ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่1-จุดเรื่มต้นของการเดินทาง
บทที่1-จุดเรื่มต้นของการเดินทาง
    ในยามเช้ากลางป่าใหญ่ รุ่งอรุณสาดแสงอย่างช้าๆเป็นสัญญาณบ่งบอกแก่สรรพชีวิตว่า นี่เป็นสัญญาณแห่งวันใหม่ เหล่านกน้อยต่างร้องเพลงขับขานอย่างเบิกบานสำราญใจ เหล่าสัตว์ป่าได้ตื่นนิทราเพื่ออกหากินดั่งเช่นปรกติทุกวัน แต่แล้ว เสียงอันดังกังวานตะโกนก้องออกมาดังว่า
    “เซติส เจ้าอยู่ที่ไหน ไอ้ลูกบ้า อยู่ไหนว่ะ” เสียงเปล่งออกจากชายวัยกลางคนที่แฝงไปด้วยความหงุดหงิดเป็นอย่างมาก
                      เขามีผมสีดำขาวเป็นดอกเป็นเลา (มาอีกแหละ ไอ้เป็นดอกเป็นเลา เนี่ย - -a) นัยน์ตาสีฟ้าสดใส ใบหน้าเคร่งขรึมแลดูเหี่ยวย่นดังผู้ที่เคยผ่านโลกมาแล้วมากมาย รูปร่างสูงใหญ่ท่าทางทะมัดทะแมงต่างจากใบหน้าที่ดูชรา 
    “ทำไมค๊าบท่านพ่อที่เคารพ ที่ซู๊ด~~~” เสียงหนึ่งที่ดังออกมาจากกิ่งไม้ใหญ่เหนือศีรษะใกล้ชายวัยกลางคน ทำให้เขาแหงนหน้าขึ้นไปมอง
                      เงาดำเบื้องบนที่พาดลงมา เด็กหนุ่มยืนพิงต้นไม้อยู่บนกิ่งไม้กอด อกอย่างสบายอารมณ์ ในปากคาบใบไม้ ที่ไหลซ้ายมีเหยี่ยวเกาะอยู่
    “ลงมาเดียวนี้เลย ไอ้ลูกเวร ลงมาเลยเร็ว” เสียงของผู้เป็นพ่อสั่งให้ลูกชายลงจากมาจกต้นไม้อย่างรวดเร็ว
    “คร๊าบๆ ลงไปแล้ว รับป๋มด้วยน่ะ พ่อจ๋า~~”เด็กหนุ่มสะบัดไหล่ออกเพื่อให้เหยี่ยวได้บินขึ้นฟ้า พร้อมทั้งกระโดดลงมาจากกิ่งไม้ แล้วตะโกนว่า
                    “รับด้วยน่ะ พ่อ” สิ้นเสียง
                ตูม!! “อั่ก โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยย” เขาร้อยเสียงดังจนทำให้ผู้เป็นพ่อต้องอุดหู
    “โอ๊ยย มันเจ็บน่ะพ่อทำไมไม่รับฉันล่ะ “ลูกชายตัวดีร้องอย่างโอดโอย ก่อนที่จะโดนผู้เป็นพ่อตบกบาลเขาอย่างแรงแล้วตอบอย่างที่ทำให้คนพถามอับจนปัญญาที่จะโต้แย้ง
    “เอ็งขึ้นไปเองได้แล้วทำไมลงมาเอ็งไม่ได้หรอไง ถ้าลงเองไม่ได้ก็อย่าขึ้นไปสิ ไอ้ลูกบ้า แล้วก็เลิกแกล้งสำออยได้แล้วข้ารู้ว่าเอ็ง ไม่ได้เจ็บอะไร”
    “รู้ทันอีกแหะ ฉลาดจังพ่อใครนิ”เด็กหนุ่มตอบก่อนยิ้มให้ผู้เป็นพ่ออย่างเจ้าเล่ห์
    (มันหลอกชมตัวเองครับท่านผู้ชม - -a)
