ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ปัญหา
คนตัวน้อยถึงกับหน้าชาทันที เขาทนจินต่อไปไม่ไหวแล้ว ต่อให้ไม่อยากจะทำลายความฝันของเขาเลย ความฝันที่รอคอยมานานถึง 9 ปี สุดท้ายแล้วเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง แค่เพราะจินไม่เข้าใจ จินชอบเอาแต่ใจตัวเองเสมอ ชอบใช้ความรู้สึกของตัวเองมาตัดสินคนอื่นไม่เฉพาะเขาเอง แม้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆเขาก็ไม่เคยยอมลดลาวาศอก คนตัวน้อยคิดมาตลอดทางที่จากบรรยากาศอันแสนหวานระหว่างเขากับจินจนออกมาถึงไหนแล้วก็จำไม่ได้
กลิ่นราเมงหอมฉุยชวนให้ท้องร้องเสียเหลือเกิน ไม่อยากจะเชื่อเลย ทำไมจินต้องทำอะไรหรูหรา ทั้งๆที่ถ้าเค้ากับคาเมะจะมาเดทกันแบบธรรมดาๆ คาเมะคงจะรู้สึกว่าเขากับจินไม่ต้องห่างเหินกันเกินไป อย่างน้อยก็คงไม่ต้องมามีเรื่องติงต๊องให้ไม่เข้าใจกันอย่างนี้
"เอาอีกชามลุง วันนี้ผมมีจ่าย จัดมาได้ไม่อั้นเลย" เสียงแหลมแต่ทุ้มตำ จัดว่าเป็นเสียงของผู้ชายที่มีนำเสียงดีคนหนึ่งเชียวล่ะ กับใบหน้าระรื่นอมชมพู หน้าขาวๆตัดกับปากสีแดงจัดซึ่งกำลังยิ้มแย้มอยู่ให้แสงดวงไฟหลอดกลมตามร้านแผงลอยยิ่งขับให้ใบหน้านี้ดูสวยอย่างไม่อาจจะละสายตาออกไปได้ คาเมะหันไปมองเจ้าของต้นเสียงทันทีโดยไม่อาจจะละสายตาได้เลย ดวงตาสวยของคาเมะทำให้คนที่กำลังนั่งกินอย่างเมามันต้องเหลือบมอง
"เอ้า นาย มากินราเมงด้วยกันไหม" เค้าเรียกเสียงดังอย่างไม่เกรงใจคนที่เดินผ่านไปมา บุคลิกโผงผางแบบนี้เหมือนจินไม่มีผิด ทำให้คาเมะรู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อยแต่ก็เหมือนต้องมนต์บางอย่างทำให้ต้องตามเสียงนั้นไป
"นายชื่ออะไรล่ะ มาคนเดียวเหรอ " หนุ่มแปลกหน้าคนนั้นถามคาเมะทันทีที่เขาตัดสินใจนั่งลงข้างๆ
"คาเมนาชิ คาซูยะ" คาเมะตอบทันควัน
"ฮ่าๆๆ ชั้นไม่ได้ถามชื่อพร้อมนามสกุลของนายสักหน่อย บอกแค่ชื่อเล่นมาก็ได้" เค้าโพล่งออกมา
"มีใครเค้าบอกชื่อเล่นคนแปลกหน้ากันเล่า" คาเมะรู้สึกเขินนิดหน่อย อะไรกันนายคนนี้จะไม่เถรตรงเกินไปหน่อยเหรอ พูดอะไรก็คิดซักหน่อยสินายนี่
