ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [WINNER] still {Minho x Taehyun} - end

    ลำดับตอนที่ #16 : ตอนที่ 15: เข้าบ้าน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 638
      5
      21 ก.ค. 58

    Still015

     

    บรรยากาศในห้องนักการเมืองชื่อดังอึดอัด การแข่งขันที่กลับมาระหว่างเขาและอีกฝ่ายมันทำให้ชายชรารู้สึกท้อแท้ เขากำลังกลับเป็นเขาคนเดิม คนที่ทำทุกอย่างเพื่อแย่งชิงความเป็นที่สุด จมูกโด่งนั้นถอนหายใจออกมา ก่อนที่เสียงแหบพร่าจะเอ่ยถามอย่างคร่ำเครียด

     

     

     

    “มันไปไหน”

     

    “ไม่ทราบครับ เราตามดูที่บ้านมาสองวันแล้วแต่ก็ยังไม่พบ คุณหนูของมันก็ด้วย”

     

    “คุณหนูอย่างนั้นเหรอ... ถ้าเด็กคนนั้นอยู่ด้วยก็อย่าผลีผลามทำอะไรอีก”

     

    “ขอโทษครับ”

     

     

     

    ลูกน้องเอ่ยบอกอย่างรู้สึกผิด คราวก่อนเป้าหมายคือมินโฮแต่มันดันโง่เข้าใจผิดว่าเป็นคนตัวเล็กผิวขาว ดึงอีกฝ่ายมาใกล้จนปลายมีดเกือบจะเบนผิดทาง ดีที่ยังพอรู้จักระวัง เขาไม่อยากให้มีใครตายในเกมส์นี้อีกเหมือนคราวก่อน

     

     

     

    “ตามหามันให้เจอ รถร่วงลงเหวขนาดนั้นยังไม่ตาย”

     

    “...”

     

    “มันคงไม่ธรรมดา”

     

    “ทำไมเราไม่ฆ่ามัน หรือจับมันทรมาน ผมคิดว่าการปั่นประสาทแบบนี้มันดูไม่มีประโยชน์”

     

    “บีบมันแบบนี้ล่ะดีแล้ว เดี๋ยวมันก็มีประโยชน์เอง”

     

     

     

    เขาเอ่ยบอก ก่อนจะบี้แท่งนิโคตินในมือลงกับที่เขี่ยบุหรี่ ซงมินโฮเย็นชาเกินกว่าที่จะทำอะไรตรงๆ ชายชรายังคงเหลือบสายตามองออกไปด้านนอก พร้อมกับยกยิ้ม เขาจำเป็นต้องเล่นสงครามชีวิตอีกครั้ง เพื่อเสี่ยงให้ได้ในสิ่งที่ต้องการได้ เพราะเกมส์นี้

     

    เราใช้ทุกอย่างเป็นเดิมพัน...

     

     

     

    “ไปได้ รีบตั้งใจทำงานของนาย ไม่อย่างนั้นฉันไม่รับประกันชีวิตนายเหมือนมัน”

     

     

    เอ่ยบอกครั้งสุดท้าย ก่อนที่การ์ดของตนจะพยักหน้ารับ การกำจัดเสี้ยนหนามในครั้งนี้ดูจะยากกว่าที่เคยเพราะความดวงแข็งของอีกคน คนที่กำลังควบคุมฐานข้อมูลของบริษัทแต่ทำให้ฐานตนเองถูกล็อคมันก็น่าสนใจอยู่เหมือนกัน เพราะอย่างนั้นเขาจึงต้องบีบ บีบประสาทมันให้มันรู้สึกสิ้นหนทางแล้วมันจะทุรนทุรายต่อเอง ริมฝีปากพ่นควันสีเทาออกมาลอยคละคลุ้งอย่างเหนื่อยใจ ซงมินโฮ เขาเกลียดชื่อนี้จริงๆ

     

     

     

     

     

     

     

    คังซึงยุนกำลังจะเป็นบ้า

     

    เขาพร่ำบอกตัวเองแบบนี้รอยที่ร้อยได้แล้ว ดวงตากวาดมองรอบนอกของบ้าน รถสีดำขับวนไปวนมาตะล่อมมองแบบนี้มาสองวันแล้ว หนักที่สุดก็เมื่อคืน บีบแตรด้วย ตามซึงยุนไปตลาดด้วยจนเขาจะสติแตกอยู่แล้ว

     

