ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Addicted to your smile ; รอยยิ้มนั้น ของผมรึเปล่า ? [joonmir] [yaoi]

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 3 : Let's get started

    • อัปเดตล่าสุด 29 ก.ค. 56


    Let's get started

     

    แกรก แกรก

    เสียงล้อรถเบียดกับก้อนกรวดถนนค่อยๆเบาลงก่อนจะเงียบสนิท โกอึนอาดับเครื่องยนตร์ก่อนจะเอี้ยวตัวมาปลุกน้องชายตัวแสบที่เคลิ้มหลับไปหลังจากขึ้นรถไม่กี่นาที

     

    “ชอลยงอา ถึงบ้านแล้วนะ”

    ร่างเล็กหรี่ตามองก่อนจะลุกจากที่นั่งมาบิดขี้เกียจพอเป็นพิธี ก่อนจะเปิดประตูเดินไปหยิบกระเป๋าหลังรถพลางสูดอากาศบ้านเกิดให้ชุ่มปอด ชอลยงเดินไปปิดประตูหน้าบ้านพลางมองหาเจ้าโซจู สุนัขพันธุ์เล็กที่เขาซื้อมาไว้ที่บ้านเมื่อสามเดือนก่อน

     

    แม่คงเอาโซจูเข้าไปในบ้านล่ะมั้ง วันนี้หนาวใช่เล่น ขืนปล่อยให้นอนนอกบ้านคงไม่สบายแน่

    ร่างบางคิดพลางเดินเข้าบ้าน เปลี่ยนรองเท้าจากทรงอ็อกซ์ฟอร์ดกลายเป็นสลิปเปอร์นิ่มๆก่อนเลี้ยวขวาเข้าห้องตัวเอง

     

    พรึ่บ

    ไฟกระพริบขึ้นสองสามทีก่อนจะติดสว่าง เผยให้เห็นห้องนอนเล็กๆแต่เป็นระเบียบ บนผนังมีรูปภาพเจ้าของห้องติดเรียงรายจนกินพื้นที่เกือบสามในสี่ส่วนห้องผนัง เล่าเรื่องราวในแต่ละช่วงชีวิตของชอลยงได้เป็นอย่างดี

    วันแรกที่ไปโรงเรียน

    งานเปิดกีฬาสีที่เขาได้ถือป้ายโรงเรียนกับสาวสวยประจำชั้น

    ตอนที่ชกต่อยกับเพื่อนแล้วคิ้วแตกจนพ่อต้องพาไปโรงพยาบาล

    งานประจำปีที่เขาขึ้นไปร้องเพลงจนได้เนื้อคุณภาพเยี่ยมมาเป็นรางวัล

    รูปภาพกับครอบครัวที่สวนแอปเปิ้ลหลังบ้าน

    รูปเขากับพ่อ

    รูปเปิดตัวอัลบั้มแรกของเอ็มแบลค

     

    ชอลยงไล่ดูรูปเก่าๆพลางนึกย้อนไปถึงช่วงเวลาต่างๆเหล่านั้น รอยยิ้มบางๆปรากฏขึ้นข้างแก้ม ไม่ว่าใครจะว่ายังไง ชอลยงก็ยังเป็นคนเดิม ร่าเริง สนุกสนาน ถึงจะมีความเศร้าอยู่ภายใน แต่รอยยิ้มของชอลยงจะมีพร้อมให้ทุกคนเสมอ

    แม้แต่กับพี่ชางซอน

     

     

    ร่างบางสะบัดหัวไล่ความทรงจำที่ปวดร้าวเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาออกจากหัว ก่อนจะล้วงหาโทรศัพท์ในกระเป๋า

     

    “คุณได้รับหนึ่งข้อความ”

    -กลับบ้านดีๆนะ ขอบคุณสำหรับแอปเปิ้ล

    พี่ชางซอน

     

    ร่างบางฝืนยืมให้หน้าจอ

    จะมีคนที่ทำให้เขาอยากจะยิ้มและร้องไห้ในเวลาเดียวกันแบบนี้อีกรึเปล่านะ

    พี่ชางซอน

     

     

     

    “ขอโทษที่มาสายครับ”

    ประตูเปิดออกพร้อมกับสมาชิกเอ็มแบลคคนสุดท้าย

     

     

    “ปาร์ค ซังฮยอน ยินดีที่ได้รู้จักฮะ”

    เสียงใสๆพร้อมรอยยิ้มของเจ้าตัวทำให้บรรยากาศที่เคร่งเครียดดูจะคลายออกในทันที

     