    เด็กหนุ่มผมทอง ตาสีทอง ใบหน้าหล่อเหลาดั่งเทพบุตร แววตาดูอบอุ่นอ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยความซุกซนเจ้าเล่ห์ มุมปากมีรอยยิ้ม อยู่ตลอดเวลารูปร่างสูงหุ่นสมส่วน ทำให้เป็นที่หลงใหลของเหล่าสาวทั้งหลายในหมู่บ้าน(คือ .เจ้าตัวเขาเอามีดจ่อคอหอยผมอยู่ง่ะ บอกว่าถ้าบรรยายไม่ดีงานนี้มีเชือด!! โหดจิงวุ้ย - -“)
    “ไม่ต้องมา ยอเลยไป เร็ว ปู่ให้มาตามแกไปบอกมีเรื่องจะคุยด้วย “
    “เรื่องอะไร อ่ะพ่อ รู้ไหมง่ะ” ลูกชายตัวดีถามผู้เป็นพ่ออย่างอยากรู้
    “ไม่บอกไปถามเอาเอง ไปเร็ว เดียวสาย”ผู้เป็นพ่อเร่งให้ลูกชายรีบกลับบ้าน
    “ฟิ้ว~~ ฮอร์คมานี่”เด็กหนุ่มเป่าปากก่อนเรียกให้เหยี่ยวของเขากลับมา(เขาเป่าปากกันยังไงผมเป่าไม่เป็นอ่ะ เลยม่ะรู้อธิบายเสียงไงดี ขอโทดน่ะงับท่านผู้ชม -/\\-)
    เหยี่ยวสีเทาตัวมหึมาได้บินลงมาเกาะที่ไหล่เขาอย่างนิ่มนวลแล้วสองพ่อลูกก็หันกลับหลังเดินไปอย่างรวดเร็วจนถึงกระท่อมไม้โบราณ สองชั้น ดูเคร่งครึมแฝงกลิ่นไอธรรมชาติ ผู้เป็นลูกเดินเขาไป มองเห็นชายชรานั่งอยู่บนเก้าอี้โยกไม้สีเทากะลังนั่งอ่านหนังสือ
    “ผมมาแล้วครับปู่”เด็กหนุ่มร้องทักทายปู่อย่างอารมณ์ดี
    ชายชราละสายตากลับมา แล้วถอดแว่นตาที่ สวมอยู่ เขามีหงอกขาวอยู่เต็มศีรษะ ใบหน้าเหี่ยวย่นแต่แฝงไปด้วยความปราณี ดูสุขุม และเปี่ยมไปด้วยเมตตา ชายชราเพ่งมองมาที่พ่อหลานชายตัวดีแล้ว ยิ้มอย่างปราณี
    “มาแล้วหรอเซติส ไปไหนมาล่ะเนี่ย ทั้งคืนเลยน่ะเรา พ่อเขาเป็นห่วงน่ะรู้ไหม”ชายชรากวักมือเรียกหลานชายตัวเองเข้ามา
    เซติสเดินเขามาใกล้ปู่แล้ว นั่งยองๆสวมกอดปู่ของเขาก่อนจะเงยหน้าตอบ
    “ไม่ได้ไปไหนไกลหรอกคับปู่แค่ไปในป่าใกล้ๆ เพื่อ ชมธรรมชาติตอนกลางคืนแค่นั้นเองคับปู่ อีกอย่างผมก็พาเจ้าฮอร์คออกไปหาอาหรกินตอนกลางคืนด้วย”
    “อืม ออกไปกลางค่ากลางคืนมันอันตรายรู้ไหม ถึงปู่จะรู้ว่าเจ้าเอาตัวรอดได้ก็เถอะ แต่ก็ไม่ควรออกไปรู้รึป่าว เซติส” ชายชราลูบหัวหลานชายสุดที่รักเบาๆ (ความจิงมันน่าจะตบกบาลไปเลยน่ะเนี่ยจิงๆ- -a)
    “ครับ รู้แล้วครับปู่ ว่าแต่ปู่ให้พ่อออกไปตามผมมีธุระอะไรกะผมหรอครับ”
    “ไม่มีอะไรมากหรอก แค่ .เซติส เจ้าต้องไปโรงเรียน”
    “ห๊า!! ไปโรงเรียน”แค่ได้ยินคำว่าโรงเรียนเท่านั้นแหละ เซตัสถึงกับผงะออกจากปู่ของเขาทันทีทำห้าตกตะลึงเหมือนเห็นสิ่งอะไรที่ทำให้ช๊อคได้”(ไปโรงเรียนนี่น่ากลัวตรงไหนฟะ แค่คำว่าโรงเรียนแค่เนี่ยช๊อคเลยหรอไง - -“)
