ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Larry Stylinson] .♡ - Valentine's Day。¦ - [1D Fanfiction]

    ลำดับตอนที่ #5 : 04 - ` Lugubrious 。 - Zouis Talik ♔ [end]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 416
      3
      24 ธ.ค. 56

    ? Supercell








     

     

    .ZOUIS – Lugubrious 

     

    .Zayn Malik & Louis Tomlinson?

    .24/12/13

    @popo_punchy

     

     

     

    *** สามารถเวิ่นลงทวิตได้ด้วยแท็ก #4loveforLOU นะคะ

    เวิ่นนะนะนะนะ ;3

     

     














     

     




     

    “ขอโทษที่ให้รอนะครับ พายสัปปะรดสองชิ้น ขนมปังคัสตาร์ดสามก้อน แล้วก็อันนี้ของแถมจากทางร้านครับ รวมทั้งหมด 130 บาท.. ไม่ต้องทอนหรอครับ ขอบคุณนะครับ”

     

    มือเล็กรับธนบัตรสีแดงสองใบมาพร้อมยิ้มรับด้วยความยินดี ก่อนที่จะจัดแจงยกถุงขนมให้แก่มือลูกค้า ทุกคนอาจจะสงสัยว่าผมกำลังทำอะไร ตอนนี้ผมกำลังทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านเบเกอรี่เล็กๆใกล้บ้านพักนักศึกษาอยู่ครับ

     

    “ลูอี เดียวช่วยยกถาดไปเก็บหลังร้านแล้วก็กลับบ้านได้เลยนะ”

     

    “ครับ ขอบคุณมากนะครับ”

     

    “ไม่ต้องขอบคุณหรอก ที่ร้านเราขายหมดแบบนี้ทุกวันก็เพราะมีพ่อค้าหนุ่มหน้าตาน่ารักแบบนายไม่ใช่หรือไง”

     

    “คงจะเป็นที่ร้านมีแต่ขนมอร่อยๆมากกว่านะครับ”

     

    ชายชราเจ้าของร้านยิ้มให้ก่อนเดินกลับเข้าไปด้านหลังร้าน ผมหอบถุงขนมที่เป็นโบนัสสำหรับวันนี้กลับบ้านไปด้วย ว่าไปแล้วตลอดสามปีที่อยู่ที่นี่ผมก็ผูกพันกับเมืองนี้อย่างบอกไม่ถูก จนมีความคิดว่าเรียนจบก็ยังจะอยู่ที่นี่ต่อ

     

    ทางเดินเข้าไปในบ้านเป็นซอยเล็กที่ห้ามรถผ่าน มีเพียงบ้านพักที่เรียงต่อกันเป็นแถวยาว บ้านของผมอยู่ห่างไปจนถึงสุดซอย จึงไม่ค่อยมีใครผ่านเข้าไปได้ ด้านหลังปกคลุมไปด้วยทุ่งหญ้าสูงรกร้าง ผมวิ่งไปเรื่อยๆตามทางที่ไม่มีแม้แต่แสงไฟนีออนโดยอาศัยความชำนาญส่วนบุคคล จนกระทั่งถึงหน้าบ้านก็ชะงัก

     

    เงาชายปริศนาที่กำลังยืนอยู่ตรงประตูหน้าบ้านทำให้ผมผงะ พร้อมกับล้วงมือหาอาวุธป้องกันตัวภายในกระเป๋า มือเรียวคว้าหนังสือชีวะเล่มหนามาไว้ในมือเตรียมพร้อมถ้าอีกฝ่ายจู่โจมเข้ามา พร้อมกับก้าวขาช้าๆเพื่อไม่ให้เกิดเสียง

     

    เมื่อเข้าใกล้ ผมได้ยินเสียงเหมือนกับว่าชายปริศนาพยายามที่จะงัดเข้าไปในบ้าน ผมไม่ลังเลที่จะทิ้งถุงขนมพร้อมกับใช้สองมือที่ถือหนังสือฟาดไปที่ศีรษะของโจรอย่างรุนแรง ชายปริศนาร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด ผมฟาดซ้ำลงไปอีกสองสามที ทว่าชายปริศนากลับปัดป้องการโจมตีนั้นได้ และหันมาคว้าข้อมือของผมซะงั้น ทำเอาหนังสือในมือร่วงลงไปบนพื้นหมดหนทางขัดขืน ก่อนที่ใบหน้าของชายปริศนาจะโฉบลงมาที่บริเวณข้างหูของผม

     

    “ตัวสั่นเชียว.. กลัวหรือไง..”