"ฮ่าๆๆ ขอโทษ ผมชื่อ ยามะพีนะ เรียกว่า พี เฉยๆก็ได้ ชื่อนี้ใช้เรียกเฉพาะคนที่สนิทกันเท่านั้นล่ะ" ยามะพีแนะนำตัวเองพร้อมชื่อที่ใช้เรียกแบบกันเอ๊งกันเองพร้อมเสร็จ
"เอาแบบผมมาอีกชามเลยลุง" ยามะพีสั่งโดยไม่ถามสักนิดว่าคาเมะต้องการจะกินอะไร ยามะพีมักจะตัดสินใจในเรื่องของตัวเองได้เสมอและนิสัยนี้มันก็เลยไปใช้กับคนรอบกายด้วย บางครั้งเค้าก็มีเรื่องทะเลาะชกต่อยอยู่บ่อยๆ แม้รูปร่างจะบอบบางเหมือนผู้หญิงไม่มีผิด แต่มันก็ไม่ได้เข้ากันกับอุปนิสัยส่วนตัวของเขาเลย ช่างเป็นคนที่ตลกชะมัด
คาเมะทำหน้าตุ่ย เค้าเองก็เอาแต่ใจไม่ต่างอะไรจากคนที่เค้าเคยพบเจอมาเลย ทำให้ชีวิตส่วนตัวของเขานั้นอยู่แต่กับจิน มีจินเพียงคนเดียวล่ะมั้งที่เข้าใจเค้า ตั้งแต่จำความได้ ตั้งแต่เกิดมาเลยนั่นแหละ เค้าแทบจะไม่มีเพื่อนสนิทเลย จะว่าขี้อายไม่กล้าไปตีสนิทกับใครเหรอก็เปล่า แต่เพราะคนรอบข้างอาจจะไม่ชอบนิสัยเอาแต่ใจตัวเองแถมเย่อหยิ่งของเขาก็ได้
จะว่าไปมีจินคนเดียวที่สนิทกับเขามากที่สุดตั้งแต่เป็นนักเรียนประถม จะให้ไม่รักอิอ้วนได้ไงล่ะ ก็แหมอะไรก็คาซึๆ อ้อนเก่งแถมหวานซะเลี่ยนขนาดนั้น ถึงจะทะเลาะกันบ่อยแค่ไหนจินก็มาง้อเค้าอยู่ดี แต่ดูท่าคราวนี้คาเมะจะไม่ยอมคืนดีด้วยซะละมั้ง
"นาย ชั้นเรียกนายว่า คาซึ ก็แล้วกัน" ยามะพีตั้งชื่อคาเมะให้ซะอย่างนั้น คาเมะถึงกับหน้าร้อนผ่าว ก็ชื่อนี้จินคนเดียวที่เรียกเค้าได้นี่ แล้วทำไมอิตายามะพีมาเรียกเค้าได้ล่ะ ทะลึ่งชะมัดมาตั้งชื่อให้แถมยังเหมือนชื่อที่คนรักเรียกอีก
"ชั้นว่า นายกินไปเหอะชามนี้ ดึกมากแล้ว และชั้นก็ไม่ค่อยสบายด้วย" คาเมะรีบตัดบททันทีตามนิสัย ไม่รู้จักมักจี่แถมมาเรียกชื่อของเขาเองแบบนี้ สำหรับคาเมะแล้ว คนที่เค้าไม่พอใจจะเสวนาด้วย ก็จะไม่ยุ่งด้วยเด็ดขาด เค้าอยากทำอะไรก็ให้ใจสั่งไปแบบนี้แหละ
"นี่ รู้มั้ยว่าราเมงเจ้านี้อร่อยขนาดไหน" จู่ๆยามะพีก็ชวนให้คาเมะมาสนใจกับชามก๊วยเตี๋ยวทันที ไม่สนใจเลยด้วยซำว่าคนข้างๆอยากจะอยู่ หรืออยากจะไป
"ถ้านายไม่กินนะ นายอาจจะเสียใจไปตลอดชีวิตก็ได้ มาเถอะ ถ้าชั้นไม่เห็นว่านายเตะตาชั้นละก็คงไม่คิดชวนหรอกนะ" ยามะพียังคงจ้อต่อ อะไรกันนี่ นายคนนี้ประหลาดจริงๆเลย แต่คำพูดของเค้าทำให้คาเมะก้าวไม่ออก และต้องมาสนใจไอ้ชามก๊วยเตี๋ยวที่ยามะพีบอกทันที