    จากคนที่ไม่เคยต้องหวาดกลัวอะไรเพราะอยู่ด้วยความสงบมาตลอดก็เหมือนจะเป็นบ้าวันนี้ วันที่ซงมินโฮกับนัมแทฮยอนออกจากบ้านไปแล้วขอให้เขาเก็บเป็นความลับ ถูกต้องมันเป็นความลับ เป็นความลับขนาดที่ไอ้พวกที่คอยตามเรายังไม่รู้

     

    และยิ่งพวกมันไม่รู้ ซึงยุนก็ยิ่งรับศึกหนัก

     

    เขาถอนหายใจแรง สองมือกำโทรศัพท์ไว้แน่น ตอนนี้ก็สองทุ่มกว่าดึกมากแล้วแต่ก็ยังจนปัญญาเพราะติดต่อมินโฮกับแทฮยอนไม่ได้ มันเป็นการไปแบบที่ต้องปลอดภัยที่สุดกับทั้งสองคน

     

    แกร๊ก!

     

     

     

    “โอเคหรือเปล่า ?”

     

    เสียงทุ้มเล็กของคนที่ซึงยุนขอความช่วยเหลือมาถึงแล้ว

     

     

     

    “อีซึงฮุน”

     

     

     

    เอ่ยเรียกชื่อคนที่หน้าตาตื่นเข้ามา เขาเดินมาประชิดตัวซึงยุนพร้อมกับจับไหล่เล็กนั้นไว้แน่นด้วยความเป็นห่วง ซึงยุนถอนหายใจอีกครั้ง อันที่จริงความเพ้อเจ้อเว่อวังของซึงฮุนดูจะช่วยคลายความเครียดเขาได้มากทีเดียว

     

     

     

    “ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย”

     

    เอ่ยบอกอีกคน ก่อนจะจิ้มหน้าผากนั้นแรงๆ

     

     

     

    “แต่โทร.เรียกมาตอนนี้เนี่ยนะ นึกว่าเป็นอะไรไป”

     

    “ไม่ได้เป็นอะไร” ซึงยุนยังคงเอ่ยย้ำ

     

     

     

    แต่ซึงฮุนก็ยังเป็นห่วง เขาอยู่บริษัทและกำลังจะกลับบ้านแต่ซึงยุนโทร.มา อีกฝ่ายโทร.มาเล่าเรื่องพวกที่มาตามที่บ้านให้ฟังอีกครั้ง ช่วงหลังมานี้โทร.บ่อยจนซึงฮุนเป็นห่วง และคราวนี้เขาก็ตัดสินใจขับรถมาที่นี่ก่อน พอเห็นสีหน้าซึงยุนแล้วก็ใจไม่ดี แต่อีกคนก็ยังปากแข็งบอกว่าไม่เป็นอะไร

     

    หรือจะให้เขาพูดว่าเป็นห่วงขนาดไหน ถึงจะได้ยอมบอกว่ามีอะไร...

     

    ชายหนุ่มถอนหายใจ ละมือออกจากไหล่บาง ก่อนจะเปลี่ยนประเด็นไปเรื่องอื่นแทน

     

     

     

    “แล้วนัมแทฮยอนกับซงมินโฮล่ะ”

     

    “ช่วยทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นได้ไหม”

     

     

     

    ซึงยุนเอ่ยบอก พร้อมกับนั่งลงที่โซฟา ดวงตาของอีกฝ่ายมองไปทางอื่น ความกังวลใจมีมากกว่าทำให้เขาเลือกจะโทร.หาซึงฮุนและให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าน้องชายไม่ได้อยู่ที่นี่ ซึ่งแทฮยอนไม่อยากให้เป็นแบบนั้น แต่ทว่าตอนนี้เขาก็กลัวมากเหมือนกัน ซึงฮุนกวาดตามองรอบๆอีกครั้ง ฟังจากประโยคของอีกคนก็พอจะตีความได้ว่าทั้งสองคนไม่อยู่ที่นี่ เขาถอนหายใจ ก่อนจะเอนกายทิ้งลงบนโซฟาบ้าง

     

     

     

    “เขาไปไหน” อย่างน้อยถึงจะบอกว่าช่วยทำเป็นไม่รู้แต่ให้เขารู้สึกนิดก็ยังดีว่าไปไหน และแน่นอนว่าคนอย่างคังซึงยุนน่ะเหรอจะยอมบอก

     

    “นายไม่เห็นจำเป็นต้องหวงน้องขนาดนั้น” ซึงยุนว่า

     

    “ก็โทร.ตามมาขนาดนี้ จะไม่ให้ห่วงน้องแล้วจะให้ฉันห่วงนายหรือไง”

     

    “อือ ห่วงฉันไปก่อนก็ได้”

     

    “...”

