ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : -อะไรว้า!?-
ผมจำได้ว่าครั้งหนึ่งช่วงที่ยังเรียนอยู่ เปิดดูกระเป๋าตังก็ไม่เจอสิ่งใดทำได้แค่ต้มมาม่า... และทั้งที่กินได้แค่นั้นก็ยังมีปัญหา คุณป้าเจ้าของบ้านเรียกคุยเรื่องค่าเช่าในเวลาเดียวกับที่มาม่าได้ที่ แล้วคุณคิดว่ามันเป็นยังไงกันล่ะ? มันอืดไงล่ะ ไอ้พวกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเนี่ยลองถ้าอืดแล้วนะคุณเอ๋ย ต่อให้ปรุงจนตายก็ไม่อร่อยหรอกบอกไว้เลย ชีวิตแม่งก็มีแต่เรื่องให้คิดมากแบบนี้ล่ะ ไอ้จังหวะดีสุดๆ ที่ไม่ต้องคิดก็จิตแจ่มใสมันมักจะพังทลายลงไป เหลือทิ้งไว้แค่ให้คิดจนจิตวุ่นวายเสมอ
“สวม PA แล้วใช่มั้ยครับร้อยเอกอลัน” เสียงซีดอนดังจิกเข้ามา
“บอกว่าสมศะ อึ๊! อลันก็ได้้วะ เออ สวมแล้ว... ว่าแต่มันย่อมาจากอะไร”
“Pressure control Armor ชุดมาตรฐานนักบินนีโออาร์มสตรอง”
ชุดปรับความดัน? จะปรับทำไมยังไงถ้าหุ่นระเบิดก็เละไปด้วย... ท่าทางผมจะคิดดังไปซีดอนจึงค้อนกลับมา
“ไม่ตายครับ ชุดนั่นแข็งแกร่งมากทีเดียว หลักฐานก็อยู่ที่เรดาร์ไงล่ะ สังเกตจุดเล็กๆ นั่น” ผมมองตามสั่ง “สัญญานชีพของทหารฝ่ายเราที่โดนยิงตกครับ”
อืมจริงๆ ด้วย มีลูกจ้อกรอดตายมาได้ตั้ง 5 ตัว แต่... โดนยิงร่วงไป 11 เครื่อง! ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์นี่หว่า! ฟินเรแหลมเข้ามาทันที
“ก็ยังดีกว่าตายหมดไม่ใช่รึไง เราควรยินดีกับพวกเขานะ เออจริงสิ..ไอ้ตัวที่นายยิงร่วงนักบินก็รอดมาได้เหมือนกัน”
หมายถึงไอ้ที่ไม่ระเบิดทันทีนั่นน่ะเหรอ เออ ค่อยจับมาเป็นเชลย
“แต่น่าเสียดายฉันขับหุ่นมาไม่ทันสังเกตเลยชนมันตายไปซะอย่างนั้น ฮะฮะฮะ” แล้วจะเล่าหาหอกอะไรวะ!
ซีดอนเสริมตาม “ทั้งที่ของมันดีขนาดนี้คุณดันไม่ใส่”
“ก็ยัยฟินเรไม่บอกว่ามีอยู่นี่หว่า!”
“อย่ามาโทษฉันนะไอ้บื้อ! อ่านคู่มือแล้วก็น่าจะรู้นี่หว่า” อึ๊! เถียงไม่ออก เอาน่ายังไงก็รอดมาได้แล้ว
ว่าแต่ว่าสถานการณ์แบบนี้...
“ขอแจ้งต่อกองทัพจักวรรดิ์ ยอมจำนนแต่โดยดีแล้วเราจะรับรองความปลอดภัยพลเรือน!”
