คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3: ทัน
Still003
“เริ่มใหม่นะครับ”
เสียงทุ้มนั้นเอ่ยบอกคนทั้งกำลังจมอยู่ในอ้อมกอดของตนเอง แทฮยอนพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนที่เขาจะพยายามยืนขึ้นอีกครั้งแล้วให้มินโฮประคองตนเองซึ่งพยายามจับราวเหล็กไว้ เจ้าของร่างสูงถอยตัวกลับไปยังอีกด้าน
เขายินดีจะเป็นปลายทางให้คุณคนเล็ก
และยินดีจะรับคุณคนเล็กไว้เช่นกันหากอีกฝ่ายล้มลงไป
หลังจากกายภาพบำบัดวันนั้น ภายหลังซึงยุนก็ได้เวลาว่างในช่วงบ่ายแก่ๆไปด้วยโดยปริยาย เขารู้สึกขอบคุณมินโฮในใจทุกครั้ง ยามที่เห็นแทฮยอนพยายามทำอะไรหลายอย่างด้วยตัวเองตั้งแต่ที่อีกฝ่ายเข้ามา คำพูดเพียงไม่กี่คำพูดกลับสร้างอิทธิพลมากมายในจิตใจเสียจนเขาเองยังแปลกใจ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงแทฮยอน
เขาเคยมองเห็นสีขาวที่หมายถึงความจืดชืดและบริสุทธิ์ในตัวร่างเล็กนั้นแต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไป เขามองเห็นสีสันมากมายในตัวของอีกฝ่าย แต่สีสวยงามเหล่านั้นก็สะท้อนออกมาจากซงมินโฮ ผู้ชายสุขุมและสุภาพคนนั้น
ซึงยุนลอบยิ้มจาง ระหว่างทั้งสองคนมันเป็นความสัมพันธ์ในแบบที่คนมองอบอุ่นหัวใจจริงๆ
“แทฮยอนอา วันนี้คุณหมอจะเข้ามาตรวจตอนเที่ยงนะ ตื่นเร็ว” ซึงยุนเอ่ยปลุกคนที่กำลังนอนคุดคู้อยู่ในผ้าห่ม วันนี้เป็นอีกวันที่อากาศดีเสียจนตัวเขาเองก็ไม่อยากลุกจากเตียงเหมือนกัน แต่ทำอย่างไรได้ วันนี้วันสำคัญเสียด้วยสิ
“ไม่อยากอวดเรื่องคุณมินโฮกับคุณหมอหรือไงเรา” เสียงทุ้มนุ่มนั้นยังเอ่ยบอกคนที่ครางฮือราวกับรับรู้แต่ก็ไม่ยอมขยับตัวไปไหน ชายหนุ่มถอนหายใจออกมา
แขนยาวเก้งก้างของซึงยุนดึงผ้านวมผืนหนาจากปลายเตียง เรียกเสียงครางไม่พอใจของแทฮยอนได้เป็นอย่างดี เปลือกตาบางกระพริบถี่ก่อนที่เจ้าตัวจะร้องไม่พอใจออกมาแล้วกลิ้งอยู่บนเตียงด้วยความเอาแต่ใจ
“ยังอยากนอนอยู่เลย!” แทฮยอนบ่นกระปอดกระแปดแค่ก็ยอมลุกขึ้นมาทำหน้าหงุดหงิดใส่ซึงยุนพี่เลี้ยงของเขา ริมฝีปากอิ่มนั้นคลี่ยิ้มออกมาอย่างนึกขัน มองดูคนขี้โวยวายที่เพิ่งจะตื่นนอนก็บ่นพึมพำแบบนั้น แต่ก็นั่นล่ะ ถ้าแทฮยอนไม่ยอมลุกตอนนี้ก็คงไม่มีใครมาพาคนตัวเล็กไปอาบน้ำ