    “เออ หูแกไม่ฝาดหรอก ไปโรงเรียน เข้าใจหรือป่าว”ผู้เป็นพ่อพูดออกมาด้านหลังเจ้าลูกตัวดี
    “ไปโรงเรียนไปทำไมง่ะ ผมอยู่ที่นี่ก็เรียนหนังสือกะปู่อยู่แล้วนี่ อีกอย่างผมก็ไม่ได้อยากไปไหนด้วย”เซตัสหันไปพูดกับพ่อ
    “เอ็งต้องไปโรงเรียน ไปเรียนรู้สิ่งต่างๆเพิ่มขึ้นเข้าใจไหมแล้วก็นี่เดินทางพุ่งนี้น่ะ”ผู้เป็นพ่อพูดเสียงแข็ง
    “ไม่ไป ผมไม่ไป จะให้ผมไปทำไมล่ะเนี่ย ผมอยู่ที่ก็เรียนรู้จากปู่ก็ดีอยู่แล้วง่ะพ่อ”เจ้าลูกชายตัวดีแย้งผู้เป็นพ่อ (เด็กดีไม่ควรเอาเยี่ยงอย่างน่ะงับ - -*)
    “เจ้าต้องไปรู้ไหมเซติส เจ้าต้องออกไปเรียนรู้โลกกว้าง เพื่อเรียนรู้สิ่งต่างๆในโลกภายนอกส่วนเรื่องที่ปู่สอนเจ้าได้ก็สอนไปหมดแล้วเพราะงั้นเจ้าต้องศึกษาเพิ่มเติมมากกว่าที่ปู่สอนเจ้าไปเข้าใจไหม”
    ปู่ชักเรื่มเสียงแข็งแล้วแหะ ดูท่ายังไงก็ต้องไปน่ะเนี่ย ยอมดีกว่า เวรกรรมจริงไปโรงเรียนมีแต่เรื่องปวดหัวทั้งนั้นเลย เฮ้อ
    “ตกลงครับผมไปก็ได้ว่าแต่ แล้วผมต้องไปเรียนที่ไหนครับปู่” ในที่สุดเซตัสยอมแพ้แล้ว
    “เจ้าต้องไป เรียนที่ โรงเรียน Eldolus(เอลโดรัส) ที่ เมืองแกรนชายพรุ่งนี้เดินทางน่ะอย่าลืมไปจัดเสื้อผ้าได้แล้วไป ” พ่อเซตัส บอกเจ้าลูกชายตัวดีให้รีบไปเตรียมตัว
    “ง่า ~~ ขอผมบอกลา สาวๆในหมู่บ้านก่อนน่ะครับเดียวผมไปเดียวพวกเธอจะเหงา” ว่าแล้ว    รีบเผ่นเน็บออกไปทันที
“ไปก่อนน่ะครับ พ่อ ปู่ เดียวมา”
    “เอ้า รีบไปรีบกลับล่ะ พรุ่งนี้ต้องเดินทางแต่เช้าน่ะโว้ย”ผู้เป็นพ่อตะโกนไล่หลังลูกชายตัวดี อนิจจา เหมือนมันจะไม่ได้ เพราะมันไปไกลซะแล้ว (ฮ่วย :P )
    หลังจากที่เซตัสไปแล้ว ผู้เป็นพ่อ ได้หันกลับมาหาชายชรในบ้าน
    “ท่านผู้เฒ่า ท่านตกลงใจแน่แล้วหรอที่จะส่ง เขาไป ที่นั่นน่ะ”
    “ข้าตกลงใจแล้ว เบดิอา เด็กคนนี้ เขาเอาตัวรอดได้ไม่ต้องกังวล อีกไม่ช้า เขาต้องเผชิญชะตากรรมที่ยากลำบากมากกว่านี้ รวมทั้งเรื่องราวในชิวิตของเขามากมายรอเขาอยู่ที่นั่น เจ้าไม่ต้องกังวลใจไปหรอก”
    ว่าแล้วชายชราก็สวมแว่นตาอ่านหนังสือต่อ ปล่อยให้ พ่อของเซตัสสงสัยอย่างมากในการตัดสินใจของท่านผู้เฒ่า
เช้าวันรุ่งขึ้น  เซตัสกับพ่อได้ออกเดินทางแต่เช้า
“ป๋อจ๋า~~ จากราดิกัส ไป แกรนชายไกลไหมงับ” เจ้าลูกชายตัวดีหันมายิ้มถามผู้เป็นพ่อ
