คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : สวัสดี คุณเนื้อคู่ 11. -FIN-
11
“แฮ่กๆ...”
ร่างโปร่งใช้มือยึดกับราวบันไดแล้วหยุดพักเพื่อที่จะหอบหายใจเพราะความเหนื่อย มืออีกข้างเลื่อนไปกุมขาของตัวเองที่ยังไม่หายดีแล้วนิ่วหน้าเพราะความเจ็บที่แล่นลิ่วมาตามโสตประสาท ปากบางยู่เข้าหากัน ก่อนจะค่อยๆพาตัวเองเดินขึ้นบันไดต่ออย่างยากลำบาก
ถึงคอนโดของลู่หานเพื่อนในกลุ่มของคริสมันจะไม่ค่อยจะไกลเท่าไหร่หรอก แต่สำหรับคนขาเจ็บอย่างเค้า ที่ต้องวิ่งมามันทรมาณอยู่พอตัว นี่เค้าควรจะโทษใครดีกัน...
ขายาวพาตัวเองมายืนอยู่ที่หน้าห้อง 2587 แล้วหยุดพักหายใจ ก่อนจะเลื่อนมือขึ้นไปแช่ไว้บนอากาศ ชั่งใจว่าควรจะเคาะดีหรือไม่เคาะดี...
พี่คริสจะเกลียดเค้าแล้วหรือยัง...
พี่คริสจะโกรธจนเกลียดเค้าไปแล้วหรือเปล่า...
เง่อ...........
แต่ก็เอาเถอะ ไหนๆก็ถ่อสังขารตัวเอง ยอมขาเจ็บวิ่งมาถึงที่นี่แล้วล่ะก็นะ เป็นไงเป็นกัน ไอพี่คริสมันจะยอมคุยกับเค้าหรือเปล่าก็ต้องคอยดู มันยังไม่มาถึง ยังไม่ควรด่วนตัดสินใจ รอเอาไปถามโต้งๆไปเลยดีกว่านะปาร์ค ชานยอล
มือบางเคาะประตูเบาๆประมาณสองรอบเห็นจะได้ รอเพียงไม่นาน เจ้าของห้องร่างเล็กก็เปิดประตูออกมาด้วยสภาพเหมือนคนกึ่งหลับกึ่งตื่น พลางจ้องหน้าเด็กตัวสูงกว่าเขม็ง ก่อนจะสะดุ้งตกใจ เมื่อก้อนเนื้อไขมันที่เรียกว่าสมอง ค่อยๆประมวลภาพจนจำได้แล้วว่าเด็กโย่งตรงหน้านี่คือใคร มือบางก็รีบผลักประตูบานใหญ่ปิดใส่หน้าร่างโปร่งนี่ทันที โดยมีชานยอลที่คอยยืนทุบประตูปังๆอยู่ด้านนอก
“พี่... พี่ลู่หาน เปิดประตูสิ จะปิดทำไม”
“ไม่ได้ชื่อลู่หานนนนนนนนนน กลับบ้านไปไป๊”
“เปิดให้ผมเถอะนะ ผมมีธุระกับพี่คริสจริงๆ ผมอยากคุยกับพี่คริส... นะ นะ พี่จะปิดประตูหนีผมทำไม พี่คริสบอกให้ทำใช่มั้ย เค้าไม่อยากเจอหน้าผมแล้วใช่หรือเปล่า เค้าเกลียดผมแล้วใช่มั้ย”
ชานยอลเอ่ยเสียงอ่อย ทำให้ลู่หานที่ยืนมองซ้ายมองขวาอยู่ในห้องถึงกับต้องกลืนน้ำลาย อยากจะเปิดประตูให้น้องเค้านะ อยากจะบอกว่าไอคริสไม่ได้คิดแบบนั้นเลย... เพราะตลอดเวลาที่ไอเพื่อนตัวสูงมาอยู่กับเค้าน่ะนะ แทบจะไม่เป็นอันกินอันนอน เอาแต่พร่ำเพ้อถึงร่างโปร่งนั่นทั้งวันทั้งคืนจนไม่เป็นอันกินอันนอน เอาจริงๆบางทีเค้าก็แอบรำคาญนะ แต่ก็เพื่อนอ่ะ... ได้แต่ทำใจไปก่อนละกัน .___.
แต่ตอนนี้สถานการณ์ในห้องเค้าไม่ค่อยจะเอื้ออำนวยซักเท่าไหร่... ตอนนี้ไอคริสมันกำลังนั่งคุยอยู่กับเจสสิก้าในห้องนอน เพราะถ้าเกิดให้ไอน้องตัวสูงหน้าตาโมเอะนั่นเข้ามา เผื่อว่าเกิดอะไรผิดพลาด แล้วเด็กนั่นดันไปเห็นเหมือนในละครหลังข่าวที่นางเอกชอบเข้าใจพระเอกผิด เค้าคงจะได้นั่งดูละครหลังข่าวช่องแปดเก้าสิบกลางห้องนอนเค้าแน่ๆ...