ใช่แล้วครับ เรือรบศัตรูหันปืนทุกกระบอกอัดกลางโคโลนี่ลูกโป่งลอยน้ำนี้อยู่ ถ้าเกิดอะไรตูมตามได้ลามจนเละทั้งเมืองแน่
“ฉันว่าเราไม่ควรมาทำเนียนเฮฮาแบบนี้นะซีดอน”
“โอ้ยไม่มีปัญหาครับ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรตรงไหน” ด้วยเสียงติดตลก
“ไม่ใช่เรื่อง Your Home! ถ้ามันเหนี่ยวไกก็ได้ตายห่ากันหมดทั้งยวงน่ะสิเว้ย!”
แต่คำตอบกลับของซีดอนกลับอันตรายยิ่งกว่า
“ก็ช่างสิครับ ขอแค่ผมกับคุณอลันและลูกน้องที่ขึ้นตรงกับผมรอดไปก็พอ โคโลนี่นี้จะแหลกละเอียดยังไงก็ไม่ต้องไปสนใจ”
พล่ามห่าอะไรของมันวะไอ้ไรน้ำหน้าหนอน! จะนอนฝันหวานทั้งที่วันวานยังขมอมเค็มแบบนี้เนี่ยนะเฮ้ย!
“อ๊ะพวกคุณช่วยเงียบนิดนึงนะ พอดีผู้บัญชาการเรียกสายเข้ามาล่ะ”
มันพูดขึ้นโดยไม่สนใจผมเลย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ มีแต่ต้องตามน้ำขุ่นๆ ของไอ้หมอเวรมันไป.. แล้วทำไมฟินเรไม่เถียงอะไรกลับ? ผมเปิดกล้องขึ้นกะจะส่องหน้าตาพองๆ ชวนสยองของเธอแต่ทว่า
“ไม่อยู่! ไปไหน อ๊ะ!” ฟินเรออกนอกหุ่นว่ายตรงไปยังเรือรบของศัตรู! ผมรีบต่อสายตรงหาเธอทันที “ทำอะไรน่ะฟินเร เดี๋ยวก็โดนหรอก!”
“แล้วแกจะปล่อยให้เป็นไปตามแผนซีดอนรึไง เงียบไว้ ถ้าอยากช่วยก็ตามมา”
ตามไป? จะลอบขึ้นเรือศัตรูงั้นรึ!
“ถูกต้อง ฉันจะส่งเส้นทางไปให้ เข้าคนละทาง อย่าลืมหยิบปืนกับระเบิดหรรษาข้างที่นั่งมาล่ะ”
โห เล่นบังคับกันแบบนี้จะถามทำไมว่าไปรึเปล่า เอาวะ! ผมรีบคว้าข้าวของออกนอกหุ่นไปทันที
ถ้าถามว่ายังกลัวอยู่ใหม? ก็ขอตอบว่าแน่นอน หัวใจยังเต้นรัวอยู่เลย แต่จะปล่อยไว้ก็ไม่ได้ เพราะดูลักษณะแล้วไอ้บ้าซีดอนมันปล่อยทุกคนตายเรียบชัวร์ ถ้าไม่เป็นอย่างนั้นฟินเรคงไม่ออกมาหรอก ที่สำคัญคือถ้าผมบุกเข้าไปซีดอนไม่กล้าทำอะไรห่ามๆ แน่ ฟินเรย่อมรู้ดีถึงจิกหัวผมตามมาด้วย เกลียดไอ้ไรน้ำนิสัยเสียพวกนี้จริงๆ
“แปลกแฮะ เข้าใกล้ขนาดนี้พวกมันไม่ยักกะรู้ตัว” ผมถามฟินเรที่อยู่อีกฟากหนึ่งบริเวณท้ายเรือ พร้อมๆ กับการเจาะระบบประตู
“ชู่ เงียบหน่อย ไม่ต้องแปลกใจ ฉันกับผู้กองทำแบบนี้บ่อย ไม่งั้นจะมีอุปกรณ์เจาะระบบติดชุดไว้ให้เหรอ” มิน่าถึงมั่นใจนัก “ชุดของพวกเราออกแบบพิเศษเพื่องานแทรกซึมแบบนี้โดยเฉพาะ หรูหรากว่าของทหารธรรมดา แพงกว่าและหาซื้อไม่ได้ด้วย”
เออๆ รู้แล้ว ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณนักก็ได้ ไม่ใช่โฆษณายาแก้ไอน้ำดำ
“ว่าแต่นายเปลี่ยนสีชุดรึยัง”
“เปลี่ยนแล้ว สีขาวขอบดำมาตรฐานไรแดงใช่มั้ย? ทำไมเรียกพวกมันว่าไรแดงล่ะ” อ๊ะ ประตูปลดล็อคแล้ว
“เรื่องมันก็ไม่ยาวแต่ให้ซีดอนมันเล่าดีกว่า” ไม่เล่าตอนนี้ไปเลยล่ะ “ฉันขี้เกียจเล่าว่ะ” ชัดมาก...
