พิษเกสร
บทประพันธ์ : พัชรกฤต
“ดอกไม้ย่อมมีเกสร เกสรนั้นก็ใช่ว่าจะสวยงามเสมอไป
แต่ในความสวยงามนั้น ย่อมปะปนไปด้วยเพลิงแค้นที่จะรอวันชำระ”
กระท่อมมุงจากหลังเก่าหลังนั้นซึ่งตั้งอยู่หลังตลาดพระประแดง มองดูแล้วเก่าคร่ำครึนักหนา เมื่อสำรวจภาย
ในบ้านแล้วนั้น มีกองใบตองกองโตวางผสมปนเปอยู่กับกองมะพร้าวอันทึนทึก เครื่องโม่แป้งที่แสนจะเก่าอย่างที่เจ้า
ของไม่เคยจะเหลียวแลมาทำความสะอาด สุขลักษณะของบ้านนี้แทบจะหาความสะอาดเรียบร้อยไม่ได้เลย แต่ดูแล้ว
นั้นกระท่อมหลังนี้น่าจะมีคนอยู่
หญิงสาวไว้ผมทรงดอกกระพุ่มนัยน์ตาดำขลับรูปร่างได้สัดส่วน เดินกระเดียดกระจาดขนมหวานห่อใบตองสดมาวางไว้บนแคร่ไว้เก่าๆที่จะรอวันหักแหล่มิหักแหล่ แต่แล้วหญิงสาวก็ต้องสะดุ้งขึ้น เมื่อลูกสาวของหล่อนร้อง-
ไห้ดังจ้าเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเด็กหญิงหิวนมแล้วนั่นเอง ผู้เป็นแม่บังเกิดเกล้าก็ไปรอช้ารีบไปหาลูกสาวสุดที่รักแล้วนำน้ำนมให้ดื่มกิน เด็กหญิงหยุดร้องไห้ทันทีเมื่อริมฝีปากจรดจุกปทุมถัน
หญิงชราคนหนึ่งเดินเข้ามาในกระท่อมหลังนั้น พร้อมกับกล้วยหวีหนึ่งซึ่งดูน่ากินยิ่งนักหญิงชราคนนี้ชื่อยาย
สี ญาติผู้ใหญ่ที่เหลืออยู่คนเดียวของหญิงสาวนัยน์ตาดำขลับ ยายสีเดินเข้าไปหาหญิงสาวที่มีนามกรว่า เกสร พร้อมชู
กล้วยหวีนั้นให้ดู เกสรให้นมกุหลาบผู้เป็นลูกสาวแล้วก็นำกล้วยมาบดให้เละเพื่อจะป้อนเด็กหญิงวัยเพิ่งขวบปี
แท้ที่จริงแล้วนั้นเกสรมิใช่หญิงสาวที่มีอาชีพเป็นแม่ค้าที่ยากจนข้นแค้น อดีตนั้นเธอเป็นลูกสาวคนสวยเพียง
ผู้เดียวของคุณอณู ดำรงธรรม พ่อค้าอัญมณีชื่อดังแห่งเมืองพระประแดงในยุค 2475 ซึ่งเป็นเวลาที่ชาวต่างชาติเข้ามาค้าขายมากมายนัก แต่แล้วก็มีสิ่งชั่วร้ายมาครอบงำกิจการอัญมณีของพ่อหล่อน จนทำให้พ่อหล่อนต้องสิ้นเนื้อประดา
ตัวชั่วข้ามคืน หนำซ้ำพวกคดในข้องอในกระดูกยังเผาทำลายคฤหาสน์หลังงามของพ่อหล่อนจนพ่อถูกไฟครอกตาย เดชะบุญที่หล่อนและยายสีได้หนีรอดออกมาได้ และได้แต่มองคฤหาสน์หลังนั้นที่วอดวายด้วยเพลิงไหม้อย่างไม่มีวันหวนกลับคืน
แต่แล้วหล่อนก็ต้องเจอกับมรสุมลูกใหญ่ เมื่อมีพวกแมงดามาจับเธอไปเป็นโสเภณีที่บ้านโคมแดงที่ตัวเมืองสมุทรปราการ เธอต้องจำทนอยู่ในสภาพของคาวคนอันแสนสกปรกโสมม ปล่อยให้หญิงชราอย่างยายสีต้องตกระกำลำบากนอนกลางดินกินกลางทรายข้าวสารกรอกหม้อแต่ละวันก็แทบจะไม่มี แต่เกสรก็รักความสบายที่จะอยู่เป็นหญิงบำเรอของชายนับร้อยนับพันคน เมื่อหล่อนย่างเข้าสู่วัยยี่สิบปลายๆ ชีวิตผู้หญิงโคมแดงก็ต้องถูกปลดระวาง เพราะสภาพของหล่อนตอนนั้นคงจะสู้เด็กวัยสาวแรกแย้มมิได้ หนำซ้ำหล่อนยังมีเด็กอยู่ในท้อง โดยที่ตัวหล่อนเองก็ไม่รู้เลยว่าพ่อของเด็กในท้องเป็นใคร
หล่อนและเด็กในท้องต้องระหกระเหินมาพึ่งพิงหญิงชราอีกครั้ง สองยายหลานมาตั้งหลักปักฐานที่พระประ
แดงก็พอจะลืมตาอ้าปากได้บ้าง จนเมื่อเธอคลอดลูกสาวชื่อกุหลาบออกมา หล่อนเกลียดเด็กหญิงคนนี้มากเสียกระไร
อยากจะเอาขี้เถ้ายัดปากให้ตายซะรู้แล้วรู้รอดตั้งแต่วันที่มันเกิดมาแล้ว แต่ด้วยสัญชาตญาณของความเป็นแม่ เธอก็ไม่
ได้ใจไม้ไส้ระกำขนาดนั้น แต่กลับรักและเอ็นดูลูกสาวมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพราะลูกทำให้หล่อนชูกำลังตนเอาไว้ได้
ยิ่งหล่อนคิดถึงแต่เรื่องนี้ไฟแค้นไฟพยาบาทก็ลุกโชนขึ้นลามเลียในจิตใจหล่อนยิ่งนัก ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น หล่อนได้เป็นถึงคุณหนูลูกเศรษฐี เกิดมาบนกองเงินกองทอง และกำลังจะได้แต่งงานกับชายหนุ่มที่หล่อนรัก แต่ทำไมเธอถึงได้กลายเป็นพวกกระฎุมพีเพียงชั่วข้ามคืนเช่นนี้ หล่อนแค้นพวกตระกูลมันมากนัก แต่ละคืนจะหลับลงคราใดก็ฝันร้ายทุกคืน ตอนไหนจะถึงวันที่หล่อนต้องได้ชำระแค้นซะที หากชาตินี้ไม่ได้ล้างแค้นโคตรเหง้าศักราชพวกมัน หล่อนคงจะนอนตายตาไม่หลับแน่ ไฟที่ลุกโชนคงจะเผาร่างมอดไม่มีวันมอดไหม้ทั่วอินทรีย์แน่นอน
สองข้างทางระหว่างกระท่อมของหล่อนไปจนถึงตลาดเป็นป่าละเมาะ เกสรกระเดียดกระจาดขนมเดินมา
ตามถนนลูกรังจนหลังแอ่น เดินแต่ละหนฝุ่นดินก็ตลบอบอวล ยิ่งมีรถพวกคนรวยขับผ่านฝุ่นก็ตลบมิใช่น้อยๆ เธอวางกระจาดขนมหวานลงบนแคร่ใหม่ในตลาดอย่างเบิกบาน แต่เมื่อเหลือบมองไปเห็นมะลิ แม่ค้าคู่ปรปักษ์ฝ่ายตรง
กันข้ามก็ให้นึกฉุนเฉียวทันที แม่ค้าคู่ปรปักษ์นั้นก็หน้าตาสะสวยมิใช่น้อยๆ เว้นเสียแต่ว่ามะลินั้นอายุมากกว่าเกสรก็หลายปี
ตลาดพระประแดงในเช้าวันนี้ดูคึกคักเช่นวันก่อนๆ เกสรตะโกนขายขนมจนเสียงแหบเสียงแห้ง ลูกค้าก็มาติดหล่อนกันมากมาย มิใช่ว่าขนมของหล่อนอร่อยอย่างเดียว แต่หน้าตาของหล่อนชวนให้ชายหนุ่มมาซื้อขนมเป็นทบทวี นี่แหละน่า เขาถึงว่านารีมีรูปเป็นทรัพย์ แต่แล้วสายตาอันแหลมคมก็เหลือบไปเห็นร้อยตำรวจเอกอรัญพล ภูบาลบดินทร์ นายตำรวจหนุ่มแน่นหน้าตาหล่อเหลารูปร่างสูงใหญ่ ช่างเป็นเสน่ห์ของผู้ชายที่น่าเย้ายวนใจนัก ขนาดเกสรหล่อนก็นึกพิศวาสอยากจะเชยชิดพิสมัยตัวของนายตำรวจหนุ่มคนนั้นนัก
แต่หล่อนก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า นายตำรวจหนุ่มคนนี้เป็นลูกชายของครอบครัวที่มันทำให้ตระกูลของหล่อนต้องพังพินาศย่อยยับดั่งเรืออับปางกลางมหาสมุทรเวิ้งว้าง ความพิศวาสในตัวชายหนุ่มไม่เกิดขึ้นในตัวหล่อนอีกเลย มีเพียงเพลิงแค้นที่สุมอกมานานแรมปี หล่อนพร้อมแล้วที่จะมอดดับไฟที่สุมอก พร้อมแล้ว...