    “ในเมื่อสมาชิกมาครบแล้ว ขอให้แนะนำตัวกันอีกที จะได้รู้จักกันทั้งหมด” จีฮุนเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินไปที่มุมห้อง ปล่อยให้พวกเขาทั้งห้าได้แนะนำตัว

     

    “ยาง ซึงโฮ”

    “จอง บยองฮี”

    “อี ชางซอน”

    “บัง ชอลยง”

    “ปาร์ค ซังฮยอน”

     

    น้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคนดังขึ้นเพื่อแนะนำตัวเอง ชอลยงเหลือบมองคนที่ดูเหมือนจะเป็นรุ่นพี่

    ยาง ซึงโฮ , จอง บยองฮี , อี ชางซอน

    ส่วนตัวเขากับซังฮยอนน่าจะอายุไล่เลี่ยกัน

     

    “ต่อไปนี้พวกนายจะเป็นกลุ่มยูนิตใหม่ที่ฉันเป็นคนควบคุมดูแลเอง ชื่อของฉันจวน จีฮุน ซึ่งฉันไม่อยากให้พวกนายเรียกว่าเรน ต่อหน้าฉันอยากให้พวกนายเรียกว่ารุ่นพี่ หรือ พี่จีฮุน ห้ามเรียกว่าเรนโดยเด็ดขาด ใครทำผิดกฎจะต้องถูกลงโทษ เข้าใจไหม”

    “ครับ”

    “เอาใหม่ เข้าใจที่พูดแล้วใช่ไหม”

    “ครับ พี่จีฮุน”

    “ดีมาก อีกอย่างหนึ่งที่พวกนายควรรู้เมื่อเข้ามาเป็นเอ็มแบลคแล้ว ฉันจะคอยดูแลพวกนายทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องซ้อมไปจนถึงคอสตูมทุกอย่าง อยากให้พวกนายเข้าใจและทำตามที่ฉันบอก เรื่องเวลาการซ้อมไม่ว่าฉันจะนัดตอนไหนพวกนายต้องพร้อมและกระตือรือร้นที่จะมา ให้ฉันรู้ว่านายมีความตั้งใจจริงในการเป็นสมาชิกของเอ็มแบล็ค”

    “ครับ พี่จีฮุน”

    “เอาล่ะ คราวนี้ขอให้แต่ละคนตามฉันมาที่ห้อง ฉันจะสอบถามอะไรบางอย่างก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าพวกนายทั้งห้าคนพร้อมที่จะมาเป็นสมาชิกของเอ็มแบล็คแล้วจริงๆ เริ่มที่นาย ยาง ซึงโฮ”

     

    ซึงโฮพยักหน้ารับก่อนจะเดินตามพี่จีฮุนไปยังห้องถัดไป

    พวกเขาที่เหลืออยู่ต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก

     

    “พี่จีฮุนโหดไม่ใช่เล่นเลยนะเนี่ย” จอง บยองฮีพูดด้วยน้ำเสียงติดตลกที่ช่วยทำให้ทุกคนผ่อนคลาย

    “นายล่ะชางซอน ได้ข่าวว่ารู้จักกับพี่จีฮุนก่อนหน้านี่แล้วนี่ พี่เค้าเป็นไงบ้างล่ะ” ชางซอนที่สะดุ้งกับคำถามหันหน้ามาทางบยองฮีก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงที่เป็นกันเองขึ้น

    “ก็โหดอะ ตอนถ่ายหนังด้วยกันโหดกว่านี้อีก ออกกำลัง เข้าฟิตเนสตลอด ที่สำคัญคือชวนผมไปด้วยนี่แหละ ได้กล้ามนะแต่เหนื่อยชะมัด”

     

    ชอลยงมองชายทั้งสองที่เริ่มจะคุยกันถูกคอพลางเหลือบมองคนตัวเล็กที่ยังประหม่าอยู่

     

    “หวัดดี”

    ร่างบางแตะเข้าที่ไหล่ของคนตัวเล็กเบาๆก่อนจะยิ้มให้พร้อมทักทาย

    คนตัวเล็กที่สะดุ้งหน่อยๆหันมายิ้มให้ก่อนจะเริ่มบทสนทนา

    “หวัดดี ชื่อซังฮยอนนะ”

    ชอลยงรู้สึกถูกชะตากับคนตัวเล็กตรงหน้านี่ แต่ยังมีรังสีแปลกๆที่เค้าพอจะจับได้อยู่บ้างว่าคนตรงหน้ามีอะไรบางอย่างที่เขารู้สึกไม่สนิทใจด้วยในทีเดียว ชอลยงชวนซังฮยอนคุยหลายเรื่อง ซึ่งได้คำตอบแบบถามคำตอบคำบ้าง ซังฮยอนดูจะเงียบๆ บางครั้งลืมตอบคำถามไปบ้างก็มี แต่โดยรวมแล้วเพื่อนใหม่คนนี้ก็ใช้ได้ในระดับหนึ่ง หวังว่าจะสนิทกันมากกว่านี้

