ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นิยามรักบทที่ 1 โดย yนวิยา (yuri)

    ลำดับตอนที่ #6 : เภตราทยาวีร์ ตอน เมื่อถูกจับได้

    • อัปเดตล่าสุด 4 ม.ค. 57


    พึ่บ ๆ ๆ  ...

    เสียงกระพือปีกของเหยี่ยวค้างคาวสีดำตัวโตเต็มวัยที่โฉบเข้ามาจับฝูง    นกแอ่นตัวน้อยที่เพิ่งกล้าบินออกจากถ้ำในยามเย็นอย่างรวดเร็ว แรงกระพือทำให้ก้อนกรวดเล็ก ๆ ร่วงลงมาตามหน้าผาสูงชัน

    ภาพที่เกิดขึ้นทำให้ชายที่เดินตามหลังมาถึงกับถอนหายใจอย่างเอือมระอา

                เฮ้อ! มึงนี่น้า อ้ายไหรนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ตื่นตูมไปได้ ป่ะ... ทำงาน ๆ

                เขาพูดพลางตบบ่า ไล่ชายหูดีขี้สงสัยให้กลับเข้าไปยืนประจำที่ตรงปากถ้ำ ละความสนใจไปในบัดดล

    หากทั้งสองอยู่ใกล้ ๆ ทยาวีร์ซึ่งแอบอยู่ด้านบน เขาต้องได้ยินเสียงผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอกของหญิงสาวเป็นแน่

     

    เหตุการณ์ ตื่นเต้นเมื่อสักครู่ทำให้ทยาวีร์ต้องระวังระไวมากขึ้น ก้าวแต่ละก้าวที่เยื้องย่างจึงผ่อนน้ำหนักฝีเท้าลงเป็นพิเศษ กระทั่งมาถึงที่ ๆ เภตรานั่งรอด้วยท่าปิดปากตัวเองไว้แน่น แถมยังหลับตาปี๋อีกต่างหาก เห็นอย่างนั้นแล้ว สาวห้าวก็อดส่ายหัวยิ้มขำไม่ได้

    หึ ๆ เชื่อฟังสมกับเป็นอาจารย์จริงจริ๊ง!  แต่ก็ดีแล้วล่ะ...ไม่อย่างนั้นต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่ ๆ

    ทยา วีร์คิดพลางเดินเข้าไปสะกิดไหล่อาจารย์สาวเบา ๆ พอเภตราเปิดเปลือกตาขึ้นก็เห็นทยาวีร์เอามือจุ๊ปากไว้เหมือนเคย แต่ไม่คิดว่า เขาจะโน้มตัวลงมากอดกระชับร่างเธอไว้อย่างปลอบประโลม ทั้งยังกระซุบกระซิบชิดริมหู

    เภทำแบบเมื่อกี้น่ะดีแล้วและต้องอยู่ตรงนี้ให้เงียบที่สุด นอกนั้นวีร์จะจัดการเอง เชื่อใจวีร์นะ

    คำ ปลอบของทยาวีร์ ช่างอบอุ่นราวกับน้ำทิพย์ชโลมใจ ค่อยทำให้ความหวาดกลัวทั้งหลายของเภตราบรรเทาลง ต่อให้เรื่องราวเลวร้ายเพียงใด หากมีเขาอยู่ใกล้ ๆ เธอก็ยังอุ่นใจอยู่ดี

    เภตราจึงพยักหน้ารับกับบ่านุ่มที่ซบอยู่ จ้ะ เภเชื่อวีร์

    สาว ห้าวผมซอยจับไหล่บอบบางออกจากอ้อมอก พอเห็นรอยยิ้มน้อย ๆ ที่เภตราส่งมา เธอก็อดไม่ได้ที่จะลูบหัวทุย ๆ นั้นอย่างรักใคร่ เลิกสนใจที่จะขีดคั่นความรู้สึกที่มีต่อผู้หญิงคนนี้ออกไปก่อน