     

    “อนุญาต”

     

     

     

    แล้วเขาก็ต้องหยัดกายขึ้นมามองคนข้างๆ สีหน้าของซึงยุนยังดูกังวล ลอบมองออกไปนอกหน้าต่างบ่อยครั้ง ซึงฮุนเองก็พอจะเข้าใจ ถ้าอีกฝ่ายอนุญาตเขาขนาดนี้ เขาจะยอมลืมเรื่องแทฮยอนกับมินโฮไปวันหนึ่งก็ได้

     

    อันที่จริงเขาควรจะลืมทุกอย่าง แล้วก็เป็นห่วงคนตัวเล็กกว่าตรงหน้านี้ เพราะที่นี่มีแค่เราสองคน มือหนาคว้าเอามือของอีกคนมาจับไว้

     

    ซึงยุนหันหน้ามามองช้าๆ...

     

     

     

    “ฉันจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เรื่องแทฮยอนให้”

     

     

     

    เขาอ้าง พร้อมกับจับมือเล็กนั้นแน่นขึ้น หัวใจของชายหนุ่มเต้นแรงพร้อมกับซึงยุนที่หันหน้าไปทางอื่น ความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นครั้งสุดท้ายตอนไหนนะ...

     

    ซึงฮุนถามตัวเองพลางมองเสี้ยวหน้าของอีกคน

     

    อาจจะเป็นตอนสมัยมัธยมที่เขาตามจีบซึงยุน หรืออาจจะเป็นตอนมหาวิทยาลัยก่อนเขาจะย้ายไปเรียนต่างประเทศ

     

    นานจนเกือบจำไม่ได้แล้ว

     

     

    “จับมือไม่ได้อยู่ในข้อตกลง”

     

    “...”

     

    “แต่จะยอมก็ได้”

     

     

     

    ซึงยุนพึมพำแผ่วเบา แต่ก็เรียกรอยยิ้มจากจนที่กำลังเกลี่ยหลังมือตนเองเล่นอยู่ได้ไม่ยากเท่าไหร่นัก

     

     

     

     

     

     

     

    จบจากมื้อเย็นมินโฮก็หายไปกับจีฮุนอีกครั้ง ถึงแทฮยอนจะสงสัยแต่เขาก็ถูกคุณนายซงกักตัวเอาไว้จนดึก เราคุยเล่นสนทนากันตามประสาคนไม่เจอกันมานาน แต่นัมแทฮยอนก็คือนัมแทฮยอน ร่างเล็กเลือกจะเลี่ยงเล่าเรื่องพ่อตนเองทุกครั้ง

     

    ถึงคุณนายซงจะเป็นห่วงแต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้

     

    มันเป็นแบบนี้แต่ไหนแต่ไร คุณท่านไม่ค่อยมอบความรักให้แก่ลูกๆของเขานัก จะมีก็แต่คุณผู้หญิงที่ด่วนจากไปแล้ว

     

     

     

    “สามทุ่มแล้วนะ มินโฮกับจีฮุนไปไหนอีกล่ะเนี่ย”

     

     

     

    เธอบ่นเบาๆ เมื่อคุณหนูของเธอต้องใช้ห้องนอนเจ้าลูกชายตัวดี แต่พอมื้อเย็นก็หนีหายไปเสียอย่างนั้น แทฮยอนหัวเราะเบาๆให้กับคำบ่นของคุณนม

     

     

     

    “เดี๋ยวก็คงมาล่ะครับ คุณนมอาบน้ำเถอะ ผมจะเข้านอนแล้วเหมือนกัน”

     

    “เดินไหวหรือเปล่าคะ นมช่วยเอาไหม?”