     

    “นะ.. นายเป็นใคร”

     

    “หายไปแค่สองปี ทำเป็นจำกันไม่ได้”

     

    “ฉันว่า ฉันไม่เคยรู้จักโจร ขโมย หรือคนที่กำลังงัดเข้าบ้านคนอื่นแบบนาย!

     

    ไอโจรปริศนาคลี่ยิ้มพร้อมกับใช้แขนโอบรอบเอวของผมให้เข้าไปใกล้ๆ ก่อนที่ลมหายใจอุ่นๆที่รดหน้าผากทำให้ผมคิดอะไรบางอย่างออก เมื่อเงยหน้าขึ้นไปพบก็ไปสบดวงตาสีเฮเซลอันเป็นประกายในความมืด ที่เป็นเครื่องยืนยันความมั่นใจอีกครั้ง

     

    “ซะ.. เซนหรอ”

     

    “คิดว่าจะจำกันไม่ได้ซะแล้ว”

     

    ณ วินาทีนั้น แทนที่ผมจะถอยห่างออกจากโจรที่พยายามงัดเข้าบ้าน กลับกลายเป็นผมเข้าไปโอบกอดลำตัวของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว วงแขนของอีกฝ่ายล้อมรอบตัวผมพร้อมกับมือที่ลูบไล้ไปบนเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนอย่างอ่อนโยน

     

    ทุกสัมผัสมันคือสิ่งที่ผมโหยหามาตลอดยี่สิบสี่เดือนที่ผ่านมา

     

                มันอยู่ตรงหน้าผมแล้ว..  

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    zouis - Lugubrious

     

     

     

     



     

     

     

    “หายไปนานขนาดนี้ทำไมไม่กลับมาตอนฉันเรียนจบเลยล่ะ”

     

                “อ้าว ทำไมไม่บอกก่อน รู้งี้ไม่รีบกลับดีกว่า”

     

                “เซน!” ผมใช้ฝ่ามือของตัวฟาดไปที่ลาดไหล่ของเซน จนร่างสูงร้องโอดครวญ

     

                “คิดถึงก็บอกมาเหอะ”

               

    “ใครเขาจะไปคิดถึงคนที่หายไปเป็นปีๆ”

     

                “แล้วที่เมสแสจมาทุกวันคืออะไร?” เซนยิงคำถามมาด้วยใบหน้าล้อเลียน ทว่าคำถามนั้นทำให้ผมกำลังรู้สึกถึงความร้อนบนใบหน้า

               

                “อะไรกัน เห็นแล้วทำไมไม่ตอบ นี่ตั้งใจจะทิ้งกันเลยใช่ไหม” ผมเริ่มเบี่ยงประเด็น เมื่อเซนเห็นว่าผมจะเริ่มงอน ก็ปรี่ตัวเข้ามาโอบเอวแล้วใช้คางไว้บนไหล่ผมอย่างออดอ้อน

     

                “ก็งานมันยุ่ง ไม่ค่อยได้ยินเสียง ไม่งอนนะ” พูดจบเซนก็ใช้ริมฝีปากของตัวเองประทับลงบนแก้มของผม ก่อนที่จะกระชับอ้อมกอดขึ้นกว่าเดิม

     

                เซนไม่รู้หรอกว่าผมเป็นห่วงแค่ไหน ทำงานอะไรก็ไม่ยอมบอก ติดต่อก็ไม่ได้ เมื่อก่อนผมเคยคิดว่าจะจับเขาล่ามโซ่เอาไว้แล้วก็เฆี่ยนตีให้สาสมกับการรอคอยของผม แต่พอเซนกลับมาจริงๆ กลับกลายเป็นผมยอมให้เขาเข้ามากอดอย่างหน้าตาเฉย

     

                ก็คนมันไม่มีคนกอดมานานนี่ ทำไงได้ (.______.)