คิดได้อย่างนั้นก็ต้องยอมง้อซึงยุน
“เร็วสิ! ปลุกแล้วก็มารับผิดชอบด้วย”
“แหม่ ทราบแล้วครับๆท่านชาย” เอ่ยเย้าก่อนจะช่วยประคองแทฮยอนไปยังห้องน้ำ แขนยาวโอบตัวบางไว้อย่างเคยลำพังแรงเขาก็ไม่ได้มีมากมายเหมือนคุณมินโฮที่จะอุ้มเจ้าเด็กนี่ แต่เขารู้สึกว่าพักหลังมากนี้แทฮยอนเดินเก่งกว่าเก่าเสียอีก ซึงยุนเองก็ไม่ค่อยเปลืองแรงเท่าไหร่เสียด้วย ต้องขอบคุณมินโฮจริงๆ
ที่กำลังละลายความกลัวในใจของแทฮยอนช้าๆ
“อีกสิบห้านาทีจะให้คุณมินโฮมารับลงไปทานข้าวนะ พี่จะเตรียมอาหาร”
“ครับ” เสียงเล็กตอบกลับมาติดจะยานคางนิดหน่อย พร้อมกับเสียงน้ำจากอ่างล่างหน้าที่ถูกเปิด ซึงยุนยิ้มก่อนจะเดินออกจากห้องนอนของอีกฝ่าย
แต่แล้วเขาก็ต้องหยุดฝีเท้าลงเมื่อเห็นว่าวันนี้ดูเหมือนมินโฮจะแต่งตัวค่อนข้างดูดีผิดปกติ อันที่จริงมันผิดปกติมาก เพราะวันนี้อีกฝ่ายสวมเสื้อเชิ้ตสีอ่อนแบบเป็นทางกำลังเดินผูกไทท์ออกมาจากห้องนอนในขณะที่แขนอีกข้างก็พาดสูทไว้ด้วย
กำลังจะไปไหนน่ะ...
“ฝากแทฮยอนด้วยนะซึงยุน วันนี้ผมมีธุระไปพบนายใหญ่คงกลับมาตอนเที่ยง” เหมือนกับว่ามินโฮได้ยินเสียงในใจซึงยุนอย่างนั้น เจ้าของใบหน้าอิ่มกดลงช้าๆเป็นเชิงเข้าใจ เขามองชายร่างสูงที่กำลังก้าวเท้าลงบันไดอย่างเร่งรีบหลังจากที่มองดูนาฬิกาบนข้อมือของตนเอง
ซึงยุนขมวดคิ้ว...
“แต่วันนี้แทฮยอนมีนัดกับคุณหมอ” ประโยคนั้นเอ่ยดังขึ้น เมื่อมินโฮกำลังจะก้าวลงบันไดถึงขั้นสุดท้ายพอดิบพอดี คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเป็นนับว่าเขากำลังใช้ความคิดอยู่
วันนี้เป็นวันที่แทฮยอนมีนัดกับคุณหมอ แต่มันก็เป็นวันแรกเช่นกันตั้งแต่ที่เขามาถึงที่นี่มันจะเป็นวันแรกที่มินโฮจะได้พบหมอพร้อมๆกับคุณคนเล็กของเขา ชายหนุ่มคิดอยู่ครู่ใหญ่ ซึงยุนเองก็เดาใจเจ้าของแผ่นหลังกว้างไม่ถูก เขาไม่รู้ว่ามินโฮจะตัดสินใจเลือกอะไรระหว่าง
คุณคนเล็ก
กับ นายใหญ่
“กี่โมง” จนกระทั่งเสียงทุ้มนั้นเอ่ยถามขึ้นมาท่ามกลางความเงียบและความระทึกใจของซึงยุน อีกฝ่ายรีบลนลานตอบเขาทันที
“เที่ยงครับ”
“ผมคงกลับมาทันอยู่ ฝากบอกเขาด้วยนะครับ”
