ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Mobile Suit Gundam Seed : EXTENDED ] เกิดใหม่ในโลกกันดั้มก็ขอลุยให้เต็มที่เลยละกัน

    ลำดับตอนที่ #3 : Phase ที่ 2 : ถ้าไม่รู้วิธีบังคับก็แค่ดับเครื่องชน

    • อัปเดตล่าสุด 11 มี.ค. 65


    โมบิลสูทที่เคียวยะขับได้เคลื่อนตัวออกมาจากโรงงานที่เริ่มพังทลายลง ด้วยความที่ยังไม่คุ้นชินกับการบังคับเท่าไหร่นักทำให้เจ้าตัวไม่สามารถคุมหุ่นได้ดังที่ใจต้องการ

    “ระบบการบังคับต่างจากที่เคยฝึกมานิดหน่อยแฮะ ก็นั่นมันโมบิลอาร์มเมอร์นี่น่า… แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะบังคับไม่ได้หรอกนะ”

    เคียวยะได้ลองควานหาปุ่มเซนเซอร์ของตัวหุ่นเพื่อนที่จะเปิดระบบการมองเห็นโดยรอบให้ชัดเจนมากขึ้น

    “อ๊ะ! เจอแล้ว!”

    เขาได้กดปุ่มอย่างไม่รังเลแล้วก็ได้มีจอภาพขนาดเล็กจำนวนมากโผล่ขึ้นมาขยายให้เห็นสิ่งที่ตรวจจับได้

    “เจ้าหุ่นสองตัวนั้นใช้ตัวเดียวกันกับที่อยู่ในโรงงานก่อนหน้ารึเปล่า แถมมีจิน (Gin) อยู่ด้วย”

    เคียวยะมองไปที่หุ่นสีขาวที่กำลังถูกจินไล่ตอนจนเสียหลัก ในตอนแรกเขาก็ยังคงไม่คิดจะเข้าไปยุ่งจนกระทั่งภาพที่ตรวจจับได้ผ่านหุ่นของเขานั้นแสดงให้เห็นเหล่าเพื่อน ๆ ที่กำลังอยู่ใต้ตัวหุ่นสีขาวอยู่ ถ้าเจ้าหุ่นสีขาวโดนเล่นงานจนล้มไปละก็เพื่อน ๆ ของเขาได้ตายจริงแน่

    “ทุกคน!!”

    เขาพยายามบังคับให้หุ่นของตัวเองเคลื่อนที่ไปหาอีกฝ่ายแต่ว่าด้วยระบบปฏิบัติการที่ยังไม่ได้ถูกตั้งค่าให้เหมาะสมทำให้เคียวยะไม่สามารถพุ่งเข้าไปช่วยเพื่อน ๆ ของเขาได้ทัน

    แต่แล้วสิ่งที่เขาเห็นก็คือหุ่นสีขาวได้เคลื่อนไหวหลบการโจมตีของจินได้อย่างรวดเร็วผิดจากก่อนหน้านี้เป็นอย่างมากและยังโจมตีส่วนกลับจนจินกระเด็นถอยออกไปไกลอีกด้วย

    “อะไรกันการเคลื่อนไหวที่เปลี่ยนไป? บังเอิญงั้นเหรอ… ไม่สิเจ้าหุ่นสีขาวมันเห็นพวกทอลแน่ๆ แปลว่ามันพยายามช่วยพวกนั้นอยู่… งั้นหมายความว่าเป็นพวกเดียวกันสินะ!!!!”

    เคียวยะได้ดันคันบังคับไปข้างหน้าและเหยียบคันเร่งจนสุด ในตอนนี้หุ่นของเขาได้พุ่งไปหาจินด้วยความเร็วสูงเปรียบเสมือนรถยนต์ที่ดับเครื่องชนก็ไม่ปาน

     

    ณ ห้องนักบินของหุ่นสีขาว

     

    คิระที่ได้ขึ้นมาบนโมบิลสูทกับทหารสาวที่อยู่ในโรงงานก่อนหน้าได้มองไปที่ระบบปฏิบัติการของหุ่นที่ยุ่งเหยิงตัวนี้

    “ไอ้ระบบปฏิบัติการแบบนี้เอามาใช้กับโมบิลสูทได้ยังไงกัน”

    “ก็ช่วยไม่ได้นิ มันยังไม่สมบูรณ์สักหน่อย!”