     

                ผมเอียงตัวนิดๆหลบเซนที่พยายามจะจูบต้นคอ ทำเอาอีกฝ่ายทำหน้าหงอยใส่ ผมหัวเราะให้กับท่าทางนั้นและล้อเลียนหน้าเขา ก่อนที่ออดหน้าบ้านจะแผดเสียงดังออกมา

     

                “ใครมาทำอะไรดึกดื่น”

     

                “ไม่รู้ดิ เดียวไปดูแปป อาจจะเป็นเพื่อนที่มหาลัย”

     

                ผมเดินไปที่หน้าบ้านและเปิดประตูช้าๆ ดวงตาสีหม่นมองเห็นชายสองคน คนหนึ่งอ้วนดำหน้าเหมือนนักเลงแถวผับ ส่วนอีกคนซูบผอม หน้าตอบจะเห็นโหนกแก้มได้อย่างชัดเจน ทั้งสองแต่งตัวเหมือนเด็กฮิปฮอปพร้อมกับจ้องมาเขม็งมาที่ใบหน้าของผม

     

                “ขอโทษนะครับ.. ใช่บ้านของเซนรึเปล่า”

     

                ชายผอมถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ ผมผงกหัวเล็กน้อยเป็นคำตอบทำให้อีกฝ่ายหันมายิ้มให้กันอย่างน่าสงสัย ก่อนที่ชายร่างใหญ่จะเริ่มถามคำถามอีกครั้ง

     

                “แล้วตอนนี้เขาอยู่บ้านรึเปล่าครับ?” ผมผงกหัวให้เช่นเคย ดูจากสภาพสองคนนี้น่าจะเป็นเพื่อนของเซน เพราะว่า ปกติแล้วจะมีน้อยคนนักที่รู้ว่าเซนอยู่ที่นี่

     

                “ให้ผมเรียกเขาออกมาไหมครับ?”

     

                “ไม่ๆ ไม่ต้องครับ.. แต่ว่าผมอยากจะขอความร่วมมือจากคุณหน่อย”

     

                “..?”

     

                “คือเราเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบน่ะครับ” พูดจบคนผมก็ควักบัตรตำรวจขึ้นมาแสดงให้ผม ดูท่าทางจะเป็นของจริง แล้วตำรวจจะมามีปัญหาอะไรกับเซน

     

                “เซนไปทำอะไรมาหรอครับ?”

     

                “..อาจจะฟังดูเหลือเชื่อสำหรับคุณนะครับ... แต่เขาเป็นอาชญากร” คนอ้วนตอบแทน

     

                “ฮะ? อะไรนะครับอาชญากร?”

     

                “ตอนนี้ตำรวจกำลังตามหาตัวเขาอยู่ เซน มาลิคเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในรัฐนี้น่ะครับ ที่ผ่านมาประมาณปีครึ่งเราพยายามสืบหาร่องรอยของเขาอยู่ ตั้งแต่ที่บ้านเกิด ที่โรงเรียนไฮสกูล จนมาถึงบ้านของคุณนี่แหละครับ”

     

                “...” คำพูดของตำรวจทั้งสองทำให้เอาผมแทบหยุดหายใจ เซนเป็นพ่อค้ายาเสพติด.. ทว่าเมื่อกลับไปคิดอีกครั้งเรื่องที่ดูเหมือนการโกหกกลับดูเหมือนความจริงขึ้นมาทันใด ผมจำได้ว่าเซนผอมลงมาก ขอบตาคล้ำและดูเหนื่อยล้าตลอดเวลา ทั้งหมดนี้เพราะเซนติดยางั้นหรอ..

     

                “คุณอาจจะกำลังช็อค แต่คุณต้องใจเย็นไว้ก่อนนะครับ เพื่อความปลอดภัยกับตัวคุณเอง เพราะถ้าหากเขาเกิดอาการหลอนทางประสาทเมื่อไหร่ เขาอาจจะทำร้ายคุณได้ทุกเมื่อ”

     

                “ละ..แล้ว ผมควรทำไงดะ..ดี” น้ำเสียงของผมสั่นด้วยความกลัว

     

                “ตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังรีบมาที่นี่กันเพื่อเตรียมการจับกุม โดยแผนของเราคราวนี้จะใช้การประนีประนอม พวกเราแค่อยากจะให้คุณช่วยเกลี่ยกล่อมให้เขาอยู่ที่นี่ให้ได้นานที่สุด คุณพอจะช่วยเราได้ไหมครับ”

     

                “คะ..ครับ แล้วเขาจะเป็นยังไงต่อครับ เซนจะโดนประหารชีวิตไหมครับ?”