แล้วหล่อนก็หยุดคิดเมื่อนายตำรวจหนุ่มคนนั้นเองเข้ามาทักทายทำความรู้จักกับหล่อนอย่างสนอกสนใจในตัวหล่อนเต็มประดา หล่อนก็ตีหน้าเศร้าบอกถึงสถานะทางบ้านที่แร้นแค้น แต่หล่อนปกปิดถึงเรื่องที่มีลูกสาวแล้ว อรัญพลได้เหมาขนมหวานของหล่อนจนหมดด้วยความสงสารจับใจ แล้วเขาก็ได้ตามหญิงสาวตอนกลับบ้านไปโดยที่หล่อนไม่รู้
หล่อนมาตกใจเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่มายืนอยู่ต่อหน้าต่อตา หล่อนตกใจหน้าซีดเผือดเดชะบุญยายสีกับลูกสาวของหล่อนไม่อยู่ ขืนอยู่ล่ะสิหล่อนตายแน่ๆ เกสรขอตัวทำความสะอาดบ้านก่อน แล้วพานายตำรวจหนุ่มไปนั่งคุยกันที่ห้องนอนของหล่อน แต่แล้วก็มีงูตัวหนึ่งเลื้อยออกมาจากมุมของห้อง หล่อนตกใจจนกอดรัดตัวอรัญพลแน่น เธอรู้
สึกหวั่นไหวใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อได้ประชิดร่างชายหนุ่ม แล้วหล่อนก็ต้องผละตัวออกจากร่างชายหนุ่ม แล้วเชิญให้
อรัญพลกลับไปก่อน เพราะสัญชาตญาณหญิงเจ้าเล่ห์มันบอกว่ายายสีและลูกสาวของหล่อนจะกลับมาแล้ว
แล้วก็จริงดั่งที่หญิงมารยาสาไถยว่าเมื่อหญิงชราเดินเข้ามาพร้อมกับกุหลาบหวุดหวิดเฉียดฉิวกับอรัญพล ถ้าขืนมาเห็นหลานสาวตัวเองทำตัวเป็นพวกช็อกการี่วิ่งโร่กอดผู้ชายอย่างนี้ก็ตายสิ ไม่ได้หล่อนจะให้หญิงแก่รู้เรื่องนี้ไม่ได้
เช้าวันต่อมา ขณะที่เกสรกำลังซื้อน้ำอบไทยอยู่ที่ร้านเถ้าแก่ชาวจีน ก็มีชายคนหนึ่งมาฉุดเอาตะกร้าจ่ายตลาดของหล่อนไป หญิงสาวร้องโร่ให้คนช่วย ปรากฏร่างของอรัญพลขึ้น เขาช่วยจับชายคนนั้นส่งตำรวจและนำตะกร้าไปให้หญิงสาว หญิงสาวกอดรัดร่างชายหนุ่มแน่นอย่างเสียขวัญ แต่แท้ที่จริงแล้วเป็นแผนที่หญิงสาวเจ้าเล่ห์คิดขึ้น เพื่อให้อรัญพลนึกสงสารหล่อนยิ่งๆขึ้น นายตำรวจหนุ่มได้แต่กอดปลอบใจ
ขณะเดียวกันกับที่ประไพ คู่หมั้นของอรัญพลเดินออกมาจากร้านตัดเสื้อกับผองเพื่อนสองคน เธอเหลือบไป
เห็นชายคู่หมั้นกอดรัดอยู่กับแม่ค้าขายขนมหวาน เธอบันดาลโทสะมากปั้นหน้ายักษ์หน้ามารเข้าไปฉุดทั้งสองออกจากกัน แล้วเงื้อมือตบแม่ค้าขายขนมอย่างแรง แต่เกสรไม่ตอบโต้ได้แต่บีบน้ำตาทำคะแนนสงสาร แล้วก็เกิดอาการวิงเวียนจนหน้ามืดไป ประไพหมั่นไส้ในอาการสำออยของแม่ค้าเจ้าเล่ห์นักจะปราดเข้าไปตบอีกครั้ง แต่คราวนี้มีอรัญพลขวางเอาไว้ ประไพมองดูชายคู่หมั้นให้ความสำคัญกับแม่ค้าขายขนมหวานมากกว่าเธอ
เมื่อเกสรฟื้นตัวขึ้นก็ขอตัวกลับบ้านก่อน เมื่อหญิงสาวลับร่างไปแล้ว คู่หมั้นตัวจริงก็ดึงตัวอรัญพลกลับบ้านอย่างอารมณ์เสีย คุณนายนวลผ่อง แม่บังเกิดเกล้าตำหนิติเตียนลูกชายต่างๆนานา เพื่อเอาใจว่าที่ลูกสะใภ้อย่างประไพ
ใจจริงของคุณนายนวลผ่องก็ไม่อยากได้หญิงสาวอย่างประไพมาเป็นสะใภ้นักหรอก ถ้าไม่ใช่ว่าพ่อของหล่อนเป็นเศรษฐีเมืองพระประแดง
ครั้นเกสรกลับมาถึงบ้าน หล่อนก็พบร่างหญิงชราอุ้มกุหลาบยืนขวางประตูอยู่ หล่อนพยายามจะเดินเลี่ยงโดยไม่มองหน้าหญิงแก่บังเกิดเกล้า แต่หญิงชราก็ขวางไว้ตลอดเพราะจะคาดคั้นเรื่องที่เกิดขึ้นในตลาด เกสรหน้าซีดตกใจมากที่เรื่องนี้หลุดไปจนหญิงแก่รู้เรื่อง ยายสีพยายามพูดน้ำตาแทบเล็ดเมื่อหลานสาวจะแก้แค้นตระกูลนั้น หญิงสาวกอดร่างของหญิงชราเอาไว้แล้วอ้างเหตุผลต่างๆนานา แต่ยายสีก็ยังหนักใจไม่น้อย
เมื่อยายสีพากุหลาบออกเดินเล่นที่หมู่บ้านใกล้เคียง ชิด ชายคนรักของเกสรก็เดินเข้ามาหาทันที หญิงสาวระริกระรี้เมื่อสวรรค์รำไรประทานชิดมาให้เธอเป็นชู้ทางใจอย่างน้อยๆชิดก็ช่วยให้เธอคลายเหงาได้ ชิดจัดว่าเป็นคนที่หล่อเหลาไม่เบา หล่อนรู้จักกับชายหนุ่มตอนที่ย้ายมาอยู่พระประแดงหมาดๆ เขาช่วยหล่อนยกข้าวของเข้าบ้านอย่างขันแข็งและเต็มใจ ทำให้เธอซาบซึ้งในน้ำใจชายหนุ่มมาก
เมื่อฟ้าประทานชิดมาให้เกสร หล่อนก็เริ่มบรรเลงรักกับชู้ทางใจทันที สมบุญ เด็กหญิงวัยสิบห้ามาแอบเห็นเหตุการณ์ก็วิ่งโร่นำเรื่องไปบอกกับมะลิ เมียตัวจริงของชิด ด้วยเป็นศัตรูการค้าเป็นทุนเดิมอยู่แล้วยิ่งมารู้ว่าเกสรเป็นชู้
กับผัวตนก็ยิ่งแค้นใจนัก
ครั้นชิดกลับมาถึงบ้านมะลิก็ด่าทอชิดจนหมดไส้หมดพุง มีรึคนหน้าหนาอย่างชิดจะรู้สึกรู้สา เขากลับไม่ได้สนใจใยดีเมียที่ถูกต้องตามกฎหมายเลย ไม่รู้เขามาได้คนอย่างมะลิมาทำเมียได้ยังไง มิน่าเลยถ้าตอนนั้นเขาไม่เมาก็คง
ไม่ได้คนอย่างมะลิมาจดทะเบียนสมรสเป็นเมียหรอก มะลิจนปัญญาจะสั่งสอนผัว สมบุญจึงแนะนำแผนเด็ดพิชิตใจผัวให้กับน้าสาวตนฟัง เด็กสาวแก่แดดบอกแล้วยิ้มให้กับมะลิ มะลิก็ได้แต่ยิ้มกรุ้มกริ่ม
วันต่อมา ประไพนำเงินก้อนหนึ่งมาวางไว้บนแคร่ไม้ขายขนมของเกสรเพื่อจ้างให้เธอเลิกยุ่งกับอรัญพลซะ แต่หล่อนโกรธจนตัวสั่นนำเงินก้อนนั้นปาหน้าประไพเต็มแรง เธอนึกแล้วว่าคนอย่างเกสรต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ เธอ
ก็โกรธเลือดขึ้นหน้าดึงตัวแม่ค้าขายขนมมาขึ้นคร่อมแล้วตบอย่างไม่ยั้งมือ ฝ่ายแม้ค้าจอมมารยาก็ไม่ยอมแพ้เช่นกันผลักประไพแล้วตบจนเลือดกบปาก พ่อค้าแม่ค้าส่งเสียงเชียร์สนั่นตลาดอย่างสนุกสนาน มะลิคาบข่าวเรื่องนี้ไปบอก