    “ถอยไปหน่อยครับ”

    คิระได้เข้ามานั่งที่เก้าอี้นักบินแทนอีกฝ่ายและเริ่มเขียนระบบของหุ่นขึ้นมาใหม่ในทันทีซึ่งสร้างความตกใจให้กับทหารสาวเป็นอย่างมาก

    แน่นอนว่าอีกฝ่ายคงไม่ยอมอยู่เฉยให้เขาได้มีโอกาสได้โต้กลับ หุ่นจินของซาฟท์ได้ชักดาบขนาดยักษ์ที่เอวออกมาแล้วพุ่งเข้าใส่หุ่นที่คิระนั่งในทันที

    “แย่แล้ว!”

     

    โครมมม!!

     

    ภาพที่เห็นในวินาทีถัดมาคือหุ่นที่เขาไม่เคยเห็นได้พุ่งเข้าชนใส่จินจนกระเด็นออกไปไกลกว่าเดิม

    จังหวะนี่แหละ!

    คิระไม่ยอมให้โอกาสนี้หลุดมือไปแน่ เขาได้เริ่มลงมือเขียนระบบของหุ่นใหม่จนเสร็จในที่สุด

    “อาวุธล่ะ? … อาร์มเมอร์ชไนเดอร์? มีแค่นี่เองเหรอ!!!!”

    เขาได้หยิบมีสั้นที่ถูกเก็บไว้ที่เอวของหุ่นทั้งสองข้างออกมาและพุ่งเข้าใส่จิน แท่งใส่มันจนหมดสภาพในที่สุดในจังหวะที่จินใกล้จะระเบิดนั่นเองนักบินของหุ่นตัวนั้นก็ได้หนีออกมาพร้อมกับสั่งระเบิดหุ่นของเขา

    ตูมมมมมม!!

    แรงระเบิดที่ไม่คาดคิดได้โถมเข้าใส่หุ่นของคิระจนล้มลงกับพื้นจนเกิดเสียงดังและแรงสั่นสะเทือนขนาดใหญ่ขึ้น

    “จบสักที…เฮ่! คุณ! ทำใจดีๆ ไวนะ!”

    แม้จะรอดจากแรงระเบิดมาได้แต่ดูเหมือนว่าทหารสาวที่นั่งกับคิระไปด้วยจะหมดสติไปแล้ว เขาจึงได้ทำการเปิดห้องนักบินออกมาเพื่อดูสภาพโดยรอบ

    “คิระ!!”

    “เฮ่ คิระ!!”

    “ทุกคนปลอดภัยดีสินะ!”

    คิระได้ตอบกับเสียงเรียกของทอลและไซด์ที่วิ่งเขามาหาเขากลับไปด้วยความรู้สึกโล่งอกที่เพื่อน ๆ ของเขาไม่ได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิด

    “ก็เกือบแล้วเหมือนกันแต่ดีนะที่เคียวยะมาช่วยป้องกันแรงระเบิดไว้ให้”

    คาสึอิที่ตามมาทีหลังได้ชี้โมบิลสูทอีกตัวหนึ่งให้คิระเห็นและเห็นเคียวยะกำลังลงมาจากมันอยู่ ซึ่งมันก็คือตัวเดียวกับที่พุ่งเข้าใส่จินตอนที่คิระกำลังทำการปรับแต่งระบบปฏิบัติการของโมบิลสูทที่เขานั่งอยู่ก่อนหน้านั่นเอง

    “ให้ตายสิ… ไม่น่าดับเครื่องชนเลยปวดระบมไปหมดทั้งตัวแล้วเนี่ย”

    “ปลอดภัยดีสินะเคียวยะ”

    “ก็ไม่ดีเท่านายหรอก”

    เคียวยะได้โชว์รอยฟกช้ำที่เกิดขึ้นจากตอนเอาหุ่นพุ่งเข้าชนจินให้อีกฝ่ายดู ทุกคนที่เห็นแบบนั้นก็ได้แต่หัวเราะออกมาเพราะถ้าเจ้าตัวยังพูดติดตลกแบบนี้ได้แสดงว่าไม่เป็นไรแล้ว

    “ว่าแต่จะทำยังไงกับเจ้านี่ดี”

    เคียวยะชี้ไปที่หุ่นด้านหลังของคิระซึ่งแน่นอนว่าเจ้าตัวก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงเหมือนกัน ในตอนนี้เขาจึงพาทหารสาวที่สลบในห้องนักบินออกมาให้มิริอาเรียช่วยพันแผลให้เธอ

    จนกระทั่งเธอได้สติขึ้นมาก็ได้มองไปที่คิระอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันไปมองพวกคาสึอิที่กำลังสำรวจโมบิลสูทอยู่

    “ออกไปให้ห่างจากหุ่นตัวนั้นซะ!”