     

                “เรื่องนี้ก็คงต้องเป็นเรื่องของทางศาลนะครับ แต่คุณก็รู้ดีว่ายาเสพติดมันเลวร้ายมากแค่ไหน หากมันแพร่ขยายไปมากกว่านี้ อาจจะก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ได้ สิ่งที่เราควรจะทำคือกำจัดที่ต้นเหตุของปัญหาน่ะครับ คุณคงพอจะเข้าใจใช่ไหมครับ”

     

                ผมพยักหน้าให้เขาช้าๆ ก่อนจะรับปากกับตำรวจอีกครั้ง และปิดประตู หัวใจที่เต้นรัวจากความตกใจทำเอาเข่าของผมอ่อนล้าจะกองลงไปกับพื้น หัวสมองแทบจะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ

     

    คนที่ผมรักเขากลายเป็นอาชญากรที่ตำรวจพยายามจับมาเป็นปีๆ ผมไม่เคยคิดว่าเซนจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ ทว่าในใจลึกๆเถียงว่าเซนอาจจะถูกใส่ร้ายก็ได้ หากผมช่วยเขาหนีได้ เขาอาจจะไม่ต้องถูกจับ อาจจะไม่ต้องเข้าไปอยู่ในคุก อาจจะไม่ต้องถูกประหารชีวิต

     

                แล้วถ้าคุณเป็นผม คุณจะเลือกอะไรระหว่างร่วมมือกับตำรวจ หรือช่วยให้เซนหนีรอดไป..

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    zouis - Lugubrious

     

     


     

     

     

     

     

                “ได้เวลาล่ะ” เซนเดินไปจากที่นั่งและปิดสวิตช์ไฟ ท่ามกลางความมืดผมเห็นเพียงร่างเคลื่อนไหวผ่านไปมาระหว่างห้องครัวและห้องนั่งเล่น และก็ต้องกลืนน้ำลายเหนียวหนืดอย่างชั่งใจ

     

                เซนกำลังทำอะไร.. หรือเขาจะแอบไปเสพยาแล้วไม่อยากให้ผมเห็น

     

                ผมสะบัดความคิดที่อยู่ในหัว มือที่กุมไว้ด้วยกันแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ ก่อนที่แสงสว่างจะกลับมาอีกครั้งจากแสงเทียน

     

                บนมือของเซนมีเค้กก้อนใหญ่อยู่บนนั้น พร้อมกับเทียนรูปเลขสองสองตัว เค้กช็อคโกแลตที่เซนถือทำให้ผมงุนงงไปเล็กน้อยก่อนที่จะเดินไปหาเขาช้าๆ ดวงตาสีเฮเซลนัทจ้องผมราวกับจะกินเข้าไป และร้องทำนองเพลงคุ้นเคยขึ้นมาช้าๆ

     

                “ Happy birthday to you

    Happy birthday to you

    Happy birthday Happy birthday... ”

     

     

                happy birthday to you” เขาก้าวมาหยุดตรงหน้าผมพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ ผมมองเค้กสลับกับหน้าเขาก่อนที่น้ำตาจะไหลอาบข้างแก้มช้าๆ เซนวางเค้กไว้บนโต๊ะและใช้มือบางปาดน้ำตาให้ผมอย่างแผ่วเบา

     

                “ร้องไห้ทำไม.. กลัวแก่หรอ..”

     

                “...” ผมไม่ตอบอะไรเพียงแต่ส่ายหน้าให้

     

                “แต่ไม่เป็นไรหรอก ถึงแก่ยังไงขนาดตัวก็ยังเป็นเด็กอยู่ดี”

     

                “...” ผมหัวเราะเบาๆให้เขา ในขณะที่น้ำตายังคงไหลอยู่ ผมปาดน้ำตาลวกๆ ที่ผมร้องไห้ไม่ใช่เพราะดีใจกับการเซอร์ไพร์สวันเกิด แต่ผมร้องเพราะผมรู้สึกเหมือนกับมันจะเป็นวันเกิดปีสุดท้ายที่เซนยังอยู่กับผม..