“เดียวก็รู้ ไม่ต้องมาถามเลย”
“ง่ะ ก็แค่อยากรู้ว่าใช้เวลากี่วันในการเดินทางเท่านั้นเอง บอกทีน่ะน่ะป๋อจ๋า”ลูกชายตัวดียังรบเร้าถามต่อ
“ก็ถ้าเอ็งเดินไปก็ เดือนนึง ขี่ม้าไปก็ ครึ่งเดือน ล่ะมั้ง ถามทำไม”
“ว้าก เดือนนึง ไกลขนาดไหนอ่ะเนี่ยเดือนนึง เดินไปมีหวังเหนื่อยตายแน่นอน” ลูกชายตัวดีเรื่มบ่น
“เออถ้าแค่นี้เอ็งตายล่ะ มาเดียวข้าจะช่วยสงเคราะห์ให้จะได้ไม่ต้องลำบากลำบน ตกลงไหม” 
ไม่พูดปล่าว ผู้เป็นพ่อชักดาบที่อยู่ข้างตัวเตรียมสงเคราะห์ลูกชายตัวดี (ฟันมันเลยขอบอก^. ^)
“ว้าก ว้าก ว้าก เดียวพ่อใจเย็น แค่บ่นเฉยๆ ยังไม่ได้บอกว่าจะไม่ไปแค่จะต่อรองอ่า”
ว่าแล้วเซตัสหันซ้ายหันขวาก่อนจะหันไปพูดกับพ่อว่า “พ่อ งั้นผมใช้ บาจังหรือไม่ก็ฟีจังน่ะ แล้ว บินไปจะได้เร็วๆหน่อยตกลงป่าว”
โป๊ก~
“โอ๊ย อ๋อย มาเขกหัวผมทำไม ดูดิ หัวโนเลย”
“ถ้าไม่เขกให้โน แล้วข้าจะเขกทำไมล่ะ จำคำที่ปู่เอ็งบอกไม่ได้หรอ ว่าไงบ้าง ออกมายังไม่ถึงวันเลย เอ็งลืมซะแหละ”
“ผมจำได้น่า ก็แค่อยากให้ไปถึงเร็วๆนี่ อีกอย่างก็อย่าให้ใครเห็นก็หมดเรื่องแล้ว”
“เออไม่ให้ใครเห็นก็ไม่ได้ อย่าคิดน่ะ ว่าเราทำอะไรจะไม่มีใครรู้ จงจำไว้ถึงไม่มีใครรู้ว่เราทำอะไรตัวเราเองนั่นแหละรู้เองว่าเรากะลังทำอะไร”
“คร๊าบบบบ รู้แล้วคร๊าบบบบบท่านพ่อสุดที่รัก อูย มึนไปหมดเลย”เจ้าลูกชายตัวดียกมือกุมศีรษะ
“หรือจะเอาอีกสักเปรี้ยง”ผู้เป็นพ่อเตรียมเงือมมือเตรียมปล่อยไม้ตายอีกรอบแต่อนิจจาเจ้าลูกชายตัวดีกระโดดหลบไปด้านข้าง
“พอๆๆ พอแล้วพ่อแค่นี้ก็มึนพอแล้ว”
“เอางี้ได้ไหมงับ เดียวพอไปถึงเมือง แอตติส แล้วเราจะไปขึ้นรถม้าไปที่แกรนชายตกลงไหมครับป๋อ”ลูกชายสุดที่รักเรื่มต่อรอง
“อืม ~~” คนเป็นพ่อใช้ความคิดอยู่นานก่อนที่จะตอบว่า “ก็ได้ ขึ้นรถม้าไปท่าทางจะปลอดภัยกว่าน่ะ”
“จริงอ่ะ เย้ๆดีๆ งั้นรีบเดินทางเลย ได้ข่าวมาว่า ที่เมืองแอตติสมีงานเทศกาลอะไรก็ไม่รู้ รีบไปดีกว่าพ่อจะได้ เที่ยวงานได้  ไปๆ”ไม่พูดปล่าวรีบจับมือพ่อวิ่งจูงไปอย่างรวดเร็ว
“ใจเย็นๆ โหย พอรู้จะได้เที่ยวล่ะรีบไปเชียวน่ะเอ็ง” ผู้เป็นพ่อพูดอย่างเนี่ยอ่อนใจ
   
มาแล้วคับตอนแรก ยังไม่ค่อยมีไรเท่าเลยเฮ้อ(- -*)
ขอบคุณเพื่อนทุกคนที่อ่านงับ(^/\\^)
ผมอยากได้คำแนะนำทั้งหลายเพื่อเอามาช่วยปรับปรุงงานให้ดีขึ้นน่ะงับ (^.^)/