    ปัง!

    ปืนได้ถูกยิงออกไปเป็นคำขู่พวกคาสึอิที่กำลังอยู่บนโมบิลสูทพร้อมกับสั่งให้พวกเขาลงมา

    “อึก! นี่เธอจะทำอะไร”

    ทหารสาวที่ใช้ปืนขู่พวกคาสึอิิก่อนหน้าได้ถูกจับล็อคแขนไพหลังไว้พร้อมกับปืนของเธอที่ถูกแย่งไปจากมือและตอนนี้มันก็ถูกจ่อเข้าที่หัวของเธออยู่

    “ป้องกันตัวละมั้ง?”

    “เคียวยะใจเย็นๆ ก่อนสิ”

    “นายนี่ใจดีจังนะ ไม่คิดบ้างเหรอว่าถ้านัดเมื่อกี้ไม่ใช่คำขู่พวกทอลคงตายไปแล้ว”

    “ตะ แต่ว่ามัน”

    เคียวยะเลิกที่จะสนใจคำพูดของคิระแล้วจ้องมองไปที่ทหารสาวแทน

    “ผมจะคืนปืนให้คุณแล้วเรามาคุยกันดีๆ ดีกว่านะคุณทหารจากกองทัพโลก”

    “ขะ เข้าใจแล้ว…”

    เมื่อไม่เห็นท่าทีขัดขืนของอีกฝ่ายเคียวยะก็ได้ปล่อยเธอพร้อมกับคืนปืนให้ไปอย่างไม่ทุกข์ร้อนและได้เรียกให้พวกทอลมารวมกลุ่มกับพวกตอน

    “ตอนนี้บอกพวกเรามาได้รึยังว่าทำไมกองทัพโลกถึงมาสร้างโมบิลสูทในเขตของออร์บได้กัน?”

    “ถึงแม้ฉันจะขอบใจเรื่องที่ช่วยไว้ แต่คงบอกไม่ได้เพราะมันคือความลับสุดยอดของกองทัพพลเรือนไม่มีสิทธิที่จะรู้ในเรื่องนี้”

    “แล้วแบบนี้คุณจะทำยังไงปิดปากพวกเราทิ้งงั้นเหรอ?”

    “คงต้องขอคุมตัวพวกเธอไว้ก่อนเท่านั้น บอกชื่อพวกเธอมากันหน่อยสิ”

    “ไซด์ เอิร์ลไก”

    “คาสึอิ บัสเคิร์ก”

    “ทอล เคนิค”

    “มิริอาเรีย ฮาล์ว”

    บรรดาเพื่อนๆ ของพวกเขาต่างแนะนำตัวไปจนหมดจนเหลือแต่เพียงแค่คิระกับเคียวยะเท่านั้น

    “พวกเธอล่ะ?”

    “คิระ คิระยามาโตะ”

    “เคียวยะ แค่เคียวยะเฉยๆ”

    “นามสกุลของเธอ?”

    “ไอ้ของแบบนั้นไม่มีหรอก อย่าว่าแต่นามสกุลเลยพ่อแม่เป็นใครยังไม่รู้จัก”

    “งั้นเหรอ… ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ส่วนฉันคือเมอร์ริว ราเมียสเป็นเจ้าหน้าที่ของสหพันธ์โลก”

    เมอร์ริวได้แนะนำตัวเองให้กับพวกเคียวยะได้รู้จักพร้อมกับบอกเรื่องที่เธอไม่สามารถปล่อยให้พวกเขาที่รู้ความลับของกองทัพไปได้ จนกว่าเธอจะได้รับการตัดสินใจจากผู้รับผิดชอบเธอจึงต้องพาตัวพวกเขาไปด้วย

    “แล้วหุ่นตัวนี้จะเอาไปด้วนเหรอครับ? มันเป็นของของ ออร์บนะเพราะโลโก้ตอนเดินระบบเป็นของออร์บชัดเจนเลย”

    เคียวยะได้ชี้ไปที่หุ่นที่เขาขับก่อนหน้าและถามความเห็นจากอีกฝ่ายเมอร์ริวก็ไม่สามารถตัดสินในเรื่องนี้ได้เพราะนอกเหนือจากอำนาจของเธอ

