คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : os - beautiful stranger
ผมไม่รู้ว่าเค้าคือใคร...
ไม่รู้ที่มาของเค้า...
ไม่รู้แม้กระทั่งชื่อ...
แต่แค่เพียงสายตาอันร้อนแรงที่สามารถหลอมละลายคนมองให้เป็นผุยผงได้ของเค้า... ผมก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกเลย
It’s Just Another Story
사랑하게 됐어 A-ha 한 이방인
Yeah And It’s All About Me
어떻게 나를 이해시켜야 할지
Uh 저 멀리 검은 그림자
널 만난다면 수천 킬로 나는 달려가
Haha 가슴에 총소리가 Bang
출발해 널 향한 Race Right Now
เรื่องมันก็มีแค่ว่า ฉันตกหลุมรักกับคนแปลกหน้า
เรื่องของฉันก็คือจะต้องทำยังไงให้เธอเข้าใจฉัน
เงาสีดำนั่นห่างออกไป ถ้าฉันได้เจอกับเธอ ฉันจะต้องเดินทางเป็นพันกิโล
ฮ่าฮา ยิงหัวใจฉันเลยดีกว่า
เอาเถอะ ยังไงฉันอยู่ในสนามแข่งที่จะมุ่งไปหาเธออยู่แล้วนี่
มั่นใจ... ว่าเครื่องปรับอากาศในห้องกว้างยังคงทำหน้าที่ของมันได้ดีโดยไม่มีขาดตกบกพร่องใดๆทั้งสิ้น แต่บรรยากาศรอบๆตัวของร่างสองร่างที่กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่บนเตียงนุ่ม มันร้อนระอุราวอยู่ในทะเลทราย
ยามที่ร่างกายเปลือยเปล่าของเราทั้งสองคนสัมผัสกันเพียงแค่เเผ่วเบา ความรู้สึกทั้งหมดมันก็โหมกระพือ กลีบปากคู่สวยที่ลากพรมจูบไปทั่วทั้งร่างกายเปลือยเปล่าทำผมแทบคลั่ง ลิ้นร้อนที่หยอกล้อกับติ่งไต มือหยาบที่เคล้นคลึงกับสะโพกมนนิ่มมือ กลิ่นน้ำหอมผู้ชายผสมกับกลิ่นเหงื่ออ่อนๆที่ติดอยู่ในตัวของเค้าทำสติและตาของผมพร่ามัว ไม่สามารถรับรู้อะไรได้นอกจากสัมผัสวาบหวิวของคนแปลกหน้าที่กำลังหาความสุขอยู่กับเรือนร่างของผมเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นความเย็นของเครื่องปรับอากาศ เสียงโทรทัศน์ที่เปิดทิ้งเอาไว้ ผมไม่สามารถรับรู้อะไรได้เลยนอกจากเสียงแหบพร่าของเค้า สัมผัสวาบหวาม ตาคมที่ถึงแม้จะอยู่ในความมืดก็สามารถหลอมละลายคนให้กลายเป็นผุยผง
เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน...
ผมเจอเค้าที่ไนท์คลับไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมานี้...
ผมมั่นใจว่าไม่เคยเป็นใจง่าย หลอกง่าย มากับใครง่ายๆขนาดนี้...
ผมคงจะบ้ามากจริงๆสินะ
“อื้อ อ๊ะ ! ...”