“ให้ผมเข้าไปเถอะนะ...”
เสียงอ่อยๆของไอเด็กตัวโย่งที่ยืนอยู่หน้าห้อง ทำให้ลู่หานที่ยืนมองซ้ายมองขวาเพราะไม่รู้จะเอายังไงดี เผลอใจอ่อนเปิดประตูให้โดยที่ไม่รู้สึกตัว มารู้ตัวเอาอีกที ไอเด็กชานยอลนี่ก็มายืนอยู่หน้าเค้าเตรียมจะเดินไปหาไอคริสเพื่อนรักเค้าซะแล้ว
มือเล็กรีบดึงแขนบางของรุ่นน้องเอาไว้แล้วกำแน่น พลางลากแล้วพามานั่งอยู่บนโซฟาตัวเล็กที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้อง ก่อนจะวิ่งไปหยิบน้ำในตู้เย็น รินใส่แก้วใส แล้วยื่นให้ ชานยอลรับมันมาถืออย่างงงๆ แต่จะว่าไปตอนนี้เค้าก็หิวอยู่เหมือนกัน เลยจับกรอกปากเข้าไป ความเย็นที่ค่อยๆกระจายตัวเข้าไปในลำคอ ทำให้รู้สึกหายเหนื่อยขึ้นมาบ้าง
“เฮ้ยไอน้องชานยอล ขาเลือดออกอ่ะ!” ลู่หานมองขาเรียวยาวของชานยอลแล้วเบิกตาโพลงพลางใช้นิ้วชี้ไปที่ขาขวา ที่ถูกผ้าสีขาวสะอาดพันเอาไว้อยู่ แต่ตอนนี้มันกลับเป็นสีแดงเพราะอาบไปด้วยเลือด ก่อนที่ร่างเล็กจะวิ่งวุ่นไปมารอบห้องเพราะไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี โดยมีปาร์ค ชานยอลคอยมองตามด้วยสายตาเอือมระอา
ในกลุ่มเพื่อนพี่คริส และตัวพี่คริสเอง... นี่เป็นอย่างนี้กันไปหมดทุกคนเลยใช่มั้ยเนี่ยฮะ...
นึกแล้วก็ส่ายหน้ากับตัวเองไปมา พลางเลื่อนมือบางไปแตะที่แผลของตนเองเบาๆ นิ้วเรียวที่ตั้งใจจะคลี่ผ้าพันแผลของตัวเองออก แต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะแรงกระชากที่ข้อมืออันมหาศาลของเพื่อนตัวเล็กของคริสอย่างลู่หาน พร้อมกับเสียงตวาดแว้ดดังลั่นจนต้องเอามือยกขึ้นไปปิดหู
“ไอเด็กบ้า! อย่าพึ่งทำอะไรได้มั้ยฮะ รออยู่นี่ก่อนนะมึง นี่มึงทำยังไงให้แผลเลือดออกเยอะขนาดนี้วะ ถ้ามึงเป็นอะไรขึ้นมาเพื่อนกูไม่ต้องตรอมใจตายเลยหรือไงกันน่ะฮะ รออยู่นี่นะ อย่าไปไหน อย่าเดินไปไหนเด็ดขาด! ถ้ากูกลับมาแล้วไม่เห็นว่ามึงนั่งอยู่ตรงนี้นะ กูจะถอนฟันมึงออกให้หมด... โอ้ยกูล่ะเซ็ง เป็นห่าอะไรกันไปหมด ทั้งไอคริส ทั้งไอน้องชานยอล กูล่ะเบื่ออีสองคนนี้จริงๆว่ะเฮ้ย” พล่ามออกมายาวเหยียด โดยไม่ลืมด่าสองตัวปัญหาที่ชื่อคริส อู๋กับปาร์ค ชานยอล โดยคนโดนด่าก็ได้แต่นั่งพยักหน้าเงียบๆแล้วยิ้มเจื่อนๆ ไม่เคยมีใครน่ากลัวเท่าเพื่อนพี่คริสคนนี้เลยจริงๆ..........................................
