ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รถด่วนพิเศษ

    ลำดับตอนที่ #10 : ประตูทางออก 1.10

    • อัปเดตล่าสุด 1 ส.ค. 52


    ประตูทางออก

    1.10

    ยังไม่ทัน

    เพราะเธอไม่คิดจะกลับไปในตอนนี้อยู่แล้ว ประตูรถไฟก็ปิดขึ้นมาเสียงดังตึงและเสียงวู๊ดก็ดังระรัวขึ้นพร้อมกับการออกตัวของรถไฟอีกครั้ง

    ฮานหยุดวิ่งทำให้ลูกกองที่เหลือหยุดตามและยืนนิ่งมองดูขบวนรถไฟพาพวกเขาเคลื่อนที่แล้วลับหายไปอย่างรวดเร็ว

    ฮานมองลูกกองที่เหลืออีก

    14คนกับผู้คนที่ยังนอนหมดสติอยู่ แล้วถอนใจ เธอเข้าไปประคองคนที่เหลือและสั่งให้ย้ายพวกเขาเข้าไปยังพื้นที่ใต้บันไดของห้องโถงซึ่งดูมิดชิดกว่าสถานที่ตรงบริเวณนั้น แล้วจัดการให้ผู้คนที่ยังไม่ได้สตินอนเรียงกัน

    จากนั้นก็หาผ้ามาชุบน้ำเช็ดตัวให้กับทุกคนมีหลายคนฟื้นขึ้นมาอย่างงุนงงแต่เมื่อเขาหรือเธอมองไปรอบๆ

    แววตาที่ผิดหวังและหวาดกลัวฉายชัดออกมาทั้งจากสีหน้าและท่าทาง พวกเขากรีดร้องอาละวาดต่อสู้ดิ้นร้นอย่างคนบ้ากรี๊ด ไม่เอา ไม่ ปล่อยฉัน ฉันไม่อยู่ ฉันไม่อยู่ที่นี่ กรี๊ดดดดดด"

    เหตุการณ์เช่นนี้เป็นกับทุกคนที่ฟื้นขึ้นมาแล้วก็ช๊อคหมดสติไปอีก

    พวกเขาแสดงออกถึงความโหดร้ายที่ได้มาที่แห่งนี้ มันส่งผลกระทบไปถึงจิตใจของพวกเขาที่ตระหนักว่าจะต้องเผชิญชะตากรรมเดียวกัน

    ฮานนั่งอยู่ไม่ห่างจากพวกเขา

    เธอขบริมฝีปากแน่นภายในร่างกายก็มีความรู้สึกที่มันแปลกไป บางขณะก็เหมือนกับร่างทั้งร่างเบาหวิวไม่มีน้ำหนักไร้ซึ่งแรงดึงดูดโลก แต่มันเป็นเพียงแค่ชั่วไม่กี่วินาทีเท่านั้นร่างทั้งร่างของเธอก็เหมือนแบกสิ่งที่หนักเอาไว้ แต่ล่ะก้าวที่ผ่านมาของเธอนั้นคล้ายกับจะจมลงไปกับพื้นหินปูนที่แตกหัก

    ฮานหลับตาลงแน่นและพยายามข่มจิตใจให้นิ่ง

    หญิงสาวลุกขึ้นยืนแล้วเรียกประชุม ข้อสรุปในที่ประชุมก็คือรอเวลาที่รถไฟจะกลับมาอีกครั้ง ยังไม่ทันที่การประชุมจะเสร็จสิ้น เสียงแห่งหนึ่งก็เกิดขึ้น

    มันคือเสียงร้องของวิทยุสื่อสารที่คาดอยู่บริเวณเอวของเธอ

    ฮานขมวดคิ้วสีหน้าเคร่งเครียดฉับพลันกับความผิดปรกติที่กำลังจะมา

    เธอมั่นใจว่าผู้ที่เชื่อมต่อสัญญาณเข้าหาเธอจะต้องไม่ใช่หัวหน้ากองหรือประธานคณะแน่ๆ

    เธอรู้สึกเหมือนติดกับดักของสถานที่แห่งนี้ เสียงซ่าๆยังคงดังอยู่หลายคนมองวิทยุสื่อสารที่เธอกำลังจะกดรับอย่างหวาดหวั่นพวกแกอยู่ต่อไป เพื่ออะไร"

    เสียงแหบแห้งแต่แฝงไปด้วยน้ำเสียงอันน่ายินดีของผู้ชายคนเดิมกรอกมาตามสัญญาณ

    เสียงของเขาก้องดังสะท้องไปมาทั่วห้องโถง พวกเขาเหลียวไปมองเสียงที่สะท้อนไปมานั้นอย่างระแวดระวัง แล้วกระชับอาวุธพร้อมสอดส่ายสายตาหาที่มาของมันซึ่งต้องไม่ไกลจากที่ที่พวกเขาตั้งกองอยู่เป็นแน่

