คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
“แม่ครับ ผมสอบเข้าโรงเรียนxxxได้แล้วนะ” คยองซูเข้าไปกอดแม่ที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวยาวที่ปูด้วยหนังเสือดาวชั้นดีที่นำเข้าจากเกาะมาดากัสการ์โดยตรง อิอิ รวยปะละ อิอิ
“ส่งเรียนซะขนาดนั้น ถ้าแม่เอาเงินส่งลูกเรียนพิเศษไปเที่ยวคงเที่ยวรอบโลกได้34รอบ”
นอกจากไม่ดีใจยังจะมาเหน็บแนมอีก แม่ใจร้ายง่ะๆๆๆๆ ตะยองงอนแม่แล่ว
ทำได้เพียงเพ้อเจ้อกับตัวเองในใจ เจ็บปวดจริงๆที่แม่ไม่รู้ว่าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนมีความมุ้งมิ้งในตัวเองแค่ไหน
“โหยยยย แต่ผมก็เก่งในระดับนึงเลยนะ มีคนเคยกล่าวไว้”
“ใครกล่าว?” แม่เงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือแม็กกาซีนของตนเอง
“คยองซูเอง อิอิ” พูดพร้อมกับชูสองนิ้วแล้วรีบย้ายตูดออกไป กวนบาทาแม่เป็นสิ่งไม่ดีนะพระอาจารย์จงแดบอกมา
ผมนั่งคิดเรื่องต่างๆนาๆขณะนั่งอยู่บนรถคันหรู ก็ไม่รู้จะอวดไรนักหนาเหมือนกัน5555555555555555555
ที่จริงตอนนี้ผมกังวลอยู่ว่าจะเข้ากับเพื่อนได้ไหม จะเรียนได้ไหม สอบเข้าก็ยาก เรียนคงยากหนักเลย โรงเรียนที่ผมจะเข้าไปอยู่เป็นโรงเรียนประชำชายล้วน และมีแค่มัธยมปลาย กังวลชีวิตตัวเองระดับสิบ ทำไรเองไม่เป็นซักอย่าง พังชัวร์
“โจฮานส์ครับ” ผมเรียกคนขับรถประจำตัวที่เป็นลูกครึ่งเกาหลี-อังกฤษ หัวมันแผล่บวัย40ปลายๆที่ไม่น่าจะผมร่วงขนาดนี้ได้
“ครับ คุณหนู” โจฮานส์มองผมผ่านกระจกหลัง เป็นอันว่าห่วงชีวิตจนขนาดที่ไม่สามารถหันมาสนทนากันได้
“ถึงไหนแล้วครับ”
“อีกประมาณ5นาทีก็ใกล้จะถึงแล้วครับ” โจฮานส์เหยียบคันเร่งขึ้นอีกนิดหน่อยด้วยความรู้สึกประมาณว่า กูรีบแล้วนะอีคุณหนู เอาจริงๆคือเปล่ารีบนะ5555555555555นี่ไม่อยากให้ไปถึงมากกว่า ลาก่อนชีวิตหรูหราฟู่ฟ่าของน้องตะยอง ถือว่าโชคดีมากๆที่คุณพ่อคุณแม่ส่งคนมาขนข้าวของเครื่องใช้ให้เข้าไปในหอผมแล้ว เกิดมารวยก็เงี้ย เฮ้อ 55555555555555555555555555555555อ้อนตีนแปปดิ
เอาดีๆคือ หอไหนผมยังไม่รู้เหลย รู้แต่ชื่อตัวเองแล้วก็ห้องเรียนที่ตัวเองอยู่คือ4/3 อนาถใจระดับสิบ
ผมนั่งคิดไรไปเรื่อยเปื่อยตามประสาคนหน้าตาดีแล้วโจฮานส์ก็หยุดรถแล้วหันมาพยักหน้าให้ เป็นอันรู้กันว่าถึงแล้วมึงรีบออกไปกูจะไปส่งรถ เดี๋ยวๆ5555555555555555ไม่ใช่แท็กซี่ไง
“ไปแล้วนะครับ ฝากบอกแม่ว่าผมอยู่ได้แน่ๆ บ๊ายบาย” ผมลงจากรถแล้วก็ทวนคำพูดตัวเองใหม่
ฝากบอกแม่ว่าผมอยู่ได้แน่ๆ
ฝากบอกแม่ว่าผมอยู่ได้แน่ๆ
ฝากบอกแม่ว่าผมอยู่ได้แน่ๆ
ฝากบอกแม่ว่าผมอยู่ได้แน่ๆ
อ ยู่ ไ ด้ เ หี้ ย ไ ร เ นี่ย ! ! !