ผมหลุดครางต่ำ แรงกระแทกจากช่องทางด้านล่างทำให้ผมต้องดิ้นเร่าไปมาเพราะความเสียวซ่าน ใบหน้าหวานแดงก่ำเพราะความเสียว ดดยเฉพาะเวลาที่เค้าแทรกตัวเข้ามาความเสียวยิ่งเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณ มือบางกำจิกไปที่ผ้าปูที่นอน ฟันขาวขบกับแน่นพร้อมกับน้ำตาเม็ดใสที่ไหลเผาะลงมาจากตากลมคู่โต เสียงครางเบาๆในลำคอของเค้าที่ดูเหมือนจะเป็นเสียงคำรามของมังกร ดังก้องอยู่ในหู ลมหายใจร้อนที่เป่ารดพวงแก้มพร้อมกับรสจูบอันหนักหน่วงชวนเคลิ้ม แรงกระแทกของสะโพกหนา และการชักรูกแกนกาย การกระทำของเค้าทุกอย่างทำให้ผมรู้สึกดีจนแทบจะไต่ขึ้นสวรรค์ในอีกไม่ช้า
รู้สึกร้อนเหมือนโดนไฟจี้... ยามที่เค้าใช้มือหนาลูบไล้สัมผัสไปทั่วร่างกาย ขาเรียว หน้าอกบาง สะโพกเล็ก ใบหน้า หรือส่วนต่างๆ ความทรมาณและความต้องการมันพลุ่งสูงปรี๊ดจนแทบจะแตกเพราะห้ามไม่อยู่... คนแปลกหน้าคนนี้ช่างน่ากลัว ผมไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เพียงเค้าแตะสัมผัสลงมาบนร่างกายที่กำลังสั่นระริกเพราะแรงอารมณ์ เสียงทุ้มแหบพร่า ลมหายใจอุ่นร้อน ทุกๆสัมผัสของเค้าเหมือนยาเสพติด... ยิ่งเสพย์มันก็ยิ่งติดมากขึ้น มากขึ้น... จนตอนนี้ ผมก็ไม่สามารถหยุดตัวเองได้เลยแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว
ทุกวันเค้าจะมาหาผมที่ห้องของผม... ผมคงจะบ้ามากๆที่อยู่ดีๆก็ไปปั๊มกุญแจห้องให้เค้าเก็บไว้หนึ่งดอกเพื่อเวลาที่เค้าจะมาหาผม เราทั้งคู่ไม่มีการถามชื่อ พูดคุย ถามไถ่ที่มา ไม่มีการให้เบอร์โทรหรือช่องทางที่สามารถติดต่อกันได้ หรือแม้กระทั่งว่าตัวผมเองและอีกฝ่ายคือใคร ทุกๆครั้งเราจะจบอยู่ที่เรื่องบนเตียงแบบนี้ทุกครั้ง ทุกครั้ง และทุกครั้ง... ซึ่งผมก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเค้าทำให้ผมรู้สึกดีมากแค่ไหน
เรื่องเซ็กส์... ไม่ใช่ว่าผมจะไม่เคยมี แต่กับคนอื่น มีแล้วก็คือเลิกลากันไป แต่กับเค้า... ยิ่งร่างกายของเราสัมผัสกันมากเท่าไหร่ ผมก็ไม่อยากให้นิทานเรื่องนี้ถึงตอนจบ ผมเสพย์ติดเค้า เสพย์ติดคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนหรือแม้กระทั่งจะเริ่มทำความรู้จัก ทุกครั้งที่ไฟในห้องดับลง เสียงลมหายใจอ่อนๆ พร้อมกับเสียงแหบพร่าที่กระซิบแผ่วเบาข้างใบหูว่า ‘เราไปมีความสุขกันเถอะนะ’ พร้อมกับแรงโอบกอดจากด้านหลัง ถ้าเป็นคนอื่นก็คงจะขัดขืน นึกว่าไอบ้านี่มันเป็นใครถึงทำแบบนี้ได้... แต่กับผมมันกลับไม่ใช่แบบนั้น ผมไม่ปัดป้อง ไม่ต่อสู้ ไม่ต่อว่า ผมเคลิ้มตามไปกับทุกสัมผัสเค้าในทุกๆครั้ง เพียงแค่ประโยคเชิญชวนไม่กี่คำ... ร่างกายของผมมันก็โอนอ่อนให้เค้าโดยไม่ต้องบังคับอะไรให้มากความเลยแม้แต่นิดเดียว
ไม่ว่าเค้าจะเป็นใคร... มาจากไหน เป็นภูติผีหรือปีศาจ... ผมก็จะยอม ยอทให้เค้าทำทุกอย่าง พาไปทุกที่ที่เค้าอยากจะพาไป ขอเพียงแค่อย่างเดียว... ขอแค่ให้ผมได้อยู่ใกล้กับเค้าแบบนี้ก็เกินพอ
“เราจะได้เจอกันอีกมั้ย”
ประโยคแรกที่ผมเริ่มคุยกับเค้า สัมผัสนุ่มนิ่มแผ่วเบาแตะทาบลงมาที่ริมฝีปาก รอยยิ้มละมุนในความมืดทำผมแทบระทวยจนแทบจะทรงตัวไม่อยู่ เค้าเดินผ่านตัวผมไปก่อนจะหันมายกยิ้มให้แล้วพูดเบาๆราวกับเสียงกระซิบที่ลอยมากับสายลมเอื่อยๆจากด้านนอก...
“แน่นอน...
แล้วเจอกัน คนแปลกหน้า”
เค้าพูดไว้แค่นั้นก่อนจะเดินออกไป... ทิ้งผมให้ยืนมองเค้าเดินออกไปจากห้องนิ่งๆ
หลังจากวันนั้นเค้าก็ไม่กลับมาหาผมอีกเลยเป็นเวลาประมาณสองอาทิตย์แล้วเห็นจะได้...