    เพราะสิ่งที่ต้องทำในขณะนี้ คือ ปกป้องเภตราให้ดีที่สุดี่มีต่อผู้หญิงคนนี้ออกไป่พึงมีต่อหญิงสาวคนนี้ยยิ้มน้อย ๆ ที่ส่งมา เธอก็อดไม่ได้ที่จะลูบหัวทุย ๆ นั้นอย่างรักใคร่

    เมื่อ กอดเรียกขวัญเพื่อนสาวเสร็จ ทยาวีร์ก็หันมาเปิดกระเป๋าเป้สีเทาที่วางไว้ข้างก้อนหินในคราแรก จัดการรูดซิปด้านหน้า หยิบกล้องส่องนกแบบตาเดียวขึ้นมา จากนั้นก็ย่องกลับไปทางบันไดไม้ไผ่ เพื่อซูมเลนส์จับความเคลื่อนไหวของคนร้ายทั้งที่อยู่หน้าปากถ้ำ และด้านในตัวถ้ำสลับกันพร้อมบันทึกภาพไว้ในโทรศัพท์มือถือ โดยมีเภตรานั่งปิดปากเป็นผู้ชมด้วยใจสั่นรัว

    ส่วน ทยาวีร์นั้นก็มีสีหน้าซีเรียสขึ้นเรื่อย ๆ คิ้วหมวดกันเป็นปมอย่างใช้ความคิด สักพักคนร่างสูงก็เดินมานั่งยอง ๆ ตรงหน้าเธอที่มีแวววิตกกังวล นัยน์ตาสีดำของทยาวีร์จ้องลึกเข้าไปในนัยน์ตาตื่นกลัวของเภตรา พลางกุมมือเธอขึ้นมา

    วีร์จะดูแลและปกป้องเภเอง ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ...คนดี ขอแค่เภไว้ใจวีร์ก็พอน้ำเสียงหนักแน่นของทยาวีร์ทำให้คนฟังรู้สึกผ่อนคลาย

    จ้ะ เภเชื่อว่า ไม่มีใครดูแลเภได้ดีเท่ากับวีร์อีกแล้ว 

    รอย แย้มยิ้มพริ้มพรายจากสาวหน้าหวานนั้น เป็นดั่งเวทมนตร์ที่ร่ายมาเพื่อให้ทยาวีร์หลงใหลโน้มตัวเข้ามาใกล้ ค่อย ๆ แนบริมฝีปากสีแดงจุมพิตกลางหน้าผากนวลเนียนแผ่วเบา  แล้วโอบกอดร่างอรชรอย่างถนอม ทั้งที่อยากจะรั้งหัวใจตัวเองไว้ แต่มันก็ไร้ความหมาย เมื่อความรักที่ซ่อนไว้ ตะโกนก้องในใจว่า   

    เภตรา เพื่อเธอแล้ว ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิต...ฉันก็ยอม

     

                ตึง!

                ทันที ที่เสียงกัมปนาทดังกึกก้องสะท้อนไปทั่วถ้ำรังนกขาว ชายฉกรรจ์ในชุดลายพรางสีดำสองคนที่ยืนเฝ้าตรงปากถ้ำก็ตื่นตระหนก และเร่งรุดเข้าไปในถ้ำพร้อม ๆ กับเสียงนายเสือตะโกนลั่นสั่งการอะไรบางอย่าง

    จังหวะ ที่ภายในถ้ำกำลังชุลมุนวุ่นวาย ทยาวีร์...ตัวต้นเหตุที่ทำให้ก้อนหินถล่มลงไปเบื้องล่างภายในถ้ำ ก็รีบปีนลงบันไดไม้ไผ่เป็นคนแรก ตามด้วยเภตราซึ่งหัวใจเต้นตึก ๆ อย่างหนักกับการต้องหนีโจรผู้ร้ายเป็นครั้งแรก พลอยทำให้ประสิทธิภาพในการควบคุมมือและเท้าลดน้อยลง มือไม้สั่นไปหมด

                มองขั้นบันไดอย่างเดียวนะ อย่างอื่นไม่ต้องนึกถึง เข้าใจมั้ย?”