“ได้สิ” ซึงยุนเอ่ยบอก เขาผิดหวังนิดหน่อยที่มินโฮยังคงเลือกนายใหญ่ก่อนที่จะเลือกคนที่สำคัญอย่างแทฮยอน แต่เขาก็พูดอะไรมากไม่ได้อยู่ดี ซึงยุนไม่มีสิทธิ์ก้าวล่วงในความสำพันธ์นั้นของทั้งสองคน ขายาวก้าวลงบันไดตามร่างของอีกฝ่าย ต่างกันตรงแค่มินโฮเดินออกไปด้านนอกบ้าน ในขณะที่เขาเดินวนกลับเข้าไปในครัว
ในใจไม่อยากจะคิดเลยหากแทฮยอนพบว่าคนที่พาเจ้าตัวลงไปทานมื้อเช้าเป็นเขาไม่ใช่มินโฮ ร่างน้อยนั้นจะแอบคิดมากแอบโกรธในใจขนาดไหน
ซึงยุนได้แต่ภาวนาให้มินโฮกลับมาทันคุณหมอด้วยเถอะ
รถยนต์สีดำสนิทขับแล่นไปบนเส้นทางเงียบสงบ เวลาสายและถนนที่ไม่ถูกใช้งานแถบชานเมืองเช่นนี้ รถน้อยคันนักที่จะขับผ่านบวกกับมันเป็นทางเขาตามแบบภูมิประเทศแล้วด้วย คนเมืองยิ่งเลี่ยงจะใช้มันกันใหญ่ ในขณะที่คนไกลเมืองก็ไม่นิยมใช้รถนัก
แตกต่าง แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่มินโฮจะใส่ใจ เขาขอบคุณความว่างเปล่าบนถนนที่ทำให้ตนเองเหยียบคันเร่งจนเกือบมิดฝ่าเท้า มันเป็นความกังวลใจหลังจากที่มาถึงที่นี่โดยไม่มีอะไรให้ติดค้างใจมาสักพักหนึ่ง การใช้ชีวิตอยู่ดูแลแทฮยอนไปเรื่อยและพูดคุยกับซึงยุนเป็นบางครั้งบางครายังไม่เคยเป็นเรื่องน่าเบื่อเท่ากับการถูกนายใหญ่เรียกตัวเข้าเมืองในวันสบายๆแบบนี้
อันที่จริงจะว่าอย่างนั้นก็ไม่ได้ มินโฮเองก็เร่งทำงานให้ท่านอยู่เช่นกัน
ดูเหมือนว่านี่ก็ผ่านไปสัปดาห์กว่าแล้ว นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมนายใหญ่ถึงเรียกตัวเขาไปแม้เขาจะส่งรายงานความคืบหน้าให้กับท่าน มันดูเหมือนกับว่าฝั่งนั้นต้องการคำอธิบายเพิ่มเติมจากข้อมูลที่มินโฮส่งไป พวกเขามีความคลางแคลงใจที่ต้องการเพียงคำตอบเพื่อยืนยัน
มินโฮถอนหายใจ
ใช้เวลาไม่กี่สิบนาที ที่เหยียบมาจนหน้าปัดแตะถึงเลขร้อยสี่สิบก็ทำให้เขาถึงตึกบริหารของอีกฝ่ายทันทีแบบเฉียดฉิว ชายหนุ่มโทร.เข้าไปรายงานกับเลขาฯว่าตนจะขอพบก่อนเวลาราวหนึ่งชั่วโมง เพื่อให้หล่อนทำการเช็คตารางงานของนายใหญ่ให้มินโฮก่อนจะตอบตกลง
เสื้อสูทถูกคว้ามาใส่
ขายาวพาร่างสูงใหญ่ของตนเองเข้าตึก กดลิฟต์ไปชั้นบนสุดอย่างชำนาญ ก่อนที่ปลายเท้าจะหยุดลงหน้าห้องทำงานใหญ่ของนักการเมืองชื่อดัง เลขาฯสาวยิ้มให้เล็กน้อยกับการมาของอีกฝ่าย เธอเปิดสมุดจดขยุกขยิกอยู่หนึ่ง
“คุณท่านรอยู่แล้วค่ะ”
