คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : บทที่ 8 จิตใต้สำนึก
บทที่ 8 จิตใต้สำนึก
ค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลองในวันสิ้นปีของผู้คนในฟาร์มรักปายปีนี้ ช่างเต็มไปด้วยความสนุกสนานรื่นเริงคึกคัก นั่นเพราะไม่มีใครคาดคิดว่า นักโภชนาการหญิงจอมแก่นแก้วอย่างพริกหวาน จะสามารถคว้ารางวัลสาวผิวสดหน้าใส และได้เป็นธิดาออร์แกนิกโดยมติเอกฉันท์ของคณะกรรมการ
ส่วนรางวัลขวัญใจมวลมหาชนนั้น ฟาร์มใหญ่โตอย่างเพชรนาคาสามารถคว้าไปครองอย่างง่ายดาย เมื่อหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ต่างเทคะแนนให้หลินหลิน...สาวหมวยหุ่นเซ็กซี่ทรวดทรงนาฬิกาทราย ผิวขาวจั๊วะ ซึ่งเป็นประชาสัมพันธ์คนใหม่ของฟาร์มนี้กันอย่างล้นหลาม ก็ชุดที่คุณเธอแต่งนั้นช่างเซ็กส์เอ็กซ์ได้ใจ แค่เธอโพสต์ท่าจิกตาเชิดหน้าราวกับนางแบบนิตยสาร FHM บนเวที ด้วยชุดแซกกระโปรงสั้นแนบเนื้อสีแดงเพลิง คอวีผ่าลึกเห็นเต้าอกขาวสะบึมตู้มต้ามยั่วน้ำลายชายหนุ่ม ส่วนเอวคอดกิ่วยังเว้าลึกตั้งใจโชว์เนื้อหนังมังสาขาวโพลน ซ้ำมีทีเด็ดด้วยการยักย้ายส่ายสะโพกดินระเบิดยั่วยวนน้อย ๆ เรียกเสียงผิวปากวี้ดวิ้วฮือฮาจากผู้ชมทั่วทั้งงาน
ท้ายที่สุด...ประชาสัมพันธ์สาวสุดเซ็กซี่ที่ชื่อหลินหลิน ก็สามารถคว้ารางวัลขวัญใจมวลมหาชน (ชาย) แบบไม่ต้องสงสัย
โดยผู้หลักผู้ใหญ่ที่ให้เกียรติฟาร์มรักปายขึ้นมามอบถ้วยรางวัลทั้งสามรางวัล เป็นบุรุษที่รองผู้จัดการซึ่งใช้นามแฝงว่าน.ส.พระพาย เทพวายุ รู้จักดี นั่นคือนายเพทาย เพชรนาคา รองนายกสมาคมปศุสัตว์แม่ฮ่องสอน โดยวันนี้มาในนามตัวแทนของ นายนาคา เพชรนาคา ซึ่งเป็นนายกสมาคมที่ท่านฝากขออภัยมาว่า ช่วงนี้สุขภาพไม่ใคร่จะแข็งแรง ร่างกายอ่อนเพลีย
แท้ที่จริง...หลานสาวตระกูลเพชรนาคาคาดเดาไว้แล้วว่า
คนดื้อรั้นเจ้าคิดเจ้าแค้นอย่างคุณปู่นาคา จะไม่ยอมมาเหยียบที่ดินฟาร์มรักปาย ตราบใดที่ท่านยังไม่ได้ครอบครองผืนดินนี้ตามกฎหมาย!
ยิ่งเธอ...น.ส.พรพระพาย เพชรนาคา ซึ่งเป็นผู้สืบสันดานโดยตรงกลับมาทำให้ฟาร์มของลูกฆาตกรในความเชื่อของท่าน มีความเจริญมั่งคั่งแบบก้าวกระโดดในเวลาแค่ 2 เดือน! แถมกำไรยังพุ่งพรวดถึง 50%
ท่านแทบจะแล่นถลามากระชากลากตัวเธอกลับเสียเดี๋ยวนั้น!
นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ลุงเพทายต้องออกโรง ขันอาสามาดูหน้าเธอถึงฟาร์มรักปาย แต่ต้องแสร้งตีหน้า โอภาปราศรัยแบบพอเป็นพิธีเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต ด้วยถือว่าระหว่างทั้งสอง เป็นการพบปะกันครั้งแรก
ครั้นสบโอกาส ได้ยืนใกล้ชิดกันในตอนถ่ายรูปมอบรางวัลบนเวทีประกวดธิดาออร์แกนิก ลุงเพทายแอบกระซิบเสียงเสียดสีข้างหูหลานว่า
‘ท่านสั่งว่า มกรานี้ต้องจบ...ไม่ใช่ดังเปรี้ยงแบบนี้! รึหลงเสน่ห์มัน’
ดวงตาสีน้ำตาลสุขุมลึกล้ำของผู้สดับฟังอย่างพรพระพายเพียงแค่มองตรงไปเบื้องหน้า พลางคลี่ยิ้มละไมมีเสน่ห์ให้ช่างภาพบันทึกภาพพิธีมอบรางวัล ก่อนหลานสาวจะหันมายิ้ม แสร้งค้อมศีรษะเพื่อขอบคุณแขก ผู้ทรงเกียรติของฟาร์มรักปายอย่างลุงเพทาย ตั้งใจกล่าววลีแฝงเล่ห์กลด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาล้ำลึกว่า ‘ช่วยเรียนท่านว่า ยิ่งดัง ยิ่งสาหัส จริงไหมคะ’
แค่นั้น...เสียงหึ ๆ อย่างพึงพอใจในลำคอของบุรุษผู้รับสาสน์ได้ลอดออกมาจากริมฝีปากหนา พร้อมแววเลศนัยที่เหลือบมองมาทางผู้พูด
มีเพียงพรพระพายคนเดียวที่รู้ดีว่า วลีร้ายลึกนี้..เป็นแค่คำลวงล่อคนในสกุล เพราะสิ่งที่ตั้งมั่นแท้จริงคือ ฟาร์มนี้..ต้องขายด้วยความเต็มใจ!
และยิ่งกลางคืนนี้...คนในฟาร์มรักปายที่พรพระพายเริ่มมีใจผูกพันจัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในสไตล์คาวบอยไนท์ เฉลิมฉลองที่ฟาร์มประสพความสำเร็จในการจัดงาน รายได้ถล่มทลายมากเป็นประวัติการณ์ ทั้งฉลองให้หญิงน่ารักแก่นเซี๊ยวพริกหวานที่ได้ตำแหน่งธิดาออร์แกนิกอย่างไม่คิดฝัน แล้วยังเป็นการเชื่อมสัมพันธ์และสังสรรค์ระหว่างลูกจ้างพนักงาน บรรยากาศภายในงาน...จึงเต็มไปด้วยความครึกครื้นสนุกสนานเป็นกันเอง
ยิ่งปีนี้พิเศษสุด เมื่อพรพระพายเสนอให้มีการจ้างทีมงานมืออาชีพมาจัดงานให้ มีทั้งการโชว์ควงปืน ควงมีด บ่วงบาศ ฟาดแส้ กระบองไฟ บูชาไฟของเผ่าอินเดียนแดง เต้นคันทรีไลน์แดนซ์ และสตันต์โชว์ สลับกับการบรรเลงเพลงคันทรี ซึ่งไม่เคยมีการจัดงานเลี้ยงยิ่งใหญ่เช่นนี้มาก่อน
นั่นจึงทำให้ลูกจ้างหนุ่มสาวของฟาร์มรักปาย ตื่นเต้นกระตือรือร้นที่จะแต่งตัวแต่งหน้าแบบจัดเต็มในสไตล์คาวบอย คาวเกิร์ล ชนิดไม่ยอมกัน พอวงดนตรีบรรเลงเพลงในจังหวะสนุก ๆ พวกเขาก็ลุกขึ้นเต้นโชว์สเตปพลอยทำให้คาวบอยขี้อายหลายคนเริ่มกล้า ที่จะโค้งสาวคาวเกิร์ลที่แอบปิ๊ง มาเต้นรำกัน บ้างจับกลุ่มสรวลเสเฮฮา จิบแอลกอฮอล์สบาย ๆ บนกองฟาง โดยพระเอกของงานเป็นหมูหันหนังกรอบเนื้อนุ่ม บาบีคิวหมักเครื่องเทศรสชาติเข้มข้นถูกใจ นอกนั้นยังมีซุ้มอาหารและเครื่องดื่มสไตล์งานค็อกเทลจากโรงแรมห้าดาวให้เลือกลานตา ไม่ว่าจะเป็นคานาเป้หน้าต่าง ๆ พอดีคำ หรือคานาเป้โรลหลากรสอร่อย มินิปิต้าที่มีทั้งกุ้งย่างเนย หมูย่างมะนาว แซลมอนย่างพริกไทยดำ คัพแซนด์วิชน่ากิน มินิแซนด์วิชหลากไส้อร่อยเลิศ แฮมพันแคนตาลูป ซอสแอปเปิลมายองเนสสุดโอชะ สลัดผักโรลหน้าต่าง ๆ ทุกอย่างน่าลิ้มรสกันทั้งนั้น โดยเฉพาะปีกไก่ทรงเครื่องทอดสูตรเด็ด
ทว่าดูเหมือนเวลานี้ จะมีเพียงสองสาวสองสไตล์อย่างพรพระพายกับสพ.ญ.น้ำขิง ที่ไม่รู้สึกสนุกสุดเหวี่ยง หรือรื่นรมย์เหมือนอย่างคนอื่นนัก แถมเหล่ตามองหน้ากันแบบเซ็ง ๆ ทั้งที่บางทีสองคนนี้ก็แอบเหน็บกันนิด ๆ พอเป็นกระศัย ให้รู้สึกถึงความท้าทายระหว่างคู่แข่งขันจีบเจ้าของกิจการ
นั่นเพราะภาพตรงหน้าสองสาวห้าวที่กำลังเซ็งจิตคือ...