"เป็นไง นี่ชั้นภูมิใจนำเสนอเลยนะ" ใช่ มันอร่อยจริงๆด้วย อย่างที่ว่าสินะ ของฟรีย่อมอร่อยกว่าของที่จ่ายด้วยตังค์ตนเอง แถมดึกป่านนี้อาหารยังไม่ตกถึงท้องมันย่อมอร่อยเป็นธรรมดา แต่ว่านายคนนี้เริ่มดูน่าสนใจในสายตาคาเมะขึ้นมาแล้ว เพราะคำพูดเหรอ ปากหวานนะยามะพี นอกจากจะปากเสียด้วยเนี่ย
"นายมาจากไหน แล้วทำไมถึง..." คาเมะถามขึ้นมา ไม่รู้เป็นเพราะอะไรถึงนึกคำพูดได้ยากจัง
"ชั้นทำงานแถวนี้ แล้วนี่ก็เจ้าประจำของชั้นเลยนะ" ยามะพีตอบ
"งานอะไร?" คาเมะขมุ่นคิ้วเล็กน้อย เวลาสงสัยทีไรชอบเอาคิ้วมาผูกกันเป็นโบได้ทุกที จะโบเล็กโบใหญ่ได้ทั้งนั้น
ยามะพีชี้ไปที่ร้านทำผมทันที อ๋อ คงเป็นพนักงานในร้านทำผมอยู่สินะ หน้าหวานผมสวยขนาดนี้จะให้ทำงานอยู่ที่อื่นได้ยังไง
"ล้อเล่นน่ะ ชั้นทำงานก่อสร้าง แต่ที่ร้านทำผมน่ะ ชั้นสนใจนะ" เอ๊ะ ทำงานก่อสร้างกับทำงานที่ร้านทำผมต่างกันลิบลับจะเอามาเกี่ยวกันได้ยังไงเนี่ย
"นายคงอยากจะทำงานที่ร้านทำผมนั่นสินะ" คาเมะตอบแทนความคิดของยามะพีทันที
"อืม ตอนนี้ก็กำลังเก็บเงินอยู่ว่าจะไปเรียนหาใบอนุญาตประกอบอาชีพนี้จะได้ทำงานนี้ได้สักที แต่คงไม่ทำงานที่นี่หรอก..." เอ พูดอะไรแปลกๆ ทำไมต้องทำงานที่นี่ด้วย
"นายเห็นผู้ชายในนั้นใช่ไหม?" คาเมะผุดลุกขึ้นมาแล้วจ้องเข้าไปในกระจกร้านทันทีอย่างไม่ต้องให้ใครมาสั่ง เค้าเห็นผู้ชายร่างสูง ผอมบางแต่อวบกว่าเค้าเล็กน้อย ริมฝีปากโดดเด่นนั่นทำให้เค้าจำได้ทันที
"ยูอิจิ!!!" ใช่เลย เพื่อนเก่าสมัยม.ปลายมาทำงานที่ร้านทำผมอยู่นี่เอง แต่เอ๊ะ แล้วยูอิจิไปเกี่ยวข้องกับยามะพีได้ยังไง
"นั่นเพื่อนเก่าชั้นเอง นายหมายถึงคนที่ยืนไดร์ผมคนนั้นใช่มะ" คาเมะถามยามะพี
"ไม่ใช่ คนผิวสีนำผึ้ง ตัดผมเกรียนๆคนนั้นต่างหาก" เฮะ ใคร อ๋อ ไอ้คนที่นั่งทำเล็บอยู่อ่ะ ว้าว คิ้วสวยจัง หน้าก็หวานใช่เล่น แต่ 555 หล่อเรอะนายคนนี้ จะว่าสวยหรือหล่อดีล่ะ
"เค้าชื่อ โคคิ" ยามะพีแนะนำ
"นายชอบเขาล่ะซี้ แต่เค้าเป็นเกย์เหรอ ชั้นหมายถึงเค้าเป็นผู้หญิงเหรอ" คาเมะถามยามะพี