ขอขอบคุณทุกความคิดเห็นน่ะงับ
    ในยามเช้ากลางป่าใหญ่ รุ่งอรุณสาดแสงอย่างช้าๆเป็นสัญญาณบ่งบอกแก่สรรพชีวิตว่า นี่เป็นสัญญาณแห่งวันใหม่ เหล่านกน้อยต่างร้องเพลงขับขานอย่างเบิกบานสำราญใจ เหล่าสัตว์ป่าได้ตื่นนิทราเพื่ออกหากินดั่งเช่นปรกติทุกวัน แต่แล้ว เสียงอันดังกังวานตะโกนก้องออกมาดังว่า
    “เซติส เจ้าอยู่ที่ไหน ไอ้ลูกบ้า อยู่ไหนว่ะ” เสียงเปล่งออกจากชายวัยกลางคนที่แฝงไปด้วยความหงุดหงิดเป็นอย่างมาก
                      เขามีผมสีดำขาวเป็นดอกเป็นเลา (มาอีกแหละ ไอ้เป็นดอกเป็นเลา เนี่ย - -a) นัยน์ตาสีฟ้าสดใส ใบหน้าเคร่งขรึมแลดูเหี่ยวย่นดังผู้ที่เคยผ่านโลกมาแล้วมากมาย รูปร่างสูงใหญ่ท่าทางทะมัดทะแมงต่างจากใบหน้าที่ดูชรา 
    “ทำไมค๊าบท่านพ่อที่เคารพ ที่ซู๊ด~~~” เสียงหนึ่งที่ดังออกมาจากกิ่งไม้ใหญ่เหนือศีรษะใกล้ชายวัยกลางคน ทำให้เขาแหงนหน้าขึ้นไปมอง
                      เงาดำเบื้องบนที่พาดลงมา เด็กหนุ่มยืนพิงต้นไม้อยู่บนกิ่งไม้กอด อกอย่างสบายอารมณ์ ในปากคาบใบไม้ ที่ไหลซ้ายมีเหยี่ยวเกาะอยู่
    “ลงมาเดียวนี้เลย ไอ้ลูกเวร ลงมาเลยเร็ว” เสียงของผู้เป็นพ่อสั่งให้ลูกชายลงจากมาจกต้นไม้อย่างรวดเร็ว
    “คร๊าบๆ ลงไปแล้ว รับป๋มด้วยน่ะ พ่อจ๋า~~”เด็กหนุ่มสะบัดไหล่ออกเพื่อให้เหยี่ยวได้บินขึ้นฟ้า พร้อมทั้งกระโดดลงมาจากกิ่งไม้ แล้วตะโกนว่า
                    “รับด้วยน่ะ พ่อ” สิ้นเสียง
                ตูม!! “อั่ก โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยย” เขาร้อยเสียงดังจนทำให้ผู้เป็นพ่อต้องอุดหู
    “โอ๊ยย มันเจ็บน่ะพ่อทำไมไม่รับฉันล่ะ “ลูกชายตัวดีร้องอย่างโอดโอย ก่อนที่จะโดนผู้เป็นพ่อตบกบาลเขาอย่างแรงแล้วตอบอย่างที่ทำให้คนพถามอับจนปัญญาที่จะโต้แย้ง
    “เอ็งขึ้นไปเองได้แล้วทำไมลงมาเอ็งไม่ได้หรอไง ถ้าลงเองไม่ได้ก็อย่าขึ้นไปสิ ไอ้ลูกบ้า แล้วก็เลิกแกล้งสำออยได้แล้วข้ารู้ว่าเอ็ง ไม่ได้เจ็บอะไร”
    “รู้ทันอีกแหะ ฉลาดจังพ่อใครนิ”เด็กหนุ่มตอบก่อนยิ้มให้ผู้เป็นพ่ออย่างเจ้าเล่ห์
    (มันหลอกชมตัวเองครับท่านผู้ชม - -a)
    เด็กหนุ่มผมทอง ตาสีทอง ใบหน้าหล่อเหลาดั่งเทพบุตร แววตาดูอบอุ่นอ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยความซุกซนเจ้าเล่ห์ มุมปากมีรอยยิ้ม อยู่ตลอดเวลารูปร่างสูงหุ่นสมส่วน ทำให้เป็นที่หลงใหลของเหล่าสาวทั้งหลายในหมู่บ้าน(คือ .เจ้าตัวเขาเอามีดจ่อคอหอยผมอยู่ง่ะ บอกว่าถ้าบรรยายไม่ดีงานนี้มีเชือด!! โหดจิงวุ้ย - -“)