ภาพคุณหนูรักปายกับพริกหวานที่คืนนี้สองสาวดูเปรี้ยวซ่าน่ารักเหลือเกินนักในชุดคาวเกิร์ล กำลังแย้มพรายหัวเราะร่วนกับเกษตรอำเภอพัดยศและรองสารวัตรแผ่นดิน ซึ่งได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานภายในเป็นพิเศษ
ที่สุด...สัตวแพทย์สาวร่างสูงผมยาวมาดเซอร์ในชุดคาวเกิร์ลเท่ ๆ ก็หันมาชูแก้ววอดก้าสุรากลั่นไม่มีสีกับรองผู้จัดการหญิงเชื้อไทย-เดนมาร์ก และชวนด้วยหน้าแดงเรื่อที่เกิดจากฤทธิ์เหล้าฝรั่งว่า “ม่ะ...ชนแก้วกัน”
“หึ ๆ หลายแก้วแล้วนะคุณหมอ...ไหวเหรอะ”
พรพระพายที่ดวดเหล้าหน้าแดงไม่ต่างกัน ถามคู่แข่งอย่างห่วง ๆ แต่หมอเมืองย่าโมกลับสั่นหัว ยืนยันด้วยเสียงอ้อแอ้ ๆ ว่า “ไหวสิ๊...ทั้งเหล้าขาวเหล้าโรงยังเคยลองแล้วเลย กะอีแค่วอดก้าเหล้าฝรั่ง ทำไมจะไม่ไหวเล่า อย่าเสียเวลาเลยรองผู้จัดการ ม่ะ...ชนแก้ว เอาให้เมาแอ๋กันไปข้างดีกว่า”
ได้ฟังเช่นนั้น พรพระพายที่คุ้นเคยกับการดื่มเหล้าฝรั่งพอสมควร เพราะบ่อยครั้งเธอต้องไปงานปาร์ตี้นักค้าหุ้น ซึ่งมักเมาท์กันเรื่องหุ้นที่จะขึ้น-ลงแบบลับ ๆ ดังนั้นเธอจึงกลั้วขำในลำคอ พูดกับหมอสาวอายุไล่เลี่ยว่า
“หึ ๆ มันจะไม่ยังงั้นสิหมอน้ำขิง กลัวจะหัวทิ่มกันบนกองฟางนี่ล่ะ เอาเป็นว่า เราสองคนเสมอกัน แก้วนี้เป็นแก้วสุดท้ายนะ เราดื่มกันครบครึ่งโหลได้ล่ะ เดี๋ยวไม่มีแรงเล่นอะไรสนุก ๆ กับสองปลิงหนุ่มนั่น...โอเคม่ะ?”
คนชวนทำอะไรพิเรนทร์พูดพลาง เหล่ตาเลศนัยไปทางสองหนุ่มหน้าตาดีที่กำลังเมาท์มอยให้คุณหนูรักปายและพริกหวานฟังอะไรบางอย่าง
“โอเค...ได้เลย!” หมอน้ำขิงยิ้มรับ ตาเปล่งประกายเล่ห์ร้ายเช่นกัน พร้อมชนวอดก้ากับแก้วจินโทนิคพรพระพาย ก่อนกระดกรวดเดียวหมด
จากนั้นสัตวแพทย์น้ำขิงหันมาถามหน้าฉงนกับพรพระพายว่า
“ว่าแต่...เราจะเล่นอะไรกัน?”