กับยายสี ดูซิว่าถ้ายายสีมาเห็นหลานสาวตบกับผู้ดีกลางตลาดจะเป็นอย่างไร หญิงชราแทบลมจับเมื่อเห็นเหตุการณ์ข้างหน้า เกสรผ่อนกำลังลงเมื่อรู้ว่าตำรวจกำลังวิ่งมาทำให้ประไพเป็นฝ่ายรุก อรัญพลจึงเข้าใจว่าประไพเป็นคนก่อเรื่อง
ชายหนุ่มแยกร่างทั้งสองแล้วดึงร่างเกสรมากอดเอาไว้ ประไพโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงที่ชายคนรักปกป้องหญิงมารยา ทั้งสองจึงไปพบกันที่โรงพักแล้วเสียค่าปรับ คุณนายนวลผ่องโร่ขึ้นมาปกป้องว่าที่สะใภ้แล้วเอาเงินฟาดหัวเกสรให้เลิกยุ่งกับลูกชายตนเสีย หล่อนแสร้งทำเสียใจแล้ววิ่งลงโรงพักไป อรัญพลจะวิ่งตามไปก็เกรงใจผู้เป็นแม่
เกสรเดินมาตามถนนซึ่งมีป่าละเมาะขึ้นสองข้างทาง แต่หล่อนก็ตกใจเมื่อหญิงชราเดินเข้ามาขวางหน้าเอาไว้ ยายสีตบหน้าหลานสาวอย่างแรงบ่งบอกว่าจะไม่ให้อภัยหล่อน ตบอย่างเดียวแล้วหญิงชราก็เดินหนีกลับบ้านไป ปล่อยให้หลานสาวยืนนิ่งร้องไห้อย่างรู้สึกผิด
คืนนั้นเอง หญิงชรานอนไม่หลับเมื่อคิดถึงเรื่องการแก้แค้นของหลานสาว เธอจะเดินไปขอโทษหลานสาวที่ตบหน้าเธอ แต่โรคหัวใจกำเริบก็ขึ้นมาแน่นอกจนหายใจติดขัด จนร่างของยายสีล้มแน่นิ่งไปเสีย
วันรุ่งขึ้น ปกติยายสีจะเป็นคนตื่นเช้าแต่วันนี้ทำไมไม่ตื่นขึ้นมาหุงข้าวจะตักบาตรวันพระ หลานสาวสงสัยจึงเข้าไปปลุกในห้อง แต่เมื่อเห็นร่างของหญิงชรานอนแน่นิ่งไม่มีลมหายใจ หล่อนก็เสียใจร้องไห้น้ำตารินไหล ในเมื่อยายสีตายแล้ว หล่อนจะทำยังไง ใครจะมาเลี้ยงลูกสาวที่นับวันจะเติบโตขึ้นให้หล่อน แล้วถ้าไม่มียายสีแล้วการแก้แค้นตระกูลภูบาลบดินทร์จะสำเร็จไหม
เกสรเงยหน้ามองควันสีเทาที่เผาไหม้ร่างยายสีที่หลุดลอยออกจากปล่องเมรุด้วยความสุดเสียใจ ในอ้อมแขนก็อุ้มลูกสาวเอาไว้มองแล้วสงสารยิ่งนัก เมื่ออรัญพลรู้เรื่องก็มาในงานศพยายสีที่มีแขกมาร่วมงานไม่ถึงสิบคนด้วยซ้ำ
และเมื่อเขาเห็นเด็กหญิงในอ้อมกอดของหล่อนก็ถามขึ้น หญิงสาวปฏิเสธหน้าตายว่าเป็นหลานสาวกำพร้าของยายสี ชายหนุ่มยิ่งสงสารหญิงสาวจับหัวใจ เพราะเหตุใดหนอเธอถึงได้น่าสงสารอย่างนี้ แล้วเขาก็เสนอว่าจะให้เธอไปอาศัยอยู่บ้านของเขาในฐานะแม่ครัว หญิงสาวดีใจเพราะคิดว่านี่คือช่องทางที่จะแก้แค้นตระกูลภูบาลบดินทร์จึงตอบตกลงทันทีโดยไม่ต้องได้นึกคิด
ก่อนที่หล่อนจะเก็บข้าวของเข้าไปอยู่ในตระกูลภูบาลบดินทร์เพื่อล้างโคตรเหง้าศักราช หญิงเจ้าเล่ห์ได้ไปล่ำลากับชายคนรักก่อน ชายหนุ่มกอดหญิงสาวเอาไว้อย่างแสนรักแสนเสน่หา สมบุญแอบมาเห็นทั้งคู่ล่ำลารักกันอย่างอาลัยอาวรณ์ที่ตัวเกสรเองจะจากบ้านไปจึงนำเรื่องไปบอกน้าสาว มะลิถึงกลับเดือดพล่านๆเมื่อรู้จากปากหลาน
สาวว่าผัวกับชู้รักไปพลอดรักกัน คราวนี้หล่อนยอมไม่ได้หล่อนจะต้องตามไปกระชากตบๆให้อีแม่ค้าเจ้าเสน่ห์ให้เลือดกบปากไปเลย แต่เมื่อสมบุญพาไปในที่เกิดเหตุกลับไม่มีคนอยู่สักคน มะลิคิดว่าหลานสาวโกหกจึงได้แต่ตบตีจนร่างเด็กสาวและหน้าสวยๆต้องบอบช้ำ หล่อนเดินออกไปจากที่ตรงนั้นอย่างเสียความรู้สึก ทิ้งให้สมบุญนั่งร้องไห้อย่างเสียใจ
คืนวันนั้นเอง ขณะที่ชิดอาบน้ำเสร็จกำลังแต่งตัวอยู่หน้ากระจกบานเก่าๆ เมียบังเกิดเกล้าก็สอดแขนเข้ามาสวมกอดผัวทูนหัวอย่างอบอุ่นใจ แม้จะรู้ดีว่าผัวตนนั้นเจ้าชู้ขนาดไหนแต่หล่อนก็ยังทั้งรักและหลงใหลในตัวชิดอยู่ ก็จะไม่ให้สนิทสิเน่หาได้อย่างไรล่ะ หน้าตาชิดเองออกจะหล่อเหลาก็พวกคนรวยหลายๆคนซะอีก
อรัญพลพาเกสรเข้ามาในบ้านของตน หล่อนหยุดยืนมองอย่างตะลึงทันทีทันใด นี่เหรอคฤหาสน์ภูบาลบดินทร์ช่างใหญ่โตมโหฬารอะไรเช่นนี้ สร้างแบบบ้านตึกในยุโรปที่เขานิยมกัน ถัดออกไปด้านหลังก็เหมือนกับเป็นสวนอุทยานและเรือนพักคนใช้ หล่อนอดเปรียบเทียบก็ตนไม่ได้ขนาดเรือนคนใช้ยังงดงามและดูท่าจะสะดวกสบายกว่ากระท่อมอันแสนโสมมของหล่อนเองซะอีก แต่ในของหล่อนนั้นจะต้องทำลายสิ่งเหล่านี้ให้ย่อยยับยิ่งกว่าที่ครอบครัวตนต้องเจอซะอีก หล่อนตั้งปณิธานเอาไว้อย่างแน่วแน่
หลังจากชื่นชมความงามของบ้านที่มีเนื้อที่นับสิบๆไร่แล้ว เมื่อเดินเข้าไปในบ้านยิ่งตะลึงงันอีกเมื่อเห็นเครื่องประดับเรียงรายอย่างเป็นระเบียบและสวยงาม นี่หรือสิ่งที่ได้จากการคดโกงคนอื่น ช่างน่าสังเวชใจยิ่งนัก วันนี้ นพพล พ่อของอรัญพลและคุณนายนวลผ่องไม่อยู่ที่บ้าน ก็ขืนอยู่ละสิอาละวาดไปสามบ้านแปดบ้านแน่เมื่อลูกชายนำผู้หญิงแพศยาที่คุณนายเกลียดเข้าบ้าน
เกสรถูกอรัญพลส่งให้ไปอาศัยอยู่กับจันทร์แรม ซึ่งเป็นคนใช้ที่ถือว่าเก่าแก่พอควร หล่อนอยู่ที่บ้านนี้ตั้งแต่ยังสาวสะเด็ด หากจะพูดขุดคุ้ยอดีตของหล่อนแล้วก็เคยเป็นอดีตเมียเก็บลับๆของนพพล พ่อของอรัญพล เพราะตัวนพพลนั้นก็เจ้าชู้ไม่ใช่ย่อย จนตัวคุณนายนวลผ่องเองก็เอือมระอากับการกระทำของสามี ถ้าถามใจคุณนายนั้น หล่อนเองก็ไม่อยากได้นพพลมาเป็นสามีนักหรอก แต่เป็นเพราะเหตุผลบ้าบอทางธุรกิจร่วมกันเท่านั้น
