ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์พระพาย โดย yนวิยา (yuri)

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 4 ธาตุแท้!

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.ย. 57


    บทที่ 4 ธาตุแท้!

     “แฮก ๆ” เสียงหอบหายใจลอดจากปากชมพูสวยของพรพระพาย เพราะนาทีแห่งความตื่นเต้น อะดรีนาลีนที่ซ่อนในกายฉีดพล่านไปทั่วร่าง

    “.....!!!”ส่วนผู้โดยสารสาวที่นั่งข้างกันถึงกับอึ้งตะลึงเหมือนถูกสาป

    สาวห้าวลูกครึ่งที่คุมสติได้ก่อน รีบผลุนผลันลงจากกระบะออฟโรด วิ่งไปดูหน้ารถ ท่ามกลางเสียงเซ็งแซ่ของไทยมุง แต่พบเพียงความว่างเปล่า

    ครั้นพรพระพายคุกเข่าก้มหัวมองดูใต้ท้องกระบะ ก็นึกโมโหระคนขบขันกับภาพตรงหน้าซะเหลือเกิน เพราะเจ้าหมาสีน้ำตาลตัวจ้อยที่รอดชีวิตใต้ท้องรถ ดันไม่รู้สึกรู้สาสักนิดเลยว่า มันเกือบถูกรถชนตายกลางถนน แถมยังอยู่ในท่านอนหมอบ หง่ำ ๆ ขนมปังที่หามาได้อย่างเอร็ดอร่อย ชิชะ! ไอ้หมาตะกละ เอาไปต้มเปื่อยใส่พริกไทยแบบโปแลนด์ซะเลยดีม่ะ ( - -*)

    ขณะพรพระพายกำลังเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันหมาน้อยพันทางอยู่ดี ๆ เสียงหัวเราะคิกคักอย่างเอ็นดูของคุณหนูรักปายที่ตามลงมา ดังใกล้หูว่า

    “คิก ๆ เจ้านี่ตะกละชะมัดเลย แต่อยู่ตรงนั้น...มันอันตรายน้ารู้ไหม ม่ะ...เจ้าหมาน้อย ออกมานี่เถอะ มาสิ...ม่ะ...มาสิจ๊ะเจ้าหมาน้อย...”

    เสียงหวานใสของคนรักสัตว์ยังคงเรียกมันอยู่อย่างนั้น แต่ดูเหมือนเจ้าตัวน้อยร่างผอมโซจะสนใจแต่การเขมือบอาหารประทังชีวิตเท่านั้น

    พรพระพายเห็นอย่างนั้น ก็อดขำและแซวคุณหนูเสียงใสไม่ได้ว่า

    “พี่ว่า ขืนคุณรักเรียกมันซะเสียงหวานยังงั้น มันคงหลับคาที่แน่”

    “อ้าว...แล้วเราจะทำยังไงกันดีละคะคุณพระพาย ท่าทางมันคงจะไม่ยอมออกมาง่าย ๆ อุ๊ย! ดูมันสิคะ พอกินอิ่มก็ตั้งท่าจะนอนแล้วนะนั่น” 

    สาวสมาร์ตผมซอยสไลด์เคลียต้นคอยืนนิ่งคิดเพียงครู่ รอยคลี่ยิ้มปรากฏตรงมุมปาก ก่อนจะพูดว่า “แป๊บนะคะ เดี๋ยวพี่จัดการเอง”

    จากนั้นพรพระพายที่ใส่เสื้อเชิ้ตผู้หญิงแขนสั้นสียีน ได้วิ่งเหยาะ ๆ  ไปหาแม่ค้าขายขนมปัง ชี้โบ้ชี้เบ้มาทางรถ และขอให้แม่ค้าทาหน้าขนมปังเหมือนกับแผ่นที่เจ้าหมาตัวน้อยคาบไปกิน เพื่อล่อมันออกมา

    เห็นท่าทางอย่างนั้นของคุณพระพาย รักปายถึงกับยิ้มพรายพอใจ ว่าเขาช่างคิดแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วจัง เมื่อกี้เธอยังคิดเลยว่า ไม่เธอก็เขา...คงต้องมีใครสักคนเสียสละลอดไปใต้ท้องรถ อุ้มเจ้าหมาน้อยออกมาแน่ ๆ

    ทว่าพอแม่ค้ายื่นถุงขนมปังทาสังขยาให้ หญิงเจ้าปัญญาได้ล้วงหาสตางค์จากทั้งกระเป๋าเสื้อ และกระเป๋ากางเกงตัวเอง แต่ดันไม่มีเงินสักเก๊!

    ครั้นสาวสวยเท่พรพระพายหันมาประสานตาสุกสกาววาวระยับของคุณหนูรักปาย วินาทีนั้นเอง...ทั้งสองสาวถึงกับขำคิกพร้อมกันทันที

    นั่นเพราะวันก่อน...คุณหนูรักปายเล่นยึดทั้งกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มือถือเธอไปน่ะสิ หึ ๆ นี่ไงล่ะ...โลกแห่งความเป็นจริง ยังไง ๆ เงินก็ยังจำเป็นวันยังค่ำ จริงไหมจ๊ะน้องสาว ม่ะ..มาจ่ายค่าขนมปังซะดี ๆ ^ ^

    ทว่าสิ่งที่พรพระพายไม่คิดว่าจะได้เป็นของแถม คือเจ้าหมาตัวเมียสีน้ำตาลพันทางจรจัดตัวนี้ มันตื้อครองโลกซะจนคุณหนูรักปายใจอ่อนพากลับฟาร์มด้วย ซึ่งมันก็ช่างประจบใช้หัวถูไถขอขนมปังสังขยาทั้งวัน เลยเป็นที่มาของชื่อ เจ้าสังขยา และเห็นว่าจะให้มันเป็นเจ้าสาวเจ้าปังปิ้ง สุนัขแสนรู้ที่เก็บได้ปีกลาย อืม...คุณหนูรักนี่ก็ช่างคิดซะจริง ตั้งชื่อสัตว์แต่ละตัวน่ารักทั้งนั้น มีทั้งเจ้านมสด เจ้าดอกรัก เจ้าลูกกวาด ไม่รู้พาลไปตั้งชื่อจิ้งจกด้วยรึเปล่า หึ ๆ แต่ก็น่ารักดีนะ ชักอยากได้เป็นน้องสาวซะแล้วสิ ^ - ^

    ถ้ารักปายสามารถล่วงรู้ความคิดของนักบัญชีคนใหม่ของฟาร์ม สาวสวยสะพรั่งวัย 20 ต้น ๆ คงอยากประท้วงว่า ไม่อยากเป็นซักหน่อย!

    แต่ถ้าวันใดที่งานของพรพระพายสำเร็จลุล่วง ความชื่นชมรักใคร่ที่ซ่อนเร้นในใจรักปาย อาจกลายเป็นความเคียดแค้นชิงชังมากเกินพรรณนา เพราะความรู้สึกของมนุษย์นั้น..ยากแท้หยั่งถึงยิ่งกว่ามหาสมุทรในโลกหล้า!

    และเมื่อถึงเวลานั้นจริง ๆ กัลยาณีจิตใจงามพร้อมบริสุทธิ์อย่างคุณหนูรักปาย จะสามารถให้อภัยหลานสาวแท้ ๆ ของตระกูลเพชรนาคาที่ดิ้นรนทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์...ได้กระนั้นหรือ?!  

       

    1 สัปดาห์ต่อมา...หลังปกป้องออกจากโรงพยาบาลปายมาพักฟื้นต่อที่บ้านพักในฟาร์ม นี่จึงเป็นวันแรกที่หัวหน้าแผนกบัญชีและการเงินอย่างเขา ได้ก้าวเข้ามาในห้องทำงานส่วนตัวห้องเล็ก ๆ ที่คุ้นเคยนับสิบปี

    เอกสารหลายสิบซองอยู่ในตะกร้าบนโต๊ะทำงานเหมือนเช่นเคย เพียงปกป้องหยิบซองแรกขึ้นดู รอยยิ้มนิดๆ ปรากฏบนมุมปากเกย์รุ่นใหญ่ซึ่งเริ่มคลายกังวลกับเหตุที่เพิ่งผ่านพ้น ทว่าเขาต้องนิ่วหน้าด้วยความฉงน ในตอนแกะซองเอกสารสีน้ำตาลซองต่อมา แล้วพบแผ่นซีดีสีขาวสอดไว้ด้านใน โดยมีข้อความพิมพ์บนสติ๊กเกอร์กระดาษติดบนแผ่นซีดีรอมว่า

    ธาตุแท้!’

    อ่านเสร็จ บุรุษใหญ่ใจนิยมชายรำพึงแบบงง ๆ ว่า

    “เอ...เรื่องนี้...เราไม่ได้สั่งนี่นา”

    เพื่อความกระจ่างแจ้ง ปกป้องเลยจัดการเสียบซีดีเข้าไปในโน้ตบุ๊ก ทว่าพอเห็นภาพในซีดีเท่านั้น ตาฉงนของเกย์รุ่นเดอะก็เบิกกว้างอย่างตะลึง

    คลิปนั้นคือ ภาพนายแบบตกกระป๋องรูปร่างกำยำล่ำสันวัย 25 ที่ตัวเขาหวังฝากชีวิตและหัวใจในบั้นปลาย เดินเข้ามานั่งตรงโซฟาห้องหนึ่ง

    ผ่านไปไม่กี่นาที หนุ่มหน้าตาดีที่คุณปกป้องพะเน้าพะนอคลอเคลียเมื่อคืนก่อน สบถออกมาอย่างหัวเสียว่า แม่ง...ไรวะ! ไหนนัดมาคุยกันเรื่องค่าตัวถ่ายแบบไง แต่จนป่านนี้ แม้แต่หมาสักตัวก็ยังไม่โผล่มาสักทีโว้ย!’

    ทันใดนั้น! หนุ่มวัยฉกรรจที่อยู่ในห้องเพียงลำพังถึงกับสะดุ้งโหยงเมื่ออยู่ ๆ มีเสียงหัวเราะหึ ๆ ในลำคอของชายสูงวัยคนหนึ่งสะท้อนก้องไปทั่วห้อง ตามด้วยเสียงเยาะหยันว่า หึ ๆ ฉันก็รอดูธาตุแท้แกอยู่นี่ไง

    คำเสียดแทงใจปักอกจนคำรณวัฒน์ต้องลุกพรวดแผดเสียงโมโหไปรอบห้องว่า ธาตุแท้บ้าอะไรวะ! แล้วแก...หลอกฉันมาที่นี่ทำไม?!’

    ส่วนตาแข็งกร้าวก็ส่ายหาต้นเหตุแห่งเสียง กระนั้นรอบห้องยังคง มีแต่ความว่างเปล่า หนำซ้ำคำพูดบุรุษไร้นามยังทิ่มแทงใจดำเขาอย่างจังว่า

    ก็เงินสด ๆ ห้าแสน ที่แกไปหลอกแดกมาจากหัวหน้าแผนกบัญชีของฟาร์มรักปายที่ชื่อปกป้องไง...จำไม่ได้เหรอะ! ฮ่า ๆ...

    มะ...มึง! มึงพูดบ้าอะไรเนี่ย กูไม่รู้เรื่องไม่รู้เรื่องโว้ย!’

    คำรณวัฒน์แหงนหน้าขลาด ๆ พยายามปฏิเสธ พลางสอดส่ายตามองหาคนพูด กระนั้นเสียงหัวเราะบาดหู และคำพูดถัดมา ยิ่งหยามหยันว่า

    ไม่รู้เรื่องงั้นเหรอะ หึ ๆ ฮ่า ๆ นี่ถ้าไม่มีหลักฐานล่ะก็...คนอย่างฉันคงไม่เสียเวลาฟังแกพล่ามอยู่อย่างนี้หรอกโว้ย...ไอ้คำรณวัฒน์

    หละ...หลักฐานบ้าบออะไรของแก?!’ คำรณวัฒน์เริ่มละล่ำละลัก

    อย่างไรก็ดี เสียงยียวนเยียบเย็นของบุคคลปริศนาที่สะท้อนก้องในห้องเล็ก ๆ ถึงกับทำให้นายแบบไร้ชื่อเสียงเกิดอาการขนหัวฟู ตาลุกโต

    เมื่อความลับที่เก็บงำ ถูกตีแผ่ออกมาเป็นฉาก ๆ ว่า

    ก็หลักฐานจากกล้องวงจรปิดแถว ๆ โรงเรียนปายวิทยาคารที่เพิ่งติดตั้งเสร็จ ก่อนที่แกจะริทำชั่วน่ะสิ และไอ้กล้องไฮเทคนี่มันก็เจ๋งจริง ๆ ว่ะ เพราะมันสามารถจับภาพหน้าแกโคตรชัดตั้งแต่แกจอดมอไซค์ แล้วยืนอัดบุหรี่สอดไส้เฮโรอีนปุ๊ย ๆ เพื่อรอขี่รถนำคุณปกป้องไปยังจุดที่จะจัดฉาก ด้วยการโรยตะปูเรือใบเฉพาะแถว ๆ ล้อกระบะไง เพราะถ้าโปรยทั่วถนน  ก็อาจมีพลเมืองดีโทร.แจ้งตำรวจให้เข้ามาตรวจไง ต่อมาพอแกบังคับล้อรถให้เหยียบตรงตะปูเรือใบตามแผน คุณปกป้องที่หลงใหลได้ปลื้มและเชื่อใจในคำพูดของแมงดาปากหวานอย่างแก ก็เล่นตามบทด้วยการขับตะลุยเข้าไปในป่า โดยมีแกขี่มอไซค์ไล่ยิงหลังกระบะให้ดูสมจริง หนำซ้ำคุณปกป้องเขายังยอมให้แกเตะต่อยเหมือนกระสอบทราย เพื่อสร้างหลักฐานว่าเขาถูกทำร้ายชิงทรัพย์ โดยเงินสด 5 แสนที่แกวางแผนหลอกมาจากเขาน่ะ ฉันรู้มาว่า แกเอาไปใช้หนี้พนันแค่ 3 แสน ที่เหลือ...แกก็เอาไปลงทุนในบ่อนต่ออย่างสบายใจเฉิบ หึ ๆ แถมแกยังทำใจป้ำ ให้ทิปแบงก์พันกับพวกอีหนูผิวขาวจั๊วะหุ่นน่าฟัดที่กินไอติมเก่งด้วยนี่หว่า หึ ๆ จริงไหมวะ...ไอ้คำรณวัฒน์

    นายแบบตกกระป๋องที่เป็นผู้คิดแผน ถึงกับหน้าแดงหน้าดำตวาดกร้าวไปทั่วห้องอย่างหมาจนตรอกว่า

    มึงรู้ได้ไงวะ! รึไอ้แก่ป้องมันเกิดกลัวหัวหด เลยคิดจะเอาตัวรอด รีบแจ้นไปเล่าให้ตำรวจอย่างมึงฟัง มึงเลยจะเค้นหลักฐานจากปากกูอีกที

    หึ ๆ แล้วแต่แกจะคิด แต่จะบอกให้เอาบุญก็ได้ว่า ฉันไม่ได้เป็นตำรวจ ซึ่งไม่สำคัญหรอกว่า ฉันเป็นใคร เพราะเรื่องที่สำคัญมากกว่านั้นคือถ้าแกยอมรับสารภาพ...ฉันจะให้เงินแกไปต่อทุนอีก 1 แสนฟรี ๆ

    เป็นข้อเสนอที่คนหิวเงินอย่างมัน อยากจะกระโจนใส่ แต่...