ลอบขึ้นเรือเสร็จสิ้น ภายในเรือน้ำท่วมงั้นรึ มิน่าล่ะ เพราะว่าหายใจในน้ำได้สินะ ที่สำคัญปรับสมดุลความดันได้ดีกว่าด้วย ฉลาดคิดมากไรน้ำแห่งปัจจุบัน ถ้างั้นจะให้ค็อกพิทของ NS แห้งทำไมวะ?
“เพราะแกกดปุ่มระบายน้ำไงล่ะ” ขอบใจ! ไม่ต้องบอกก็ได้ “อีกอย่างนึงคือถ้าขับแบบแมนนวลต้องขยับร่างกายเยอะ แห้งไว้ดีกว่าไม่มีน้ำต้าน”
“ขับแบบแมนนวล มือล้วนๆ ไม่พึ่งออโต้น่ะเหรอ?”
“แปลกใจทำไม นายก็ขับแบบแมนนวลมาตลอดแท้ๆ”
อ้าวเหรอ ถึงว่าทำไมระบบล็อคมันต้องขยับแขนเล็งเป้าเอง กระทืบเบรค เหยียบคันเร่ง กระชากตัวเครื่องปรับสมดุลด้วยมือหมด มันมีแบบที่สบายกว่าด้วยหรอกเรอะ! แล้วทำไมในคู่มือมันไม่เขียนไว้ล่ะ? ว่าแต่ทำไมเรือรบมันมีคนน้อยจัง
“เรือถูกออกแบบให้ใช้ลูกเรือได้น้อยสุด 9 คน...” เฮ้ยจริงดิ!? “เรื่องนั้นช่างมัน ว่าแต่นายอยู่ไหนแล้ว?”
“อ่า เดี๋ยวนะ..” ไอ้ตัวอักษรยึกยือนี่มัน “ห้องวางแผนยุทธการ? อะไรวะ?”
“อีก 2 ห้อง เลี้ยวขวาเตรียมระเบิด เปิดประตูแล้วบึ้ม จากนั้นฆ่าทุกตัวที่หายใจได้ ทางนี้กำลังเจาะระบบเครื่องยนต์อยู่ ใกล้เสร็จแล้ว” โห แม่นี่ไม่ใช่ไรน้ำบ้าพลังธรรมดาแฮะ “แต่น้ำมันแดงแปร้ดบังตาเลยว่ะ ไม่น่าใช้มีดเล้ย”
หา ไอ้บทพูดแปลกๆ แบบนี้... “เธอฆ่าหมดเลยเหรอ?! ตรงนั้นมันน่าจะมีแต่ช่างเครื่องไม่ใช่เรอะ!”
“ช่างเครื่องก็ทหาร ประแจก็ใช้ฆ่าคนได้” อึ๊ เถียงไม่ออก “ถึงพวกมันจะยกแขนยอมแพ้ไปตั้งแต่เห็นหน้าฉันก็เถอะ มันมือไปหน่อยว่ะ” ยัยบ้านี่!
แต่ตอนนี้ไม่มีโอกาสได้เถียงเล่นกันแล้ว เพราะข้างหน้าผมนั้น...