ตากลมกวาดมองไปรอบๆห้อง ก่อนจะไปสะดุดกระเป๋าเป้สีดำทะมึนใบโตที่วางอยู่ข้างๆโซฟา มือบางเอื้อมไปหยิบมันขึ้นมาแล้วเอามากอดไว้แนบอก เพราะจำได้แม่นว่าเจ้าของกระเป๋าใบนี้คือใคร แล้วก็อยากจะรู้ด้วยมากๆ ว่าไอเจ้าของกระเป๋าใบนี้ ตอนนี้ไปอยู่ที่ไหนอยู่ ทั้งๆที่มาหาแล้ว แต่ก็ดันหาตัวไม่เจอซะงั้นแหละ
หัวทุยเงยหน้าขึ้นไปมองลู่หานที่กำลังเดินทำหน้าเครียด กระทืบเท้าปึงปังปึงปังเสียงดัง โดยไม่กลัวว่าคนที่อาศัยอยู่ห้องข้างล่างเค้าจะขึ้นมาด่าหรือเปล่า ก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าเงินที่วางอยู่หลังทีวี เตรียมจะเดินออกไปนอกประตู แต่ร่างโปร่งที่นั่งอยู่บนโซฟาดันเรียกไว้ซะก่อน
“พี่จะไปไหน”
“ไปซื้อของจะมาทำแผลให้แกนั่นแหละไอเอ๋อ เดี๊ยวมาแป๊ปเดียว อยู่นิ่งๆนะเว้ยมึง อย่าเดินไปไหน ห้ามไปไหนเด็ดขาด ปวดฉี่ก็ฉี่แมร่งตรงนั้นแหละ เดี๊ยวให้ไอคริสมาเช็ดให้ เดี๊ยวพี่มา แป๊ปนึง”
“แล้วพี่คริส...”
หันมาสั่งชานยอลเสร็จสรรพ โดยไม่เปิดโอกาสให้เจ้าตัวได้ถามอะไรเลยซักนิด พอใส่รองเท้าได้ก็ติดสปีดวิ่งออกไปจากห้องทันที โดยมีร่างโปร่งที่นั่งอยู่บนโซฟามองตามไปอย่างงงๆ
ชานยอลส่ายหน้าไปมา พลางคิดว่าพี่คริสกับเพื่อนแต่ละคน ที่เค้ากันได้ก็คงจะเป็นเพราะอย่างนี้นี่เอง
ตากลมเหลือบลงไปมองกระเป๋าเป้ในมือแล้วขมวดคิ้วนิดหน่อย มือบางจับซิปกระเป๋าแล้วรูดให้เปิดออกอย่างถือวิสาสะ ในกระเป๋าใบโตนั้นมันก็ไม่มีอะไรมาก เสื้อผ้าไม่กี่ตัว แปรงสีฟัน ของใช้ไม่กี่อย่าง สมุดโน๊ตเล่มเล็กสีดำ และก็อัลบั้มรูปภาพสองเล่มที่อัดแน่นไปด้วยรูปที่เค้าเห็นแล้วก็ค่อยๆยิ้มเขินออกมาอย่างไม่รู้ตัว...
มือบางค่อยๆเปิดไล่อัลบั้มรูปไปทีละหน้า รอยยิ้มหวานค่อยๆผุดพราวขึ้นมาที่ริมฝีปากอวบอิ่มทีละนิด...
ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เค้านอน นั่ง เหม่อ อ่านหนังสือ กินข้าว กินขนม กินน้ำ และการกระทำทุกอย่างที่เค้ากำลังทำ มีอยู่ในอัลบั้มรูปของคริสที่อัดแน่นไปด้วยรูปของเค้าเต็มไปหมด ก้อนเนื้อในอกเริ่มทำงานอย่างรุนแรงอีกครั้ง เปิดไปหน้าไหน หน้าไหนก็เจอแต่รูปของเค้าเต็มไปหมด แทบจะไม่มีรูปคนอื่นเลยซักใบ ไม่เว้นแม้กระทั่งตอนเค้ากำลังนั่งเรียนหนังสืออยู่ในห้องเรียนก็ตามแต่...
อะไรกัน............
ไปแอบถ่ายเค้าตอนไหน.......................
ทำไมไม่บอกกันดีๆ...............
จะให้เค้าแอ๊บก่อนถ่ายก็ไม่ได้ งื้อ... /(///∇///)\
*เขิน*
“ไปถ่ายตอนไหนวะ ทำไมไม่เห็น... คนบ้า” ปากเล็กพูดเสียงอุบอิบแล้วยิ้มเขิน ปิดอั้ลบั้มรูปของร่างสูงเสียงดังหมับ แล้วค่อยๆหย่อนมันลงไปในกระเป๋าเป้ พลางหันไปหยิบหมอนใบเล็กที่ตั้งอยู่ข้างๆ ฟาดกับโซฟาดังป้าบๆเพื่อแก้เขิน ปากเล็กก็เอ่ยด่าไอคนตัวสูงไปเพราะความเขิน ตอนนี้ถ้าใครมาเห็นชานยอลในสภาพนี้ จะว่าเค้าเป็นคนบ้ามันก็คงไม่แปลก
ก็นะ...
ใครไม่เขินก็บ้าแล้ว..........................