    ไม่...กูไม่เชื่อ! มึงหลอกกู อยู่ ๆ มึงจะให้เงินกูฟรี ๆ ทำไม?! กูไม่อยู่แล้ว ปล่อยกูไปเดี๋ยวนี้...ปล่อยกู! ปล่อยกูสิโว้ย ขังกูทำไมวะ...ปล่อยกู!!!

    คำรณวัฒน์แผดเสียงลั่นอย่างคลุ้มคลั่ง ทั้งถีบประตูโครมครามเสียงดังปึงปัง! พยายามดิ้นรนออกไปแต่ไม่สำเร็จ นั่นเป็นเพราะด้านนอก มีฝาครอบลูกบิดกันขโมยครอบไว้อีกชั้น โดยมีเสียงน่าเกรงขามกังวานนี้ว่า

    ไม่เชื่อเหรอ ฮ่า ๆ ว่าแต่แกมีทางเลือกด้วยเหรอะไอ้ผีพนันขี้ยา!’

    ด่าไม่ทันขาดคำ นายแบบหนุ่มที่ผันตัวจากผู้เสพมาเป็นผู้ค้าซะเอง ก็มีอาการใจสั่นรัวเต้นแรงผิดปกติ มือไม้เย็นขึ้นเรื่อย ๆ

    ไม่ช้า...อาการเสี้ยนยาที่เริ่มหนักข้อขึ้นทุกวัน ได้แพร่ความรวดร้าวทรมานซอกซอนไปทั่วทั้งอณูกระดูก จนเขาต้องใช้ลำแขนล่ำที่เต็มไปด้วยรอยเข็มฉีดยา กอดรัดกายตนไว้มั่น

    ก่อนคำรณวัฒน์จะแหกปากตะคอกเสียงสั่นด้วยความงุ่นง่านว่า

    หยุดพล่ามสักทีสิโว้ย...ขอยากูก่อน! กูจะเสี้ยนตายอยู่แล้ว

    หึ! ถ้าอยากได้ทั้งเงินและยา มึงก็สารภาพกับกูสิวะ ว่าสิ่งที่กูพูดมาทั้งหมด...เป็นความจริง และมึง! ก็ไม่ได้รักหัวหน้าแผนกนั่นอย่างปากว่า ที่มึงทำทุกอย่าง ก็เพราะแมงดาอย่างมึงต้องการหาเหยื่อคนใหม่ ที่จะมาบำรุงบำเรอมึงให้อิ่มหนำสำราญ พอเหยื่อแก่รายนี้ติดเบ็ด มึงก็จะเริ่มเล่นบทลูกกตัญญูที่ต้องหาเงินก้อนโต เอาไปให้พ่อผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ แสร้งออกอุบายให้เขาริอ่านทำชั่ว จากนั้นแมงดาชั่ว ๆ อย่างมึงก็จะเบลคเมเขาทีหลังเพื่อเรียกเงินก้อนโตงวดสุดท้าย ก่อนที่มึงจะตีจาก...เพื่อไปหาเกย์ขี้เหงารายใหม่ ที่อยากได้ใครสักคนมาดูแลตอนแก่ไง...จริงไหมไอ้แมงดาจัญไร!’

    ความลับถูกประจานออกมาหมดเปลือก ซ้ำร่างกายเขายังกระเส่ากระสันอยากแต่ยานรกนั่น ดังนั้นคำรณวัฒน์จึงจำใจกระแทกเสียงรับว่า

    เออ! กูยอมสารภาพก็ได้ว่า มึงพูดถูกทุกอย่าง...พอใจยัง! กูหลอกไอ้เกย์เฒ่าตัณหาจัด มาไม่รู้ตั้งกี่คนต่อกี่คนแล้ว และตอนนี้มึงจะให้กูได้รึยังกูเสี้ยนจะตายอยู่แล้ว ขอ...ขอยาให้กูก่อน ยา...ยา...ไอ้ห่าเร็วสิโว้ย...ยา!!!

    แค่เห็นอาการกระสันอยากจนแทบวายปราณของไอ้แมงดานรก  ที่ชีวิตคิดได้แต่เรื่องชั่วช้าสามานย์ อดีตตำรวจมือปราบที่ผันตัวเองมาเป็นนักสืบอาชีพมาหลายปี ถึงกับระเบิดเสียงหัวเราะแบบสาแก่ใจว่า

    ฮ่า ๆ เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็นเนี่ยล่ะวะ...แมงดาติดยา แม่ง...ทุเรศตาฉิบหาย เอ้า...เอาไป...เงินแสนนึงที่กูจะให้

    สิ้นคำชายปริศนา แบงก์พันต่างปลิวว่อนลงมาจากฝ้าทีบาร์ที่เลื่อนออกได้เองจากด้านบน กระจายเกลื่อนเต็มพื้นห้องไปหมด

    ทว่าหนุ่มเสี้ยนยาขอบตาคล้ำที่ตะบปธนบัตรขึ้นดู กลับเบิกตาโตตะลึงงัน ลุกขึ้นตะคอกเสียงดังด้วยความโมโหกราดเกรี้ยวว่า ไอ้เชี้ย…!!!   นี่เงินห่าเหวอะไรของมึง เอาเงินกูมาเดี๋ยวนี้นะ เอามาสิโว้ย! เอามา!!!

    อ้าว...ก็เงินแสนนึงที่กูสัญญาจะให้ไง หึ ๆ เพียงแต่กูคงลืมบอกมึงไปว่า กูให้มึง...แสนจ๊าต ไม่ใช่แสนบาท! ฮ่า ๆ แต่ถ้าคิดเป็นเงินไทย...ก็ได้ตั้งสามพันสามเชียวนะโว้ย แค่คุยกับกูไม่กี่นาที คุ้มจะตายไป ฮ่า ๆ..

    แม่งโว้ยไอ้สัตว์! แล้วยากูล่ะ เอายามาให้กูเดี๋ยวนี้นะ...ยา...ยา!!!!!

    เหอะๆ ไม่เคยมีใครบอกมึงเหรอะว่ายาเสพติดเป็นสิ่งผิดกฎหมาย  แล้วพลเมืองดีอย่างกู จะพกไว้ให้ตำรวจจับทำซากอะไร! มึงรีบ ๆ เก็บเงิน แล้วไสหัวไปซะ ก่อนที่แมงดาอัปรีย์อย่างมึงจะเสี้ยนยาตายคาห้อง...ไป๊!

    ไอ้สัตว์เอ้ย! อย่าให้กูรู้นะว่ามึงเป็นใคร ไม่งั้นกูเอามึงตาย!’

    ริมฝีปากซีดขาวของคำรณวัฒน์ตะคอกคำอาฆาตเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนเขาจะลุกลี้ลุกลนก้มเก็บเงินจ๊าตพม่าใส่บนเสื้อยืดที่กางออก แต่ครั้งนี้เขากลับถลันออกจากห้องไปอย่างง่ายดาย และภาพในคลิปก็หยุดอยู่แค่นั้น

    วินาทีถัดมา! ข้อความนี้ได้ปรากฏขึ้นแทนที่บนพื้นหลังสีดำในคลิป

    จะลาออกเองดี ๆ หรือจะให้หลักฐานนี้ถึงมือตำรวจ!

    น่าเสียดายที่ความภักดีนับสิบปี กลับย่อยยับเพียงคำ รัก ที่หวานหู

    จาก...อินทรีตาทิพย์

    ทันทีที่ภาพในคลิปวิดีโอดับลงพร้อมข้อความ แววตาสีน้ำตาลของชายมากอายุผู้รับสาสน์ ถึงกับไหวระริกไปมาด้วยความหวาดหวั่นพรั่นกลัวใจสั่นรัวตึกตัก ๆ อุ้งมือหนาชื้นไปด้วยเหงื่อเย็น ๆ ด้วยไม่คิดไม่ฝันว่า

    เพียงริลองทำบาปครั้งแรก...กรรมกลับตามทันแบบติดจรวดเช่นนี้!

     

    “แย่แล้วค่าคุณหนูรักแย่แล้ว!!!

    เสียงตะโกนร้องตื่นตกใจของพริกหวานดังขึ้นทันที ก่อนเจ้าตัวจะเปิดประตูผัวะเข้ามาในห้องทำงานส่วนตัวของเจ้านายสาว ที่เพิ่งจะหย่อนสะโพกงอนงามลงบนเก้าอี้ รักปายถึงกับสะดุ้ง ยกมือทาบอกอย่างตกใจ เลยหันไปเอ็ดเพื่อนสนิท ที่ควบตำแหน่งนักโภชนาการอาหารสัตว์ว่า

    “โอ๊ะ...ตายแล้ว! เอะอะอะไรกันแต่เช้าพริกหวาน ฉันจะหัวใจวายเพราะเสียงนกหวีดของเธอแล้วรู้ไหม เบา ๆ หน่อยสิจ๊ะยัยพริก...เฮ้อ...”

    “โธ่คุณหนู! แต่เรื่องนี้มันเรื่องใหญ่จริง ๆ นะคะ ดูนี่สิคะ!

    พริกหวานว่าพลาง ปรี่เข้าไปยื่นซองใบลาออกที่จ่าหน้าถึงนายสาว

    “หืม...??” รักปายโก่งคิ้วอย่างงง ๆ ในตอนรับซองสีขาวนั้นมา

    ครั้นแกะซอง รักปายพบจดหมายลาออกพร้อมแคชเชียร์เช็คที่ระบุชื่อเธอและขีดคร่อมไว้ นัยน์ตายิ่งเบิ่งโต ใจหล่นวูบ เมื่อไล่อ่านข้อความว่า

    ถึงหนูรักปาย...

    นับแต่เงิน 5 แสนของฟาร์มถูกปล้นไปอาทิตย์ก่อน อาก็กินไม่ได้ นอนไม่หลับ เพราะอารู้ว่า ช่วงนี้หนูรักหมุนเงินแทบไม่ทัน จนต้องควักเนื้อตัวเอง และยิ่งหนูไม่ต่อว่าอา นั่นยิ่งทำให้อาต้องพิจารณาโทษตัวเองอย่างสาสม ด้วยการลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายบัญชีและการเงิน และอาก็ละอายใจเกินกว่าจะกล่าวคำลาต่อหน้าหนูรักได้ เพราะที่แห่งนี้...ไม่ใช่แค่ที่ทำงานแลกเงิน แต่ที่นี่...ยังเปรียบเสมือนครอบครัวที่เต็มไปด้วยความรักความอบอุ่นสำหรับอามาโดยตลอด ทว่า...เป็นอาเองที่ทำให้ทุกอย่างพินาศ

    อาขอโทษนะหนูรัก...ที่ไม่อาจทำตามสัญญาซึ่งเคยให้ไว้กับคุณพ่อของหนูได้ ว่าอาจะอยู่ช่วยกันสร้างปศุสัตว์ของเราให้มั่นคงก้าวหน้า

    และนี่เป็นเพียงเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาสะสมไว้ ซึ่งแน่นอนว่ามันคงไม่มากพอที่จะไถ่บาปให้คนแก่ที่พลาดพลั้งไป แต่ได้โปรดเถิดหนูรักปายได้โปรดรับเงินก้อนนี้ไว้ด้วย เพื่อเห็นแก่อาเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งคนไร้ญาติขาดมิตรอย่างอาป้อง..จะไม่มีวันลืมบุญคุณของฟาร์มแห่งนี้ตราบจนวันตาย

    สุดท้ายนี้...อาขอคุณพระศรีรัตนตรัยทั้งหลาย ช่วยดลบันดาลให้หนูรักปายและฟาร์มแห่งนี้ จงประสพแต่ความสุขความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป อย่าได้มีอันตรายใด ๆ เข้ามาแผ้วพาน และหากมีผู้ใดคิดร้าย ก็ขอให้กลับกลายเป็นสิ่งดี เจริญสุขนะหนูรัก แล้วอาจะคอยเป็นกำลังใจให้หนูตลอดไป

                                          ด้วยรักและหวังดี...จากอาป้อง

    เพียงนัยน์ตาสลดของรักปายละจากจดหมาย กลีบปากชมพูบาง ๆ ของหญิงสาวได้รำพึงออกมาเบา ๆ ด้วยความใจหายว่า “โธ่...อาป้อง...”

    แค่เห็นสีหน้าและได้ฟังคำรำพันของเจ้านายสาว พริกหวานถึงกับอดรนทนไม่ไหว เอ่ยถามในสิ่งที่ตัวเธอคาดคะเนตั้งแต่เห็นจดหมายนั้นว่า

    “ที่อาป้องลาออก...เพราะเงินห้าแสนนั่นใช่ไหมคะ?!

    “....” รักปายมิมีแก่ใจที่จะปริปากอันใด นอกจากพยักหน้ายอมรับ แล้วยื่นจดหมายลาออกฉบับนั้นให้กับสาวผมม้าหน้าเด็กอย่างพริกหวาน  ที่อยากรู้ใจจะขาด รับไปอ่านข้อความซะเอง

    ส่วนในใจรักปายนั้น กลับเต็มไปด้วยตะกอนขุ่นแห่งความหนักใจระคนสลดซึมว่า ทำไม...ใครต่อใครถึงได้ทิ้งเธอไปพร้อม ๆ กันแบบนี้

    และอีกแค่เดือนเดียวก็ต้องปิดงบบัญชี แล้วนี่ใคร...จะช่วยเธอได้?!   