“อ้าว เฮ้! นักบินมาทำอะไรในเรือล่ะเนี่ย”
ไอ้บ้าตรงหน้าผมมันคือทหารของเหล่าไรแดง มันสวมชุดธรรมดาไม่ใส่เกราะยิงคำถามหาคำตอบยากใส่ผมทันทีที่เจอกัน
ขอความช่วยเหลือด่วน “ฟินเร ฉันควรชื่ออะไร เร็วๆ เลย”
เธอกระซิบกลับมาง่ายๆ
“ลากมันไปอีก 1 บล็อค จะเป็นมุมอับกล้อง ฆ่า ทิ้ง ซะ” ช่างมันเถอะน่า เอาชื่อมาก่อน! “สิบเอกเลนนาร์ท โคเรล ชื่อนักบินที่ฉันเคยเชือดทิ้งไป”
เอาวะ ผมตีหน้าเนียนหันไป
“สิบเอกเลนนาร์ท โคเรล เครื่องฉันท่อแตก แต่ฉันรอดมาได้น่ะ” ดูจากลักษณะแล้วทุกคนบนเรือนี่ไม่ได้รู้จักกันดีขนาดจะจำได้ว่าใครเป็นใครโดยเฉพาะนักบินกับทหารบนเรือ
“โอ นายนี่โชคดีจังนะ กลับมาที่เรือได้ก็ดีแล้ว ไปพักก่อนเถอะ”
“ไม่ล่ะ ฉันมีเรื่องสำคัญต้องไปบอกกัปตัน”
“ตอนนี้กำลังเจรจากับ ผบ. ของจักวรรดิ์อยู่” เจรจากับ ผบ. รึ แสดงว่าการที่เราบุกเข้ามาได้ผล ซีดอนยังไม่ลงมือบ้าๆ บอๆ “ว่าแต่นายนี่ไม่คุ้นหน้าเลยนะ?” มาแล้วไงประโยคคำถามที่ไม่ควรมี
“แหงล่ะ เราไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ ฉันเองก็เพิ่งประจำการเรือนี้” ตามันเหลือกสงสัย! “..กองเรือนี้ไม่นานนักน่ะ”
“อ๋อเหรอ อืม” ผมพยายามก้าวเท้าไปต่อเพื่อเข้ามุมอับแต่ ต้องแย้บอีกนิด “แล้วนายจะไปไหนล่ะ”
“ห้องเครื่องน่ะ ระบบสื่อสารเกิดเป็นบ้าอะไรไม่รู้ เรียกไม่ติดซักที”
ฉิบล่ะสิ! ยัยฟินเรมันไปอาละวาดไว้นี่หว่า! จะเอาไงดี ต้องฆ่างั้นรึ! ฟินเรยังอยู่ที่นั่นรึเปล่านะ.. ไม่สิ ไม่อยู่แหงอยู่แล้ว ตอนนี้เธอคอยคุมกล้องวงจรปิดอยู่นี่ เอาวะ!
ผมลากไรแดงเข้ามุมอับในชั่วพริบตา กระชากหน้ากากสื่อสารของมันจนฟองอากาศบังหน้าแล้วซัดไปที่ลำตัวไม่ให้มันตั้งตัว ตามด้วยพลิกข้อแขนป้อมๆ นั่นกลับด้านชักเชือกเคเบิ้ลมามัดมือเท้าไว้ แล้วทุบจนมันแน่นิ่ง ผมตะลึงไปกับการเคลื่อนไหวของตัวเองเล็กน้อย ทั้งที่ไม่เคยสู้แบบนี้มาก่อนกลับลื่นไหลกว่าที่คิด เพราะร่างอลันงั้นรึ?
ฟินเรติดต่อเข้ามา “เรียบร้อยแล้วสินะ”
น็อคตาเหลือกแล้ว “ทำไมไม่ฆ่าซะ!” ฉันว่าไม่จำเป็นน่ะ “หา จะบ้าเหรอ! อีกฝ่ายเป็นทหารที่ถูกฝึกมานะเว้ย!” เอาน่า คุมตัวไว้ได้เปรียบกว่าตอนเจรจานา “ชิ ไอ้บ้าเอ๊ย!”