"555 ผู้ชายน่ะ แต่สวยใช่ไหมล่ะ" บ้าน่ะ ถึกขนาดนี้จะไปเรียกว่าสวยได้ยังไง คาเมะตอนนี้ก็ไม่อยากกลับใจหรอกนะ แต่ยังไงถ้าเค้าเป็นยามะพีคงจะไม่สนใจนายหน้าประหลาดนั่นเด็ดขาด
"เฮ่ โคคิ มีผู้ชายหน้าหวานมามองแกน่ะ ไปทักเค้าหน่อยดีมะ" เอาล่ะสิไอ้ยูอิจิรู้ตัวซะแล้วว่าคาเมะมาแอบมองเค้าอยู่ จะหนีก็ไม่ได้แล้วงานนี้ คงต้องตกกระไดพลอยโจนเข้าไปทักทายเพื่อนซี้ 4/2B กันหน่อย
"โถ่ไม่เจอกันตั้งนานแน่ะ เด๋วนี้ควงสาวทำงานแล้วเหรอฟะ" คาเมะยังไม่หลุดมาดให้ยูอิจิเห็น นอกจากเขากับจินแล้ว ใครเลยจะรู้ล่ะ
"ชื่ออะไรเหรอฮ้า..." โคคิถามคาเมะยังไม่พอ ยังพุ่งเอาตัวหนาๆเข้าไปกระแซะคาเมะได้อีก
"เอ่อ...ผมเปล่านะ เอ่อ..." คาเมะไม่รู้จะตอบว่าอะไรดี แต่ตอนนี้มีคนยืนมองเค้าตาเขียวอยู่โน่นแล้ว ยามะพีนั่นไง
"โคคิ เค้าคงไม่เล่นด้วยกับแกหรอก อย่าไปจับเค้าสิน่า นี่เพื่อนชั้นนะ เด๋วไล่ออกเลย" ยูอิจิหันไปดุโคคิ
"คาเมะ!!!" เสียงอันดังเป็นแปดหลอดอย่างนี้มีคนเดียวที่กล้าเรียกคาเมะในเกาะญี่ปุ่นแล้วล่ะมั้ง โถ คันไซยังอาย คาเมะต้องหันไปตามเสียงนั้น
"อิจิ๊น!!!" จินมาแล้ว มาตามถึงร้านที่มีแต่หมู่ชาย คาเมะเสร็จแน่ ไม่รู้จะหาข้อแก้ตัวยังไงแล้วด้วย
"ต่อให้โกรธกันก็ไม่น่าจะมาหาผู้ชายถึงในร้านทำผม นายไม่รู้เหรอไงว่าผู้ชายพวกนี้มัน...แล้วจะหาว่าไม่เตือนนะ"
เอาแล้วไง ทะเลาะกันเรื่องกินยังไม่พอ แล้วแบบนี้เรื่องที่พวกเค้าทะเลาะแค่เล็กน้อยกันมันไม่กลายเป็นปมปัญหาเลยเหรอไงเนี่ย...
กลิ่นราเมงหอมฉุยชวนให้ท้องร้องเสียเหลือเกิน ไม่อยากจะเชื่อเลย ทำไมจินต้องทำอะไรหรูหรา ทั้งๆที่ถ้าเค้ากับคาเมะจะมาเดทกันแบบธรรมดาๆ คาเมะคงจะรู้สึกว่าเขากับจินไม่ต้องห่างเหินกันเกินไป อย่างน้อยก็คงไม่ต้องมามีเรื่องติงต๊องให้ไม่เข้าใจกันอย่างนี้
"เอาอีกชามลุง วันนี้ผมมีจ่าย จัดมาได้ไม่อั้นเลย" เสียงแหลมแต่ทุ้มตำ จัดว่าเป็นเสียงของผู้ชายที่มีนำเสียงดีคนหนึ่งเชียวล่ะ กับใบหน้าระรื่นอมชมพู หน้าขาวๆตัดกับปากสีแดงจัดซึ่งกำลังยิ้มแย้มอยู่ให้แสงดวงไฟหลอดกลมตามร้านแผงลอยยิ่งขับให้ใบหน้านี้ดูสวยอย่างไม่อาจจะละสายตาออกไปได้ คาเมะหันไปมองเจ้าของต้นเสียงทันทีโดยไม่อาจจะละสายตาได้เลย ดวงตาสวยของคาเมะทำให้คนที่กำลังนั่งกินอย่างเมามันต้องเหลือบมอง