    เสียงทยาวีร์กำชับอาจารย์สาวจากขั้นบันไดด้านล่าง

                เภตรา พยายามข่มใจอย่างที่สุด ทว่าไม่อาจฝืนปฏิกิริยาทางกายได้เลย มือและขาทั้งเย็นทั้งสั่น ทำให้การปีนลงบันไดจากผาถ้ำเป็นไปอย่างเชื่องช้า และด้วยความสูงชันทำให้ทยาวีร์ไม่กล้าเร่งฝีเท้าปีนลงไปก่อน เพราะเกรงว่าเภตราจะเกิดความกลัวมากขึ้นไปอีก ทั้งคู่จึงใช้เวลามากกว่าที่คาดการณ์ไว้เสียอีก

    ทันที ที่เท้าแตะพื้นดิน ทยาวีร์ก็รีบดึงตัวเภตราเข้าหาตัว จับข้อมือบางวิ่งไปข้างหน้าแต่ต้องชะงักเท้ากึก พากันหลบวูบเข้าไปแอบหลังก้อนหินใหญ่ โดยไม่ทันได้กลับไปเก็บของบางอย่างที่หลุดออกจากร่างกาย  เมื่อ ได้ยินเสียงคนเร่งฝีเท้าออกมาจากในถ้ำ โดยเฉพาะเสียงย่ำหนัก ๆ ของรองเท้าคอมแบทที่กระทบกับก้อนหินมาหยุดยืนไม่ไกลจากที่ซ่อนตัวมากนัก ช่างขย่มใจคนที่หลบอยู่เหลือเกิน

    นาทีต่อมา หัวใจทั้งสองก็แทบหยุดเต้น เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของผู้ร้าย!

             เห้ย! แลนิ เกือกสีชมพูของสาวไหนวะ มันต้องมีไหรแน่ ๆ แยกกันไปแลที มันส่งภาษาใต้ใส่กันรัว ๆ

    มิ รอช้า ชายหน้าดำเหี้ยมในชุดลายพรางสีดำก็ถือปืนเอ็ม 16 แยกย้ายไปตรวจสอบรอบบริเวณกันคนละทาง หนึ่งในนั้นเลือกเดินตรงเข้ามาทางก้อนหินขนาดใหญ่ที่สองสาวซ่อนตัวอยู่ การเยื้องย่างของมันแต่ละก้าวนั้น ช่างเขย่าหัวใจเภตราเหลือเกิน จู่ ๆ ร่างกายก็เย็นเฉียบไปหมด ราวกับอยู่บนขั้วโลกตอนฤดูหนาว

    วินาทีนั้นเอง! ดวงตาหวาด ๆ สีน้ำตาลก็ต้องเบิกโพลง เมื่อชายร่างยักษ์ในชุดลายพรางสีทะมึนออกมายืนจังก้า พร้อมแสยะยิ้มอย่างสมใจต่อหน้าเธอ

    โอ้โห! แม่เจ้าโว๊ย...นี่นางฟ้าเล่นมาจุติกลางวันแสก ๆ เลย มันพูดพลางสาวเท้าเข้ามาอย่างย่ามใจ

    เภตรา หน้าซีดเผือด อ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออก หัวใจเต้นถี่ยิบอย่างหนักกับการโดนจับได้ ทว่าพอหันไปด้านข้าง ดวงตายิ่งเบิกโพลง แทบสิ้นสติอยู่ตรงนั้น เพราะไม่มีอีกแล้ว ร่างของทยาวีร์...คนที่จะดูแลและปกป้องเธอ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×