“ครับ” รับคำกล่าวนั้น ก่อนที่การ์ดหน้าห้องจะเป็นฝ่ายพาตัวเขาเข้าไปในห้อง
บรรยากาศอึดอัดยังคงเป็นสิ่งแรกที่มินโฮสัมผัสได้เมื่อเขาก้าวเข้ามาในห้องทำงานของนักการเมืองชื่อดัง ดวงตาคมมองดูเจ้าของร่างสูงใหญ่คาบแท่งซิก้าทอดสายตาออกไปเบื้องหน้าเช่นเคย วันนี้มันยังไม่ถูกตัดออกเขาเพียงคาบมันไว้เฉยๆเท่านั้น ชายชรานั้นหันมามองหน้าบุคคลผู้มาใหม่เล็กน้อย
“ฉันไม่คิดว่าคนอย่างนายจะเลื่อนนัด”
“ขอโทษครับ” วลีแรกที่หลุดออกจากปากตั้งแต่มาถึง มินโฮโค้มหัวให้อีกฝ่ายก่อนจะก้มหน้าไม่กล้าสบตาผู้มีอิทธิพลตรงหน้า
เขาทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจที่จะควบคุมทุกอย่างที่ต้องการ ไม่ว่าจะในทางที่ผิดหรือทางที่ถูกเขายอมแลกมันกับทุกอย่าง นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมมินโฮถึงยอม เขาจำเป็นต้องยอมเพราะมันมีเพียงเรื่องเดียวในหัวจริงๆ เรื่องของคุณคนเล็ก... แต่แล้วเสียงของนายใหญ่ก็เรียกสติมินโฮให้กลับมา
“ได้ข่าวว่าแทฮยอนอาการดีขึ้นมาก”
“ครับ เขาเริ่มยืนได้แล้ว” มินโฮรายงานอาการตามที่เขาเห็น แทฮยอนทรงตัวได้สักพักแต่ก็ยังไม่มีแรงก้าวขาเดิน เรื่องนั้นคงต้องใช้เวลา ดวงตาคมลอบมองกายใหญ่ของผู้เป็นบิดาคนในความคิดตนเอง นายใหญ่มีสีหน้าพอใจเล็กน้อยเมื่อเขาได้รับคำยืนยันจากมินโฮ
เขาคิดไม่ผิดว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้ แต่ก็ไม่พูดอะไรเพราะไม่อยากให้มีใครได้ใจในการกระทำของตัวเอง เขาไม่อยากมองดูผู้คนในอำนาจของตนหลงระเริงกับคำสรรเสริญจนทะนงตัวในทางที่ผิด ดังนั้นชายชราจึงเลือกจะปัดประเด็นนั้นทิ้งเสีย
“ช่างมันเถอะ... เรื่องมันไปถึงไหนแล้วล่ะ” เขาเอ่ยเข้าประเด็นและมันเป็นอย่างที่มินโฮคิดไว้ไม่มีผิด ใบหน้าหล่อเงยขึ้นเล็กน้อย มองหน้าของนายใหญ่ก่อนจะเอ่ยออกมา
“เท่าที่ทราบ มีหนอนบ่อนไส้อยู่ในพรรคของเราจริงๆ ผมไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนทำแต่รู้เรื่องกระบวนการการดึงข้อมูลและการปล่อยข้อมูล ทุกอย่างทำงานเป็นระบบในฐานข้อมูลของตนเองไม่จำเป็นต้องใช้คนเยอะ แค่ใช้การรักษาความปลอดภัยขั้นสูงก็ทำได้