ร่างโปร่งนั่งยิ้มคนเดียวเหมือนคนบ้า ก่อนจะรู้สึกว่ามันมากเกินไป ก็เพราะว่ารู้สึกเจ็บหนึบที่ขา เพราะขยับตัวแรงเกินไป เลยต้องเปลี่ยนมานั่งเฉยๆแล้วนั่งอมยิ้มแทนไปละกัน...
มือบางหยิบสมุดโน๊ตเล่มเล็กขึ้นมา พลางนึกในใจว่าตนนั้นเป็นพวกยุ่งเรื่องชาวบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่พอตากลมลองได้ไล่อ่านข้อความมากมายในสมุดโน๊ตเล่มนั้น อาการเขินที่เริ่มทุเลาลงไปบ้างก็ประทุขึ้นมาอีกครั้งเหมือนภูเข้าไฟที่ระเบิดตู้ม ใบหน้าหวานราวกับเด็กผู้หญิงของชานยอลขึ้นเป็นสีแดงจัดอย่างเห็นได้ชัด เพราะทุกข้อความ ทุกประโยคที่เด่นหราอยู่ในนั้น ล้วนแล้วแต่มีชื่อของเค้าอยู่เต็มไปหมด มือบางไล่อ่านข้อความพวกนั้นไปมาแล้วยิ้มเคอะเขินอยู่คนเดียว... ผู้ชายคนนี้อะไรกัน ชอบทำให้เค้าใจเต้นอยู่เรื่อย
‘โดนคนที่ตัวไล่แมร่งโคตรเจ็บ ชานยอลใจร้ายชิบหายเลย... แบบสุดๆ’
‘โอ้ย... คิดถึงชานยอลอีกแล้ว มองอะไร หันไปทางไหนก็เห็นเป็นแต่หน้าชานยอล มองหน้าหมาก็เป็นชานยอล แม้กระทั่งขี้ออกมา ก็เห็นเป็นหน้าชานยอล ชานยอลเอฟเวอรี่ติงส์’
‘กูไม่รู้จะเขียนยังไงดี แมร่งอยากจะบ้าตาย... กูคิดถึงชานยอลจนน้ำตาก็จะกระเด็นกระดอนออกมาจากเบ้าตา’
‘คิดถึงชานยอลแบบชิบหายอีกแล้ว นึกถึงตอนที่ชานยอลไล่กูออกมาแล้วกูก็เจ็บ’
‘อยากกอดชานยอลชิบหาย’
‘อยากไปเยี่ยมชานยอลที่โรงบาลอ่ะ แต่ไม่อยากโดนไล่อีก กูคิดถึงชานยอลจังว่ะ... ชานยอลจะคิดถึงกูบ้างป้ะวะ’
‘คิดถึงชานยอล คิดถึงชานยอล คิดถึงชานยอล คิดถึงชานยอล คิดถึงชานยอล คิดถึงชานยอล... คิดถึงมาก’
อ่านข้อความมากมายที่คริสเขียน น้ำใสๆอยู่ดีๆก็ไหลเผาะออกมาจากตา ยิ่งได้อ่านข้อความตัดพ้อน้อยใจของคริสที่เขียนเรื่องเค้าไล่คริสออกมาในวันนั้น ชานยอลเองก็ยิ่งรู้สึกผิดมากเพิ่มขึ้นไปอีก เค้าอยากจะเอาหัวตัวเองไปโขกกับเสาบ้านซักสองสามทีให้สมองไหลแล้วเอาไปโยนให้หมากินเสียเหลือเกิน รู้สึกว่าทำไมตัวเองโง่ขนาดนี้ก็ไม่รู้ พูดอะไรออกไปไม่ได้รู้ถึงความรู้สึกของคนอื่นเค้าหรอก ขนาดคนที่รักตัวเองมากขนาดนั้นยังพูดทำร้ายจิตใจได้ลงคอ เค้านี่โง่ยิ่งกว่าควายซะอีก อยากจะเอามีดมาปาดคอตัวเองเสียเหลือเกิน
คิดได้อย่างนั้น ก็ยกหยิบสมุดเล่มเล็กขึ้นไปตบหัวตัวเองดังโป้กๆ อยากจะหยิบโคมไฟที่ตั้งอยู่ข้างๆขึ้นมาโขกหัวตัวเองอีกซักทีสองทีให้หายโง่ พลางสะอึกสะอื้นร้องไห้ ขายาวลุกขึ้นยืนอย่างร้อนรน จนลืมไปเลยว่า ตัวเองนั้นกำลังเจ็บขาอยู่