"เอ้า นาย มากินราเมงด้วยกันไหม" เค้าเรียกเสียงดังอย่างไม่เกรงใจคนที่เดินผ่านไปมา บุคลิกโผงผางแบบนี้เหมือนจินไม่มีผิด ทำให้คาเมะรู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อยแต่ก็เหมือนต้องมนต์บางอย่างทำให้ต้องตามเสียงนั้นไป
"นาย
"คาเมนาชิ คาซูยะ" คาเมะตอบทันควัน
"ฮ่าๆๆ ชั้นไม่ได้ถามชื่อพร้อมนามสกุลของนายสักหน่อย บอกแค่ชื่อเล่นมาก็ได้" เค้าโพล่งออกมา
"มีใครเค้าบอกชื่อเล่นคนแปลกหน้ากันเล่า" คาเมะรู้สึกเขินนิดหน่อย อะไรกันนายคนนี้จะไม่เถรตรงเกินไปหน่อยเหรอ พูดอะไรก็คิดซักหน่อยสินายนี่
"ฮ่าๆๆ ขอโทษ ผมชื่อ ยามะพีนะ เรียกว่า พี เฉยๆก็ได้ ชื่อนี้ใช้เรียกเฉพาะคนที่สนิทกันเท่านั้นล่ะ" ยามะพีแนะนำตัวเองพร้อมชื่อที่ใช้เรียกแบบกันเอ๊งกันเองพร้อมเสร็จ
"เอาแบบผมมาอีกชามเลยลุง" ยามะพีสั่งโดยไม่ถามสักนิดว่าคาเมะต้องการจะกินอะไร ยามะพีมักจะตัดสินใจในเรื่องของตัวเองได้เสมอและนิสัยนี้มันก็เลยไปใช้กับคนรอบกายด้วย บางครั้งเค้าก็มีเรื่องทะเลาะชกต่อยอยู่บ่อยๆ แม้รูปร่างจะบอบบางเหมือนผู้หญิงไม่มีผิด แต่มันก็ไม่ได้เข้ากันกับอุปนิสัยส่วนตัวของเขาเลย ช่างเป็นคนที่ตลกชะมัด
คาเมะทำหน้าตุ่ย เค้าเองก็เอาแต่ใจไม่ต่างอะไรจากคนที่เค้าเคยพบเจอมาเลย ทำให้ชีวิตส่วนตัวของเขานั้นอยู่แต่กับจิน มีจินเพียงคนเดียวล่ะมั้งที่เข้าใจเค้า ตั้งแต่จำความได้ ตั้งแต่เกิดมาเลยนั่นแหละ เค้าแทบจะไม่มีเพื่อนสนิทเลย จะว่าขี้อายไม่กล้าไปตีสนิทกับใครเหรอก็เปล่า แต่เพราะคนรอบข้างอาจจะไม่ชอบนิสัยเอาแต่ใจตัวเองแถมเย่อหยิ่งของเขาก็ได้
จะว่าไปมีจินคนเดียวที่สนิทกับเขามากที่สุดตั้งแต่เป็นนักเรียนประถม จะให้ไม่รักอิอ้วนได้ไงล่ะ ก็แหมอะไรก็คาซึๆ อ้อนเก่งแถมหวานซะเลี่ยนขนาดนั้น ถึงจะทะเลาะกันบ่อยแค่ไหนจินก็มาง้อเค้าอยู่ดี แต่ดูท่าคราวนี้คาเมะจะไม่ยอมคืนดีด้วยซะละมั้ง
"นาย ชั้นเรียกนาย