ส่วนเรื่องข้อมูลที่พวกนั้นได้มา ส่วนใหญ่มาจากการแฮคระบบ แต่เท่าที่ผมดูกระบวนการทำงานของเรามันจำเป็นอย่างมากที่จะใช้คนในด้วย เพราะไม่อย่างนั้นคงเจาะไม่ถูกจุด”
“หมายความว่ายังสืบไม่ถึงตัวคนทำอย่างนั้น...ใช่ไหม”
“ยังครับ ตอนนี้ยังเดาอะไรไม่ได้แต่คงอีกไม่นาน”
“อย่าให้นานนักล่ะ”
“ครับ”
“ฉันอยากกำชับนายอีกเรื่อง มีบางอย่างที่นายยังไม่รู้เกี่ยวกับลูกชายของฉัน” นายใหญ่เอ่ยบอก สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปฉายความกังวลอย่างเห็นได้ชัด ร่างใหญ่นั้นนั่งลงบนเก้าอี้ประจำตำแหน่งของเขา คราวนี้แท่งซิกาถูกตัดออกไป ก่อนที่มือหนาจะหยิบสลักไฟแช็คขึ้นมาจุดมัน
เขาอัดควันเข้าเต็มปอด ความเครียดถูกสั่งสมไว้ภายในจิตใจ
“นายยังจำลูกชายคนโตของฉันได้หรือเปล่า...”
“...”
“เขากำลังจะกลับมาเร็วๆนี้ ในฐานะพลตำรวจเอก”
น้ำเสียงนั้นแสดงความกังวลอย่างเห็นได้ชัด ควันสีเทาถูกพ่นออกมาในขณะที่คนฟังอย่างมินโฮเองก็นิ่งไป ดูเหมือนว่างานของเขากำลังเพิ่มความยากขึ้นไปอีกระดับหนึ่งใบหน้าหล่อฉายความกังวลใจไม่ต่างอะไรจากบุคคลที่นั่งอยู่
“หาให้ได้มินโฮ หาให้ได้ว่าใครเป็นคนทำ”
“...”
“แล้วฉันจะยอมให้นายดูแลแทฮยอนตามที่นายต้องการ”
เพราะประโยคนั้นทำให้มินโฮอดไม่ได้ที่จะต้องตกปากรับคำ นั่นคือสิ่งที่เขาหวังมาตลอดตั้งแต่จำความได้ ชายหนุ่มลอบถอนหายใจตอนที่การ์ดเชิญเขาออกไปนอกห้อง แผ่นหลังกว้างของมินโฮหายลับออกไป มือหนาของชายชราเปิดกรอบรูปที่เขาคว่ำลงกับโต๊ะทำงานของตนเองขึ้น รูปครอบครัวของเขาระหว่างตนเอง ภรรยาและบุตรชายทั้งสองคน
มันเคยอบอุ่นกว่านี้ ตอนที่ภรรยาของเขายังมีชีวิต
กระทั่งเธอจากไป มันเหมือนพรากความสุขของทุกคนไปด้วย แต่มันก็เป็นความผิดเขาที่ทำงานแบบนี้ การตัดสินใจเลือกเดินทางผิดไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ แต่คนที่เป็นหัวหน้าครอบครัว ก็อยากให้ลูกและเมียของเขาได้อยู่ดีกินดีที่สุด
จนวันที่เขาพบว่าเพราะมัน มันเลยพรากคนที่รักที่สุดในชีวิตไป ไม่ใช่แค่ภรรยาแต่กลับเป็นลูกชายทั้งสองคนด้วย ตอนนี้มีสิ่งเดียวที่เขาพอจะนึกออกคือ ต้องจัดการหนอนบ่อนไส้และศัตรูทุกคนทิ้งให้หมด เขาเลิกทำสิ่งที่ทำไม่ได้เพราะอย่างนั้น อย่างน้อยคนในครอบครัวของเขาก็ต้องปลอดภัย...