ในเมื่อไอพี่ลู่หานไม่ยอมบอกซักทีว่าคริสอยู่ไหน เค้าก็จะไปหาเองก็ได้ ขายาวเตรียมจะก้าวไปที่ประตูบานใหญ่ แต่ก็รู้สึกเจ็บจี๊ดที่ขาจนเซเกือบจะล้มเพราะว่าทรงตัวไม่อยู่ คิดไว้แล้วว่าต้องล้มลงไปกองอยู่ที่พื้นแน่ๆ ตากลมหลับปี๋ ก่อนจะรู้สึกถึงอ้อมกอดอบอุ่นของใครบางคนที่รับตัวเค้าเอาไว้ กลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคย ลมหายใจอ่อนๆที่เป่ารดอยู่ข้างหู ทำให้ร่างโปร่งที่กำลังหลับตาปี๋ ค่อยๆลืมตาขึ้นมา จนเห็นใบหน้าของคนที่โอบตัวเค้าเอาไว้ได้ชัดเจน
“ชานยอล เป็นอะไรหรือเปล่า”
“พี่คริส ฮือออออออออ” เรียกชื่อคนตัวสูงเสียงดัง ก่อนจะปล่อยโฮออกมาอีกระลอก ร่างทั้งร่างถลาไปหาคนตัวสูงที่เข้ามาช่วยเข้าไว้จนเกือบเซล้ม คริสทำหน้างงๆ ก่อนจะใช้มือลูบหลังบางคนร่างโปร่งแผ่วเบา คางแหลมเกยไปที่ไหลบาง พลางใช้ปลายจมูกโด่งฝังลงไปที่กลุ่มผมนุ่มนิ่มแล้วสูดความหอมเข้าไปจนเต็มปอด
“เป็นอะไรชานยอล ร้องไห้ทำไม แล้วนี่มาได้ยังไง”
“ฮึก... วิ่งมา วิ่งมา...”
“จะบ้าหรอ ขานายก็ไม่ดี ยังจะวิ่งมาอีกน่ะนะ นายบ้าหรือเปล่าชานยอล หือ... ถ้านายเป็นอะไรไปพี่จะทำยังไง ทำไมไม่หัดดูแลตัวเองบ้าง ตอนนี้นายไม่ใช่ว่าจะทำอะไรตามอำเภอใจตัวเองได้แล้วนะชานยอล คิดซะบ้างสิ” คริสพูดแล้วออกมายาวเหยียด คนตัวเล็กกว่าในอ้อมกอดจ้องหน้าคริสเขม็ง น้ำใสเริ่มเจิ่งนองในดวงตา
“...”
“...”
“พี่ขอโทษ... ขอโทษที่ทำให้นายรำคาญ พี่ลืมไปว่านายเกลียดพี่... ขอโทษนะขอโทษ... ขอโทษ” คริสเอ่ยเสียงแผ่ว พลางหลุบตาต่ำลงแล้วค่อยๆคลายคนในอ้อมกอด
“มะ... ไม่ใช่...”
“คริส... มีอะไรหรือเปล่า... อ่าว...”
ตากลมจ้องมองหญิงสาวที่เค้าคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี กำลังเดินออกมาจากห้องนอนเล็ก ตาเรียวสวยจ้องเค้าแล้วถอนหายใจ คริสก้มหน้าพลางใช้ตามองหลุบต่ำไปที่พื้น ชานยอลมองหน้าคริสกับเจสสิก้าสลับกัน น้ำใสอุ่นเริ่มคลอหน่วยขึ้นมาที่ตากลมอีกครั้ง มือบางเลื่อนขึ้นไปปิดปากเพื่อกลั้นเสียงสะอื้น
“นายเองหรอกหรอชานยอล...” เจสสิก้าพูดเสียงแผ่วพลางใช้กอดอกตัวเองเอาไว้
“เออฉันเอง... อ่อที่มานี่ก็ไม่ได้อะไรหรอก แค่จะมาบอกว่าเกลียดพี่คริสมากๆ อยากจะด่า อยากจะตีให้ตายคามือ แมร่งไม่เคยเกลียดใครขนาดนี้มาก่อน เหม็นขี้หน้าอ่ะ เมื่อกี้มากอดอ่ะ รู้ป้ะว่าขยะแขยง... ฮึก... แมร่งกูเกลียดมึงพี่คริส กูไม่รักมึงแล้ว ฮึก... แล้วทีหลังไม่ต้องมาบอกว่ารักกูนะ มาทำให้ชาวบ้านเค้ารักแล้วมาทำตัวแบบนี้อ่ะนะ ทีหลังคำว่ารักอ่ะ เอาไปบอกคนอื่นเลยนะ!”
“เดี๊ยวชานยอล!”
ชานยอลพูดไปก็สะอื้นไป คริสทำหน้าเหลอหลาเมื่อได้ยินประโยคแปลกๆของชานยอล ไอจะรั้งตัวเอาไว้ก็รั้งไว้ไม่ทัน หันมาอีกทีพูดจบก็วิ่งออกไปจากห้องซะแล้ว พอจะตามไปก็ถูกเจสสิก้าห้ามเอาไว้ พลางส่ายหน้าเชิงว่าไม่ต้องไป “เดี๊ยวฉันไปเอง... นายอยู่นี่แหละ”
“แต่...”