    “ไม่ต้องมา ยอเลยไป เร็ว ปู่ให้มาตามแกไปบอกมีเรื่องจะคุยด้วย “
    “เรื่องอะไร อ่ะพ่อ รู้ไหมง่ะ” ลูกชายตัวดีถามผู้เป็นพ่ออย่างอยากรู้
    “ไม่บอกไปถามเอาเอง ไปเร็ว เดียวสาย”ผู้เป็นพ่อเร่งให้ลูกชายรีบกลับบ้าน
    “ฟิ้ว~~ ฮอร์คมานี่”เด็กหนุ่มเป่าปากก่อนเรียกให้เหยี่ยวของเขากลับมา(เขาเป่าปากกันยังไงผมเป่าไม่เป็นอ่ะ เลยม่ะรู้อธิบายเสียงไงดี ขอโทดน่ะงับท่านผู้ชม -/\\-)
    เหยี่ยวสีเทาตัวมหึมาได้บินลงมาเกาะที่ไหล่เขาอย่างนิ่มนวลแล้วสองพ่อลูกก็หันกลับหลังเดินไปอย่างรวดเร็วจนถึงกระท่อมไม้โบราณ สองชั้น ดูเคร่งครึมแฝงกลิ่นไอธรรมชาติ ผู้เป็นลูกเดินเขาไป มองเห็นชายชรานั่งอยู่บนเก้าอี้โยกไม้สีเทากะลังนั่งอ่านหนังสือ
    “ผมมาแล้วครับปู่”เด็กหนุ่มร้องทักทายปู่อย่างอารมณ์ดี
    ชายชราละสายตากลับมา แล้วถอดแว่นตาที่ สวมอยู่ เขามีหงอกขาวอยู่เต็มศีรษะ ใบหน้าเหี่ยวย่นแต่แฝงไปด้วยความปราณี ดูสุขุม และเปี่ยมไปด้วยเมตตา ชายชราเพ่งมองมาที่พ่อหลานชายตัวดีแล้ว ยิ้มอย่างปราณี
    “มาแล้วหรอเซติส ไปไหนมาล่ะเนี่ย ทั้งคืนเลยน่ะเรา พ่อเขาเป็นห่วงน่ะรู้ไหม”ชายชรากวักมือเรียกหลานชายตัวเองเข้ามา
    เซติสเดินเขามาใกล้ปู่แล้ว นั่งยองๆสวมกอดปู่ของเขาก่อนจะเงยหน้าตอบ
    “ไม่ได้ไปไหนไกลหรอกคับปู่แค่ไปในป่าใกล้ๆ เพื่อ ชมธรรมชาติตอนกลางคืนแค่นั้นเองคับปู่ อีกอย่างผมก็พาเจ้าฮอร์คออกไปหาอาหรกินตอนกลางคืนด้วย”
    “อืม ออกไปกลางค่ากลางคืนมันอันตรายรู้ไหม ถึงปู่จะรู้ว่าเจ้าเอาตัวรอดได้ก็เถอะ แต่ก็ไม่ควรออกไปรู้รึป่าว เซติส” ชายชราลูบหัวหลานชายสุดที่รักเบาๆ (ความจิงมันน่าจะตบกบาลไปเลยน่ะเนี่ยจิงๆ- -a)
    “ครับ รู้แล้วครับปู่ ว่าแต่ปู่ให้พ่อออกไปตามผมมีธุระอะไรกะผมหรอครับ”
    “ไม่มีอะไรมากหรอก แค่ .เซติส เจ้าต้องไปโรงเรียน”
    “ห๊า!! ไปโรงเรียน”แค่ได้ยินคำว่าโรงเรียนเท่านั้นแหละ เซตัสถึงกับผงะออกจากปู่ของเขาทันทีทำห้าตกตะลึงเหมือนเห็นสิ่งอะไรที่ทำให้ช๊อคได้”(ไปโรงเรียนนี่น่ากลัวตรงไหนฟะ แค่คำว่าโรงเรียนแค่เนี่ยช๊อคเลยหรอไง - -“)