     

    “ไม่เป็นไรครับ เล็กน้อยน่ะ”

     

     

     

    เอ่ยบอกยิ้มๆก่อนที่เราจะแยกย้ายกันไปจัดการตนเอง ห้องนอนของมินโฮไม่ใช่ห้องกว้าง มีเพียงแค่ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางหนังสือแล้วก็เตียงขนาด 5 ฟุต บอกแบบนั้นแต่ 5 ฟุตก็ไม่ได้กว้างเท่ากับเตียงแทฮยอนแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็นอนได้

     

    กลิ่นของมินโฮยังพาลพาให้หัวใจเต้นแรงเสมอ ทั้งผ้าเช็ดตัวแล้วก็ชุดนอนของอีกคนที่เจ้าตัวอนุญาตให้หยิบมาใส่ได้ทุกตัวในตู้ คิดแล้วก็เขินเหมือนกัน ใบหน้าขาวขึ้นสีอย่างช่วยไม่ได้

     

    แทฮยอนจัดการเปิดแอร์ทิ้งไว้ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำ พอจัดการธุระของตัวเองเสร็จก็ได้ยินเสียงคนคุยกันอยู่ที่นอกระเบียง กายบางเลยค่อยๆสาวเท้าออกไปดูอย่างระมัดระวัง เพราะนี่เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่เดินเองบนที่สูง

     

    ยังไม่ชิน...

     

     

     

    “มีคนมาตามว่ะมินโฮ กูเข้าบ้านก่อนนะ”

     

     

     

    เสียงพโยจีฮุนเอ่ยบอก พร้อมชูกระป๋องเบียร์ให้เพื่อนรักด้วย มินโฮเองก็ยิ้มกระหยิ่ม ชายหนุ่มสองคนถอดเสื้อตัวนอกออกพาดบ่านั่งดื่มเบียร์ริมระเบียง เพราะห้องของทั้งคู่ติดกันพวกเขาเลยเลือกใช้มันเป็นที่สนทนากันโดยไม่ต้องไปบ้านใคร

     

    แทฮยอนมองบานเลื่อนกระจกของบ้านอีกฝั่งที่ปิดลง ก่อนจะมองมินโฮที่เอนกายพิงระเบียงระหว่างที่มืออีกข้างก็ถือกระป๋องเบียร์เอาไว้

     

     

     

    “มินโฮ เข้าบ้านเร็ว ดึกแล้วนะเดี๋ยวไม่สบายหรอก”

     

     

     

    เสียงใสๆเอ่ยบอก สาวเท้าไปหาอีกคน ดวงตาคมสวยเลื่อนมองแทฮยอนในความมืด ใบหน้าขาวสว่างกับเสื้อยืดของเขาขับให้คนตรงหน้าขาวกว่าดาวดวงใดบนท้องฟ้าที่เขาเพิ่งแหงนมอง มือหนาเอื้อมมาลูบแก้มนิ่มเบาๆ

     

     

     

    “ง่วงแล้วเหรอครับ”

     

     

     

    สัมผัสแผ่วเบาแต่ร้อนไปถึงหัวใจที่เต้นแรงทำให้แทฮยอนพยักหน้าขึ้นลงแทนคำตอบ กลิ่นเบียร์ลอยมาแตะจมูกแต่ก็ยังไม่เท่ากลิ่นบุหรี่จางๆที่ลอยอวลอยู่รอบๆ ลมเย็นๆพัดผ่านเราทั้งคู่ก่อนที่มินโฮจะใช้ปลายนิ้วทัดผมให้อีกคน

     

     

     

    “มินโฮสูบบุหรี่”

     

    “เปล่าครับ ของจีฮุนน่ะ”

     

    “แต่มินโฮดื่ม เข้าบ้านได้แล้ว”

     

     

     

    ว่าพร้อมกับจับมือซนๆของอีกคนเอาไว้พร้อมกับกระตุกแขนให้ร่างของคนที่ตัวสูงกว่าเดินไปด้วยกันทว่าออกแรงเท่าไรอีกคนก็ไม่กระดิก ดึงแขนจนเหนื่อยจึงยอมหันกลับไปหาคนด้านหลัง เห็นสภาพอีกฝ่ายที่ยืนยิ้มเยิ้มๆแล้วก็อดไม่ได้ที่จะเป็นฝ่ายถอยกลับไปหิ้วคนตัวใหญ่เข้าไปนอน

     

    แต่เปล่า ไม่ใช่...มินโฮไม่ได้เมาจนเดินไม่ไหว

     

    เขาอยากแกล้งคุณคนเล็ก

     

    วงแขนกว้างตวัดเอวบางมาแนบอก มืออีกข้างบีบกระป๋องเบียร์จนเกิดเสียงดัง แทฮยอนหน้าตื่นมองคนฉวยโอกาสยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้สองแขนเล็กพยายามดันอีกคนออกพร้อมเอนตัวไปด้านหลัง หนีสัมผัสรวดเร็วของอีกฝ่าย

     

     

     

    “แทฮยอน”

     

     

     

    เจ้าของเสียงทุ้มเอ่ยเรียกชื่อจริงของคนตรงหน้าพร้อมกับเอนตัวขึ้นแล้วรั้งแผ่นหลังบางให้กายของอีกฝ่ายแนบชิดติดอกตนไม่วายกอดรัดแน่นๆไม่ให้อีกคนได้ขยับไปไหน คนตัวเล็กกำลังพยศเพราะความตกใจแต่ก็หนีไปไหนไม่รอด

     

    แกร๊ก...