“หึ ๆ เดี๋ยวก็รู้...ป่ะ”
พรพระพายชวนด้วยแววตากรุ้มกริ่มแพรวพราวทั้งยักคิ้วทะเล้นให้ ก่อนจะลุกขึ้นจากกองฟาง ที่พวกเธอต้องทนนั่งมองสองสาวหัวเราะคิกคักมีความสุขกับสองหนุ่มนานนับชั่วโมง แล้วเดินนำไปข้างหน้า โดยมีแพทย์รักษาสัตว์คู่แข่งขันที่กลายมาเป็นมิตรกันเฉพาะกิจตามต้อย ๆ อย่างงง ๆ
ระหว่างเกษตรอำเภอพัดยศและรองสารวัตรแผ่นดินกำลังเล่าเรื่องที่เพิ่งไปผจญภัยกันตอนเดินป่าแม่ฮ่องสอน ให้รักปายและพริกหวานฟัง อยู่ดี ๆ ข้าวเกรียบก็วิ่งแจ้นหน้าตื่นบอกว่า เสียงไซเรนสัญญาณกันขโมยรถพวกเขาที่จอดไว้ใต้ต้นไม้หน้าบ้านพัก ดังขึ้นพร้อมไฟฉุกเฉินกะพริบไม่หยุด ทำให้สองหนุ่มต้องขอตัวออกมาด้วยความเสียดาย แล้วรุดไปยังที่เกิดเหตุ
ครั้นก้าวเร็ว ๆ มาถึงที่เขาจอดรถไว้ใต้พฤกษาใหญ่ เสียงไซเรนหวีดวิ้วหนวกหูยังคงดังก้องไม่หยุด ทำให้รองสารวัตรแผ่นดินที่เร่งสาวเท้าพร้อมสังเกตหาความผิดปกติรอบบริเวณ ขมวดคิ้วสงสัย และเปรยว่า
“เอ...สงสัยว่า ลูกคนงานอาจจะแอบมาซนแถว ๆ รถเราซะละมั้งคุณพัด สัญญานกันขโมยพวกเราถึงได้ดังพร้อมกันยังงี้น่ะ”
“อื้อ..นั่นสิครับ แต่รีบปิดสัญญาณก่อนดีกว่า เสียงมันดังมากเลย”
จากนั้นเกษตรอำเภอพัดยศได้ปรี่เข้าไปใช้มือเปิดประตูรถกระบะออฟโรดป้ายแดงสีดำพันธุ์ดุ ชะโงกหน้าเข้าไปปิดสัญญาณเสียงกันขโมย พร้อมกันกับที่รองสารวัตรแผ่นดินเปิดประตูรถเอนกประสงค์สุดหรูอย่าง Isuzu Mu-X สีบรอนซ์ฟ้านอร์วีเจียน กดปิดสวิตช์สัญญาณนั้นเช่นกัน
ไม่กี่วินาทีเสียงสัญญาณไซเรนดังหวีดลั่นหูก็ดับลง ทุกอย่างจึงเข้าสู่สภาวะปกติ คืนความเงียบสงบให้ลานจอดรถ ไม่ช้า...สองหนุ่มข้าราชการที่เพิ่งสนิทกันระยะหลัง ก็ปิดประตู หันมายืนกอดอกพิงประตูรถ คุยกันว่า
“เฮ้อ...เสียงไซเรนกันขโมยนี่ มันดังดีจริง ๆ นะคุณ ถ้าปิดช้ากว่านี้ สงสัยหูจะหนวกเอาง่าย ๆ อือ...แต่ช่างเถอะ ผมว่า เรามาคุยเรื่องพวกเราดีกว่า เนี่ยผมเพิ่งคิดได้ว่า ทำไมเราไม่ชวนน้องรักและพริกหวานไปเดินป่าด้วยกันหลังปีใหม่นี้ล่ะ จะได้สร้างสัมพันธ์กับน้องเขามากขึ้น...คุณว่าไง”
รองสารวัตรแผ่นดิน ชนกนันทินี หันไปโยนกลองถามเพื่อนหนุ่มข้าราชการที่เริ่มเข้าขากันอย่างเกษตรอำเภอพัดยศ ซึ่งเขาก็พยักหน้ารับ และปรับทุกข์เรื่องหัวใจต่อว่า
“อื้ม...ผมเห็นด้วยนะ อือ...ยิ่งพักหลัง ๆ เนี่ย ผมชักจะไม่แน่ใจว่า พริกหวานจะชอบผมมากกว่าพี่ชายรึเปล่า อาจเป็นเพราะว่า เราสองคนเห็นกันมาตั้งแต่เด็ก ไอ้ที่จะให้ผมจีบน้องเขาโต้ง ๆ มันก็กระดากยังไงไม่รู้”
“เฮ้อ...คุณกับผมก็ไม่ต่างกันหรอก เพราะผมก็รู้สึกเหมือนกันว่า น้องรักดูจะห่วง ๆ คุณพระพายยังไงพิกล เอ...หรือผมจะคิดไปเอง หึ ๆ สงสัยเพราะสมัยนี้ผู้หญิงเขาหันมารักมาชอบกันออกเยอะแยะ ผู้ชายอย่างผมเลยอดกลัวไม่ได้ โอ๊ะ! เอ้ย...ทำไมอยู่ ๆ ถึงคันมือขนาดนี้เนี่ย โอ๊ย...คัน!”
รองสารวัตรหนุ่มร้องโอด พลางเกาแกรกแรง ๆ ทั่วฝ่ามือแข็งแรง แล้วดูเหมือนอาการคัน จะยิ่งลุกลามไปทั่วตัวทั่วแขนเขามากขึ้นเรื่อย ๆ
ฝ่ายเกษตรอำเภอพัดยศร้องถามเพื่อนอย่างตกใจว่า
“ห๊ะ! นี่คุณคันมากขนาดนี้เลยเหรอะ อ้าว...เฮ้ย! ผมชักคันคะเยอทั้งตัวเหมือนคุณซะแล้วสิ โอ๊ย...คัน! คันยิบ ๆ ยังกะโดนหมามุ่ยแน่ะ อ๊า!”