    "

    พวกเราต้องการให้รถไฟกลับมารับอีกครั้ง"

    ฮานตอบเสียงเครียดกลับไปพลางหมุนตัวมองไปรอบๆ

    เพื่อหาเสียงที่จะตอบกลับมาแกจะได้สิ่งที่ขอ...ต่อเมื่อ ข้าได้กินเลือดของพวกแกทุกคน"

    ฮานและพวกตกตะลึงกับสิ่งที่อีกฝ่ายเสนอมา

    ใบหน้าของหญิงสาวซีดลงทันทีเธอกดปิดสัญญาณลงและตะโกนสั่งทุกคน

    "

    ไปรวมกันที่ห้องด้านในเร็ว"

    ลูกกองที่เหลือทั้งหมดและฮานเร่งรีบพยุงพวกที่หมดสติอยู่วิ่งไปยังห้องด้านในที่พบวิทยุสื่อสารของประธานคณะซึ่งดีกว่าอยู่โล่งๆภายนอก

    พวกเขาต่างสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงขู่คำรามของบางอย่างที่กำลังย่างใกล้เข้ามา

    เสียงเดินที่ดังสะเทือนบอกถึงขนาดที่มหึมา

    ทุกคนมากระจุกรวมกันที่ผนังด้านหนึ่ง สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่อันตรายด้านนอกกำแพงประตู เสียงของมันใกล้เข้ามาถึงกำแพงด้านขวาแล้ว

    ฮานคิดหาทางรอดอย่างรวดเร็ว

    ...แต่เสียงอันน่าพรั่นพรึงของมันยังดังก้องรบกวนการทำงานของระบบประสาทของเธออยู่ตลอดเวลาแกจะได้สิ่งที่ของต่อเมื่อข้าได้กินเลือดของพวกแกทุกคน]ฮานคิดสบถในใจ

    เธอพยายายสกัดเสียงนั้นออกไปแต่เสียงของมันก็ยังคงก้องดังรบกวนจิตใจเธออยู่

    จนกระทั่งเธอเริ่มทวนคำพูดของมันภายในใจอีกครั้งสิ่งที่ขอจะได้ต่อเมื่อมันกินเลือดเราแล้วหยั่งงั้นหรือ?}

    ฮานคิด

    มันเจตนาที่จะฆ่าเราทุกคน....ฆ่าทุกคน แล้วความคิดบางอย่างก็แวบขึ้นในสมองเธอและก็หายไปอย่างฉับพลันเมื่อเกิดเสียงครูดกำแพงที่ด้านนอก หญิงสาวสั่งเบาๆให้ทุกคนพร้อมต่อสู้ในขณะที่สมองของเธอยังคงได้ยินเสียงของมันรบกวนอย่างต่อเนื่อง แต่ครั้งนี้สมองของเธอได้สั่งการทันที

    "

    กรีดเลือดลงมาบนผ้าผืนนี้เร็วเข้า"

    เธอเหวี่ยงผ้าผืนเล็กลงไปบนพื้นด้านหน้า

    จากนั้นก็ใช้ดาบที่ถือกรีดลงไปที่แขนขวา เลือดสีสดไหลหยดตกลงตรงผ้าพอดี เมื่อเห็นหัวหน้ากระทำเช่นนั้นก็ทำตามเธออย่างเร่งด่วนและแต่ละคนก็หันไปกรีดแขนพวกที่สลบ เมื่อได้เลือดของทุกคนแล้ว หญิงสาวก็คว้ามันขึ้นมา

    "

    เราทำตามที่แกขอแล้ว อยากได้ก็เอาไป"

    ฮานโยนผ้าผืนนั้นออกไปนอกประตูเสียงนอกกำแพงเงียบไป

    ทุกคนเพ่งมองไปที่กองผ้าชั่วพริบตาก็ต้องผวาเฮือก

    เมื่อมีมืออันใหญ่โตเต็มไปด้วยขนรุงรังและเล็บยาวแหลมโผล่ออกมาจากประตูด้านขวาแล้วคว้าเอาผ้าผืนนั้นไป

    มันทำอะไรอยู่ด้านนอกทุกคนดูจะเดาได้เมื่อเห็นเศษผ้าถูกฉีกทึ้งปลิวว่อนพร้อมกับเสียงคำรามอย่างไม่สบอารมณ์

    แล้วท่อนแขนอันหยาบหนาก็ตะปบเข้าที่ด้านในของกำแพงห้อง

    เล็บอันแหลมคมทำให้กำแพงหินแตกเป็นทาง ...คล้ายกับบอกว่าจะไม่หยุดอยู่แค่นั้น

    .....................................................................................................

    {

    [

    "

    "

    "

    ที่เธอจะตะโกนบอกพวกเขาว่าไม่ต้องห่วง
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×