     

                เพราะต่อจากคืนนี้ เซนจะถูกจับ แล้วเขาอาจจะไม่มีชีวิตอยู่อีก

     

                “ไม่พูดแบบนี้อยากเป่าเทียนใช่ป่ะ มาๆ เป่าเร็วๆ” เซนยังคงไม่รู้ในสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป เขายังคงยกเค้กมาไว้ตรงหน้าผมด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม และผมก็ทำได้เพียงเป่าเทียนอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก ยิ่งผมเห็นรอยยิ้มของเซน ผมก็ยิ่งใจสลายและไม่รู้สึกมีความสุขกับวันเกิดสักนิด

     

                “...”

     

                “หลับตาแปปนะ เดียวเอาของขวัญมาให้”

     

                ผมมองหน้าเขาพร้อมกับหลับตาช้าๆตามที่บอก จริงๆแล้วผมไม่ได้อยากหลับตาเลย ผมกลัวว่าจะไม่เจอเขาถ้าลืมตา กลัวว่าเขาจะทิ้งผมไปอีกเหมือนเมื่อสองปีที่แล้ว

     

                ในขณะที่ความคิดยุ่งเหยิงกำลังสู้รบกันในหัวของผม ผมสัมผัสได้ถึงเส้นสายเล็กๆที่แตะบริเวณลำคอผมสะดุ้งด้วยความตกใจ ก่อนที่จะเห็นว่าเซนที่อยู่ข้างหลังกำลังสวมสร้อยคอให้ผม

     

                “อย่าขยับสิ เดียวก็รัดคอตายหรอก”

     

                “...”

     

                “เสร็จแล้ว เป็นไงของขวัญ” ผมก้มลงมองดูจี้ที่ห้อยอยู่รูปตัว Z ฝังด้วยเพชรหลายกะรัด ทว่าผมกลับร้องไห้อย่างหนักอีกครั้ง

     

                “ฮืออ..”

     

                “ดีใจจนร้องไห้เลยหรอ.. โอ๋ๆมาๆเดียวกอดปลอบนะคนดี”

     

                ระหว่างที่เขากำลังอ้าแขนเข้ามาโอบล้อมตัวผมนั้น ผมกลับผลักตัวเขาออกไปและร้องไห้อย่างหนัก ผมเห็นเซนมองมาด้วยความสงสัย แต่ผมกลับตวาดใส่เขาเสียงดัง

     

                “อย่าเข้ามานะ.. ฮืออ. อย่าเข้ามา ไปไกลๆซะ!

     

                “ลูอีเป็นอะไรไป ฉันทำอะไรผิด”

     

                “ฉันไม่อยากได้ของๆนาย ฉันรังเกียจ อย่าเข้ามานะฮืออ..” ผมกระชากสร้อยนั้นออกจากคอ และปาไปใส่เซนอย่างรุนแรง ดวงตาสีเฮเซลนัทจ้องผมพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้าทว่าผมกลับไปหาเขาไม่ได้แล้ว เขามันเป็นอาชญากร เป็นคนเลว

     

                “ฉันไปทำอะไรนายหรอ..ฉันขอโทษ นายไม่อยากได้สร้อยคอก็บอกกันดีๆซิ”

     

                “ฉันไม่อยากได้ของขวัญอะไรทั้งนั้นที่มาจากเงินชั่วๆของนาย!

     

                “อะไรนะ..”

     

                “สร้อยคอนี้มันแพงมาก ฉันรู้คนอย่างนายซื้อไม่ได้หรอก แต่ถ้านายไปค้ายาเสพติดสักนิดหน่อยก็คงจะมีเงินพอมาซื้อ แต่นายรู้ไหมว่าคนที่เขาเสพไปแล้วจะเป็นยังไง นายเคยคิดบ้างไหม!

     

                “เดียวๆ.. ใครติดยา”

     

                “นี่นายยังทำมาเป็นไม่รู้เรื่องอีกหรอ นายเปลี่ยนไปมากนะ.. ฉันไม่ ฮึก. ไม่เคยคิดว่านายจะเป็นคนแบบนี้” ผมสะอื้นด้วยแต่ก็พยายามคงสติตัวเองเอาไว้

     

                “นายกำลังเข้าใจผิด.. ฉันไม่ได้จะ..”