จะบ่นอะไรก็ช่างเธอเถอะ ฉันไปต่อล่ะ
ตรงหน้าคือประตูเข้าสะพานเดินเรือ มีเสียงลอกออกมาเล็กน้อย ผมมองระเบิดในมือ ลูกแรกสังหารใต้น้ำด้วยความร้อนสูงรัศมี 4 เมตร กับอีกลูกสารละลายยาสลบรัศมี 30 เมตร เวลาก่อนออกฤทธิ์ 5 วิ เวลากระจายทั่วพื้นที่ 20 วิ แตกตัวไร้เสียง ดีล่ะ
“ฟืนเร แง้มประตูซิ”
ประตูบานใหญ่เลื่อนออกเล็กน้อยพอหย่อนเข้าไป ระเบิดยาสลบแตกตัวอย่างราบลื่นกลางห้องโดยไม่มีใครสังเกต ประตูปิดลงผมเปิดตัวกรองป้องกันยาโดนตัวเอง
“นายนี่ร้ายกว่าที่ฉันคิดไว้อีกนะเนี่ยคุณสมศักดิ์ ตั้งแต่เทื่อกี้แล้ว เข้าใจคิดหาทางเลี่ยงภัย” ไม่ต้องชมหรอกน้องหนู พี่รู้ว่าตัวเองเทพ “แต่ก็โง่เช่นกัน ดันปล่อยศัตรูไว้เป็นๆ”
“การเก็บศัตรูไว้บางทีก็มีประโยชน์ไม่ใช่รึไง?”
“จ้าๆ ขี้เกียจเถียงแล้ว รู้งี้ฉันลุยเองซะดีกว่า” อยู่เฉยๆ เลยยัยไรน้ำนมโตสมองฟีบ
“เอาเถอะ นี่ก็ได้เวลาแล้ว นายเข้าไปเลย ป่านนี้คงหลับกันหมดแล้ว”
ซึ่งก็หลับกันหมดจริงๆ ทุกคนเปลือกตาปิดปากค้างกันหมด จอภาพใหญ่ยักษ์กลางห้องนั่นแสดงภาพใบหน้าอันคุ้นเคยของไอ้หมอโฉดซีดอน กับไรชราที่น่าจะเป็นผู้บัญชาการทหารของฝ่ายผมอยู่ พวกนั้นแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นผม เลยเปลี่ยนสีชุดกลับไปเป็นสีน้ำเงินเข้มเท่านั้นซีดอนถึงกับหน้าทึ่งตาโปน
ผมผลักกัปตันเรือออกไปจากเก้าอี้ แล้วสวมเข้านั่งที่แทนตามด้วย
“Hola! ซีดอน และท่านผู้บัญชาการ”
“คุณอลัน...” ซีดอนนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มออกมาแล้วหันไปตบไหล่ ผบ. “เห็นมั้ยล่ะครับ ผมบอกแล้วว่าไม่ต้องกังวล ทุกอย่างเป็นไปตามแผนเป๊ะ” ไอ้บ้านี่มันมาพูดจาทำเนียน ทั้งที่มันกะเปลี่ยนที่นี่เป็นโลงมหรศพแท้ๆ
ผู้บัญชาการไรเฒ่าลูบมือหมอเถื่อนทิ้งอย่างสุภาพแล้วมองหน้าผม
“สมคำร่ำลือจริงๆ ร้อยเอกอลัน ดูปองต์ กับอีกคนหนึ่งอยู่ไหนแล้วล่ะ”
“ฟินเรคอยคุมกล้องให้อยู่น่ะครับ ตอนนี้ระบบเครื่องยนต์ก็เป็นหมันไปหมดแล้วด้วย”
ยอดเยี่ยมกระเทียมเจียวมันแผลบจริงๆ เลยเรา เหอ เหอ
ท่าน ผบ. พูดต่อ “เท่านี้ก็วางใจไปได้เปราะหนึ่ง เดี๋ยวกำลังเสริมก็เข้ามา อ๊ะ! ระวังข้างหลัง!” หืออะไรหว่า อ๊ะ!