"ชั้นว่า นายกินไปเหอะชามนี้ ดึกมากแล้ว และชั้นก็ไม่ค่อยสบายด้วย" คาเมะรีบตัดบททันทีตามนิสัย ไม่รู้จักมักจี่แถมมาเรียกชื่อของเขาเองแบบนี้ สำหรับคาเมะแล้ว คนที่เค้าไม่พอใจจะเสวนาด้วย ก็จะไม่ยุ่งด้วยเด็ดขาด เค้าอยากทำอะไรก็ให้ใจสั่งไปแบบนี้แหละ
"นี่ รู้มั้ยว่าราเมงเจ้านี้อร่อยขนาดไหน" จู่ๆยามะพีก็ชวนให้คาเมะมาสนใจกับชามก๊วยเตี๋ยวทันที ไม่สนใจเลยด้วยซำว่าคนข้างๆอยากจะอยู่ หรืออยากจะไป
"ถ้านายไม่กินนะ นายอาจจะเสียใจไปตลอดชีวิตก็ได้ มาเถอะ ถ้าชั้นไม่เห็นว่านายเตะตาชั้นละก็คงไม่คิดชวนหรอกนะ" ยามะพียังคงจ้อต่อ อะไรกันนี่ นายคนนี้ประหลาดจริงๆเลย แต่คำพูดของเค้าทำให้คาเมะก้าวไม่ออก และต้องมาสนใจไอ้ชามก๊วยเตี๋ยวที่ยามะพีบอกทันที
"เป็นไง นี่ชั้นภูมิใจนำเสนอเลยนะ" ใช่ มันอร่อยจริงๆด้วย อย่างที่ว่าสินะ ของฟรีย่อมอร่อยกว่าของที่จ่ายด้วยตังค์ตนเอง แถมดึกป่านนี้อาหารยังไม่ตกถึงท้องมันย่อมอร่อยเป็นธรรมดา แต่ว่านายคนนี้เริ่มดูน่าสนใจในสายตาคาเมะขึ้นมาแล้ว เพราะคำพูดเหรอ ปากหวานนะยามะพี นอกจากจะปากเสียด้วยเนี่ย
"นายมาจากไหน แล้วทำไมถึง..." คาเมะถามขึ้นมา ไม่รู้เป็นเพราะอะไรถึงนึกคำพูดได้ยากจัง
"ชั้นทำงานแถวนี้ แล้วนี่ก็เจ้าประจำของชั้นเลยนะ" ยามะพีตอบ
"งานอะไร?" คาเมะขมุ่นคิ้วเล็กน้อย เวลาสงสัยทีไรชอบเอาคิ้วมาผูกกันเป็นโบได้ทุกที จะโบเล็กโบใหญ่ได้ทั้งนั้น
ยามะพีชี้ไปที่ร้านทำผมทันที อ๋อ คงเป็นพนักงานในร้านทำผมอยู่สินะ หน้าหวานผมสวยขนาดนี้จะให้ทำงานอยู่ที่อื่นได้ยังไง
"ล้อเล่นน่ะ ชั้นทำงานก่อสร้าง แต่ที่ร้านทำผมน่ะ ชั้นสนใจนะ" เอ๊ะ ทำงานก่อสร้างกับทำงานที่ร้านทำผมต่างกันลิบลับจะเอามาเกี่ยวกันได้ยังไงเนี่ย
"นายคงอยากจะทำงานที่ร้านทำผมนั่นสินะ" คาเมะตอบแทนความคิดของยามะพีทันที
"อืม ตอนนี้ก็กำลังเก็บเงินอยู่ว่าจะไปเรียนหาใบอนุญาตประกอบอาชีพนี้จะได้ทำงานนี้ได้สักที แต่คงไม่ทำงานที่นี่หรอก..." เอ พูดอะไรแปลกๆ ทำไมต้องทำงานที่นี่ด้วย
"นายเห็นผู้ชายในนั้นใช่ไหม?" คาเมะผุดลุกขึ้นมาแล้วจ้องเข้าไปในกระจกร้านทันทีอย่างไม่ต้องให้ใครมาสั่ง เค้าเห็นผู้ชายร่างสูง ผอมบางแต่อวบกว่าเค้าเล็กน้อย ริมฝีปากโดดเด่นนั่นทำให้เค้าจำได้ทันที