    “ช่างเถอะเอาไปด้วยเลยแล้วกัน คิระยังไงก็ฝากปรับแต่งระบบมันหน่อยสิ”

    “เอ๋? ทำไมกัน”

    “เผื่อได้ใช้เพราะงั้นฝากด้วยล่ะส่วนพวกนายมาช่วยฉันหาพลังงานเติมให้เจ้าสองตัวนี้หน่อยสิ”

    คำพูดของเคียวยะสร้างความสับสนให้กับเพื่อนๆเป็นอย่างมากเพราะจากการแสดงออกของเจ้าตัวนั้นไม่ได้ทุกข์ร้อนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลยสักนิดเดียว

    “คุณเมอร์ริว แถวนี้มีพวกสไตรค์แพครึเปล่าผมจะเอามาติดให้ทั้งสองตัวนี้”

    “มีอยู่ในโรงงานก่อนหน้านี้… ว่าแต่เธอรู้เรื่องพวกนี้ได้ไงและที่สำคัญสองตัวงั้นเหรอ? มันไม่ใช่ว่าหุ่นทุกตัวจะติดสไตร์แพคได้นะเพราะมันถูกสร้างมาใช้กับ X105เท่านั้น”

    “เรื่องนั้นไม่มีปัญหาเพราะเจ้าตัวนี้มันก็ใช้แพคแบบเดียวกัน”

    “เธอรู้ได้ยังไง?”

    “เพราะนี่…”

    เคียวยะได้หยิบสมุดคู่มือของหุ่นออกมาโชว์ให้อีกฝ่ายดู ในนั้นมีรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับหุ่นตัวนี้อย่างชัดเจนรวมไปถึงเรื่องที่ต้นแบบของมันมาจาก GAT X105 Strike อีกด้วยเพราะแบบนี้ทั้งสองตัวจึงสามารถใช้อุปกรณ์ร่วมกันได้

    “ว่าแต่… Proto Astrayงั้นเหรอ? ให้ตายสิแปลว่านี่เป็นรุ่นต้นแบบสินะ”

    แม้จะไม่ค่อยพอใจเรื่องที่ตัวเองหยิบหุ่นที่เป็นต้นแบบของหุ่นตัวอื่นๆ มาใช้ แต่ถ้าต้องกลับไปเลือกใหม่ระหว่างเจ้าตัวนี้และบรรดาหุ่นที่หน้าตาเหมือนกันไม่ต่างกับก็อปวางเขาก็คงจะเลือกตัวนี้อยู่อีกเช่นเดิม

    “สมุดคู่มืองั้นสินะเธออ่านมันอย่างกับดูสรรพคุณเครื่องใช้ไฟฟ้าเลยนะ”

    “ก็ไม่เห็นแปลกเลยนิครับผมก็แค่หาดูอะไรที่พอใช้ได้เท่านั้นเอง”

    หลังจากการพูดคุยของพวกเขาได้จบลงพวกไซด์ก็ได้ขับรถบรรทุกที่ขนสไตรค์แพคกลับมาในที่สุดและพวกเขากำลังจะติดตั้งมันให้กับหุ่นทั้งสองตัว

    “เอาล่ะติดตั้งแพคกันเลยดีกว่า… คิระนายติดตั้งไอ้ตัวที่เหมือนดาบไปนะแพคพลังงานมันติดกับอาวุธนั่นแหละ”

    “เข้าใจแล้ว”

    และทั้งสองคนก็ได้ทำการติดตั้งอาวุธเสริมให้กับหุ่นทั้งสองตัวเป็นที่เรียบร้อย ทว่าในจังหวะนั้นเองโมบิลสูทของซาฟท์ ซีกู (Cgue) และโมเบียสซีโร่ (Moebius Zero) ได้เข้ามาจากข้างนอกของโคโลนี่และทำการต่อสู้กันอย่างดุเดือด

    ตูมมมม!!!!!!

    เสียงระเบิดได้ดังขึ้นอีกครั้งแต่ว่าครั้งนี้มันหนักกว่าครั้งไหนๆ เพราะมันคือแรงระเบิดที่เกิดจากการยิงปืนใหญ่ของยานรบที่พุ่งออกมาจากพื้นดินของโคโลนี่นั่นเอง

    “อะไรอีกล่ะเนี่ย…”

    เคียวยะได้มองไปที่ยานรบขนาดใหญ่ที่โผล่ออกมาและสร้างความตกตะลึงให้แก่ใครก็ตามที่ได้พบเห็นมัน

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×