ห้องอาหารกึ่งห้องครัวในบ้านไม้ริมชานเมืองกลายเป็นห้องรวมความไม่พอใจไปโดยปริยาย แทฮยอนยังคงนั่งเขี่ยอาหารในจานโดยไม่เงยหน้ามองซึงยุนที่อยู่บริเวณบาร์ในครัวด้วยซ้ำ ใบหน้าหวานนิ่งเรียบ มือเรียวตักอาหารเข้าปากเพียงไม่กี่คำหลังจากเหลือบมองนาฬิกาบนฝาผนัง เข็มสั้นและเข็มยาวเฉียดเข้าใกล้กับเวลาของคุณหมอไปทุกที
แต่ผู้ชายคนนั้นก็ยังไม่มา
“อิ่มแล้วเหรอ ไปห้องนั่งเล่นเลยมั้ย” ซึงยุนเอ่ยถามก่อนที่แทฮยอนจะยอมพยักหน้าเบาๆโดยที่ไม่พูดอะไร มันเป็นความน้อยใจที่แสดงออกมาอย่างชัดเจนและซึงยุนสัมผัสได้ดี เขารู้ดีว่าแทฮยอนอยากจะอวดถึงความพยายามของตนเอง ถึงร่างเล็กจะหัวดื้อแต่ก็อยากให้คนรอบตัวภูมิใจ
ร่างโปร่งยังคงทำหน้าที่ของเขาโดยการพยุงแทฮยอนไปยังห้องนั่งเล่นสีจาง วันนี้แทฮยอนไม่ได้จัดช่อดอกคัตเตอร์ เพราะเขามัวเสียเวลาไปกับการนั่งค่อนขอดอีกฝ่ายในใจ เป็นอารมณ์ไม่แสดงออกทางคำพูดและการกระทำ มีเพียงความเงียบเท่านั้นที่ทำให้คนรอบข้างรู้ตัว
“เขาไปไหน”
หนสุดท้ายก็ยอมเอ่ยออกมาตั้งแต่ที่รู้ว่ามินโฮออกไปทำธุระ ซึงยุนไม่ได้พูดต่อว่าออกไปไหนเพราะเห็นได้ชัดว่าสีหน้าของแทฮยอนเปลี่ยนไปในทันที เจ้าของใบหน้าอิ่มกลับหลังหันมามองคนตัวเล็กที่เอนกายพิงกับโซฟา ดวงตาเรียวมองรอดออกไปนอกหน้าต่าง
“ออกไปหาคุณท่าน”
“พ่อสินะ”
“...อือฮึ”
“...พ่อเรียกตัวเขาเหรอ”
“คงจะแบบนั้น เขาดูรีบมากแต่บอกว่าจะกลับมาให้ทัน”
“อือ” แทฮยอนครางรับโดยไม่ถามอะไรอีก นั่นจึงทำให้เขามั่นใจได้ว่าคนตัวเล็กคงไม่ถามอะไรต่อ ปากเรียวแดงเม้มเข้าหากันหลังจากพบว่าสิ่งที่ตนเองเดาไว้เป็นจริง ไม่ว่าอย่างไรพ่อของเขาก็มาก่อนเขาสำหรับมินโฮเสมอ จมูกเล็กถอนหายใจ
เสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้น ก่อนที่ซึงยุนจะหยุดมันลง แทฮยอนปิดเปลือกตาลงอย่างเบื่อหน่าย เขาเดินไม่ได้และมันก็น่าเบื่อไปหมด จัดดอกไม้ก็ทำไม่ได้เพราะต้องรอคุณหมอมาถึง ร่างเล็กกำลังเอาอารมณ์คุกครุ่นในใจแบบเมื่อก่อนมาใช้ มันเกิดขึ้นเร็วจนเขาลืมตัว ลืมตัวว่าที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่ามินโฮออกไปข้างนอกโดยไม่บอกสักคำ
ไม่ชอบ ไม่ชอบจริงๆ
“ผมมาทันหรือเปล่าครับ”
เสียงทุ้มแหบของคนที่แทฮยอนกำลังน้อยใจดังขึ้น เจ้าของร่างสูงเอ่ยถามคนตัวเล็กเบาๆท่าทางกระหืดกระหอบเล็กน้อยพร้อมกับเหงื่อเม็ดใหญ่ที่ผุดขึ้นเต็มใบหน้าทำให้แทฮยอนยิ่งไม่พอใจเข้าไปใหญ่ ดวงตาเรียวเหลือบมองนาฬิกา
เฉียดฉิว...