     

    แสงดาวระยับนับล้านพร้อมแสงจันทร์กระจ่างฟ้า สาดแสงนวลตาลงมายังกระท่อมริมธารา ที่มีพรพระพายได้อาศัยนอนหลับพักกายมาหลายราตรี หากทว่าเวลาดึกดื่นค่อนคืนเยี่ยงนี้...สาวนัยน์ตาสีกาแฟผู้เพิ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าแผนกบัญชีและการเงิน ประจำฟาร์มรักปายคนใหม่ ตามแผนการที่วางไว้ ยังคงก้มหน้าก้มตาอ่านแฟ้มบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของธุรกิจปศุสัตว์ นอกจากนี้ยังมีบัญชีแสดงรายได้และรายจ่าย บัญชีแสดงการหมุนเวียนเงินสดของฟาร์ม แล้วยังมีบันทึกอื่น ๆ เกี่ยวกับการทำธุรกิจปศุสัตว์ที่วางตั้งนับสิบแฟ้มซึ่งต้องอ่านและทำความเข้าใจเป็นพะเรอเกวียน แม้นอกกระท่อมจะมีเสียงธารใสไหลหลากมาตามโขดหิน และเสียงจักจั่นเรไรใบไม้ไหวน่าฟัง หากยังมิอาจดึงความสนใจจากพรพระพายได้สักนิด

    กระทั่งเสียงเรียกเข้า iPhone 6 สีทองแชมเปญที่วางไว้ข้างแฟ้มบัญชีบนโต๊ะทำงานของสาวลูกครึ่งมาดเคร่งดังตึ่งตึงในเวลาห้าทุ่มกว่า ๆ

    พรพระพายผ่อนลมหายใจออกเล็กน้อยที่ถูกขัดจังหวะการทำงาน หากอดสงสัยไม่ได้ว่า ใครกันโทร.หาเธอในเวลาดึกดื่น?! ถ้าเป็นเมื่อก่อน แวบแรกที่ได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือยามวิกาล รู้เลยว่า บัวบูชา...หญิงเดียวในดวงใจเธอโทร.มาราตรีสวัสดิ์ก่อนนอน แต่นี่คือเบอร์มือถือใหม่ที่เธอเก็บไว้ใช้เฉพาะกับคนในฟาร์ม ดังนั้นคิ้วเรียวโค้งของพรพระพายจึงขมวดนิด ๆ เมื่อเห็นหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ร่วมขบวนการโชว์หราบนหน้าจอมือถือ

    ฉะนั้นสาวสูงระหงพรพระพายจึงกรอกเสียงฉงนไปตามสายว่า

    “มีอะไรหรือคะคุณลุง ถึงได้โทร.มาเบอร์นี้”

    “เอ่อ...คืองี้นะพระพาย คุณปกป้อง...เขา...เขา...”

    เสียงลุงเงียบลงชั่วครู่ ทำให้โบรกเกอร์สาวยิ่งสนเท่ห์ รีบซักต่อว่า

    “อือ...มีอะไรก็รีบพูดเถอะค่ะคุณลุง พระพายไม่อยากให้เราต้องพูดคุยกันเบอร์นี้นาน ๆ หน้าต่างมีหู ประตูมีช่อง ว่าแต่...เขาทำไมคะ?

    หลานแท้ ๆ ของตระกูลเพชรนาคาลดเสียงลง พลางกวาดตาระวังมองไปนอกกระท่อมริมธาร ที่อีกฟากมีแค่แสงขาว ๆ ของโคมไฟสนามตรงทางเดิน อย่างไรก็ดี เสียงเล่ารวดเดียวของผู้เป็นลุงในเวลาต่อมา ทำให้ใจแข็งแกร่งเย็นชาของพรพระพายกระตุกวูบ มือไม้ชื้นรวดเร็ว ประโยคนั้นคือ

    “คืองี้นะพระพาย...พอ...เอ่อ...พอคุณปกป้องแกลาออกจากฟาร์ม ก็ดูเหมือนว่าแกจะสำนึกผิดกับสิ่งที่ทำพลาดไป แกเลยตามหาไอ้แมงดานั่นไปถึงบ่อนแถวชายแดนพม่า ซึ่งตอนนั้นไอ้ผีพนันนั่นมันกำลังมือขึ้น มันเลยหัวเสียขนาดหนักแต่ก็ยังเดินหนี ถึงอย่างนั้นคุณปกป้องเขายังตามมันขึ้นไปตรงบันได ขอร้องให้มันรีบนำเงินห้าแสนมาชดใช้ ถึงขนาดยอมก้มกราบมัน แต่นั่นยิ่งทำให้มันรู้สึกเสียหน้าเพราะสาว ๆ ที่มันคุยโม้ว่าบ้านมันรวย มีเงินเป็นกะตั๊กเมื่อไม่นาน เลยพากันซุบซิบนินทาใหญ่ แถมคุณปกป้องยังไปร้องเรียกมันว่า ที่รัก ๆ อีก ทีนี้มันเลยยิ่งโมโหเลือดขึ้นหน้า ซัดแข้งซะเต็มหน้าเขาจนกระเด็น ศีรษะด้านหลังลอยไปกระแทกขอบเสาบันไดเข้าอย่างจัง โดนจุดสำคัญตรงท้ายทอยพอดี เขาเลย...เอ่อ...เลยตายคาที่น่ะพระพาย”

    “.....!!!” สิ่งที่ได้ยิน ทำให้พรพระพายอึ้งตะลึง อ้าปากเผยอค้าง  ใจสั่นไหว ด้วยหญิงสาวไม่คิดว่า เรื่องจะเลยเถิดไปกันใหญ่ถึงเพียงนี้

    นี่...นี่เธอมีส่วนทำให้เขารนหาที่ตายหรือ?! อะไรกันเนี่ย!!!

    อย่างไรก็ตาม เสียงทุ้มของหนุ่มใหญ่ในสายยังคงเร่งเล่าเรื่องต่อว่า

    “ตอนที่ลุงได้รับรายงานจากอินทรีตาทิพย์ ลุงก็ช็อกไปเหมือนกัน ทีนี้เลยร้อนใจจนต้องโทร.มาเล่าให้ฟัง เฮ้อ...แต่...แต่ทำยังไงได้ล่ะพระพาย  คนเราน่ะพอถึงที่ตาย...ยังไงมันก็หนีไม่พ้นหรอก เพราะฉะนั้นหลานไม่ต้องรู้สึกผิด หรือโทษตัวเองไปหรอกนะ ทุกสิ่ง...มันเป็นไปตามกรรมของมันเอง ส่วนพวกเราก็เป็นแค่ฟันเฟืองหนึ่งเท่านั้น เอาเป็นว่าหลานก็อย่าคิดมากจนเสียแผนที่วางไว้ล่ะ งานนี้...คุณปู่ท่านหวังไว้มาก ท่านรอคอยที่จะได้ขุดค้นที่ผืนนี้ทุกตารางนิ้ว และถ้าค้นเจอเมื่อไหร่ ท่านคงนอนตายตาหลับซะที”

    ค้นอะไร?! ยังไม่ทันที่พรพระพายจะถามออกไปดั่งใจคิด

    ทันใดนั้น! เสียง ๆ นี้กลับดังก๊อก ๆ ๆ! ครั้นหญิงลูกครึ่งหน้าถอดสีหันขวับไปตามเสียงเคาะประตูที่เปิดอ้ารับลมไว้นั้น ใบหน้าเนียนใสของสาวผิวสีน้ำผึ้งเรือนร่างอรชร ซึ่งอยู่ในเดรสชุดนอนสไตล์เชิ้ตสีฟ้าพับแขนยาว  ก็ยื่นหน้าเข้ามาส่งยิ้มเขินปนเกรงใจ ก่อนจะย่างเท้าเข้ามาในห้องรับแขกที่ถูกปรับให้เป็นห้องทำงาน แต่ว่าพอรักปายเห็นหน้าตระหนกของหัวหน้าแผนกบัญชีคนใหม่ ซึ่งเขายังถือมือถือค้างไว้ตรงหู เธอจึงรีบก้มหน้าขออภัย

    “อุ้ย! ขอโทษค่ะที่รักเสียมารยาท คือว่า...เมื่อกี้นี้รักไม่ทันเห็นว่าคุณพระพายกำลังคุยโทรศัพท์อยู่น่ะค่ะ ขอโทษจริง ๆ ค่ะ ถ้าอย่างนั้น...เดี๋ยวรักออกไปรอตรงระเบียงก่อนนะคะ”

    น้ำเสียงรักปายเต็มไปด้วยความเกรงอกเกรงใจ พลางก้มหน้างุด ขัดเขิน ทั้งที่ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในปศุสัตว์แห่งนี้เป็นของเธอแท้ ๆ

    อย่างไรก็ตาม สาวบอบบางได้รีบกลับหลังหัน เตรียมก้าวจากไป

    หากกระนั้นรักปายจำต้องผินหน้ากลับมาทางสาวเท่ลูกครึ่งอีกครั้ง เมื่อพรพระพายใช้มือขวาเย็นชื้นรั้งข้อศอกของเธอไว้ ทั้งยังสะกดเธอด้วยนัยน์ตาสีกาแฟแสนลี้ลับที่อ่านไม่ออก คล้ายจะมีความรู้สึกตื่นเต้นกังวลใจหลากหลายอยู่ในนั้น

    อุ้ยตายล่ะ...นี่ถ้าเขาเป็นผู้ชาย เขาจะคิดว่า เรามาอ่อยเขาถึงที่หรือเปล่าเนี่ย?! มะ...ไม่นะ! เราก็แค่เป็นห่วงเขาเท่านั้นเอง  

    เพียงคิดเตลิดถึงตรงนี้ พักตราใสพิสุทธิ์ของรักปายก็แดงซ่านร้อนซู่ไปถึงใบหู เจ้าตัวเลยแก้เขินด้วยการยกแก้วโกโก้ที่เพิ่งชงร้อน ๆ ให้ดู พร้อมบอกอย่างรีบร้อนว่า “คือรักแค่จะเอาโกโก้ร้อน ๆ มาให้คุณพระพายน่ะค่ะ เพราะเห็นคุณนั่งดูบัญชีพวกนี้มาตั้งแต่หัวค่ำแล้ว คงเหนื่อยแย่ อ๊ะ...นี่ค่ะ”

              รักปายพูดอย่างตื่นเต้น ทั้งยัดแก้วโกโก้ใส่มือหัวหน้าแผนกบัญชีคนใหม่แบบเร็ว ๆ หากทว่าด้วยความที่พรพระพายเพิ่งจะยัดมือถือลงไปในกระเป๋ากางเกง สาวลูกครึ่งจึงไม่ทันตั้งตัว น้ำโกโก้ชงร้อน ๆ เลยกระฉอกลงบนหลังมือขาว ๆ ซะครึ่งแก้ว หญิงสาวเลยร้อง “โอ๊ะ...!อย่างตกใจ

    และรีบสะบัดมือออกอย่างอัตโนมัติ เพราะแสบร้อน แต่ดันพลั้งไปโดนแก้วโกโก้เซรามิคที่คุณหนูรักปายถือไว้ ซึ่งเจ้าตัวยังมัวแต่เบิกตาตื่นตกใจเช่นกัน แล้วแก้วก็ตกแตกดังเพล้ง! เฉียดปลายเท้าของพรพระพายไปนิดเดียว มิหนำซ้ำน้ำโกโก้ร้อนจัดอีกครึ่งแก้ว ยังราดลงมาซะเต็มเท้า!

    “โอ๊ย!!! อ๊า...” สาวเท่ระหงที่ซวยซ้ำซ้อนร้องโอด พร้อมโดดโหยง  ยกฝ่าเท้าขึ้นกุม หน้าเหยเก 

    นารีร่างเล็กที่เป็นตัวต้นเหตุยิ่งตื่นตะลึงกับเรื่องที่เกิดขึ้น ใบหน้าสวย ๆ เริ่มถอดสี ก่อนจะได้สติ รีบละล่ำละลักว่า

    “อ๊ะ!!! คุณ...คุณพระพาย! รัก...รักขอโทษค่ะ รักไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ ยังไงรักจะรีบเก็บเศษแก้วให้ก่อนนะคะ ไม่งั้นเดี๋ยวมันจะบาดคุณเอา”

    “โอ๊ะ! ไม่...ไม่ต้องค่ะคุณรัก เดี๋ยวพี่ทำเองดีกว่า คุณไปนั่งรอตรงโซฟาเถอะค่ะ” พรพระพายที่อยู่ในฐานะลูกน้องเลยต้องรีบก้มลงใช้มือเก็บเศษแก้วเซรามิคที่กระจายเกลื่อน

    แต่แล้ว! เจ้าตัวถึงกับร้อง “อุ๊ย! โอ๊ย...โธ่เอ้ย เลือดออกจนได้สิ!

    เมื่อเศษแก้วคม ๆ บาดนิ้วชี้เข้าอย่างจัง จนเลือดแดงไหลซิบ

    ด้วยความลืมตัว พรพระพายเกือบจะใช้ปากดูดปลายนิ้วจ๊วบ ๆ เพื่อห้ามเลือดซะแล้ว ทว่าสาวพักตร์พริ้มฝั่งตรงข้ามรีบห้ามเสียงหลงว่า

    “อย่าค่ะ! เดี๋ยวแผลติดเชื้อ ไปนั่งตรงโซฟาก่อนนะคะ...มาค่ะ”

    สิ้นคำ รักปายก็กุลีกุจอเข้ามาประคองร่างพรพระพาย ให้ถอยไปนั่งตรงโซฟา จากนั้นกัลยาณีร่างบางถึงจับปลายนิ้วเรียวของหญิงลูกครึ่งที่ซวยซ้ำซ้อนหนที่ 3 ขึ้นมาเค้นบริเวณบาดแผลเพื่อชะล้างสิ่งสกปรกออกแล้วหันไปคว้าทิชชูตรงโต๊ะกลางโซฟามาซับแผลให้อย่างนุ่มนวลอ่อนโยน ปล่อยให้คนเจ็บตัวได้มีเวลาเพ่งพิศนวลหน้าพยาบาลจำเป็นอย่างใกล้ชิด ยิ่งมอง พรพระพายยิ่งประจักษ์แก่ใจว่า คุณหนูรักปายเป็นสาวงามพิศนัก วงหน้าเรียวสวยโดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม ผิวสีน้ำผึ้งเนียนลอองามเปล่งปลั่ง   ตากลมโตดูผ่องใสบริสุทธิ์ จมูกโด่งกำลังดี ปากชมพูจิ้มลิ้มดูสวยเอิบอิ่มนัก

    นี่สินะที่เขาว่า หญิงงามพิศ...ยิ่งมอง ความงดงามยิ่งผุดพรายขึ้นมาเรื่อย ๆ ส่วนธาตุแท้แห่งจิตใจนั้น อือ..ก็น่าจะเป็นคนดีมีน้ำใจไม่น้อยทีเดียว

    แต่มันจะเป็นเพียงภาพลวงตา หรือมารยาหญิง เหมือนอย่างที่เธอเคยเจอหรือเปล่านะ หึ ๆ ขึ้นชื่อว่าผู้หญิง...อะไร ๆ ก็เป็นไปได้ทั้งนั้นนี่

    พรพระพายคิดเยาะในแง่ร้ายเพื่อปกป้องหัวใจตนเอง ไม่ให้ตกลงไปในหลุมพรางแห่งความรักได้อีก

    แค่ครั้งเดียว...ก็เจ็บเจียนตายจนเกินพอแล้ว!