ส่วนหนุ่มรองสารวัตรตำรวจที่เกายิก ๆ ไปทั่วตัวนั้น เริ่มมีอาการระคายเคืองปวดแสบปวดร้อนแพร่สะพัดไปทั่วร่างสูงใหญ่ จนต้องร้องว่า
“นั่นสิคุณพัด! ผมว่า เราสองคนโดนดีเข้าแล้วล่ะ โอ๊ะ...โอ๊ย..! แต่...แต่ตอนนี้ผมคันมาก ๆ จนทนไม่ไหวแล้ว โอย ๆ นี่มันลามยิก ๆ ไปถึงตัวน้องชายผมแล๊ว อ๊า...ผมขับรถกลับก่อนนะ โอ๊ะ...ไม่ไหวแล้วจริง ๆ ไปล่ะ!”
ว่าแล้วตำรวจหนุ่มในชุดคาวบอยรีบเปิดประตูรถ นั่งประจำที่ได้ ก็เหยียบคันเร่ง กระชาก Isuzu Mu-X สีบรอนซ์ฟ้าคันงามออกจากตรงนั้น ปล่อยให้เกษตรอำเภอพัดยศ ที่โดนขนพิษของหมามุ่ยแก่จัดเหมือนกันซึ่งกำลังเอาแผ่นหลังถูไถแรง ๆ กับกระบะออฟโรดสีดำข้าง ๆ หันมาร้องตาโต
“เฮ้ย! รอผมด้วยสิ...รอด้วย!”
แค่ไม่ถึงนาที กระบะออฟโรดสีดำป้ายแดงของหนุ่มเกษตรอำเภอได้แล่นออกไปจากที่นั่นอย่างรวดเร็ว โดยไม่เอะใจเลยว่า
ความจริง..คนซนที่แอบเอาขนหมามุ่ยไปป้ายไว้ทั่วรถ รวมทั้งโปรยขนพิษมันลงมาจากต้นไม้ใหญ่ ที่ทั้งสองแอบปีนขึ้นไปดักรอก่อนหน้านั้น เพื่อเพิ่มความคันคะเยอให้พวกเขาด้วยความคึกคะนอง จะมีตำแหน่งเป็นถึงรองผู้จัดการหญิงผู้เคร่งขรึมประจำฟาร์มรักปาย ที่ร่วมมือกันเฉพาะกิจกับสัตวแพทย์สาวขี้เล่น
พอรถของสองหนุ่มที่จอดไว้ใกล้ต้นไม้ แล่นฉิวออกไปจากลานจอด พรพระพายที่กำลังกึ่ม ๆ ในอารมณ์ได้หันมาหัวเราะร่วนกับ สพ.ญ.น้ำขิง อย่างชอบอกชอบใจอย่างกับเด็ก ๆ โดยไม่รู้ว่า
แท้ที่จริง...พวกเขากำลังถูกฤทธิ์จากแอลกอฮอล์ที่มีปริมาณมากพอสมควร กดระบบประสาทส่วนกลางไว้ เลยทำให้กล้าทำอะไรแผลง ๆ มากขึ้น รวมทั้งเรื่องหัวใจรักที่ถูกเก็บซ่อนไว้ในจิตใต้สำนึก
ณ เรือนพักสีขาวน่ารักกะทัดรัดสำหรับสพ.ญ.น้ำขิง
ทันทีที่หญิงเซอร์ร่างโปร่งผู้พักพิงโซซัดโซเซย่างเท้าเข้าประตูบ้านเลยห้องนั่งเล่น มุ่งไปยังห้องนอน เจ้าตัวก็หันมาอวดด้วยใบหน้าแดงก่ำจากฤทธิ์วอดก้า กับหญิงร่างเล็กหน้ามุ่ยที่พยายามจะช่วยประคองตลอดทางว่า
“เห็นม๊าว่าฉานเดินมาถึงบ้านเองได้ บอกแล้วงายว่า ม่ายด้ายเมาม่ายด้ายเมาซักหน่อย กำลังเต้นหนุก ๆ อยู่เลย โย่ ๆ โย่ ๆ อ๊ะ...!”