มันรู้สึกแปลก... อยากจะเจอหน้า ทุกๆครั้งที่ได้ยินเสียงเปิดประตูห้อง หรือแม้กระทั่งไฟดับ หัวใจของผมจะเต้นแรงทุกครั้ง... แต่ก็ไม่มีวี่แววอะไรว่าเค้าจะออกมาหา รอยยิ้มละมุนละไมจากกลับปากคู่สวย เสียงแหบพร่าของเค้าที่ชอบกระซิบอยู่ข้างหู คิดถึง... คิดถึงทุกสัมผัสของเค้า คิดถึงทุกอย่าง อยากจะเจอกับเค้าอีกซักครั้ง
ผมพยายามตามหาเค้า ถามจากคนในร้านที่ผมไปเจอเค้าครั้งแรก... แต่ก็ไม่มีใครเลยซักคนที่สามารถจะให้คำตอบแก่ผมได้ รู้สึกหมดหวังและห่อเหี่ยว... คนแปลกหน้าคนนี้ก็คงจะเหมือนกับพวกคนอื่นๆสินะ หวังจะหาแต่ความสุขจากเรือนร่าง... บางทีเค้าคงจะเป็นคนที่เชื่อคนง่ายมากไปจริงๆนั่นแหละ... อา... ไม่ดีเลยแบบนี้
“แล้วเจอกัน คนแปลกหน้า”
คำพูดนี้ของเค้ายังคงวนเวียนอยู่ในหัวสมอง... เค้าพูดแบบนั้นแต่เค้ากลับหายไปไหนก็ไม่รู้ อยู่ดีๆน้ำตาเม็ดกลมก็ไหลลงมาจากดวงตากลมโตอย่างห้ามไม่อยู่ ผมไม่รู้ว่าจะร้องไห้ไปเพื่ออะไร ร้องไห้ไปทำไม ร้องไห้เพราะความโง่และเชื่อคนง่ายของตัวเองน่ะหรอ... แต่ยังไงน้ำตาที่ล่วงไหลลงมามันก็ไม่เห็นจะมีท่ทีว่าจะหยุดไหลเลยซักนิด ผมร้องไห้สะอึกสะอื้นจนตัวโยน ก่อนจะเผลอหลับไปเพราะความเหนื่อยอ่อน...
.
.
.
.
.
.
.
เสียงกุกกักจากระเบียงห้องปลุกผมให้ตื่นขึ้นมาจากความฝันอันแสนหวาน แดดอ่อนๆยามเย็นมันแทยงตาจนผมต้องหยีตาจนมันเป็นเส้นตรง บิดขี้เกียจเล็กน้อย ก่อนจะไปสะดุดกับกระดาษสีเหลืองอ่อนที่วางแหมะอยู่บนเตียงกว้าง มือบางหยิบมันขึ้นมา มองหาเจ้าของของมันที่ส่งมาหาผมแต่ก็ไม่พบอะไรเลย... แถมยังสงสัยอีกต่างหากว่ามันเข้ามาในนี้ได้ยังไง ถ้าจะเป็นพวกโพสต์แมนอะไรนั่นก็คงจะเป็นไปไม่ได้หรอก หรือเค้าละเมอกันแน่นะ ?
แต่อีกคนนึงที่สามารถเข้าออกห้องของผมได้โดยไม่ต้องเรียกเค้าก็มีแค่คนเดียวเท่านั้น...