    ฉับพลันพักตราเพริศพริ้งของบัวบูชาได้ผุดขึ้นในห้วงคะนึงอีกครา สตรีเดียวที่เธอทั้งรักและทั้งเกลียด กระนั้นภาพแรกที่ได้พานพบกันยังคงติดตรึงในหัวใจพรพระพาย ถ้าวันนั้นไม่เป็นเพราะพวงหยกเพื่อนสนิทเธอต้องเข้ารับการผ่าตัดไส้ติ่งอย่างเร่งด่วน ได้ไหว้วานให้เธอนำกุหลาบสีส้ม ช่อใหญ่พร้อมการ์ด ไปให้กำลังใจดาวคณะนิเทศฯ ที่สนิท ซึ่งยอมเล่นละครเวทีคลาสสิกของวิลเลียม เชกสเปียร์เป็นครั้งแรก เธอสองคนคงไม่ได้พบกัน

    วินาทีแรกที่บัวบูชาปรากฏกายบนเวทีในบทจูเลียต...สตรีผู้บูชารัก นับแต่นั้น...หัวใจเธอดั่งถูกจับจองให้เป็นของสาวงามรุ่นน้องต่างคณะที่ชื่อ บัวบูชา ผู้มีดวงหน้าเพริศพริ้มขาวชมพูสะพรั่งงามไร้ที่ติ เนตรคมงามขำดุจดั่งตากวางวาวใส ทรวดทรงงดงามสะคราญตาดุจเทพเทวาบรรจงสร้าง แลผิวพรรณขาวเนียนผุดผ่องเป็นยองใย เรือนผมตรงเงางามเปล่งประกายหอมกรุ่นติดจมูกนัก เวลาสัมผัส...ช่างนุ่มละมุนมือเหลือเกินดุจไหมชั้นเลิศ ยิ่งได้ยินน้ำเสียงไพเราะขับขานของบัวบูชา ยิ่งทำให้เธอเคลิบเคลิ้มคลั่งไคล้     

    แต่แล้วสติของพรพระพายที่เผลอคำนึงถึงหญิงคนไกลในเมืองกรุง จำต้องยุติลงชั่วขณะ เมื่อพยาบาลสาวเจ้าของกลีบปากชมพูกุหลาบเอิบอิ่มได้เงยหน้าขึ้นมา ยิ้มสวยจนเห็นไรฟันขาวราวไข่มุก เอ่ยเสียงเล็กน่ารักว่า

    “เลือดหยุดแล้วล่ะค่ะคุณพระพาย ถ้างั้นเดี๋ยวเราเข้าไปราดน้ำตรงมือและเท้ากันในห้องน้ำนะคะ เสร็จแล้วรักจะได้ทายาสีฟันให้...เชิญค่ะ”

    รักปายชักชวนยิ้มอ่อนหวาน ก่อนจะลุกขึ้นประคองพรพระพายประหนึ่งหญิงสาวเป็นคนป่วยที่ช่วยตัวเองไม่ได้ซะอย่างนั้น ซึ่งกิริยานุ่มนวลอ่อนโยนที่เต็มไปด้วยธรรมชาติของนายสาว พลอยทำให้รอยคลี่ยิ้มจาง ๆ แสดงความขอบคุณ ปรากฏบนใบหน้าสวยเท่สไตล์ลูกครึ่งของพรพระพาย

    เมื่อล้างมือล้างเท้าเสร็จ รักปายยังคงปฏิบัติเกินหน้าที่นายจ้างโดยดื้อดึงทายาสีฟันตรงหลังมือและบริเวณเท้าที่ถูกน้ำร้อนลวกให้พรพระพาย ทั้งที่คนซวยซ้ำซ้อนร้องห้ามแท้ ๆ และรักปายยังจัดแจงหาพลาสเตอร์ยามาปิดตรงบริเวณบาดแผลให้อีกอย่างเบามือ ก่อนจะยืดตัวลุกขึ้นมากล่าวคำขอภัยอีกหนด้วยแววตาสำนึกผิดที่หลุบลงว่า “รักต้องขอโทษคุณพระพายอีกครั้งนะคะ ที่ซุ่มซ่ามจนทำให้คุณต้องเลือดออกแบบนี้ รักขอโท...”

    กลีบปากชมพูอิ่มเรื่อของรักปายเจรจาได้เพียงเท่านี้ ก็ถูกสาวสวยสมาร์ตตรงหน้า ใช้นิ้วโป้งอุ่น ๆ ปิดตรงริมฝีปากเธอไว้เสียนี่ ก่อนเขาจะเชยปลายคางขึ้น ครั้นคุณหนูรักปายเลื่อนสายตาเคอะคะขึ้นมาสบประสานกัน  แค่นี้ใจใส ๆ ของหญิงสาวก็เกิดอาการสั่นไหว ตื่นเต้นเคอะเขินเหนียมอาย ด้วยสตรีที่เธอแอบชื่นชมในใจ ยังคงไล้ปลายนิ้วโป้งเกลี่ยบนปากนุ่มของเธอ ซ้ำเขายังจดจ้องด้วยแววตาวาวระยับดั่งดาวสกาวแสงให้ใจเต้นตึกตักขึ้นอีก ก่อนเขาจะส่ายหัว ทั้งคลี่ยิ้มนิด ๆ ดูมีเสน่ห์ ทอดเสียงค้านน่าฟังกับเธอว่า

    “หึ ๆ ไม่เอาค่ะ ไม่พูดคำนี้อีกแล้วนะคะคุณรัก เพราะดูเหมือนว่าคืนนี้...คุณรักจะพูดคำว่าขอโทษ ๆ กับพี่บ่อยมากเลย”

    “แต่...” ไม่วายที่รักปายจะแย้งน้อย ๆ ออกมาอย่างสำนึกผิด ซึ่งท่าทางของหญิงสาวเช่นนี้ ช่างเหมือนกับเด็กน้อยผู้บริสุทธิ์ที่เพิ่งเคยกระทำความผิดเป็นครั้งแรก โดยไร้เล่ห์เหลี่ยมมารยาปรุงแต่ง

    นั่นพลอยทำให้รอยยิ้มเอ็นดูของนักค้าหุ้นสาว ที่เพิ่งผุดพรายได้   ไม่นาน ค่อย ๆ จางหายไป เมื่อสามัญสำนึกแห่งธาตุแท้ในจิตใจพรพระพาย ทำให้หญิงสาวนึกถึงเหตุรันทด ที่ทำให้คุณปกป้องต้องจบชีวิตลงอย่างน่าอนาถในบ่อนกาสิโน ซึ่งแม้นว่าตัวเธอเองจะไม่ใช่ตัวต้นเหตุที่แท้จริงก็ตาม แต่การที่พวกพ้องของเธอ ลงทุนวางแผนบีบคั้นให้เขาต้องเขียนใบลาออกจากฟาร์มรักปายแห่งนี้ มันก็ทำให้เธอรู้สึกหน่วง ๆ แกมอดสูใจไม่ได้อยู่ดี

    ครั้นคิดมาถึงตรงนี้ แววตาเปล่งแสงหยอกเย้าวับวาวเมื่อครู่ของ พรพระพายก็สลดวูบลง ก่อนตัวเธอจะภาวนาในใจว่า

    คุณปกป้องคะ...ขออโหสิกรรมให้พระพายด้วยเถอะนะคะ และขอให้ดวงวิญญาณของคุณไปสู่สุคติด้วยเถิด อย่าได้จองเวรกันและกันเลย ทั้งชาตินี้และภพหน้า และขอสัญญาว่า ภายภาคหน้า...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พระพายยังคงยืนยันเจตนา ว่าจะช่วยให้ฟาร์มแห่งนี้เสียเปรียบน้อยที่สุด

    ดังนั้นแววตาของพรพระพายจึงอ่อนแสงลง พร้อมกับใบหน้าเรียวเปลี่ยนเป็นขรึมลง ตอนกล่าวคำนี้กับนารีจิตผุดผ่องผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ว่า

    “ไม่มีแต่ค่ะคุณรัก เพราะคนอย่างพี่...เลือดออกแค่นี้ยังน้อยไป

    ใช่! คนที่ตั้งใจใช้เล่ห์อำพรางเข้ามาในฟาร์มนี้ตั้งแต่แรกอย่างเธอ  ก็สมควรแล้วที่จะโดนแบบนี้ พรพระพายอดติเตียนตนเองไม่ได้ แต่...

    “ทำไมพูดถึงตัวเองยังงั้นละคะคุณพระพาย?” เสียงเล็ก ๆ แย้ง

    คิ้วสวยของรักปายโก่งขึ้นนิดๆ อย่างฉงนในประโยคแฝงความนัย ทำให้ใบหน้าจิ้มลิ้มนวลเนียนดูซื่อบริสุทธิ์เอามาก ๆ จนพรพระพายอดไม่ได้ที่จะหยอกเย้าดรุณีน้อยผู้ใสซื่อ เลยเผลอคลี่ยิ้มลึกลับตรงมุมปากดูมีเสน่ห์เหลือร้าย ก่อนเขาจะเท้าแขนกักร่างแบบบางของรักปายไว้ในอ้อมแขนอุ่น

    จากนั้นสาวสวยเท่ตาคมถึงโน้มหน้ากรุ้มกริ่มพริ้มพรายลงมาใกล้นงคราญงามพิศแสนพิศุทธิ์ แกล้งให้ลมหายใจอุ่น ๆ รวยรินรดข้างซอกคอหอมจรุงของรักปาย ที่ใช้เพียงแป้งเด็กอ่อน ๆ

    ซึ่งทุกกิริยาอาการของพรพระพาย ส่งให้สาวพรหมจรรย์วัย 21 ปี เกิดความรู้สึกขัดเขินอย่างหนัก ใจยิ่งไหวระรัวเสมือนมีกลองนับร้อยมาตีประชันขันแข่ง ขนกายลุกชันอย่างห้ามไม่ได้ ผิวกายมือไม้เริ่มเย็นชื้นทั่วทั้งสรรพางค์กาย ส่วนสองนวลปรางนั้น ยิ่งร้อนผะผ่าวเสมือนถูกเตาไฟอัง  

    ยิ่งกัลยาไร้จริตจิตใจอ่อนไหว ได้ฟังเสียงกระซิบกระซาบรัญจวนใจของนักบัญชีคนใหม่ เอื้อนเอ่ยวจีแฝงความนัยอีกครั้งข้างใบหูเธอว่า

    “เพราะพี่...กำลังคิดไม่ซื่อ...กับคนแถวนี้ยังไงละคะ”

    ทั้งคำพูด และนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มพราวพรายของพรพระพายที่ จดจ้องมองมา ทำให้ห้วงหทัยของรักปาย เต็มไปด้วยความเอิบอิ่มซาบซ่าน พลอยทำให้ความหวังของคนแอบชื่นชมรักใคร่ในใจ เริ่มผลิบานทีละน้อย ๆ

    อย่างไรก็ดี อาการตื่นเต้นดีใจในเรื่องที่เขาอาจมีใจ ดูเหมือนจะเริ่มสำแดงเดชออกมาตามพักตร์พริ้มชมพูระเรื่อ ที่ร้อนผ่าวมากขึ้นเรื่อย ๆ

    ดังนั้นอนงค์นางหน้าแฉล้มจึงหลบตาตื่นเต้นปนเขินอายไปทางอื่น แทนการสบตาสุกปลั่งพร่างพราวของพรพระพาย ซึ่งเสมอเหมือนแสงดาวกระพริบพรายในดาราจักรลึกลับอันไกลโพ้น ที่ลอยเด่นบนใบหน้าสวยคมแฝงเสน่ห์ดึงดูด โดยยากนักที่จะคะเนได้ว่า อิสตรีนัยน์ตาลี้ลับผู้นี้...รู้สึกกับเธอเช่นใด?! แค่หมาหยอกไก่ หรือว่าเริ่มมีใจ

    ถึงกระนั้นเวลานี้...เธอมิอาจทนสบตาแวววาวของเขาได้อีกต่อไป ดังนั้นรักปายจึงแก้เขินว่า “นี่ก็ดึกมากแล้ว ยังไง..รักขอตัวกลับก่อนนะคะ”

    จากนั้นรักปายได้รีบกลับหลังหัน เตรียมก้าวจากมา อย่างไรก็ตามข้อมือบอบบางของหญิงสาว กลับถูกรั้งอีกรอบ รักปายจึงต้องหันหน้าฉงนกลับมาทางหญิงหัวหน้าแผนกบัญชีคนใหม่ ถามเขาเสียงสั่นหน่อย ๆ ว่า

    “มะ...มีอะไรหรือคะ?

    ผู้ฉุดรั้งกลับส่งยิ้มละมุน ทอดเสียงนุ่มละไม ปฏิเสธรักปายว่า

    “ไม่มีอะไรค่ะ แค่สงสัยว่า...”

    พรพระพายแสร้งเว้นจังหวะ พลางหลุบตาคมเข้มละเลียดอยู่แถว ซอกคอหอมกรุ่นจรุงใจของหญิงสวยบริสุทธิ์ตรงหน้าเพียงครู่ ก่อนจะเลื่อนสายตาคมเข้มล้ำลึกจดจ้องนิ่ง ๆ ให้รักปายเกิดอาการประหม่าอีกหนจนได้

    ท้ายที่สุด...เรียวปากสีชมพูกุหลาบของหญิงสะคราญผู้ถูกเพ่งพิศจนใจสั่น จำต้องถามถึงสิ่งที่เขาค้างไว้ว่า

    “อ่า...คุณ...คุณพระพายสงสัยอะไรคะ? 

    หากกระนั้น พรพระพายยังใช้คำพูดที่ทำให้นายจ้างสาวเกิดอาการเขินอายไม่หยุดหย่อน ผิวแก้มเนียนใสยิ่งแดงเรื่อร้อนซู่ เมื่อเขาถามเธอว่า

    “คุณรักใช้แป้งยี่ห้ออะไรคะ...ถึงได้...”

    หยุดคำไว้เพียงแค่นี้ ก่อนพรพระพายจะโน้มปลายจมูกโด่ง ๆ ลงสูดกลิ่นหอมระรื่นชื่นใจตรงข้างซอกคอของรักปายอีกครา ทั้งทอดน้ำเสียงซาบซ่านกระเส่าใจผู้สดับฟัง ให้แทบใจละลายอยู่ตรงนั้นว่า

    หอมจัง...หึ ๆ แต่ตอนนี้...พี่คงต้องบอกว่า ฝันดีนะคะ...คุณรัก

    “อ่า...คะ...ค่ะ...ฝะ...ฝันดีเช่นกันค่ะ ขอตัวนะคะ”

    รักปายตื่นเต้นจัดจนพูดจาตะกุกตะกักอย่างอัตโนมัติ

    ดังนั้นหญิงสาวจึงรีบหอบใจบริสุทธิ์สั่นไหว หน้าร้อนซ่านเขินอาย สาวเท้าออกจากกระท่อมริมธารให้ไวที่สุด  ปล่อยให้หญิงเท่ร้อยเสน่ห์มองตามร่างด้วยรอยคลี่ยิ้มพึงใจ ที่แผนพิชิตใจกำลังดำเนินไปด้วยดี ซึ่งบางที...การเจรจาซื้อที่ดินและกิจการฟาร์มรักปาย อาจจบลงในเร็ววันนี้ก็เป็นได้

    ฉับพลันทันใด!