     

    เสียงกระป๋องเบียร์ร่วงลงไปที่พื้น ลมหายใจร้อนผ่าวรดรินที่ปลายจมูก กลิ่นเบียร์จางๆคือกลิ่นที่แทฮยอนสัมผัสได้ ก่อนที่จะรู้ตัวอีกทีความเย็นจากริมฝีปากหยักเข้มก็ทาบทับลงมา

     

    สัมผัสนุ่มละมุนเช่นทุกครั้งที่แทฮยอนได้รับจากอีกคน ขอตรงๆบ้างตอนป่วย ฉวยโอกาสบ้างบางเวลา หรือบางครั้งก็เป็นเพราะโอกาสเป็นใจ แต่ทุกครั้งกลับอ่อนหวานจนแทฮยอนไร้เรี่ยวแรง คราวนี้ก็เช่นกัน

     

     

     

    “อือ...”

     

     

     

    เหมือนเด็กน้อยในอ้อมกอดที่เมื่อถูกจูบหนักๆหรือดูดดึงริมฝีปากแรงๆเข้าหน่อยก็เผลอครางท้วงเพราะเสียววาบในท้องน้อยจนทนไม่ไหว เบียดกายเข้าหาอกอุ่นร้อนเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ สองมือที่เคยวางทาบอยู่บนอกเคลื่อนขึ้นไปกอบใบหน้าของอีกฝ่ายไว้อย่างลืมตัว

     

    แทฮยอนหมดแรง อ่อนระทวยแต่คนดึงดันก็ยังประคองร่างเขาไว้

     

    มินโฮไม่เคยปล่อยให้ริมฝีปากตรงหน้าเป็นอิสระ เขาห่างเพียงนิดเดียวก่อนจะจูบดูดดึงกลีบปากนุ่มอีกครั้ง ยิ่งได้ลิ้มลองหัวใจก็เต้นแรง จากที่เคยขบเม้มแค่ริมฝีปากก็เปลี่ยนเป็นสอดปลายลิ้นเข้าไปทักทายโพรงปากนุ่มละมุน

     

     

     

    “อื้อ”

     

     

     

    แทฮยอนครางเสียงสูงขึ้นไปอีกเมื่อสัมผัสวาบหวามเร่งอัตราการเต้นของหัวใจ หัวสมองเริ่มตื้อจนคิดอะไรไม่ออก ลิ้นร้อนร้ายกาจกวาดตอนโพรงปากของเขาทั่วทุกมุม ก่อนจะวกกลับมาตวัดดูดดึงเรียวลิ้นของแทฮยอน รสชาติจางๆของเบียร์ยิ่งทำให้แทฮยอนหายใจไม่ทั่วท้อง เสียววูบปวดมวนท้องไปหมด

     

    เข่าอ่อน จนเกือบจะล้มลง

     

    ริมฝีปากผละออกจากกัน น้ำหยดใสหยาดเยิ้มเชื่อมเราเอาไว้ มินโฮก้มใบหน้าใช้ปลายลิ้นเลียหยาดน้ำนั่นก่อนจะดูดปากของคนตัวเล็กแรงๆอีกที

     

    แทฮยอนได้แต่ซุกใบหน้าลงกับคออุ่นๆของอีกคน

     

     

     

    “ลิ้นคุณคนเล็กหวาน”

     

    ปัก!

     

     

     

    เป็นครั้งแรกที่ทำอะไรแบบนี้แล้วพูดจาวอนโดนกำปั้นจากอีกคนจนถูกทุบอั้ก จูบแรก มันคือจูบแรกจริงๆที่ร้อนแรงจนร่างกายเหมือนจะไหม้ คนทำสุขหัวใจพอๆกับคนถูกกระทำที่ใจเต้นแรง เขินจนไม่กล้าขยับไปไหนได้แต่กอดอีกคนแน่น

     

    มินโฮหัวเราะ ก่อนที่เขาจะอุ้มกายบางขึ้น

     