จันทร์แรมเป็นหญิงสาววัยไล่เลี่ยกับเกสรนี่แหละ ความสวยของหล่อนมิเคยเป็นรองใครหล่อนอุตส่าห์จะยก
ระดับตนไปเป็นบ้านเล็กของนพพลอยู่แล้ว แต่เพราะอีคุณนายนั่นแหละตัวดีหวงผัวยิ่งกว่าหมาหวงขี้ จันทร์แรมพา
เกสรขึ้นไปรับใช้บนตึกใหญ่ ซึ่งเป็นเวลาที่สองประมุขของบ้านกลับมาแล้ว คุณนายนวลผ่องโวยลั่นบ้านเมื่อทราบว่าลูกชายพาอีผู้หญิงข้างถนนเข้าบ้าน อรัญพลพยายามอธิบายให้แม่บังเกิดเกล้าฟังจนผ่อนอารมณ์ตึงเครียดลง นพพลเริ่มสนใจในตัวเกสร หล่อนก็ทำท่าทางกะลิ้มกะเหลี่ยใส่เจ้านายมิเบา
ตั้งแต่ที่หล่อนเข้ามาอยู่ที่นี่ก็ทำตัวเป็นหญิงสาวที่ดีเรื่อยมา หนักเอาเบาสู้ รักและเคารพต่อเจ้านายอย่างซื่อ-
สัตย์เพื่อให้ทั้งสองประมุขนั้นตายใจไว้ก่อน หญิงสาวเจ้าเล่ห์จึงได้เลื่อนขั้นจากสาวใช้ก้นครัวมาเป็นต้นห้องคนสนิทของคุณนายนวลผ่องในระยะเวลาอันสั้น ทำให้จันทร์แรมนึกฉุนขุ่นเคืองไม่น้อย ก็ช่วยไม่ได้ล่ะ ใครบอกให้ทำตัวไม่ขี้ประจบประแจงเองล่ะ
เมื่อประไพรู้ว่าเกสรได้เข้ามาเป็นต้นห้องคนสนิทของว่าที่แม่สามีก็แทบโวยแต่ก็เก็บอาการเอาไว้จะดีกว่า ทำดีต่อหน้าว่าที่แม่ผัวบ่อยๆจะได้ทำคะแนนว่าที่ลูกสะใภ้ดีเด่น คุณนายนวลผ่องคะยั้นคะยอให้นพพลสู่ขอประไพจากญาติผู้ใหญ่ของเธอ จนเป็นอันที่ตกลงเรียบร้อย โดยที่ฝ่ายอรัญพลมิสามารถตั้งตัวทัน เกสรรู้เรื่องก็นึกฉุนเฉียวทันที
งานแต่งงานของร้อยตำรวจเอกอรัญพลและประไพถูกจัดขึ้นอย่างหรูหราในสวนหลังบ้าน ที่อยู่ในช่วงที่ดอกไม้เริ่มบานสะพรั่งสวยงาม แขกคนพิเศษที่สุดของงานนี้ก็คือร้อยตรีประพาตและคุณนายนวรัตน์ เพื่อนสนิทของนายตำรวจหนุ่ม เขาอิจฉาเพื่อนของตนนักที่มีลูกชายกับภรรยาที่แสนดีอย่างคุณนายนวรัตน์ ตัวคุณนายกำลังอุ้มลูกชายตัวน้อยๆอายุเพิ่งได้แค่สามเดือน ร้อยตรีประพาตได้ตั้งชื่อลูกชายว่า ภาสกร อรัญพลและประไพมองดูลูกชายของประพาตของอิจฉา
ท่ามกลางความสนุกสนานสรวลเสเฮฮานั้น เกสรได้แอบมองอรัญพลกับประไพคุยกับนายทหารหนุ่มและคุณนายผู้ดีคนนั้นอย่างสนุกสนาน หล่อนเหลือบมองดูทั้งสี่คนแล้วก็หันไปเห็นเด็กหญิงกุหลาบซึ่งกำลังเดินเตาะแตะ
อยู่ ลูกสาวที่หล่อนแอบอ้างเอาเองว่าเป็นหลานสาวแล้วกระเตงเอามาอยู่ที่นี่ด้วย หล่อนจะต้องใช้กุหลาบเป็นเครื่อง-
มือตระกูลนี้ร่วมกับหล่อน ขณะที่กำลังคิดแผนการแก้แค้นอยู่นั้น จันทร์แรมก็ร้องเรียกให้หล่อนมาช่วยงานในครัวที่กำลังวุ่นเป็นจุลกฐิน หล่อนกระเตงหลานสาวเอาไปไว้ในห้องนอน แล้วก็มาช่วยจันทร์แรมทำงานต่อ
ในงานแต่งงานยังคึกคักเช่นเดิม ร้อยตรีประพาตต้องการผูกสัมพันธ์กับครอบครัวนี้จึงพูดออกไปเล่นๆว่าถ้า
ลูกคนแรกของอรัญพลเป็นผู้หญิงก็อยากจับคู่ให้กับเด็กชายภาสกร แต่อรัญพลก็ยิ้มหน้าเจื่อนแล้วพูดอย่างจริงจังว่าจะทำเช่นนั้น คุณนายนวรัตน์ยิ้มให้กับประไพอย่างเป็นมิตรไมตรี ประไพก็ไม่รู้ว่าหล่อนจะพอมีลูกกับอรัญพลได้หรือไม่
คืนนั้นในคืนส่งตัวบ่าวสาวเข้าห้องหอ กลับไม่ปรากฏตัวเจ้าบ่าวในห้องหอเลย ประไพเสียใจที่คิดว่าสามีที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายไม่เคยรักเธอเลย อย่างน้อยๆเขาน่าจะห่วงใยความรู้สึกของเธอบ้าง ในเมื่อทั้งคู่ก็แต่งงานกันแล้ว ส่วนอรัญพลได้เข้าไปหาเกสรถึงในห้อง ไฟราคะมันลุกโชนเกินกว่าจะมอดดับได้ ทำให้ทั้งสองต้องตกเป็นสามีภรรยากันชั่วข้ามคืน
ความรู้เข้าถึงหูของคุณนายนวลผ่อง หล่อนโกรธยิ่งกว่าอะไรดีที่ลูกชายใฝ่ต่ำวิ่งโร่เข้าหาคนใช้ ต้นห้องคนสนิทของคุณนายนั่งบีบน้ำตากระซิกๆอยู่ จันทร์แรมอดมองเพื่อนสาวอย่างเวทนาสงสารมิได้ นพพลซึ่งเป็นประมุขของบ้านพยายามพูดปลอบใจเมีย แต่กระนั้นหล่อนก็ไม่คลายเกรี้ยวโกรธ อรัญพลต้องพูดให้ผู้เป็นแม่เข้าใจแล้วว่าตนนั้นรักเกสร ประไพซึ่งนั่งร้องไห้อยู่ถึงกับอึ้ง นี่หรือชายที่หล่อนรัก ทำไมถึงกล้าหักหาญน้ำจิตน้ำใจกันเช่นนี้ ประไพทนไม่ไหวเข้าไปตบตีเกสรอย่างไม่ยั้งมือจนนพพลและอรัญพลต้องเข้าไปจับแยกออกมาด้วยวูบเดียวแห่งความโกรธ
อรัญพลตบหน้าประไพจนหน้าหันแล้วไล่ให้หล่อนไปอยู่ที่อื่น คุณนายนวลผ่องโมโหลูกชาย แต่คราวนี้เขากลับไม่ฟังผู้เป็นแม่ คุณนายยิ่งขอร้องมากขึ้น เขาจึงแค่ให้ประไพไปอยู่ที่เรือนคนใช้กับแจ่มจิตและถ้วน สองสาวใช้ข้าเก่าเต่าเลี้ยง
นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เกสร ต้นห้องคนสนิทของคุณนายนวลผ่องได้เลื่อนขั้นมาเป็นคุณนายเกสรอย่างเต็มตัว เกสรได้ทำตัวเป็นลูกสะใภ้ที่ดีตลอดมา จนคุณนายนวลผ่องนึกเอ็นดูมากยิ่งขึ้น ประไพจึงไม่เคยอยู่ในสายตาของคุณนายเลยแม้แต่น้อย
จนวันหนึ่ง เกสรเกิดตั้งท้องขึ้นและคลอดลูกชายออกมา อรัญพลดีใจเหลือเกินที่เมียรักของตนสามารถให้กำเนิดลูกชายได้สมปรารถนา คุณนายนวลผ่องขอตั้งชื่อให้กับหลานชายสุดที่รักว่า สุวพัชร แจ่มจิตและถ้วนมาสืบเรื่องที่ตึกใหญ่ก็นำเรื่องไปบอกกับประไพ หญิงสาวถึงกับน้ำตาคลอแล้วรินไหลออกมาจากเบ้าตา เวลาผ่านไปแป๊บเดียว เกสรสามารถมีลูกชายกับอรัญพลได้ ประไพมองดูเกสรอุ้มเด็กชายสุวพัชร แล้วมีทั้งอรัญพล นพพล และคุณ-
