห่างจากตน เพราะหน้าเข้มๆเริ่มจะขยับเข้าใกล้เค้ามากเกินไปแล้ว ไหนจะมือหนาๆนั่นอีก ที่กำลังจะพยายามแตะเนื้อต้องตัวเค้าน่ะ !
“นิ... นายไม่รู้หรือไง ว่าพี่คริสไม่อยู่ ดึกๆนั่นแหละถึงจะกลับ นายควรกลับไปได้แล้ว” ร่างโปร่งออกคำสั่งเสียงดัง จื้อเทาพยักหน้าหงึกหงักทำเหมือนเข้าใจ แต่ก็ยังหันไปขำกับมุขตลกในรายการทีวีต่อ
“เฮ้ย ! แม่งฟังกูป้ะวะเนี่ย...”
“ก็ฉันไม่รู้นี่นา... นึกว่ามันจะอยู่บ้าน”
“แล้วจะมาหาเพื่อน ทำไมไม่โทรบอกก่อน บ้าเปล่าเนี่ย”
“ฮ่าๆ... ขืนฉันโทรไปหามัน ฉันคงโดนกระทืบถึงบ้านแน่ๆ มันเกลียดฉันจะตาย เราเป็นศัตรูกันนะ”
“เอ้า เกลียดกันแล้วมาหากันทำไม แล้วอะไร... งงนะ - _ -“
“เออน่า อย่าพูดมาก ง่วงนอนแล้วอ่ะ จะนอนแล้ว” พูดแล้วใช้มือปัดๆคนตรงหน้า ชานยอลถลึงตาใส่อย่างหงุดหงิด ก่อนจะปารีโมททีวีไปที่แขนล่ำอย่างแรง จนคนโดนต้องร้องโอ้ย
“กลับป่าไปไอบ้า ที่นี่ไม่มีไผ่ให้นายแทะหรอกนะ เป็นศัตรูกันไม่ใช่ไง อย่าดิโว้ย กลับป่าไป หงุดหงิดแล้วนะ !”
ร่างโปร่งหยิบหมอนใบเล็ก ฟาดไปที่หัวของร่างหนาอย่างหงุดหงิด จื้อเทาพยายามเอาแขนบังพละกำลังช้างสารของร่างบาง ที่ใช้หมอนทุบเค้า จนปุ่ยนุ่นพุ่งกระจายออกมาลอยฟุ้งไปทั่วทั้งห้อง ชานยอลใช้เล็บขย้ำหน้าคนตัวสูงอย่างหมั่นไส้ คงอาจจะเป็นเพราะอยากจะแก้แค้นเรื่องในผับวันนั้นด้วยล่ะมั้ง อารมณ์มันถึงได้เดือดขนาดนี้
“โอ้ย เจ็บ.. เจ็บ เจ็บ พอแล้วๆ” สองแขนยาวรวบร่างบางไว้ในอ้อมกอด สองมือบางยังคงใช้หมอนที่เหลือแต่ผ้า ฟาดไปที่ร่างหนาไม่หยุด แต่พอมารู้ตัวอีกที... ตัวเองก็โดนคนตัวใหญ่กอด แถมยังขโมยหอมแก้มไปอีกด้วย
โหย...
แม่งขโมยหอมมแก้มกูอ่ะ กูไม่ยอม...
I – wen...
“มึงตายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”
เสียงตะโกนดังขึ้นลั่นห้อง จนคนทั้งสองสะดุ้งโหยง หลายๆคนอาจจะคิดว่าเป็นเสียงเด็กตัวสูงที่เพิ่งโดนขโมยหอมแก้มไปเมื่อกี้ แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่หรอก แต่มันเป็นเสียงคนตัวสูงที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาในห้อง ที่กำลังจะหยิบไม้เบสบอลวิ่งวิ่งพุ่งตรงมาทางนี้ แล้วตาคมๆก็มองเห็นช็อตเด็ด ตอนที่ปลายจมูกโด่งกำลังกดลงไปที่แก้มนุ่มที่เขาแสนหวงแหนแบบพอดิบพอดี แถมยังมีแขนยาวๆ โอบรัดรอบคนตัวบางที่เค้าเฝ้าทะนุถนอมนั่นอีก...
แล้วไอคนที่ทำมันไม่ใช่ใครที่ไหน... มันยังเป็นอดีตเพื่อนรักสมัยมัธยม ที่ตอนนี้กลายมาเป็นศัตรูนัมเบอร์วันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว... มันยิ่งยอมไม่ได้ อู๋ฟานยอมไม่ได้ !!!!!!!!!!! ย้ากกกกกกกกกกกกกก
เมื่อเห็นอย่างนั้น ร่างโปร่งของชานยอล ก็รีบพาตัวเองวิ่งไปหาร่างสูงที่ยืนกำไม้เบสบอลแน่น ร่างสูงตังสั่นเทิ้มเพราะความโกรธ ก่อนจะตวัดหางตามาหาร่างบางที่วิ่งมาหาเค้า นิ้วเรียวชี้ไปที่หน้าของจื้อเทาด้วยความโมโห
“มึงกล้ามากฮวงจื้อเทา ถ้ามึงไม่ตายคาไม้เบสบอลอันนี้ มึงก็ต้องตายคาตีนกูนี่แหละ !!!”
“ไอเชี่ยยยยย !!!”
-----------------
หายไปนานโคตรๆ
มาต่อแบบมึนๆด้วยอ่ะ โอ้ยไรเนี่ย5555555555555555
ความคิดเห็น