“มานั่งตรงนี้นะ” เอ่ยบอกคนอายุมากกว่าก่อนที่มินโฮจะยอมทำตามอย่างว่าง่าย เขาคิดอยู่แล้วว่าแทฮยอนต้องโกรธแต่ก็ไม่รู้ว่าจะรับมือแบบไหน ร่างสูงถอนหายใจแผ่วเบายอมเดินลงไปนั่งอยู่ด้านหน้าของคุณคนเล็กแต่โดยดี
เขาก้มหน้าลงกับพื้นไม่กล้าสบดวงตาที่ฉายแววไม่พอใจคู่นั้น รู้สึกผิดที่ละเรื่องสำคัญไปหางานของตนเอง แต่ทว่าทางนั้นมันก็สำคัญมากเหมือนกันเพราะอย่างนั้นเขาถึงเลือกอะไรไม่ได้ ทุกอย่างมันส่งผลต่อกันหมด เขาอยากดูแลคุณคนเล็กอยากดูแลไปทั้งชีวิตของเขาเพราะอย่างนั้นมันจึงจำเป็นที่มินโฮจะต้องไป
ร่างสูงได้แต่ครุ่นคิดมันอยู่ในใจ จนกระทั่งมือขาวทั้งสองข้างเอื้อมมาด้านหน้าของเขา ปลายนิ้วแตะอยู่บนปกเสื้อเชิ้ตแผ่วเบา
“เฉียดฉิวไปนิดเดียวเท่านั้นล่ะ” แทฮยอนพึมพำแผ่วเบาระหว่างที่มือก็เอื้อมไปปลดไทท์ให้กับอีกฝ่าย ดวงตาคมเงยหน้ามองคนที่กำลังตีสีหน้ายุ่งโดยไม่ได้สนใจเขาเท่าไหร่นัก
“เดี๋ยวก็ร้อนจนหายใจไม่ออกกันพอดีแบบนี้”
“ขอบคุณครับ คุณคนเล็ก”
เอ่ยบอกยิ้มๆ ก่อนจะรับไทท์จากอีกฝ่ายคืนมา ถึงจะถูกโกรธแต่คุณคนเล็กก็ยังเป็นห่วงเขา อย่างน้อยก็ดูเหมือนว่ามินโฮจะไม่ได้ถูกโกรธจริงๆเสียทีเดียว ชายหนุ่มส่งยิ้มจางให้กับคนที่เผลอหันมามองรอยยิ้มนั้น พวงแก้มเล็กซับสีเลือดจาง พึมพำเสียงแผ่วเบาแต่ชัดเจนดี
“ไม่ต้องมายิ้มเลย”
มินโฮไม่ตอบอะไร ได้แต่มองหน้าหวานนั้นอยู่หลายนาที ก็เพราะคุณคนเล็กน่ารักแบบนี้เขาถึงอยากดูแลเขาอยากดูแลคุณคนเล็ก เขาจึงยอมทำตามที่นายใหญ่บอกมีประโยคบางประโยคที่มินโฮอยากพูดกับคุณคนเล็ก แต่เขาก็ทำได้เพียงพูดมันในใจ
รอผมก่อนนะครับ คุณคนเล็ก รอผมก่อน
UP 20.04.15
#ฟิคคุณคนเล็ก
ความคิดเห็น