     

                “หยุด! หยุดพูดซักที” ผมตัดสินใจวิ่งออกไปทางประตูเพื่อไปหาตำรวจทั้งสองที่รออยู่หน้าบ้าน และตามที่คาดเซนวิ่งตามมา

     

                ในระหว่างที่ผมวิ่งผมคิดอะไรต่างๆนานา ผมคิดว่าไม่อยากให้เซนโดนจับ อยากจะปล่อยให้เขาหนีไป แต่ผมก็อยากรู้ว่าทำไมเขาต้องทำแบบนี้ด้วย ทั้งที่อาชีพอื่นมีตั้งเยอะ แต่เซนกลับเลือกที่จะมาค้ายา ผมพยายามให้โอกาสเขาได้พูดความจริง แต่เขากลับมาปฏิเสธอย่างหน้าไม่อาย นั่นเป็นสิ่งที่ผมไม่อาจให้อภัยเขาได้ และก็จะไม่ยอมให้เขาหนีความผิดด้วย

     

                อีกเพียงไม่กี่ก้าวมือของผมก็จะสามารถเอื้อมไปบิดลูกบิดประตูได้ ผมคว้ามันแล้ววิ่งออกไปอย่างรวดเร็วก่อนที่จะหยุดชะงักลง

     

                ร่างกายที่เคยเคลื่อนไหวหยุดลง มีดบนมือของคนอ้วนเสียบเข้ากลางลำตัว จนร่างของผมล้มไปกองอยู่กับพื้นพร้อมกับอาการเจ็บปวดบริเวณท้อง ผมใช้เรี่ยวแรงอันน้อยนิดไปบีบบาดแผล ก่อนที่จะพบว่าบนมือเต็มไปด้วยเลือด ดวงตาของผมเห็นภาพตำรวจสองคนตรงหน้าที่ตอนนี้แสยะยิ้มสมเพชมาให้ ผมหลับตาเพื่อปิดกั้นความเจ็บปวด ไม่นานผมก็ได้ยินเสียงเซนกรีดร้องและคว้าตัวผมเข้าไปกอดเอาไว้

     

                “ไม่น่าเชื่อว่าชีวิตนี้ฉันจะได้เห็นสภาพอันน่าสมเพชแบบนี้ของเซนมาลิคด้วย”

     

                “...” ผมมองเห็นหน้าของเซนที่เต็มไปด้วยน้ำตา ดวงตาสีเฮเซลแดงก่ำหันไปหาตำรวจสองคนและกัดฟันอย่างอดทนอดกลั้น

     

                “ที่นี้รู้รึยังว่าคนที่เห็นคนรักตายต่อหน้าต่อตามันเป็นยังไง!

     

                “...”

     

                “ตอนที่นายเข้ามาขโมยยาในรังของพวกเราและพรากชีวิตฟีโอน่าแฟนของฉันไป ฉันยังจำได้ดี แล้วตัวนายเองก็ควรจะได้รับความเจ็บปวดแบบเดียวกับฉัน ต้องขอบคุณจริงๆที่แฟนนายมันโง่ ไม่งั้นฉันคงจะไม่มีวันได้แก้แค้นแกแน่ๆ”

     

                “...ฉันไม่เคยอยากฆ่าฟีโอน่า”

     

                “แล้วไอการที่แกเอาลูกกระสุนยัดใส่หัวของเธอมันคือความบังเอิญหรือไง!” พูดจบไอคนร่างผอมก็ฟาดหน้าแข้งตัวเองลงบนหน้าเซนอย่างรุนแรง

     

                “ฟีโอน่าบอกว่านายจับเธอมาขัง บังคับขู่เข็ญเธอให้มาอยู่ด้วยโดยที่เธอไม่ได้เต็มใจ เธอบอกว่าเธออยากจะหายไปจากโลกนี้ เพราะเธอไม่เคยรักนายเลย”

     

                “เฮอะ.. ยัยนั้นก็แค่ผู้หญิงหน้าโง่ โง่สิ้นดี..”

     

                “...”

     

                “แต่ไม่เป็นไร ฉันจะถือว่าการตายของแฟนนายมันจะชดใช้ที่นายฆ่าคนรักของฉันและส่งแก็งค์พวกเราให้ตำรวจหมดก็แล้วกัน หวังว่าคงจะไม่โกรธกันนะ” ทั้งสองคนหันหลังกลับไปทิ้งให้พวกเราอยู่เพียงสองคน

     

                “...”