“ฉันเป็นเพื่อนรักนายนะคริส... นายไม่ไว้ใจเพื่อนของนายใช่มั้ย”
“...”
“พูดอะไรไปตอนนี้ไอเด็กชานยอลก็คงไม่อยากจะฟังอะไรนายหรอก อยากไปแล้วให้เค้าพูดว่าเกลียดอีกหรือยังไง” เจสสิก้าถามหน้านิ่ง
เกลียดหรอ... มันแน่อยู่แล้ว เค้าไม่อยากได้ยินคำพูดแบบนั้นที่ออกมาจากปากคนที่เค้ารัก ยิ่งเฉพาะออกมาจากปากของชานยอลยิ่งแล้วใหญ่... ฟังแล้วมันเจ็บ เจ็บเหมือนใจจะขาด อยากจะตายให้มันรู้แล้วรู้รอด
“ไม่”
“ถ้าไม่ก็อยู่นี่แหละ รอดูผลเอาละกัน... เชื่อใจฉัน” เจสสิก้ายิ้มแล้วตบบ่าเพื่อนรักดังปุๆ ก่อนจะหันไปยิ้มให้ลู่หานที่วิ่งหน้าตื่นเข้ามา ก่อนที่ร่างผอมบางจะวิ่งออกไปเพื่อไปตามเด็กโย่งตัวปัญหา
ถึงจะรักคริสมากขนาดไหน อยากจะได้คริสมาครอบครอง... แต่ความรักมันขึ้นอยู่ที่คนสองคน คนที่คริสรักไม่ใช่ตัวหล่อน คริสรักชานยอล... คริสรักเด็กที่ดูไม่มีอะไรเลยในสายตาคนอื่น แต่ในสายตาคริส เด็กคนนั้นมีค่ากับคริสเสมอ... ไม่ว่าหล่อนจะพยายามทำให้คริสขนาดไหน ทำดีเท่าไหร่ ผลที่ได้กลับมาก็คงจะมีแค่คำว่า ‘เพื่อนรัก’ ก็เท่านั้น ที่คนอย่างคริสจะให้ได้...
ยิ่งไขว่คว้า ยิ่งวิ่งเข้าหามันมากเท่าไหร่ สิ่งที่ได้กลับมามันก็เหมือนเดิม... หล่อนล่ะอิจฉาปาร์ค ชานยอลจริงๆ... อิจฉาที่คริสทั้งรัก ทั้งหลง ทั้งหวงได้ขนาดนั้น มันเหนื่อย... ที่ผ่านมามันเหนื่อยมาก... หล่อนควรจะถอยแล้วไปเริ่มต้นความรักครั้งใหม่กับคนอื่น...
“ชานยอล หยุดวิ่งเดี๊ยวนี้นะ!” เสียงแหลมเล็กตะโกนเรียกชื่อชานยอลที่อยู่ดีๆก็วิ่งออกมาโดยไม่ฟังใครพูดหรืออธิบายอะไรเลยซักอย่าง ขาเล็กหยุดวิ่งพลางหอบหายใจแฮ่กๆ
“หยุดเดี๊ยวนี้นะชานยอล ไอโง่!” ตะโกนลั่นจนชานยอลชะงักกึก ร่างโปร่งยังคงหันหลังให้หญิงสาว มือบางกำแน่น ความรู้สึกเจ็บจี๊ดที่ขามันแล่นขึ้นมาในหัวสมอง รู้สึกอยากจะล้มลงไปเสียดื้อๆ
เจสสิก้าถอนหายใจเฮือกใหญ่... มือเล็กเลื่อนไปเช็ดหยดเหงื่อที่ไหลพราวลงมา... วิ่งออกมาตั้งหน้าปากซ้าย ทั้งวิ่งทั้งตะโกนบอกให้หยุด เหนื่อยนะ...
“วันนี้ฉันมาหาคริสที่ห้องของลู่หาน เพราะเพิ่งรู้ว่าเมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อน นายทำเรื่องงี่เง่ามากๆใส่เค้า”
“...”
“ฉันอุตส่าห์ยอมคริสให้นาย แต่นายดันโง่ รักษาของมีค่าไม่เป็น”
“...”
“คริสเป็นผู้ชายที่ดีนะ... ดีมากๆ รักใครเค้าจะรักจริง ฉันไม่เคยเห็นเค้าพูดว่ารักนอกจากนายถ้าเกิดไม่นับรวมพ่อแม่และเพื่อนฝูง”
“....”
“วันนี้ฉันบอกว่าฉันรักเค้ามาก แล้วเค้าก็บอกว่าเค้ารักฉันมากๆเหมือนกัน”
“แล้วจะบอกทำ...”
“แต่เค้าบอกว่าเค้ารักฉันแบบเพื่อนสนิท”
“...”