ไรแดงตัวที่ผมทุบสลบไปเมื่อกี้ง้างท่อนเหล็กจากไหนไม่รู้เข้ามา! บึ้ก! อ้าก! เต็มหัวเลย
ถึงจะมีหมวกกันไว้แต่แรงกระแทกทำให้หน้ามึนไปหมด ผมปลิวออกไปจากเก้าอี้กัปตัน ได้ยินเสียงก่นด่าตามมา
“ไอ้พวกจักวรรดิ์สารเลว! เอาโคโลนี่กูคืนม้า!!!” มันพูดอะไรของมัน!?
สติลอยได้ยินเสียงฟินเรดังลั่นแต่ไม่ไหวจะจับใจความ ไอ้บ้าที่ทุบหัวผมว่ายตรงไปที่แผงควบคุมแล้วกดปุ่ม คำพูดของมันเพียงคำเดียวนั้นดึงสติของผมกลับคืนมา
“ตายซะให้หมดไอ้พวกชั่ว!” ตามด้วยเสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหว! เวรแล้ว!
ปืนที่เล็งไว้ซัดเข้ากลางแกนโคโลนี่ เป็นรูไม่ใญ่มากเพราะพลังงานโดนปลดไป แต่มันมากพอที่จะทำให้ส่วนอื่นร้าวและค่อยๆ พังทลาย ฉับพลันอะไรบางอย่างในหัวผมก็แล่นปรี้ดเข้ามา
“ฟินเร!!! ไปติดเครื่องยนต์เดี่ยวนี้!!!”
ร่างกายทะยานไปข้างหน้าแบบไม่ต้องคิด ทุ่มแรงใส่จิตทั้งหมดไปที่หมัดซัดเข้าหน้าไอ้บ้านั่นเต็มๆ ตามด้วยกระชากหน้ามันครูดไปกับแผงควบคุมจนพังเป็นแถบๆ พละกำลังมหาศาลจากชุดเสริมเข้ากับความโกรธเหวี่ยงมันอัดเข้ากับผนังจนกระอักแน่นิ่ง เงื้อมีดพกหมายจะกระซวกไส้มนให้เละ..
“เครื่องยนต์ติดแล้ว!”
สติกลับมา ผมปล่อยมันลอยเท้งเต้งแล้วเร่งตัวเองไปที่คันบังคับ ไอ้วิธีขับเรือรบน่ะจำได้จากคู่มือ ถึงจะไม่คล่องแต่ไม่จำเป็น เพราะสิ่งที่ผมต้องทำตอนนี้คือ!
“เดี๋ยวก่อนอลันนั่นคุณจะทำอะไร!?” ซีดอนถามทั้งๆ ที่รู้
“เรือลำนี้ประกอบจากโลหะ ส่วนแกนโคโลนี่เองก็เป็นโลหะเนื้อเดียว รูนั่นเล็กกว่าเรือลำนี้ หมอก็ลองใช้สมองเอาสิ”
เรือตรงดิ่งเข้ากลางรู มันก็หลักการง่ายๆ ถ้าปล่อยไว้แกนโคโลนี่จะถูกแรงดันอัดจนผิดรูปแหลกเละ ทางเดียวที่ทำได้คืออุดรูนั่นซะ ซึ่งอุปกรณ์ที่หาง่ายที่สุดอยู่ในมือผมนี่แล้ว!
กึง! ครืน!
เสียงโลหะเสียดสีหนักกว่าตอนขับ NS ดับเครื่องชนซะอีก แรงกดดันจนกระจกหน้าแตกกระจายผมทำได้แค่ยกมือป้องหน้า ไม่มีอะไรยืนยันว่าการพังทลายจะหยุดลง ที่เหลือก็เหมือนกับในบันทึกของอลัน ทำถึงที่สุดแล้ว เท่านี้ก็เสี่ยงรอผลลัพธ์!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น