พอผมลงมาคลื่นแห่งความตื่นเต้นในวันเปิดเทอมของเด็กนักเรียนคนอื่นๆก็ถาโถมเข้าใส่ผมอย่างรุนแรงเหลือเกิน เกินใจของคนจะทน ต้องร้อนรนตะเกียกตะกาย .. พ่อง คือแบบเด็กที่นี่ทุกคนดูหรรษาเฮฮาปาร์ตี้ระดับสิบ เสียงเจี๊ยวจ๊าวของผู้ชายตะโกนข้ามหัวผมไปมา แล้วก็มีซาวน์ประกอบเป็นเสียงลากกระเป๋ากันครืดคราดของผู้อพยพ มีธีมงานคือแต่งตัวนักเรียนยังไงให้โดนไล่ออก นี่มันพึ่งตอนเช้าปะจะรีบเอ็นจอยอะไรกันขนาดน๊าน
โรงเรียนที่ผมอ่านหนังสือสอบแทบตายเพื่อขุ่นพ่อขุ่นแม่ ขุ่นพ่อขุ่นแม่บอกว่าโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนมัธยมปลายที่ดีที่สุดในภูมิภาค แม้แต่ผู้หญิงยังอยากมาเรียน แต่ก็นั่นแหละ มันชายล้วนเว้ย!
ผมพยายามมองข้ามความเอ็นจอยของที่นี่แล้วเดินๆให้พ้นหน้าโรงเรียนที่ไอคนพวกนี้ไม่เข้ากันซักที ใกล้จะเคารพธงชาติอยู่แล้ว
“1..”
ผมได้ยินเสียงของกลุ่มคนที่นับเลขกันอยู่ข้างหลังที่ผมพึ่งเดินผ่านมา และคลื่นแห่งความตื่นเต้นนั้นก็หายไปแล้ว ผมจึงหันไปดู จึงพบว่าพวกมันกำลังจดจ่อกับประตูทางเข้า ตรงจุดที่ผมยืนอยู่นี่แหละ อะไรวะ
“2..”
“3!!!!!!!!” สิ้นเสียงของกลุ่มคนพวกนั้น ผมก็มองเห็นอะไรพร่าเลือนไปหมด คือแม่ง! วิ่งพุ่งเข้ามา! หลังจากใครแม่งไม่รู้นับเลขสามเสร็จ!!!
“โอ้ย” ผมล้มลงเพราะทุกคนตรงนั้นแม่งวิ่งกรูกันเสมือนตัวไรหิวไรซักอย่าง แต่จะไม่พูดหรอกนะว่าเหมือนตะกวดหิวไก่อะ หยาบคาย
ใช่ว่ามีผู้ชายหน้าตาน่ารักล้มแล้วแม่งจะสนใจกัน ไม่เลยจร้า คือกูต้องลุกเองใช่ไหม เออก็ได้
ผมค่อยๆยันตัวเองขึ้นมาจากพื้น แล้วสำรวจตูดตัวเองเบาๆ เขียวแน่ๆเลย ฮือ แม่จ๋าเขาทำตูดหนูเขียว
“เป็นไรมากเปล่า” ตอนที่ผมสำรวจตัวเองอยู่ก็มีคนๆนึงเข้ามาทักทายเซย์ฮายฮัลโหลเอโย่จีจี
“เอ่อ ไม่เป็นไรครับ” แค่ตูดเขียวเอง เห็นกูล้มตั้งนานทำไมไม่เข้ามาพยุง ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย
“ฉันพยอน แบคฮยอน” นายคนนั้นว่าเสร็จก็ยื่นมือเข้ามาทำท่าจะเชคแฮนด์ ก่อนเชคแฮนด์ขอเช็คตูดตัวเองอีกซักรอบได้มะ
“ฉันโด คยองซูน่ะ” ผมจับมือกับเขาพอเป็นพิธีแล้วจึงผละออก “นายอยู่ห้องไหนเหรอ”