“คริสบอกว่าคริสรักใครไม่ได้แล้วนอกจากนาย ในใจเค้ามีแต่นาย ที่ว่างมันไม่พอให้ยัดใครเข้าไปได้อีก”
“...”
“คริสรักนายมาก... รักมากๆ... ขอให้เชื่อคริสนะว่าเค้ารักนาย คริสไม่เคยมีคนอื่นเลย ไม่เคยลองคบกับคนอื่น ผู้หญิงผู้ชายมากมายที่เข้ามาในชีวิตคริส คริสก็ไม่เคยสนใจ เค้ามีแต่นายคนเดียว... เค้ารักนายคนเดียว”
“ฮึก...”
“ฉันแค่อยากให้นายเอากลับไปคิดนะ... มาบอกแค่นี้แหละ วิ่งออกมาไม่ได้ใส่รองเท้าออกมาด้วยมันเจ็บน่ะ”
เจสสิก้าพูดแล้วส่งยิ้มให้ ก่อนจะเดินกลับหลังหายไป ชานยอลทรุดเข่าลงไปที่พื้น แล้วสะอื้นจนตัวโยน น้ำตาอุ่นๆไหลลงอาบแก้ม แผลที่ขาตอนนี้มันไม่รู้เจ็บซักนิด... ไม่เลย เค้าไม่รู้สึกเจ็บเลย ตอนนี้คำว่ารู้สึกผิด เสียใจมันลอยอยู่เต็มหัวไปหมด..
ยิ่งนึกทุกคำพูดของเจสสิก้าที่พูดไปเมื่อกี้ น้ำตามันก็ยิ่งไหลหนักออกมามากกว่าเดิม... เค้าโง่จริงๆ... โง่มากๆ โง่ที่สุด... ทำไม...
เค้ารักคริส...
ชานยอลรักคริส...
“ชานยอลรักพี่คริส... ฮึก..”
“ชานยอลรักพี่คริส... ได้ยินมั้ย”
“ได้ยินสิ”
แรงกอดหมับจากด้านหลังพร้อมกับเสียงทุ้มคุ้นหู ทำให้ชานยอลที่นั่งคุกเข่าสะอึกสะอื้นอยู่ถึงกับสะดุ้งจนตัวโยนเพราะตกใจ ลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดอยู่ข้างหูยิ่งทำให้อยากร้องไห้หนักมากกว่าเดิม ก่อนจะหมุนตัวหันไปกอดหมับจนแทบจะล้มไปด้วยกันทั้งคู่
คริสยิ้มแล้วกดจูบไปที่หน้าผากมนด้วยความเอ็นดู มือหนาลูบกลุ่มผมนุ่มนิ่มของร่างบางในอ้อมกอด ชานยอลซุกหัวของตัวเองอยู่ในอกแกร่งแล้วถูไปมาเหมือนลูกหมากำลังอ้อน
“บอกพี่อีกได้มั้ยว่าชานยอลรักพี่”
“รักพี่คริส... ชานยอลรักพี่คริส รักที่สุด รักจนไม่รู้จะรักยังไงแล้ว รักใครไม่เป็นอีกแล้วนอกจากพี่คริส”
ตอนนี้คริสรู้สึกว่าหัวใจที่กำลังเหี่ยวเฉามันกระชุ่มกระชวยเสียเหลือเกิน อยากจะจูบเด็กน้อยคนนี้ซักทีสองทีเสียเหลือเกิน แต่ถ้าจะทำตรงนี้เลยมันก็คงจะไม่ดีซักเท่าไหร่หรอก
“พี่ก็รักนาย...”
“กลับห้องลู่หานกัน พี่จะไปเก็บของ” คริสผละออกจากชานยอลแล้วลุกขึ้นจนเต็มความสูง มือหนายื่นมือไปด้านหน้า แต่ร่างโปร่งดันส่ายหน้าแล้วพูดว่าไม่เอา
“เจ็บขามากเลย...”
“อุ้มหน่อยสิ... นะ” คริสขมวดคิ้วนิดหน่อยก่อนจะยิ้มออกมาอย่างพอใจ
นี่กำลังอ้อนอยู่นะ...
งือ /(///∇///)\
“ตัวก็สูง”
“แล้วไม่น่ารักน่าอุ้มหรอ”
“น่ารักสิ รักมากๆ” พูดแล้วยกเด็กตัวสูงขึ้นพาดบ่า คริสลูบหลังชานยอลเบาๆ
“ขอโทษนะพี่คริส..”
“...”
“ขอโทษที่ทำให้เสียใจ...”