ร่างสูงโปร่งสะโอดสะองของคุณหมอน้ำขิงซวนเซเพราะดันหมุนตัวเร็ว ๆ คู่กัดอย่างพริกหวานจึงต้องรีบประคอง เลยกลายเป็นว่าเธอถูกเขากอดรัดไว้แน่นซะเอง หญิงผมหน้าม้าที่เขินเป็นทุนเดิมเลยร้องเอะอะว่า
“โอ๊ย...เลิกกอดพริกได้แล๊ว นอนไปเลยป่ะ คนขี้เมา...ปล่อยน้า”
“ปล่อยม่ายด้าย...ม่ายด้าย ไม่งั้นเดี๋ยวฉาน...หัวหมุนติ้ว ๆ อีก”
ไม่พูดเสียงอ้อแอ้อย่างเดียว แต่สัตวแพทย์หญิงยังซบปลายคางมนลงบนบ่าหอมอ่อน ๆ ของพริกหวาน แถมยังพูดจาออดอ้อนได้น่าหมั่นไส้ว่า
“ยัยพริกแสบ...ฉานรู้สึกว่า หัวหมุนติ้ว ๆ ยังไงไม่รู้ ขอกอดแป๊บสิ ให้มันหายมึนหัวก่อน อา...กลิ่นเธอนี่...ทำให้รู้สึกดีจัง หึ ๆ กลิ่นกวางสาว”
พอฟังมาถึงท่อนสุดท้าย นารีร่างเล็กบางที่ถูกกอดรัดซะแนบแน่น อดค่อนหน้าหงิกงอไม่ได้ว่า “ชิ..หมอสัตว์บ้า! ไปกอดกวางจริง ๆ เลยไป๊”
สิ้นคำ พริกหวานก็ผลักร่างหมอสาวลงไปนอนแผ่หลาบนที่นอน ยืนดูหญิงเซอร์ขี้เมาผงกหัวขึ้นมาโวยวายว่า “โอ๊ย...ผู้หญิงอาไร...จายร้ายชะมัด กะอีแค่กอดนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ต้องหวงตัวด้วย จายร้าย...จายร้าย”
ไม่ต่อว่าเปล่า สัตวแพทย์สาวหน้าแดงก่ำเพราะฤทธิ์เหล้ายังชี้นิ้วมาทางสาวคนผลัก พลอยทำให้แววตาดุ ๆ ในทีแรกของพริกหวานสลดลง น้ำตาแห่งความปวดร้าวใจรื้นรอบดวงตาอย่างกลั้นไม่อยู่ ก่อนตัดพ้อน้อยใจด้วยเสียงเศร้า ๆ ว่า “พริกเนี่ยนะใจร้าย พี่หมอต่างหากล่ะที่ใจร้าย ใจร้ายที่สุดเลย พูดอย่างนั้นต่อหน้าพริกได้ยังไงกัน พริกก็เจ็บเป็นนะ...คนบ้า”
และแล้วความคิดคำนึงของพริกหวานได้ย้อนกลับไปยังเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น เมื่ออยู่ดี ๆ พี่หมอน้ำขิงกับคุณพระพายที่หายไปไหนกันไม่รู้ โผล่เข้ามาลากเธอกับคุณหนูรัก ออกไปเต้นรำกันตรงหน้าเวทีที่วงดนตรีกำลังบรรเลงเพลงคันทรีย้อนยุคจังหวะคึกคักสนุก ๆ โดยสลับคู่กันไปมา
กระทั่งวงคันทรีโฟล์กซองเล่นเพลงตามคำขอซึ่งเป็นเพลงอมตะสุดคลาสสิกของวง The Eagles ในเพลง Hotel California เธอก็ได้กลับมาเต้นคู่กับพี่หมอน้ำขิงที่ตาเริ่มแดงเยิ้ม หน้าแดงเรื่อ แถมพูดอู้อี้แปลก ๆ ว่า
‘คู่กันอีกล่ะ หึ ๆ เฮ้อ...ทำไมน้า...ฉานถึงหนีเธอไม่พ้นสักทีเฮอะ...นี่มันเป็นเพลงโปรดของฉานเชียวน้า น่าจะได้เต้นกับสาว ๆ พูดจาหวาน ๆกับเขาบ้าง แต่เธอนี่มัน...สมกับเป็นยัยตัวแสบเจง ๆ แสบตลอดเลย...แสบ’
คำค่อนแคะของคุณหมอช่างสวนทางกันเหลือเกิน เมื่อเขาเลือกที่จะซบหน้าแดง ๆ ลงบนบ่า พร้อมใช้สองแขนยาว ๆ โอบรอบเอวเธอไว้มั่น
นั่นยังไม่ทำให้เธอหัวใจเต้นแรง ผิวแก้มร้อนฉ่า ใบหน้าแดงจัดลามไปถึงใบหู เท่ากับการที่ปลายจมูกโด่งสวยเป็นสันของพี่หมอน้ำขิงเริ่มซุกไซ้พร้อมระบายลมหายใจร้อน ๆ ที่มีกลิ่นแอลกอฮอล์อ่อน ๆ เจือออกมาตรงลำคอเธอ หญิงสาวบริสุทธิ์เช่นเธอถึงกับขนลุกซู่ สยิวซ่านพล่านทั้งอณูเนื้อถึงเช่นนั้นเธอจำต้องรวบรวมพลัง แก้อาการขัดเขินที่มีอยู่เต็มใจด้วยการห้ามเสียงสั่น ๆ ว่า ‘พี่...พี่หมอเมาแล้ว ไม่ต้องเต้นมันล่ะ กลับบ้านเถอะ’
แต่เมรีสาวนัยน์ตาฉ่ำกลับเงยหน้าขึ้นจากบ่าเธอ โต้เสียงอ้อแอ้ว่า
‘ม่ายเอายังไม่เที่ยงคืนเลย ฉานจะรอเคาท์ดาวน์…กับสาว ๆ’
ได้ฟังเช่นนั้น พริกหวานชักจะหน้างอ แขวะต่อว่า
‘เมาเละซะขนาดนี้ ไม่ต้องเคาท์ดงเคาท์ดาวน์แล๊ว กลับเดี๋ยวนี้เลย เฮอะ! ไม่รู้เหรอะไงว่าตัวเองคออ่อนจะตายไป ดื่มไม่กี่แก้วก็เมาปลิ้นซะ’
ธิดาออร์แกนิกว่าพลางผลักร่างที่ซุกซบบนบ่าตนออก แล้วเปลี่ยนมาฉุดแขนสัตวแพทย์สาวแทน แต่กระนั้นคนเมายังยื้อแขนไว้ ทั้งโวยว่า
‘ม่ายเอา ๆ ยังไม่กลับ...ยังไม่ได้เต้นกับน้องรักคนสวยอีกรอบเลย น้องรัก...น้องรัก...อยู่ไหนหว่า...น้องรัก อ๊ะ…เฮ้ย!’