    บทสนทนาที่ค้างคากับผู้เป็นลุงได้ผุดขึ้นในหัวพรพระพายว่า

    คุณปู่ต้องการค้นอะไรในที่ผืนนี้กันแน่?!“แฮก ๆ” เสียงหอบหายใจลอดจากปากชมพูสวยของพรพระพาย เพราะนาทีแห่งความตื่นเต้น อะดรีนาลีนที่ซ่อนในกายฉีดพล่านไปทั่วร่าง

    “.....!!!”ส่วนผู้โดยสารสาวที่นั่งข้างกันถึงกับอึ้งตะลึงเหมือนถูกสาป

    สาวห้าวลูกครึ่งที่คุมสติได้ก่อน รีบผลุนผลันลงจากกระบะออฟโรด วิ่งไปดูหน้ารถ ท่ามกลางเสียงเซ็งแซ่ของไทยมุง แต่พบเพียงความว่างเปล่า

    ครั้นพรพระพายคุกเข่าก้มหัวมองดูใต้ท้องกระบะ ก็นึกโมโหระคนขบขันกับภาพตรงหน้าซะเหลือเกิน เพราะเจ้าหมาสีน้ำตาลตัวจ้อยที่รอดชีวิตใต้ท้องรถ ดันไม่รู้สึกรู้สาสักนิดเลยว่า มันเกือบถูกรถชนตายกลางถนน แถมยังอยู่ในท่านอนหมอบ หง่ำ ๆ ขนมปังที่หามาได้อย่างเอร็ดอร่อย ชิชะ! ไอ้หมาตะกละ เอาไปต้มเปื่อยใส่พริกไทยแบบโปแลนด์ซะเลยดีม่ะ ( - -*)

    ขณะพรพระพายกำลังเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันหมาน้อยพันทางอยู่ดี ๆ เสียงหัวเราะคิกคักอย่างเอ็นดูของคุณหนูรักปายที่ตามลงมา ดังใกล้หูว่า

    “คิก ๆ เจ้านี่ตะกละชะมัดเลย แต่อยู่ตรงนั้น...มันอันตรายน้ารู้ไหม ม่ะ...เจ้าหมาน้อย ออกมานี่เถอะ มาสิ...ม่ะ...มาสิจ๊ะเจ้าหมาน้อย...”

    เสียงหวานใสของคนรักสัตว์ยังคงเรียกมันอยู่อย่างนั้น แต่ดูเหมือนเจ้าตัวน้อยร่างผอมโซจะสนใจแต่การเขมือบอาหารประทังชีวิตเท่านั้น

    พรพระพายเห็นอย่างนั้น ก็อดขำและแซวคุณหนูเสียงใสไม่ได้ว่า

    “พี่ว่า ขืนคุณรักเรียกมันซะเสียงหวานยังงั้น มันคงหลับคาที่แน่”

    “อ้าว...แล้วเราจะทำยังไงกันดีละคะคุณพระพาย ท่าทางมันคงจะไม่ยอมออกมาง่าย ๆ อุ๊ย! ดูมันสิคะ พอกินอิ่มก็ตั้งท่าจะนอนแล้วนะนั่น” 

    สาวสมาร์ตผมซอยสไลด์เคลียต้นคอยืนนิ่งคิดเพียงครู่ รอยคลี่ยิ้มปรากฏตรงมุมปาก ก่อนจะพูดว่า “แป๊บนะคะ เดี๋ยวพี่จัดการเอง”

    จากนั้นพรพระพายที่ใส่เสื้อเชิ้ตผู้หญิงแขนสั้นสียีน ได้วิ่งเหยาะ ๆ  ไปหาแม่ค้าขายขนมปัง ชี้โบ้ชี้เบ้มาทางรถ และขอให้แม่ค้าทาหน้าขนมปังเหมือนกับแผ่นที่เจ้าหมาตัวน้อยคาบไปกิน เพื่อล่อมันออกมา

    เห็นท่าทางอย่างนั้นของคุณพระพาย รักปายถึงกับยิ้มพรายพอใจ ว่าเขาช่างคิดแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วจัง เมื่อกี้เธอยังคิดเลยว่า ไม่เธอก็เขา...คงต้องมีใครสักคนเสียสละลอดไปใต้ท้องรถ อุ้มเจ้าหมาน้อยออกมาแน่ ๆ

    ทว่าพอแม่ค้ายื่นถุงขนมปังทาสังขยาให้ หญิงเจ้าปัญญาได้ล้วงหาสตางค์จากทั้งกระเป๋าเสื้อ และกระเป๋ากางเกงตัวเอง แต่ดันไม่มีเงินสักเก๊!

    ครั้นสาวสวยเท่พรพระพายหันมาประสานตาสุกสกาววาวระยับของคุณหนูรักปาย วินาทีนั้นเอง...ทั้งสองสาวถึงกับขำคิกพร้อมกันทันที

    นั่นเพราะวันก่อน...คุณหนูรักปายเล่นยึดทั้งกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มือถือเธอไปน่ะสิ หึ ๆ นี่ไงล่ะ...โลกแห่งความเป็นจริง ยังไง ๆ เงินก็ยังจำเป็นวันยังค่ำ จริงไหมจ๊ะน้องสาว ม่ะ..มาจ่ายค่าขนมปังซะดี ๆ ^ ^

    ทว่าสิ่งที่พรพระพายไม่คิดว่าจะได้เป็นของแถม คือเจ้าหมาตัวเมียสีน้ำตาลพันทางจรจัดตัวนี้ มันตื้อครองโลกซะจนคุณหนูรักปายใจอ่อนพากลับฟาร์มด้วย ซึ่งมันก็ช่างประจบใช้หัวถูไถขอขนมปังสังขยาทั้งวัน เลยเป็นที่มาของชื่อ เจ้าสังขยา และเห็นว่าจะให้มันเป็นเจ้าสาวเจ้าปังปิ้ง สุนัขแสนรู้ที่เก็บได้ปีกลาย อืม...คุณหนูรักนี่ก็ช่างคิดซะจริง ตั้งชื่อสัตว์แต่ละตัวน่ารักทั้งนั้น มีทั้งเจ้านมสด เจ้าดอกรัก เจ้าลูกกวาด ไม่รู้พาลไปตั้งชื่อจิ้งจกด้วยรึเปล่า หึ ๆ แต่ก็น่ารักดีนะ ชักอยากได้เป็นน้องสาวซะแล้วสิ ^ - ^

    ถ้ารักปายสามารถล่วงรู้ความคิดของนักบัญชีคนใหม่ของฟาร์ม สาวสวยสะพรั่งวัย 20 ต้น ๆ คงอยากประท้วงว่า ไม่อยากเป็นซักหน่อย!

    แต่ถ้าวันใดที่งานของพรพระพายสำเร็จลุล่วง ความชื่นชมรักใคร่ที่ซ่อนเร้นในใจรักปาย อาจกลายเป็นความเคียดแค้นชิงชังมากเกินพรรณนา เพราะความรู้สึกของมนุษย์นั้น..ยากแท้หยั่งถึงยิ่งกว่ามหาสมุทรในโลกหล้า!

    และเมื่อถึงเวลานั้นจริง ๆ กัลยาณีจิตใจงามพร้อมบริสุทธิ์อย่างคุณหนูรักปาย จะสามารถให้อภัยหลานสาวแท้ ๆ ของตระกูลเพชรนาคาที่ดิ้นรนทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์...ได้กระนั้นหรือ?!  

       

    1 สัปดาห์ต่อมา...หลังปกป้องออกจากโรงพยาบาลปายมาพักฟื้นต่อที่บ้านพักในฟาร์ม นี่จึงเป็นวันแรกที่หัวหน้าแผนกบัญชีและการเงินอย่างเขา ได้ก้าวเข้ามาในห้องทำงานส่วนตัวห้องเล็ก ๆ ที่คุ้นเคยนับสิบปี

    เอกสารหลายสิบซองอยู่ในตะกร้าบนโต๊ะทำงานเหมือนเช่นเคย เพียงปกป้องหยิบซองแรกขึ้นดู รอยยิ้มนิดๆ ปรากฏบนมุมปากเกย์รุ่นใหญ่ซึ่งเริ่มคลายกังวลกับเหตุที่เพิ่งผ่านพ้น ทว่าเขาต้องนิ่วหน้าด้วยความฉงน ในตอนแกะซองเอกสารสีน้ำตาลซองต่อมา แล้วพบแผ่นซีดีสีขาวสอดไว้ด้านใน โดยมีข้อความพิมพ์บนสติ๊กเกอร์กระดาษติดบนแผ่นซีดีรอมว่า

    ธาตุแท้!’

    อ่านเสร็จ บุรุษใหญ่ใจนิยมชายรำพึงแบบงง ๆ ว่า

    “เอ...เรื่องนี้...เราไม่ได้สั่งนี่นา”

    เพื่อความกระจ่างแจ้ง ปกป้องเลยจัดการเสียบซีดีเข้าไปในโน้ตบุ๊ก ทว่าพอเห็นภาพในซีดีเท่านั้น ตาฉงนของเกย์รุ่นเดอะก็เบิกกว้างอย่างตะลึง

    คลิปนั้นคือ ภาพนายแบบตกกระป๋องรูปร่างกำยำล่ำสันวัย 25 ที่ตัวเขาหวังฝากชีวิตและหัวใจในบั้นปลาย เดินเข้ามานั่งตรงโซฟาห้องหนึ่ง

    ผ่านไปไม่กี่นาที หนุ่มหน้าตาดีที่คุณปกป้องพะเน้าพะนอคลอเคลียเมื่อคืนก่อน สบถออกมาอย่างหัวเสียว่า แม่ง...ไรวะ! ไหนนัดมาคุยกันเรื่องค่าตัวถ่ายแบบไง แต่จนป่านนี้ แม้แต่หมาสักตัวก็ยังไม่โผล่มาสักทีโว้ย!’

    ทันใดนั้น! หนุ่มวัยฉกรรจที่อยู่ในห้องเพียงลำพังถึงกับสะดุ้งโหยงเมื่ออยู่ ๆ มีเสียงหัวเราะหึ ๆ ในลำคอของชายสูงวัยคนหนึ่งสะท้อนก้องไปทั่วห้อง ตามด้วยเสียงเยาะหยันว่า หึ ๆ ฉันก็รอดูธาตุแท้แกอยู่นี่ไง

    คำเสียดแทงใจปักอกจนคำรณวัฒน์ต้องลุกพรวดแผดเสียงโมโหไปรอบห้องว่า ธาตุแท้บ้าอะไรวะ! แล้วแก...หลอกฉันมาที่นี่ทำไม?!’

    ส่วนตาแข็งกร้าวก็ส่ายหาต้นเหตุแห่งเสียง กระนั้นรอบห้องยังคง มีแต่ความว่างเปล่า หนำซ้ำคำพูดบุรุษไร้นามยังทิ่มแทงใจดำเขาอย่างจังว่า

    ก็เงินสด ๆ ห้าแสน ที่แกไปหลอกแดกมาจากหัวหน้าแผนกบัญชีของฟาร์มรักปายที่ชื่อปกป้องไง...จำไม่ได้เหรอะ! ฮ่า ๆ...

    มะ...มึง! มึงพูดบ้าอะไรเนี่ย กูไม่รู้เรื่องไม่รู้เรื่องโว้ย!’

    คำรณวัฒน์แหงนหน้าขลาด ๆ พยายามปฏิเสธ พลางสอดส่ายตามองหาคนพูด กระนั้นเสียงหัวเราะบาดหู และคำพูดถัดมา ยิ่งหยามหยันว่า

    ไม่รู้เรื่องงั้นเหรอะ หึ ๆ ฮ่า ๆ นี่ถ้าไม่มีหลักฐานล่ะก็...คนอย่างฉันคงไม่เสียเวลาฟังแกพล่ามอยู่อย่างนี้หรอกโว้ย...ไอ้คำรณวัฒน์

    หละ...หลักฐานบ้าบออะไรของแก?!’ คำรณวัฒน์เริ่มละล่ำละลัก

    อย่างไรก็ดี เสียงยียวนเยียบเย็นของบุคคลปริศนาที่สะท้อนก้องในห้องเล็ก ๆ ถึงกับทำให้นายแบบไร้ชื่อเสียงเกิดอาการขนหัวฟู ตาลุกโต

    เมื่อความลับที่เก็บงำ ถูกตีแผ่ออกมาเป็นฉาก ๆ ว่า

    ก็หลักฐานจากกล้องวงจรปิดแถว ๆ โรงเรียนปายวิทยาคารที่เพิ่งติดตั้งเสร็จ ก่อนที่แกจะริทำชั่วน่ะสิ และไอ้กล้องไฮเทคนี่มันก็เจ๋งจริง ๆ ว่ะ เพราะมันสามารถจับภาพหน้าแกโคตรชัดตั้งแต่แกจอดมอไซค์ แล้วยืนอัดบุหรี่สอดไส้เฮโรอีนปุ๊ย ๆ เพื่อรอขี่รถนำคุณปกป้องไปยังจุดที่จะจัดฉาก ด้วยการโรยตะปูเรือใบเฉพาะแถว ๆ ล้อกระบะไง เพราะถ้าโปรยทั่วถนน  ก็อาจมีพลเมืองดีโทร.แจ้งตำรวจให้เข้ามาตรวจไง ต่อมาพอแกบังคับล้อรถให้เหยียบตรงตะปูเรือใบตามแผน คุณปกป้องที่หลงใหลได้ปลื้มและเชื่อใจในคำพูดของแมงดาปากหวานอย่างแก ก็เล่นตามบทด้วยการขับตะลุยเข้าไปในป่า โดยมีแกขี่มอไซค์ไล่ยิงหลังกระบะให้ดูสมจริง หนำซ้ำคุณปกป้องเขายังยอมให้แกเตะต่อยเหมือนกระสอบทราย เพื่อสร้างหลักฐานว่าเขาถูกทำร้ายชิงทรัพย์ โดยเงินสด 5 แสนที่แกวางแผนหลอกมาจากเขาน่ะ ฉันรู้มาว่า แกเอาไปใช้หนี้พนันแค่ 3 แสน ที่เหลือ...แกก็เอาไปลงทุนในบ่อนต่ออย่างสบายใจเฉิบ หึ ๆ แถมแกยังทำใจป้ำ ให้ทิปแบงก์พันกับพวกอีหนูผิวขาวจั๊วะหุ่นน่าฟัดที่กินไอติมเก่งด้วยนี่หว่า หึ ๆ จริงไหมวะ...ไอ้คำรณวัฒน์

    นายแบบตกกระป๋องที่เป็นผู้คิดแผน ถึงกับหน้าแดงหน้าดำตวาดกร้าวไปทั่วห้องอย่างหมาจนตรอกว่า

    มึงรู้ได้ไงวะ! รึไอ้แก่ป้องมันเกิดกลัวหัวหด เลยคิดจะเอาตัวรอด รีบแจ้นไปเล่าให้ตำรวจอย่างมึงฟัง มึงเลยจะเค้นหลักฐานจากปากกูอีกที

    หึ ๆ แล้วแต่แกจะคิด แต่จะบอกให้เอาบุญก็ได้ว่า ฉันไม่ได้เป็นตำรวจ ซึ่งไม่สำคัญหรอกว่า ฉันเป็นใคร เพราะเรื่องที่สำคัญมากกว่านั้นคือถ้าแกยอมรับสารภาพ...ฉันจะให้เงินแกไปต่อทุนอีก 1 แสนฟรี ๆ

    เป็นข้อเสนอที่คนหิวเงินอย่างมัน อยากจะกระโจนใส่ แต่...