     

    หลังจากเข้าไปสัมภาษณ์กับพี่จีฮุนจนครบทุกคนแล้ว สมาชิกเอ็มแบล็คต่างก็ได้ชื่อใหม่ในวงการเพื่อให้ง่ายต่อการจดจำและส่วนใหญ่จะใช้ชื่อภาษาอังกฤษให้แปลกหู พี่จีฮุนจะเลือกชื่อมาให้ก่อนจะถามความสมัครใจว่าชอบชื่อนี้หรือจะเปลี่ยนชื่อใหม่ ทำให้แต่ละคนอยู่ในห้องสัมภาษณ์นานกว่าที่ควรจะเป็น (ก็แน่ล่ะ ชื่อนี้ต้องใช้ในวงการไปตลอด)

    สำหรับตัวชอลยงเองก็พอใจกับชื่อใหม่อยู่เหมือนกัน ด้วยความที่มันแปลกหูแต่ก็ชวนให้สงสัยนี่แหละ แถมพอออกเสียงแบบเกาหลีก็ดูน่ารักไม่หยอก มิรือ มิรือ เห็นทีกลับไปบ้านต้องบอกให้ทุกคนฝึกเรียกซะหน่อยจะได้ชิน

    สำหรับซึงโฮและชางซอน พี่จีฮุนเลือกให้ใช้ชื่อเกาหลี แฟนเพลงจะได้คุ้นเคยและเป็นตัวนำของวง

     

    อีจุน อีจุน อีจุน

    ชอลยงเห็นชางซอนเดินมาพลางเรียกชื่อใหม่ของตัวเองให้ชิน

    ร่างบางนึกสนุกเลยขอผสมโรงด้วย

    “อีจุน อีจุน อีจุน”

    ชางซอนหันมาทำเบื่อหน่ายก่อนจะบอกชอลยงเป็นรอบที่สิบแปดของวัน

    “ย๊า ชั้นเป็นรุ่นพี่นายนะ เรียกแต่ชื่ออย่างนี้ได้ไง”

    แต่ร่างบางไม่สนใจ กลับเรียกชื่อคนตัวสูงตรงหน้าต่อด้วยสรรพนามเดิม ก่อนจะมีคนมาขัดจังหวะ

     

     

    “จุนฮยอง ชอลยง พี่จีฮุนให้กลับบ้านได้แล้วฮะ”

    ซังฮยอนเข้ามาบอกข่าวพลางยิ้มให้ชอลยงกับชางซอน ชางซอนที่พอได้ยินซังฮยอนเรียกว่าพี่ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้คนตัวเล็กก่อนหันมาดุชอลยง

    “ดูอย่างซังฮยอนซะบ้าง รู้จักรุ่นพี่รุ่นน้อง น่ารักกว่านายเยอะ”

    ร่างบางเบ้ปากใส่คำดุ ก่อนจะหันไปแลบลิ้นใส่ชางซอนพร้อมเรียกชื่ออย่างเดิม

    “แบร่ ไม่เรียกฮยองหรอก อีจุน”

    ก่อนจะวิ่งสุดฝีเท้าไปยังลิฟต์ที่เปิดอยู่ ร่างบางกดที่ปุ่มปิดลิฟท์รัวๆก่อนที่ชางซอนจะวิ่งมาง้างประตูได้ทัน

    “ฝากไว้ก่อนเถอะชอลยง”

     

     