เมรีสาวร่างสูงหลุดร้องทันทีที่กวาดตาไปเจอะสาวสวยที่เรียกขานกำลังตกอยู่ในอ้อมกอดรองผู้จัดการหญิงสุดสมาร์ต ซึ่งโน้มใบหน้าแดงก่ำดั่งลูกตำลึงเข้าไปใกล้รักปาย จนริมฝีปากอ่อนนิ่มแทบจะชิดติดกันอยู่แล้ว
จิตใต้สำนึกแห่งความห่วงใย ทำให้สพ.ญ.น้ำขิงรีบถลาเข้าไปคว้าไหล่พรพระพายที่กำลังมึนได้ที่ และต่อว่าว่า ‘นี่รองผู้จัดการ! รู้สึกว่าหน้าจะใกล้กันมากไปป่ะ ปากจะจ๊วบ ๆ กันอยู่ล่ะ และน้องรักเขาเป็นเจ้าของฟาร์มนะ ทำงี้ไม่เหมาะ ๆ อีกอย่างฉานหวงเข้าใจม่ะ ม่ะ...มาเปลี่ยนคู่กัน’
ว่าแล้วหมอน้ำขิงก็ดึงแขนรักปายให้ออกจากวงแขนคุณพระพาย นั่นถึงกับทำให้องครักษ์พิทักษ์คุณหนูอย่างพริกหวานร้องเฮ้ย! ต้องรีบแก้ไขสถานการณ์ ก่อนพวกลูกจ้างจะหันมามองอย่างสนใจ และกว่าจะยื้อยุดฉุดกระชากคนเมาที่ไม่ยอมรับว่าตัวเองเมา ให้เดินถึงบ้านได้ ก็เหนื่อยทั้งปาก ล้าทั้งใจ เพราะต้องทนฟังพี่หมอพร่ำเสียงอ้อแอ้มาตลอดทางว่า
‘รู้มั่งป่ะ...ยัยตัวแสบ ว่ารองผู้จัดการน่ะเขาเป็นหมาป่าแปลงกายไม่น่าไว้ใจ จ้องแต่จะเขมือบสาว ๆ สวย ๆ อย่างน้องรัก ฉานน่ะ...เป็นห่วงน้องรักม๊ากมาก กลัวว่าน้องรักจะไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมหมาจิ้งจอกตัวนี้เจง ๆ และถ้าวันไหนน้า...ที่น้องรักต้องร้องไห้เสียใจเพราะคุณรองผู้จัดการล่ะก็...ฉานเนี่ยแหละ จะตามไปแพ่นกะบาลแยกเลย ให้รู้ซะมั่งว่านี่คนของคระ...’
พูดไม่ทันจบประโยคดี คุณหมอสาวผมยาวก็ทำท่าโอ้กอ้ากเหมือนจะอาเจียนอยู่กลางทาง เดือดร้อนเธอต้องช่วยลูบหลังลูบไหล่ให้ และยังต้องคอยดูแลให้หญิงขี้เมาอวดเก่ง ที่เดินเป๋ไปเป๋มากลับบ้านให้ตรงทาง แถมตอนนี้เขายังนอนแอ้งแม้งหมดสภาพอยู่บนเตียง คงไม่พ้นเธออีกนั่นล่ะ ที่ต้องหาผ้าเย็นมาเช็ดตัวให้เขา เพราะกว่าจะเข้าบ้านได้ พี่หมอดันอาเจียนเป็นน้ำซะหมดท้อง ให้มันได้ยังงี้สิพริกหวาน ผู้ชายดี ๆอย่างพี่พัดยศก็ไม่รัก ดันมาหลงรักผู้หญิงใจร้ายได้เป็นสิบ ๆ ปี ทั้งที่เธอก็รู้ดีว่า ต่อให้ทำยังไง ๆ เขาก็ไม่รัก เฮอะ! สุดท้ายแล้วเป็นไง...มันก็ต้องเจ็บยังงี้ล่ะวะ เฮ้อ...ให้ตายสิ
(เลิฟซีนเล็กๆ ค่ะ หาอ่านได้จากในหนังสือนิยาย "เล่ห์พระพาย" นะคะ) -----------------------------------------------
“โอ๊ะ! ระวังค่ะ มาทางนี้ค่ะ ทางนี้” รักปายร้องพลางโอบประคองสาวปากแดงนัยน์ตาฉ่ำหวาน ที่เกือบชนประตูให้เข้ามานอนบนเตียงในห้อง