    ไม่...กูไม่เชื่อ! มึงหลอกกู อยู่ ๆ มึงจะให้เงินกูฟรี ๆ ทำไม?! กูไม่อยู่แล้ว ปล่อยกูไปเดี๋ยวนี้...ปล่อยกู! ปล่อยกูสิโว้ย ขังกูทำไมวะ...ปล่อยกู!!!

    คำรณวัฒน์แผดเสียงลั่นอย่างคลุ้มคลั่ง ทั้งถีบประตูโครมครามเสียงดังปึงปัง! พยายามดิ้นรนออกไปแต่ไม่สำเร็จ นั่นเป็นเพราะด้านนอก มีฝาครอบลูกบิดกันขโมยครอบไว้อีกชั้น โดยมีเสียงน่าเกรงขามกังวานนี้ว่า

    ไม่เชื่อเหรอ ฮ่า ๆ ว่าแต่แกมีทางเลือกด้วยเหรอะไอ้ผีพนันขี้ยา!’

    ด่าไม่ทันขาดคำ นายแบบหนุ่มที่ผันตัวจากผู้เสพมาเป็นผู้ค้าซะเอง ก็มีอาการใจสั่นรัวเต้นแรงผิดปกติ มือไม้เย็นขึ้นเรื่อย ๆ

    ไม่ช้า...อาการเสี้ยนยาที่เริ่มหนักข้อขึ้นทุกวัน ได้แพร่ความรวดร้าวทรมานซอกซอนไปทั่วทั้งอณูกระดูก จนเขาต้องใช้ลำแขนล่ำที่เต็มไปด้วยรอยเข็มฉีดยา กอดรัดกายตนไว้มั่น

    ก่อนคำรณวัฒน์จะแหกปากตะคอกเสียงสั่นด้วยความงุ่นง่านว่า

    หยุดพล่ามสักทีสิโว้ย...ขอยากูก่อน! กูจะเสี้ยนตายอยู่แล้ว

    หึ! ถ้าอยากได้ทั้งเงินและยา มึงก็สารภาพกับกูสิวะ ว่าสิ่งที่กูพูดมาทั้งหมด...เป็นความจริง และมึง! ก็ไม่ได้รักหัวหน้าแผนกนั่นอย่างปากว่า ที่มึงทำทุกอย่าง ก็เพราะแมงดาอย่างมึงต้องการหาเหยื่อคนใหม่ ที่จะมาบำรุงบำเรอมึงให้อิ่มหนำสำราญ พอเหยื่อแก่รายนี้ติดเบ็ด มึงก็จะเริ่มเล่นบทลูกกตัญญูที่ต้องหาเงินก้อนโต เอาไปให้พ่อผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ แสร้งออกอุบายให้เขาริอ่านทำชั่ว จากนั้นแมงดาชั่ว ๆ อย่างมึงก็จะเบลคเมเขาทีหลังเพื่อเรียกเงินก้อนโตงวดสุดท้าย ก่อนที่มึงจะตีจาก...เพื่อไปหาเกย์ขี้เหงารายใหม่ ที่อยากได้ใครสักคนมาดูแลตอนแก่ไง...จริงไหมไอ้แมงดาจัญไร!’

    ความลับถูกประจานออกมาหมดเปลือก ซ้ำร่างกายเขายังกระเส่ากระสันอยากแต่ยานรกนั่น ดังนั้นคำรณวัฒน์จึงจำใจกระแทกเสียงรับว่า

    เออ! กูยอมสารภาพก็ได้ว่า มึงพูดถูกทุกอย่าง...พอใจยัง! กูหลอกไอ้เกย์เฒ่าตัณหาจัด มาไม่รู้ตั้งกี่คนต่อกี่คนแล้ว และตอนนี้มึงจะให้กูได้รึยังกูเสี้ยนจะตายอยู่แล้ว ขอ...ขอยาให้กูก่อน ยา...ยา...ไอ้ห่าเร็วสิโว้ย...ยา!!!

    แค่เห็นอาการกระสันอยากจนแทบวายปราณของไอ้แมงดานรก  ที่ชีวิตคิดได้แต่เรื่องชั่วช้าสามานย์ อดีตตำรวจมือปราบที่ผันตัวเองมาเป็นนักสืบอาชีพมาหลายปี ถึงกับระเบิดเสียงหัวเราะแบบสาแก่ใจว่า

    ฮ่า ๆ เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็นเนี่ยล่ะวะ...แมงดาติดยา แม่ง...ทุเรศตาฉิบหาย เอ้า...เอาไป...เงินแสนนึงที่กูจะให้

    สิ้นคำชายปริศนา แบงก์พันต่างปลิวว่อนลงมาจากฝ้าทีบาร์ที่เลื่อนออกได้เองจากด้านบน กระจายเกลื่อนเต็มพื้นห้องไปหมด

    ทว่าหนุ่มเสี้ยนยาขอบตาคล้ำที่ตะบปธนบัตรขึ้นดู กลับเบิกตาโตตะลึงงัน ลุกขึ้นตะคอกเสียงดังด้วยความโมโหกราดเกรี้ยวว่า ไอ้เชี้ย…!!!   นี่เงินห่าเหวอะไรของมึง เอาเงินกูมาเดี๋ยวนี้นะ เอามาสิโว้ย! เอามา!!!

    อ้าว...ก็เงินแสนนึงที่กูสัญญาจะให้ไง หึ ๆ เพียงแต่กูคงลืมบอกมึงไปว่า กูให้มึง...แสนจ๊าต ไม่ใช่แสนบาท! ฮ่า ๆ แต่ถ้าคิดเป็นเงินไทย...ก็ได้ตั้งสามพันสามเชียวนะโว้ย แค่คุยกับกูไม่กี่นาที คุ้มจะตายไป ฮ่า ๆ..

    แม่งโว้ยไอ้สัตว์! แล้วยากูล่ะ เอายามาให้กูเดี๋ยวนี้นะ...ยา...ยา!!!!!

    เหอะๆ ไม่เคยมีใครบอกมึงเหรอะว่ายาเสพติดเป็นสิ่งผิดกฎหมาย  แล้วพลเมืองดีอย่างกู จะพกไว้ให้ตำรวจจับทำซากอะไร! มึงรีบ ๆ เก็บเงิน แล้วไสหัวไปซะ ก่อนที่แมงดาอัปรีย์อย่างมึงจะเสี้ยนยาตายคาห้อง...ไป๊!

    ไอ้สัตว์เอ้ย! อย่าให้กูรู้นะว่ามึงเป็นใคร ไม่งั้นกูเอามึงตาย!’

    ริมฝีปากซีดขาวของคำรณวัฒน์ตะคอกคำอาฆาตเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนเขาจะลุกลี้ลุกลนก้มเก็บเงินจ๊าตพม่าใส่บนเสื้อยืดที่กางออก แต่ครั้งนี้เขากลับถลันออกจากห้องไปอย่างง่ายดาย และภาพในคลิปก็หยุดอยู่แค่นั้น

    วินาทีถัดมา! ข้อความนี้ได้ปรากฏขึ้นแทนที่บนพื้นหลังสีดำในคลิป

    จะลาออกเองดี ๆ หรือจะให้หลักฐานนี้ถึงมือตำรวจ!

    น่าเสียดายที่ความภักดีนับสิบปี กลับย่อยยับเพียงคำ รัก ที่หวานหู

    จาก...อินทรีตาทิพย์

    ทันทีที่ภาพในคลิปวิดีโอดับลงพร้อมข้อความ แววตาสีน้ำตาลของชายมากอายุผู้รับสาสน์ ถึงกับไหวระริกไปมาด้วยความหวาดหวั่นพรั่นกลัวใจสั่นรัวตึกตัก ๆ อุ้งมือหนาชื้นไปด้วยเหงื่อเย็น ๆ ด้วยไม่คิดไม่ฝันว่า

    เพียงริลองทำบาปครั้งแรก...กรรมกลับตามทันแบบติดจรวดเช่นนี้!

     

    “แย่แล้วค่าคุณหนูรักแย่แล้ว!!!

    เสียงตะโกนร้องตื่นตกใจของพริกหวานดังขึ้นทันที ก่อนเจ้าตัวจะเปิดประตูผัวะเข้ามาในห้องทำงานส่วนตัวของเจ้านายสาว ที่เพิ่งจะหย่อนสะโพกงอนงามลงบนเก้าอี้ รักปายถึงกับสะดุ้ง ยกมือทาบอกอย่างตกใจ เลยหันไปเอ็ดเพื่อนสนิท ที่ควบตำแหน่งนักโภชนาการอาหารสัตว์ว่า

    “โอ๊ะ...ตายแล้ว! เอะอะอะไรกันแต่เช้าพริกหวาน ฉันจะหัวใจวายเพราะเสียงนกหวีดของเธอแล้วรู้ไหม เบา ๆ หน่อยสิจ๊ะยัยพริก...เฮ้อ...”

    “โธ่คุณหนู! แต่เรื่องนี้มันเรื่องใหญ่จริง ๆ นะคะ ดูนี่สิคะ!

    พริกหวานว่าพลาง ปรี่เข้าไปยื่นซองใบลาออกที่จ่าหน้าถึงนายสาว

    “หืม...??” รักปายโก่งคิ้วอย่างงง ๆ ในตอนรับซองสีขาวนั้นมา

    ครั้นแกะซอง รักปายพบจดหมายลาออกพร้อมแคชเชียร์เช็คที่ระบุชื่อเธอและขีดคร่อมไว้ นัยน์ตายิ่งเบิ่งโต ใจหล่นวูบ เมื่อไล่อ่านข้อความว่า

    ถึงหนูรักปาย...

    นับแต่เงิน 5 แสนของฟาร์มถูกปล้นไปอาทิตย์ก่อน อาก็กินไม่ได้ นอนไม่หลับ เพราะอารู้ว่า ช่วงนี้หนูรักหมุนเงินแทบไม่ทัน จนต้องควักเนื้อตัวเอง และยิ่งหนูไม่ต่อว่าอา นั่นยิ่งทำให้อาต้องพิจารณาโทษตัวเองอย่างสาสม ด้วยการลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายบัญชีและการเงิน และอาก็ละอายใจเกินกว่าจะกล่าวคำลาต่อหน้าหนูรักได้ เพราะที่แห่งนี้...ไม่ใช่แค่ที่ทำงานแลกเงิน แต่ที่นี่...ยังเปรียบเสมือนครอบครัวที่เต็มไปด้วยความรักความอบอุ่นสำหรับอามาโดยตลอด ทว่า...เป็นอาเองที่ทำให้ทุกอย่างพินาศ

    อาขอโทษนะหนูรัก...ที่ไม่อาจทำตามสัญญาซึ่งเคยให้ไว้กับคุณพ่อของหนูได้ ว่าอาจะอยู่ช่วยกันสร้างปศุสัตว์ของเราให้มั่นคงก้าวหน้า

    และนี่เป็นเพียงเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาสะสมไว้ ซึ่งแน่นอนว่ามันคงไม่มากพอที่จะไถ่บาปให้คนแก่ที่พลาดพลั้งไป แต่ได้โปรดเถิดหนูรักปายได้โปรดรับเงินก้อนนี้ไว้ด้วย เพื่อเห็นแก่อาเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งคนไร้ญาติขาดมิตรอย่างอาป้อง..จะไม่มีวันลืมบุญคุณของฟาร์มแห่งนี้ตราบจนวันตาย

    สุดท้ายนี้...อาขอคุณพระศรีรัตนตรัยทั้งหลาย ช่วยดลบันดาลให้หนูรักปายและฟาร์มแห่งนี้ จงประสพแต่ความสุขความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป อย่าได้มีอันตรายใด ๆ เข้ามาแผ้วพาน และหากมีผู้ใดคิดร้าย ก็ขอให้กลับกลายเป็นสิ่งดี เจริญสุขนะหนูรัก แล้วอาจะคอยเป็นกำลังใจให้หนูตลอดไป

                                          ด้วยรักและหวังดี...จากอาป้อง

    เพียงนัยน์ตาสลดของรักปายละจากจดหมาย กลีบปากชมพูบาง ๆ ของหญิงสาวได้รำพึงออกมาเบา ๆ ด้วยความใจหายว่า “โธ่...อาป้อง...”

    แค่เห็นสีหน้าและได้ฟังคำรำพันของเจ้านายสาว พริกหวานถึงกับอดรนทนไม่ไหว เอ่ยถามในสิ่งที่ตัวเธอคาดคะเนตั้งแต่เห็นจดหมายนั้นว่า

    “ที่อาป้องลาออก...เพราะเงินห้าแสนนั่นใช่ไหมคะ?!

    “....” รักปายมิมีแก่ใจที่จะปริปากอันใด นอกจากพยักหน้ายอมรับ แล้วยื่นจดหมายลาออกฉบับนั้นให้กับสาวผมม้าหน้าเด็กอย่างพริกหวาน  ที่อยากรู้ใจจะขาด รับไปอ่านข้อความซะเอง

    ส่วนในใจรักปายนั้น กลับเต็มไปด้วยตะกอนขุ่นแห่งความหนักใจระคนสลดซึมว่า ทำไม...ใครต่อใครถึงได้ทิ้งเธอไปพร้อม ๆ กันแบบนี้

    และอีกแค่เดือนเดียวก็ต้องปิดงบบัญชี แล้วนี่ใคร...จะช่วยเธอได้?!   