นายนวลผ่องล้อมหน้าล้อมหลังชื่นชมหลานชายที่เกิดใหม่อย่างปลาบปลื้มใจ ส่วนเธอนั้นมองดูเขามีชีวิตพร้อมหน้าพร้อมตาอย่างปวดร้าวหัวใจยิ่งนัก เธอคงไม่มีลูกไว้อุ้มชูเช่นเดียวกับเกสรหรอกกระมัง ฝ่ายจันทร์แรมซึ่งพากุหลาบมาเดินเล่น หล่อนมองไปทางเกสรสลับกับมองมาทางกุหลาบ แล้วให้นึกสงสารเวทนาเด็กหญิงวัยสองขวบยิ่งนัก
เมื่อร้อยตรีประพาตและคุณนายนวรัตน์รู้เรื่องลูกชายของตระกูลนี้เกิดใหม่ก็มาหาอรัญพลถึงที่บ้าน แต่ผิดคาดหญิงสาวผู้เป็นแม่เด็กน้อยกลับกลายเป็นเกสรไม่ใช่ประไพ สองสามีภรรยามองหน้ากันอย่างเข้าใจลึกซึ้งได้แต่แสดงความดีใจกับทั้งสอง เมื่อประไพรู้ว่าคุณนายนวรัตน์มาที่นี่ก็ให้แจ่มจิตและถ้วนไปเชิญคุณนายมาที่เรือนคนใช้ คุณนายนวรัตน์เห็นสภาพความเป็นอยู่ที่แร้นแค้นของผู้ดีตกอับก็ได้แต่ปลอบใจ ซึ่งไม่สามารถช่วยเหลืออีกฝ่ายได้เลย
เกสรยังคงไปมาหาสู่คบชู้สู่ชายกับชิดอยู่เป็นนิตย์ มะลิแอบเห็นทั้งคู่มาหากันอีกครั้ง แต่คราวนี้ตัวเกสรเองกลับใส่เสื้อผ้าดีๆ สวมสร้อยแหวนเงินทองมากมาย มะลิยิ่งสงสัยในตัวชู้รักของผัวตนนัก จึงวานให้สมบุญช่วยสืบเรื่องนี้ในตนที สมบุญยังนึกฉุนน้าสาวตนเองยังไม่หายแต่ก็จำใจช่วยสืบเรื่องของเกสรให้ จนหล่อนรู้ว่าเกสรไปชุบตัวเป็นคุณนายที่ตระกูลภูบาลบดินทร์
หญิงแพศยาเริ่มแผนการแก้แค้นโดยการเข้าไปกำกับการทำอาหารเองถึงในครัวแล้วนำยาพิษใส่ลงในอาหารของสองประมุขแห่งบ้านทีละน้อยๆเพื่อจะให้ทั้งคู่ค่อยๆตาย สุขภาพของทั้งนพพลและคุณนายนวลผ่องเริ่มที่จะไม่ดีขึ้นเรื่อยๆ ประไพจึงแอบเข้ามาดูแลสองผัวเมียประมุขแห่งบ้านตอนที่อรัญพลและเกสรไม่อยู่ เมื่อเกสรรู้ว่าสุขภาพร่างกายของนพพลและคุณนายนวลผ่องดีขึ้นก็ยิ่งทำให้นึกโกรธเกรี้ยวยิ่งนัก ใครนะทำให้ไอ้แก่บ้ากามกับอีแก่ขี้งกอาการดีขึ้นมันน่าจับมาฆ่าให้พ้นเสี้ยนหนามยิ่งนัก รึว่าจะเป็นอีประไพ
ครั้นเวลาต่อมา เกสรให้กำเนิดลูกชายกับอรัญพลอีกคน คราวนี้อรัญพลตั้งชื่อให้ลูกชายว่า สุวภพ เพื่อให้ชื่อคล้ายกับลูกชายคนโต เมื่อประไพรู้เรื่องก็ยิ่งเสียใจนัก เขาอยู่ด้วยกันไม่กี่ปีก็มีลูกด้วยกันตั้งสองคนแล้ว แล้วฟ้าก็ประ
ทานสิ่งดีๆมาให้กับเธอ เมื่อเธอได้รับเลี้ยงเด็กกำพร้าผู้หญิงคนหนึ่ง ประไพตั้งชื่อว่า ประอร ให้คล้ายกับชื่อของเธอ อรัญพลคัดค้านการกระทำของอดีตคู่หมั้นแต่คุณนายนวลผ่องก็เห็นเป็นการดีด้วย
เมื่อสองผัวเมียมีลูกชายด้วยกันตั้งสองคนแล้ว กุหลาบก็ยิ่งลดถอยความสำคัญลงเรื่อยๆ จันทร์แรมจึงมักจะพากุหลาบไปเล่นกับประอรอย่างสม่ำเสมอ เพราะสถานะของเด็กทั้งสองนั้นไม่ต่างกันเลย ซึ่งประไพก็ยินดียิ่งนัก คุณนายนวลผ่องชักบ่นอยากจะได้หลานสาวเต็มแก่เต็มเฒ่า เช่นเดียวกับฝ่ายร้อยตรีประพาตและคุณนายนวรัตน์ที่ต้องการให้ตระกูลนี้มีลูกสาวเพื่อจะได้หมั้นหมายให้กับเด็กชายภาสกร ซึ่งขณะนี้มีวัยสองขวบปีแล้ว
หลังจากนั้นอีกสองปี คุณนายนวรัตน์ ภรรยาร้อยตรีประพาตก็ตั้งท้องและคลอดลูกสาวออกมา ร้อยตรีประพาตตั้งชื่อให้ว่า ภาวิตา แล้วกระทำการหมั้นหมายให้กับสุวพัชร ลูกชายคนโตของอรัญพลทันที แล้วก็หลังจาก
นั้นเกสรก็ตั้งท้องแล้วคลอดลูกสาวออกมาเช่นกัน คุณนายนวลผ่องดีใจยิ่งกว่าคนอื่นให้ชื่อว่า สุณิสา ประไพยิ่งอิจฉาครอบครัวของอดีตคู่หมั้นนัก นี่ก็ห้าปีแล้วที่ครอบครัวนี้มีความสุขพร้อมหน้าพ่อแม่ลูก มีลูกชายและลูกสาวกันตั้งสามคน เธอยังคงแอบมองครอบครัวนี้เรื่อยมา ฝ่ายร้อยตรีประพาตและคุณนายนวรัตน์ก็ทำการหมั้นหมายภาสกร ลูกชายคนโตของตนให้กับสุณิสา ลูกสาวคนที่สามของอรัญพล
วันนี้เกสรได้แอบไปหาชิดอีกครั้ง คราวนี้สวรรค์รำไรก็เป็นของทั้งสองเมื่อมะลิและสมบุญไปเยี่ยมแม่ของมะลิที่ป่วยอยู่อยุธยา ทั้งคู่จึงได้ละเลงรักกันอย่างสนุกสนาน แล้วเกิดตั้งท้องกับชิดแล้วให้กำเนิดลูกสาวอีกคนชื่อ สุชาดา อีกแล้วครอบครัวเขาได้ลูกสาวมาอีกคนแล้ว ประไพมองครอบครัวของอรัญแล้วพลางนึกไปเรื่อยๆจนน้ำตาไหลริน แจ่มจิตและถ้วนมองหน้าเจ้านายและประอร ลูกเลี้ยงของประไพอย่างน่าสงสาร
{{{{{{{{
เวลาล่วงเลยไปหลายสิบปี เด็กๆในบ้านภูบาลบดินทร์ต่างเติบโตเป็นหนุ่มสาวแล้วทั้งสิ้น ส่วนที่เรือนของประไพ เธอกำลังหวีผมให้กับประอรที่หน้ากระจกอย่างเอ็นดูลูกบุญธรรม ประอรเติบโตเป็นหญิงสาวที่หน้าตาสะ
สวยจิ้มลิ้มพริ้มเพราความประพฤติก็ดีงามมิเสียแรงที่หล่อนพร่ำสอนลูกสาวให้อยู่ในโอวาทแม้จะเป็นแค่ลูกบุญ-
ธรรมก็ช่างเถอะ แจ่มจิตและถ้วน บ่าวรับใช้คนซื่อสัตย์ที่นับวันก็แก่ตัวลงเรื่อยๆได้ออกไปส่งประอรพร้อมกับประ-
ไพ
ที่หน้าตึกใหญ่ประไพมองเห็นอรัญพลและเกสรเดินออกมาที่หน้าบ้านพร้อมกับลูกชายลูกสาวสี่คน หล่อน