จากนั้นหญิงงามพิศจิตใจอ่อนโยนก็จัดแจงหาผ้าผืนเล็ก ๆ ชุบน้ำเช็ดตามใบหน้าแดงเรื่อ ซอกคอ และลำแขนขาวผ่องให้รองผู้จัดการหญิงเป็นที่เรียบร้อย รักปายก็ได้มีเวลาพิศดวงหน้าสวยเก๋ของสาวไทย-เดนมาร์กที่กลายเป็นสีระเรื่อน่ามอง แม้นตากลมโตสีน้ำตาลเข้มของเขาที่แฝงเสน่ห์ลึกลับจะปิดสนิท แต่น่าแปลกที่เธอยังสามารถจดจำได้ดีทุกรายละเอียด
ยิ่งรักปายไล้สายตาแห่งความรักใคร่ชื่นชมลงมาตามเรียวหน้าเก๋ไก๋ของสตรีที่แอบคะนึงถึงทุกเช้าค่ำ แววตาเธอช่างทอประกายหวานซึ้งละมุนดุจดั่งแสงจันทร์วันเพ็ญ ไม่เหมือนเวลาปกติที่ทำได้แค่แอบพิศเขายามเผลอ
ดูสิผู้หญิงคนนี้...ใบหน้าเรียวได้รูปสวยสมาร์ตเตะตาตั้งแต่แรกเห็นยิ่งไล่มองมาตรงสันจมูกหนาตรงโด่งเป็นสันสวยของเขา ช่างงามราวกับถูกปั้นแต่งนัก ริมฝีปากที่ช่างเจรจาเรื่องการงาน ยังแดงเรื่อสวยตรงเสมอกัน ไม่สูงต่ำหรือเชิดรั้นแสดงถึงความเป็นคนมีปัญญาดีเฉลียวฉลาด พูดเพราะเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วไป มักทำอะไรด้วยสมอง คิดอ่านดี ส่วนพวงแก้มออกสีเลือดฝาดนั้น รับกันกับคางสวยกลมกลึงโดดเด่นสะดุดตา แสดงว่าเป็นคนมีอำนาจบารมี พูดอะไรใครก็ฟัง แถมเป็นคนที่มักมีคำแนะนำเจ๋ง ๆ ทั้งผิวพรรณขาวเนียนสะอาดสะอ้าน มีกลิ่นกายพิเศษหอมสดชื่นเฉพาะตัว
ยากนักที่จะมีคนโหงวเฮ้งดีทั้งใบหน้าอย่างคุณพระพาย เฮ้อ...ดูเขาจะสวยสมาร์ตเพอร์เฟกต์เหลือเกินสำหรับเธอ หากบอกว่าเป็นโสด คงไม่มีใครเชื่อ แต่ว่า...หลายเดือนมานี้ เขาก็ไม่เคยเอ่ยชื่อผู้หญิงคนไหนให้เธอฟังเป็นพิเศษนี่นา หรือเขาจะโสดจริง ๆ อือ...ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีสินะ เธอจะได้รักเขาได้เต็มหัวใจ ไม่ต้องถูกผู้หญิงที่ไหนมาตราหน้าว่าเธอเป็นมือที่สาม หรือแย่งของใคร เพราะความรักที่ได้มาจากการแย่งชิง มักจบลงด้วยความเศร้าเสมอ ซึ่งเธอไม่ต้องการให้มันเป็นแบบนั้น เธออยากมีความรักที่มั่นคงชั่วนิจนิรันดร์เฉกเช่นเดียวกับคุณพ่อกับคุณแม่ที่มีให้กัน คุณพระพายคะ...ตอนนี้รักมั่นใจแล้วล่ะค่ะว่า ความรู้สึกของรักที่เกิดขึ้นกับคุณนั้น มันคือสิ่งอัศจรรย์อันแสนสวยงามของหัวใจที่เรียกว่า ‘รัก’ รักรักคุณนะคะ
แม้นรักปายปรารถนาจะเอื้อนเอ่ยคำพิเศษของหัวใจมากเพียงใด แต่เธอจำต้องเก็บงำความรักลึกซึ้งนี้ไว้ รอวันเวลาบ่มเพาะให้สุกงอมเต็มที่ และเมื่อถึงวันนั้น...เธอคงมีความกล้ามากพอที่จะสารภาพความในใจกับเขา ยิ่งมีรักสิเน่หากับเพศเดียวกัน เธอยิ่งรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นกลัวเหลือเกิน
หัวใจเราสองคน...จะตรงกันหรือเปล่าคะคุณพระพาย?!
(เลิฟซีนเล็กๆ ค่ะ หาอ่านได้ต่อจากในหนังสือนิยาย "เล่ห์พระพาย" นะคะ) -------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็น