     

    แสงดาวระยับนับล้านพร้อมแสงจันทร์กระจ่างฟ้า สาดแสงนวลตาลงมายังกระท่อมริมธารา ที่มีพรพระพายได้อาศัยนอนหลับพักกายมาหลายราตรี หากทว่าเวลาดึกดื่นค่อนคืนเยี่ยงนี้...สาวนัยน์ตาสีกาแฟผู้เพิ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าแผนกบัญชีและการเงิน ประจำฟาร์มรักปายคนใหม่ ตามแผนการที่วางไว้ ยังคงก้มหน้าก้มตาอ่านแฟ้มบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของธุรกิจปศุสัตว์ นอกจากนี้ยังมีบัญชีแสดงรายได้และรายจ่าย บัญชีแสดงการหมุนเวียนเงินสดของฟาร์ม แล้วยังมีบันทึกอื่น ๆ เกี่ยวกับการทำธุรกิจปศุสัตว์ที่วางตั้งนับสิบแฟ้มซึ่งต้องอ่านและทำความเข้าใจเป็นพะเรอเกวียน แม้นอกกระท่อมจะมีเสียงธารใสไหลหลากมาตามโขดหิน และเสียงจักจั่นเรไรใบไม้ไหวน่าฟัง หากยังมิอาจดึงความสนใจจากพรพระพายได้สักนิด

    กระทั่งเสียงเรียกเข้า iPhone 6 สีทองแชมเปญที่วางไว้ข้างแฟ้มบัญชีบนโต๊ะทำงานของสาวลูกครึ่งมาดเคร่งดังตึ่งตึงในเวลาห้าทุ่มกว่า ๆ

    พรพระพายผ่อนลมหายใจออกเล็กน้อยที่ถูกขัดจังหวะการทำงาน หากอดสงสัยไม่ได้ว่า ใครกันโทร.หาเธอในเวลาดึกดื่น?! ถ้าเป็นเมื่อก่อน แวบแรกที่ได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือยามวิกาล รู้เลยว่า บัวบูชา...หญิงเดียวในดวงใจเธอโทร.มาราตรีสวัสดิ์ก่อนนอน แต่นี่คือเบอร์มือถือใหม่ที่เธอเก็บไว้ใช้เฉพาะกับคนในฟาร์ม ดังนั้นคิ้วเรียวโค้งของพรพระพายจึงขมวดนิด ๆ เมื่อเห็นหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ร่วมขบวนการโชว์หราบนหน้าจอมือถือ

    ฉะนั้นสาวสูงระหงพรพระพายจึงกรอกเสียงฉงนไปตามสายว่า

    “มีอะไรหรือคะคุณลุง ถึงได้โทร.มาเบอร์นี้”

    “เอ่อ...คืองี้นะพระพาย คุณปกป้อง...เขา...เขา...”

    เสียงลุงเงียบลงชั่วครู่ ทำให้โบรกเกอร์สาวยิ่งสนเท่ห์ รีบซักต่อว่า

    “อือ...มีอะไรก็รีบพูดเถอะค่ะคุณลุง พระพายไม่อยากให้เราต้องพูดคุยกันเบอร์นี้นาน ๆ หน้าต่างมีหู ประตูมีช่อง ว่าแต่...เขาทำไมคะ?

    หลานแท้ ๆ ของตระกูลเพชรนาคาลดเสียงลง พลางกวาดตาระวังมองไปนอกกระท่อมริมธาร ที่อีกฟากมีแค่แสงขาว ๆ ของโคมไฟสนามตรงทางเดิน อย่างไรก็ดี เสียงเล่ารวดเดียวของผู้เป็นลุงในเวลาต่อมา ทำให้ใจแข็งแกร่งเย็นชาของพรพระพายกระตุกวูบ มือไม้ชื้นรวดเร็ว ประโยคนั้นคือ

    “คืองี้นะพระพาย...พอ...เอ่อ...พอคุณปกป้องแกลาออกจากฟาร์ม ก็ดูเหมือนว่าแกจะสำนึกผิดกับสิ่งที่ทำพลาดไป แกเลยตามหาไอ้แมงดานั่นไปถึงบ่อนแถวชายแดนพม่า ซึ่งตอนนั้นไอ้ผีพนันนั่นมันกำลังมือขึ้น มันเลยหัวเสียขนาดหนักแต่ก็ยังเดินหนี ถึงอย่างนั้นคุณปกป้องเขายังตามมันขึ้นไปตรงบันได ขอร้องให้มันรีบนำเงินห้าแสนมาชดใช้ ถึงขนาดยอมก้มกราบมัน แต่นั่นยิ่งทำให้มันรู้สึกเสียหน้าเพราะสาว ๆ ที่มันคุยโม้ว่าบ้านมันรวย มีเงินเป็นกะตั๊กเมื่อไม่นาน เลยพากันซุบซิบนินทาใหญ่ แถมคุณปกป้องยังไปร้องเรียกมันว่า ที่รัก ๆ อีก ทีนี้มันเลยยิ่งโมโหเลือดขึ้นหน้า ซัดแข้งซะเต็มหน้าเขาจนกระเด็น ศีรษะด้านหลังลอยไปกระแทกขอบเสาบันไดเข้าอย่างจัง โดนจุดสำคัญตรงท้ายทอยพอดี เขาเลย...เอ่อ...เลยตายคาที่น่ะพระพาย”

    “.....!!!” สิ่งที่ได้ยิน ทำให้พรพระพายอึ้งตะลึง อ้าปากเผยอค้าง  ใจสั่นไหว ด้วยหญิงสาวไม่คิดว่า เรื่องจะเลยเถิดไปกันใหญ่ถึงเพียงนี้

    นี่...นี่เธอมีส่วนทำให้เขารนหาที่ตายหรือ?! อะไรกันเนี่ย!!!

    อย่างไรก็ตาม เสียงทุ้มของหนุ่มใหญ่ในสายยังคงเร่งเล่าเรื่องต่อว่า

    “ตอนที่ลุงได้รับรายงานจากอินทรีตาทิพย์ ลุงก็ช็อกไปเหมือนกัน ทีนี้เลยร้อนใจจนต้องโทร.มาเล่าให้ฟัง เฮ้อ...แต่...แต่ทำยังไงได้ล่ะพระพาย  คนเราน่ะพอถึงที่ตาย...ยังไงมันก็หนีไม่พ้นหรอก เพราะฉะนั้นหลานไม่ต้องรู้สึกผิด หรือโทษตัวเองไปหรอกนะ ทุกสิ่ง...มันเป็นไปตามกรรมของมันเอง ส่วนพวกเราก็เป็นแค่ฟันเฟืองหนึ่งเท่านั้น เอาเป็นว่าหลานก็อย่าคิดมากจนเสียแผนที่วางไว้ล่ะ งานนี้...คุณปู่ท่านหวังไว้มาก ท่านรอคอยที่จะได้ขุดค้นที่ผืนนี้ทุกตารางนิ้ว และถ้าค้นเจอเมื่อไหร่ ท่านคงนอนตายตาหลับซะที”

    ค้นอะไร?! ยังไม่ทันที่พรพระพายจะถามออกไปดั่งใจคิด

    ทันใดนั้น! เสียง ๆ นี้กลับดังก๊อก ๆ ๆ! ครั้นหญิงลูกครึ่งหน้าถอดสีหันขวับไปตามเสียงเคาะประตูที่เปิดอ้ารับลมไว้นั้น ใบหน้าเนียนใสของสาวผิวสีน้ำผึ้งเรือนร่างอรชร ซึ่งอยู่ในเดรสชุดนอนสไตล์เชิ้ตสีฟ้าพับแขนยาว  ก็ยื่นหน้าเข้ามาส่งยิ้มเขินปนเกรงใจ ก่อนจะย่างเท้าเข้ามาในห้องรับแขกที่ถูกปรับให้เป็นห้องทำงาน แต่ว่าพอรักปายเห็นหน้าตระหนกของหัวหน้าแผนกบัญชีคนใหม่ ซึ่งเขายังถือมือถือค้างไว้ตรงหู เธอจึงรีบก้มหน้าขออภัย

    “อุ้ย! ขอโทษค่ะที่รักเสียมารยาท คือว่า...เมื่อกี้นี้รักไม่ทันเห็นว่าคุณพระพายกำลังคุยโทรศัพท์อยู่น่ะค่ะ ขอโทษจริง ๆ ค่ะ ถ้าอย่างนั้น...เดี๋ยวรักออกไปรอตรงระเบียงก่อนนะคะ”

    น้ำเสียงรักปายเต็มไปด้วยความเกรงอกเกรงใจ พลางก้มหน้างุด ขัดเขิน ทั้งที่ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในปศุสัตว์แห่งนี้เป็นของเธอแท้ ๆ

    อย่างไรก็ตาม สาวบอบบางได้รีบกลับหลังหัน เตรียมก้าวจากไป

    หากกระนั้นรักปายจำต้องผินหน้ากลับมาทางสาวเท่ลูกครึ่งอีกครั้ง เมื่อพรพระพายใช้มือขวาเย็นชื้นรั้งข้อศอกของเธอไว้ ทั้งยังสะกดเธอด้วยนัยน์ตาสีกาแฟแสนลี้ลับที่อ่านไม่ออก คล้ายจะมีความรู้สึกตื่นเต้นกังวลใจหลากหลายอยู่ในนั้น

    อุ้ยตายล่ะ...นี่ถ้าเขาเป็นผู้ชาย เขาจะคิดว่า เรามาอ่อยเขาถึงที่หรือเปล่าเนี่ย?! มะ...ไม่นะ! เราก็แค่เป็นห่วงเขาเท่านั้นเอง  

    เพียงคิดเตลิดถึงตรงนี้ พักตราใสพิสุทธิ์ของรักปายก็แดงซ่านร้อนซู่ไปถึงใบหู เจ้าตัวเลยแก้เขินด้วยการยกแก้วโกโก้ที่เพิ่งชงร้อน ๆ ให้ดู พร้อมบอกอย่างรีบร้อนว่า “คือรักแค่จะเอาโกโก้ร้อน ๆ มาให้คุณพระพายน่ะค่ะ เพราะเห็นคุณนั่งดูบัญชีพวกนี้มาตั้งแต่หัวค่ำแล้ว คงเหนื่อยแย่ อ๊ะ...นี่ค่ะ”

              รักปายพูดอย่างตื่นเต้น ทั้งยัดแก้วโกโก้ใส่มือหัวหน้าแผนกบัญชีคนใหม่แบบเร็ว ๆ หากทว่าด้วยความที่พรพระพายเพิ่งจะยัดมือถือลงไปในกระเป๋ากางเกง สาวลูกครึ่งจึงไม่ทันตั้งตัว น้ำโกโก้ชงร้อน ๆ เลยกระฉอกลงบนหลังมือขาว ๆ ซะครึ่งแก้ว หญิงสาวเลยร้อง “โอ๊ะ...!อย่างตกใจ

    และรีบสะบัดมือออกอย่างอัตโนมัติ เพราะแสบร้อน แต่ดันพลั้งไปโดนแก้วโกโก้เซรามิคที่คุณหนูรักปายถือไว้ ซึ่งเจ้าตัวยังมัวแต่เบิกตาตื่นตกใจเช่นกัน แล้วแก้วก็ตกแตกดังเพล้ง! เฉียดปลายเท้าของพรพระพายไปนิดเดียว มิหนำซ้ำน้ำโกโก้ร้อนจัดอีกครึ่งแก้ว ยังราดลงมาซะเต็มเท้า!

    “โอ๊ย!!! อ๊า...” สาวเท่ระหงที่ซวยซ้ำซ้อนร้องโอด พร้อมโดดโหยง  ยกฝ่าเท้าขึ้นกุม หน้าเหยเก 

    นารีร่างเล็กที่เป็นตัวต้นเหตุยิ่งตื่นตะลึงกับเรื่องที่เกิดขึ้น ใบหน้าสวย ๆ เริ่มถอดสี ก่อนจะได้สติ รีบละล่ำละลักว่า

    “อ๊ะ!!! คุณ...คุณพระพาย! รัก...รักขอโทษค่ะ รักไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ ยังไงรักจะรีบเก็บเศษแก้วให้ก่อนนะคะ ไม่งั้นเดี๋ยวมันจะบาดคุณเอา”

    “โอ๊ะ! ไม่...ไม่ต้องค่ะคุณรัก เดี๋ยวพี่ทำเองดีกว่า คุณไปนั่งรอตรงโซฟาเถอะค่ะ” พรพระพายที่อยู่ในฐานะลูกน้องเลยต้องรีบก้มลงใช้มือเก็บเศษแก้วเซรามิคที่กระจายเกลื่อน

    แต่แล้ว! เจ้าตัวถึงกับร้อง “อุ๊ย! โอ๊ย...โธ่เอ้ย เลือดออกจนได้สิ!

    เมื่อเศษแก้วคม ๆ บาดนิ้วชี้เข้าอย่างจัง จนเลือดแดงไหลซิบ

    ด้วยความลืมตัว พรพระพายเกือบจะใช้ปากดูดปลายนิ้วจ๊วบ ๆ เพื่อห้ามเลือดซะแล้ว ทว่าสาวพักตร์พริ้มฝั่งตรงข้ามรีบห้ามเสียงหลงว่า

    “อย่าค่ะ! เดี๋ยวแผลติดเชื้อ ไปนั่งตรงโซฟาก่อนนะคะ...มาค่ะ”

    สิ้นคำ รักปายก็กุลีกุจอเข้ามาประคองร่างพรพระพาย ให้ถอยไปนั่งตรงโซฟา จากนั้นกัลยาณีร่างบางถึงจับปลายนิ้วเรียวของหญิงลูกครึ่งที่ซวยซ้ำซ้อนหนที่ 3 ขึ้นมาเค้นบริเวณบาดแผลเพื่อชะล้างสิ่งสกปรกออกแล้วหันไปคว้าทิชชูตรงโต๊ะกลางโซฟามาซับแผลให้อย่างนุ่มนวลอ่อนโยน ปล่อยให้คนเจ็บตัวได้มีเวลาเพ่งพิศนวลหน้าพยาบาลจำเป็นอย่างใกล้ชิด ยิ่งมอง พรพระพายยิ่งประจักษ์แก่ใจว่า คุณหนูรักปายเป็นสาวงามพิศนัก วงหน้าเรียวสวยโดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม ผิวสีน้ำผึ้งเนียนลอองามเปล่งปลั่ง   ตากลมโตดูผ่องใสบริสุทธิ์ จมูกโด่งกำลังดี ปากชมพูจิ้มลิ้มดูสวยเอิบอิ่มนัก

    นี่สินะที่เขาว่า หญิงงามพิศ...ยิ่งมอง ความงดงามยิ่งผุดพรายขึ้นมาเรื่อย ๆ ส่วนธาตุแท้แห่งจิตใจนั้น อือ..ก็น่าจะเป็นคนดีมีน้ำใจไม่น้อยทีเดียว

    แต่มันจะเป็นเพียงภาพลวงตา หรือมารยาหญิง เหมือนอย่างที่เธอเคยเจอหรือเปล่านะ หึ ๆ ขึ้นชื่อว่าผู้หญิง...อะไร ๆ ก็เป็นไปได้ทั้งนั้นนี่

    พรพระพายคิดเยาะในแง่ร้ายเพื่อปกป้องหัวใจตนเอง ไม่ให้ตกลงไปในหลุมพรางแห่งความรักได้อีก

    แค่ครั้งเดียว...ก็เจ็บเจียนตายจนเกินพอแล้ว!