    “เออ หูแกไม่ฝาดหรอก ไปโรงเรียน เข้าใจหรือป่าว”ผู้เป็นพ่อพูดออกมาด้านหลังเจ้าลูกตัวดี
    “ไปโรงเรียนไปทำไมง่ะ ผมอยู่ที่นี่ก็เรียนหนังสือกะปู่อยู่แล้วนี่ อีกอย่างผมก็ไม่ได้อยากไปไหนด้วย”เซตัสหันไปพูดกับพ่อ
    “เอ็งต้องไปโรงเรียน ไปเรียนรู้สิ่งต่างๆเพิ่มขึ้นเข้าใจไหมแล้วก็นี่เดินทางพุ่งนี้น่ะ”ผู้เป็นพ่อพูดเสียงแข็ง
    “ไม่ไป ผมไม่ไป จะให้ผมไปทำไมล่ะเนี่ย ผมอยู่ที่ก็เรียนรู้จากปู่ก็ดีอยู่แล้วง่ะพ่อ”เจ้าลูกชายตัวดีแย้งผู้เป็นพ่อ (เด็กดีไม่ควรเอาเยี่ยงอย่างน่ะงับ - -*)
    “เจ้าต้องไปรู้ไหมเซติส เจ้าต้องออกไปเรียนรู้โลกกว้าง เพื่อเรียนรู้สิ่งต่างๆในโลกภายนอกส่วนเรื่องที่ปู่สอนเจ้าได้ก็สอนไปหมดแล้วเพราะงั้นเจ้าต้องศึกษาเพิ่มเติมมากกว่าที่ปู่สอนเจ้าไปเข้าใจไหม”
    ปู่ชักเรื่มเสียงแข็งแล้วแหะ ดูท่ายังไงก็ต้องไปน่ะเนี่ย ยอมดีกว่า เวรกรรมจริงไปโรงเรียนมีแต่เรื่องปวดหัวทั้งนั้นเลย เฮ้อ
    “ตกลงครับผมไปก็ได้ว่าแต่ แล้วผมต้องไปเรียนที่ไหนครับปู่” ในที่สุดเซตัสยอมแพ้แล้ว
    “เจ้าต้องไป เรียนที่ โรงเรียน Eldolus(เอลโดรัส) ที่ เมืองแกรนชายพรุ่งนี้เดินทางน่ะอย่าลืมไปจัดเสื้อผ้าได้แล้วไป ” พ่อเซตัส บอกเจ้าลูกชายตัวดีให้รีบไปเตรียมตัว
    “ง่า ~~ ขอผมบอกลา สาวๆในหมู่บ้านก่อนน่ะครับเดียวผมไปเดียวพวกเธอจะเหงา” ว่าแล้ว    รีบเผ่นเน็บออกไปทันที
“ไปก่อนน่ะครับ พ่อ ปู่ เดียวมา”
    “เอ้า รีบไปรีบกลับล่ะ พรุ่งนี้ต้องเดินทางแต่เช้าน่ะโว้ย”ผู้เป็นพ่อตะโกนไล่หลังลูกชายตัวดี อนิจจา เหมือนมันจะไม่ได้ เพราะมันไปไกลซะแล้ว (ฮ่วย :P )
    หลังจากที่เซตัสไปแล้ว ผู้เป็นพ่อ ได้หันกลับมาหาชายชรในบ้าน
    “ท่านผู้เฒ่า ท่านตกลงใจแน่แล้วหรอที่จะส่ง เขาไป ที่นั่นน่ะ”
    “ข้าตกลงใจแล้ว เบดิอา เด็กคนนี้ เขาเอาตัวรอดได้ไม่ต้องกังวล อีกไม่ช้า เขาต้องเผชิญชะตากรรมที่ยากลำบากมากกว่านี้ รวมทั้งเรื่องราวในชิวิตของเขามากมายรอเขาอยู่ที่นั่น เจ้าไม่ต้องกังวลใจไปหรอก”
    ว่าแล้วชายชราก็สวมแว่นตาอ่านหนังสือต่อ ปล่อยให้ พ่อของเซตัสสงสัยอย่างมากในการตัดสินใจของท่านผู้เฒ่า
เช้าวันรุ่งขึ้น  เซตัสกับพ่อได้ออกเดินทางแต่เช้า
“ป๋อจ๋า~~ จากราดิกัส ไป แกรนชายไกลไหมงับ” เจ้าลูกชายตัวดีหันมายิ้มถามผู้เป็นพ่อ
“เดียวก็รู้ ไม่ต้องมาถามเลย”