“ผมรักพี่... คำเดียว คำเดียวจริงๆที่สามารถอธิบายความรู้สึกตอนนี้ของผมได้”
“ต่อจากนี้ไปจะไม่ทำให้เสียใจแล้ว จะไม่ทำ ถ้าผมทำให้เตะตูดเลย”
“ไม่เตะหรอกตูด จะทำอย่างอื่น” คริสพูดติดตลกแล้วยิ้มกริ่ม ทำให้โดนเด็กตัวโย่งฟาดเข้ากลางหลังไปหนึ่งที
“ลามก มันเจ็บมากรู้มั้ยทำแบบนั้น” พูดแล้วก็แอบอมยิ้มคนเดียว พลางนึกไปถึงเรื่องวันนั้น ตอนแรกก็โกรธนะ... โกรธมากด้วย ถึงมันจะทำแบบนั้นแล้วรู้สึกดี แต่ก็โกรธ...
แต่ตอนนี้ก็ไม่แล้วล่ะ
“ขอโทษที่ทำให้เจ็บ”
“ช่างมันเหอะน่า ไปถึงแล้วทำแผลให้ด้วยนะพี่คริส”
“ไม่บอกให้พี่ทำพี่ก็ทำอยู่แล้ว”
“ทำไมอ่ะ”
“ก็พี่รักชานยอล”
“... อืม ผมก็รักพี่คริส”
ชานยอลหลับตาพริ้ม คริสค่อยๆใช้ริมฝีปากหนาทาบไปที่เรียวปากสวยๆแผ่วเบาๆ ลิ้นร้อนไล่ตักตวงความหอมหวานที่แสนคิดถึงไปจนเต็มอิ่ม สัมผัสแสนนุ่มนวล ที่ไม่ว่าจะทำมันกี่ครั้งๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ปาร์ค ชานยอลเองก็ไม่เคยจะรู้สึกคุ้นชินกับมันซักที ไม่ว่าจะจูบซักกี่รอบๆ เค้าก็รู้สึกเขินได้ตลอดเวลา...
"ผมรักพี่"
"พี่รักนาย"
เราทั้งสองคนรักกันนี่นะ
ไม่มีอะไรสามารถมาแยกเราทั้งคู่ได้แล้วล่ะ
บางคนทำทุกอย่างเพื่อที่จะอยากได้ความรัก
บางคนรอแล้วรอเล่าความรักก็ยังไม่มาซักที
บางคนได้ความรักมาแต่ก็ดูแลไม่เป็น
คนบนโลกสามารถมีชีวิตอยู่ได้เพราะความรัก...
ถ้าขาดความรักไปก็เหมือนอาหารที่ขาดเครื่องปรุง
พี่เป็นเหมือนคนที่พระเจ้าประทานให้เข้ามาอยู่ในชีวิตของผม
ขอบคุณนะครับที่มอบความรัก มอบทุกอย่างให้
ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้กันมา
ขอบคุณจริงๆ...
รักพี่นะครับ... เนื้อคู่ของผม
-FIN-
--------------------------
โผล่หน้ามาอัพซักที่ หายหน้าไปแบบโคตรนานน้านนาน มีใครรอฟิคของเราบ้างหรือเปล่า
#เงียบ
55555555555555555 คิดถึงรีดเดอร์ทุกคนค่า มันสอบเลยไม่ค่อยได้มาอัพ #แต่เวิ่นทวิตเยอะมาก
แถมยังมาอัพวันหยุดที่โรงเรียนให้หยุดอ่านหนังสือสอบอ่ะ 5555555555555555555
มาถึงตอนนี้ก็อัพตอนจบของเรื่องแล้ว เป็นยังไงบ้าง พยายามทำให้มันดูน่ารัก มันน่ารักบ้างหรือเปล่า
ฟินคริสยอลไม่ไหวค่ะ 55555555555555555555555555
อ่อ... เปิดฟิคไว้อีกสองเรื่อง ไม่รู้จะชอบกันบ้างหรือเปล่า แต่ยังไงก็ลองไปอ่านกันได้เน่อ <33
[KRISYEOL&HUNHAN] Uncormfortable .
[KRISYEOL] ' Beautiful dangerous '
ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม เมนชั่นไปบอกในทวิตว่าเรื่องนี้น่ารักมาก ชอบมาก อย่างนั้นอย่างนี้ ขอบคุณมากๆเลยนะคะ ;/\;
ขอบคุณทุกๆคอมเม้น แฟนฟิค 40 กว่าคน ขอบคุณมากๆเลยนะคะ !
ขอบคุณที่ติดตามเรื่องนี้นะคะ ขอบคุณมากๆ ขอบคุณจริงๆ เพราะเรื่องนี้เป็นฟิคยาวเรื่องแรก ไม่คิดว่าจะมีคนอ่านด้วยซ้ำไป :D
ขอบคุณทุกคนนะคะ
รักค่ะ.
You are my SOULMATE สวัสดีคุณเนื้อคู่ . end 20/9/12
- @102pe -
ความคิดเห็น