    ฉับพลันพักตราเพริศพริ้งของบัวบูชาได้ผุดขึ้นในห้วงคะนึงอีกครา สตรีเดียวที่เธอทั้งรักและทั้งเกลียด กระนั้นภาพแรกที่ได้พานพบกันยังคงติดตรึงในหัวใจพรพระพาย ถ้าวันนั้นไม่เป็นเพราะพวงหยกเพื่อนสนิทเธอต้องเข้ารับการผ่าตัดไส้ติ่งอย่างเร่งด่วน ได้ไหว้วานให้เธอนำกุหลาบสีส้ม ช่อใหญ่พร้อมการ์ด ไปให้กำลังใจดาวคณะนิเทศฯ ที่สนิท ซึ่งยอมเล่นละครเวทีคลาสสิกของวิลเลียม เชกสเปียร์เป็นครั้งแรก เธอสองคนคงไม่ได้พบกัน

    วินาทีแรกที่บัวบูชาปรากฏกายบนเวทีในบทจูเลียต...สตรีผู้บูชารัก นับแต่นั้น...หัวใจเธอดั่งถูกจับจองให้เป็นของสาวงามรุ่นน้องต่างคณะที่ชื่อ บัวบูชา ผู้มีดวงหน้าเพริศพริ้มขาวชมพูสะพรั่งงามไร้ที่ติ เนตรคมงามขำดุจดั่งตากวางวาวใส ทรวดทรงงดงามสะคราญตาดุจเทพเทวาบรรจงสร้าง แลผิวพรรณขาวเนียนผุดผ่องเป็นยองใย เรือนผมตรงเงางามเปล่งประกายหอมกรุ่นติดจมูกนัก เวลาสัมผัส...ช่างนุ่มละมุนมือเหลือเกินดุจไหมชั้นเลิศ ยิ่งได้ยินน้ำเสียงไพเราะขับขานของบัวบูชา ยิ่งทำให้เธอเคลิบเคลิ้มคลั่งไคล้     

    แต่แล้วสติของพรพระพายที่เผลอคำนึงถึงหญิงคนไกลในเมืองกรุง จำต้องยุติลงชั่วขณะ เมื่อพยาบาลสาวเจ้าของกลีบปากชมพูกุหลาบเอิบอิ่มได้เงยหน้าขึ้นมา ยิ้มสวยจนเห็นไรฟันขาวราวไข่มุก เอ่ยเสียงเล็กน่ารักว่า

    “เลือดหยุดแล้วล่ะค่ะคุณพระพาย ถ้างั้นเดี๋ยวเราเข้าไปราดน้ำตรงมือและเท้ากันในห้องน้ำนะคะ เสร็จแล้วรักจะได้ทายาสีฟันให้...เชิญค่ะ”

    รักปายชักชวนยิ้มอ่อนหวาน ก่อนจะลุกขึ้นประคองพรพระพายประหนึ่งหญิงสาวเป็นคนป่วยที่ช่วยตัวเองไม่ได้ซะอย่างนั้น ซึ่งกิริยานุ่มนวลอ่อนโยนที่เต็มไปด้วยธรรมชาติของนายสาว พลอยทำให้รอยคลี่ยิ้มจาง ๆ แสดงความขอบคุณ ปรากฏบนใบหน้าสวยเท่สไตล์ลูกครึ่งของพรพระพาย

    เมื่อล้างมือล้างเท้าเสร็จ รักปายยังคงปฏิบัติเกินหน้าที่นายจ้างโดยดื้อดึงทายาสีฟันตรงหลังมือและบริเวณเท้าที่ถูกน้ำร้อนลวกให้พรพระพาย ทั้งที่คนซวยซ้ำซ้อนร้องห้ามแท้ ๆ และรักปายยังจัดแจงหาพลาสเตอร์ยามาปิดตรงบริเวณบาดแผลให้อีกอย่างเบามือ ก่อนจะยืดตัวลุกขึ้นมากล่าวคำขอภัยอีกหนด้วยแววตาสำนึกผิดที่หลุบลงว่า “รักต้องขอโทษคุณพระพายอีกครั้งนะคะ ที่ซุ่มซ่ามจนทำให้คุณต้องเลือดออกแบบนี้ รักขอโท...”

    กลีบปากชมพูอิ่มเรื่อของรักปายเจรจาได้เพียงเท่านี้ ก็ถูกสาวสวยสมาร์ตตรงหน้า ใช้นิ้วโป้งอุ่น ๆ ปิดตรงริมฝีปากเธอไว้เสียนี่ ก่อนเขาจะเชยปลายคางขึ้น ครั้นคุณหนูรักปายเลื่อนสายตาเคอะคะขึ้นมาสบประสานกัน  แค่นี้ใจใส ๆ ของหญิงสาวก็เกิดอาการสั่นไหว ตื่นเต้นเคอะเขินเหนียมอาย ด้วยสตรีที่เธอแอบชื่นชมในใจ ยังคงไล้ปลายนิ้วโป้งเกลี่ยบนปากนุ่มของเธอ ซ้ำเขายังจดจ้องด้วยแววตาวาวระยับดั่งดาวสกาวแสงให้ใจเต้นตึกตักขึ้นอีก ก่อนเขาจะส่ายหัว ทั้งคลี่ยิ้มนิด ๆ ดูมีเสน่ห์ ทอดเสียงค้านน่าฟังกับเธอว่า

    “หึ ๆ ไม่เอาค่ะ ไม่พูดคำนี้อีกแล้วนะคะคุณรัก เพราะดูเหมือนว่าคืนนี้...คุณรักจะพูดคำว่าขอโทษ ๆ กับพี่บ่อยมากเลย”

    “แต่...” ไม่วายที่รักปายจะแย้งน้อย ๆ ออกมาอย่างสำนึกผิด ซึ่งท่าทางของหญิงสาวเช่นนี้ ช่างเหมือนกับเด็กน้อยผู้บริสุทธิ์ที่เพิ่งเคยกระทำความผิดเป็นครั้งแรก โดยไร้เล่ห์เหลี่ยมมารยาปรุงแต่ง

    นั่นพลอยทำให้รอยยิ้มเอ็นดูของนักค้าหุ้นสาว ที่เพิ่งผุดพรายได้   ไม่นาน ค่อย ๆ จางหายไป เมื่อสามัญสำนึกแห่งธาตุแท้ในจิตใจพรพระพาย ทำให้หญิงสาวนึกถึงเหตุรันทด ที่ทำให้คุณปกป้องต้องจบชีวิตลงอย่างน่าอนาถในบ่อนกาสิโน ซึ่งแม้นว่าตัวเธอเองจะไม่ใช่ตัวต้นเหตุที่แท้จริงก็ตาม แต่การที่พวกพ้องของเธอ ลงทุนวางแผนบีบคั้นให้เขาต้องเขียนใบลาออกจากฟาร์มรักปายแห่งนี้ มันก็ทำให้เธอรู้สึกหน่วง ๆ แกมอดสูใจไม่ได้อยู่ดี

    ครั้นคิดมาถึงตรงนี้ แววตาเปล่งแสงหยอกเย้าวับวาวเมื่อครู่ของ พรพระพายก็สลดวูบลง ก่อนตัวเธอจะภาวนาในใจว่า

    คุณปกป้องคะ...ขออโหสิกรรมให้พระพายด้วยเถอะนะคะ และขอให้ดวงวิญญาณของคุณไปสู่สุคติด้วยเถิด อย่าได้จองเวรกันและกันเลย ทั้งชาตินี้และภพหน้า และขอสัญญาว่า ภายภาคหน้า...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พระพายยังคงยืนยันเจตนา ว่าจะช่วยให้ฟาร์มแห่งนี้เสียเปรียบน้อยที่สุด

    ดังนั้นแววตาของพรพระพายจึงอ่อนแสงลง พร้อมกับใบหน้าเรียวเปลี่ยนเป็นขรึมลง ตอนกล่าวคำนี้กับนารีจิตผุดผ่องผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ว่า

    “ไม่มีแต่ค่ะคุณรัก เพราะคนอย่างพี่...เลือดออกแค่นี้ยังน้อยไป

    ใช่! คนที่ตั้งใจใช้เล่ห์อำพรางเข้ามาในฟาร์มนี้ตั้งแต่แรกอย่างเธอ  ก็สมควรแล้วที่จะโดนแบบนี้ พรพระพายอดติเตียนตนเองไม่ได้ แต่...

    “ทำไมพูดถึงตัวเองยังงั้นละคะคุณพระพาย?” เสียงเล็ก ๆ แย้ง

    คิ้วสวยของรักปายโก่งขึ้นนิดๆ อย่างฉงนในประโยคแฝงความนัย ทำให้ใบหน้าจิ้มลิ้มนวลเนียนดูซื่อบริสุทธิ์เอามาก ๆ จนพรพระพายอดไม่ได้ที่จะหยอกเย้าดรุณีน้อยผู้ใสซื่อ เลยเผลอคลี่ยิ้มลึกลับตรงมุมปากดูมีเสน่ห์เหลือร้าย ก่อนเขาจะเท้าแขนกักร่างแบบบางของรักปายไว้ในอ้อมแขนอุ่น

    จากนั้นสาวสวยเท่ตาคมถึงโน้มหน้ากรุ้มกริ่มพริ้มพรายลงมาใกล้นงคราญงามพิศแสนพิศุทธิ์ แกล้งให้ลมหายใจอุ่น ๆ รวยรินรดข้างซอกคอหอมจรุงของรักปาย ที่ใช้เพียงแป้งเด็กอ่อน ๆ

    ซึ่งทุกกิริยาอาการของพรพระพาย ส่งให้สาวพรหมจรรย์วัย 21 ปี เกิดความรู้สึกขัดเขินอย่างหนัก ใจยิ่งไหวระรัวเสมือนมีกลองนับร้อยมาตีประชันขันแข่ง ขนกายลุกชันอย่างห้ามไม่ได้ ผิวกายมือไม้เริ่มเย็นชื้นทั่วทั้งสรรพางค์กาย ส่วนสองนวลปรางนั้น ยิ่งร้อนผะผ่าวเสมือนถูกเตาไฟอัง  

    ยิ่งกัลยาไร้จริตจิตใจอ่อนไหว ได้ฟังเสียงกระซิบกระซาบรัญจวนใจของนักบัญชีคนใหม่ เอื้อนเอ่ยวจีแฝงความนัยอีกครั้งข้างใบหูเธอว่า

    “เพราะพี่...กำลังคิดไม่ซื่อ...กับคนแถวนี้ยังไงละคะ”

    ทั้งคำพูด และนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มพราวพรายของพรพระพายที่ จดจ้องมองมา ทำให้ห้วงหทัยของรักปาย เต็มไปด้วยความเอิบอิ่มซาบซ่าน พลอยทำให้ความหวังของคนแอบชื่นชมรักใคร่ในใจ เริ่มผลิบานทีละน้อย ๆ

    อย่างไรก็ดี อาการตื่นเต้นดีใจในเรื่องที่เขาอาจมีใจ ดูเหมือนจะเริ่มสำแดงเดชออกมาตามพักตร์พริ้มชมพูระเรื่อ ที่ร้อนผ่าวมากขึ้นเรื่อย ๆ

    ดังนั้นอนงค์นางหน้าแฉล้มจึงหลบตาตื่นเต้นปนเขินอายไปทางอื่น แทนการสบตาสุกปลั่งพร่างพราวของพรพระพาย ซึ่งเสมอเหมือนแสงดาวกระพริบพรายในดาราจักรลึกลับอันไกลโพ้น ที่ลอยเด่นบนใบหน้าสวยคมแฝงเสน่ห์ดึงดูด โดยยากนักที่จะคะเนได้ว่า อิสตรีนัยน์ตาลี้ลับผู้นี้...รู้สึกกับเธอเช่นใด?! แค่หมาหยอกไก่ หรือว่าเริ่มมีใจ

    ถึงกระนั้นเวลานี้...เธอมิอาจทนสบตาแวววาวของเขาได้อีกต่อไป ดังนั้นรักปายจึงแก้เขินว่า “นี่ก็ดึกมากแล้ว ยังไง..รักขอตัวกลับก่อนนะคะ”

    จากนั้นรักปายได้รีบกลับหลังหัน เตรียมก้าวจากมา อย่างไรก็ตามข้อมือบอบบางของหญิงสาว กลับถูกรั้งอีกรอบ รักปายจึงต้องหันหน้าฉงนกลับมาทางหญิงหัวหน้าแผนกบัญชีคนใหม่ ถามเขาเสียงสั่นหน่อย ๆ ว่า

    “มะ...มีอะไรหรือคะ?

    ผู้ฉุดรั้งกลับส่งยิ้มละมุน ทอดเสียงนุ่มละไม ปฏิเสธรักปายว่า

    “ไม่มีอะไรค่ะ แค่สงสัยว่า...”

    พรพระพายแสร้งเว้นจังหวะ พลางหลุบตาคมเข้มละเลียดอยู่แถว ซอกคอหอมกรุ่นจรุงใจของหญิงสวยบริสุทธิ์ตรงหน้าเพียงครู่ ก่อนจะเลื่อนสายตาคมเข้มล้ำลึกจดจ้องนิ่ง ๆ ให้รักปายเกิดอาการประหม่าอีกหนจนได้

    ท้ายที่สุด...เรียวปากสีชมพูกุหลาบของหญิงสะคราญผู้ถูกเพ่งพิศจนใจสั่น จำต้องถามถึงสิ่งที่เขาค้างไว้ว่า

    “อ่า...คุณ...คุณพระพายสงสัยอะไรคะ? 

    หากกระนั้น พรพระพายยังใช้คำพูดที่ทำให้นายจ้างสาวเกิดอาการเขินอายไม่หยุดหย่อน ผิวแก้มเนียนใสยิ่งแดงเรื่อร้อนซู่ เมื่อเขาถามเธอว่า

    “คุณรักใช้แป้งยี่ห้ออะไรคะ...ถึงได้...”

    หยุดคำไว้เพียงแค่นี้ ก่อนพรพระพายจะโน้มปลายจมูกโด่ง ๆ ลงสูดกลิ่นหอมระรื่นชื่นใจตรงข้างซอกคอของรักปายอีกครา ทั้งทอดน้ำเสียงซาบซ่านกระเส่าใจผู้สดับฟัง ให้แทบใจละลายอยู่ตรงนั้นว่า

    หอมจัง...หึ ๆ แต่ตอนนี้...พี่คงต้องบอกว่า ฝันดีนะคะ...คุณรัก

    “อ่า...คะ...ค่ะ...ฝะ...ฝันดีเช่นกันค่ะ ขอตัวนะคะ”

    รักปายตื่นเต้นจัดจนพูดจาตะกุกตะกักอย่างอัตโนมัติ

    ดังนั้นหญิงสาวจึงรีบหอบใจบริสุทธิ์สั่นไหว หน้าร้อนซ่านเขินอาย สาวเท้าออกจากกระท่อมริมธารให้ไวที่สุด  ปล่อยให้หญิงเท่ร้อยเสน่ห์มองตามร่างด้วยรอยคลี่ยิ้มพึงใจ ที่แผนพิชิตใจกำลังดำเนินไปด้วยดี ซึ่งบางที...การเจรจาซื้อที่ดินและกิจการฟาร์มรักปาย อาจจบลงในเร็ววันนี้ก็เป็นได้

    ฉับพลันทันใด!

    บทสนทนาที่ค้างคากับผู้เป็นลุงได้ผุดขึ้นในหัวพรพระพายว่า

    คุณปู่ต้องการค้นอะไรในที่ผืนนี้กันแน่?!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×