"ยูอิจิ!!!" ใช่เลย เพื่อนเก่าสมัยม.ปลายมาทำงานที่ร้านทำผมอยู่นี่เอง แต่เอ๊ะ แล้วยูอิจิไปเกี่ยวข้องกับยามะพีได้ยังไง
"นั่นเพื่อนเก่าชั้นเอง นายหมายถึงคนที่ยืนไดร์ผมคนนั้นใช่มะ" คาเมะถามยามะพี
"ไม่ใช่ คนผิวสีนำผึ้ง ตัดผมเกรียนๆคนนั้นต่างหาก" เฮะ ใคร อ๋อ ไอ้คนที่นั่งทำเล็บอยู่อ่ะ ว้าว คิ้วสวยจัง หน้าก็หวานใช่เล่น แต่ 555 หล่อเรอะนายคนนี้ จะว่าสวยหรือหล่อดีล่ะ
"เค้าชื่อ โคคิ" ยามะพีแนะนำ
"นายชอบเขาล่ะซี้ แต่เค้าเป็นเกย์เหรอ ชั้นหมายถึงเค้าเป็นผู้หญิงเหรอ" คาเมะถามยามะพี
"555 ผู้ชายน่ะ แต่สวยใช่ไหมล่ะ" บ้าน่ะ ถึกขนาดนี้จะไปเรียกว่าสวยได้ยังไง คาเมะตอนนี้ก็ไม่อยากกลับใจหรอกนะ แต่ยังไงถ้าเค้าเป็นยามะพีคงจะไม่สนใจนายหน้าประหลาดนั่นเด็ดขาด
"เฮ่ โคคิ มีผู้ชายหน้าหวานมามองแกน่ะ ไปทักเค้าหน่อยดีมะ" เอาล่ะสิไอ้ยูอิจิรู้ตัวซะแล้วว่าคาเมะมาแอบมองเค้าอยู่ จะหนีก็ไม่ได้แล้วงานนี้ คงต้องตกกระไดพลอยโจนเข้าไปทักทายเพื่อนซี้ 4/2B กันหน่อย
"โถ่ไม่เจอกันตั้งนานแน่ะ เด๋วนี้ควงสาวทำงานแล้วเหรอฟะ" คาเมะยังไม่หลุดมาดให้ยูอิจิเห็น นอกจากเขากับจินแล้ว ใครเลยจะรู้ล่ะ
"ชื่ออะไรเหรอฮ้า..." โคคิถามคาเมะยังไม่พอ ยังพุ่งเอาตัวหนาๆเข้าไปกระแซะคาเมะได้อีก
"เอ่อ...ผมเปล่านะ เอ่อ..." คาเมะไม่รู้จะตอบว่าอะไรดี แต่ตอนนี้มีคนยืนมองเค้าตาเขียวอยู่โน่นแล้ว ยามะพีนั่นไง
"โคคิ เค้าคงไม่เล่นด้วยกับแกหรอก อย่าไปจับเค้าสิน่า นี่เพื่อนชั้นนะ เด๋วไล่ออกเลย" ยูอิจิหันไปดุโคคิ
"คาเมะ!!!" เสียงอันดังเป็นแปดหลอดอย่างนี้มีคนเดียวที่กล้าเรียกคาเมะในเกาะญี่ปุ่นแล้วล่ะมั้ง โถ คันไซยังอาย คาเมะต้องหันไปตามเสียงนั้น
"อิจิ๊น!!!" จินมาแล้ว มาตามถึงร้านที่มีแต่หมู่ชาย คาเมะเสร็จแน่ ไม่รู้จะหาข้อแก้ตัวยังไงแล้วด้วย
"ต่อให้โกรธกันก็ไม่น่าจะมาหาผู้ชายถึงในร้านทำผม นายไม่รู้เหรอไงว่าผู้ชายพวกนี้มัน...แล้วจะหาว่าไม่เตือนนะ"
เอาแล้วไง ทะเลาะกันเรื่องกินยังไม่พอ แล้วแบบนี้เรื่องที่พวกเค้าทะเลาะแค่เล็กน้อยกันมันไม่กลายเป็นปมปัญหาเลยเหรอไงเนี่ย...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น