     

                “อ่อ.. แล้วก็สุขสันต์วันเกิดนะ” คนผอมยังไม่ลืมที่จะหันกลับมาอวยพรและยิ้มเยาะเย้ยให้

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    zouis - Lugubrious

     

     

     

     

     



     

     

     

    “ลูอี นายได้ยินฉันไหม”

     

                เสียงเซนปลุกผม ผมไม่รู้ว่าตัวเองสลบไปนานแค่ไหน แต่เมื่อตื่นขึ้นมาความเจ็บปวดของแผลยังคงไม่หายไป ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลของผมหรี่มองใบหน้าเขาที่เปอะเปิ้อนไปด้วยคราบน้ำตา และใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มของเซนกลับไม่มีอีกแล้ว

     

                “นายโกรธฉันไหม” เขาถาม

     

                “...”

     

                “นายจะโกรธ ก็ไม่แปลกหรอกนะ ก็ฉันมันค้ายาจริงๆนี่”

     

                คำสารภาพของเซนทำให้ผมตกใจนิดๆ ทว่าบาดแผลทำให้ผมไม่สามารถขยับตัวได้ ผมจึงพ่นลมหายใจหอบอ่อนแรงไปให้เขาแทนว่าผมรับรู้

     

                “ที่ฉันหายไปเพราะว่าฉันน่ะติดยา แล้วก็ไม่อยากจะให้นายรู้ จนเมื่อครึ่งปีที่แล้วฉันก็ตัดสินใจตัดขาดจากวงการ แต่ว่ามันก็ยังมีพวกศัตรูที่ฉันเคยเข้าไปขโมยยาตามมาหาเรื่องฉัน”

     

                “...”

     

                “ฉันก็จัดการพวกมันไปเยอะเหมือนกัน จนวันหนึ่ง ฉันได้มาเจอกับผู้หญิงคนนึง เธอถูกพวกเล่นยาจับมา เธอน่าสงสารมากฉันเลยพยายามช่วยเธอออกมา แต่พวกมันเยอะมาก เธอขอให้ฉันฆ่าเธอ เพราะเธอไม่อยากจะมีชีวิตสกปรกกับพวกนั้น”

     

                “แล้ว..นะ.. นาย ฆ่า.. ธะ ..เธอ?”

     

                “ฉันไม่มีทางเลือก พวกนั้นก็มาเห็นพอดี แล้วก็เลยไล่ล่าฉันเอาเป็นเอาตายแบบนี้ไง ฉันไม่น่ามาหานายเลยถ้ารู้ว่านายจะต้องเป็นแบบนี้” ผมเห็นเซนเสียงเริ่มสั่น และเขาใช้มือหนาลูบเรือนผมสีน้ำตาลของผมเบาๆ

     

    “...”

     

    “รู้ไหมที่ฉันหันไปค้ายาเพราะฉันอยากมีเงินเยอะๆ เวลานายอยากได้อะไรอยากกินอะไร ฉันจะได้ซื้อให้ทุกอย่างเลย นายจะได้ไม่ต้องไปทำงานหนักเก็บเงินจนกลับบ้านดึกๆแบบนี้”

               

    “...”

     

    “แต่ตอนนี้ฉันไม่อยากได้แล้วเงินทอง ฉันแค่อยากได้นายกลับมา..”

     

    “...”

     

    “แล้วฉันจะทำยังไงหละ ถ้าชีวิตนี้จะไม่มีนายแล้ว”

     

    “เซนไม่.. เป็น..ไรใช่ไหม..”

     

                “ฉันไม่เป็นไร พวกมันคงตั้งใจจะเห็นฉันทรมานแบบนี้แหละมั้ง จึงไม่ยอมฆ่าฉันให้ตายๆไปซะที”

     

                “อะ..อย่านะ อย่าฆะ..ฆ่าตัวตาย”

     

                “...”

     

                “..จริงๆแล้ว.. ฉันก็ไม่อยาก.ตะ ตายหรอก.. ไม่อยากละ..เลย”

     

                “...”

     

                “เพราฉะ...นั้น ขะ..ของขวัญ..ปะ.. ปีนี้..”

     

                “...”