    ไฟในห้องถูกปิดมืดเพราะคนตัวเล็กคิดว่าจะนอนแล้ว จึงออกไปตามอีกคน วงแขนแกร่งบรรจงวางร่างน้อยลงกับเตียง ทันทีที่แผ่นหลังแนบลงอย่างปลอดภัย คนที่เคยเกาะหนึบหนับเมื่อสักครู่ก็ยอมคลายแขนออก

     

    แต่ที่แล้วใหญ่ไปกว่านั้น

     

    ซงมินโฮไม่ได้ผละออกไปจริงๆ เขายังคร่อมอีกฝ่ายไว้อยู่จนใบหน้าขาวในความมืดแดงฉ่า ปลายนิ้วไล้เล่นอยู่ที่พวงแก้ม ก่อนจะลากต่ำลงมาจนถึงลำคอและคอเสื้อขาวเมินเหม่ ใช้นิ้วซนๆเกี่ยวเสื้อลงมาจนถึงหัวไหล่ขาวแล้วหยุดไว้แค่นั้น

     

    ริมฝีปากร้อนบรรจงจูบข้างแก้มแผ่วเบา

     

    ลากต่ำมาถึงลำคอ ไหปลาร้าสวยและหัวไหล่ขาว

     

    คนถูกกระทำได้แต่กัดริมฝีปากมองหน้าคนที่กำลังยุ่มย่ามกับร่างกายตนเองอย่างไม่มีคำพูดใด ไร้เสียงเพราะร่างกายสั่นไปหมด ใบหน้าก็ร้อนเห่อ จนไม่กล้าสบตากับอีกฝ่าย อีกคนร่นเสื้อลงมาขอบคุณความใหญ่ของขนาดเสื้อที่ร่นลงมาจนถึงอกเล็กเมินเหม่

     

    เนินอกสวย ตามแบบผู้ชาย แต่ผิวนุ่มนิ่มเหมือนผิวสตรี เขากดใบหน้าฝังไปมาอย่างออดอ้อน สัมผัสวาบหวามทำให้แทฮยอนหายใจไม่ทั่วท้อง

     

    ปลายลิ้นแลบเลียระหว่างขอบคอเสื้อกับหน้าอกนุ่ม

     

     

     

    “พ...พี่มินโฮ”

     

    “หวาน”

     

     

     

    พอเรียกชื่ออีกฝ่ายสิ่งที่อีกคนตอบกลับมาก็เท่านั้น เขารู้ได้ถึงแรงสั่นจากร่างกาย รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้า วงแขนรวบกอดกายบางเอาไว้ ฝังใบหน้าลงกับซอกคอแล้วเอ่ยพึมพำอยู่บริเวณผิวนุ่ม

     

     

     

    “พี่อยากกอดเรา”

     

    “...”

     

    “ขอกอดเราได้ไหมครับ”

     

     

     

     

     

     




     

     

    UP 21.07.15

    ตอนหน้าสแตนด์บายในบลอคไว้เลยค่ะ qqqqtun.weebly.com

    อัพให้สองตอนไม่ใช่อะไร คิดว่าตอนที่แล้วมันจืดไปหน่อย แค่มีพโยมาช่วยให้พี่มินโฮหวิดตายไปนิดหนึ่ง

    ทีนี้ก็ต้องรอดูกันต่อไปเนอะ ว่าพี่มินโฮจะหาตัวคนทำได้ไหม

    ตอนหน้าก็หวานไปก่อนละกันนะคะ แฮ่ะ

     

    ปล. คนที่ถามหาทูซึง จะบอกว่าฟิคเรื่องนี้ไม่มีคู่รองนะคะ แค่เอามาเติมสีสันให้เรื่องเล็กๆน้อยๆ

    ก็จะเป็นประมาณนี้แหล่ะค่ะ มึนๆกัดๆ น่ารักๆไปเท่านี้ ขอโทษจริงๆ

    จิ้นอีกสามคนที่เหลือไม่ออกเลย แต่เวลาแต่งก็เพลินดี ฮ่าๆ

     

    ปล.2 ดีใจนะที่ทุกคนยังไม่ทิ้งกัน มีคนบอกเรื่องนี้มิ้งแปลกๆ

    อาจเพราะเค้าเป็นคนชอบอ่านนิยายผู้ใหญ่น่ะค่ะ

    สไตล์เค้าเลยจะไปทางนั้นมากกว่ารักใสๆแบบแจ่มใส 555

     

    แต่รับรองความหวานค่ะ อิ_อิ

     

    B E R L I N ❀
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×