“ง่ะ ก็แค่อยากรู้ว่าใช้เวลากี่วันในการเดินทางเท่านั้นเอง บอกทีน่ะน่ะป๋อจ๋า”ลูกชายตัวดียังรบเร้าถามต่อ
“ก็ถ้าเอ็งเดินไปก็ เดือนนึง ขี่ม้าไปก็ ครึ่งเดือน ล่ะมั้ง ถามทำไม”
“ว้าก เดือนนึง ไกลขนาดไหนอ่ะเนี่ยเดือนนึง เดินไปมีหวังเหนื่อยตายแน่นอน” ลูกชายตัวดีเรื่มบ่น
“เออถ้าแค่นี้เอ็งตายล่ะ มาเดียวข้าจะช่วยสงเคราะห์ให้จะได้ไม่ต้องลำบากลำบน ตกลงไหม” 
ไม่พูดปล่าว ผู้เป็นพ่อชักดาบที่อยู่ข้างตัวเตรียมสงเคราะห์ลูกชายตัวดี (ฟันมันเลยขอบอก^. ^)
“ว้าก ว้าก ว้าก เดียวพ่อใจเย็น แค่บ่นเฉยๆ ยังไม่ได้บอกว่าจะไม่ไปแค่จะต่อรองอ่า”
ว่าแล้วเซตัสหันซ้ายหันขวาก่อนจะหันไปพูดกับพ่อว่า “พ่อ งั้นผมใช้ บาจังหรือไม่ก็ฟีจังน่ะ แล้ว บินไปจะได้เร็วๆหน่อยตกลงป่าว”
โป๊ก~
“โอ๊ย อ๋อย มาเขกหัวผมทำไม ดูดิ หัวโนเลย”
“ถ้าไม่เขกให้โน แล้วข้าจะเขกทำไมล่ะ จำคำที่ปู่เอ็งบอกไม่ได้หรอ ว่าไงบ้าง ออกมายังไม่ถึงวันเลย เอ็งลืมซะแหละ”
“ผมจำได้น่า ก็แค่อยากให้ไปถึงเร็วๆนี่ อีกอย่างก็อย่าให้ใครเห็นก็หมดเรื่องแล้ว”
“เออไม่ให้ใครเห็นก็ไม่ได้ อย่าคิดน่ะ ว่าเราทำอะไรจะไม่มีใครรู้ จงจำไว้ถึงไม่มีใครรู้ว่เราทำอะไรตัวเราเองนั่นแหละรู้เองว่าเรากะลังทำอะไร”
“คร๊าบบบบ รู้แล้วคร๊าบบบบบท่านพ่อสุดที่รัก อูย มึนไปหมดเลย”เจ้าลูกชายตัวดียกมือกุมศีรษะ
“หรือจะเอาอีกสักเปรี้ยง”ผู้เป็นพ่อเตรียมเงือมมือเตรียมปล่อยไม้ตายอีกรอบแต่อนิจจาเจ้าลูกชายตัวดีกระโดดหลบไปด้านข้าง
“พอๆๆ พอแล้วพ่อแค่นี้ก็มึนพอแล้ว”
“เอางี้ได้ไหมงับ เดียวพอไปถึงเมือง แอตติส แล้วเราจะไปขึ้นรถม้าไปที่แกรนชายตกลงไหมครับป๋อ”ลูกชายสุดที่รักเรื่มต่อรอง
“อืม ~~” คนเป็นพ่อใช้ความคิดอยู่นานก่อนที่จะตอบว่า “ก็ได้ ขึ้นรถม้าไปท่าทางจะปลอดภัยกว่าน่ะ”
“จริงอ่ะ เย้ๆดีๆ งั้นรีบเดินทางเลย ได้ข่าวมาว่า ที่เมืองแอตติสมีงานเทศกาลอะไรก็ไม่รู้ รีบไปดีกว่าพ่อจะได้ เที่ยวงานได้  ไปๆ”ไม่พูดปล่าวรีบจับมือพ่อวิ่งจูงไปอย่างรวดเร็ว
“ใจเย็นๆ โหย พอรู้จะได้เที่ยวล่ะรีบไปเชียวน่ะเอ็ง” ผู้เป็นพ่อพูดอย่างเนี่ยอ่อนใจ
   
มาแล้วคับตอนแรก ยังไม่ค่อยมีไรเท่าเลยเฮ้อ(- -*)
ขอบคุณเพื่อนทุกคนที่อ่านงับ(^/\\^)
ผมอยากได้คำแนะนำทั้งหลายเพื่อเอามาช่วยปรับปรุงงานให้ดีขึ้นน่ะงับ (^.^)/
ขอขอบคุณทุกความคิดเห็นน่ะงับ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น