    หลังจากวันนั้น ชางซอนก็ดูจะเอ็นดูซังฮยอนมากเป็นพิเศษ เทียวซื้อขนมของกินมาฝากไม่เว้นแต่ละวัน ยิ่งเมื่อรู้ว่าซังฮยอนเป็นน้องชายสุดที่รักของซานดาร่า ปาร์ค สาวสวยประจำวงทูเอนี่วัน ชางซอนแทบจะถวายตัวเป็นผู้ดูแลของซังฮยอน ผิดกับเขาที่กลายเป็นไม้เบื่อไม้เมากับเจ้าตัว ด้วยความที่ไม่ถือเรื่องรุ่นพี่รุ่นน้อง(ที่เขาไม่ถือฝ่ายเดียว)รวมไปถึงนิสัยแสบๆของชอลยงที่ติดตัวมาตั้งแต่อยู่บ้าน ทำให้ชางซอนต้องดุอยู่บ่อยๆ เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าชอลยงไม่รู้ แต่ทุกทีที่อยู่ใกล้ชางซอน ชอลยงจะเพิ่มเลเวลปากหมา น่าเตะขึ้นสิบเท่าแบบห้ามไม่ได้ เวลาอยู่กับพี่ซึงโฮกับบยองฮี ชอลยงจะงุ้งงิ้งขี้อ้อนแบบเด็กๆ แต่เวลาอยู่ใกล้ชางซอนจะหาเรื่องวุ่นวายจนเจ้าตัวนึกรำคาญตัวเองอยู่ตงิดๆ ยิ่งเวลาที่ชางซอนโอ๋ซังฮยอน ชอลยงหันหน้าที่ก่อนจะร้องเพลงดังๆจนสองคนรำคาญ ตบท้ายด้วยการเบ้ปากใส่ทุกครั้ง ในแบบที่ไม่เคยทำกับใครมาก่อน

     

    บางครั้งชอลยงก็รู้สึกแปลกๆ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องทำแบบนั้น

    แต่สิ่งหนึ่งที่ชอลยงรู้ คือมันแน่นหน้าอกชะมัดเวลาเห็นชางซอนโอ๋ซังฮยอน

    แบบนี้ชอลยงไม่ชอบเลย น้อยใจชะมัด

     

    แต่การที่ชอลยงไม่ชอบให้ชางซอนโอ๋ซังฮยอนไม่ได้หมายความว่าเจ้าตัวต้องพาลถูกเกลียดไปด้วย

    ซังฮยอนสนิทกับชอลยงดี และดูแลกันเหมือนพี่น้อง

    ส่วนตัวซังฮยอนติดจะง๊องแง๊งกับชอลยงมากกว่าชางซอนซะอีก

    มีครั้งหนึ่งที่ซังฮยอนส่งข้อความมาแล้วชอลยงไม่ได้ตอบ

    วันต่อมาซังฮยอนเลยลบรายชื่อของชอลยงออกจากโทรศัพท์

     

     

    จนถึงวันนี้ เจ้าตัวก็ยังไม่ได้เมมรายชื่อเข้าไปใหม่

     

     

    ร่างบางสะบัดให้ผมที่เพิ่งสระเปียกพอหมาดๆ หยิบผ้าขนหนูผืนเล็กขึ้นมาซับน้ำตามไรผมก่อนจะเดินออกมาตากลมที่ระเบียงบ้าน

     

    Girl, smoky girl, smoky girl, smoky girl

     

    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นข้างตัว ชอลยงเดินไปทางต้นเสียงก่อนจะเปิดดูรายชื่อคนที่โทรเข้ามา

     

     

    “พี่ชางซอน”

    ร่างบางตัดสินใจอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะใช้นิ้วสไลด์รับสาย

     

     

     

    “ยอโบเซโย ยังไม่นอนหรอฮะ”

    “อืม ยัง ขอคุยด้วยหน่อยสิ”

    ร่างบางขมวดคิ้วเข้าหากัน ปรกติพี่ชางซอนเป็นคนนอนเช้า ถ้าไม่มีเรื่องสำคัญจริงๆจะไม่โทรมาในเวลาเกือบเที่ยงคืนแบบนี้แน่ๆ

    “มีอะไรรึเปล่าฮะ”

     

     

     

     

     

    “วันนี้พี่อยากไปส่งซังฮยอนที่บ้าน เลยเดินออกมารอที่ลานจอดรถ พี่ยืนอยู่ตรงนั้นยี่สิบนาที อย่าพึ่งขำสิเจ้าบ้า ยี่สิบนาที ก่อนที่พี่จะเห็นซังฮยอนนั่งรถพี่ซึงโฮขับผ่านไป….

    พอเล่ามาถึงตรงนี้ น้ำเสียงปลายสายก็สั่นหน่อยๆ จนชอลยงได้ยินเสียงถอนหายใจผ่านโทรศัพท์

     

     

    “พ…..พี่ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี….พี่สับสนไปหมดแล้วชอลยง”

    ปลายสายเงียบไปซักพัก ก่อนจะมีเสียงสะอื้นลอดผ่านเข้ามา

     

     

    เรื่องความสัมพันธ์ของพี่ซึงโฮกับซังฮยอนที่ชอลยงสงสัยมาซักพักแล้ว แต่ยังไม่กล้าบอกชางซอนเพราะเจ้าตัวเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