มองเห็นรูปร่างสูงใหญ่ของสุวพัชรก็นึกตะลึง ชายหนุ่มช่างสง่างามมีสง่าราศียิ่งนัก ได้เป็นถึงนายตำรวจหนุ่มสมใจปรารถนาของอรัญพล สุวภพก็ใช่ย่อยกำลังเรียนแพทย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยในตัวเมือง สุณิสาก็หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูในชุดนักเรียนมัธยมปลาย ส่วนสุชาดานั้นยังคงงอแงเป็นเด็กน้อยที่ต้องได้ไปโรงเรียนมัธยมปลายเช่นเคย นพพลและคุณนายนวลผ่องมองดูหลานๆอย่างภาคภูมิใจ ยังคงหนักใจแต่หลานสาวอย่างสุชาดา
เมื่อประไพมองดูครอบครัวอดีตคู่หมั้นเสร็จแล้วก็เดินหลบหนีออกไปทันที เผอิญชนกับหญิงสาวร่างระหง
หน้าตาก็น่ารักเธอเป็นพี่สาวคนใหญ่ที่สุดในบ้านลูกสาวของเกสรที่หล่อนผลักไสให้เป็นแค่หลาน กุหลาบกล่าวขอ
โทษประไพแล้วเอื้อมมือไปช่วยพยุงผู้สูงวัยกว่าขึ้นมา ประไพมองลึกเข้าไปในดวงตาหญิงสาวช่างมีน้ำใจงามยิ่งนัก กุหลาบไม่น่าเป็นหลานสาวเกสรเลย แล้วหญิงสาวก็เดินออกไปอย่างท่วงท่าสง่างามเช่นเดียวกับผู้หญิงที่กำลังได้งาน
ทำในวุฒิอักษรศาสตร์
ช่วงพักกลางวันของวันนี้ สุวพัชรได้เจอกับภาสกร ลูกชายของประพาตและคุณนายนวรัตน์ซึ่งได้เป็นทหารตามรอยพ่อ สองเพื่อนเกลอได้สนทนากันอย่างสนุกสนาน แล้วภาวิตา น้องสาวของภาสกรก็เดินเข้ามาในร้านอาหาร
หญิงสาวเจอหน้าสุวพัชรก็นึกตะลึงในความหล่อเหลาของเขา กริยามารยาทตามแบบฉบับผู้ดีช่างเหมือนเทพบุตรนัก
ยิ่งหญิงสาวพิศดูก็ยิ่งอยากเชยชิดพิสมัยชายหนุ่มยิ่งนัก
สุชาดาได้แกล้งเพื่อนในห้องเรียนจนอาจารย์ฝ่ายปกครองเรียกอรัญพลและเกสรมาพบ สองสามีภรรยาหน้าเสียมากจึงตำหนิการกระทำของลูกสาว สุชาดางอนผู้เป็นพ่อและแม่แต่พอลับหลังเกสรก็มาเอาใจลูกสาวคนโปรดอีก
คุณนายนวลผ่องเห็นลูกสะใภ้เอาใจลูกสาวเกินใจจึงได้แต่ตำหนิ พอลับหลังคุณนายนวลผ่องเกสรก็เบ้ปากด่าไล่หลังขมุบขมิบ
เย็นวันนั้นสุณิสากลับมาจากโรงเรียนแล้วมานั่งถักนิตติ้งอยู่คนเดียว พอกุหลาบเลิกงานมาก็มาช่วยถักอีกคน
ลูกสาวตัวแสบของเกสรเดินมาพบทั้งคู่ทำตัวสนิทสนมกันก็เข้าไปเตะตะกร้าอุปกรณ์ถักนิตติ้ง หญิงสาวทั้งสองคนตกใจกับกริยาอันต่ำช้าของสุชาดา พี่สาวอย่างสุณิสาต้องตำหนิติเตียนน้องสาวแต่น้องสาวตัวแสบกลับไม่ฟังความ
ได้แต่โวยวายหนักขึ้น เกสรมาพบเข้าสุชาดาก็โป้ปดมดเท็จว่าโดนพี่สาวกลั่นแกล้ง สุณิสาจึงโดนผู้เป็นแม่ดุด่าจนน้ำตาแทบไหลรินออกมา แต่หญิงสาวกลับเข้มแข็งพอ กุหลาบเห็นเหตุการณ์ด้านหน้าก็ได้แต่ปลอบใจญาติผู้น้อง
พอลับหลังลูกสาวคนโปรดแล้ว เกสรก็เดินมาหากุหลาบ ลูกสาวคนโตอย่างสงสารจับหัวจิตหัวใจ ถึงตัวหล่อนจะชั่วจะเลวยังไงหล่อนก็ไม่อยากให้ลูกสาวของตนต้องตกระกำลำบากเหมือนลูกที่ถูกทิ้ง กุหลาบยังรู้สึกดีขึ้นที่ยังมีเกสรยังเหลียวแลเธอในสายตาอยู่
คืนนี้พันตำรวจเอกอรัญพลและเกสรได้จัดงานปาร์ตี้เล็กๆขึ้นที่สวนหลังบ้าน และเชิญพันโทประพาตและคุณนายนวรัตน์ เพื่อจุดประสงค์ที่จะให้เด็กทั้งสองตระกูลได้รู้จักกัน สุชาดารู้สึกดีใจยิ่งกว่าปลากระดี่ได้น้ำเมื่อจะได้รู้จักกับร้อยโทภาสกร ลูกชายคนโตของพันโทประพาตที่เขาว่ากันว่าหน้าตาหล่อเหลาไม่เบา โดยที่ตัวหล่อนเองมิใช่คนที่โดนจับคู่ให้ภาสกร แต่สุณิสาผู้ที่โดนจับคู่กับภาสกรนั้นหาได้มีหน้าตาแช่มชื่นไม่ เพราะเธอถูกน้องสาวจะชิ่งชายคู่หมั้นไปก่อน
เมื่อครอบครัวของพันโทประพาตมาถึงในงาน อรัญพลและเกสรพร้อมด้วยสุชาดาก็มาต้อนรับครอบครัวนี้อย่างดี สุชาดาเห็นหน้าร้อยโทภาสกรครั้งแรกก็ตกตะลึงในความเป็นชายช่างสง่างามยิ่งนัก นายทหารหนุ่มยิ้มให้กับ
หญิงสาวอย่างเอ็นดู โดยที่เขาไม่รู้ว่าลูกสาวคนโปรดของเกสรนั้นเอาใจยากขนาดไหน และสุณิสาก็ได้เจอกับภาสกร
นายทหารหนุ่มตกตะลึงในความงดงามของหญิงสาว นี่หรือคู่หมั้นของเขา ทั้งกริยามารยาทช่างงดงามยิ่งกุลสตรีไทย
ขณะที่ทั้งคู่กำลังสนทนาทำความรู้จักกันอยู่นั้น สุชาดาก็ตรงลิ่วเข้ามาขัดจังหวะเกาะแขนชายหนุ่มตัดหน้าพี่สาวออก
ไป สุณิสาจำต้องเดินเข้าไปช่วยงานในครัวกับสาวใช้ โดยที่ภาสกรไม่ได้ตามเข้าไปเห็นเสน่ห์ปลายจวักของเธอเลย
ฝ่ายของสุวพัชรนั้นได้ไปรับน้องชายกลับมาถึงบ้าน ภาวิตาน้องสาวของภาสกรก็เข้ามาทักทายทำความรู้จักกับสุวพัชรอย่างสนิทสนม แต่สุวภพกลับฉุนเฉียวเมื่อเห็นพี่ชายเกาะแขนไปกับภาวิตา เพราะเด็กหนุ่มแอบชอบภาวิ
ตาอยู่ลึกๆ กุหลาบซึ่งกำลังช่วยจันทร์แรมและสุณิสาทำอาหารอยู่ในครัวมองดูภาพหนุ่มสาวเขาเกาะแขนกันเป็นคู่อย่างน่าอิจฉายิ่งนัก วาสนาเธอช่างอาภัพนักไม่เคยได้มีคู่กับเขาเลย แล้วเธอต้องหยุดคิดเมื่อคุณนายนวลผ่องเรียกให้เอาอาหารออกไปได้แล้ว
งานปาร์ตี้กำลังดำเนินไปอย่างสนุกสนานข้างฝ่ายประไพและคนใช้บนเรือนมองดูครอบครัวเขาสนุกสนาน
กันอย่างอิจฉา แต่ลูกบุญธรรมของเธอก็ไม่สามารถร่วมงานกับพวกเขาได้ วันนี้ประอรกลับบ้านค่ำเพราะมีงานซ้อมละครที่มหาวิทยาลัย เผอิญจริงๆเมื่อเดินชนกับสุวพัชรที่กำลังเกาะแขนมากับภาวิตา สมุดหนังสือของเธอตกกระจาย
ด้วยความมีน้ำใจของหญิงสาวรุ่นน้องก็เก็บหนังสือให้ สุวพัชรจ้องหน้าประอรนิ่งอย่างตกในภวังค์ สาวที่ไหนช่างงามได้ขนาดนี้ หญิงสาวถูกจ้องก็ได้แต่หลบสายตาแล้วเดินหนีออกไป ภาวิตาก็นึกเคืองประอรไม่น้อยเมื่อเห็นชายคู่หมั้นของตนจ้องซะขนาดนั้น