ผมรีบแกะห่อจดหมายนั่นอย่างเร่งรีบ แล้วค่อยๆคลี่กระดาษสีขาวโล่งที่มีข้อความสั้นๆอยู่ในนั้น หัวใจของผมพองโตเมื่อได้อ่านข้อความในนั้น รู้สึกยิ้มกว้างที่สุดเท่าที่อาทิตย์ทั้งอาทิตย์เคยยิ้มมา ผมรีบวิ่งไปหยิบเสื้อคลุมที่แขนไว้ในตู้มาสวมใส่ แล้ววิ่งออกจากห้องไปพร้อมกับกำกระดาษแผ่นนั้นไว้ในมือแน่น
‘ เราจะได้เจอกัน... มาหาผมสิ สวนสาธารณะใกล้ๆนี่แหละ ผมจะรอคุณ รอจนกว่าคุณจะมา
คุณคนแปลกหน้า
KRIS W. ’
ผมวิ่งไปที่สวนสาธารณะใกล้คอนโดของผม ผมพยายามวิ่งให้เร็วที่สุดในรอบปีที่เคยวิ่งมา จากระยะทางมาที่นี่มันก็อยู่ห่างกันเยอะพอสมควร คนที่ไม่เคยออกกำลังกายบ่อยๆก็ต้องเหนื่อยหอบอย่างนี้เป็นธรรมดา
ผมเดินตามหาเค้าไปทั่วแต่ก็ไม่พบวี่แววของผู้ชายตัวสูงเฉียด 190 คนนี้... กระดาษแผ่นนั้นยังคงอยู่ในมือ ผมกำมันแน่นจนมันยับยู่ยี่ไปหมดแล้ว ตากลมกวาดมองไปรอบๆก็ไม่เห็นวี่แววของเค้าว่าจะโผล่มา มีแต่เพียงเด็กเล็กๆ พ่อแม่ผู้ปกครองเด็กเหล่านั้นที่พาลูกพาครอบครัวมานั่งเล่นก็เท่านั้น
ผมทรุดตัวลงนั่งกับโต๊ะหินอ่อนแล้วถอนหายใจยาวพรืด น้ำตาที่มันแห้งกลับไปแล้วมันก็ไหลลงมาอีกครั้ง อยากจะห้ามเอาไว้ไม่ให้มันไหลออกมาก็ห้ามเอาไว้ไม่อยู่ เสียงสะอื้นของผมดังลั่นโดยไม่สนใจว่าคนที่ผ่านไปมาเค้าจะคิดว่าผมบ้ามั้ยที่มานั่งร้องไห้แบบนี้ไม่อายใครเลย... แต่ตอนนี้คงไม่มีอะไรต้องอายซะแล้วล่ะมั้ง
ผมคงจะโดนหลอก โดนซ้ำแล้วซ้ำอีกเพียงเพราะเชื่อคำพูดคำบอกแค่ไม่กี่คำของคนๆเดียวที่ผมไม่เคยรู้จักเค้าซักนิด ผมมันโง่จริงๆ โง่แล้วยังมานั่งเสียน้ำตาอีก คงไม่มีใครโง่ไปมากกว่าผมอีกแล้วล่ะ...
“คุณครับ...”
เสียงทุ้มแหบพร่าคุ้นหูพร้อมกับแรงสะกิดจาดด้านหลังเบาๆทำให้ผมต้องหันกลับไป คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากันจนมันชิดเป็นปม ชายร่างสูงใหญ่ที่ใส่หมวกปิดหน้าทำผมใจเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ เค้าค่อยๆถอดหมวกออกจากหัวตัวเองช้าๆ รอยยิ้มละมุนที่ผมโหยหามาตลอดสองอาทิตย์ ผมไม่รู้หรอกว่ามันน่าเขินหรือน่าอายขนาดไหน ผมปล่อยโฮออกมาพร้อมกับโผเข้ากอดเค้าจนเซไปอีกด้าน ใบหน้าหวานซบลงกับลาดไหล่กว้างพลางร้องไห้สะอึกสะอื้นจนเค้าต้องลูบหัวเบาๆเพื่อเป็นการปลอบพร้อมกับจดจมูกลงมาที่กลุ่มผมนิ่ม
กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆที่คุ้นเคยของเค้า ความอบอุ่นจากอ้อมกอดของเค้าที่ผมโหยหา ทำผมแทบกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่
แขนเรียวยาวโอบตวัดรัดรอบคอของเค้าเอาไว้แน่น ร่างกายขยับไปตามแรงกระแทกที่เค้ากระแทกกระทั้นใส่มาไม่ยั้งเพราะความต้องการที่พุ่งทะยานสูง เสียงกรีดร้องของผมและเสียงครางต่ำในลำคอของเค้าดังไปทั่วทั้งห้อง... ห้องเดิม เตียงเดิม สัมผัสเดิมจากคนแปลกหน้า ที่ตอนนี้ไม่คนแปลกหน้าอีกต่อไป ทำให้น้ำตาของผมไหลออกมาไม่หยุด... น้ำตาที่ไหลออกมาจากความสุข ไม่ใช่ความทุกข์หรือความเจ็บปวด มันมีความสุขมากจนเกินจะบรรยายให้ออกมาเป็นคำพูด
“อ๊า! อย อย่าไปไหนอีกนะ อึก... อี้ฝาน”
“ไม่ไป... หัวใจฉันอยู่ที่นี่ ฉันจะอยู่กับนาย... ชานยอล”
ขอบคุณโชคชะตาที่เล่นตลกกับผม พาคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนให้มาเจอกัน มีความสัมพันธ์กันที่ไม่ใช่แค่เพียงช่วงข้ามคืน... แต่เป็นตลอดไป
ขอบคุณนะครับ... คนแปลกหน้าที่ของผม
- FIN -
*EDIT 4/1/13
ความคิดเห็น