    พี่ซึงโฮดูจะเข้าอกเข้าใจซังฮยอนดีแม้ว่าจะไม่ได้เข้ามาคุยมากเท่าชางซอน

    ชายหนุ่มมักจะนัดซังฮยอนออกไปทานข้าวหลังซ้อมเสร็จ บางครั้งก็พาไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะใกล้ๆ

    เพราะซังฮยอนเป็นคนเงียบขรึม เวลามีปัญหาอะไรจะไม่ยอมบอกเมมเบอร์ ส่วนใหญ่จะใช้เวลาว่างนั่งเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง เรื่องนี้ชอลยงรู้ดี เวลาเดินไปหา เจ้าตัวก็จะยิ้มให้ พลางบอกว่าไม่เป็นไร จนชอลยงต้องเดินถอยออกมาเอง

    แต่พี่ซึงโฮ ด้วยความที่เป็นลีดเดอร์ ไม่ปล่อยให้ซังฮยอนนั่งเหม่ออย่างเคย เดินเข้าไปทักก่อนจะลากคนตัวเล็กให้ออกมาเดินสูดอากาศด้วยกัน ซังฮยอนมาบอกที่หลังว่าพี่ซึงโฮไม่ได้ทำอะไรอย่างที่ทุกคนคิด (อย่างที่ชอลยงคิด แหะ) แค่พาเดินเล่นแถวนั้นห่างออกไปแค่สอง-สามช่วงตึกและแทบจะไม่ได้คุยอะไรกันเลย แค่เดินเงียบๆข้างกันเท่านั้น

    พอนานวันเข้า ซังฮยอนก็เริ่มคุ้นเคย และไว้ใจพี่ซึงโฮจนยอมเล่าเรื่องปัญหาที่ปรับตัวกับวัฒนธรรมบ้านเกิดไม่ทัน เพราะซังฮยอนย้ายตามพ่อไปอยู่ที่ฟิลิปปินส์ตั้งแต่เด็ก ทำให้ไม่คุ้นกับนิสัยคนเกาหลี รวมไปถึงวัฒนธรรมต่างๆที่เวลาเจ้าตัวทำก็ดูจะขัดหูขัดตาคนรอบข้างไปซะหมด โชคดีที่พี่ซึงโฮมีใบขับขี่แล้ว เลยขับรถพาซังฮยอนไปรู้จักวัฒนธรรมเกาหลีแท้ๆที่อันยาง โดยมีคุณแม่ของพี่ซึงโฮเป็นคนสอนให้

    ซังฮยอนเริ่มไปไหนมาไหนกับพี่ซึงโฮอย่างสนิทใจขึ้นเรื่อยๆ และความสัมพันธุ์ของทั้งคู่เริ่มลึกซึ้งกว่าคำจำกัดความของเพื่อนร่วมงาน ซึงโฮที่พึ่งเลิกกับแฟนสาวเพราะเข้าวงการมียาสมานหัวใจชั้นดีที่มีชื่อว่าซังฮยอนที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ว่าทำให้ลีดเดอร์ของวงมีรอยยิ้มสดใสขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ และการปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมเกาหลีที่ซังฮยอนเหินห่างมานานมีกาวชั้นเยี่ยมยี่ห้อยาง ซึงโฮช่วยประสานให้ซังฮยอนคุ้นเคยและรับวัฒนธรรมเกาหลีได้ในที่สุด การกระทำของทั้งสองอยู่ในสายตาของชอลยงมาตลอด ในช่วงนั้นชางซอนเริ่มมีงานนอกเข้ามาบ้างแล้ว เลยเข้ามาเจอเมมเบอร์ได้แค่ช่วงซ้อมกับก่อนจะขึ้นเวทีเท่านั้น ปล่อยช่องว่างให้ซึงโฮเข้ามารับหน้าที่แทนอย่างเหมาะเจาะโดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้เรื่อง

    แต่ชอลยงรู้ รู้มาตลอดว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร

     

    พี่ชางซอน ครั้งนี้ผมจะทำให้พี่ยิ้มให้ได้

    ด้วยตัวของผมเอง

     

     

     

     

    เกร้ด จิกหมอน พรุ่งนี้มีสอบอีค่อน แต่ออกมาเป็นตอนนี้ได้ไงไม่รู้ /โปรยดอกไม้

    ได้เวลาออกโรงของชอลยงแล้ว รับรองว่าเด็ดสะระตี่ (ห้ะ) จนทุกคนคาดไม่ถึง

    โดยเฉพาะชางซอน เตรียมรับมือไว้ดีๆนะจ๊ะ /ยกยิ้ม

    purpleplum

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×