เมื่อภาสกรหลบสุชาดามาได้ก็ออกมาเดินเล่นแถวๆเรือนของประไพ นายทหารหนุ่มมองขึ้นไปบนเรือนเห็นหญิงสาวหน้าแฉล้มกำลังอ่านหนังสืออยู่ โดยมีผู้เป็นแม่ยกน้ำมะตูมอุ่นๆมาให้ แจ่มจิตและถ้วนมองเห็นชายหนุ่มจ้องมองเจ้านายสาวของตนอยู่ก็แกล้งกระเซ้าประอร เธอหันไปมองภาสกรแล้วส่งยิ้มให้ ประไพจำได้ว่าเป็นลูกชายของคุณนายนวรัตน์ก็ได้เชิญขึ้นมาบนเรือน ฝ่ายสุชาดานั้นได้มากระฟัดกระเฟียดใส่ผู้เป็นแม่เมื่อไม่เห็นชายที่เธอรัก
แล้วเจ้าหล่อนก็มาเห็นภาสกรบนเรือนประไพแล้วจึงลากชายหนุ่มลงเรือน มิวายหันมาเบ้ปากใส่ประอรอย่างน่าเกียจ
เช้าวันต่อมาที่ตลาดพระประแดง ภาสกรได้เจอกับสุณิสา หญิงคู่หมั้นที่เจอกันในงานปาร์ตี้แต่ไม่ค่อยจะได้คุยกันสักเท่าไหร่ เมื่อมีโอกาสชายหนุ่มจึงชวนหญิงสาวให้มานั่งสนทนากันที่ร้านกาแฟชาวจีน ขณะเดียวกันกับที่แจ่มจิต คนสนิทของประไพมาจ่ายตลาดแอบได้ยินแม่ค้าแถวนั้นพูดถึงผู้หญิงโคมแดงคนหนึ่งที่ไปชุบตัวเป็นคุณ
นายตำรวจที่บ้านภูบาลบดินทร์ หญิงชรารู้ทันทีว่าต้องเป็นเกสรแน่นอนจึงนำเรื่องไปบอกแก่นายตนเอง ประไพแทบใจหายเมื่อรู้ว่าภรรยาสุดที่รักของอดีตคู่หมั้นของตนเป็นผู้หญิงโคมแดง แต่ที่รู้ๆเธอเป็นแค่แม่ค้าขายขนมเท่านั้น
เกสรไปหาชิด ชายชู้ถึงที่แต่สถานภาพของชายชู้ตอนนี้ร่ำรวยขึ้นมากจากการค้ายาเสพติดผิดกฎหมาย แล้วสวรรค์รำไรก็ประทานให้ทั้งคู่เมื่อมะลิเมียของชิดไม่อยู่ สมบุญซึ่งขณะนี้อายุย่างเข้าสามสิบมองเห็นน้าชายกำลัง ละเลงบทรักกับหญิงชู้อย่างไม่อายฟ้าอายดิน เจ้าหล่อนเห็นเรื่องบัดสีเช่นนี้มาตั้งแต่ยังเป็นเด็กสาวแล้วจึงเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเธอ ยิ่งเธอมองการกระทำบัดสีของน้าชายก็ยิ่งอิจฉาเกสร ทำไมหนอหน้าตาอย่างสมบุญทำไมไม่ชายไหนเหลียวแลบำรุงบำเรอซักคน เจ้าหล่อนอิจฉาเกสรยิ่งนัก
ฝ่ายมะลิ เมียหลวงของชิดที่กำลังออกจากบ่อนด้วยความสิ้นเนื้อประดาตัว หนำซ้ำยังโดนเจ้าของบ่อนทำร้ายและข่มขืนอย่างโหดเหี้ยม เมื่อผัวร่ำรวยจากการค้ายาเสพติดหล่อนก็เลิกอาชีพแม่ค้าหันมาเข้าบ่อนอย่างระเริงร่า แล้ว
หล่อนก็ต้องมาล้มตัวลงด้วยความอิดโรยที่หน้าบ้านของพันตำรวจเอกอรัญพล แจ่มจิตและถ้วนมาเห็นเข้าจึงนำตัวหล่อนมาที่เรือนของประไพ ประไพก็ช่วยเหลือจนมะลินั้นฟื้นขึ้น
มะลิซาบซึ้งในน้ำใจของประไพยิ่งนักที่อุตส่าห์ช่วยเหลือตัวหล่อนเอง ทำให้ประไพและมะลิได้เป็นมิตรกันเพียงชั่วเวลาประเดี๋ยวเดียวเองพอมะลิกลับมาถึงบ้านก็รู้จากหลานสาวว่าเกสรกลับมาหาชิดอีกแล้วด้วยบันดาลโทสะ
จึงคาดคั้นจากสามีและขอร้องให้เขาเลิกกับหญิงเจ้าเล่ห์นั้นเสีย ทำไมผัวของหล่อนถึงไม่สนใจใยดีหล่อนบ้างเลยในเมื่อความงามของหล่อนก็ไม่ได้เป็นสองรองจากเกสรเลยแม้แต่น้อย
สุวภพได้แต่คิดถึงเรื่องของภาวิตาจึงทำให้ผลคะแนนตอนสอบกลางภาคไม่ค่อยจะได้ตามที่คาดหวังไว้นัก อรัญพลนึกเคืองลูกชายคนรองอยู่ไม่น้อยจึงไล่ลูกชายออกจากบ้านเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ สุวภพเสียใจมากได้แต่เดินตามถนนมาเรื่อยๆจึงพบกับภาวิตาในชุดนักเรียนมัธยมปลายถักผมเปียดูน่ารักยิ่งนัก เด็กหนุ่มดีใจที่ได้เจอเด็กสาวที่เขารัก เด็กสาวถามเด็กหนุ่มด้วยสีหน้าห่วงใย สุวภพจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง
ฝ่ายคุณนายนวลผ่องและเกสรคิดหาทางตามตัวสุวภพกลับมาบ้าน ผู้เป็นแม่ต่อว่าอรัญพลที่ไปไล่หลานชายสุดที่รักออกจากบ้าน เกสรหยุดสนใจเรื่องลูกชายแล้วนึกถึงเรื่องที่ต้องแก้แค้นตระกูลนี้ หล่อนลืมเรื่องนี้ไปได้อย่าง
ไรกัน ในห้องทำงานของสุวพัชร นายตำรวจหนุ่มมัวแต่นึกถึงใบหน้าอันสะสวยของประอรจนไม่ได้สนใจที่ลูกน้องนำแฟ้มคดีอาชญากรมาให้ ไม่ได้การเสียละ...เขาจะมัวแต่ฝันเพ้อถึงแต่เธออย่างเดียวไม่ได้ ต้องไปหาหญิงสาวที่มหา วิทยาลัยให้ได้
นายตำรวจหนุ่มจึงไปที่มหาวิทยาลัยที่ประอรเรียนอยู่ เขาเห็นท่าทางลีลาในการซ้อมละครเวทีของมหาวิทยา
ลัยช่างสมกับนักแสดงมีอาชีพนัก ประอรจึงได้กลับมาบ้านพร้อมกับนายตำรวจหนุ่ม ซึ่งขณะนั้นสุวภพได้กลับมาที่บ้านแล้ว ฝ่ายภาสกรได้พาสุณิสาไปที่บ้านของตน พันโทประพาตและคุณนายนวรัตน์ยินดีต้อนรับว่าที่สะใภ้อย่างจริงใจ
หน้าร้อนเริ่มเข้ามาเยือนประเทศไทยทีละน้อย ปีนี้นายอำเภอพระประแดงได้จัดงานวันสงกรานต์พระประ
แดงเช่นปีก่อนๆ ภาสกรได้ขออนุญาตชวนสุณิสาจากอรัญพลไปงานที่วัดแห่งหนึ่ง เช่นเดียวกับที่สุวภพชวนภาวิตาด้วย สุชาดาไม่ค่อยยอมที่ชายคนรักไปกับพี่สาวของตนเจ้าหล่อนจึงหาทางไปด้วย สุวภพก็แอบพาประอรไปเช่นกัน
ที่งานสงกรานต์ในวัดแห่งหนึ่ง กุหลาบได้มารอทุกคนที่งานแล้ว สามคู่หนุ่มสาวกับสุชาดามาที่งานอย่างร่าเริง สุชาดาถึงกับหน้าบูดหน้าบึ้งเมื่อโดนคนในวัดสาดน้ำใส่ไม่ยั้งแต่ก็ไม่กล้ากรีดร้องเพราะเกรงใจพระในวัด ภาสกรชวนทุกคนไปสรงน้ำพระที่บริเวณลานวัดแล้วก็ไปนมัสการพระเจดีย์กลางน้ำ วันนั้นทุกวันหนุ่มสาวมีสุขมาก