“ม.5/3” เขามองหน้าผมแบบงงๆประมาณว่านี่-มึง-ไม่-รู้-จัก-กู-เหรอ
“อ้าว เป็นรุ่นพี่เหรอเนี่ย ฮ่าๆ ผมม.4/3อ่ะครับ” สรรพนามเปลี่ยน คำตามท้ายต้องมา หม่อมแม่สอนให้รู้จักกาลเทศะอะครับeiei
“เด็กใหม่เหรอเนี่ย” พี่แบคฮยอนหัวเราะเบาๆ “ฉันก็นึกว่านายรุ่นเดียวกันซะอีก”
นึกว่ารุ่นเดียวกันเป็นคำประเภทไหนหนิ น้องตะยองหน้าเด็กจนจะบ้าตาย พูดงี้หยาบคายฝุดๆ
“เอ่อ ฮ่าๆ เอ่อไปเข้าแถวกันไหมครับพี่ เดี๋ยวจะเข้าสาย” ผมเกาหัวแก้เก้อแบบไม่อยากสายตั้งแต่วันแรกเข้าใจบ่ครับ
“อ๋อใช่ๆ ไปดิ เดี๋ยวฉันพานายไปที่แถวไหม นายคงไม่รู้แถวตัวเองหรอกใช่ไหมล่ะ” พี่แบคฮยอนหันมาชวนคุยในขณะที่เราก็วิ่งเหยาะๆไปยังกลุ่มคนที่ขวักไขว่กับการหาแถว
พี่แบคฮยอนจับแขนผมแล้วดึงให้รีบๆเดิน พี่ต้องเข้าใจว่าผมขาสั้นนะครับ!!!!! ซึ่งขาพี่ก็ไม่ค่อยต่างจากผมเท่าไหร่โลย ความเร็วเราต้องมีลิมิตนะพี่
“อะ บ๊ายบายคยองซู” พี่แบคฮยอนมาส่งถึงแถวแล้วเดินโบกมือจากไป ผมก็ได้แต่โค้งๆขอบคุณพี่เขา โรงเรียนนี้ยังคงมีคนปกติอยู่สินะ อย่างน้อยก็ไม่ได้มีแค่ไอพวกคนประหลาดวิ่งกรูเข้าโรงเรียน อีโมติคอน squint
พอผมมาอยู่ในแถว เพื่อนๆก็ล้วนส่งสายตาปริศนากันมา พร้อมหันหลังขวับราวกับเล่นเวฟ
อะไรครับ มึงจะสื่อไรกันหนิ ปากเป็นง่อยหรอ มองเฉยๆกูจะรู้กับมึงไหมล่ะเพิ่ลๆ
สุดท้ายก็มีคนใจกล้าหน้าด้านที่อยู่หน้าผมนี่แหละถามผม “นาย.. ชื่ออะไรเหรอ คือเขาจะเช็คชื่อน่ะ”
แค่ถามชื่อให้ยืนกริบซะตั้งนาน อีโมติคอน squint “โด คยองซูน่ะ” พอผมพูดจบเพื่อนๆก็ล้วนทำท่านิ่งทั้งๆที่ผมมั่นใจว่าได้ยินทุกคนแน่ๆเพราะแม่งหันมาสนใจผู้มาใหม่ขนาดนี้ ผมถอนหายใจแล้วตะโกนชื่อตัวเอง “โด คยองซู” ที่ต้องตะโกนเพราะดูจากหัวแถวแล้วจะมีคนนึงคอยทำหน้าที่เช็คเพื่อนๆ ดูแล้วน่าจะมาคนแรกล่ะมั้งเลยโดนอาจารย์ใช้
“เอ่อฉันชื่อซิ่วหมินนะ” คนข้างหน้าที่เป็นคนถามชื่อผมหันมาบอกชื่อ ขณะที่แถวกำลังเดินเข้าห้อง เอาวะ อย่างน้อยก็มีเพื่อนแล้ว ถึงแม้ไอนี่จะดูพูดน้อยก็เถอะ
ผมยิ้มกลับไปแล้วพยักหน้าประดุจมิสโคเรีย กรี๊ดๆ เขินตัวเอง
ความคิดเห็น