     

               

     

     

     

     

     

     

     

     

    “...ฉะ.. ฉันอยาก.. ให้..นะ..นาย ช่วย..ใช้..ชีวิต ครึ่งนึง.ที่เหลือ.. ขะ.. ของฉัน..ที”

     

                นั้นเป็นบทสนทนาสุดท้ายระหว่างเราสองคน ผมใช้แรงเฮือกสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่ เอื้อมมือไปลูบใบหน้าเซน ก่อนที่จอประสาทตาจะเริ่มเบลอจนผมแทบจะไม่เห็นหน้าเซนอีก ต่อจากนั้นผมก็ได้ยินเพียงเสียงร้องไห้งที่ดังระงมทั่วพื้นที่ และสัมผัสได้เพียงความอบอุ่นจากอ้อมแขนของเซนที่เริ่มแผ่วเบาลงไปในทุกๆวินาที

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    zouis - Lugubrious

     

     

     




     

     

     

               จนถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิต ผมพึ่งระลึกได้ว่าผมไม่อยากตาย

     

    ผมอยากจะกินเค้กวันเกิดด้วยกัน อยากจะดูหนังด้วยกันจนถึงเช้า อยากจะเห็นหน้าเขาเวลาที่เขาหลับ อยากตื่นขึ้นมาแล้วเจอหน้าเขาเป็นคนแรกในทุกๆเช้า  อยากจะเข้าไปกุมมือเขา อยากจะเข้าไปกอดเขา อยากจะได้ยินเขาบอกรักผม แล้วก็อยากจะบอกว่าผมรักเขามากแค่ไหน

     

    มีหลายๆเรื่องที่ผมยังไม่ได้ทำในชีวิตนี้ แล้วตอนนี้ผมก็ไม่มีโอกาสได้ทำแล้ว

     

    ทว่าทุกคนที่อ่านตอนนี้ยังคงมีโอกาสอยู่ ถ้าตั้งใจอยากจะทำอะไรก็รีบทำซะนะครับ ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้ทำแบบผม

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    END.

     

     


     

     

     

     

     

     

     

    เรื่องนี้บทพูดเยอะมาก แงงงงงงง ไม่รู้จะทำไง ใครอ่านแล้วไม่อินขอโทษด้วยนะค่ะ เต็มที่สุดแล้ว ;A;

    ใครสงสัย ง่ายๆก็คือลูอีตายวันเกิดตัวเองแหละค่ะ55555555 /ฟิคมาดราม่ามันจะไม่ดราม่าตอนทอล์กนี่แหละ

    สำหรับโปรเจคนี้ตั้งใจมากนะ คิดพล็อตมาตั้งแต่สองสามเดือนที่แล้ว และเปลี่ยนพล็อตมาเกือบสี่ห้ารอบ ถึงสุดท้ายจะมาปั่นตอนช่วงสัปดาห์ท้ายๆก่อนส่งก็เหอะ = w =

    แล้วก็ขอบคุณพี่แหมบ พี่ปั๊บ น้องโอ้ น้องเพลงที่มาร่วมโปรเจคด้วย รูเยิ้ฟน้า

    (ใครไม่อ่านเรื่องนี้แต่อ่านเรื่องอื่นโกรธนะ แต่ใครอ่านเรื่องนี้แล้วไม่อ่านเรื่องอื่นโกรธกว่า /ล้อเล่ง)

    ใครอยากจะเวิ่นในทวิตอย่าลืมแท็ก #4LoveForLOU ด้วยน้า

     

     

     

    สุดท้ายและ... สุขสันต์วันเกิดนะค่ะสามี เห็นเราแซะเราบ่นงี้ใช่ว่าไม่รักนะ อายุยี่สิบสองแล้วโตแล้วหน้าแก่แล้ว

    ก็ทำตัวให้มันสมวัยบ้าง ลำบากเพื่อนร่วมวง5555555555555 มีความสุขมากๆหนวดอย่ามารอยตีนกาอย่ามี

    อย่าลืมใช้ชีวิตในวัยยี่สิบสองให้คุ้มค่าที่สุด เรื่องอะไรที่ไม่ดีที่ผ่านมาก็ลืมมันไปซะ J

     

    อวยพรให้ลูอีกันได้นะ555555555555555555555555555555555555555

     

     

    ปล.ทำไมแฟนเซนน่ารักจัง -/-




     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×