วันต่อมา สุชาดาถูกพิธาน ลูกชายเศรษฐีใหญ่ของพระประแดงเชิญไปรับประทานอาหาร ชายหนุ่มหลงรักหญิงสาวมาก แต่หญิงสาวไม่เคยเห็นน้ำใจของพิธานเลยชายเจ้าเล่ห์จึงงัดไม้เด็ดมาใช้กับเจ้าหล่อนโดยการวางยานอน
หลับเธอ สุชาดามารู้สึกตัวอีกทีหล่อนก็เสียบริสุทธิ์ให้กับชายหนุ่มเสียแล้ว ชายหนุ่มเข้ามาโลมเล้าร่างหญิงสาวจนเจ้าหล่อนหวากลัวมาก
เกสรมาวางพิษใส่อาหารให้กับนพพล คุณนายนวลผ่อง และแม้แต่อรัญพล ทำให้นพพลถึงกับกลายเป็นอัม
พฤกษ์เดินไม่ได้โดยที่แพทย์ไม่สามารถรักษาได้เลย เกสรแสยะยิ้มอย่างสาสมแก่ใจแต่แผนการเธอยังคงไม่หยุดอยู่ตรงนั้น ต่อมาอรัญพลก็เริ่มจะป่วยหนักเข้าไปทุกวันโดยที่เจ้าเมียไม่เคยที่จะเหลียวแลมาดูแลสามีแม้แต่น้อย เมื่อประ
ไพทราบเรื่องก็ได้เข้ามาดูแลอรัญพลแทนเกสร ทำให้อรัญพลซาบซึ้งในน้ำใจของอดีตคู่หมั้น เขาไม่น่าแต่งงานกับเกสรเลย เขาน่าจะแต่งงานกับประไพท่าจะดีกว่า ถึงแม้ตอนนั้นเจ้าหล่อนจะเป็นสาวรุ่นขี้ใจร้อนไปหน่อยก็ตาม
เกสรได้ไปหาชู้รักถึงที่บ้านแต่กลับไม่เห็นชู้รักร่วมสวาท หญิงแพศยารู้จากคนแถวนั้นว่าชิดโดนตำรวจจับข้อหาค้ายาเสพติด หล่อนรีบวิ่งโร่ไปหาชู้รักบนโรงพัก ท่าทางสนิทสนมกลมเกลียวของเจ้าหล่อนทำให้ภาสกรที่แอบมองอยู่นึกสงสัยทันที
มะลิรู้ว่าชู้รักของผัวตนเองได้เข้ามาเป็นคุณนายที่บ้านของประไพจึงแอบเข้ามาหามิตรรักพร้อมกับสมบุญ ประไพและสองคนใช้แทบช็อกเมื่อรู้ความจริงว่าเกสรนั้นเป็นคนอย่างไร ก็ได้แต่แอบซ่อนเรื่องนี้เอาไว้ไม่ให้ใครรู้
โดยเฉพาะอรัญพล แต่อีกใจเธอก็อยากเปิดโปงเรื่องของเกสรเช่นกัน
เกสรกลับมาถึงบ้านด้วยความเศร้าใจเมื่อนึกถึงชู้รักที่อยู่ในคุกอย่างแสนลำบาก หล่อนเดินเข้าไปในห้องของสามี แล้วต้องตกใจสุดขีดเมื่อเห็นมะลิอยู่กับประไพ เหตุการณ์ในอดีตยิ่งรุมเร้าเข้ามาในจิตใจของเจ้าหล่อนเกสรกรีด
ร้องสุดเสียงดั่งคนเสียสติ อีมะลิมันมาอยู่นี่ได้อย่างไรกัน ไม่ได้การละ...ถ้ามันบอกเรื่องอดีตของหล่อนต้องจบเห่ลงแน่ ทุกคนในบ้านขึ้นไปบนห้องนอนของอรัญพลแล้วต้องเข้าจับตัวเกสรเอาไว้เพราะหล่อนเสียสติขว้างข้าวของใส่อย่างบ้าคลั่ง ทุกคนหันไปมองมะลิอย่างสงสัยว่าเป็นใคร คุณนายนวลผ่องเข็นนพพลที่พิกลพิการเข้ามาในห้อง เกสร
เห็นนพพลนั่งรถเข็นมาก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง แล้วสารภาพความเป็นมาของเธอ นพพลตกใจที่หล่อนเป็นลูกสาวของ
คนที่นพพลโกงจนสิ้นเนื้อประดาตัว เกสรไม่พูดพร่ำทำเพลงหยิบปืนขึ้นมาเหนี่ยวไก แต่สายไปเสียแล้วก่อนที่ทุกคนจะแย่งปืนมาได้ทัน ลูกกระสุนก็ทะลุอกของนพพลเสียแล้ว ชายชราสิ้นสติลงบนรถเข็นหลังจากกระอักเลือดทันที
ทุกคนตกใจทำอะไรไม่ถูก แม้แต่คุณนายนวลผ่องยังเป็นลมหมดสติไป เกสรหันกระบอกปืนไปทางอรัญพล
หล่อนยิงไม่ถูกเป้าหมายเมื่อโดนสุวพัชรผลักหล่อนจนล้มตึง หล่อนโกรธมากแล้วหันปืนไปจ่อสุวพัชรจนลืมไปแล้วว่าเขาเป็นลูกชายของหล่อน หล่อนมองไปหากุหลาบแล้วเรียกเธอว่าลูก กุหลาบงงสุดขีดแล้วน้ำตาไหลรินเมื่อรู้จากคำสารภาพของแม่บังเกิดเกล้า สุชาดายิ่งสับสนกับเหตุการณ์ก่อนที่ผู้เป็นแม่จะบอกลูกสาวคนโปรดว่าเจ้าหล่อนเป็นลูกสาวของชิด โดยที่ชิดไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าลูกชายของตนเลย มะลิก็ตะลึงว่าสุชาดาก็เป็นเช่นลูกเช่นหลานของเธอ
สุณิสาหวาดกลัวกับเหตุการณ์ข้างหน้าได้แต่กอดนายทหารหนุ่มเอาไว้ เช่นเดียวกับประอรที่กอดประไพเอาไว้แน่น เกสรคุ้มคลั่งกว่าเดิมถึงขั้นจะทำร้ายร่างกายตนเอง สุวพัชรจึงพาแม่ตนเองไปที่โรงพยาบาลประสาท สุ
ชาดาเข้ากอดมะลิเมื่อรู้ว่าเป็นเมียหลวงของพ่อแท้ๆของตน แล้วก็กลับต่อกลับใจเป็นคนดี
ภาสกรสร้างเรือนหอเอาไว้รอวันที่จะแต่งงานกับสุณิสาอย่างใจจดใจจ่อ สุวภพกำลังดำเนินการรักหวานชื่นกับภาวิตาเช่นเคย สุวพัชรนั้นได้เดินเล่นกับประอรที่สวนหลังบ้านแล้วขอหญิงสาวแต่งงาน ฝ่ายประอรก็ตอบตกลง
กุหลาบเศร้าใจมากเมื่อจะรู้ว่าแม่ของตนคือใครก็สายไปเสียแล้ว เจ้าหล่อนเดินทางไปหาเกสรผู้เป็นแม่ที่โรงพยาบาลประสาท เธอเห็นแม่นั่งเหม่อลอยบนรถเข็นที่ลานกว้างของโรงพยาบาล ความรู้สึกลึกๆของกุหลาบก็ดีใจที่จะได้มีแม่สักที
เหตุการณ์ทุกอย่างผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว คนที่ทำดีก็ย่อมได้รับผลดีกันไปตามวาระ ไม่ว่าจะเป็นอรัญพล ประไพ คุณนายนวลผ่อง ประอร กุหลาบ สุวพัชร สุวภพ สุณิสา ภาสกร และภาวิตา ส่วนคนที่คดโกงคนอื่นอย่างนพพลก็ต้องไปชดใช้กรรมที่นรกอเวจีขุมต่ำสุด ส่วนตัวของเกสรที่อาฆาตจองเวรผู้อื่นอย่างไม่มีที่สิ้นสุดจนทำให้ตนเองได้ไปใช้ชีวิตบั้นปลายในโรงพยาบาลประสาทอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย การกระทำอาฆาตจองเวรของเกสรนั้นยากที่จะให้อภัยได้
ดั่งคำสอนของพระพุทธองค์ที่ว่า
น หิ เวเรน เวรานิ สมฺมนฺตีธ
เวรที่ระงับด้วยการจองเวรไม่เคยมี
จบบริบูรณ์
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น